กลัว
วันนี้ฉัน หว่าหวา และภิสิงห์ต่างพากันไปดูสถานที่จัดงานแสดงเครื่องประดับ แน่นอนว่าสองแสบจะต้องไปด้วย กวิน และกรัณย์ค่อนข้างที่จะติดฉัน เพราะฉันดูแลทั้งสองคนอย่างใกล้ชิดตั้งแต่เขาเกิดมา ให้ความรัก เป็นทั้งพ่อและแม่ให้กับพวกเขา
"แม่ฮับ..." บนรถของภิสิงห์ที่อาสาเป็นคนขับพาไปยังสถานที่จัดงาน อยู่ ๆ กวินก็เอ่ยขึ้น
"...พ่ออยู่ไหนเหรอครับ" คำถามของลูกชายที่เป็นแฝดพี่ทำให้หัวใจฉันรู้สึกสั่น ๆ
"นั่นสิครับ พ่อไปไหนเหรอ" ฉันละสายตาหันไปที่กรัณย์ที่พูดเสริมขึ้นมา หว่าหวาที่นั่งอยู่เบาะหน้าข้างคนขับ พร้อมกับภิสิงห์หันมาสบตาฉันทันที
"เอ่อ...ทำไมอยู่ดี ๆ ถามขึ้นมาล่ะครับ"
"ก็ลุงคนนั้นถามผมยังไม่ได้ตอบเขาเลย" ลุงคนนั้น ที่กวินเอ่ยถึงก็คือเทมโป พ่อของพวกเขานั้นแหละ
"พ่อทำไมไม่มาหาพวกเราเลยล่ะครับ" กรัณย์เอ่ยพร้อมกับสีหน้าเศร้า
"...." ฉันนิ่งมองดูทั้งสองด้วยความสงสาร
"เด็ก ๆ เดี๋ยวแวะกินไอศครีมคลายร้อนกันนะ" ภิสิงห์เอ่ยขึ้นเพื่อทำลายบรรยากาศเศร้า และดูเครียด
"เย้ / เย้" พอได้ยินคำว่าไอศครีม เด็ก ๆ ก็ปรับเปลี่ยนสีหน้าดีใจทันที
จากนั้นภิสิงห์ก็ขับรถเข้าไปในห้างสรรพสินค้า เพื่อพาเด็ก ๆไปทานไอศครีม
ระหว่างที่พวกเรากำลังเดินเข้าไปในห้างสรรพสินค้า ก็ได้พบกับใครบางคน ชายหนุ่มจูงมือเด็กชายวัยน่ารัก และมีหญิงสาวเดินเคียงข้างตรงมาที่ฉัน
"ออร์แกน"
"สวัสดีค่ะพี่ทอย พี่ต้องรัก" ใช่แล้ว ชายหญิงคู่นี้เป็นสามีภรรยากัน มากับลูกชายที่น่ารักที่ชื่อน้อง เต
"...." พี่ทอยหลุบตามองเด็กแฝดทั้งสอง ก่อนจะยิ้มทักทายภิสิงห์และหว่าหวา
"สวัสดีครับ" ต่างฝ่ายก็ทักทายกันอย่างมีอัธยาศัย จากนั้นพี่ทอยก็ก้มลงถามลูกชายฝาแฝดของฉัน
"ชื่ออะไรกันครับ"
"ผมชื่อกวินฮับ" คนเป็นพี่รีบตอบทันทีแล้วฉีกยิ้มกว้าง
"ผมชื่อกรัณย์ เป็นน้องกวินครับ" ส่วนแฝดน้องคลี่ยิ้มบาง ๆ ราวกับวางมาด
"หล่อเหมือนพ่อเลย" พี่ทอยเอ่ยชมเด็กแฝดทั้งสอง ขณะที่ทั้งคู่มองหน้ากันอย่างมึนงง
"คุณลุงเคยเจอพ่อผมเหรอฮับ" กวินเอ่ยถามอย่างใสซื่อ
