จะไม่ทน
"หยุดพล่ามได้แล้ว!"เทมโปกลับตวาดใส่จนทำให้ฉันน้ำตาไหลออกมา เขาใจร้ายมากจริง ๆ ไม่คิดจะเห็นใจกันบ้างเลย
"กินข้าวแล้วก็กินยาซะ"ฉันมองไปที่ถาดอาหารที่มียาอยู่ในนั้นตั้งอยู่บนโต๊ะหัวเตียง ตึก ตึก เสียงฝีเท้าหนักก็เดินออกไปจากห้อง ฉันยกมือปาดน้ำตาแล้วมองแผ่นหลังคนใจร้ายอย่างซ้ำใจ
ฉันพยายามขยับร่างกายที่บอบซ้ำลุกขึ้นแล้วตักอาหารในจานเข้าปาก ในหัวก็คิดว่าฉันจะไม่ทนอะไรแบบนี้แล้ว แม้ว่าส่วนลึก ๆ ในใจฉันยังคงรักเขาอยู่ หลังจากกินข้าวกินยาเรียบร้อย ฉันก็รู้สึกง่วงและเพลีย จึงหลับผล็อยไป
"พี่ขอโทษ พี่ติดธุระจริง ๆ"ฉันสะดุ้งตื่นเมือได้ยินเสียงชายหนุ่มพูดคุยโทรศัพท์อยู่ใกล้ ๆ พอลืมตาก็พบว่าเป็นเจ้าของห้องที่นั่งอยู่ปลายเตียง
"เอาไว้คราวหน้านะ พี่สัญญาจะไม่เบี้ยวดาวอีก"หึ! ฉันแค่นหัวเราะในใจ พร้อมกับหยัดกายลุกขึ้น
"ตื่นแล้วเหรอ"เทมโปกดวางสายแล้วหันมาถามฉัน
"ละเมออยู่มั้ง"ฉันตอบไปแบบประชดประชัน
"ยังปากดีได้ คงไม่เป็นอะไรแล้วสินะ"เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงทุ้มแล้วยกยิ้มมุมปาก
"เหอะ"ฉันเบือนหน้าไปกลั้วหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะลงจากเตียง.
"จะไปไหน"ชายหนุ่มก้าวขาเข้ามาที่ฉัน
"กลับบ้าน"ฉันตอบกลับแล้วพยายามจะลุกขึ้นยืน
"นอนที่นี่"เทมโปออกคำสั่งทันที
"ไม่"
"จะขัดคำสั่งฉันอีกแล้ว?"ฉันนั่งลงที่เดิมแล้วพ่นลมหายใจออกมา
"ฉันโทรไปบอกพ่อกับแม่เธอแล้ว...."ชายหนุ่มร่างสูงท้าวเอวหลวม ๆ แล้วจ้องหน้าฉัน
"...ฉันบอกว่าเธอไม่สบาย"
"เหอะ..แกนไม่ได้เป็นอะไรแต่ที่อยู่ในสภาพนี้ก็เพราะเทมโป"
"ขอโทษได้ไหมล่ะ..."เขาเอ่ยออกมาเบา ๆ
"...ก็เธอทำให้ฉันโกรธหนิ"สุดท้ายก็โยนคำผิดมาที่ฉัน
"แกนทำอะไรให้เทมโปโกรธ"ฉันย้อนถามเขาไป
"ก็เธอ...ขัดคำสั่งฉันไปหาไอ้นั่น"
"มันไม่เกี่ยวกัน แกนมีสิทธิ์ที่จะไปไหนต่อไหนกับใครก็ได้เทมโปไม่ควรที่จะมายุ่งอย่าลืมสิว่าเราเป็นแค่เพื่อนกัน"
"ใช่ เราเป็นแค่เพื่อน แต่นอกจากเพื่อนแล้วเธอยังต้อง..."
