Home / รักโบราณ / ขยะผู้นี้ข้ายกให้เจ้า / บทที่ 1 เกล็ดหิมะสลายวิญญาณ

Share

ขยะผู้นี้ข้ายกให้เจ้า
ขยะผู้นี้ข้ายกให้เจ้า
Author: BigM00N

บทที่ 1 เกล็ดหิมะสลายวิญญาณ

Author: BigM00N
last update Last Updated: 2025-05-19 18:59:01

ท่ามกลางลมพายุโหมที่กระหน่ำ สายลมและสายฝนที่โปรยปรายลงมาตกกระทบหลังคาและหน้าต่าง ส่งเสียงดังราวกับธรรมชาติกำลังโกรธเกรี้ยว แม้ว่าจะอยู่ภายใต้ลมพายุที่โหมกระหน่ำแต่หัวใจของหลินเหม่ยเหยากลับสงบนิ่งเป็นอย่างยิ่ง ความเจ็บปวดความรวดร้าวตามร่างกายไม่ได้ส่งผลต่อใดๆ ต่อ นางอีกต่อไปแล้ว หยาดน้ำตาบนใบหน้าของนางแห้งเหือดไปนานแล้ว พร้อมกับลูกในท้องที่สูญเสียไป สิ่งเดียวที่เหลืออยู่ในยามนี้ก็คือความเจ็บปวดในหัวใจของนางเพียงเท่านั้น

“เหยาเหยา ขอเพียงเจ้ายินดีปลิดชีพของตนเอง สกุลซ่งของท่านพี่ก็จะไร้ซึ่งข้อกังขา ฮูหยินที่มาจากครอบครัวของฆาตกรที่เป็นกบฏเช่นเจ้ามีแต่ฉุดดึงให้ท่านพี่ต้องต้อยต่ำลง ดังนั้นการตายของเจ้าจึงเป็นเรื่องที่จะสามารถช่วยเขาให้หลุดพ้นได้” คำพูดของหยางสุ่ยเซียนทำให้หลินเหม่ยเหยาหัวเราะออกมาในทันที

“เหตุใดข้าต้องช่วยเขาด้วยเล่า ตอนที่ท่านพ่อของข้าถูกกรมอาญาไต่สวนหากไม่เป็นเพราะเขาไปเป็นพยานว่าท่านพ่อของข้าเคยปรุงยาพิษชนิดนั้นมีหรือที่ท่านพ่อของข้าจะถูกประหาร และคนในสกุลหลินของข้าจะกลายเป็นกบฏเช่นนี้” หยางสุ่ยเซียนพูดพลางหลั่งน้ำตาที่แห้งเหือดไปแล้วออกมาอีกครั้ง

“ต้องโทษที่ท่านพ่อของเจ้าปรุงยาพิษชนิดนั้นได้ หากมีคนพบเบาะแสข้อนี้เข้าท่านพ่อของเจ้าก็จะได้รับโทษประหารอยู่ดี คนสกุลหลินกลายเป็นกบฏแล้วลูกเขยคนโตเช่นเขาหากไม่ออกหน้าทำอะไรสักอย่างก็ย่อมจะต้องพลอยโดนหางเลขไปด้วยแน่ ดังนั้นการที่เขาออกหน้าไปเป็นพยานเช่นนี้ก็เป็นเรื่องที่ไม่ได้ผิดอะไร” คำพูดของหยางสุ่ยเซียนทำให้หลินเหม่ยเหยาหัวเราะออกมาด้วยความแค้นใจ หยาดน้ำตาแห่งความเจ็บปวดยังไม่ทันเหือดหายไปจากใบหน้า สายตาของนางที่จ้องหยางสุ่ยเซียนและคนที่ยืนนิ่งอยู่หลังฉากกั้นด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเจ็บแค้น

