ใจร้าย
คอนโดหรูกลางใจเมือง เทมโปขับรถเขาไปจอดของ VIP ซึ่งแน่นอนว่าคอนโดแห่งนี้เป็นของเขา
"เทมโปมาที่นี้ทำไม"ฉันแสร้งถามทั้งที่ในใจก็พอจะรู้ว่าหลังจากนี้ต้องเจอกับอะไร
"ฉันพาเธอมาทบทวนไงว่าถ้าขัดคำสั่งฉ้นจะต้องเจอกับอะไร"พูดจบก็ลงจากรถแล้วอ้อมมาฝั่งที่ฉันนั่ง
"ลงมา!"เทมโปตวาดใส่จนฉันสะดุ้ง
"เทมโป..แกนขอเถอะอย่า..."
"ไม่ต้องขอฉันจะทำให้เธอลืมไม่ลงเลยแหละ"เขาแทรกพูดแล้วยกยิ้มอย่างชั่วร้าย ฉันจ้องหน้าเขาแล้วนึกถึงตอนเขาป่วยรู้แบบนี้ปล่อยให้ตาย ๆ ไปซะก็ดี ไม่น่าดูแลเลย ชาวนากับงูเห่าชัด ๆ
"ฉันบอกให้ลงมา ทำไมต้องให้พูดหลายรอบว่ะ"ฉันค่อย ๆ ลงจากรถอย่างว่าง่ายเพราะรู้ว่ายังไงก็หนีไม่พ้น
"ว้าย!"เทมโปกระชากแขนแล้วลากฉันขึ้นลิฟต์ก่อนจะกดไปยังชั้นที่เขาพัก
"เธอทำฉันหงุดหงิด..เธอจะต้องโดนทำโทษอย่างสาสม"เขาขบกรามแน่นสีหน้าดุดันจนชวนขนลุก
"นะ นายเพิ่งจะหายไข้..."
"ฉันเอาได้.."ชายหนุ่มผมทองแทรกพูด
"....ยังไงวันนี้ฉันจะทำให้เธอหลาบจำ"ฉันเบือนหน้าลอบหายใจด้วยหัวใจที่เต้นแรง ติ๊ด! แต่พอเสียงประตูลิฟต์เปิด หัวใจฉันก็แทบจะหยุดเต้นทันทีจากที่เต้นแรงมาตลอด
"จะออกไปเองหรือจะให้ฉันลากเธอ"ฉันยังยืนนิ่งจนเสียงชายหนุ่มดังจึงก้าวขาเดินออกมาจากลิฟต์
ฝีเท้าหนักก้าวออกจากลิฟต์แล้วเดินนำหน้าฉันไปที่ห้องของเขาด้วยสีหน้าที่พึงพอใจ เขาเปิดประตูห้องแล้วหันมาแสยะยิ้มร้าย ๆ ก่อนจะเข้าไปด้านในโดยมีฉันตามเข้าไปติด ๆ
"ที่นี้จะบอกได้หรือยังว่าเมื่อวานเธอไปไหนมา"เขายืนเต็มความสูงแล้วปลดเนคไทออก ซึ่งเป็นเครื่องแต่งกายของคณะ
"ถ้าแกนบอกแล้วจะให้แกนกลับใช่ไหม"ฉันลองพูดต่อรองกับเขา
"เธอกำลังจะทำให้ฉันหงุดหงิดอีกรอบ...."เขากดน้ำเสียงทุ้มต่ำแล้วจ้องหน้าฉันด้วยน้ำเสียงดุดัน
"...บอกมาว่าเมื่อวานเธอไปไหนมา"ฉันไม่เข้าใจเลยว่าทำไมจะต้องคาดคั้นฉันยิ่งกว่าพ่อแม่ฉันซะอีก
"ไปกินข้าวกับหว่าหวามา"สุดท้ายฉันก็ต้องบอกเขา
"หว่าหวา?...เธอรู้จักกับยัยนั่นด้วยเหรอแล้วรู้จักกันตั้งแต่เมื่อไหร่"