"เรื่องนั้นแกนรู้แล้วเข้าใจดี แต่เทมโปควรจะปล่อยแกนให้เป็นอิสระบ้างไม่ใช่เอะอะก็ห้ามนั่นห้ามนี่ แกนเป็นคนนะไม่ใช่สัตว์เลี้ยง"ฉันแทรกพูดด้วยความเคืองใจ
"เธอคิดจะคบกับมัน?...ชอบมันงั้นเหรอ"เทมโปถามด้วยน้ำเสียงเรียบ
"ถ้าแกนชอบพี่สิงห์มันก็ไม่เกี่ยวเทมโปนะ"
"ทำไมจะไม่เกี่ยวก็ในเมื่อ....."เขาหยุดพูดแล้วเบือนหน้าไปลอบหายใจก่อนที่จะหันกลับมามองที่ฉัน
"....เธอไม่รักฉันแล้ว?"สิ้นเสียง ฉันก็ลุกขึ้นยืนแล้วพูดดัง ๆ แม้จะตรงข้ามกับหัวใจว่า
"แกนไม่รักเทมโปแล้ว คนใจร้าย!"ชายหนุ่มยืนนิ่งเอาลิ้นกระพุ้งที่แก้มจ้องหน้าฉันด้วยแววตาเรียบ
"ก็ดี"พูดจบ เขาก็เดินออกไปจากห้องปล่อยให้ฉันยืนมองแผ่นหลังเขาจนประตูปิดลง
ฉันฟุบนั่งบนเตียงแล้วคิดทบทวนเรื่องราวที่ผ่านมา ไม่เข้าใจหัวใจตัวเองเลยว่าทำไมต้องมาหลงรักคนใจร้ายอย่างเทมโปด้วย ทั้ง ๆ ที่เขาทำร้ายฉันซ้ำแล้วซ้ำเล่า มันสมควรแล้วจริง ๆ ที่ฉันจะไม่ทนอีกต่อไป พอคิดได้ฉันก็ค่อยลงจากเตียงก้าวขาเดินย่อง ๆ ไปที่ประตูห้อง แล้วเปิดมันออกอย่างเบามือ
"จะไปไหน!"ฉันสะดุ้งโหย่งเมื่อเห็นร่างชายหนุ่มมายืนตรงหน้า
"...."ฉันยืนนิ่งแล้วเม้มปากทั้งสองเข้าหากันแน่น
"ถ้าจะออกมาก็ออกมากินข้าว ฉันเตรียมไว้ให้แล้ว"ว่าจบ เทมโปก็เดินเอามือล้วงกระเป๋ากางเกงไปที่โต๊ะอาหาร ในขณะที่ฉันยังยืนนิ่ง.
"จะกินไหมข้าว?"เทมโปหันมาที่ฉันแล้วพูดขึ้นก่อนจะขยับเก้าอี้นั่งลง
"กินก็กิน"ฉันพึมพำกับตัวเองแล้วเลือกที่จะเดินไปที่โต๊ะอาหาร
"ฉันสั่งอาหารที่เธอชอบให้ด้วย"ใช่ อาหารบนโต๊ะมีแต่ที่ฉันชอบจริง ๆ จึงทำให้ฉันฉีกยิ้มกว้าง
"ตอบแทนที่เธอดูแลตอนฉันป่วย"
"อืม"ฉันตอบกลับสั้น ๆ แล้วตักอาหารใส่จาน โดยไม่สนใจคำพูดของชายหนุ่มผมสีทอง
"ต่อไปนี้ฉันจะไม่ทำร้ายเธอ..."ฉันเงยหน้าขึ้นมองไปที่คนพูด
"...แต่ฉันขอเธอเรื่องเดียว"
"...."ฉันขมวดคิ้วสงสัยเขาจะขออะไรฉันกัน
"อย่าไปเจอกับมัน..ไอ้ภิสิงห์นั้นน่ะ"พูดจบ ใบหน้าหล่อก็พ่นลมหายใจออกมาพรืดใหญ่
"ทำไมแกนถึงไปเจอกับพี่สิงห์ไม่ได้"ฉันถามอย่างสงสัยและอยากรู้
"ฉันไม่ไว้ใจมัน..อีกอย่างเธอไม่เคยมีเพื่อนคนอื่นนอกจากฉัน และไม่เคยคบผู้ชาย..."เขาลอบหายใจเบา ๆ