"อ้าว แล้วคนนี้ไม่ใช่พ่อของเราเหรอ" พี่ทอยชี้ไปที่ภิสิงห์ ฉันเห็นสีหน้าและแววตาที่มองลูกชายฝาแฝดของฉัน เดาว่าเขาก็คงจะคิดอะไรบางอย่างได้ เพราะใบหน้าลูกชายทั้งสองดูออกเลยว่าเหมือนกับน้องชายของเขา
"ไม่ใช่ครับ..คนนี้คือลุงสิงห์ครับ" กรัณย์เป็นคนตอบแล้วชี้ไปที่ภิสิงห์ พี่ทอยได้ฟังแบบนั้นเขาก็เงยหน้ามองมาที่ฉัน
"เอ่อ..." ฉันยังไม่พูดอะไร พี่ทอยก็ยืนขึ้นแล้วแทรกพูดมาก่อน
"พี่ยินดีด้วยนะ..." หันไปที่ภิสิงห์
"...ยินดีด้วยนะครับเรื่องแต่งงาน" ว่าจบ ภิสิงห์ก็หันไปที่หว่าหวาที่มีใบหน้าล่ก ๆ
"เอ่อ ครับ" ภิสิงห์ก็ตอบรับ ทั้งที่ไม่ใช่ความจริง แต่ฉันก็ไม่ได้จะทักท้วงอะไร จากนั้นพี่ทอยก็เอามือทั้งไปลูบที่หัวกรัณย์ แน่นอนว่ารายนี้เขาไม่ชอบให้ใครลูบหัว
"ผมจะเสียทรงครับ" พี่ทอยได้ฟังแล้วก็กลั้วหัวเราะออกมา แล้วพึมพำเบา ๆ
"เหมือนเทมโปตอนเด็ก ๆ เลย ไม่ชอบให้ลูบหัว" ตึกตัก ตึกตัก เป็นเสียงเต้นของหัวใจฉันเองเหมือนพี่ทอยพูดถึงพ่อของลูก
"แล้วกวินล่ะ ให้ลุงลูบได้ไหม" เขาหันไปพูดกับแฝดน้อง
"ได้ครับ" กวินตอบกลับแล้วฉีกยิ้มกว้างเห็นฟันน้ำนม พี่ทอยยกมือลูบไปที่หัวของเด็กแฝดพี่ ฉันรู้สึกว่าเขากำลังทำอะไรบางอย่าง แต่ก็ไม่กล้าจะทักท้วงหรือถามจนกระทั่ง
"ได้ล่ะ" เขาหันไปพูดกับพี่ต้องรักเบา ๆ ก่อนจะหันมาที่พวกเรา
"งั้นพี่ขอตัวก่อนนะ"
"ค่ะ" ฉันขานรับ ส่วนภิสิงห์กับหว่าหวาก็คลี่ยิ้มให้อย่างเป็นมิตร จากนั้นพี่ทอยก็จูงมือลูกกับภรรยาเดินไป
"พี่ชายเทมโป?" ภิสิงห์เอ่ยถามทันที ที่ครอบครัวนั้นเดินไปไกลแล้ว
"...." ฉันผงกหัวแล้วคลี่ยิ้มบาง.ๆ
"เราไปกันเถอะ" หว่าหวาจูงมือเดินทั้งสองเดินนำหน้าไปยังร้านไอศครีม โดยมีฉันและภิสิงห์เดินตามไปติด ๆ
TemPo
แอ๊ดดดดด เสียงประตูห้องพักผู้ป่วยเปิดเข้ามา ในขณะที่คนป่วยยังนั่งเอาขาห้อยหันหลังให้ประตูสายตามองไปที่ระเบียงราวกับไม่ได้ยิน ไม่รับรู้อะไร
"สวัสดีครับพี่รณ นับตังค์...." หมอกที่เป็นคนเฝ้ากล่าวทักทายคนที่มาใหม่ ก่อนจะหยอกล้อกับลูกชายทั้งสองอย่างสนิทสนม
"....ว่าไงเจ้าเติร์ด"
"สวัสดีครับอาหมอก" เด็กชายยกมือไหว้แล้วฉีกยิ้มกว้าง ก่อนจะเดินไปหาอาอีกคนทันที
