อย่าตอบ
หลังจากที่จัดการตัวเองเรียบร้อยฉันก็เดินออกมาจากห้องน้ำด้วยอารมณ์ที่โกรธ โมโห และแค้นใจมาก ทำไมนะ ทำไมฉันถึงได้โง่รักผู้ชายคนนี้ได้
พอมาถึงที่หน้าห้องทำงานผู้บริหาร ฉันยืนพ่นลมหายใจพรืดใหญ่ก่อนจะเปิดประตูเข้าไปเพื่อไปเอากระเป๋าที่ฝากหว่าหวาไว้
"แกนมาพอดีเลย"นั่นเป็นเสียงหวานของหว่าหวาที่เอ่ยขึ้นเมื่อฉันก้าวขาเข้าไปในห้อง ซึ่งภายในนั้นก็มีหว่าหวาที่กำลังนั่งให้หญิงวัยกลางคนกำลังสอนงานเลขาอยู่ ส่วนอีกมุมที่โต๊ะประจำตำแหน่ง ชายหนุ่มผมสีทองที่เพิ่งจะทำเรื่องอย่างว่ากับฉันอย่างซาดิสม์ กำลังนั่งจดจ่ออยู่กับหน้าจอคอมของตัวเองด้วยสีหน้าจริงจัง และดูตั้งใจ
"พี่นุชกำลังสอนงานเรา"ฉันคลี่ยิ้มให้พี่นุชพร้อมกับยกมือไหว้เธออย่างนอบน้อม
"สวัสดีค่ะ"เธอยิ้มรับ ในขณะที่ฉันกำลังจะก้าวขาเดินไปยังโต๊ะทำงานที่หว่าหวานั่งอยู่ แต่ก็ต้องหยุดชะงัก
"ออร์แกน"เพราะมีเสียงทุ้มเอ่ยเรียก
"...."ฉันหันไปที่เจ้าของเสียงด้วยใบหน้าเรียบแฝงความไม่พอใจเรื่องที่เขาทำเมื่อกี้ในห้องน้ำ
"ไปชงกาแฟให้ฉันหน่อย...."ใบหน้าหล่อหันไปที่หว่าหวา
"...เอากาแฟด้วยไหม"เขาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงละมุน
"ไม่ดีกว่า นายจะดื่มกาแฟ?"หว่าหวาถามกลับ
"ใช่"สิ้นเสียงตอบ หว่าหวาก็หันไปที่พี่นุช
"เดี๋ยวหว่าหวามานะคะ"
"จะไปไหน"ชายหนุ่มเอ่ยถามทันที
"จะไปชงกาแฟกับแกนให้นายไง"
"พี่นุชสอนงานเธออยู่ไม่ใช่เหรอ...ไม่ต้องไป"เทมโปแย้งขึ้นทันที
"แต่แกนก็ต้องเรียนรู้งานด้วยเหมือนกัน"
"ก็รีบไปแล้วรีบมา"ชายหนุ่มผมสีทองหันมาพูดกับฉันด้วยน้ำเสียงเข้ม
"หว่าหวาไม่ต้องไปหรอก เดี๋ยวแกนจะรีบไปรีบมา"ว่าแล้ว ฉันก็เดินออกมาจากห้องทันที
ฉันชงกาแฟให้เทมโปตามคำสั่งแล้วรีบนำมาให้เขาทันที
"ขอบใจ"เสียงทุ้มเอ่ยด้วยน้ำเสียงห้วน ๆ เขารับแก้วกาแฟไป ฉันก็ก้าวขาเดินไปที่หว่าหวาเพื่อจะได้เรียนรู้งาน
ผ่านไปราวสองชั่วโมง
"พอเข้าใจไหมคะ"พี่นุชที่เป็นหัวหน้าเลขาเอ่ยถามขึ้น
"เข้าใจค่ะ"ฉันกับหว่าหวาตอบพร้อมกันพร้อมกับคลี่ยิ้มให้เธออย่างเป็นมิตร
"งั้นลองทำดูนะ เดี๋ยวพี่จะมาตรวจ"