"...ฉันเป็นห่วงเธอในฐานะเพื่อน"คำพูดเขาดูดี แต่ทุกสิ่งทุกอย่างเขาควรจะยอมรับการตัดสินใจของฉันมากกว่า อีกอย่างฉันก็ไม่รู้สึกเลยว่าภิสิงห์ไม่น่าไว้ใจตรงไหนเลย เขาดูเป็นสุภาพบุรุษด้วยซ้ำ
"ถ้าแกนไม่ทำตามล่ะ"
"ก็คิดว่ามันเป็นคำสั่งของฉัน!"ชายหนุ่มพูดด้วยสีหน้าไม่พอใจก่อนจะลุกขึ้นจากเก้าอี้
"ฉันจะไปดูผับ เธอนอนก่อนได้เลย"ว่าจบ ก็ก้าวขาเดินออกไป
เช้าวันใหม่
ฉันลุกจากเตียงด้วยอาการแสบหลังเริ่มจางลง. จึงฝืนตัวเองเข้าห้องน้ำทำธุระส่วนตัว โดยไร้ร่างชายหนุ่มเจ้าของห้อง.จากนั้นจึงเลือกไปยังห้องที่ฉันเคยมานอนค้าง เพราะมีเสื้อผ้านักศึกษาฉันอยู่ หลังจากแต่งตัวเรียบร้อยก็ออกมาจากคอนโดเทมโปโบกแท็กซี่ไปมหาวิทยาลัย
"ออร์แกน"พอมาถึงตึกคณะก็ได้ยินเสียงหวานเรียกมาจากด้านหลัง พอหันกลับไปก็พบว่าเป็นหว่าหวาที่กำลังวิ่งมาที่ฉันด้วยสีหน้าดีใจ
"หว่าหวา"ฉันเอ่ยเสียงแผ่วเบาแล้วคลี่ยิ้มให้เพื่อน
"เมื่อวานแกน..."มาถึงหว่าหวาถามถึงเรื่องเมื่อวาน ฉันจึงแทรกพูดขึ้นทันที
"เมื่อวานแกนมีธุระนิดหน่อยน่ะเลยไม่ได้เข้าเรียน"
"แล้วเทมโปรับโทรศัพท์แกนได้ยังไง"หว่าหวาถามด้วยสึหน้าสงสัย
"เอ่อ..."
"แล้วหว่าหวาก็ติดต่อกับแกนไม่ได้เลย มีอะไรหรือเปล่าหว่าหวาเป็นห่วงแกนนะ พี่สิงห์ก็ด้วย"ฉันลอบหายใจเบา ๆ ก่อนที่จะตอบกลับเพื่อน
"แกนเผลอทำโทรศัพท์ตกพื้น คิดว่าวันนี้จะไปซื้อเครื่องใหม่"ฉันโกหกคำโตเลย เพราะจริง ๆ แล้วไม่ใช่ฉันที่ทำโทรศัพท์พัง แต่เป็นชายหนุ่มที่เอาแต่ใจ และใจร้ายคนนั้น
"อืม แล้วเทมโป.."หว่าหวายังคงสงสัยที่เทมโปรับโทรศัพท์ฉัน
"คือ..เทมโปเป็นคนพาแกนไปทำธุระหน่ะ"ฉันค้องโกหกเพื่อนอีกแล้ว
"แบบนี้สินะ"หว่าหวาเอ่ยด้วยสีหน้ายังคงสงสัยและไม่เชื่อแต่เธอก็เลือกที่จะไม่ถามต่อ
"ขึ้นเรียนกัน..เย็นนี้หว่าหวาจะพาแกนไปซื้อโทรศัพท์เครื่องใหม่"ฉันผงกหัวแล้วคลี่ยิ้มก่อนที่จะเดินขึ้นห้องเรียนไปกับเพื่อนคนสวย
ระหว่างที่รออาจารย์เข้าสอนฉันก็หยิบหนังสือขึ้นมาอ่าน ตุบ อยู่ ๆ ก็มีเสียงวัตถุวางลงตรงหน้า ฉันช้อนตามองดูก็รู้ว่ามันเป็นโทรศัพท์ยี่ห้อหรูราคาแพง แล้วพอแหงนหน้าขึ้นมองคนที่ยืนก็พบว่าเป็นเทมโป