"สวัสดีครับอาเทมโป" เทมโปยิ้มบาง ๆ แล้วผงกหัวรับหลานตัวเล็ก แล้วจ้องไปที่ระเบียงหลังห้องเหมือนเดิม
"มันเป็นยังไงบ้าง" รณ พี่ชายคนรองเอ่ยถามหมอกด้วยความเป็นห่วงน้องชาย ที่อยู่ ๆ อาการแบบนี้ก็กลับมาอีก
"นั่งมองระเบียงมานานแล้วครับ ถามอะไรก็ไม่ตอบ เฮ้อออ" คนเป็นเพื่อนบอกอาการอย่างน่าเป็นห่วง พร้อมกับพ่นลมหายใจออกมา
"เทมโป.." รณเลือกที่จะเดินไปยืนอยู่ตรงหน้าน้องชาย แล้วตบที่บ่าเบา ๆ
"...มึงอย่าเป็นแบบนี้สิว่ะ รู้ไหมว่าทุกคนเป็นห่วง" คนเป็นน้องค่อย ๆ หันมามองหน้าพี่ชายนิ่ง ๆ
"ผะ ผมอยากเจอออร์แกน..." เทมโปพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเทา ดวงตาแดงก่ำ
"...ช่วยพอเธอมาเจอผมได้ไหม" พูดจบ ก็เอื้อมมือไปกุมมือรณส่งสายตาใบหน้าเป็นการขอร้อง
"ออร์แกน แต่งงานไปแล้วไม่ใช่เหรอ" รณพูดแล้วเบือนหน้าไปลอบหายใจ
"ครับ ออร์แกนแต่งงานแล้ว แต่ผมแค่อยากเจอเธอ...." เทมโปหยุดพูดแล้วทำสีหน้าราวคนเหม่อลอย
"...ผะ ผมยังไม่ได้บอกออร์แกนเลยว่า ผะ ผม ระ รัก เธอ..ฮึก" พูดจบ เทมโปก็ก้มหน้าร้องไห้ออกมา ทำให้รณต้องดึงน้องชายมาโอบแล้วตบที่หลังเบา ๆ เป็นการปลอบ
"เฮ้อ" ท่ามกลางสายตาของนับตังค์ หมอก รวมถึงน้องเติร์ดที่พอจะรู้เรื่องของอาตัวเอง ก็ต่างพากันรู้สึกสงสารและเห็นใจ
(เทมโปเป็นยังไงบ้าง) หลังจากที่ปลอบน้องชายแล้วเอายาให้กินจนเขาหลับลง พี่คนโตก็ได้โทรถามอาการน้องชายคนเล็กด้วยความเป็นห่วง
"หลับไปแล้ว" รณตอบกลับแล้วมองไปที่น้องชายที่นอนอยู่บนเตียง
(พี่เจอออร์แกนกับลูกชายฝาแฝดเธอแล้ว)
"...." รณไม่ได้พูดอะไร แต่ย่นคิ้วหนารอฟังพี่ชายพูดต่อ
(หน้าตาคล้ายเทมโปมาก)
"นายกำลังคิดว่า เด็กแฝดนั้นเป็นลูกไอ้เทมโป?"
(อืม) ทอยตอบกลับสั้น ๆ เขารู้สึกมั่นใจมากที่เด็กแฝดจะเป็นหลานแท้ ๆ ของเขา
"ทำไมนายถึง..."
(สามีออร์แกนไม่ใช่พ่อของเด็ก...และพี่ก็ยังสงสัยว่าออร์แกนยังไม่ได้แต่งงานกับใครทั้งนั้น) คนเป็นน้องยังพูดไม่จบประโยคคนเป็นพี่ก็แทรกพูดขึ้นมาก่อน
"นายกำลังจะทำอะไร"
(พี่ได้เส้นผมหนึ่งในฝาแฝดมาแล้ว...)
"ตรวจดีเอ็นเอ?"
