ขอร้อง
Organ
"ทำไมคุณทอยคิดว่าเราสองคนแต่งงานกัน" ภิสิงห์เอ่ยถามขึ้นขณะที่ตอนนี้พวกเราต่างพากันธุระเสร็จจนกลับมาที่บ้านแล้ว ส่วนสองแฝดก็นอนหลับด้วยความเพลีย
"หว่าหวาเป็นคนโกหกเองค่ะ" คนเป็นพี่หันไปที่น้องสาวของตนด้วยสีหน้าสงสัย
"คือวันนั้นพวกเราเจอกับเทมโป...." หว่าหวาหยุดพูดแล้วหันมาที่ฉัน
"...นายนั่นคอยเซ้าซี้แกนไม่เลิก หว่าหวาก็เลยโกหกไปว่า.."
"พี่กับแกนแต่งงานแล้วกวิน กรัณย์คือเป็นลูกพี่?" ภิสิงห์แทรกพูดขึ้นหว่าหวาก็ผงกหัวรับสีหน้ารู้สึกผิด
"อย่าโกรธหว่าหวาเลยค่ะ แกนเองก็ไม่ทักท้วงปล่อยเลยตามเลย" ฉันพูดจบ หว่าหวาก็หันมาฉีกยิ้มให้ ขณะที่ภิสิงห์มีสีหน้าดูเครียด ราวกับมีเรื่องบางอย่างในใจ
"พี่สิงห์โกรธหรอกคะ แกนขอโทษ"
"เปล่า พี่ไม่ได้โกรธ.." ว่าจบ ภิสิงห์ก็ลอบหายใจออกมาเบา ๆ
"...ไม่นานทางนั้นก็ต้องรู้ว่าเราไม่ได้แต่งงานกันจริง ๆ"
"...." ฉันไม่พูดอะไรได้แต่ก้มหน้าเม้มปากทั้งสองเข้ากันแน่น ภายในใจก็คิดไว้อยู่เหมือนกัน ยิ่งวันนี้ที่เจอกับพี่ทอย เขาดูมีสีหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย ฉันคิดว่าเขาต้องไปสืบเรื่องแต่งงานที่หว่าหวากุขึ้นมาแน่
"แกน..." ฉันเงยหน้าขึ้นมองไปยังพี่ชายเพื่อน
"...พี่ได้ข่าวแปลก ๆ มา" ฉันขมวดคิ้วงามด้วยความสงสัย
"ข่าวอะไรเหรอคะ"
"พี่ได้ยินวงในพูดกันว่าเมื่อสองปีก่อนหลานชายคุณดลธี ป่วยเข้าการรักษาที่โรงพยาบาลจิตเวช" ฉันไม่เข้าใจที่ภิสิงห์พูด จึงทำให้ยิ่งขมวดคิ้วจนเป็นปม
"หลานคนไหนคะ" เป็นหว่าหวาที่ถามแทน ซึ่งดูสีหน้าก็อยากรู้เช่นกัน
"เทมโป" สิ้นเสียง ฉันกับหว่าหวาก็หันมามองหน้ากัน ภาพวันนั้นที่ได้เจอเขาก็ผุดขึ้นมาในหัว เทมโปอาจจะมีหน้าตาที่ยังหล่อเหลาอยู่ แต่ทว่าเขากลับดูไม่สดใส เหมือนคนอมทุกข์อยู่ตลอด จริง ๆ ก็เหมือนกับคนป่วย
"จริง ๆ และหน้าตากวิน กรัณย์ก็คล้ายกับเขา แต่วันนั้นเขาไม่สังเกต หรือเป็นเพราะเขาป่วยกันนะ" หว่าหวาพึมพำออกมาพอได้ยิน
"พี่สิงห์พอจะรู้ไหมคะว่า เอ่อ..ป่วยเป็นอะไร" ภิสิงห์ส่ายหน้า
