กดขี่ห่มเหง
หลังจากเยี่ยมว่าที่พี่สะใภ้ของเทมโปเรียบร้อย เขาก็ขับรถพาฉันมายังมหาวิทยาลัย น่าแปลกใจที่เทมโปกลับขับรถไปจอดที่มุม ๆ หนึ่งซึ่งไม่ใช่ที่จอดรถของคณะ
"เทมโปทำไมถึงจอดรถตรงนี้ทำไมถึงไม่จอดที่..."ยังพูดไม่จบประโยคเทมโปก็แทรกพูดขึ้นทำเอาหัวใจฉันเต้นแทบไม่เป็นจังหวะด้วยความตื่นตระหนกตกใจ ไม่นึกว่าเขาจะมีความคิดบ้า ๆ แบบนี้
"อยากเอา..."เขาแสยะยิ้มร้ายราวกับว่าตัวเองอยู่เหนือกว่า ต้องการอะไรก็ต้องได้ ฉันรู้สึกเจ็บใจตัวเองซะมัดที่ต้องยอมให้เขากระทำตามอำเภอใจแบบนี้
"...เมื่อคืนไม่ได้เอาเลย"
"แต่เราต้องเข้าเรียนแล้ว"ฉันพูดพร้อมยกแขนโชว์นาฬิกาข้อมือให้เขาดู
"ขาดแค่วิชาเดียวเกรดเธอคงไม่ตกหรอก"ฉันขบกรามไว้แน่น รู้สึกไม่พอใจกับคำพูดของเขาเลย เห็นแก่ตัวที่สุด
"หลังเลิกเรียนได้ไหม"
"ไม่! ฉันอยากตอนนี้"เขาตวาดกลับในขณะที่ใช้มือลูบที่เป้ากางเกงตัวเอง
"เทมโป..อ๊ะ!"ยังพูดไม่ทันจบ เทมโปก็ใช้มือหนากระชากร่างฉันเข้าไปในระยะประชิด แล้วจับปลายคางฉันเชิดขึ้น ก่อนจะใช้นิ้วโป้งเกลี่ยที่บริเวณริมฝีปากของฉัน
"ปากเธอสวยดี..งั้นก็เอาปากเธอทำให้ฉันล่ะกัน"พูดจบเทมโปก็ปลดเข็มขัดรูดซิบกางเกงลงมาระดับหนึ่ง ฉันนั่งตัวสั่นกลืนน้ำลายเฮือกใหญ่ เมื่อเห็นท่อนเอ็นขนาดใหญ่ตั้งชูชันต่อหน้า
"เร็ว ๆ สิ อย่าลีลา!"เขาหันมาตวาดอย่างไม่สบอารมณ์ และแน่นอนว่าฉันต้องทำตามคำสั่งเขา โดยปฏิเสธอะไรไม่ได้เลย
ฉันโน้มกายลงมาแล้วใช้มือเล็ก ๆ จับไปที่ท่อนเอ็นแข็งขนาดใหญ่กว่ามือ ก่อนจะรูดขึ้นลง โดยใช้หัวแม่มือเกลี่ยกลึงไปที่ปลายหัวหยัก
"อื้มมม"เสียงครางออกจากบาง ๆ ตามไรฟันของคนตัวโตอย่างพอใจ จากนั้นฉันก็ใช้ปากครอบแท่งร้อนเข้าไปแล้วผงกหัวรูดขึ้น รูดลง บำเรอความใคร่ให้กับเขา ก่อนจะใช้ลิ้นตวัดดูดที่ปลายหัวหยักอย่างระมัดระวังไม่ใช้ฟันโดนจุดที่บอบเบา
"เธอเก่งขึ้นเยอะเลยนะ ออร์แกน อ่า.."เขาเอ่ยชมด้วยน้ำเสียงกระเส่า พร้อมกับกระตุนแก่นกายเป็นระยะ
"..."ฉันไม่ได้สนใจคำชมนั้นเลยเพราะตอนนี้อยากจะทำให้มันจบ ๆ เพราะในหัวของฉันต้องการที่จะเข้าเรียนให้ทันวิชาแรก
"ซี๊ดดด อ๊าส์ ใกล้แล้วออร์แกน"ฉันเร่งสปีดให้เร็วและรัวขึ้นเพื่อให้เจ้าของท่อนเอ็นได้ปลดปล่อยออกมาสักทีมันจะได้จบ!