"ฉันซื้อโทรศัพท์มาคืนเธอน่ะ"พูดจบ เขาก็เดินไปนั่งโต๊ะประจำของเขาที่อยู่หลังห้อง
"เทมโป"นั่นเป็นเสียงของฝนที่พอเข้าห้องมาเห็นชายหนุ่มก็แสดงความดีใจจนออกนอกหน้า เธอชายตามองมาที่ฉันแล้วแสยะยิ้มร้าย ก่อนจะเดินไปหาชายหนุ่มผมสึทอง
"ทำไมไม่มาเรียนตั้งสองวัน"เทมโปนั่งไม่ไกลจากฉันนักทำให้ฉันได้ยินบทสนทนาของทั้งคู่
"ขี้เกียจ"นั้นเป็นคำตอบของฝ่ายชาย
"อีกไม่กี่วันก็ต้องหาที่ฝึกงานแล้ว ฝนขอไปฝึกงานที่เดียวกับเทมโปได้ไหม"ฝ่ายหญิงพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อน
"ไปสมัครสิ ตอนนี้เปิดรับแล้ว"
"ทำไมฝนต้องไปสมัครในเมื่อฝนเป็น..."
"อย่างเธอก็แค่เพื่อนเหมือนกัน"เทมโปแทรกพูดน้ำเสียงทุ้ม พรึ่บ! เป็นเสียงเขาลุกขึ้นจากเก้าอี้
"ไอ้เจมส์ ไอ้ดีแลนไปสูบบุหรี่กัน"จากนั้นฝีเท้าหนักก็เดินออกไป
"แกน ๆ"เสียงคุ้นเคยเอ่ยเรียกและสะกิดฉัน จึงรีบหันไปหา.
"ว่าไงหว่าหวา"
"เมื่อกี้ได้ยินอะไรไหม"หว่าหวาพูดแล้วชายตาไปที่ฝนซึ่งมีสีหน้าที่ดูหงุดหงิด
"อืม"ฉันตอบกลับสั้น ๆ
"สมน้ำหน้า เมื่อกี้ฉันเห็นนางนั่งบนตักเทมโปอย่างกับเป็นคู่รัก"ฉันหันหลังให้พวกเขาจึงไม่เห็น
"งั้นเหรอ"
"คิกคิก"หว่าหวาปิดปากหัวเราะด้วยสีหน้าสะใจ ฉันก็ได้แต่มองความน่ารักของเพื่อนโดยไม่ได้พูดอะไร
..........
ตอนจบ"เทมโป..." ใบหน้าหล่อคมคายหันมาจ้องที่ฉัน"...แกนจะไม่เป็นแค่เพื่อนอีกต่อไปใช่ไหม" เทมโปคลี่ยิ้มออกมาหลังจากที่ฉันพูดจบ"เธอไม่ใช่แค่เพื่อน..แต่เธอเป็นทุกสิ่งทุกอย่างสำหรับฉันแล้ว.." มือหนายกมาลูบผมฉันอย่างอ่อนโยน"..ถ้าฉันขาดเธอ ฉันขาดใจ" ปลั่ก! นั่นเป็นเสียงที่ฉันกำมือทุบไปที่อกของเขา"คนบ้า!""ใช่ ก่อนหน้าฉันเคยบ้ามาแล้ว ตั้งแต่เธอหนีไป" เทมโปพูดสวนกลับ ก่อนที่จะพ่นลมหายใจออกมาอย่างหนัก"มันคงเป็นเวรกรรมที่ฉันเคยทำกับเธอ รู้ไหมว่าฉันทรมานจนดูน่าสมเพชเอามาก ๆ เลย""ออร์แกน...ตอนที่เธอหายไปฉันยอมทิ้งทุกอย่างเพื่อตามหาเธอ""ทะ เทมโป.." ฉันเอ่ยน้ำเสียงสั่น ๆ แต่ภายในใจมันรู้สึกพองโต"ถ้าเธอไม่หนีไป วันนี้ฉันคงไม่รู้ว่าฉันรักเธอมากแค่ไหน..." คนร่างสูงโน้มหน้ามาจูบที่หน้าผากฉัน"...