"รู้จักกันเมื่อวานหว่าหวาช่วยแกนไว้"ฉันบอกตามความจริง
"ช่วย? ยัยนั่นช่วยอะไรเธอ"
"ก็ช่วยไม่ให้เมียนายมารังแกฉันไง"ชายหนุ่มร่างสูงขมวดคิ้วมองมาที่ฉัน
"เมียฉัน..ใคร?"แล้วเอ่ยถามเสียงเรียบ
"คงจะหลายคนสินะ"
"ฉันไม่เคยให้สถานะเมียกับใคร"เขาพูดด้วยสีหน้าราวกับเป็นเรื่องปกติ
"เหอะ"ฉันกลั้วหัวเราะออกมาเบา ๆ
"เธอแน่ใจนะว่าไปกับยัยนั่นแค่สองคน"เทมโปถามแล้วจ้องมองฉันอย่างจับผิด
"กะ ก็ใช่นะสิแกนไปกับหว่าหวาแค่สองคน"ถ้าเขารู้ว่าฉันไปเจอกับภิสิงห์ต้องเป็นเรื่องแน่ แล้วอยู่ ๆ เสียงโทรศัพท์ฉันก็ดังขึ้น
"ใครโทรมาทำไมไม่รับ"สิ้นเสียงฉันก็หยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋า จึงรู้ว่าเป็นหว่าหวาที่โทรเข้ามา
"แกนขอไปรับโทรศัพท์ก่อนนะ"พูดจบ กำลังจะเดินไปที่ระเบียงก็ถูกมือหนาคว้าไว้
"คุยตรงนี้ เปิดลำโพงด้วย"เจ้าของใบหน้าหล่อเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบ แต่หัวใจด้วยน้อยกลับเต้นแรง
"ระ รับตรงนี้?"
"อือ ฉันอยากรู้ว่าพวกเธอคุยอะไรกัน"
"แต่นี้มันเรื่องส่วนคัวนะ ทำไมต้องอยากรู้ด้วย"ฉันท้วงขึ้นทันที
"ทำไมฉันจะรู้ไม่ได้ กดรับเดี๋ยวนี้!"ถ้าฉันกดรับแล้วคุยกับหว่าหวาต่อหน้าเขามันก็เสี่ยงที่เพื่อนใหม่ของฉันจะพูดถึงพี่ชายของเธอ จึงเลือกที่จะไม่รับ
"อยากจะทำอะไรก็รีบทำสิ"ฉันเก็บโทรศัพท์ใส่ในกระเป๋าทั้ง ๆ ที่มันยังดังอยู่
"ออร์แกน! ฉันสั่งให้เธอรับโทรศัพท์"ฉันสะดุ้งโหย่ง แล้วหยิบโทรศัพท์ออกมาด้วยอาการมือสั่น
"เปิดลำโพงด้วย"นั้นเป็นคำสั่งของชายหนุ่มผมสีทองก่อนที่จะนั่งลงบนโซฟาแล้วไขว้ห้าง
"ฮาโหล"
(แกนวันนี้ไม่เข้าเรียนเหรอ)เสียงหวานดังเข้ามาในสาย
"เอ่อ..."
(เป็นอะไรหรือเปล่า เมื่อคืนพี่สิงห์ไปส่งถึงบ้านเลยไหม)ตุ่บ ตุ่บ ใจฉันเต้นแรงจนไม่เป็นจังหวะ พรึ่บ! แล้วโทรศัพท์ฉันก็โดนกระชากออกจากมือ
"เธอว่ายังไงนะ พี่สิงห์ที่เธอพูดมันเป็นใคร"เทมโปพูดในสายด้วยน้ำเสียงทุ้มเข้มสีหน้าโกรธ
(นายเป็นใคร...เทมโป?)