"อ๊ากกกกกก"น้ำคาวขาวขุ่นพ่นเข้ามาในปากฉันโดยตรง ฉันหลับตาทนกลืนมันลงคอมันไปทันที เพราะถ้าคายออกก็คงจะต้องโดนสั่งให้กลืนอยู่ดี มือหนาของเทมโปลูบที่หัวฉันอย่างอ่อนโยน ใช่สิเขาคงพอใจมากกับการกระทำของฉัน
จากนั้นฉันก็เลียบริเวณส่วนของแท่งร้อนให้อย่างสะอาดก่อนที่จะถอนปากออก แล้วหยิบทิชชูมาเช็ดปากตัวเอง
"ไปได้แล้ว"ชายหนุ่มเอ่ยบอกขณะที่กำลังสวมใส่กางเกง พอสิ้นเสียงฉันก็หยิบกระเป๋า แล้วเปิดประตูลงจากรถทันที
"ยังพอมีเวลา"พอเดินมาถึงตึกคณะ ฉันก็ยกแขนดูนาฬิกาอย่างพอใจที่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาเข้าเรียนจึงตัดสินใจเข้าห้องน้ำทำธุระส่วนตัวเสียก่อน
ฉันส่องกระจกดูใบหน้าตัวเองก็พบว่าริมฝีปากจืดซีด จึงหยิบลิบสติกขึ้นมาทา ก่อนจะเดินออกจากห้องน้ำเพื่อไปยังห้องเรียน ระหว่างทางสายตาก็เหลือบไปเห็นนักศึกษาชายหญิงคู่หนึ่งยืนจูบแลกลิ้นกันอย่างโจ่งแจ้ง หัวใจดวงน้อยฉันเกิดเต้นแรงขึ้นมาซะงั้น ไม่เขาใจอารมณ์ของตัวเองเลย ว่าโกรธหรือหึงหวงชายหนุ่มที่กำลังแลกจูบกับหญิงสาวอยู่ แน่นอนว่าชายหนุ่มที่ฉันเห็นนั้นก็คือคนที่ฉันสนองความใคร่ไปให้เขาเมื่อกี้นี้เอง
"เทมโป"ฉันเอ่ยชื่อเขาเบา ๆ แล้วก็หยุดชะงัก เมื่อทั้งคู่หันมาที่ฉัน ฝ่ายชายละจูบหญิงสาวแล้วเดินตรงมาที่ฉัน
"วันนี้กลับบ้านเองนะ"
"อืม"สิ้นเสียงเทมโปก็เดินกลับไปโอบไหล่หญิงสาวเข้าไปในห้องเรียน ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
พอเลิกเรียนฉันก็เก็บของใส่กระเป๋ารีบเดินออกจากห้องโดยที่ไม่ทักทายใครเลย ฉันเลือกที่จะนั่งแท็กซี่ไปยังคอนโดเทมโปเพราะว่าต้องไปเอารถของตัวเอง
ระหว่างที่กำลังขับรถกลับบ้าน ในหัวก็ผุดเรื่องราวของฉันกับเทมโปขึ้นมา รวมถึงเหตุการณ์ที่ฉันได้เจอในวันนี้ อยู่ ๆ น้ำตาก็ไหลออกมา และรู้สึกเจ็บปวดที่หัวใจเอามาก ๆ ขณะที่อาจารย์สอนอยู่ฉันเห็นเทมโปคอยหยอกล้อหญิงสาวที่ยืนจูบกันหน้าห้องอย่างไม่สนใจใครเลย มันทำให้ฉันรู้สึกหน่วง ๆ ในใจอย่างบอกไม่ถูก จากวันนั้นที่ฉันต้องยอมเป็นทั้งเบ้ และนางบำเรอให้กับเขา