“เขาน่ะหรือไม่ได้ทำผิด คนที่ให้ร้ายท่านพ่อของข้าก็คือเขา คนที่ออกหน้าไปเป็นพยานก็คือเขา แล้วยังมาใช้ข้ออ้างว่าเพื่อให้ตนเองหลุดพ้นจากร่างแห หากท่านพ่อของข้าไม่ได้ถูกเขาให้ร้ายมีหรือที่จะถูกไต่สวน และตอนไต่ส่วนหากเขาไม่ได้ไปเป็นพยานและนำหลักฐานเท็จไปยืนยันที่ศาลท่านพ่อของข้าจะถูกตัดสินว่ามีความผิดได้อย่างไร” คำพูดของหลินเหม่ยเหยาทำให้บุรุษที่ยืนอยู่หลังฉากกั้นเดินเข้ามาหยุดยืนอยู่ตรงหน้านางพลางจ้องมองนางด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเย็นชาในทันที

“นั่นก็ต้องโทษท่านพ่อของเจ้าที่เขามีฐานะเป็นถึงหัวหน้าสำนักแพทย์หลวงแต่กลับลุ่มหลงในศาสตร์วิชาการปรุงพิษ ข้าเฝ้าย้ำเตือนเขาเท่าไหร่เขาก็ไม่ฟัง แล้วสุดท้ายเป็นอย่างไรเล่า พอมีคนในวังตายเพราะยาพิษคนที่จะกลายเป็นผู้ต้องสงสัยอันดับหนึ่งย่อมไม่พ้นท่านพ่อของเจ้ามิใช่หรือ ข้าก็แค่ทำตัวไหลไปตามน้ำเพื่อเอาตัวรอดเพียงเท่านั้น” คำพูดของซ่งเสวี่ยหรงทำให้หลินเหม่ยเหยาได้แต่หลั่งน้ำตาออกมาด้วยความช้ำใจ เมื่อได้เห็นหยาดน้ำตาของนางเขาจึงได้เอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง

“เหยาเหยา ความรักที่ข้ามอบให้เจ้านั้นมาจากใจจริงของข้า แต่อย่างที่เจ้ารู้ข้าคือบุตรชายคนโตของสกุลซ่ง สกุลของข้าจะรุ่งโรจน์หรือว่าดำดิ่งลงเหวล้วนขึ้นอยู่กับการกระทำของข้า ดังนั้นข้าจึงจำเป็นต้องทำเช่นนั้น ความรักความผูกพันระหว่างพวกเราไม่อาจจะนำพาวงศ์สกุลของข้าขึ้นสู่ที่สูงได้ ดังนั้นสิ่งที่ข้าทำได้ก็มีแค่เพียงการพยายามตัดใจจากเจ้าเพียงเท่านั้น และวิธีการที่ดีที่สุดในยามนี้ก็คือทำให้เจ้าหายไปจากโลกใบนี้เสีย จึงจะเป็นการดีที่สุดสำหรับข้าและสกุลซ่งของข้า” เมื่อเขาพูดเช่นนี้หลินเหม่ยเหยาก็ส่ายหน้า

“หากข้าตายตอนนี้ท่านไม่กลัวคำครหาหรือ ครอบครัวของข้าถูกประหารได้ไม่นาน ตัวข้าก็ต้องมาตายในสกุลซ่งเช่นนี้ ท่านไม่กลัวว่าคนอื่นจะล่วงรู้ว่าท่านลงมือกำจัดข้าเพื่อตัดขาดกับสกุลหลินหรือ” เมื่อหลินเหม่ยเหยาพูดเช่นนี้ซ่งเสวี่ยหรงก็ส่ายหน้า

“ผู้อื่นจะคิดเช่นไรกับเรื่องนี้ข้าไม่ได้สนใจ ข้าสนใจเพียงแค่ความคิดของท่านผู้สำเร็จราชการเพียงเท่านั้น” เมื่อซ่งเสวี่ยหรงพูดเช่นนี้หลินเหม่ยเหยาก็พลันเข้าใจในทันที