"ค่ะ/ค่ะ"สิ้นเสียง พี่นุชก็หันไปพูดกับเทมโป
"พี่ไปก่อนนะเทมโป"
"ขอบคุณครับ"ชายหนุ่มกล่าวด้วยน้ำเสียงสุภาพ
พอพี่นุชออกไปฉันก็หยิบกระเป๋าแล้วเดินออกมาจากห้องเพื่อไปยังโต๊ะทำงานของฉันที่อยู่ข้างนอก
ฉันนั่งทำงานจนเพลินมารู้ตัวอีกทีก็เพราะมีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ครืนนน ครืนนน จึงหยิบขึ้นมาดูแล้วคลี่ยิ้มบาง ๆ ก่อนจะกดรับ
"ฮาโหลค่ะ"
(พี่กำลังไปรับนะ)เสียงนุ่นละมุนพูดเข้ามาในสาย
"เที่ยงแล้วเหรอคะเนี่ย..."ระหว่างที่กำลังคุยโทรศัพท์อยู่ฉันต้องหันไปยังประตูห้องทำงานผู้บริหารที่เปิดออกมาพร้อมกับร่างชายหนุ่มและหญิงสาว
"ออร์แกนทานข้าวกับหว่าหวา..."หว่าหวาชะงักเมื่อเห็นว่าฉันกำลังคุยโทรศัพท์อยู่
"ใครโทรมา"แล้วก็มีเสียงทุ้มเอ่ยถามเมื่อเห็นฉันคุยโทรศัพท์เช่นกันด้วยสีหน้าเข้ม
"พี่สิงห์แน่เลย"เป็นหว่าหวาที่พูดพร้อมกับส่งยิ้มให้ฉัน ในขณะที่ชายหนุ่มเปลี่ยนสีหน้าที่ดุดันจ้องฉันด้วยสายตาคมกริบ
"แกนรอนะคะ"ฉันพูดเข้าไปในสายอย่างไม่ใส่ใจสายตาคมที่จ้องอยู่ แล้วก็กดวางสาย
"แกนจะไปทานข้าวกับพี่สิงห์"จากนั้นก็หันไปบอกกับหว่าหวา
"โอเค งั้นฝากบอกพี่สิงห์ด้วยนะว่าหว่าหวาไปทานข้าวกับเทมโป"ฉันผงกหัวรับ
"ไปด้วยกัน"อยู่ ๆ เทมโปก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแข็ง
"หมายความว่ายังไง..."หว่าหวามองเทมโปสลับมาที่ฉัน
"...ให้แกนไปด้วยงั้นเหรอ"
"อืม"ชายหนุ่มตอบกลับสั้น ๆ
"แกนรับปากจะไปทานมื้อกลางวันกับพี่สิงห์ อีกอย่างเขากำลังจะมาแล้วด้วย"
"ก็ให้มันกลับไป"เทมโปสวนกลับทันที ทำให้หว่าหวาหันขวับไปที่ชายหนุ่ม
"คงทำแบบนั้นไม่ได้"คำพูดของฉันทำเอาเจ้าของใบหน้าหล่อดูหงุดหงิดขึ้นมาอย่างไม่ปกปิด
"ออร์แกน!"เขาตวาดใส่ด้วยน้ำเสียงเข้มดุ
"ปล่อยให้แกนไปทานกับพี่สิงห์..."หญิงสาวหน้าสวยพูดจบแล้วยิ้มหวานให้ฉันก่อนที่จะคว้าแขนชายหนุ่มแล้วเอ่ยขึ้น
"...ส่วนเราไปกันเถอะหว่าหวาหิวแล้ว"ว่าจบ เธอก็ดึงแขนเทมโปให้ก้าวขาเดิน