ยอมรับว่าโกรธและเกลียดเขามาก ภาวนากับตัวเองตลอดว่าถ้าเรียนจบกันไปแล้ว ฉันจะไม่ยุ่งเกี่ยวอะไรกับเขาอีกเด็ดขาด แต่พอเห็นภาพบาดตาบาดใจหลายต่อหลายครั้งฉันก็รู้สึกสับสนตัวเองว่าฉันเกลียดเขา หรือยังรักเขาอยู่กันแน่ ทั้งที่เขาคอยกดขี่ห่มเหงฉันตลอด ไม่เข้าใจความรู้สึกตัวเองเลยจริง ๆ
"ฮึก..ฮือออ"ฉันรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจตัวเองจึงกรีดร้องออกมาอย่างไม่อดกลั้นภายในรถ
"กลับมาแล้วเหรอ..."พอมาถึงบ้านฉันก็ลงจากรถเดินเข้าไปในบ้านก็เจอกับแม่เข้าพอดี
"...หิวไหมแม่ทำของโปรดไว้ให้ด้วยนะ"ฉันจ้องหน้าแม่แล้วขมวดคิ้วสงสัย ทำไมแม่รู้ว่าฉันจะกลับวันนี้
"เทมโปโทรมาบอกแม่น่ะ ว่างานเสร็จแล้วลูกจะกลับบ้านวันนี้"ฉันผงกหัวรับอย่างเข้าใจ
"เดี๋ยวแกนไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะ"กำลังจะก้าวขาเดิน แม่ก็คว้าแขนฉันไว้
"ทำไมสีหน้าไม่ดีเลย เหนื่อยเหรอ"แม่เอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง
"นิดหน่อยค่ะ"ฉันตอบกลับแล้วลอบหายใจเบา ๆ มันเหนื่อยทั้งกายและใจเลยแหละ
"อย่าหักโหมเกินไปนะ..."แม่ยกมือลูบที่หัวฉัน
"...พ่อกับแม่เป็นห่วง"
"ค่ะ"ฉันคลี่ยิ้มบาง ๆ ให้ผู้เป็นแม่
"จริงสิ เราไม่ได้ไปเที่ยวพักผ่อนกันนานแล้ว อาทิตย์เราไปเที่ยวกันดีไหม ถือว่าเป็นการพักผ่อนไปในตัว"พอแม่พูดจบฉันก็ฉีกยิ้มกว้าง เพราะภาพครอบครัวที่เคยไปเที่ยวพักผ่อนกันผุดขึ้นมาในหัว มันช่างเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขมาก
"ไปค่ะ แกนอยากไป"ฉันรีบตอบกลับทันที
"ถ้างั้นเดี๋ยวแม่จะบอกกับพ่อให้"ฉันโผเข้ากอดแม่อย่างดีใจ
อาหารค่ำ เราสามคนพ่อแม่ลูกก็นั่งทานข้าวพร้อมหน้าพร้อมตา และได้พูดคุยกันเรื่องที่จะไปเที่ยวพักผ่อนกัน ซึ่งพ่อฉันก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไรยินดีที่จะพาแม่กับฉันไปเที่ยวอย่างเต็มใจ
"ไปที่ไหนกันดีล่ะ"พ่อเอ่ยถามแล้วมองมาที่แม่สลับมาที่ฉัน
"พัทยาก็ได้ใกล้ ๆ..."แม่เป็นคนตอบแล้วหันมาที่ฉัน
"..โอเคไหมออร์แกน"