“ที่แท้ท่านก็ยอมรับแล้วว่าท่านขี้ขลาด ฮ่า ฮ่า ฮ่า สุ่ยเซียนเอ๋ยสุ่ยเซียน เสียทีที่เจ้ามักจะคิดว่าตนเองฉลาดเหนือกว่าข้า ผลสุดท้ายเจ้าเองก็โง่งมไม่ต่างกันกับข้าหรอก ชายผู้นี้รับเจ้าเข้าจวนมาก็เพราะคิดว่าพี่ชายต่างมารดาผู้นั้นจะเห็นแก่หน้าของเจ้าเพียงเท่านั้น เพ่ย เขาหรือจะเห็นแก่หน้าของเจ้า เขาเกลียดชังเจ้าจะตายไปในสายตาของเขาเจ้าก็เป็นแค่เศษสวะที่เกะกะเขาในจวนสกุลหยางเพียงเท่านั้น” เมื่อหลินเหม่ยเหยาพูดเช่นนี้หยางสุ่ยเซียนก็พลันตวาดออกมาในทันที

“หลินเหม่ยเหยาเจ้าจงหุบปากเน่าๆ ของเจ้าเสีย” แต่มีหรือที่หลินเหม่ยเหยาจะสนใจคำพูดของสตรีตรงหน้า นางจึงได้ถ่มน้ำลายออกมาแล้วพูดถึงความโสมมของคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าของนางด้วยความรังเกียจ

“พวกเจ้ามันเป็นผีเน่ากับโลงผุที่มีความเหมาะสมกันราวกับคู่นรกสร้างเสียจริง หยางสุ่ยเซียนเจ้าไม่รู้จริงๆ หรือว่าการที่ซ่งเสวี่ยหรงหันมาทำดีกับเจ้าก็แค่เพราะหวาดกลัวพี่ชายต่างมารดาของเจ้าเพียงเท่านั้น ส่วนซ่งเสวี่ยหรง ท่านเองก็ช่างโง่เขลาที่คิดว่าการที่ท่านแต่งนางเข้าจวนมาแล้ว นางจะสามารถช่วยส่งเสริมท่านได้” เมื่อหลินเหม่ยเหยาพูดเช่นนี้หยางสุ่ยเซียนก็โบกมือให้คนนำยาพิษเข้ามาในทันที

“บีบปากบีบจมูกของนางแล้วหรอกยาพิษชามนี้ลงไปเสีย” หยางสุ่ยเซียนพูดพลางหัวเราะออกมาเบาๆ

“พิษหงอนกระเรียนแดงชามนี้ ล้วนเป็นฝีมือการปรุงของท่านพี่ เขาเรียนรู้การปรุงยาพิษชนิดนี้มาจากพ่อของเจ้า ยามนี้เขาลงมือปรุงให้เจ้าด้วยตนเอง เจ้าก็อย่าทำให้เสียของเชียวนะ” หยางสุ่ยเซียนพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน สายตาของนางกำลังจ้องมองคนของตนช่วยกันกรอกยาพิษลงไปในปากของหลินเหม่ยเหยาจนหมดชาม

“หยางสุ่ยเซียน ซ่งเสวี่ยหรง หากชาติหน้ามีจริงข้าจะต้องทำให้พวกเจ้าอยู่มิสู้ตาย” หลินเหม่ยเหยาฝืนใจเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงขาดห้วง นางรู้ดีว่าพิษนี้มีความร้ายแรงมากขนาดไหน อีกไม่นานทวารทั้งเจ็ดของนางก็จะมีโลหิตหลั่งออกมา แล้วนางก็จะสิ้นใจตายไปเพราะพิษที่ได้รับในที่สุด

“แต่อย่างน้อยข้าก็วางใจไปเรื่องหนึ่ง การที่ข้าล่อลวงให้พวกเจ้าปรุงยาพิษชนิดนี้ออกมาได้นับเป็นเรื่องดี อีกไม่นานหยางเจี้ยนผู้เป็นพี่ชายต่างมารดาของเจ้าก็คงจะสืบพบเบาะแสแล้วว่านอกจากท่านพ่อของข้าและตัวข้า คนที่สามารถปรุงยาพิษเกล็ดหิมะสลายวิญญาณได้ก็คือซ่งเสวี่ยหรง" เมื่อหลินเหม่ยเหยาพูดเช่นนี้ซ่งเสวี่ยหรงก็พลันสบถออกมาในทันที

