เห็นดี
TomPo:ถ้าไม่อยากตายคาเตียงก็อย่าตอบตกลง!
พออ่านจบฉันก็เงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่มที่ส่งข้อความมา ซึ่งเขานั่งอยู่ตรงหน้า ในขณะที่เขาเองก็จ้องมาที่ฉันด้วยสายตาดุดันสีหน้าตึงเรียบ
"เมื่อกี้พี่พูดว่าอะไรคะ"ฉันเลือกที่จะละสายตาจากเขาอย่างไม่ใส่ใจแล้วหันไปพูดกับภิสิงห์
"เราเป็นแฟนกันไหม"จริง ๆ แล้วฉันไม่ได้ลืมคำพูดที่ภิสิงห์พูดก่อนหน้าหรอก แต่แสร้งถามเพื่อให้เขาเน้นย้ำอีกรอบ
"จะกินไหมข้าว..."ฉันยังไม่ได้ตอบอะไรก็มีเสียงแทรกขึ้นมาทำให้ทุกคนต่างจ้องมองไปที่เขา
"....ถ้าจะขอเป็นแฟนกันก็ไม่ขอกันที่อื่น รำคาญ!"เขาสบถคำสุดท้ายด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์ก่อนจะจิ้มชิ้นปลาตัวใหญ่เข้าปาก
"หึ"ภิสิงห์แค่นหัวเราะในลำคอแล้วส่ายหน้า แล้วตักอาหารมาใส่ในจานฉัน
"ทานเยอะ ๆ นะ"เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่นุ่มละมุน
"ขอบคุณค่ะ"ภิสิงห์ตักอาหารอีกรอบเพื่อไปใส่ในจานของหว่าหวาที่นั่งนิ่งไม่ได้พูดอะไร แต่ทว่าเธอกลับมีสีหน้าที่ยิ้มกรุ่มกริ่ม
"ขอบคุณค่ะพี่ชาย"หว่าหวากล่าวด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ภิสิงห็ยิ้มรับก่อนที่จะหันมาพูดกับฉัน
"พี่รอคำตอบนะ"เขายังคงต้องการคำตอบเรื่องขอเป็นแฟนกับฉัน
"อะ แฮ่ม!"ฉันได้แค่ยิ้มแล้วยังไม่พูดอะไร เสียงกระแอมของเทมโปก็ดังขัดอีก
"เทมโปมีอะไรติดคอเหรอ"หว่าหวาหันไปถามชายหนุ่มผมทองที่นั่งข้าง ๆ
"เปล่า"เขาตอบกลับสั้น ๆ ก่อนจะยกแก้วน้ำขึ้นดื่ม
"รีบกินเถอะ จะได้รีบไปทำงานต่อ"เขาบอกเสียงเรียบแล้วตักข้าวเข้าปาก
หลังจากทานมื้อกลางวันเสร็จเรียบร้อย พวกเราก็ออกมาจากร้านไปยังที่จอดรถ
"ออร์แกนไปนั่งรถฉัน"เทมโปหยุดเดินแล้วหันหลังมาพูดกับฉันที่เดินเคียงคู่ภิสิงห์
"....."ฉันนิ่งแล้วมองไปที่ภิสิงห์
"เธอจะให้ไอ้...คุณภิสิงห์เสียเวลาไปส่งทำไม"เขาจึงแทรกพูดขึ้นก่อนที่ใครจะแย่งพูด
"เอ่อ..."
"ไปกับฉัน!"เขาตวาดเสียงแข็งกร้าว
"เฮ้อ.."ภิสิงห์พ่นลมหายใจก่อนจะพูดขึ้น
"...แกนไปกับเทมโปเถอะ"ว่าจบเขาก็เดินไปที่รถ ในขณะที่ชายหนุ่มผมสีทองแสยะยิ้มอย่างผู้ชนะ
"หึ"หว่าหวาที่ยืนอยู่ก็ได้แต่ส่ายหน้า
"ไปครับหว่าหวา"เทมโปพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงนุ่มต่างจากฉันเลย ทางฝั่งหญิงสาวก็คลี่ยิ้มหวานให้ก่อนจะขึ้นรถ ส่วนฉันก็นั่งเบาะหลังคนขับ จากนั้นเทมโปก่อนขับรถออกมาจากร้านอาหารไปยังบริษัท
"เทมโปเข้าไปก่อนนะ หว่าหวาขอคุยกับแกนนิดหน่อย"พอมาถึงหน้าห้องทำงานผู้บริหารหว่าหวาก็พูดขึ้นขณะที่เทมโปกำลังเปิดประตู
"คุยเรื่อง?"ชายหนุ่มผมสีทองเลิกคิ้วถามด้วยสีหน้าสงสัย
"เรื่องผู้หญิง ๆ น่ะ"หว่าหวาตอบกลับแล้วฉีกยิ้มกว้าง.