"เฮ้อ"พอทั้งคู่เดินลับตาไปฉันก็พ่นลมหายใจออกมาหนัก ๆ ฉันรู้สึกเหนื่อยใจมาก ที่ไม่สามารถคาดเดาอารมณ์ของเทมโปได้เลย บางครั้งก็มีท่าทางราวกับหึงหวง และอีกมุมก็มีท่าทางที่ดูรังเกียจในตัวฉัน
ตอนนี้สิ่งที่ทำได้คือนั่งนับวันที่จะเรียนจบ เพราะฉันจะได้ไม่ต้องทดแทนบุญคุณที่เขาช่วยครอบครัวของฉันแล้ว แน่นอนถึงวันนั้นฉันก็จะเป็นอิสระ มีชีวิตเป็นของตัวเองจริง ๆ สักที
ฉันเก็บข้าวของปิดคอมพิวเตอร์แล้วลงมารอภิสิงห์ที่ชั้นล่างของบริษัท และไม่นานนักภิสิงห์ก็ขับรถเข้ามา ฉันจึงเลือกที่เดินไปหาเขาเอง เพราะจะได้ไม่ต้องเสียเวลาให้เขาต้องลงจากรถ
"หว่าหวา?"พอเปิดประตูรถชายหนุ่มหน้าตาดีก็เอ่ยถามถึงน้องสาวเขา
"หว่าหวาไปทานข้าวกับ...เทมโป"
"หึ"พอสิ้นเสียง ภิสิงห์ก็กลั้วหัวเราะออกมาพร้อมกับถอยรถขับออกจากบริษัท
"อยากทานอะไรเป็นพิเศษไหม"ระหว่างทางชายหนุ่มคนขับก็หันมาถามฉัน
"อะไรก็ได้ค่ะ"ที่ตอบแบบนั้นก็เพราะฉันทานได้ทุกอย่าง เป็นไคนที่ไม่เรื่องมากอยู่แล้ว
"โอเค"ภิสิงห์ตอบกลับสั้น ๆ และไม่บอกด้วยว่าจะพาฉันไปทานอะไร
จนกระทั่งภิสิงห์เลี้ยวเข้าร้านอาหารหรูแห่งหนึ่ง ระหว่างที่คนขับหาที่จอดรถสายตาฉันก็เหลือบไปเห็นรถยนต์คันหรูที่คุ้นเคย
"เทมโป"ฉันพึมพำเบา ๆ ใช่แล้วรถคันนั้นเป็นของเทมโปนั่นเอง
"เมื่อกี้แกนพูดว่าอะไรนะ"ชายหนุ่มจอดรถสนิทแล้วก็หันหน้ามาถาม
"เอ่อ...เปลี่ยนร้านได้ไหมคะ"ฉันรู้สึกอยากจะเปลี่ยนร้านขึ้นมาทันทีจึงพูดออกไป
"ทำไมล่ะ"ภิสิงห์เลิกคิ้วเอ่ยถาม
"คือ..."ครืนนนน ครืนนน ยังไม่ทันได้พูดอะไรเสียงโทรศัพท์ขอวภิสิงห์ก็ดังขึ้น เขาละสายตาแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู
"หว่าหวา"แล้วบอกให้รู้ว่าคนที่โทรเข้ามาคือใคร ก่อนจะกดรับ
"ว่าไงหว่าหวา"ฉันนั่งฟังเงียบ ๆ
"เอ้าเหรอ"ภิสิงห์หันมาที่ฉัน
"โอเค โอเค เดี๋ยวเข้าไป"สิ้นเสียง ภิสิงห์ก็กดวางสายก่อนจะพูดขึ้น
"หว่าหวากับเทมโปทานข้าวที่ร้านนี้..."ฉันก้มหน้างุดแล้วเม้มปากทั้งสองเข้าหากันแน่น
"..เพราะเทมโปใช่ไหมแกนถึงอยากเปลี่ยนร้าน"ฉันเงยหน้าแล้วหันไปมองที่ชายหนุ่ม
"...."มันพูดอะไรไม่ออกเลยจริง ๆ
"ถ้าพี่อยู่แกนก็ไม่ต้องกลัว..."ฉันขมวดคิ้วด้วยใบหน้าสงสัยกับคำพูดของภิสิงห์