"หลินเหม่ยเหยา เจ้ากล้าให้ร้ายข้าหรือ" เขาพูดพลางเดินเข้ามาใช้ฝ่ามืออันใหญ่โตกำลำคออันบอบบางของหลินเหม่ยเหยาเอาไว้

"แค่ก แค่ก ดังนั้นต่อให้ข้าตายไปแล้วท่านที่เป็นสามีของข้าและทุกคนในสกุลซ่งก็ล้วนไม่อาจจะหลีกหนีความสงสัยของเขาพ้น ซ่งเสวี่ยหรงต่อให้ท่านไม่ได้ทำข้าก็สามารถยัดเยียดความผิดให้ท่านได้อยู่ดี เหมือนที่ท่านยัดเยียดความผิดให้แก่ท่านพ่อของข้าอย่างไรเล่า...” เมื่อพูดจบหลินเหม่ยเหยาก็กระอักโลหิตออกมาจนโลหิตของนางเปรอะเปื้อนร่างกายของซ่งเสวี่ยหรง

“จับทุกคนในสกุลซ่งเอาไว้ ตรวจค้นอย่างละเอียดหากพบเบาะแสว่ามีการปรุงยาพิษภายในเรือนนี้แม้เพียงนิดเดียวรีบส่งคนมาตามข้า” เสียงตวาดก้องของพระมาตุลาหยางเจี้ยน ผู้สำเร็จราชการแผ่นดินในรัชกาลปัจจุบันทำให้หลินเหม่ยเหยายิ้มออกมา

ตอนที่บิดาและคนในครอบครัวของนางได้รับโทษประหารนางก็รู้แล้วว่าตนเองไร้หนทางรอด นางจึงได้จงใจสร้างหลักฐานชี้ความผิดให้แก่สามีของนาง นางไม่รู้ว่าเป็นผู้ใดที่สามารถปรุงยาพิษที่นางและบิดาร่วมกันคิดค้นขึ้นมาได้ แต่ที่นางรู้คนที่วางยาปลิดชีพองค์ไทเฮาไม่ใช่นางและบิดาแน่ แต่ถึงแม้ว่านางจะไม่รู้ว่าเป็นผู้ใด แต่คนที่นางอยากให้ตายตามนางและครอบครัวของนางไปด้วยก็คือคนหยิบยื่นความตายให้นางและครอบครัวอย่างซ่งเสวี่ยหรงและหยางสุ่ยเซียน น่าเสียดายก็แต่ชาตินี้นางยังไม่ทันได้มองเห็นจุดจบของพวกเขาดวงวิญญาณของนางก็พลันหลุดออกจากร่างไปเสียก่อน

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ขยะผู้นี้ข้ายกให้เจ้า   บทที่ 10 คนสกุลซ่ง