"ทางนั้นพยายามปิดข่าวกันมาก" ไม่รู้ว่าฉันเป็นอะไร พอได้ยินแบบนี้ จิตใจก็ว้าวุ่น รู้สึกเป็นห่วงเขาขึ้นมาจับใจ
"เป็นห่วงเขาใช่ไหม" ฉันเงยหน้าแล้วผงกหัวรับความจริง ใช่ ฉันเป็นห่วงพ่อของลูก
"แกนยังรักเทมโปใช่หรือเปล่า แกนยังไม่ตอบหว่าหวาเลยนะ" หว่าหวาเอ่ยถามต่อ ทำให้ฉันต้องหันไปมองเธอหน้านิ่ง ๆ ใช่แล้ว หว่าหวาถามประโยคนี้มาแล้วแต่เธอก็ไม่ได้คำตอบจากฉัน
"ใช่..แกนยังรักเทมโปอยู่" คราวนี้ฉันตัดสินใจตอบตามความรู้สึกของตัวเอง
มือสวยเอื้อมมาลูบที่แขนของฉันก่อนจะพูดขึ้น
"หว่าหวาก็รู้อยู่แล้วแหละว่าแกนยังรักเทมโป....." เธอหยุดพูดแล้วหันไปที่ภิสิงห์
"....ไม่งั้นแกนก็คงลงเอยกับพี่ชายหว่าหวาแล้ว คิกคิก' ว่าจบก็ปิดปากหัวเราะ
"ยัยตัวแสบ!" ภิสิงห์สบถว่าน้องสาวอย่างไม่จริงจัง
ฉันนอนไม่หลับทั้งคืนเลย ในหัวนึกถึงแต่เรื่องเทมโป ความรู้สึกหลากหลายอารมณ์มาก ทั้งรัก ทั้งคิดถึง ทั้งเป็นห่วง ทั้งโกรธ และยังคงแค้นใจกับเรื่องในอดีตที่เขาเคยทำไว้กับฉัน
"เป็นอะไรนะถึงต้องเข้าการรักษาที่โรงพยาบาลจิตเวชด้วย" ฉันนอนพึมพำคนเดียวเบา ๆ แล้วหยัดกายลุกขึ้นลงจากเตียง เดินไปยังเตียงลูกชายที่อยู่อีกมุม ก่อนจะเอื้อมมือไปลูบหัวทั้งสองอย่างรักใคร่และหวงแหน
"แม่ขอโทษนะที่ไม่ยอมบอกเรื่องพ่อกับลูก"
หลายวันต่อมา
ขณะที่ฉันกับหว่าหวากำลังนั่งประชุมแผนการงานแสดงเครื่องประดับที่กำลังจะเกิดขึ้นไม่นานนี้ อยู่ ๆ โทรศัพท์ของฉันก็ดังขึ้น จึงหยิบขึ้นมาดูแต่ต้องขมวดคิ้วด้วยความสงสัยเพราะเบอร์ที่โทรเข้ามาเป็นเบอร์ที่ไม่มีรายชื่อ แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจกดรับ
"สวัสดีค่ะ"
(ออร์แกนพี่เองนะ ทอย) ฉันย่นคิ้วด้วยใบหน้าสงสัย ว่าเขาเอาเบอร์ฉันมาจากไหน
"...." แต่ก็ไม่ได้เอ่ยถามอะไรออกไป
(พอมีเวลาคุยกับพี่ไหม) เสียงทุ้มเอ่ยเข้ามา
"พี่ทอยมีเรื่องอะไรเหรอคะ'
(เรื่องลูกชายฝาแฝดของเทมโป รวมถึงเรื่องของมันด้วย) ตึกตัก ตึกตัก เสียงหัวใจฉันเต้นแรงมาก