"....เทมโปชอบรังแกแกนใช่ไหม"ภิสิงห์พูดต่อ
"...."ฉันไม่ตอบได้แต่นั่งนิ่ง
"พี่จะปกป้องแกนเอง..พี่จะไม่ให้ใครมารังแกแกนได้อีก"ว่าจบ มือหนาก็คว้ามือของฉันไปกุม
"พี่ชอบแกนนะ"ตุ่บ ตุ่บ ตุ่บ คำพูดของภิสิงห์มันทำให้หัวใจดวงน้อยของฉันปั่นป่วน หลากหลายอารมณ์ ทั้งตกใจ แปลกใจ และกังวล
"เราไปกันเถอะ"เมื่อเห็นว่าฉันไม่ได้พูดอะไร ภิสิงห์จึงเปลี่ยนเรื่องชวนฉันเข้าไปในร้าน พอพ้นประตูเข้ามาในร้าน ก็เห็นโต๊ะที่มีหว่าหวากับเทมโปนั่งอยู่ดี ซึ่งทั้งคู่ต่างมองมาที่ฉันและภิสิงห์ ในขณะที่กำลังจะก้าวขาเดินไปหา จู่ ๆ ภิสิงห์ก็คว้ามือฉันไปจับแล้วพาฉันเดินเคียงคู่ไปกับเขา ท่ามกลางสายตาชายหญิงที่มองมา
"แหม่...จับมือราวกับคู่รักเลยนะ"พอเดินมาถึงโต๊ะหว่าหวาก็เอ่ยแซวขึ้นทันที ส่วนชายหนุ่มที่นั่งข้าง ๆ ส่งสายตาดุดันพร้อมกับขบกรามแน่นจนเห็นเส้นเลือดปูดโปนที่ขมับ
"สวัสดีเทมโป"ภิสิงห์เลือกที่จะกล่าวทักทายเขาเจ้าของใบหน้าที่บอกบุญไม่รับ
"อืม"แต่ยังตอบกลับสั้น ๆ ห้วน ๆ จากนั้นภิสิงห์ขยับเก้าอี้ให้ฉันนั่งลงก่อน แล้วเขาก็นั่งลงข้าง ๆ
"หว่าหวา"ชายหนุ่มเอ่ยเรียกน้องสาวด้วยใบหน้าอมยิ้ม
"ว่าไงคะพี่สิงห์"คนเป็นน้องตอบรับด้วยน้ำเสียงสดใส
"เมื่อกี้พี่สารภาพรักกับแกนแล้วนะ"คำพูดของภิสิงห์ทำให้ฉันรู้สึกตกใจมากที่เขากล้าพูด
"หึ"เทมโปกลั้วหัวเราะในลำคอด้วยสีหน้าเยาะเย้ยภิสิงห์อยากเห็นได้ชัด
"แล้วแกนว่ายังไง"หว่าหวาพูดพลางมองไปที่ภิสิงห์สลับมาที่ฉัน
"แกนก็ชอบพี่สิงห์"คำตอบฉันทำให้ภิสิงห์หันขวับมาที่ฉันด้วยใบหน้าที่ดูแปลกใจแฝงดีใจด้วย
ส่วนชายหนุ่มอีกคนไม่แสดงท่าทีอะไรเขานิ่งมาก แต่สายตาที่แสนคมกริบนั้นมองมาราวกับว่าจะฆ่าฉันยังไงยังนั้น ทำให้รู้สึกขนลุกไปหมด
"งั้นเราเป็นแฟนกันนะ"ภิสิงห์คว้ามือฉันมากุม
"...."ฉันก้มหน้างุดแล้วพูดกับตัวเองในใจ การที่ฉันบอกว่าชอบภิสิงห์ไม่ได้หมายถึงชอบจนอยากเป็นแฟนขนาดนั้น ติ่ง! จู่ ๆ เสียงข้อความในโทรศัพท์ก็ดังขึ้น ทำให้ฉันสลัดออกจากความกดดันแล้วหยิบขึ้นมาดู
TomPo:ถ้าไม่อยากตายคาเตียงก็อย่าตอบตกลง!