"แกนไปที่ไหนก็ได้ขอแค่มีพ่อกับแม่ไปด้วยก็พอ"ฉันพูดออดอ้อนแม่ตัวเอง
"โตแล้วยังติดพ่อกับแม่อีก"พ่อพูดขึ้นแล้วอมยิ้มพร้อมกับส่ายหน้า
"นั่นสิ ออร์แกนโตแล้วนะ เมื่อไหร่จะมีแฟนกับเขาสักที"สิ้นประโยค ฉันก็เกิดสำลักน้ำที่กำลังยกดื่มทันที
"แค่ก ๆ"
"ค่อย ๆ กิน"แม่บอกก่อนจะดึงทิชชูมาให้
"ขอบคุณค่ะ"ฉันรับมาแล้วคลี่ยิ้มเจื่อน ๆ
"ลูกสาวแม่ก็ออกจะสวยทำไมไม่มีคนจีบนะ"
"แม๊.."ฉันเรียกแม่เสียงสูงทันที ทำให้ทั้งพ่อกับแม่ต่างพากันหัวเราะชอบใจ
"...แกนยังไม่คิดเรื่องนั้น"จริง ๆ ฉันก็เคยคิด แต่ผิดหวังค่ะ ตอนนี้เลยไม่อยากคิดแล้ว
เช้าวันต่อมา
ฉันมาเรียนตามปกติซึ่งวันนี้เป็นวันสุดท้ายของสัปดาห์ ขณะที่ฉันนั่งอ่านหนังสืออยู่ จู่ ๆ ก็มึแฟ้มรายงานโยนมาตกตรงหน้าฉัน พรึ่บ! พอเงยหน้าขึ้นมองก็เป็นฝีมือของเทมโปนั่นเอง
"ช่วยตรวจให้ฉันหน่อย"ไม่แค่เทมโป ฝนก็เดินเข้ามายื่นแฟ้มรายงานให้ฉันอีกคน
"ตรวจให้ฉันด้วย"ฉันไม่รับแล้วก็พูดขึ้น
"เธอก็ตรวจเองสิ"
"ไหน ๆ เธอก็ต้องตรวจให้เทมโปอยู่แล้วตรวจให้ฉันอีกคนจะเป็นไร"ฉันเบือนหน้าไปลอบหายใจอย่างเอือมระอา
"ฝน เกรงใจออร์แกนบ้างเถอะ"นั่นเป็นดีแลนที่พูด
"นั่นสิ ตรวจเองได้ก็ตรวจเองเถอะ"เจมส์เสริม
"พวกนายไม่ต้องมายุ่ง"ในหันไปตวาดใส่ทั้งสอง ก่อนจะไปคล้องแขนเทมโปที่ยืนอยู่ข้าง ๆ
"เทมโปช่วยพูดให้แกนทำให้ฉันด้วยสิ นะ ๆ"เธอใช้น้ำเสียงออดอ้อนเทมโปแล้วใช้หน้าอกถูที่แขนเขาด้วย เทมโปยกยิ้มมุมปาก ก่อนจะดึงแฟ้มรายงานของฝนยื่นมาให้ฉัน
"ทำให้ฝนด้วย ฉันจ่ายสองเท่า"
"ฉันไม่ทำ!"
"เธอคิดจะขัดคำสั่งฉัน?"เทมโปส่งน้ำเสียงแข็งกร้าว แบบดุ ๆ
"..."ฉันได้แต่นั่งนิ่งก้มหน้าเม้มปากทั้งสองแน่นด้วยความเจ็บใจ พรึ่บ! เสียงแฟ้มรายงานโยนลงมาตรงหน้าอีกครั้ง.
"เราไปกันเถอะ"เทมโปหันไปบอกเพื่อน ๆ พร้อมกับโอบไหล่ฝนแล้วหันหลังเดินไป
"เทมโปใจดีที่สุด"เสียงฝนพูดอย่างดีใจ
"ฉันไม่ได้ช่วยฟรี ๆ มันต้องมีอะไรแลกเปลี่ยน"
"ได้สิ..คืนนี้เจอกันที่เดิม"ฉันได้ยินบทสนทนาทั้งคู่ก็กำหมัดไว้แน่น มองแผ่นหลังด้วยความแค้นใจ
.........
