เบ้และนางบำเรอ
"และเธอก็ต้องอยู่ในสถานะเพื่อน ที่ฉันสามารถเอากับเธอได้"พรึ่บ ! เสื้อเชิ้ตก็ถูกเหวี่ยงลงไปที่พื้น ฉันได้ฟังคำพูดเขาแบบนั้นจึงเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสั่นเคลือ
"นะ..นายหมายความว่ายังไง"แคว่ก! เสียงเสื้อของฉันที่ถูกกระชากอยากแรงจนขาดวิ่นโดยฝีมือของชายหนุ่มที่ฉันตกหลุมรัก แต่ทว่าตอนนี้เขาทำให้ฉันกลัวเขามาก
"อยะ อย่าทำอะไรแกนเลย"
"สายไปแล้ว..เธอทำให้ฉันหงุดหงิดเพราะฉะนั้นเธอจะต้องรับผิดชอบ!"
"อุ๊ป!"เทมโปคร่อมลงมาบนร่างฉันอย่างรวดเร็วโดยที่ไม่ทันได้ตั้งตัวก่อนที่จะใช้ปากประกบริมฝีปากฉันก่อนจะสอดลิ้นร้ายเข้าไป
ลิ้นร้อนเข้าไปกวนวนในช่องปากอย่างอำเภอใจ ขณะที่ฉันพยายามขัดขืนใช้กำปั้นเล็ก ๆ ทุบที่หลังเขา แต่ทว่าเขากลับไม่สะทกสะท้านยังคงจูบ ดูด ดุน และขบริมฝีปากจนฉันได้กลิ่นคาวเลือด
"อื้อออ"เมื่อรู้สึกว่าตัวเองเริ่มหายใจไม่ออกจึงพยายามสะบัดหน้าหนี แต่เหมือนคนบนร่างจะรู้จะผละจูบออกแล้วแสยะยิ้มร้ายกาจ
"ทะ เทมโป..แกนไม่ได้ต้องการแบบนี้"ฉันพยายามอธิบายด้วยน้ำตาคลอเบ้า
"..."เทมโปไม่รู้อะไรได้แต่ใช้สายตาคมกริบจ้องหน้าฉัน ทว่าเขาก็ใช้มือที่ว่างล้วงไปยังแผ่นหลังฉันแล้วปลดตะขอบราเซียแล้วกระชากออกมาอย่างง่ายดาย.
"ว้าย..!"ฉันรีบยกมือปิดหน้าอกทั้งสองทันที
"ฉันคิดว่าจะไม่แตะต้องเธอ เพราะแค่อยากจะเก็บเธอไว้ใช้งาน แต่เมื่อเธอเสนอมาแบบนี้ฉันก็คงต้องสนอง"สิ้นเสียง เทมโปก็ดึงมือฉันที่ปิดเต้าอกทั้งสองออก แล้วโน้มหน้าลงมาตวัดดูด ดุน ยอดปทุมถันทั้งสองข้าง ระหว่างที่ฉันรู้สึกเสียใจ และผิดหวัง เมื่อได้ยินคำพูดของเขาเมื่อกี้ 'เก็บฉันไว้ใช้งาน' น้ำตาเจ้ากรรมก็ไหลรินออกมา มันเจ็บปวดใจมาก ที่ผ่านมาเขาไม่ได้คบฉันด้วยความจริงใจ เพียงแค่คบฉันไว้ใช้งาน
ฉันนอนนิ่งน้ำตาไหล เจ็บทั้งหัวใจ เจ็บทั้งกายที่โดนชายหนุ่มกระทำรุนแรง และป่าเถื่อนบนร่างกายของฉัน
ปึก ปึก ปึก แรงกระแทกถาโถมเข้ามาไม่ยั้ง จนกระทั่ง.