"พะ พี่ทอยรู้ได้ยังไงคะ"
(ช่วยพาหลานฝาแฝดของพี่มาที่โรงพยาบาล bbn หน่อยได้ไหม) พี่ทอยไม่ตอบ แต่เลือกที่จะขอร้องให้ฉันไปพบ
"ทะ ทำไมต้องไปที่โรงพยาบาลด้วยล่ะคะ" ฉันเอ่ยถามด้วยความรู้สึกที่ไม่ค่อยดี
(เทมโปอยู่ที่นั้น....) พี่ทอยหยุดพูดแล้วลอบหายใจเบา ๆ
(...พี่ไม่ขอให้แกนกลับมาหามัน แต่พี่ขอให้มันได้รับรู้หน่อยได้ไหมว่ามันให้กำเนิดลูกชายฝาแฝด...เพื่อมันจะได้ไม่พยายามทำร้ายตัวเอง) พี่ทอยพูดประโยคสุดท้ายด้วยน้ำเสียงสั่น ๆ เบา ๆ แต่ฉันพอได้ยิน
"กะ เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ"
(พี่อยากให้ออร์แกนมาดูเอง)
ตอนนี้ฉัน หว่าหวา ได้พาลูกชายมาที่โรงพยาบาล bbn พอมาถึงก็เห็น พี่นับตังค์ พี่ต้องรัก และลูก ๆ ของเธอ อยู่ทีหน้าห้องด้วยสีหน้าที่ดูไม่ดี
"ออร์แกน..." พี่ต้องรักเดินเข้ามากุมมือฉัน
"...ช่วยเทมโปด้วยนะ" เธอพูดน้ำเสียงสั่น ๆ ดวงตาแดงก่ำ ไม่ต่างจากพี่นับตังค์
"เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ ทะ เทมโป เป็นอะไร" ฉันรู้สึกหัวใจหวิว ๆ แปลก ๆ
"เทมโปพยายามคิดสั้น ตอนนี้พ่อแม่ พี่ทอย รณ กำลังเกลี้ยกล่อมอยู่" หัวใจฉันแทบหยุดเต้นเมื่อพี่ต้องรักพูดจบ
"รีบพาลูก ๆ เข้าไปเถอะ ช่วยเทมโปด้วยนะ" พี่นับตังค์พูดด้วยสายตาขอร้อง
ฉันหันไปที่หว่าหวาเธอผงกหัวให้เป็นสัญญาณให้ฉันพา กวินกับกรัณย์เข้าไปเจอพ่อของเขา จากนั้นฉันจึงจับมือลูกเข้าไปในห้อง ก็ต้องตกใจ ที่เห็นเทมโปกำลังจะทำร้ายตัวเอง โดยลักษณะเขานั่งอยู่ริมระเบียง แต่หันหน้าเข้ามาในห้อง แล้วพยายามที่จะหงายตัวทิ้งร่างลงไป ซึ่งมันสูงมาก
"ทะ เทมโป ฮึก" ฉันจูงมือลูกเข้าไปหาเขาด้วยน้ำตาคลอเบ้า
"อะ ออร์แกน" เขาเอ่ยเสียงสั่น และหยุดชะงักการกระทำเมื่อกี้ ทำให้พ่อแม่ และพี่ชายทั้งสองถอนหายใจออกมาอย่างโล่งใจ
เทมโปลงมาจากระเบียงแล้วเข้าสวมกอดฉันแน่น ด้วยน้ำตาที่ไหลรินลงมาที่หลังฉัน ในขณะที่พ่อกับแม่ของเทมโปพาลูกชายทั้งสองออกมาก่อน เพื่อให้ฉันกับเทมโปได้พูดคุยกันลำพัง.