"บอกฉันมาว่าเมื่อวานเธอพาออร์แกนไปเจอใครมา"ชายหนุ่มผมสีทองขบกรามแน่นแล้วมองมาที่ฉัน
(แล้วมันเกี่ยวอะไรกับนายด้วย ให้แกนมาคุยกับฉันเดี๋ยวนี้นะ)ทางนั้นก็ดูท่าไม่ยอม
"ไอ้ภิสิงห์ใช่ไหม"เทมโปกัดฟันพูดสายตาดุดันยังคงจ้องมาที่ฉัน
(ถ้าใช่แล้วจะทำไม)พอคนในสายพูดจบ เพล๊งง! เทมโปก็ทำในสิ่งที่คาดไม่ถึง เขาปาโทรศัพท์ฉันลงบนพื้นอย่างแรงจนหน้าจแตกกระจาย
"ทะ เทมโป"หมั่บ!
"มานี้!"เทมโปกระชากฉันไปที่ห้องนอนด้วยอาการโกรธเคือง และพอเข้ามาก็เหวี่ยงฉันลงไปกองบนเตียง
"โอ๊ยยย"
"กล้าดียังไงถึงแอบไปเจอมัน"ชายหน้าสูงโน้มหน้าลงมาแล้วขบกรามถามฉัน
"แกนจะไปเจอกับเขามันไม่เกี่ยวกับเทมโป ทำไมต้องมาห้ามกันด้วย"ฉันรวบรวมแรงทั้งหมดผลักหน้าอกแกร่งแล้วพยายามจะหยัดกายลุกขึ้น
"ทำไมจะไม่เกี่ยวในเมื่อเธอยังคงต้องนอนแบให้ฉันเอา"พูดจบก็ผลักฉันนอนราบลงที่เดิมก่อนจะหันไปเปิดลิ้นชักที่หัวเตียงแล้วหยิบบางอย่างออกมา
"ทะ เทมโปจะทำอะไร"ฉันเห็นของในมือเขาก็รู้สึกกลัวจนตัวสั่น
"กล้าขัดคำสั่งฉันนักใช่ไหม"พอสิ้นเสียง ชายหนุ่มผมสีทองก็รวบมือทั้งสองของฉันไว้แล้วมัดด้วยเชือกสีแดง
"ปล่อยนะเทมโป แกนบอกให้ปล่อย"ฉันตะโกนบอกเขาแต่เปล่าประโยชน์เพราะเทมโปไม่สนใจจะฟังฉันเลยจนกระทั่งเขามัดมือฉันเสร็จ แล้วพลิกร่างฉันนอนคว่ำจากนั้นก็หยิบแซ่ฟาดลงที่แผ่นหลัง
"กรี๊ดดดดด เทมโป"ฉันกรีดร้องด้วยความเจ็บ เพี้ยะ!
"จำไว้ถ้าขัดคำสั่งฉันเธอจะต้องเจ็บตัวแบบนี้"เพี้ยะ!
"กรี๊ดดด พอเถอะเทมโป แกนเจ็บ"ฉันร้องขอด้วยน้ำตานองหน้า ทำไมชายหนุ่มที่ฉันหลงรักถึงได้ใจร้ายกับฉันแบบนี้
"จะจำไหม"เพี้ยะ!