(ใช่..ส่วนนายก็ไปสืบให้หน่อยว่านายภิสิงห์เป็นใคร แล้วแต่งงานกับออร์แกนจริง ๆ หรือเปล่า)
"อืม..." รณตอบรับแล้วหันไปที่เทมโป
"..ฉันกลัวว่ะ กลัวว่าไอ้เทมโปมันจะคิดสั้นอีก" รณกรเอ่ยด้วยความรู้สึกหวิว ๆ เมื่อเห็นอาการน้องชายในตอนนี้
(พี่จะรีบจัดการ แล้วหาทางคุยกับออร์แกนให้ได้)
"อืม" สิ้นเสียง ปลายสายก็กดวาง
ตอนจบ"เทมโป..." ใบหน้าหล่อคมคายหันมาจ้องที่ฉัน"...แกนจะไม่เป็นแค่เพื่อนอีกต่อไปใช่ไหม" เทมโปคลี่ยิ้มออกมาหลังจากที่ฉันพูดจบ"เธอไม่ใช่แค่เพื่อน..แต่เธอเป็นทุกสิ่งทุกอย่างสำหรับฉันแล้ว.." มือหนายกมาลูบผมฉันอย่างอ่อนโยน"..ถ้าฉันขาดเธอ ฉันขาดใจ" ปลั่ก! นั่นเป็นเสียงที่ฉันกำมือทุบไปที่อกของเขา"คนบ้า!""ใช่ ก่อนหน้าฉันเคยบ้ามาแล้ว ตั้งแต่เธอหนีไป" เทมโปพูดสวนกลับ ก่อนที่จะพ่นลมหายใจออกมาอย่างหนัก"มันคงเป็นเวรกรรมที่ฉันเคยทำกับเธอ รู้ไหมว่าฉันทรมานจนดูน่าสมเพชเอามาก ๆ เลย""ออร์แกน...ตอนที่เธอหายไปฉันยอมทิ้งทุกอย่างเพื่อตามหาเธอ""ทะ เทมโป.." ฉันเอ่ยน้ำเสียงสั่น ๆ แต่ภายในใจมันรู้สึกพองโต"ถ้าเธอไม่หนีไป วันนี้ฉันคงไม่รู้ว่าฉันรักเธอมากแค่ไหน..." คนร่างสูงโน้มหน้ามาจูบที่หน้าผากฉัน"...ขอบคุณที่สอนบทเรียนให้กับฉัน และขอบคุณที่กลับมาไม่ว่าเหตุผลที่เธอกลับมาไม่ใช่เพราะฉัน""..." เทมโปคลี่ยิ้มด้วยแววตาที่มีความสุข ใบหน้าสดใส"ถึงแม้เธอจะไม่ได้กลับมาเพราะฉัน แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้ฉันได้เจอเธอ ได้ขอโทษและได้บอกความในใจของฉันให้เธอฟัง""เทมโป..แกนก็ไม่เคยลืมนายเลยนะ" ไม่รู้อะไรดลใจ ทำให้ฉัน
จากเพื่อนสู่ผัว"กวิน กรัณย์ ออร์แกน" ฉันและลูกแฝดต่างพากันหันไปที่ต้นเสียง ซึ่งเป็นคนป่วยที่นอนอยู่เอ่ยขึ้นมา เขาลืมตามองมาที่พวกฉันแล้วค่อย ๆ หยัดกายลุกขึ้น"พ่อตื่นแล้ว" กวินบอกกับคนเป็นน้อง ก่อนจะลุกจากโซฟาเดินไปที่เตียง พร้อม ๆ กับฉันที่รีบไปประคองเขาลุกนั่ง.เทมโปคลี่ยิ้มด้วยแววตาที่มีความสุข ขณะที่ลูกแฝดขึ้นบนเก้าอี้แล้วเอ่ยถามอาการพ่อตัวเองทันที"พ่อเจ็บตรงไหนฮับ" แฝดพี่พูดแล้วใช้สายตามองไปที่เรือนร่างคนเป็นพ่อราวกับหาอะไร"พ่อรีบหายนะครับ จะได้มาเล่นกัน...." กรัณย์เอ่ยแล้วหันไปพูดกับกวิน"...ให้พ่อเป็นผู้ร้ายนะพวกเราเป็นตำรวจ""หึหึ" เทมโปหัวเราะออกมาแล้วเอื้อมไปลูบหัวลูกแฝดคนโต แล้วกำลังจะสลับไปลูบหัวคนน้องแต่เขากลับชะงัก คงจะจำวันนั้นได้วันที่กรัณย์ไม่ยอมให้เขาลูบเพราะกลัวผมเสียทรง"พ่อเป็นพ่อของกรัณย์ พ่อลูบได้ครับ" เด็กน้อยแฝดน้องพูดพร้อมกับยื่นหัวให้พ่อของเขาลูบ สร้างรอยยิ้มปนน้ำตาที่คลอเบ้าให้คนเป็นพ่อทันที"วันนี้เธอกับลูกอยู่กับฉันนะ" เทมโปหันมาพูดกับฉัน"อืม" ฉันตอบกลับสั้น ๆ แล้วคลี่ยิ้มให้"ขะ ขอบใจนะ" เทมโปกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่น ๆ"รับหายนะ..แกนอยากให้เทมโปกลับมาใ