ตอนจบ"เทมโป..." ใบหน้าหล่อคมคายหันมาจ้องที่ฉัน"...แกนจะไม่เป็นแค่เพื่อนอีกต่อไปใช่ไหม" เทมโปคลี่ยิ้มออกมาหลังจากที่ฉันพูดจบ"เธอไม่ใช่แค่เพื่อน..แต่เธอเป็นทุกสิ่งทุกอย่างสำหรับฉันแล้ว.." มือหนายกมาลูบผมฉันอย่างอ่อนโยน"..ถ้าฉันขาดเธอ ฉันขาดใจ" ปลั่ก! นั่นเป็นเสียงที่ฉันกำมือทุบไปที่อกของเขา"คนบ้า!""ใช่ ก่อนหน้าฉันเคยบ้ามาแล้ว ตั้งแต่เธอหนีไป" เทมโปพูดสวนกลับ ก่อนที่จะพ่นลมหายใจออกมาอย่างหนัก"มันคงเป็นเวรกรรมที่ฉันเคยทำกับเธอ รู้ไหมว่าฉันทรมานจนดูน่าสมเพชเอามาก ๆ เลย""ออร์แกน...ตอนที่เธอหายไปฉันยอมทิ้งทุกอย่างเพื่อตามหาเธอ""ทะ เทมโป.." ฉันเอ่ยน้ำเสียงสั่น ๆ แต่ภายในใจมันรู้สึกพองโต"ถ้าเธอไม่หนีไป วันนี้ฉันคงไม่รู้ว่าฉันรักเธอมากแค่ไหน..." คนร่างสูงโน้มหน้ามาจูบที่หน้าผากฉัน"...ขอบคุณที่สอนบทเรียนให้กับฉัน และขอบคุณที่กลับมาไม่ว่าเหตุผลที่เธอกลับมาไม่ใช่เพราะฉัน""..." เทมโปคลี่ยิ้มด้วยแววตาที่มีความสุข ใบหน้าสดใส"ถึงแม้เธอจะไม่ได้กลับมาเพราะฉัน แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้ฉันได้เจอเธอ ได้ขอโทษและได้บอกความในใจของฉันให้เธอฟัง""เทมโป..แกนก็ไม่เคยลืมนายเลยนะ" ไม่รู้อะไรดลใจ ทำให้ฉัน
จากเพื่อนสู่ผัว"กวิน กรัณย์ ออร์แกน" ฉันและลูกแฝดต่างพากันหันไปที่ต้นเสียง ซึ่งเป็นคนป่วยที่นอนอยู่เอ่ยขึ้นมา เขาลืมตามองมาที่พวกฉันแล้วค่อย ๆ หยัดกายลุกขึ้น"พ่อตื่นแล้ว" กวินบอกกับคนเป็นน้อง ก่อนจะลุกจากโซฟาเดินไปที่เตียง พร้อม ๆ กับฉันที่รีบไปประคองเขาลุกนั่ง.เทมโปคลี่ยิ้มด้วยแววตาที่มีความสุข ขณะที่ลูกแฝดขึ้นบนเก้าอี้แล้วเอ่ยถามอาการพ่อตัวเองทันที"พ่อเจ็บตรงไหนฮับ" แฝดพี่พูดแล้วใช้สายตามองไปที่เรือนร่างคนเป็นพ่อราวกับหาอะไร"พ่อรีบหายนะครับ จะได้มาเล่นกัน...." กรัณย์เอ่ยแล้วหันไปพูดกับกวิน"...ให้พ่อเป็นผู้ร้ายนะพวกเราเป็นตำรวจ""หึหึ" เทมโปหัวเราะออกมาแล้วเอื้อมไปลูบหัวลูกแฝดคนโต แล้วกำลังจะสลับไปลูบหัวคนน้องแต่เขากลับชะงัก คงจะจำวันนั้นได้วันที่กรัณย์ไม่ยอมให้เขาลูบเพราะกลัวผมเสียทรง"พ่อเป็นพ่อของกรัณย์ พ่อลูบได้ครับ" เด็กน้อยแฝดน้องพูดพร้อมกับยื่นหัวให้พ่อของเขาลูบ สร้างรอยยิ้มปนน้ำตาที่คลอเบ้าให้คนเป็นพ่อทันที"วันนี้เธอกับลูกอยู่กับฉันนะ" เทมโปหันมาพูดกับฉัน"อืม" ฉันตอบกลับสั้น ๆ แล้วคลี่ยิ้มให้"ขะ ขอบใจนะ" เทมโปกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่น ๆ"รับหายนะ..แกนอยากให้เทมโปกลับมาใ