"จำแล้ว ๆ แกนจะไม่ขัดคำสั่งเทมโปอีกแล้ว"ตอนนี้ฉันเจ็บมากอะไรที่ยอมได้ก็คงต้องยอมไปก่อน พรึ่บ! เสียงแซ่ร่วงหล่นที่พื้น ฉันถอนหายใจออกมาอย่างโล่ง แกร๊ก นั่นเป็นเสียงปลดเข็มขัดของชายหนุ่มที่อยู่ข้างเตียง ไม่นานนักฉันก็รู้สึกเตียงยวบลง จากนั้นมือหนาก็จัดท่าทางของฉันให้เป็นท่าคลานเข่า ก่อนที่จะใช้นิ้วร้ายเกี่ยวชั้นในฉันออกแล้วถกกระโปรงขึ้น พรวด! ท่อนเอ็นขนาดใหญ่สอดใส่เข้ามาที่ร่องรักฉันจนสุดลำในคราเดียว
"อะ อ๊ะ"เอวหนากระแทกกระทั้นเข้ามาจนร่างฉันสั่นคลอน ปั่ก ปั่ก ปั่ก
"เธอจะต้องอยู่ในโอวาทของฉันจนกว่าจะเรียนจบจำไว้"ปั่ก ปั่ก สะโพกสอบโยกเข้ามาอย่างแรงแบบเน้น ๆ ในขณะที่ฉันกัดฟัน กำผ้ามือไว้แน่นด้วยความแค้นใจ
ไม่รู้ว่านานแค่ไหนกิจกรรมบนเตียงจะจบสิ้น ฉันทั้งเจ็บปวดที่กายและที่ใจมาก เทมโปยังคงทำกับฉันไม่หยุดจนกระทั่งฉันอดกับความเจ็บปวดนั้นไม่ไหวจึงจอดับไป
"โอ๊ย."ฉันรู้สึกตัวอีกทีเพราะเจ็บจี๊ดที่หลัง
"อยู่เฉย ๆ ฉันกำลังทายาให้"เสียงทุ้มดังขึ้นจากด้านหลัง
"มันแสบ"ฉันพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
"ใกล้จะเสร็จแล้วทนหน่อย"ไม่นานนักเทมโปก็ทายาให้ฉันเสร็จ
"ลุกขึ้นมากินข้าวจะได้กินยา"
"ทำไมนายต้องทำร้ายกันด้วย"ฉันเอ่ยถามอย่างน้อยใจ
"...."เทมโปเงียบไม่ตอบ
"แกนไปทำอะไรให้เทมโปนักหนา..."ฉันเบือนหน้าไปลอบหายใจ
"....แค่แกนรักเทมโปถึงต้องทำร้ายกันขนาดนี้เลยเหรอ"ฉันพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเทา
ตอนจบ"เทมโป..." ใบหน้าหล่อคมคายหันมาจ้องที่ฉัน"...แกนจะไม่เป็นแค่เพื่อนอีกต่อไปใช่ไหม" เทมโปคลี่ยิ้มออกมาหลังจากที่ฉันพูดจบ"เธอไม่ใช่แค่เพื่อน..แต่เธอเป็นทุกสิ่งทุกอย่างสำหรับฉันแล้ว.." มือหนายกมาลูบผมฉันอย่างอ่อนโยน"..ถ้าฉันขาดเธอ ฉันขาดใจ" ปลั่ก! นั่นเป็นเสียงที่ฉันกำมือทุบไปที่อกของเขา"คนบ้า!""ใช่ ก่อนหน้าฉันเคยบ้ามาแล้ว ตั้งแต่เธอหนีไป" เทมโปพูดสวนกลับ ก่อนที่จะพ่นลมหายใจออกมาอย่างหนัก"มันคงเป็นเวรกรรมที่ฉันเคยทำกับเธอ รู้ไหมว่าฉันทรมานจนดูน่าสมเพชเอามาก ๆ เลย""ออร์แกน...ตอนที่เธอหายไปฉันยอมทิ้งทุกอย่างเพื่อตามหาเธอ""ทะ เทมโป.." ฉันเอ่ยน้ำเสียงสั่น ๆ แต่ภายในใจมันรู้สึกพองโต"ถ้าเธอไม่หนีไป วันนี้ฉันคงไม่รู้ว่าฉันรักเธอมากแค่ไหน..." คนร่างสูงโน้มหน้ามาจูบที่หน้าผากฉัน"...