"ฉะ ฉันคิดถึงเธอ ออร์แกน ฮึก" ฉันยกแขนขึ้นโอบกอดด้วยความคิดถึงเขาเช่นกัน
"ฉันขอโทษ ฉันรู้แล้ว ฉันรู้ซึ้งถึงคำว่าไม่มีเธอแล้วออร์แกน....." เทมโปผละจากกอดแล้วจับที่ไหล่ของฉันทั้งสองแล้วจ้องมาที่ฉันด้วยสีหน้าแววตาดูเจ็บปวดอย่างทรมาน
"....ฉันเจ็บปวดตรงที่ใจมาก ๆ" เขาจับมือฉันไปทาบที่หน้าอกด้านซ้ายของเขา
"ฉันมันเลว ที่ทำร้ายเธอมาตลอดโดยไม่รู้เลยว่า เธอจะเจ็บปวดใจแค่ไหน จนเมื่อเธอหายไปกลายเป็นฉันที่เจ็บปวดและทรมานใจซะเองทั้ง ๆ ที่เธอไม่ได้ทำอะไรฉันเลย"
"....." ฉันยืนนิ่งตัวแข็งมองใบหน้าชายหนุ่มที่เปื้อนคราบน้ำตา
"ฮึก..." เทมโปยกมือขึ้นปาดน้ำตาลวก ๆ แล้วพูดต่อ
"...เมื่อก่อนฉันมั่นใจตลอดว่าถ้าเธอไม่มีฉันชีวิตเธอพังแน่ แต่ไม่ใช่เลยเป็นฉันเองที่ชีวิตพังลงเมื่อไม่มีเธอ" พูดจบ เทมโปก็ฟุ่บลงคุกเข่าที่พื้นแล้วคว้ามือของฉันมากุมไว้
"ฉันรักเธอออร์แกน ฉันรักเธอจนหมดใจ"
"ทะ เทมโป..." ฉันหลุบตามองชายหนุ่มที่คุกเข่าอยู่ต่อหน้าด้วยหัวใจที่หวั่นไหว.
"ฉันรักเธอ ฉันรักเธอมาตลอด..ฉันไม่เคยรักใครนอกจากเธอออร์แกน ฉันขอเป็นคนที่น่าสมเพช ขอร้องให้เธออยู่กับฉันได้ไหม"
"...."
"ให้โอกาสฉันได้มีครอบครัวกับเธอ มีลูกกับเธอได้หรือเปล่า" ประโยคหลังเทมโปเอ่ยด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา แล้วก้มหน้าลงด้วยสีหน้าเศร้า
"เทมโป..." ใบหน้าหล่อช้อนตาขึ้นมองมาที่ฉัน
"...แกนขอโทษนะ" พูดจบ สีหน้าเขาดูสิ้นหวังลงทันที
"ฉะ ฉันเข้าใจ เธอมีครอบครัวมีลูกไปแล้ว" เขาพูดแบบนี้คงพี่ทอยคงยังไม่ได้บอกอะไรสินะ
"แกนยังไม่ได้แต่งงานกับใคร..แกนมีแต่ลูก" เทมโปลุกขึ้นยืนเต็มความสูงแล้วเอามือมาจับที่ไหล่ฉันก่อนจะโน้มหน้าลงมาแล้วถามด้วยสีหน้าสงสัย.
"แล้วเด็กฝาแฝดนั้นเป็นลูกใคร"
ตอนจบ"เทมโป..." ใบหน้าหล่อคมคายหันมาจ้องที่ฉัน"...แกนจะไม่เป็นแค่เพื่อนอีกต่อไปใช่ไหม" เทมโปคลี่ยิ้มออกมาหลังจากที่ฉันพูดจบ"เธอไม่ใช่แค่เพื่อน..แต่เธอเป็นทุกสิ่งทุกอย่างสำหรับฉันแล้ว.." มือหนายกมาลูบผมฉันอย่างอ่อนโยน"..ถ้าฉันขาดเธอ ฉันขาดใจ" ปลั่ก! นั่นเป็นเสียงที่ฉันกำมือทุบไปที่อกของเขา"คนบ้า!""ใช่ ก่อนหน้าฉันเคยบ้ามาแล้ว ตั้งแต่เธอหนีไป" เทมโปพูดสวนกลับ ก่อนที่จะพ่นลมหายใจออกมาอย่างหนัก"มันคงเป็นเวรกรรมที่ฉันเคยทำกับเธอ รู้ไหมว่าฉันทรมานจนดูน่าสมเพชเอามาก ๆ เลย""ออร์แกน...