"อ่า"เสียงครางทุ้งต่ำดังออกมาตามไรฟัน พร้อมกับพ่นน้ำคาวเข้ามาในกายของฉัน
เทมโปถอดท่อนเอ็นออกแล้วลงจากร่างฉันยืนเต็มความสูงข้างโซฟาสายตาจ้องมาที่ฉันที่นอนหืดหอบ ดั่งคนไร้เรี่ยวแรง
"หึ..ต่อไปนี้ถ้าฉันต้องการเอาเธอตอนไหนเธอจะต้องรีบมาให้ฉันเอาทันที"
"ไม่!..."ฉันค่อย ๆ หยัดกายลุกขึ้นแล้วหยิบผ้ามาปกปิดร่างกาย
"...มันจบแล้ว"สายตาคมกริบจ้องมองฉันด้วยความดุดัน
"เธอคิดว่ามันจะจบง่าย ๆ ?"มือหนาจับที่ปลายคางของฉันแล้วเชิดขึ้น
"สมใจนายแล้วหนิ..จะเอาอะไรกับแกนอีก"
"เธอยังคงต้องรับใช้ฉันจนกว่าจะเรียนจบ...."เทมโปสะบัดใบหน้าฉันอย่างแรงก่อนที่จะพูดต่อ
"....ถ้าไม่ทำตามคำสั่งฉันครอบครัวเธอเดือดร้อนแน่"ว่าจบ เขาก็หยิบเสื้อผ้าแล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำ ขณะที่ฉันนั่งมองแผ่นหลังเขาด้วยน้ำตาที่ไหลริน มันเจ็บหัวใจแทบจะแหลกสลาย รู้สึกผิดหวังและเสียใจเป็นอย่างมาก
ใช้เวลาไม่นานเทมโปก็ออกมาจากห้องน้ำด้วยสภาพแต่งตัวเรียบร้อย ฉันรีบยกมือปาดน้ำตาระหว่างที่ชายหนุ่มเดินมายังโซฟาที่ฉันนั่งอยู่
"กลับเองได้นะ..."ฉันแหงนหน้ามองเขาด้วยความสะเทือนใจ
"...พอดีฉันมีนัด"ว่าจบเทมโปก็ล้วงกระเป๋าสตางค์ออกมาแล้วหยิบแบงค์ธนบัตรสีเทาออกมาสามสี่ใบก่อนจะยื่นให้ฉัน
"นี่ค่าแท็กซี่"ฉันเบือนหน้าไปทางอื่นและเลือกที่จะไม่รับ สักพักก็มีเสียงฝึเท้าหนักเดินออกจากห้อง ฉันจึงหันมา ก็เห็นว่าเทมโปออกไปแล้ว เมื่อมองไปยังโต๊ะกระจกก็เห็นเงินวางไว้
"ฮืออออ ฮือออ"ฉันปล่อยโฮออกมาทันที
ปัจจุบัน..
ฉันไม่สามารถขัดขืนหรือหลีกหนีเทมโปได้เลย เนื่องจากครอบครัวของฉันยังต้องพึ่งพาเขา เพราะทางบ้านยังคงมีหนี้ก้อนใหญ่ที่ยังชำระไม่หมด ดังนั้น ฉันก็คงต้องอดทนยอมเป็นเบ้ และนางบำเรอให้เขาจนทุกวันนี้ แต่ถ้าฉันเรียนจบเมื่อไหร่ทุกอย่างก็จบเช่นกัน
ฉันพยายามตั้งใจเรียน เพื่อออกมาจะได้หางานทำในบริษัทดี ๆ ได้เงินเดือนเยอะๆ จะได้ช่วยแบ่งเบาภาระหนี้สินของที่บ้าน
เลิกเรียน ระหว่างที่ฉันออกมาหน้ามอเพื่อมาเรียกแท็กซี่
ปริ๊น! ก็มีเสียงแตรรถคันหรูดังขึ้นจึงหันไปดู ก็พบว่าเป็นรถของเทมโป ซึ่งวันนี้เขาไม่ได้เข้าเรียนเลยตั้งแต่ไปเจอกับน้องดาวเมื่อเช้า
"ขึ้นรถ"เขาลดกระจกลงแล้วตะโกนออกมา ฉันลอบหายใจเบา ๆ ก่อนที่จะลุกขึ้นแล้วเดินไปขึ้นรถอย่างว่าง่าย ปัง! พอประตูปิดลง รถคันหรูก็เลื่อนตัวออกมา ในรถฉันไม่ปริปากพูดอะไรเลย ได้แต่มองข้างทางผ่านกระจกใสบาง ๆ จนกระทั่งเสียงทุ้มข้าง ๆ ก็ดังขึ้น