ขอบคุณที่สอนบทเรียนให้กับฉัน และขอบคุณที่กลับมาไม่ว่าเหตุผลที่เธอกลับมาไม่ใช่เพราะฉัน""..." เทมโปคลี่ยิ้มด้วยแววตาที่มีความสุข ใบหน้าสดใส"ถึงแม้เธอจะไม่ได้กลับมาเพราะฉัน แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้ฉันได้เจอเธอ ได้ขอโทษและได้บอกความในใจของฉันให้เธอฟัง""เทมโป..แกนก็ไม่เคยลืมนายเลยนะ" ไม่รู้อะไรดลใจ ทำให้ฉัน
จากเพื่อนสู่ผัว"กวิน กรัณย์ ออร์แกน" ฉันและลูกแฝดต่างพากันหันไปที่ต้นเสียง ซึ่งเป็นคนป่วยที่นอนอยู่เอ่ยขึ้นมา เขาลืมตามองมาที่พวกฉันแล้วค่อย ๆ หยัดกายลุกขึ้น"พ่อตื่นแล้ว" กวินบอกกับคนเป็นน้อง ก่อนจะลุกจากโซฟาเดินไปที่เตียง พร้อม ๆ กับฉันที่รีบไปประคองเขาลุกนั่ง.เทมโปคลี่ยิ้มด้วยแววตาที่มีความสุข ขณะที่ลูกแฝดขึ้นบนเก้าอี้แล้วเอ่ยถามอาการพ่อตัวเองทันที"พ่อเจ็บตรงไหนฮับ" แฝดพี่พูดแล้วใช้สายตามองไปที่เรือนร่างคนเป็นพ่อราวกับหาอะไร"พ่อรีบหายนะครับ จะได้มาเล่นกัน...." กรัณย์เอ่ยแล้วหันไปพูดกับกวิน"...ให้พ่อเป็นผู้ร้ายนะพวกเราเป็นตำรวจ""หึหึ" เทมโปหัวเราะออกมาแล้วเอื้อมไปลูบหัวลูกแฝดคนโต แล้วกำลังจะสลับไปลูบหัวคนน้องแต่เขากลับชะงัก คงจะจำวันนั้นได้วันที่กรัณย์ไม่ยอมให้เขาลูบเพราะกลัวผมเสียทรง"พ่อเป็นพ่อของกรัณย์ พ่อลูบได้ครับ" เด็กน้อยแฝดน้องพูดพร้อมกับยื่นหัวให้พ่อของเขาลูบ สร้างรอยยิ้มปนน้ำตาที่คลอเบ้าให้คนเป็นพ่อทันที"วันนี้เธอกับลูกอยู่กับฉันนะ" เทมโปหันมาพูดกับฉัน"อืม" ฉันตอบกลับสั้น ๆ แล้วคลี่ยิ้มให้"ขะ ขอบใจนะ" เทมโปกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่น ๆ"รับหายนะ..แกนอยากให้เทมโปกลับมาใ
ยังไม่ให้โอกาส"แล้วเด็กฝาแฝดนั้นเป็นลูกใคร"ฉันคลี่ยิ้มหวานแล้วดึงมือหนาเดินเข้ามาด้านในห้อง"รอตรงนี้นะ เดี๋ยวแกนจะไปพากวิน กรัณย์เข้ามา" เทมโปทำสีหน้ามึนงงปนสงสัย แต่ก็ทำตามที่ฉันสั่ง เขาเลือกที่จะเดินไปนั่งที่โซฟา จากนั้นฉันก็ออกมาจากห้องก็เห็นทุกคนต่างนั่งอยู่กันเป็นกลุ่ม"เทมโปเป็นยังบ้าง ออร์แกน" คุณน้าเรอาลุกขึ้นแล้วรีบเดินมาถามด้วยใบหน้าที่ยังมีความกังวล"ตอนนี้เทมโปโอเคขึ้นแล้วค่ะ..." ว่าจบ ฉันก็หันไปที่ลูกแฝดที่มีผู้ใหญ่ล้อมรอบอย่างอบอุ่น"...