"อืม แล้วรีบเข้ามานะครับ"
"โอเค"สิ้นเสียงเทมโปก็เข้าไปในห้อง
"หว่าหวามีเรื่องอะไรจะคุยกับแกนเหรอ"เมื่อเห็นว่าเทมโปเข้าไปแล้วฉันจึงเอ่ยถามทันที
"คือ..พี่สิงห์อยากจะเลี้ยงฉลองที่เรามาฝึกงานวันแรกหน่ะ..."หญิงสาวใบหน้าสวยพูดพร้อมกับยิ้มหวาน
"..แกนต้องไปนะ"แล้วเอื้อมมือมาสะกิดแขนฉัน
"อืม แกนไป"ฉันตอบกลับทันที โดยที่ไม่คิดเกรงกลัวเทมโป ต่อไปนี้ฉันจะไม่ยอม ไม่ฟัง ไม่ทำตามความต้องการของคนเลวอีกแล้ว ใช่ เขาเลว!
"เย้!"หว่าหวาเอ่ยออกมาอย่างดีใจ
"...."ฉันยิ้มหวานให้กับเพื่อนที่น่ารัก
จากนั้นหว่าหวาก็ขอตัวเข้าไปในห้อง ส่วนฉันก็ทำงานที่ค้างไว้ทันที
จนกระทั่งใกล้เวลาเลิกงาน เสียงฝีเท้าหนักก็ดังเข้ามา ทำให้ฉันละสายตาจากหน้าจอคอมหันไปดูว่าเป็นใคร
"พ่อ"ฉันเอ่ยขึ้นด้วยความดีใจ. ท่านก็คลี่ยิ้มให้
"วันนี้พ่อยุ่งทั้งวันไม่มีเวลามาหาลูกเลย"ท่านเอ่ยพร้อมเอามือมาลูบหัวฉัน
"ไม่เป็นไรค่ะ"
"พอทำได้ไหม"พ่อถามแล้วมองไปที่หน้าจอคอม
"ทำได้อยู่ค่ะ"ฉันตอบกลับแล้วคลี่ยิ้มกว้างตาหยี
"นั้นสินะ ลูกสาวพ่อเก่งอยู่แล้ว"
"คิก คิก"ฉันหัวเราะชอบใจที่พ่อยอฉัน
"ขับรถมาใช่ไหม"ท่านเอ่ยถามเพราะไม่รู้ว่าเมื่อเช้าภิสิงห์มารับฉันที่บ้านตอนที่พ่อออกไปบริษัทก่อน
"ไม่ได้ขับมาค่ะ เมื่อเช้าพี่สิงห์ไปรับ"พ่อผงกหัวรับ ก่อนที่จะพูดขึ้น
"แล้วจะกลับพร้อมพ่อเลยไหม"ฉันยกแขนดูนาฬิกาที่ข้อมือสลับกับประตูห้องผู้บริหาร
"พ่อกลับไปพักเถอะค่ะ...แกนจะกลับกับพี่สิงห์เพราะเขาบอกว่าจะมารับ"
"แกนรักพี่เขาหรือเปล่า"พ่อเอ่ยถามแบบยิ้ม ๆ ฉันรีบสั่นหัวพรืดใหญ่
"แกนเห็นพี่สิงห์เป็นแค่พี่ชายค่ะ"
"แกนมีคนที่รักแล้ว?"สิ้นเสียง ฉันก้มหน้างุดแล้วพูดเบา ๆ ว่า
"มีค่ะ..."แล้วก็ลอบหายใจเบา ๆ
"...แต่เขาไม่ได้รักแกนเขาเห็นแกนเป็นแค่เพื่อน"ใบหน้าหล่อเหลาของเทมโปก็ลอยเข้ามาพร้อมกับคำพูดของเขาที่มันดังในหูว่า
'เธอเป็นได้แค่เพื่อนที่ฉันเก็บไว้เอาเวลาเงี่xนเท่านั้น' มันรู้สึกเจ็บจี๊ดไปทั้งใจ
"ใครกันนะที่ตาบอดมองไม่เห็นความสวยของลูกสาวพ่อ"พ่อพูดเชิงหยอกล้อเพื่อให้ฉันผ่อนคลาย
"...."ฉันเงยหน้าขึ้นแล้วยิ้มหวานให้ท่าน