"วันนี้อาจารย์สั่งงานอะไรบ้าง"ฉันหันไปที่คนพูด
"รายงานธุรกิจsme"ฉันตอบกลับเสียงเรียบ
"คืนนี้นอนค้างที่คอนโดฉัน แล้วทำให้เสร็จด้วย"
"อืม"ฉันตอบรับอย่างว่าง่าย เพราะไม่สามารถปฏิเสธได้อยู่แล้ว
ฉันนั่งทำงานคนเดียวจนดึกภายในห้องส่วนตัวที่เทมโปจัดไว้ให้ พองานเสร็จเรียบร้อยฉันก็ล้มตัวนอนด้วยความเพลีย จนเช้า ก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูหน้าห้องทำให้ฉันสะดุ้งตื่น
"ออร์แกน ตื่นได้แล้ว"
"อือ"ฉันหยัดกายลุกขึ้นอย่างงัวเงีย แต่ก็ส่งเสียงกลับไปให้ข้างนอกรู้
หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยฉันก็ออกมาจากห้องก็พบชายหนุ่มใส่ชุดนักศึกษานั่งเลื่อนโทรศัพท์เล่นอยู่บนโซฟา
"ฉันจะแวะไปที่บ้านก่อน"
"งั้นเดี๋ยวแกนขับรถไปมหาลัยเอง"สิ้นเสียง ใบหน้าหล่อเหลาก็หันมาที่ฉันด้วยสายตาคมกริบ
"เธอต้องไปกับฉัน!"แน่นอนว่าฉันขัดคำสั่งเขาไม่ได้อยู่แล้ว เทมโปพาฉันมาที่บ้านก็พบกับอาทอร์ชและอาเรอา ฉันก็ยกมือสวัสดีทันที คุณอาทั้งสองใจดีกับฉันมาก รวมถึงพี่ชายทั้งสองของเทมโปที่ยังพอเห็นหน้าเห็นตากันมา
"เทมโป แวะเอาเสื้อผ้าของใช้ไปให้ทอยที่โรพยาบาลด้วยนะ"พ่อเทมโปพูดขึ้น คนเป็นลูกหันไปที่ท่านด้วยสีหน้าสงสัย.
"พี่ทอยเป็นอะไร"
"ไม่ได้เป็นอะไรหรอก คนที่เป็นคือต้องรักแฟนตาทอย"อันนี้เป็นอาเรอาเป็นคนพูด
"พี่ต้องรัก?"
เทมโปก็ขับรถพาฉันมาที่โรงพยาบาลด้วย สีหน้าเขาดูเป็นห่วงว่าที่พี่สะใภ้อยู่ไม่น้อย พอมาถึง
"มาได้ไงไอ้เทม"เป็นพี่ทอยที่เอ่ยทักเมื่อเห็นน้องชายคนเล็กเดินเข้ามาในห้อง
"สวัสดีครับพี่ต้อง..."เขาไม่ตอบพี่ชายเลือกที่จะทักทายว่าที่พี่สะใภ้ ก่อนจะหันมาที่ฉัน
"...ยืนอยู่ทำไมล่ะ เอาของให้พี่ทอยสิ!"เทมโปตวาดใส้ฉันจนสะดุ้ง จึงรีบยื่นของในมือให้พี่ทอยทันที
"ขอบใจนะ ออร์แกน.."พี่ทอยกล่าวขอบคุณก่อนที่จะแนะนำแฟนของเขาให้ฉันรู้จัก
"...นี่แฟนพี่ ต้องรัก"พอสิ้นเสียงฉันก็รีบยกมือไหว้พี่ต้องรักทันที
"สวัสดีค่ะพี่ต้องรัก หนูออร์แกนนะคะ"พี่ต้องรักคลี่ยิ้มหวานกลับมาก่อนที่จะเอ่ยถามพร้อมเอ่ยชมฉัน
"เป็นเพื่อนเทมโปเหรอ หน้าตาสวยจัง"
"ใช่ค่ะ ขอบคุณนะคะ"ฉันตอบกลับพร้อมคลี่ยิ้มหวานให้
"แล้วมาด้วยกันได้ยังไง"อันนี้เป็นพี่ทอยถาม
"เอ่อ..."