ยังไม่ให้โอกาส"แล้วเด็กฝาแฝดนั้นเป็นลูกใคร"ฉันคลี่ยิ้มหวานแล้วดึงมือหนาเดินเข้ามาด้านในห้อง"รอตรงนี้นะ เดี๋ยวแกนจะไปพากวิน กรัณย์เข้ามา" เทมโปทำสีหน้ามึนงงปนสงสัย แต่ก็ทำตามที่ฉันสั่ง เขาเลือกที่จะเดินไปนั่งที่โซฟา จากนั้นฉันก็ออกมาจากห้องก็เห็นทุกคนต่างนั่งอยู่กันเป็นกลุ่ม"เทมโปเป็นยังบ้าง ออร์แกน" คุณน้าเรอาลุกขึ้นแล้วรีบเดินมาถามด้วยใบหน้าที่ยังมีความกังวล"ตอนนี้เทมโปโอเคขึ้นแล้วค่ะ..." ว่าจบ ฉันก็หันไปที่ลูกแฝดที่มีผู้ใหญ่ล้อมรอบอย่างอบอุ่น"...แกนขอพากวิน กรัณย์ไปหาพ่อของเขาก่อนนะคะ" คุณน้าเรอาคลี่ยิ้มแล้วเอื้อมมากุมมือของฉัน"ออร์แกน น้าขอโทษแทนเทมโปด้วยนะ..." เธอลอบหายใจเบา ๆ ก่อนที่จะเอ่ยต่อ"...ไม่คิดเลยว่าฉันจะมีหลานฝาแฝดที่น่ารักแบบนี้ ขอบคุณเธอจริง ๆ ที่เลี้ยงดูที่เกิดมาจากเทมโปมาอย่างดี" คุณน้าเรอาเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่น ๆ น้ำตาคลอเบ้า"กวิน กรัณย์ เป็นยิ่งกว่าชีวิตยังไง แกนก็ต้องเลี้ยงดูเขาให้ดีที่สุดค่ะ" คุณน้าเรอาผงกหัวรับแล้วหันไปที่ลูกชายฝาแฝดของฉัน"กวิน กรัณย์ มากับแม่" ฉันเอ่ยเรียก ทั้งคู่ก็ลุกจากเก้าอี้แล้วเดินยิ้มใบหน้าสดใสมาที่ฉัน"ลุงคนนั้นเป็นยังไงบ้างฮับ
ขอร้องOrgan"ทำไมคุณทอยคิดว่าเราสองคนแต่งงานกัน" ภิสิงห์เอ่ยถามขึ้นขณะที่ตอนนี้พวกเราต่างพากันธุระเสร็จจนกลับมาที่บ้านแล้ว ส่วนสองแฝดก็นอนหลับด้วยความเพลีย"หว่าหวาเป็นคนโกหกเองค่ะ" คนเป็นพี่หันไปที่น้องสาวของตนด้วยสีหน้าสงสัย"คือวันนั้นพวกเราเจอกับเทมโป...." หว่าหวาหยุดพูดแล้วหันมาที่ฉัน"...นายนั่นคอยเซ้าซี้แกนไม่เลิก หว่าหวาก็เลยโกหกไปว่า..""พี่กับแกนแต่งงานแล้วกวิน กรัณย์คือเป็นลูกพี่?" ภิสิงห์แทรกพูดขึ้นหว่าหวาก็ผงกหัวรับสีหน้ารู้สึกผิด"อย่าโกรธหว่าหวาเลยค่ะ แกนเองก็ไม่ทักท้วงปล่อยเลยตามเลย" ฉันพูดจบ หว่าหวาก็หันมาฉีกยิ้มให้ ขณะที่ภิสิงห์มีสีหน้าดูเครียด ราวกับมีเรื่องบางอย่างในใจ"พี่สิงห์โกรธหรอกคะ แกนขอโทษ""เปล่า พี่ไม่ได้โกรธ.." ว่าจบ ภิสิงห์ก็ลอบหายใจออกมาเบา ๆ"...ไม่นานทางนั้นก็ต้องรู้ว่าเราไม่ได้แต่งงานกันจริง ๆ""...." ฉันไม่พูดอะไรได้แต่ก้มหน้าเม้มปากทั้งสองเข้ากันแน่น ภายในใจก็คิดไว้อยู่เหมือนกัน ยิ่งวันนี้ที่เจอกับพี่ทอย เขาดูมีสีหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย ฉันคิดว่าเขาต้องไปสืบเรื่องแต่งงานที่หว่าหวากุขึ้นมาแน่"แกน..." ฉันเงยหน้าขึ้นมองไปยังพี่ชายเพื่อน"...พี่ได้ข