ระหว่างที่เราสองพ่อลูกคุยกันอยู่นั้น เสียงฝีเท้าหนักอีกคู่ก็เดินเข้ามา
"พี่ทอย"ใช่แล้ว เขาคือรองประธานบริษัท หรือพี่ชายต่างมารดาของเทมโปนั้นเอง
"สวัสดีครับคุณอา"
"สวัสดีครับคุณทอย"สองหนุ่มต่างวัยทักทายกันอย่างสุภาพ
"มาให้กำลังใจลูกสาวเหรอครับ"พี่ทอยเอ่ยแซวพ่อแล้วคลี่ยิ้มให้ฉัน
"เหอะ ๆ"พ่อได้แต่กลั้วหัวเราะ
"ผมขอตัวก่อนนะครับ"
"เชิญครับ ๆ"พ่อผายมือราวกับหลบทางให้ท่านรองประธาน
"...."เขาคลี่ยิ้มแล้วเปิดประตูเข้าไปในห้อง
"งั้นพ่อกลับก่อนนะ"เมื่อเห็นท่านรองประธานเข้าไปแล้วพ่อก็พูดขึ้น
"ค่ะ...."ฉันขานรับแล้วดึงแขนพ่อมากอดแล้วทำท่าออดอ้อน
"...เอ่อวันนี้แกนอาจจะกลับดึกนะคะ"
"จะหนีเที่ยวใช่ไหม"พ่อพูดแล้วเอื้อมมือมาบีบจมูกฉันเบา ๆ
"ไม่ได้หนีเที่ยว...พอดีว่าพี่สิงห์จะเลี้ยงฉลองที่มาฝึกงานวันแรกน่ะค่ะ"
"แค่สองคน?"
"มีน้องสาวเขาด้วย หว่าหวาไงค่ะที่แกนเคยเล่าให้ฟังบ่อย ๆ"
"อืม"พ่อพยักหน้ารับรู้
"อย่าดึกมากนะ"ฉันรีบส่ายหัวทันที
"ไม่ดึกหรอกค่ะเพราะต้องตื่นเช้ามาฝึกงานไงคะ"
"โอเค งั้นพ่อกลับก่อนนะ"
"ค่ะ..ขับรถดี ๆ นะคะ"ฉันนั่งมองแผ่นหลังพ่อตัวเองแล้วคลี่ยิ้มอย่างมีความสุขที่ได้เกิดเป็นลูกท่าน
แอ๊ดดดดด เสียงประตูห้องเปิดออกมาพร้อมกับร่างชายหนุ่มสองคน
"ลูกค้าท่านนี้ค่อนข้างเรื่องมาก จะพูดอะไรก็พูดให้มันดี ๆ หน่อยนะ"รองประธานเอ่ยกับน้องชายที่เพิ่งเข้ามาฝึกงานในบริษัท
"รู้แล้วครับ...."เทมโปหยุดยืนตรงที่ฉันนั่ง
"....พี่ไปก่อนเดี๋ยวผมตามไป"
"อืม รีบตามมาล่ะ"คนพี่พูดจบก็ก้าวขายาวเดินไป
"ไปรอฉันที่คอนโด"เทมโปพูดขึ้นหลังจากพี่ชายต่างมารดาเดินลับตาไปแล้ว
"...."ฉันไม่ตอบเลือกที่จะนั่งเงียบทำหูทวนลม
"ถ้าฉันกลับไปแล้วไม่เจอเธอ เห็นดีแน่"ว่าจบ ชายหนุ่มผมสีทองก็เอามือล้วงกระเป๋าแล้วก็เดินไป
"คนเลว"ฉันแอบด่าเขาเบา ๆ ด้วยความหมั่นไส้
"แกน ๆ"ประตูเปิดออกมาพร้อมกับเจ้าของเสียงหวานที่เดินเข้ามา
"เราไปกันเถอะ พี่สิงห์ใกล้จะถึงแล้ว"
"โอเค แกนขอเก็บของก่อน"
หลังจากเก็บของปิดคอมพิวเตอร์ตรวจดูความเรียบร้อยแล้ว ฉันกับหว่าหวาก็เดินไปที่ลิฟต์อย่างอารมณ์ดี