"เรียกมาเอา"ฉันตกใจเล็กน้อยที่ได้ยินคำพูดของเทมโป เขาไม่คิดว่าฉันจะอายบ้างเลยเหรอ
"ไอ้เทมโป!"เป็นพี่ชายที่ตวาดดุน้องชาย
"ตกลงเป็นเพื่อนหรือเป็นแฟนกัน"พี่ต้องรักเป็นคนเอ่ยถาม
"ก็แค่เพื่อน..."เทมโปพูดจบก็หันมาที่ฉันระหว่างที่ก้มหน้าเม้มปากทั้งสองเข้าหากันแน่น
"...ที่เอากันได้"สิ้นเสียง ฉันก็เงยหน้ามองเทมโปที่แสยะยิ้มร้ายใส่ฉัน
"ไอ้น้องเวร!"พี่ทอยสบถด่าออกมาด้วยสีหน้าเอือมระอาพฤติกรรมคำพูดของน้องชายตัวเอง
ตอนจบ"เทมโป..." ใบหน้าหล่อคมคายหันมาจ้องที่ฉัน"...แกนจะไม่เป็นแค่เพื่อนอีกต่อไปใช่ไหม" เทมโปคลี่ยิ้มออกมาหลังจากที่ฉันพูดจบ"เธอไม่ใช่แค่เพื่อน..แต่เธอเป็นทุกสิ่งทุกอย่างสำหรับฉันแล้ว.." มือหนายกมาลูบผมฉันอย่างอ่อนโยน"..ถ้าฉันขาดเธอ ฉันขาดใจ" ปลั่ก! นั่นเป็นเสียงที่ฉันกำมือทุบไปที่อกของเขา"คนบ้า!""ใช่ ก่อนหน้าฉันเคยบ้ามาแล้ว ตั้งแต่เธอหนีไป" เทมโปพูดสวนกลับ ก่อนที่จะพ่นลมหายใจออกมาอย่างหนัก"มันคงเป็นเวรกรรมที่ฉันเคยทำกับเธอ รู้ไหมว่าฉันทรมานจนดูน่าสมเพชเอามาก ๆ เลย""ออร์แกน...ตอนที่เธอหายไปฉันยอมทิ้งทุกอย่างเพื่อตามหาเธอ""ทะ เทมโป.." ฉันเอ่ยน้ำเสียงสั่น ๆ แต่ภายในใจมันรู้สึกพองโต"ถ้าเธอไม่หนีไป วันนี้ฉันคงไม่รู้ว่าฉันรักเธอมากแค่ไหน..." คนร่างสูงโน้มหน้ามาจูบที่หน้าผากฉัน"...ขอบคุณที่สอนบทเรียนให้กับฉัน และขอบคุณที่กลับมาไม่ว่าเหตุผลที่เธอกลับมาไม่ใช่เพราะฉัน""..." เทมโปคลี่ยิ้มด้วยแววตาที่มีความสุข ใบหน้าสดใส"ถึงแม้เธอจะไม่ได้กลับมาเพราะฉัน แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้ฉันได้เจอเธอ ได้ขอโทษและได้บอกความในใจของฉันให้เธอฟัง""เทมโป..แกนก็ไม่เคยลืมนายเลยนะ" ไม่รู้อะไรดลใจ ทำให้ฉัน