ตอนจบ"เทมโป..." ใบหน้าหล่อคมคายหันมาจ้องที่ฉัน"...แกนจะไม่เป็นแค่เพื่อนอีกต่อไปใช่ไหม" เทมโปคลี่ยิ้มออกมาหลังจากที่ฉันพูดจบ"เธอไม่ใช่แค่เพื่อน..แต่เธอเป็นทุกสิ่งทุกอย่างสำหรับฉันแล้ว.." มือหนายกมาลูบผมฉันอย่างอ่อนโยน"..ถ้าฉันขาดเธอ ฉันขาดใจ" ปลั่ก! นั่นเป็นเสียงที่ฉันกำมือทุบไปที่อกของเขา"คนบ้า!""ใช่ ก่อนหน้าฉันเคยบ้ามาแล้ว ตั้งแต่เธอหนีไป" เทมโปพูดสวนกลับ ก่อนที่จะพ่นลมหายใจออกมาอย่างหนัก"มันคงเป็นเวรกรรมที่ฉันเคยทำกับเธอ รู้ไหมว่าฉันทรมานจนดูน่าสมเพชเอามาก ๆ เลย""ออร์แกน...ตอนที่เธอหายไปฉันยอมทิ้งทุกอย่างเพื่อตามหาเธอ""ทะ เทมโป.." ฉันเอ่ยน้ำเสียงสั่น ๆ แต่ภายในใจมันรู้สึกพองโต"ถ้าเธอไม่หนีไป วันนี้ฉันคงไม่รู้ว่าฉันรักเธอมากแค่ไหน..." คนร่างสูงโน้มหน้ามาจูบที่หน้าผากฉัน"...ขอบคุณที่สอนบทเรียนให้กับฉัน และขอบคุณที่กลับมาไม่ว่าเหตุผลที่เธอกลับมาไม่ใช่เพราะฉัน""..." เทมโปคลี่ยิ้มด้วยแววตาที่มีความสุข ใบหน้าสดใส"ถึงแม้เธอจะไม่ได้กลับมาเพราะฉัน แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้ฉันได้เจอเธอ ได้ขอโทษและได้บอกความในใจของฉันให้เธอฟัง""เทมโป..แกนก็ไม่เคยลืมนายเลยนะ" ไม่รู้อะไรดลใจ ทำให้ฉัน
จากเพื่อนสู่ผัว"กวิน กรัณย์ ออร์แกน" ฉันและลูกแฝดต่างพากันหันไปที่ต้นเสียง ซึ่งเป็นคนป่วยที่นอนอยู่เอ่ยขึ้นมา เขาลืมตามองมาที่พวกฉันแล้วค่อย ๆ หยัดกายลุกขึ้น"พ่อตื่นแล้ว" กวินบอกกับคนเป็นน้อง ก่อนจะลุกจากโซฟาเดินไปที่เตียง พร้อม ๆ กับฉันที่รีบไปประคองเขาลุกนั่ง.เทมโปคลี่ยิ้มด้วยแววตาที่มีความสุข ขณะที่ลูกแฝดขึ้นบนเก้าอี้แล้วเอ่ยถามอาการพ่อตัวเองทันที"พ่อเจ็บตรงไหนฮับ" แฝดพี่พูดแล้วใช้สายตามองไปที่เรือนร่างคนเป็นพ่อราวกับหาอะไร"พ่อรีบหายนะครับ จะได้มาเล่นกัน...." กรัณย์เอ่ยแล้วหันไปพูดกับกวิน"...ให้พ่อเป็นผู้ร้ายนะพวกเราเป็นตำรวจ""หึหึ" เทมโปหัวเราะออกมาแล้วเอื้อมไปลูบหัวลูกแฝดคนโต แล้วกำลังจะสลับไปลูบหัวคนน้องแต่เขากลับชะงัก คงจะจำวันนั้นได้วันที่กรัณย์ไม่ยอมให้เขาลูบเพราะกลัวผมเสียทรง"พ่อเป็นพ่อของกรัณย์ พ่อลูบได้ครับ" เด็กน้อยแฝดน้องพูดพร้อมกับยื่นหัวให้พ่อของเขาลูบ สร้างรอยยิ้มปนน้ำตาที่คลอเบ้าให้คนเป็นพ่อทันที"วันนี้เธอกับลูกอยู่กับฉันนะ" เทมโปหันมาพูดกับฉัน"อืม" ฉันตอบกลับสั้น ๆ แล้วคลี่ยิ้มให้"ขะ ขอบใจนะ" เทมโปกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่น ๆ"รับหายนะ..แกนอยากให้เทมโปกลับมาใ