    ต่อให้หยางเม่าพยายามสั่งให้คนในจวนสกุลหยางห้ามพูดถึงเรื่องความผิดของหยางสุ่ยเซียน แต่มีหรือที่เขาจะสามารถทำได้ จวนสกุลหยางมีคุณชายห้าคนและมีคุณหนูถึงหกคน มีเพียงหยางเจี้ยนและหยางสุ่ยอวี้ที่ถือกำเนิดจากฮูหยินคนก่อนที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นบุตรและบุตรีที่เกิดจากภรรยาเอก ส่วนนอกนั้นล้วนเป็นบุตรและบุตรีที่เกิดจากอนุเกือบทั้งสิ้น การแก่งแย่งชิงดีกันเองภายในจวนสกุลหยางดุเดือดไม่ต่างไปจากจวนขุนนางทั่วไปที่มีลูกหลานในจวนมากมายในจวนสกุลหยางมีเพียงหยางเจี้ยนและหยางสุ่ยอวี้ที่ไม่จำเป็นต้องลงไปแก่งแย่งชิงดีและประชันฝีมือด้วย ไม่เพียงชาติกำเนิดดีกว่าผู้อื่น แต่ก่อนที่ฮูหยินคนก่อนจะเสียชีวิตนางได้วางรากฐานให้บุตรชายและบุตรสาวเอาไว้ก่อนแล้ว อีกทั้งฮูหยินคนใหม่ก็ไม่ค่อยจะมีฝีไม้ลายมือเท่าใดนัก หากไม่พึ่งพาหยางเจี้ยนและหยางสุ่ยอวี้ก็แทบจะสู้รบตบมือกับผู้ใดไม่ได้เลย คุณหนูภายในจวนที่มีฝีไม้ลายมือมากที่สุดและได้รับความโปรดปรานรองจากหยางสุ่ยอวี้ก็คือหยางสุ่ยเซียน ดังนั้นพอหยางสุ่ยเซียนพลาดพลั้ง ย่อมมีคนรอที่จะเหยียบย่ำนางให้จมดินอยู่แล้วหลินเหม่ยเหยานั่งทบทวนความทรงจำที่ตนเองมีต่อสกุลหยางด้วยความตั้งอกตั้ง

  • ขยะผู้นี้ข้ายกให้เจ้า   บทที่ 9 ทำลายชื่อเสียง

    นายท่านหยางจ้องมองหลินเหม่ยเหยาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจ คำพูดที่ว่าหากนางไม่ยั้งมือป่านนี้บุตรสาวของเขาคงจะตายไปแล้วทำให้เขารู้สึกโกรธเคือง เขาจึงได้เอ่ยต่อว่าหลินเหม่ยเหยาออกมาตามตรง“คุณหนูใหญ่สกุลหลินคำพูดคำจาช่างโอหังเสียจริง ท่านรองหัวหน้าแพทย์หลวงหลินท่านดูบุตรสาวของท่านสิ ไร้มารยาทเช่นนี้วันหน้าจะมีสกุลใดอยากจะแต่งนางเข้าสกุลกัน” นายท่านหยางเอ่ยออกมาพลางจ้องมองหลินเหม่ยเหยาด้วยสายตาไม่ชอบใจ แต่หลินเหม่ยเหยากลับไม่ได้เกรงกลัวและไม่ได้ทำตัวเสียมารยาทนางย่อกายคารวะขออภัยด้วยท่วงท่าอันงดงามแล้วจึงได้เอ่ยตอบคำพูดของเขาด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความอ่อนน้อม“ต้องขออภัยที่ล่วงเกินท่านหัวหน้าราชบัณฑิตหยางนะเจ้าคะ เพียงแต่คำพูดของข้าไม่ได้ตั้งใจจะข่มขู่หรือว่าแสดงความโอหัง แต่ข้าพูดตามความเป็นจริง ในยามปกติหากถูกทำร้ายข้าแค่โปรยยาพิษหรือไม่ก็ยาสลบก็สามารถเอาตัวรอดได้แล้ว แต่กับคุณหนูสามที่เคยเป็นสหาย ข้าลงมือทำร้ายนางไม่ลงหรอกเจ้าค่ะ แต่หากไม่ลงมือคนที่ถูกตบหน้าคงจะต้องเป็นข้าแน่ ถึงอย่างไรโทสะที่ถูกคุณหนูสามหมิ่นแคลนวงศ์สกุลก็ยังคงอยู่จึงได้ไม่คิดจะออมแรงที่ฝ่ามือเจ้าค่ะ” คำพูด