จากเพื่อนสู่ผัว"กวิน กรัณย์ ออร์แกน" ฉันและลูกแฝดต่างพากันหันไปที่ต้นเสียง ซึ่งเป็นคนป่วยที่นอนอยู่เอ่ยขึ้นมา เขาลืมตามองมาที่พวกฉันแล้วค่อย ๆ หยัดกายลุกขึ้น"พ่อตื่นแล้ว" กวินบอกกับคนเป็นน้อง ก่อนจะลุกจากโซฟาเดินไปที่เตียง พร้อม ๆ กับฉันที่รีบไปประคองเขาลุกนั่ง.เทมโปคลี่ยิ้มด้วยแววตาที่มีความสุข ขณะที่ลูกแฝดขึ้นบนเก้าอี้แล้วเอ่ยถามอาการพ่อตัวเองทันที"พ่อเจ็บตรงไหนฮับ" แฝดพี่พูดแล้วใช้สายตามองไปที่เรือนร่างคนเป็นพ่อราวกับหาอะไร"พ่อรีบหายนะครับ จะได้มาเล่นกัน...." กรัณย์เอ่ยแล้วหันไปพูดกับกวิน"...ให้พ่อเป็นผู้ร้ายนะพวกเราเป็นตำรวจ""หึหึ" เทมโปหัวเราะออกมาแล้วเอื้อมไปลูบหัวลูกแฝดคนโต แล้วกำลังจะสลับไปลูบหัวคนน้องแต่เขากลับชะงัก คงจะจำวันนั้นได้วันที่กรัณย์ไม่ยอมให้เขาลูบเพราะกลัวผมเสียทรง"พ่อเป็นพ่อของกรัณย์ พ่อลูบได้ครับ" เด็กน้อยแฝดน้องพูดพร้อมกับยื่นหัวให้พ่อของเขาลูบ สร้างรอยยิ้มปนน้ำตาที่คลอเบ้าให้คนเป็นพ่อทันที"วันนี้เธอกับลูกอยู่กับฉันนะ" เทมโปหันมาพูดกับฉัน"อืม" ฉันตอบกลับสั้น ๆ แล้วคลี่ยิ้มให้"ขะ ขอบใจนะ" เทมโปกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่น ๆ"รับหายนะ..แกนอยากให้เทมโปกลับมาใ
ยังไม่ให้โอกาส"แล้วเด็กฝาแฝดนั้นเป็นลูกใคร"ฉันคลี่ยิ้มหวานแล้วดึงมือหนาเดินเข้ามาด้านในห้อง"รอตรงนี้นะ เดี๋ยวแกนจะไปพากวิน กรัณย์เข้ามา" เทมโปทำสีหน้ามึนงงปนสงสัย แต่ก็ทำตามที่ฉันสั่ง เขาเลือกที่จะเดินไปนั่งที่โซฟา จากนั้นฉันก็ออกมาจากห้องก็เห็นทุกคนต่างนั่งอยู่กันเป็นกลุ่ม"เทมโปเป็นยังบ้าง ออร์แกน" คุณน้าเรอาลุกขึ้นแล้วรีบเดินมาถามด้วยใบหน้าที่ยังมีความกังวล"ตอนนี้เทมโปโอเคขึ้นแล้วค่ะ..." ว่าจบ ฉันก็หันไปที่ลูกแฝดที่มีผู้ใหญ่ล้อมรอบอย่างอบอุ่น"...แกนขอพากวิน กรัณย์ไปหาพ่อของเขาก่อนนะคะ" คุณน้าเรอาคลี่ยิ้มแล้วเอื้อมมากุมมือของฉัน"ออร์แกน น้าขอโทษแทนเทมโปด้วยนะ..." เธอลอบหายใจเบา ๆ ก่อนที่จะเอ่ยต่อ"...ไม่คิดเลยว่าฉันจะมีหลานฝาแฝดที่น่ารักแบบนี้ ขอบคุณเธอจริง ๆ ที่เลี้ยงดูที่เกิดมาจากเทมโปมาอย่างดี" คุณน้าเรอาเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่น ๆ น้ำตาคลอเบ้า"กวิน กรัณย์ เป็นยิ่งกว่าชีวิตยังไง แกนก็ต้องเลี้ยงดูเขาให้ดีที่สุดค่ะ" คุณน้าเรอาผงกหัวรับแล้วหันไปที่ลูกชายฝาแฝดของฉัน"กวิน กรัณย์ มากับแม่" ฉันเอ่ยเรียก ทั้งคู่ก็ลุกจากเก้าอี้แล้วเดินยิ้มใบหน้าสดใสมาที่ฉัน"ลุงคนนั้นเป็นยังไงบ้างฮับ