ยังไม่ให้โอกาส"แล้วเด็กฝาแฝดนั้นเป็นลูกใคร"ฉันคลี่ยิ้มหวานแล้วดึงมือหนาเดินเข้ามาด้านในห้อง"รอตรงนี้นะ เดี๋ยวแกนจะไปพากวิน กรัณย์เข้ามา" เทมโปทำสีหน้ามึนงงปนสงสัย แต่ก็ทำตามที่ฉันสั่ง เขาเลือกที่จะเดินไปนั่งที่โซฟา จากนั้นฉันก็ออกมาจากห้องก็เห็นทุกคนต่างนั่งอยู่กันเป็นกลุ่ม"เทมโปเป็นยังบ้าง ออร์แกน" คุณน้าเรอาลุกขึ้นแล้วรีบเดินมาถามด้วยใบหน้าที่ยังมีความกังวล"ตอนนี้เทมโปโอเคขึ้นแล้วค่ะ..." ว่าจบ ฉันก็หันไปที่ลูกแฝดที่มีผู้ใหญ่ล้อมรอบอย่างอบอุ่น"...แกนขอพากวิน กรัณย์ไปหาพ่อของเขาก่อนนะคะ" คุณน้าเรอาคลี่ยิ้มแล้วเอื้อมมากุมมือของฉัน"ออร์แกน น้าขอโทษแทนเทมโปด้วยนะ..." เธอลอบหายใจเบา ๆ ก่อนที่จะเอ่ยต่อ"...ไม่คิดเลยว่าฉันจะมีหลานฝาแฝดที่น่ารักแบบนี้ ขอบคุณเธอจริง ๆ ที่เลี้ยงดูที่เกิดมาจากเทมโปมาอย่างดี" คุณน้าเรอาเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่น ๆ น้ำตาคลอเบ้า"กวิน กรัณย์ เป็นยิ่งกว่าชีวิตยังไง แกนก็ต้องเลี้ยงดูเขาให้ดีที่สุดค่ะ" คุณน้าเรอาผงกหัวรับแล้วหันไปที่ลูกชายฝาแฝดของฉัน"กวิน กรัณย์ มากับแม่" ฉันเอ่ยเรียก ทั้งคู่ก็ลุกจากเก้าอี้แล้วเดินยิ้มใบหน้าสดใสมาที่ฉัน"ลุงคนนั้นเป็นยังไงบ้างฮับ
ขอร้องOrgan"ทำไมคุณทอยคิดว่าเราสองคนแต่งงานกัน" ภิสิงห์เอ่ยถามขึ้นขณะที่ตอนนี้พวกเราต่างพากันธุระเสร็จจนกลับมาที่บ้านแล้ว ส่วนสองแฝดก็นอนหลับด้วยความเพลีย"หว่าหวาเป็นคนโกหกเองค่ะ" คนเป็นพี่หันไปที่น้องสาวของตนด้วยสีหน้าสงสัย"คือวันนั้นพวกเราเจอกับเทมโป...." หว่าหวาหยุดพูดแล้วหันมาที่ฉัน"...นายนั่นคอยเซ้าซี้แกนไม่เลิก หว่าหวาก็เลยโกหกไปว่า..""พี่กับแกนแต่งงานแล้วกวิน กรัณย์คือเป็นลูกพี่?" ภิสิงห์แทรกพูดขึ้นหว่าหวาก็ผงกหัวรับสีหน้ารู้สึกผิด"อย่าโกรธหว่าหวาเลยค่ะ แกนเองก็ไม่ทักท้วงปล่อยเลยตามเลย" ฉันพูดจบ หว่าหวาก็หันมาฉีกยิ้มให้ ขณะที่ภิสิงห์มีสีหน้าดูเครียด ราวกับมีเรื่องบางอย่างในใจ"พี่สิงห์โกรธหรอกคะ แกนขอโทษ""เปล่า พี่ไม่ได้โกรธ.." ว่าจบ ภิสิงห์ก็ลอบหายใจออกมาเบา ๆ"...ไม่นานทางนั้นก็ต้องรู้ว่าเราไม่ได้แต่งงานกันจริง ๆ""...." ฉันไม่พูดอะไรได้แต่ก้มหน้าเม้มปากทั้งสองเข้ากันแน่น ภายในใจก็คิดไว้อยู่เหมือนกัน ยิ่งวันนี้ที่เจอกับพี่ทอย เขาดูมีสีหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย ฉันคิดว่าเขาต้องไปสืบเรื่องแต่งงานที่หว่าหวากุขึ้นมาแน่"แกน..." ฉันเงยหน้าขึ้นมองไปยังพี่ชายเพื่อน"...พี่ได้ข