แกนขอพากวิน กรัณย์ไปหาพ่อของเขาก่อนนะคะ" คุณน้าเรอาคลี่ยิ้มแล้วเอื้อมมากุมมือของฉัน"ออร์แกน น้าขอโทษแทนเทมโปด้วยนะ..." เธอลอบหายใจเบา ๆ ก่อนที่จะเอ่ยต่อ"...ไม่คิดเลยว่าฉันจะมีหลานฝาแฝดที่น่ารักแบบนี้ ขอบคุณเธอจริง ๆ ที่เลี้ยงดูที่เกิดมาจากเทมโปมาอย่างดี" คุณน้าเรอาเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่น ๆ น้ำตาคลอเบ้า"กวิน กรัณย์ เป็นยิ่งกว่าชีวิตยังไง แกนก็ต้องเลี้ยงดูเขาให้ดีที่สุดค่ะ" คุณน้าเรอาผงกหัวรับแล้วหันไปที่ลูกชายฝาแฝดของฉัน"กวิน กรัณย์ มากับแม่" ฉันเอ่ยเรียก ทั้งคู่ก็ลุกจากเก้าอี้แล้วเดินยิ้มใบหน้าสดใสมาที่ฉัน"ลุงคนนั้นเป็นยังไงบ้างฮับ
ขอร้องOrgan"ทำไมคุณทอยคิดว่าเราสองคนแต่งงานกัน" ภิสิงห์เอ่ยถามขึ้นขณะที่ตอนนี้พวกเราต่างพากันธุระเสร็จจนกลับมาที่บ้านแล้ว ส่วนสองแฝดก็นอนหลับด้วยความเพลีย"หว่าหวาเป็นคนโกหกเองค่ะ" คนเป็นพี่หันไปที่น้องสาวของตนด้วยสีหน้าสงสัย"คือวันนั้นพวกเราเจอกับเทมโป...." หว่าหวาหยุดพูดแล้วหันมาที่ฉัน"...นายนั่นคอยเซ้าซี้แกนไม่เลิก หว่าหวาก็เลยโกหกไปว่า..""พี่กับแกนแต่งงานแล้วกวิน กรัณย์คือเป็นลูกพี่?" ภิสิงห์แทรกพูดขึ้นหว่าหวาก็ผงกหัวรับสีหน้ารู้สึกผิด"อย่าโกรธหว่าหวาเลยค่ะ แกนเองก็ไม่ทักท้วงปล่อยเลยตามเลย" ฉันพูดจบ หว่าหวาก็หันมาฉีกยิ้มให้ ขณะที่ภิสิงห์มีสีหน้าดูเครียด ราวกับมีเรื่องบางอย่างในใจ"พี่สิงห์โกรธหรอกคะ แกนขอโทษ""เปล่า พี่ไม่ได้โกรธ.." ว่าจบ ภิสิงห์ก็ลอบหายใจออกมาเบา ๆ"...ไม่นานทางนั้นก็ต้องรู้ว่าเราไม่ได้แต่งงานกันจริง ๆ""...." ฉันไม่พูดอะไรได้แต่ก้มหน้าเม้มปากทั้งสองเข้ากันแน่น ภายในใจก็คิดไว้อยู่เหมือนกัน ยิ่งวันนี้ที่เจอกับพี่ทอย เขาดูมีสีหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย ฉันคิดว่าเขาต้องไปสืบเรื่องแต่งงานที่หว่าหวากุขึ้นมาแน่"แกน..." ฉันเงยหน้าขึ้นมองไปยังพี่ชายเพื่อน"...พี่ได้ข