กลัววันนี้ฉัน หว่าหวา และภิสิงห์ต่างพากันไปดูสถานที่จัดงานแสดงเครื่องประดับ แน่นอนว่าสองแสบจะต้องไปด้วย กวิน และกรัณย์ค่อนข้างที่จะติดฉัน เพราะฉันดูแลทั้งสองคนอย่างใกล้ชิดตั้งแต่เขาเกิดมา ให้ความรัก เป็นทั้งพ่อและแม่ให้กับพวกเขา"แม่ฮับ..." บนรถของภิสิงห์ที่อาสาเป็นคนขับพาไปยังสถานที่จัดงาน อยู่ ๆ กวินก็เอ่ยขึ้น"...พ่ออยู่ไหนเหรอครับ" คำถามของลูกชายที่เป็นแฝดพี่ทำให้หัวใจฉันรู้สึกสั่น ๆ"นั่นสิครับ พ่อไปไหนเหรอ" ฉันละสายตาหันไปที่กรัณย์ที่พูดเสริมขึ้นมา หว่าหวาที่นั่งอยู่เบาะหน้าข้างคนขับ พร้อมกับภิสิงห์หันมาสบตาฉันทันที"เอ่อ...ทำไมอยู่ดี ๆ ถามขึ้นมาล่ะครับ""ก็ลุงคนนั้นถามผมยังไม่ได้ตอบเขาเลย" ลุงคนนั้น ที่กวินเอ่ยถึงก็คือเทมโป พ่อของพวกเขานั้นแหละ"พ่อทำไมไม่มาหาพวกเราเลยล่ะครับ" กรัณย์เอ่ยพร้อมกับสีหน้าเศร้า"...." ฉันนิ่งมองดูทั้งสองด้วยความสงสาร"เด็ก ๆ เดี๋ยวแวะกินไอศครีมคลายร้อนกันนะ" ภิสิงห์เอ่ยขึ้นเพื่อทำลายบรรยากาศเศร้า และดูเครียด"เย้ / เย้" พอได้ยินคำว่าไอศครีม เด็ก ๆ ก็ปรับเปลี่ยนสีหน้าดีใจทันทีจากนั้นภิสิงห์ก็ขับรถเข้าไปในห้างสรรพสินค้า เพื่อพาเด็ก ๆไปทานไอศครีมระห
พ่อของเด็กเป็นใครฉันหยุดชะงักแล้วหันไปมองใบหน้าหล่อ นิ่ง ๆ เขาก้าวขายาวเดินมายืนตรงหน้าฉันแล้วหลุบตามองไปที่กวิน และกรัณย์สลับกัน ก่อนจะย่อตัวลงคุยกับกวิน แฝดพี่ที่ฉันจับมืออยู่"พ่ออยู่ไหนครับ" เทมโปเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน"...." กวินไม่ตอบ แล้วเงยหน้าขึ้นมองฉันด้วยสีหน้ามึนงง แฝงสงสัย"คุณเป็นใครเหรอครับ" กรัณย์แฝดน้องที่หว่าหวาจับอยู่เอ่ยขึ้น ทำให้เทมโปละสายตาหันไปมองเด็กน้อย"ลุงเป็น...." เขาหยุดพูดแล้วช้อนตาขึ้นมองมาที่ฉัน ก่อนที่จะตอบกลับกรัณย์"...ลุงเป็น พะ เพื่อนแม่เราน่ะ" เทมโปพูดด้วยน้ำเสียงสั่น ๆ สีหน้าเจ็บปวด แล้วเอื้อมมือไปลูบที่หัวกรัณย์ แต่ทว่า"อย่าลูบ เดี๋ยวผมเสียทรง" แฝดคนน้องผละหัวหนีออก ทำให้มือหนาชะงักแล้วหัวเราะปนเศร้าเบา ๆ"เหอะ" ไม่รู้ซะแล้วว่ากรัณย์ห่วงหล่อขนาดไหน"แล้วพ่อไปไหนเหรอครับ" ในเมื่อถามกวินแล้วไม่ได้คำตอบ เขาจึงเลือกถามแฝดน้องแทน"...." กรัณย์ ส่ายหัวแล้วก้มหน้าลงด้วยใบหน้าเศร้า ทำเอาหัวใจฉันวูบไหวสงสารลูก"พอสักทีเถอะ..เลิกยุ่งเรื่องของแกนได้แล้ว" พูดจบ ฉันก็พากวิน และหว่าหวาจูงมือกรัณย์เดินหนีมา"ออร์แกน...ออร์แกน""อย่าตามมานะ!" ฉันหันไปตวา