  • ขยะผู้นี้ข้ายกให้เจ้า   บทที่ 8 จงใจยั้งมือ

    ในขณะที่ทางจวนสกุลหลินกำลังพูดคุยถึงเรื่องน่ายินดีด้วยบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความรักความอบอุ่นที่มีให้กัน แต่ทางจวนสกุลหยางกลับเต็มไปด้วยเสียงร้องไห้ หยางเม่าผู้เป็นนายท่านใหญ่สกุลหยางได้แต่นั่งปลอบใจอนุคนโปรดของตนเองและบุตรสาวคนที่สามที่ถือกำเนิดจากอนุผู้นี้ด้วยความปวดใจ“ท่านพ่อ! หลินเหม่ยเหยาไม่เพียงตบใบหน้าข้า แต่ยังพูดจาดูหมิ่นเรื่องที่ข้าเป็นบุตรสาวของอนุ คำพูดของนางไม่เพียงดูถูกข้าและแม่เล็กของข้า แต่นางยังกล้าพาดพิงไปถึงกุ้ยเฟยที่อยู่ในวังด้วย” หยางสุ่ยเซียนเอ่ยพลางร่ำไห้ออกมา ยามนี้นางนั่งคุกเข่าร้องไห้อยู่ตรงหน้านายท่านหยางด้านข้างของนางยังก็มีเฉินอี๋เหนียงผู้เป็นมารดาแท้ๆ นั่งร่ำไห้อยู่เป็นเพื่อนท่าทีของสองแม่ลูกจากเรือนทิศเหนือทำให้สวีเยียนผู้เป็นภรรยาเอกคนที่สองของนายท่านหยางจำต้องยกถ้วยชาขึ้นมาดื่มเพื่อปกปิดรอยยิ้มของตนเอง ส่วนสายตาของนางก็จ้องมองสองแม่ลูกราวกับกำลังจ้องมองตัวตลกอยู่ นายท่านหยางยังคงโปรดปรานเฉินอี๋เหนียงอยู่ก็จริง แต่ยามนี้เฉินอี๋เหนียงมีอายุมากแล้วจะสู้นางที่อ่อนวัยกว่าอีกทั้งยังมีสกุลสวีคอยหนุนหลังอยู่ได้อย่างไร จริงอยู่ที่นางยังไม่มีบุตรธิดา แต่ในฐานะภ

  • ขยะผู้นี้ข้ายกให้เจ้า   บทที่ 7 เลื่อนฐานะ

    หลินเหม่ยเหยารู้ดีว่าหยางสุ่ยเซียนไม่มีทางยอมถูกทำร้ายโดยไม่ตอบโต้ หลังจากที่สาวใช้ที่นางส่งไปจับตาที่เรือนหนิงฝูเข้ามารายงานว่าหลินเจวี๋ยผู้เป็นบิดาของนางกลับมาถึงจวนแล้วและยามนี้กำลังพักผ่อนอยู่ที่เรือนแห่งนั้นนางก็รีบตรงไปที่เรือนหนิงฝูเพื่อขอเข้าพบบิดาในทันที“เกิดอะไรขึ้นเหตุใดวันนี้เจ้าจึงได้มาหาพ่อจนถึงเรือนแห่งนี้ได้” หลินเจวี๋ยเอ่ยพลางยื่นมือรับถ้วยชาที่ชุยอวี้หลันส่งให้ด้วยสีหน้าผ่อนคลาย“ข้าก็แค่มีเรื่องอยากจะเรียนให้ท่านพ่อและแม่เล็กทราบเอาไว้ก่อน จะได้ไม่ตื่นตระหนกยามที่คนสกุลหยางส่งคนมาเจ้าค่ะ” คำพูดของหลินเหม่ยเหยาทำให้หลินเจวี๋ยวางถ้วยชาลงในทันที“เกิดอันใดขึ้น เจ้าสามารถบอกกับพ่อมาได้ตามตรง” คำพูดของบิดาทำให้หลินเหม่ยเหยายิ้มออกมาในทันที“วันนี้ข้าตบหน้าของหยางสุ่ยเซียนเจ้าค่ะ ยามนี้นางน่าจะเอาเรื่องที่ถูกข้าทำร้ายไปฟ้องนายท่านหยางผู้เป็นบิดาของนางแล้ว “คำพูดของนางทำให้หลินเจวี๋ยพลันขมวดคิ้วในทันที"นางล่วงเกินเจ้าหรือ พ่อรู้ว่าเจ้าไม่มีทางลงมือทำร้ายคนอย่างไม่มีเหตุผลแน่" คำพูดของบิดาทำให้นางยิ้มออกมา ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์อันใดขึ้นอย่างน้อยก็ยังมีบิดาของนางที่สามารถเ