อีกด้าน
เทมโปขับรถตามพี่ชายต่างมารดาไปคุยงานกับลูกค้าที่นัดไว้ ระหว่างสายตาคมเหลือบไปเห็นรถยนต์คันหรูที่คุ้นตาขับมาอีกเลนในเส้นทางที่จะไปยังบริษัทของเขา
"ไอ้เหี้ยสิงห์"เขาสบถออกมาอย่างไม่สบอารมณ์ที่เห็นคนที่ไม่ชอบ เขาเกิดนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้จึงคว้าโทรศัพท์กดหาใครบางคนทันที
ครืนนนน ครืนนนน
(สวัสดีครับ)ไม่นานปลายสายก็กดรับแล้วเอ่ยขึ้น
"สวัสดีครับคุณอา"
(มีอะไรหรือเปล่าครับคุณเทมโป)ชายวัยกลางคนที่อยู่ในสายเอ่ยถาม
"คือ..แกนได้บอกหรือเปล่าครับว่าจะกลับบ้านตอนไหน"
(....)ปลายสายเงียบ
"ผมมีงานที่จะให้แกนทำน่ะครับ"
(อ๋อ..วันนี้ยัยแกนบอกว่าจะกลับดึกหน่อยเห็นว่าภิสิงห์จะพาไปเลี้ยงฉลองน่ะครับ)พอได้ฟังแบบนั้นชายหนุ่มก็ขบกราม มือกำพวงมาลัยรถแน่นด้วยความโกรธ
"ขอบคุณครับ"สิ้นเสียง เขาก็รีบกดวางสายแล้วกดเบอร์หาอีกคน
ครืนนนนน ครืนนนนนน ครืนนนน
การที่ปลายสายไม่รับทำให้เขายิ่งโกรธมาก
"โธ่เว้ย! ออร์แกนได้เห็นดีกันแน่"
ตอนจบ"เทมโป..." ใบหน้าหล่อคมคายหันมาจ้องที่ฉัน"...แกนจะไม่เป็นแค่เพื่อนอีกต่อไปใช่ไหม" เทมโปคลี่ยิ้มออกมาหลังจากที่ฉันพูดจบ"เธอไม่ใช่แค่เพื่อน..แต่เธอเป็นทุกสิ่งทุกอย่างสำหรับฉันแล้ว.." มือหนายกมาลูบผมฉันอย่างอ่อนโยน"..ถ้าฉันขาดเธอ ฉันขาดใจ" ปลั่ก! นั่นเป็นเสียงที่ฉันกำมือทุบไปที่อกของเขา"คนบ้า!""ใช่ ก่อนหน้าฉันเคยบ้ามาแล้ว ตั้งแต่เธอหนีไป" เทมโปพูดสวนกลับ ก่อนที่จะพ่นลมหายใจออกมาอย่างหนัก"มันคงเป็นเวรกรรมที่ฉันเคยทำกับเธอ รู้ไหมว่าฉันทรมานจนดูน่าสมเพชเอามาก ๆ เลย""ออร์แกน...ตอนที่เธอหายไปฉันยอมทิ้งทุกอย่างเพื่อตามหาเธอ""ทะ เทมโป.." ฉันเอ่ยน้ำเสียงสั่น ๆ แต่ภายในใจมันรู้สึกพองโต"ถ้าเธอไม่หนีไป วันนี้ฉันคงไม่รู้ว่าฉันรักเธอมากแค่ไหน..." คนร่างสูงโน้มหน้ามาจูบที่หน้าผากฉัน"...ขอบคุณที่สอนบทเรียนให้กับฉัน และขอบคุณที่กลับมาไม่ว่าเหตุผลที่เธอกลับมาไม่ใช่เพราะฉัน""..." เทมโปคลี่ยิ้มด้วยแววตาที่มีความสุข ใบหน้าสดใส"ถึงแม้เธอจะไม่ได้กลับมาเพราะฉัน แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้ฉันได้เจอเธอ ได้ขอโทษและได้บอกความในใจของฉันให้เธอฟัง""เทมโป..แกนก็ไม่เคยลืมนายเลยนะ" ไม่รู้อะไรดลใจ ทำให้ฉัน