กลัววันนี้ฉัน หว่าหวา และภิสิงห์ต่างพากันไปดูสถานที่จัดงานแสดงเครื่องประดับ แน่นอนว่าสองแสบจะต้องไปด้วย กวิน และกรัณย์ค่อนข้างที่จะติดฉัน เพราะฉันดูแลทั้งสองคนอย่างใกล้ชิดตั้งแต่เขาเกิดมา ให้ความรัก เป็นทั้งพ่อและแม่ให้กับพวกเขา"แม่ฮับ..." บนรถของภิสิงห์ที่อาสาเป็นคนขับพาไปยังสถานที่จัดงาน อยู่ ๆ กวินก็เอ่ยขึ้น"...พ่ออยู่ไหนเหรอครับ" คำถามของลูกชายที่เป็นแฝดพี่ทำให้หัวใจฉันรู้สึกสั่น ๆ"นั่นสิครับ พ่อไปไหนเหรอ" ฉันละสายตาหันไปที่กรัณย์ที่พูดเสริมขึ้นมา หว่าหวาที่นั่งอยู่เบาะหน้าข้างคนขับ พร้อมกับภิสิงห์หันมาสบตาฉันทันที"เอ่อ...ทำไมอยู่ดี ๆ ถามขึ้นมาล่ะครับ""ก็ลุงคนนั้นถามผมยังไม่ได้ตอบเขาเลย" ลุงคนนั้น ที่กวินเอ่ยถึงก็คือเทมโป พ่อของพวกเขานั้นแหละ"พ่อทำไมไม่มาหาพวกเราเลยล่ะครับ" กรัณย์เอ่ยพร้อมกับสีหน้าเศร้า"...." ฉันนิ่งมองดูทั้งสองด้วยความสงสาร"เด็ก ๆ เดี๋ยวแวะกินไอศครีมคลายร้อนกันนะ" ภิสิงห์เอ่ยขึ้นเพื่อทำลายบรรยากาศเศร้า และดูเครียด"เย้ / เย้" พอได้ยินคำว่าไอศครีม เด็ก ๆ ก็ปรับเปลี่ยนสีหน้าดีใจทันทีจากนั้นภิสิงห์ก็ขับรถเข้าไปในห้างสรรพสินค้า เพื่อพาเด็ก ๆไปทานไอศครีมระห
พ่อของเด็กเป็นใครฉันหยุดชะงักแล้วหันไปมองใบหน้าหล่อ นิ่ง ๆ เขาก้าวขายาวเดินมายืนตรงหน้าฉันแล้วหลุบตามองไปที่กวิน และกรัณย์สลับกัน ก่อนจะย่อตัวลงคุยกับกวิน แฝดพี่ที่ฉันจับมืออยู่"พ่ออยู่ไหนครับ" เทมโปเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน"...." กวินไม่ตอบ แล้วเงยหน้าขึ้นมองฉันด้วยสีหน้ามึนงง แฝงสงสัย"คุณเป็นใครเหรอครับ" กรัณย์แฝดน้องที่หว่าหวาจับอยู่เอ่ยขึ้น ทำให้เทมโปละสายตาหันไปมองเด็กน้อย"ลุงเป็น...." เขาหยุดพูดแล้วช้อนตาขึ้นมองมาที่ฉัน ก่อนที่จะตอบกลับกรัณย์"...ลุงเป็น พะ เพื่อนแม่เราน่ะ" เทมโปพูดด้วยน้ำเสียงสั่น ๆ สีหน้าเจ็บปวด แล้วเอื้อมมือไปลูบที่หัวกรัณย์ แต่ทว่า"อย่าลูบ เดี๋ยวผมเสียทรง" แฝดคนน้องผละหัวหนีออก ทำให้มือหนาชะงักแล้วหัวเราะปนเศร้าเบา ๆ"เหอะ" ไม่รู้ซะแล้วว่ากรัณย์ห่วงหล่อขนาดไหน"แล้วพ่อไปไหนเหรอครับ" ในเมื่อถามกวินแล้วไม่ได้คำตอบ เขาจึงเลือกถามแฝดน้องแทน"...." กรัณย์ ส่ายหัวแล้วก้มหน้าลงด้วยใบหน้าเศร้า ทำเอาหัวใจฉันวูบไหวสงสารลูก"พอสักทีเถอะ..เลิกยุ่งเรื่องของแกนได้แล้ว" พูดจบ ฉันก็พากวิน และหว่าหวาจูงมือกรัณย์เดินหนีมา"ออร์แกน...ออร์แกน""อย่าตามมานะ!" ฉันหันไปตวา