  • ขยะผู้นี้ข้ายกให้เจ้า   บทที่ 6 หยางสุ่ยเซียน

    หลังจากวันที่ได้พบกับหยางเจี้ยน หลินเหม่ยเหยาก็ไม่ได้ออกจากจวนอีก ทางจวนสกุลหยางเองนอกจากเทียบเชิญจากหยางสุ่ยเซียนแล้วก็ไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ จากทางจวนสกุลหยางอีกเช่นกัน ซึ่งนั่นก็หมายความว่าลูกสุนัขจิ้งจอกสองตัวนั้นปลอดภัยดี“คุณหนูใหญ่เจ้าคะ คุณหนูสามสกุลหยางมาขอเข้าพบเจ้าค่ะ” เสียงรายงานของสาวใช้ทำให้หลินเหม่ยเหยาได้แต่ขมวดคิ้ว นางจำได้ว่าหยางสุ่ยเซียนไม่ใช่คนชอบเซ้าซี้แต่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเหตุใดหยางสุ่ยเซียนจึงได้พยายามจะพบนางให้ได้เช่นนี้ ทั้งที่นางก็ปฏิเสธทั้งเทียบเชิญและเทียบขอเข้าพบของหยางสุ่ยเซียนไปตั้งหลายครั้งแล้ว“ไปเชิญนางเข้ามาเถิด” หลินเหม่ยเหยาเอ่ยพลางก้มหน้าลงไปอ่านตำราในมือต่อ ยามนี้เข้าสู่หน้าร้อนแล้วนางจึงมักจะมานั่งอ่านตำราในศาลากลางน้ำ กลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกบัว สายลมที่พัดพาผ่านผิวน้ำทำให้อากาศรอบกายเย็นสบาย ดังนั้นในหน้าร้อนของทุกปีนางจึงชอบมานั่งเล่นในสถานที่แห่งนี้ ยามที่หยางสุ่ยเซียนเดินเข้ามาจึงได้แต่จ้องมองท่วงท่าที่เต็มไปด้วยความผ่อนคลายของนางด้วยความริษยา“เหยาเหยา เหตุใดช่วงนี้เจ้าจึงได้ห่างเหินกับข้ากันเล่า หรือเป็นเพราะว่าคุณชายใหญ่สกุลซ่งผู้เป็นคู่หมาย

  • ขยะผู้นี้ข้ายกให้เจ้า   บทที่ 5 น้องชายสกุลหลิน

    แม้ว่ายามนี้หยางเจี้ยนจะยังเป็นแค่เพียงคุณชายใหญ่ของจวนสกุลหยาง ยังไม่ใช่พระมาตุลาผู้สำเร็จราชการแผ่นดินดังเช่นในชาติที่แล้ว แต่รอบกายของเขากลับมีพลังอำนาจคุกคามบางอย่างที่แผ่กระจายออกมาแล้วทำให้ทุกคนต่างก็เกรงขามและหวาดกลัว สายตาอันคมกล้าคู่นั้นของเขาทำให้หลายคนไม่กล้าสบตา แต่คนที่เคยผ่านความเป็นความตายมาแล้วอย่างหลินเหม่ยเหยากลับจ้องมองเขาด้วยสายตาพินิจพิจารณาพลางคิดในใจว่าทำอย่างไรดีนางและสกุลของนางจึงจะไม่มีเรื่องขัดแย้งกับคนผู้นี้“ข้าน้อยคือหลินเหม่ยเหยา บิดาของข้าคือรองหัวหน้าสำนักแพทย์หลวงหลินเจวี๋ย ส่วนนี่คือน้องชายของข้าเป็นเพราะข้ากังวลว่าลูกสุนัขจิ้งจอกสองตัวนั้นจะทำอันตรายเขาก็เลยลงมือกับลูกสุนัขจิ้งจอกสองตัวนั้นหนักมือไปหน่อย ขอคุณชายใหญ่ได้โปรดให้อภัยข้าน้อยด้วยเถิดเจ้าค่ะ” หลินเหม่ยเหยาเอ่ยพลางย่อกายคารวะขออภัย หยางเจี้ยนได้แต่หรี่ตาลงเมื่อได้เห็นท่าทีของนางแม้ว่าจะดูอ่อนน้อมและขออภัยอย่างจริงใจแต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจก็คือเด็กสาวที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาไม่ได้มีท่าทีหวาดกลัวเขาอย่างที่เด็กสาวคนอื่นๆ มักจะเป็น“คุณหนูใหญ่หลินเป็นสหายสนิทของคุณหนูสามจวนเราขอรับ