กลัววันนี้ฉัน หว่าหวา และภิสิงห์ต่างพากันไปดูสถานที่จัดงานแสดงเครื่องประดับ แน่นอนว่าสองแสบจะต้องไปด้วย กวิน และกรัณย์ค่อนข้างที่จะติดฉัน เพราะฉันดูแลทั้งสองคนอย่างใกล้ชิดตั้งแต่เขาเกิดมา ให้ความรัก เป็นทั้งพ่อและแม่ให้กับพวกเขา"แม่ฮับ..." บนรถของภิสิงห์ที่อาสาเป็นคนขับพาไปยังสถานที่จัดงาน อยู่ ๆ กวินก็เอ่ยขึ้น"...พ่ออยู่ไหนเหรอครับ" คำถามของลูกชายที่เป็นแฝดพี่ทำให้หัวใจฉันรู้สึกสั่น ๆ"นั่นสิครับ พ่อไปไหนเหรอ" ฉันละสายตาหันไปที่กรัณย์ที่พูดเสริมขึ้นมา หว่าหวาที่นั่งอยู่เบาะหน้าข้างคนขับ พร้อมกับภิสิงห์หันมาสบตาฉันทันที"เอ่อ...ทำไมอยู่ดี ๆ ถามขึ้นมาล่ะครับ""ก็ลุงคนนั้นถามผมยังไม่ได้ตอบเขาเลย" ลุงคนนั้น ที่กวินเอ่ยถึงก็คือเทมโป พ่อของพวกเขานั้นแหละ"พ่อทำไมไม่มาหาพวกเราเลยล่ะครับ" กรัณย์เอ่ยพร้อมกับสีหน้าเศร้า"...." ฉันนิ่งมองดูทั้งสองด้วยความสงสาร"เด็ก ๆ เดี๋ยวแวะกินไอศครีมคลายร้อนกันนะ" ภิสิงห์เอ่ยขึ้นเพื่อทำลายบรรยากาศเศร้า และดูเครียด"เย้ / เย้" พอได้ยินคำว่าไอศครีม เด็ก ๆ ก็ปรับเปลี่ยนสีหน้าดีใจทันทีจากนั้นภิสิงห์ก็ขับรถเข้าไปในห้างสรรพสินค้า เพื่อพาเด็ก ๆไปทานไอศครีมระห
พ่อของเด็กเป็นใครฉันหยุดชะงักแล้วหันไปมองใบหน้าหล่อ นิ่ง ๆ เขาก้าวขายาวเดินมายืนตรงหน้าฉันแล้วหลุบตามองไปที่กวิน และกรัณย์สลับกัน ก่อนจะย่อตัวลงคุยกับกวิน แฝดพี่ที่ฉันจับมืออยู่"พ่ออยู่ไหนครับ" เทมโปเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน"...." กวินไม่ตอบ แล้วเงยหน้าขึ้นมองฉันด้วยสีหน้ามึนงง แฝงสงสัย"คุณเป็นใครเหรอครับ" กรัณย์แฝดน้องที่หว่าหวาจับอยู่เอ่ยขึ้น ทำให้เทมโปละสายตาหันไปมองเด็กน้อย"ลุงเป็น...." เขาหยุดพูดแล้วช้อนตาขึ้นมองมาที่ฉัน ก่อนที่จะตอบกลับกรัณย์"...ลุงเป็น พะ เพื่อนแม่เราน่ะ" เทมโปพูดด้วยน้ำเสียงสั่น ๆ สีหน้าเจ็บปวด แล้วเอื้อมมือไปลูบที่หัวกรัณย์ แต่ทว่า"อย่าลูบ เดี๋ยวผมเสียทรง" แฝดคนน้องผละหัวหนีออก ทำให้มือหนาชะงักแล้วหัวเราะปนเศร้าเบา ๆ"เหอะ" ไม่รู้ซะแล้วว่ากรัณย์ห่วงหล่อขนาดไหน"แล้วพ่อไปไหนเหรอครับ" ในเมื่อถามกวินแล้วไม่ได้คำตอบ เขาจึงเลือกถามแฝดน้องแทน"...." กรัณย์ ส่ายหัวแล้วก้มหน้าลงด้วยใบหน้าเศร้า ทำเอาหัวใจฉันวูบไหวสงสารลูก"พอสักทีเถอะ..เลิกยุ่งเรื่องของแกนได้แล้ว" พูดจบ ฉันก็พากวิน และหว่าหวาจูงมือกรัณย์เดินหนีมา"ออร์แกน...ออร์แกน""อย่าตามมานะ!" ฉันหันไปตวา