จากเพื่อนสู่ผัว"กวิน กรัณย์ ออร์แกน" ฉันและลูกแฝดต่างพากันหันไปที่ต้นเสียง ซึ่งเป็นคนป่วยที่นอนอยู่เอ่ยขึ้นมา เขาลืมตามองมาที่พวกฉันแล้วค่อย ๆ หยัดกายลุกขึ้น"พ่อตื่นแล้ว" กวินบอกกับคนเป็นน้อง ก่อนจะลุกจากโซฟาเดินไปที่เตียง พร้อม ๆ กับฉันที่รีบไปประคองเขาลุกนั่ง.เทมโปคลี่ยิ้มด้วยแววตาที่มีความสุข ขณะที่ลูกแฝดขึ้นบนเก้าอี้แล้วเอ่ยถามอาการพ่อตัวเองทันที"พ่อเจ็บตรงไหนฮับ" แฝดพี่พูดแล้วใช้สายตามองไปที่เรือนร่างคนเป็นพ่อราวกับหาอะไร"พ่อรีบหายนะครับ จะได้มาเล่นกัน...." กรัณย์เอ่ยแล้วหันไปพูดกับกวิน"...ให้พ่อเป็นผู้ร้ายนะพวกเราเป็นตำรวจ""หึหึ" เทมโปหัวเราะออกมาแล้วเอื้อมไปลูบหัวลูกแฝดคนโต แล้วกำลังจะสลับไปลูบหัวคนน้องแต่เขากลับชะงัก คงจะจำวันนั้นได้วันที่กรัณย์ไม่ยอมให้เขาลูบเพราะกลัวผมเสียทรง"พ่อเป็นพ่อของกรัณย์ พ่อลูบได้ครับ" เด็กน้อยแฝดน้องพูดพร้อมกับยื่นหัวให้พ่อของเขาลูบ สร้างรอยยิ้มปนน้ำตาที่คลอเบ้าให้คนเป็นพ่อทันที"วันนี้เธอกับลูกอยู่กับฉันนะ" เทมโปหันมาพูดกับฉัน"อืม" ฉันตอบกลับสั้น ๆ แล้วคลี่ยิ้มให้"ขะ ขอบใจนะ" เทมโปกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่น ๆ"รับหายนะ..แกนอยากให้เทมโปกลับมาใ
ยังไม่ให้โอกาส"แล้วเด็กฝาแฝดนั้นเป็นลูกใคร"ฉันคลี่ยิ้มหวานแล้วดึงมือหนาเดินเข้ามาด้านในห้อง"รอตรงนี้นะ เดี๋ยวแกนจะไปพากวิน กรัณย์เข้ามา" เทมโปทำสีหน้ามึนงงปนสงสัย แต่ก็ทำตามที่ฉันสั่ง เขาเลือกที่จะเดินไปนั่งที่โซฟา จากนั้นฉันก็ออกมาจากห้องก็เห็นทุกคนต่างนั่งอยู่กันเป็นกลุ่ม"เทมโปเป็นยังบ้าง ออร์แกน" คุณน้าเรอาลุกขึ้นแล้วรีบเดินมาถามด้วยใบหน้าที่ยังมีความกังวล"ตอนนี้เทมโปโอเคขึ้นแล้วค่ะ..." ว่าจบ ฉันก็หันไปที่ลูกแฝดที่มีผู้ใหญ่ล้อมรอบอย่างอบอุ่น"...แกนขอพากวิน กรัณย์ไปหาพ่อของเขาก่อนนะคะ" คุณน้าเรอาคลี่ยิ้มแล้วเอื้อมมากุมมือของฉัน"ออร์แกน น้าขอโทษแทนเทมโปด้วยนะ..." เธอลอบหายใจเบา ๆ ก่อนที่จะเอ่ยต่อ"...