ขอบคุณที่สอนบทเรียนให้กับฉัน และขอบคุณที่กลับมาไม่ว่าเหตุผลที่เธอกลับมาไม่ใช่เพราะฉัน""..." เทมโปคลี่ยิ้มด้วยแววตาที่มีความสุข ใบหน้าสดใส"ถึงแม้เธอจะไม่ได้กลับมาเพราะฉัน แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้ฉันได้เจอเธอ ได้ขอโทษและได้บอกความในใจของฉันให้เธอฟัง""เทมโป..แกนก็ไม่เคยลืมนายเลยนะ" ไม่รู้อะไรดลใจ ทำให้ฉัน
จากเพื่อนสู่ผัว"กวิน กรัณย์ ออร์แกน" ฉันและลูกแฝดต่างพากันหันไปที่ต้นเสียง ซึ่งเป็นคนป่วยที่นอนอยู่เอ่ยขึ้นมา เขาลืมตามองมาที่พวกฉันแล้วค่อย ๆ หยัดกายลุกขึ้น"พ่อตื่นแล้ว" กวินบอกกับคนเป็นน้อง ก่อนจะลุกจากโซฟาเดินไปที่เตียง พร้อม ๆ กับฉันที่รีบไปประคองเขาลุกนั่ง.เทมโปคลี่ยิ้มด้วยแววตาที่มีความสุข ขณะที่ลูกแฝดขึ้นบนเก้าอี้แล้วเอ่ยถามอาการพ่อตัวเองทันที"พ่อเจ็บตรงไหนฮับ" แฝดพี่พูดแล้วใช้สายตามองไปที่เรือนร่างคนเป็นพ่อราวกับหาอะไร"พ่อรีบหายนะครับ จะได้มาเล่นกัน...." กรัณย์เอ่ยแล้วหันไปพูดกับกวิน"...ให้พ่อเป็นผู้ร้ายนะพวกเราเป็นตำรวจ""หึหึ" เทมโปหัวเราะออกมาแล้วเอื้อมไปลูบหัวลูกแฝดคนโต แล้วกำลังจะสลับไปลูบหัวคนน้องแต่เขากลับชะงัก คงจะจำวันนั้นได้วันที่กรัณย์ไม่ยอมให้เขาลูบเพราะกลัวผมเสียทรง"พ่อเป็นพ่อของกรัณย์ พ่อลูบได้ครับ" เด็กน้อยแฝดน้องพูดพร้อมกับยื่นหัวให้พ่อของเขาลูบ สร้างรอยยิ้มปนน้ำตาที่คลอเบ้าให้คนเป็นพ่อทันที"วันนี้เธอกับลูกอยู่กับฉันนะ" เทมโปหันมาพูดกับฉัน"อืม" ฉันตอบกลับสั้น ๆ แล้วคลี่ยิ้มให้"ขะ ขอบใจนะ" เทมโปกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่น ๆ"รับหายนะ..แกนอยากให้เทมโปกลับมาใ
ยังไม่ให้โอกาส"แล้วเด็กฝาแฝดนั้นเป็นลูกใคร"ฉันคลี่ยิ้มหวานแล้วดึงมือหนาเดินเข้ามาด้านในห้อง"รอตรงนี้นะ เดี๋ยวแกนจะไปพากวิน กรัณย์เข้ามา" เทมโปทำสีหน้ามึนงงปนสงสัย แต่ก็ทำตามที่ฉันสั่ง เขาเลือกที่จะเดินไปนั่งที่โซฟา จากนั้นฉันก็ออกมาจากห้องก็เห็นทุกคนต่างนั่งอยู่กันเป็นกลุ่ม"เทมโปเป็นยังบ้าง ออร์แกน" คุณน้าเรอาลุกขึ้นแล้วรีบเดินมาถามด้วยใบหน้าที่ยังมีความกังวล"ตอนนี้เทมโปโอเคขึ้นแล้วค่ะ..." ว่าจบ ฉันก็หันไปที่ลูกแฝดที่มีผู้ใหญ่ล้อมรอบอย่างอบอุ่น"...