ขอร้องOrgan"ทำไมคุณทอยคิดว่าเราสองคนแต่งงานกัน" ภิสิงห์เอ่ยถามขึ้นขณะที่ตอนนี้พวกเราต่างพากันธุระเสร็จจนกลับมาที่บ้านแล้ว ส่วนสองแฝดก็นอนหลับด้วยความเพลีย"หว่าหวาเป็นคนโกหกเองค่ะ" คนเป็นพี่หันไปที่น้องสาวของตนด้วยสีหน้าสงสัย"คือวันนั้นพวกเราเจอกับเทมโป...." หว่าหวาหยุดพูดแล้วหันมาที่ฉัน"...นายนั่นคอยเซ้าซี้แกนไม่เลิก หว่าหวาก็เลยโกหกไปว่า..""พี่กับแกนแต่งงานแล้วกวิน กรัณย์คือเป็นลูกพี่?" ภิสิงห์แทรกพูดขึ้นหว่าหวาก็ผงกหัวรับสีหน้ารู้สึกผิด"อย่าโกรธหว่าหวาเลยค่ะ แกนเองก็ไม่ทักท้วงปล่อยเลยตามเลย" ฉันพูดจบ หว่าหวาก็หันมาฉีกยิ้มให้ ขณะที่ภิสิงห์มีสีหน้าดูเครียด ราวกับมีเรื่องบางอย่างในใจ"พี่สิงห์โกรธหรอกคะ แกนขอโทษ""เปล่า พี่ไม่ได้โกรธ.." ว่าจบ ภิสิงห์ก็ลอบหายใจออกมาเบา ๆ"...ไม่นานทางนั้นก็ต้องรู้ว่าเราไม่ได้แต่งงานกันจริง ๆ""...." ฉันไม่พูดอะไรได้แต่ก้มหน้าเม้มปากทั้งสองเข้ากันแน่น ภายในใจก็คิดไว้อยู่เหมือนกัน ยิ่งวันนี้ที่เจอกับพี่ทอย เขาดูมีสีหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย ฉันคิดว่าเขาต้องไปสืบเรื่องแต่งงานที่หว่าหวากุขึ้นมาแน่"แกน..." ฉันเงยหน้าขึ้นมองไปยังพี่ชายเพื่อน"...พี่ได้ข
กลัววันนี้ฉัน หว่าหวา และภิสิงห์ต่างพากันไปดูสถานที่จัดงานแสดงเครื่องประดับ แน่นอนว่าสองแสบจะต้องไปด้วย กวิน และกรัณย์ค่อนข้างที่จะติดฉัน เพราะฉันดูแลทั้งสองคนอย่างใกล้ชิดตั้งแต่เขาเกิดมา ให้ความรัก เป็นทั้งพ่อและแม่ให้กับพวกเขา"แม่ฮับ..." บนรถของภิสิงห์ที่อาสาเป็นคนขับพาไปยังสถานที่จัดงาน อยู่ ๆ กวินก็เอ่ยขึ้น"...