ตอนที่เธอหายไปฉันยอมทิ้งทุกอย่างเพื่อตามหาเธอ""ทะ เทมโป.." ฉันเอ่ยน้ำเสียงสั่น ๆ แต่ภายในใจมันรู้สึกพองโต"ถ้าเธอไม่หนีไป วันนี้ฉันคงไม่รู้ว่าฉันรักเธอมากแค่ไหน..." คนร่างสูงโน้มหน้ามาจูบที่หน้าผากฉัน"...ขอบคุณที่สอนบทเรียนให้กับฉัน และขอบคุณที่กลับมาไม่ว่าเหตุผลที่เธอกลับมาไม่ใช่เพราะฉัน""..." เทมโปคลี่ยิ้มด้วยแววตาที่มีความสุข ใบหน้าสดใส"ถึงแม้เธอจะไม่ได้กลับมาเพราะฉัน แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้ฉันได้เจอเธอ ได้ขอโทษและได้บอกความในใจของฉันให้เธอฟัง""เทมโป..แกนก็ไม่เคยลืมนายเลยนะ" ไม่รู้อะไรดลใจ ทำให้ฉัน
จากเพื่อนสู่ผัว"กวิน กรัณย์ ออร์แกน" ฉันและลูกแฝดต่างพากันหันไปที่ต้นเสียง ซึ่งเป็นคนป่วยที่นอนอยู่เอ่ยขึ้นมา เขาลืมตามองมาที่พวกฉันแล้วค่อย ๆ หยัดกายลุกขึ้น"พ่อตื่นแล้ว" กวินบอกกับคนเป็นน้อง ก่อนจะลุกจากโซฟาเดินไปที่เตียง พร้อม ๆ กับฉันที่รีบไปประคองเขาลุกนั่ง.เทมโปคลี่ยิ้มด้วยแววตาที่มีความสุข ขณะที่ลูกแฝดขึ้นบนเก้าอี้แล้วเอ่ยถามอาการพ่อตัวเองทันที"พ่อเจ็บตรงไหนฮับ" แฝดพี่พูดแล้วใช้สายตามองไปที่เรือนร่างคนเป็นพ่อราวกับหาอะไร"พ่อรีบหายนะครับ จะได้มาเล่นกัน...." กรัณย์เอ่ยแล้วหันไปพูดกับกวิน"...ให้พ่อเป็นผู้ร้ายนะพวกเราเป็นตำรวจ""หึหึ" เทมโปหัวเราะออกมาแล้วเอื้อมไปลูบหัวลูกแฝดคนโต แล้วกำลังจะสลับไปลูบหัวคนน้องแต่เขากลับชะงัก คงจะจำวันนั้นได้วันที่กรัณย์ไม่ยอมให้เขาลูบเพราะกลัวผมเสียทรง"พ่อเป็นพ่อของกรัณย์ พ่อลูบได้ครับ" เด็กน้อยแฝดน้องพูดพร้อมกับยื่นหัวให้พ่อของเขาลูบ สร้างรอยยิ้มปนน้ำตาที่คลอเบ้าให้คนเป็นพ่อทันที"วันนี้เธอกับลูกอยู่กับฉันนะ" เทมโปหันมาพูดกับฉัน"อืม" ฉันตอบกลับสั้น ๆ แล้วคลี่ยิ้มให้"ขะ ขอบใจนะ" เทมโปกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่น ๆ"รับหายนะ..แกนอยากให้เทมโปกลับมาใ