แกนขอพากวิน กรัณย์ไปหาพ่อของเขาก่อนนะคะ" คุณน้าเรอาคลี่ยิ้มแล้วเอื้อมมากุมมือของฉัน"ออร์แกน น้าขอโทษแทนเทมโปด้วยนะ..." เธอลอบหายใจเบา ๆ ก่อนที่จะเอ่ยต่อ"...ไม่คิดเลยว่าฉันจะมีหลานฝาแฝดที่น่ารักแบบนี้ ขอบคุณเธอจริง ๆ ที่เลี้ยงดูที่เกิดมาจากเทมโปมาอย่างดี" คุณน้าเรอาเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่น ๆ น้ำตาคลอเบ้า"กวิน กรัณย์ เป็นยิ่งกว่าชีวิตยังไง แกนก็ต้องเลี้ยงดูเขาให้ดีที่สุดค่ะ" คุณน้าเรอาผงกหัวรับแล้วหันไปที่ลูกชายฝาแฝดของฉัน"กวิน กรัณย์ มากับแม่" ฉันเอ่ยเรียก ทั้งคู่ก็ลุกจากเก้าอี้แล้วเดินยิ้มใบหน้าสดใสมาที่ฉัน"ลุงคนนั้นเป็นยังไงบ้างฮับ
ขอร้องOrgan"ทำไมคุณทอยคิดว่าเราสองคนแต่งงานกัน" ภิสิงห์เอ่ยถามขึ้นขณะที่ตอนนี้พวกเราต่างพากันธุระเสร็จจนกลับมาที่บ้านแล้ว ส่วนสองแฝดก็นอนหลับด้วยความเพลีย"หว่าหวาเป็นคนโกหกเองค่ะ" คนเป็นพี่หันไปที่น้องสาวของตนด้วยสีหน้าสงสัย"คือวันนั้นพวกเราเจอกับเทมโป...." หว่าหวาหยุดพูดแล้วหันมาที่ฉัน"...นายนั่นคอยเซ้าซี้แกนไม่เลิก หว่าหวาก็เลยโกหกไปว่า..""พี่กับแกนแต่งงานแล้วกวิน กรัณย์คือเป็นลูกพี่?" ภิสิงห์แทรกพูดขึ้นหว่าหวาก็ผงกหัวรับสีหน้ารู้สึกผิด"อย่าโกรธหว่าหวาเลยค่ะ แกนเองก็ไม่ทักท้วงปล่อยเลยตามเลย" ฉันพูดจบ หว่าหวาก็หันมาฉีกยิ้มให้ ขณะที่ภิสิงห์มีสีหน้าดูเครียด ราวกับมีเรื่องบางอย่างในใจ"พี่สิงห์โกรธหรอกคะ แกนขอโทษ""เปล่า พี่ไม่ได้โกรธ.." ว่าจบ ภิสิงห์ก็ลอบหายใจออกมาเบา ๆ"...ไม่นานทางนั้นก็ต้องรู้ว่าเราไม่ได้แต่งงานกันจริง ๆ""...." ฉันไม่พูดอะไรได้แต่ก้มหน้าเม้มปากทั้งสองเข้ากันแน่น ภายในใจก็คิดไว้อยู่เหมือนกัน ยิ่งวันนี้ที่เจอกับพี่ทอย เขาดูมีสีหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย ฉันคิดว่าเขาต้องไปสืบเรื่องแต่งงานที่หว่าหวากุขึ้นมาแน่"แกน..." ฉันเงยหน้าขึ้นมองไปยังพี่ชายเพื่อน"...พี่ได้ข