พ่ออยู่ไหนเหรอครับ" คำถามของลูกชายที่เป็นแฝดพี่ทำให้หัวใจฉันรู้สึกสั่น ๆ"นั่นสิครับ พ่อไปไหนเหรอ" ฉันละสายตาหันไปที่กรัณย์ที่พูดเสริมขึ้นมา หว่าหวาที่นั่งอยู่เบาะหน้าข้างคนขับ พร้อมกับภิสิงห์หันมาสบตาฉันทันที"เอ่อ...ทำไมอยู่ดี ๆ ถามขึ้นมาล่ะครับ""ก็ลุงคนนั้นถามผมยังไม่ได้ตอบเขาเลย" ลุงคนนั้น ที่กวินเอ่ยถึงก็คือเทมโป พ่อของพวกเขานั้นแหละ"พ่อทำไมไม่มาหาพวกเราเลยล่ะครับ" กรัณย์เอ่ยพร้อมกับสีหน้าเศร้า"...." ฉันนิ่งมองดูทั้งสองด้วยความสงสาร"เด็ก ๆ เดี๋ยวแวะกินไอศครีมคลายร้อนกันนะ" ภิสิงห์เอ่ยขึ้นเพื่อทำลายบรรยากาศเศร้า และดูเครียด"เย้ / เย้" พอได้ยินคำว่าไอศครีม เด็ก ๆ ก็ปรับเปลี่ยนสีหน้าดีใจทันทีจากนั้นภิสิงห์ก็ขับรถเข้าไปในห้างสรรพสินค้า เพื่อพาเด็ก ๆไปทานไอศครีมระห
พ่อของเด็กเป็นใครฉันหยุดชะงักแล้วหันไปมองใบหน้าหล่อ นิ่ง ๆ เขาก้าวขายาวเดินมายืนตรงหน้าฉันแล้วหลุบตามองไปที่กวิน และกรัณย์สลับกัน ก่อนจะย่อตัวลงคุยกับกวิน แฝดพี่ที่ฉันจับมืออยู่"พ่ออยู่ไหนครับ" เทมโปเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน"...." กวินไม่ตอบ แล้วเงยหน้าขึ้นมองฉันด้วยสีหน้ามึนงง แฝงสงสัย"คุณเป็นใครเหรอครับ" กรัณย์แฝดน้องที่หว่าหวาจับอยู่เอ่ยขึ้น ทำให้เทมโปละสายตาหันไปมองเด็กน้อย"ลุงเป็น...." เขาหยุดพูดแล้วช้อนตาขึ้นมองมาที่ฉัน ก่อนที่จะตอบกลับกรัณย์"...ลุงเป็น พะ เพื่อนแม่เราน่ะ" เทมโปพูดด้วยน้ำเสียงสั่น ๆ สีหน้าเจ็บปวด แล้วเอื้อมมือไปลูบที่หัวกรัณย์ แต่ทว่า"อย่าลูบ เดี๋ยวผมเสียทรง" แฝดคนน้องผละหัวหนีออก ทำให้มือหนาชะงักแล้วหัวเราะปนเศร้าเบา ๆ"เหอะ" ไม่รู้ซะแล้วว่ากรัณย์ห่วงหล่อขนาดไหน"แล้วพ่อไปไหนเหรอครับ" ในเมื่อถามกวินแล้วไม่ได้คำตอบ เขาจึงเลือกถามแฝดน้องแทน"...." กรัณย์ ส่ายหัวแล้วก้มหน้าลงด้วยใบหน้าเศร้า ทำเอาหัวใจฉันวูบไหวสงสารลูก"พอสักทีเถอะ..เลิกยุ่งเรื่องของแกนได้แล้ว" พูดจบ ฉันก็พากวิน และหว่าหวาจูงมือกรัณย์เดินหนีมา"ออร์แกน...ออร์แกน""อย่าตามมานะ!" ฉันหันไปตวา