ยังไม่ให้โอกาส"แล้วเด็กฝาแฝดนั้นเป็นลูกใคร"ฉันคลี่ยิ้มหวานแล้วดึงมือหนาเดินเข้ามาด้านในห้อง"รอตรงนี้นะ เดี๋ยวแกนจะไปพากวิน กรัณย์เข้ามา" เทมโปทำสีหน้ามึนงงปนสงสัย แต่ก็ทำตามที่ฉันสั่ง เขาเลือกที่จะเดินไปนั่งที่โซฟา จากนั้นฉันก็ออกมาจากห้องก็เห็นทุกคนต่างนั่งอยู่กันเป็นกลุ่ม"เทมโปเป็นยังบ้าง ออร์แกน" คุณน้าเรอาลุกขึ้นแล้วรีบเดินมาถามด้วยใบหน้าที่ยังมีความกังวล"ตอนนี้เทมโปโอเคขึ้นแล้วค่ะ..." ว่าจบ ฉันก็หันไปที่ลูกแฝดที่มีผู้ใหญ่ล้อมรอบอย่างอบอุ่น"...แกนขอพากวิน กรัณย์ไปหาพ่อของเขาก่อนนะคะ" คุณน้าเรอาคลี่ยิ้มแล้วเอื้อมมากุมมือของฉัน"ออร์แกน น้าขอโทษแทนเทมโปด้วยนะ..." เธอลอบหายใจเบา ๆ ก่อนที่จะเอ่ยต่อ"...ไม่คิดเลยว่าฉันจะมีหลานฝาแฝดที่น่ารักแบบนี้ ขอบคุณเธอจริง ๆ ที่เลี้ยงดูที่เกิดมาจากเทมโปมาอย่างดี" คุณน้าเรอาเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่น ๆ น้ำตาคลอเบ้า"กวิน กรัณย์ เป็นยิ่งกว่าชีวิตยังไง แกนก็ต้องเลี้ยงดูเขาให้ดีที่สุดค่ะ" คุณน้าเรอาผงกหัวรับแล้วหันไปที่ลูกชายฝาแฝดของฉัน"กวิน กรัณย์ มากับแม่" ฉันเอ่ยเรียก ทั้งคู่ก็ลุกจากเก้าอี้แล้วเดินยิ้มใบหน้าสดใสมาที่ฉัน"ลุงคนนั้นเป็นยังไงบ้างฮับ
ขอร้องOrgan"ทำไมคุณทอยคิดว่าเราสองคนแต่งงานกัน" ภิสิงห์เอ่ยถามขึ้นขณะที่ตอนนี้พวกเราต่างพากันธุระเสร็จจนกลับมาที่บ้านแล้ว ส่วนสองแฝดก็นอนหลับด้วยความเพลีย"หว่าหวาเป็นคนโกหกเองค่ะ" คนเป็นพี่หันไปที่น้องสาวของตนด้วยสีหน้าสงสัย"คือวันนั้นพวกเราเจอกับเทมโป...." หว่าหวาหยุดพูดแล้วหันมาที่ฉัน"...นายนั่นคอยเซ้าซี้แกนไม่เลิก หว่าหวาก็เลยโกหกไปว่า..""พี่กับแกนแต่งงานแล้วกวิน กรัณย์คือเป็นลูกพี่?" ภิสิงห์แทรกพูดขึ้นหว่าหวาก็ผงกหัวรับสีหน้ารู้สึกผิด"อย่าโกรธหว่าหวาเลยค่ะ แกนเองก็ไม่ทักท้วงปล่อยเลยตามเลย" ฉันพูดจบ หว่าหวาก็หันมาฉีกยิ้มให้ ขณะที่ภิสิงห์มีสีหน้าดูเครียด ราวกับมีเรื่องบางอย่างในใจ"พี่สิงห์โกรธหรอกคะ แกนขอโทษ""เปล่า พี่ไม่ได้โกรธ.." ว่าจบ ภิสิงห์ก็ลอบหายใจออกมาเบา ๆ"...ไม่นานทางนั้นก็ต้องรู้ว่าเราไม่ได้แต่งงานกันจริง ๆ""...." ฉันไม่พูดอะไรได้แต่ก้มหน้าเม้มปากทั้งสองเข้ากันแน่น ภายในใจก็คิดไว้อยู่เหมือนกัน ยิ่งวันนี้ที่เจอกับพี่ทอย เขาดูมีสีหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย ฉันคิดว่าเขาต้องไปสืบเรื่องแต่งงานที่หว่าหวากุขึ้นมาแน่"แกน..." ฉันเงยหน้าขึ้นมองไปยังพี่ชายเพื่อน"...พี่ได้ข