ไม่คิดเลยว่าฉันจะมีหลานฝาแฝดที่น่ารักแบบนี้ ขอบคุณเธอจริง ๆ ที่เลี้ยงดูที่เกิดมาจากเทมโปมาอย่างดี" คุณน้าเรอาเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่น ๆ น้ำตาคลอเบ้า"กวิน กรัณย์ เป็นยิ่งกว่าชีวิตยังไง แกนก็ต้องเลี้ยงดูเขาให้ดีที่สุดค่ะ" คุณน้าเรอาผงกหัวรับแล้วหันไปที่ลูกชายฝาแฝดของฉัน"กวิน กรัณย์ มากับแม่" ฉันเอ่ยเรียก ทั้งคู่ก็ลุกจากเก้าอี้แล้วเดินยิ้มใบหน้าสดใสมาที่ฉัน"ลุงคนนั้นเป็นยังไงบ้างฮับ
ขอร้องOrgan"ทำไมคุณทอยคิดว่าเราสองคนแต่งงานกัน" ภิสิงห์เอ่ยถามขึ้นขณะที่ตอนนี้พวกเราต่างพากันธุระเสร็จจนกลับมาที่บ้านแล้ว ส่วนสองแฝดก็นอนหลับด้วยความเพลีย"หว่าหวาเป็นคนโกหกเองค่ะ" คนเป็นพี่หันไปที่น้องสาวของตนด้วยสีหน้าสงสัย"คือวันนั้นพวกเราเจอกับเทมโป...." หว่าหวาหยุดพูดแล้วหันมาที่ฉัน"...นายนั่นคอยเซ้าซี้แกนไม่เลิก หว่าหวาก็เลยโกหกไปว่า..""พี่กับแกนแต่งงานแล้วกวิน กรัณย์คือเป็นลูกพี่?" ภิสิงห์แทรกพูดขึ้นหว่าหวาก็ผงกหัวรับสีหน้ารู้สึกผิด"อย่าโกรธหว่าหวาเลยค่ะ แกนเองก็ไม่ทักท้วงปล่อยเลยตามเลย" ฉันพูดจบ หว่าหวาก็หันมาฉีกยิ้มให้ ขณะที่ภิสิงห์มีสีหน้าดูเครียด ราวกับมีเรื่องบางอย่างในใจ"พี่สิงห์โกรธหรอกคะ แกนขอโทษ""เปล่า พี่ไม่ได้โกรธ.." ว่าจบ ภิสิงห์ก็ลอบหายใจออกมาเบา ๆ"...ไม่นานทางนั้นก็ต้องรู้ว่าเราไม่ได้แต่งงานกันจริง ๆ""...." ฉันไม่พูดอะไรได้แต่ก้มหน้าเม้มปากทั้งสองเข้ากันแน่น ภายในใจก็คิดไว้อยู่เหมือนกัน ยิ่งวันนี้ที่เจอกับพี่ทอย เขาดูมีสีหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย ฉันคิดว่าเขาต้องไปสืบเรื่องแต่งงานที่หว่าหวากุขึ้นมาแน่"แกน..." ฉันเงยหน้าขึ้นมองไปยังพี่ชายเพื่อน"...พี่ได้ข
กลัววันนี้ฉัน หว่าหวา และภิสิงห์ต่างพากันไปดูสถานที่จัดงานแสดงเครื่องประดับ แน่นอนว่าสองแสบจะต้องไปด้วย กวิน และกรัณย์ค่อนข้างที่จะติดฉัน เพราะฉันดูแลทั้งสองคนอย่างใกล้ชิดตั้งแต่เขาเกิดมา ให้ความรัก เป็นทั้งพ่อและแม่ให้กับพวกเขา"แม่ฮับ..." บนรถของภิสิงห์ที่อาสาเป็นคนขับพาไปยังสถานที่จัดงาน อยู่ ๆ กวินก็เอ่ยขึ้น"...