ยังไม่ให้โอกาส"แล้วเด็กฝาแฝดนั้นเป็นลูกใคร"ฉันคลี่ยิ้มหวานแล้วดึงมือหนาเดินเข้ามาด้านในห้อง"รอตรงนี้นะ เดี๋ยวแกนจะไปพากวิน กรัณย์เข้ามา" เทมโปทำสีหน้ามึนงงปนสงสัย แต่ก็ทำตามที่ฉันสั่ง เขาเลือกที่จะเดินไปนั่งที่โซฟา จากนั้นฉันก็ออกมาจากห้องก็เห็นทุกคนต่างนั่งอยู่กันเป็นกลุ่ม"เทมโปเป็นยังบ้าง ออร์แกน" คุณน้าเรอาลุกขึ้นแล้วรีบเดินมาถามด้วยใบหน้าที่ยังมีความกังวล"ตอนนี้เทมโปโอเคขึ้นแล้วค่ะ..." ว่าจบ ฉันก็หันไปที่ลูกแฝดที่มีผู้ใหญ่ล้อมรอบอย่างอบอุ่น"...แกนขอพากวิน กรัณย์ไปหาพ่อของเขาก่อนนะคะ" คุณน้าเรอาคลี่ยิ้มแล้วเอื้อมมากุมมือของฉัน"ออร์แกน น้าขอโทษแทนเทมโปด้วยนะ..." เธอลอบหายใจเบา ๆ ก่อนที่จะเอ่ยต่อ"...ไม่คิดเลยว่าฉันจะมีหลานฝาแฝดที่น่ารักแบบนี้ ขอบคุณเธอจริง ๆ ที่เลี้ยงดูที่เกิดมาจากเทมโปมาอย่างดี" คุณน้าเรอาเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่น ๆ น้ำตาคลอเบ้า"กวิน กรัณย์ เป็นยิ่งกว่าชีวิตยังไง แกนก็ต้องเลี้ยงดูเขาให้ดีที่สุดค่ะ" คุณน้าเรอาผงกหัวรับแล้วหันไปที่ลูกชายฝาแฝดของฉัน"กวิน กรัณย์ มากับแม่" ฉันเอ่ยเรียก ทั้งคู่ก็ลุกจากเก้าอี้แล้วเดินยิ้มใบหน้าสดใสมาที่ฉัน"ลุงคนนั้นเป็นยังไงบ้างฮับ
ขอร้องOrgan"ทำไมคุณทอยคิดว่าเราสองคนแต่งงานกัน" ภิสิงห์เอ่ยถามขึ้นขณะที่ตอนนี้พวกเราต่างพากันธุระเสร็จจนกลับมาที่บ้านแล้ว ส่วนสองแฝดก็นอนหลับด้วยความเพลีย"หว่าหวาเป็นคนโกหกเองค่ะ" คนเป็นพี่หันไปที่น้องสาวของตนด้วยสีหน้าสงสัย"คือวันนั้นพวกเราเจอกับเทมโป...." หว่าหวาหยุดพูดแล้วหันมาที่ฉัน"...นายนั่นคอยเซ้าซี้แกนไม่เลิก หว่าหวาก็เลยโกหกไปว่า..""พี่กับแกนแต่งงานแล้วกวิน กรัณย์คือเป็นลูกพี่?" ภิสิงห์แทรกพูดขึ้นหว่าหวาก็ผงกหัวรับสีหน้ารู้สึกผิด"อย่าโกรธหว่าหวาเลยค่ะ แกนเองก็ไม่ทักท้วงปล่อยเลยตามเลย" ฉันพูดจบ หว่าหวาก็หันมาฉีกยิ้มให้ ขณะที่ภิสิงห์มีสีหน้าดูเครียด ราวกับมีเรื่องบางอย่างในใจ"พี่สิงห์โกรธหรอกคะ แกนขอโทษ""เปล่า พี่ไม่ได้โกรธ.." ว่าจบ ภิสิงห์ก็ลอบหายใจออกมาเบา ๆ"...ไม่นานทางนั้นก็ต้องรู้ว่าเราไม่ได้แต่งงานกันจริง ๆ""...." ฉันไม่พูดอะไรได้แต่ก้มหน้าเม้มปากทั้งสองเข้ากันแน่น ภายในใจก็คิดไว้อยู่เหมือนกัน ยิ่งวันนี้ที่เจอกับพี่ทอย เขาดูมีสีหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย ฉันคิดว่าเขาต้องไปสืบเรื่องแต่งงานที่หว่าหวากุขึ้นมาแน่"แกน..." ฉันเงยหน้าขึ้นมองไปยังพี่ชายเพื่อน"...พี่ได้ข