กลัววันนี้ฉัน หว่าหวา และภิสิงห์ต่างพากันไปดูสถานที่จัดงานแสดงเครื่องประดับ แน่นอนว่าสองแสบจะต้องไปด้วย กวิน และกรัณย์ค่อนข้างที่จะติดฉัน เพราะฉันดูแลทั้งสองคนอย่างใกล้ชิดตั้งแต่เขาเกิดมา ให้ความรัก เป็นทั้งพ่อและแม่ให้กับพวกเขา"แม่ฮับ..." บนรถของภิสิงห์ที่อาสาเป็นคนขับพาไปยังสถานที่จัดงาน อยู่ ๆ กวินก็เอ่ยขึ้น"...พ่ออยู่ไหนเหรอครับ" คำถามของลูกชายที่เป็นแฝดพี่ทำให้หัวใจฉันรู้สึกสั่น ๆ"นั่นสิครับ พ่อไปไหนเหรอ" ฉันละสายตาหันไปที่กรัณย์ที่พูดเสริมขึ้นมา หว่าหวาที่นั่งอยู่เบาะหน้าข้างคนขับ พร้อมกับภิสิงห์หันมาสบตาฉันทันที"เอ่อ...ทำไมอยู่ดี ๆ ถามขึ้นมาล่ะครับ""ก็ลุงคนนั้นถามผมยังไม่ได้ตอบเขาเลย" ลุงคนนั้น ที่กวินเอ่ยถึงก็คือเทมโป พ่อของพวกเขานั้นแหละ"พ่อทำไมไม่มาหาพวกเราเลยล่ะครับ" กรัณย์เอ่ยพร้อมกับสีหน้าเศร้า"...." ฉันนิ่งมองดูทั้งสองด้วยความสงสาร"เด็ก ๆ เดี๋ยวแวะกินไอศครีมคลายร้อนกันนะ" ภิสิงห์เอ่ยขึ้นเพื่อทำลายบรรยากาศเศร้า และดูเครียด"เย้ / เย้" พอได้ยินคำว่าไอศครีม เด็ก ๆ ก็ปรับเปลี่ยนสีหน้าดีใจทันทีจากนั้นภิสิงห์ก็ขับรถเข้าไปในห้างสรรพสินค้า เพื่อพาเด็ก ๆไปทานไอศครีมระห
พ่อของเด็กเป็นใครฉันหยุดชะงักแล้วหันไปมองใบหน้าหล่อ นิ่ง ๆ เขาก้าวขายาวเดินมายืนตรงหน้าฉันแล้วหลุบตามองไปที่กวิน และกรัณย์สลับกัน ก่อนจะย่อตัวลงคุยกับกวิน แฝดพี่ที่ฉันจับมืออยู่"พ่ออยู่ไหนครับ" เทมโปเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน"...." กวินไม่ตอบ แล้วเงยหน้าขึ้นมองฉันด้วยสีหน้ามึนงง แฝงสงสัย"คุณเป็นใครเหรอครับ" กรัณย์แฝดน้องที่หว่าหวาจับอยู่เอ่ยขึ้น ทำให้เทมโปละสายตาหันไปมองเด็กน้อย"ลุงเป็น...." เขาหยุดพูดแล้วช้อนตาขึ้นมองมาที่ฉัน ก่อนที่จะตอบกลับกรัณย์"...ลุงเป็น พะ เพื่อนแม่เราน่ะ" เทมโปพูดด้วยน้ำเสียงสั่น ๆ สีหน้าเจ็บปวด แล้วเอื้อมมือไปลูบที่หัวกรัณย์ แต่ทว่า"อย่าลูบ เดี๋ยวผมเสียทรง" แฝดคนน้องผละหัวหนีออก ทำให้มือหนาชะงักแล้วหัวเราะปนเศร้าเบา ๆ"เหอะ" ไม่รู้ซะแล้วว่ากรัณย์ห่วงหล่อขนาดไหน"แล้วพ่อไปไหนเหรอครับ" ในเมื่อถามกวินแล้วไม่ได้คำตอบ เขาจึงเลือกถามแฝดน้องแทน"...." กรัณย์ ส่ายหัวแล้วก้มหน้าลงด้วยใบหน้าเศร้า ทำเอาหัวใจฉันวูบไหวสงสารลูก"พอสักทีเถอะ..เลิกยุ่งเรื่องของแกนได้แล้ว" พูดจบ ฉันก็พากวิน และหว่าหวาจูงมือกรัณย์เดินหนีมา"ออร์แกน...ออร์แกน""อย่าตามมานะ!" ฉันหันไปตวา