พ่ออยู่ไหนเหรอครับ" คำถามของลูกชายที่เป็นแฝดพี่ทำให้หัวใจฉันรู้สึกสั่น ๆ"นั่นสิครับ พ่อไปไหนเหรอ" ฉันละสายตาหันไปที่กรัณย์ที่พูดเสริมขึ้นมา หว่าหวาที่นั่งอยู่เบาะหน้าข้างคนขับ พร้อมกับภิสิงห์หันมาสบตาฉันทันที"เอ่อ...ทำไมอยู่ดี ๆ ถามขึ้นมาล่ะครับ""ก็ลุงคนนั้นถามผมยังไม่ได้ตอบเขาเลย" ลุงคนนั้น ที่กวินเอ่ยถึงก็คือเทมโป พ่อของพวกเขานั้นแหละ"พ่อทำไมไม่มาหาพวกเราเลยล่ะครับ" กรัณย์เอ่ยพร้อมกับสีหน้าเศร้า"...." ฉันนิ่งมองดูทั้งสองด้วยความสงสาร"เด็ก ๆ เดี๋ยวแวะกินไอศครีมคลายร้อนกันนะ" ภิสิงห์เอ่ยขึ้นเพื่อทำลายบรรยากาศเศร้า และดูเครียด"เย้ / เย้" พอได้ยินคำว่าไอศครีม เด็ก ๆ ก็ปรับเปลี่ยนสีหน้าดีใจทันทีจากนั้นภิสิงห์ก็ขับรถเข้าไปในห้างสรรพสินค้า เพื่อพาเด็ก ๆไปทานไอศครีมระห
พ่อของเด็กเป็นใครฉันหยุดชะงักแล้วหันไปมองใบหน้าหล่อ นิ่ง ๆ เขาก้าวขายาวเดินมายืนตรงหน้าฉันแล้วหลุบตามองไปที่กวิน และกรัณย์สลับกัน ก่อนจะย่อตัวลงคุยกับกวิน แฝดพี่ที่ฉันจับมืออยู่"พ่ออยู่ไหนครับ" เทมโปเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน"...." กวินไม่ตอบ แล้วเงยหน้าขึ้นมองฉันด้วยสีหน้ามึนงง แฝงสงสัย"คุณเป็นใครเหรอครับ" กรัณย์แฝดน้องที่หว่าหวาจับอยู่เอ่ยขึ้น ทำให้เทมโปละสายตาหันไปมองเด็กน้อย"ลุงเป็น...." เขาหยุดพูดแล้วช้อนตาขึ้นมองมาที่ฉัน ก่อนที่จะตอบกลับกรัณย์"...ลุงเป็น พะ เพื่อนแม่เราน่ะ" เทมโปพูดด้วยน้ำเสียงสั่น ๆ สีหน้าเจ็บปวด แล้วเอื้อมมือไปลูบที่หัวกรัณย์ แต่ทว่า"อย่าลูบ เดี๋ยวผมเสียทรง" แฝดคนน้องผละหัวหนีออก ทำให้มือหนาชะงักแล้วหัวเราะปนเศร้าเบา ๆ"เหอะ" ไม่รู้ซะแล้วว่ากรัณย์ห่วงหล่อขนาดไหน"แล้วพ่อไปไหนเหรอครับ" ในเมื่อถามกวินแล้วไม่ได้คำตอบ เขาจึงเลือกถามแฝดน้องแทน"...." กรัณย์ ส่ายหัวแล้วก้มหน้าลงด้วยใบหน้าเศร้า ทำเอาหัวใจฉันวูบไหวสงสารลูก"พอสักทีเถอะ..เลิกยุ่งเรื่องของแกนได้แล้ว" พูดจบ ฉันก็พากวิน และหว่าหวาจูงมือกรัณย์เดินหนีมา"ออร์แกน...ออร์แกน""อย่าตามมานะ!" ฉันหันไปตวา