กลัววันนี้ฉัน หว่าหวา และภิสิงห์ต่างพากันไปดูสถานที่จัดงานแสดงเครื่องประดับ แน่นอนว่าสองแสบจะต้องไปด้วย กวิน และกรัณย์ค่อนข้างที่จะติดฉัน เพราะฉันดูแลทั้งสองคนอย่างใกล้ชิดตั้งแต่เขาเกิดมา ให้ความรัก เป็นทั้งพ่อและแม่ให้กับพวกเขา"แม่ฮับ..." บนรถของภิสิงห์ที่อาสาเป็นคนขับพาไปยังสถานที่จัดงาน อยู่ ๆ กวินก็เอ่ยขึ้น"...พ่ออยู่ไหนเหรอครับ" คำถามของลูกชายที่เป็นแฝดพี่ทำให้หัวใจฉันรู้สึกสั่น ๆ"นั่นสิครับ พ่อไปไหนเหรอ" ฉันละสายตาหันไปที่กรัณย์ที่พูดเสริมขึ้นมา หว่าหวาที่นั่งอยู่เบาะหน้าข้างคนขับ พร้อมกับภิสิงห์หันมาสบตาฉันทันที"เอ่อ...ทำไมอยู่ดี ๆ ถามขึ้นมาล่ะครับ""ก็ลุงคนนั้นถามผมยังไม่ได้ตอบเขาเลย" ลุงคนนั้น ที่กวินเอ่ยถึงก็คือเทมโป พ่อของพวกเขานั้นแหละ"พ่อทำไมไม่มาหาพวกเราเลยล่ะครับ" กรัณย์เอ่ยพร้อมกับสีหน้าเศร้า"...." ฉันนิ่งมองดูทั้งสองด้วยความสงสาร"เด็ก ๆ เดี๋ยวแวะกินไอศครีมคลายร้อนกันนะ" ภิสิงห์เอ่ยขึ้นเพื่อทำลายบรรยากาศเศร้า และดูเครียด"เย้ / เย้" พอได้ยินคำว่าไอศครีม เด็ก ๆ ก็ปรับเปลี่ยนสีหน้าดีใจทันทีจากนั้นภิสิงห์ก็ขับรถเข้าไปในห้างสรรพสินค้า เพื่อพาเด็ก ๆไปทานไอศครีมระห
พ่อของเด็กเป็นใครฉันหยุดชะงักแล้วหันไปมองใบหน้าหล่อ นิ่ง ๆ เขาก้าวขายาวเดินมายืนตรงหน้าฉันแล้วหลุบตามองไปที่กวิน และกรัณย์สลับกัน ก่อนจะย่อตัวลงคุยกับกวิน แฝดพี่ที่ฉันจับมืออยู่"พ่ออยู่ไหนครับ" เทมโปเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน"...." กวินไม่ตอบ แล้วเงยหน้าขึ้นมองฉันด้วยสีหน้ามึนงง แฝงสงสัย"คุณเป็นใครเหรอครับ" กรัณย์แฝดน้องที่หว่าหวาจับอยู่เอ่ยขึ้น ทำให้เทมโปละสายตาหันไปมองเด็กน้อย"ลุงเป็น...." เขาหยุดพูดแล้วช้อนตาขึ้นมองมาที่ฉัน ก่อนที่จะตอบกลับกรัณย์"...ลุงเป็น พะ เพื่อนแม่เราน่ะ" เทมโปพูดด้วยน้ำเสียงสั่น ๆ สีหน้าเจ็บปวด แล้วเอื้อมมือไปลูบที่หัวกรัณย์ แต่ทว่า"อย่าลูบ เดี๋ยวผมเสียทรง" แฝดคนน้องผละหัวหนีออก ทำให้มือหนาชะงักแล้วหัวเราะปนเศร้าเบา ๆ"เหอะ" ไม่รู้ซะแล้วว่ากรัณย์ห่วงหล่อขนาดไหน"แล้วพ่อไปไหนเหรอครับ" ในเมื่อถามกวินแล้วไม่ได้คำตอบ เขาจึงเลือกถามแฝดน้องแทน"...." กรัณย์ ส่ายหัวแล้วก้มหน้าลงด้วยใบหน้าเศร้า ทำเอาหัวใจฉันวูบไหวสงสารลูก"พอสักทีเถอะ..เลิกยุ่งเรื่องของแกนได้แล้ว" พูดจบ ฉันก็พากวิน และหว่าหวาจูงมือกรัณย์เดินหนีมา"ออร์แกน...ออร์แกน""อย่าตามมานะ!" ฉันหันไปตวา