กลัววันนี้ฉัน หว่าหวา และภิสิงห์ต่างพากันไปดูสถานที่จัดงานแสดงเครื่องประดับ แน่นอนว่าสองแสบจะต้องไปด้วย กวิน และกรัณย์ค่อนข้างที่จะติดฉัน เพราะฉันดูแลทั้งสองคนอย่างใกล้ชิดตั้งแต่เขาเกิดมา ให้ความรัก เป็นทั้งพ่อและแม่ให้กับพวกเขา"แม่ฮับ..." บนรถของภิสิงห์ที่อาสาเป็นคนขับพาไปยังสถานที่จัดงาน อยู่ ๆ กวินก็เอ่ยขึ้น"...พ่ออยู่ไหนเหรอครับ" คำถามของลูกชายที่เป็นแฝดพี่ทำให้หัวใจฉันรู้สึกสั่น ๆ"นั่นสิครับ พ่อไปไหนเหรอ" ฉันละสายตาหันไปที่กรัณย์ที่พูดเสริมขึ้นมา หว่าหวาที่นั่งอยู่เบาะหน้าข้างคนขับ พร้อมกับภิสิงห์หันมาสบตาฉันทันที"เอ่อ...ทำไมอยู่ดี ๆ ถามขึ้นมาล่ะครับ""ก็ลุงคนนั้นถามผมยังไม่ได้ตอบเขาเลย" ลุงคนนั้น ที่กวินเอ่ยถึงก็คือเทมโป พ่อของพวกเขานั้นแหละ"พ่อทำไมไม่มาหาพวกเราเลยล่ะครับ" กรัณย์เอ่ยพร้อมกับสีหน้าเศร้า"...." ฉันนิ่งมองดูทั้งสองด้วยความสงสาร"เด็ก ๆ เดี๋ยวแวะกินไอศครีมคลายร้อนกันนะ" ภิสิงห์เอ่ยขึ้นเพื่อทำลายบรรยากาศเศร้า และดูเครียด"เย้ / เย้" พอได้ยินคำว่าไอศครีม เด็ก ๆ ก็ปรับเปลี่ยนสีหน้าดีใจทันทีจากนั้นภิสิงห์ก็ขับรถเข้าไปในห้างสรรพสินค้า เพื่อพาเด็ก ๆไปทานไอศครีมระห
พ่อของเด็กเป็นใครฉันหยุดชะงักแล้วหันไปมองใบหน้าหล่อ นิ่ง ๆ เขาก้าวขายาวเดินมายืนตรงหน้าฉันแล้วหลุบตามองไปที่กวิน และกรัณย์สลับกัน ก่อนจะย่อตัวลงคุยกับกวิน แฝดพี่ที่ฉันจับมืออยู่"พ่ออยู่ไหนครับ" เทมโปเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน"...." กวินไม่ตอบ แล้วเงยหน้าขึ้นมองฉันด้วยสีหน้ามึนงง แฝงสงสัย"คุณเป็นใครเหรอครับ" กรัณย์แฝดน้องที่หว่าหวาจับอยู่เอ่ยขึ้น ทำให้เทมโปละสายตาหันไปมองเด็กน้อย"ลุงเป็น...." เขาหยุดพูดแล้วช้อนตาขึ้นมองมาที่ฉัน ก่อนที่จะตอบกลับกรัณย์"...ลุงเป็น พะ เพื่อนแม่เราน่ะ" เทมโปพูดด้วยน้ำเสียงสั่น ๆ สีหน้าเจ็บปวด แล้วเอื้อมมือไปลูบที่หัวกรัณย์ แต่ทว่า"อย่าลูบ เดี๋ยวผมเสียทรง" แฝดคนน้องผละหัวหนีออก ทำให้มือหนาชะงักแล้วหัวเราะปนเศร้าเบา ๆ"เหอะ" ไม่รู้ซะแล้วว่ากรัณย์ห่วงหล่อขนาดไหน"แล้วพ่อไปไหนเหรอครับ" ในเมื่อถามกวินแล้วไม่ได้คำตอบ เขาจึงเลือกถามแฝดน้องแทน"...." กรัณย์ ส่ายหัวแล้วก้มหน้าลงด้วยใบหน้าเศร้า ทำเอาหัวใจฉันวูบไหวสงสารลูก"พอสักทีเถอะ..เลิกยุ่งเรื่องของแกนได้แล้ว" พูดจบ ฉันก็พากวิน และหว่าหวาจูงมือกรัณย์เดินหนีมา"ออร์แกน...ออร์แกน""อย่าตามมานะ!" ฉันหันไปตวา