  • ขยะผู้นี้ข้ายกให้เจ้า   บทที่ 4 หยางเจี้ยน

    เมื่อตามตัวน้องชายได้แล้วหลินเหม่ยเหยาก็ตั้งใจว่าจะพาน้องชายของตนกลับ แต่มู่เปียวผู้ดูแลสำนักคุ้มภัยคนปัจจุบันกลับรั้งให้นางอยู่ต่อเพื่อพูดคุยเรื่องการแบ่งปันผลกำไรจากกิจการในช่วงนี้ นอกจากสำนักคุ้มภัยแล้วมารดาของนางยังทิ้งร้านค้าเอาไว้ให้นางอีกหลายร้าน แต่เพราะนางไม่ค่อยจะได้สนใจเรื่องการค้าชีวิตในชาติก่อนของนางจึงได้ขัดสนเรื่องเงินทองในยามที่ตนเองต้องประสบกับความยากลำบากในชาติที่แล้วพอนางแต่งเข้าจวนสกุลซ่งบรรดาร้านค้าเหล่านั้นส่วนใหญ่ก็ล้วนไม่ค่อยจะทำเงินให้นางจนผลสุดท้ายนางก็ขายทอดตลาดในที่สุด เงินที่ได้มาเป็นเงินจำนวนน้อยนิดที่นางพกติดตัวเอาไว้ ในยามที่บิดาต้องโทษมารดาเลี้ยงและน้องชายถูกคุมขัง นางแทบจะไม่มีเงินพอที่จะติดสินบนเจ้าหน้าที่เพื่อเข้าไปเยี่ยมเยียนพวกเขาได้จนผลสุดท้ายนางจำต้องขายเครื่องประดับทั้งหมดของตนเอง จึงสามารถไปเยี่ยมเยียนได้แค่เพียงมารดาเลี้ยงและน้องชายเพียงเท่านั้น ส่วนบิดากว่านางจะรวบรวมเงินได้เขาก็ถูกประหารที่ลานประหารไปเสียแล้วมาชาตินี้นางรู้แล้วว่าชีวิตของนางไม่อาจจะขาดเงิน ดังนั้นยามที่มู่เปียวเชิญนางเข้าไปฟังเขารายงานผลกำไรทางการค้า นางจึงได้ให้ความสนใจก

  • ขยะผู้นี้ข้ายกให้เจ้า   บทที่ 3 สำนักคุ้มภัยสกุลมู่

    เมื่อได้กลับมาเกิดใหม่อีกครั้งหลินเหม่ยเหยาสิ่งแรกที่หลินเหม่ยเหยาตั้งใจจะทำก็คือใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับครอบให้เต็มที่ เดิมทีนางมีความเย็นชาต่อชุยอวี้หลันอยู่เป็นนิจ ต่อต้านทุกสิ่งที่ชุยอวี้หลันชี้นำให้นางทำ แต่ยามนี้สิ่งที่นางทำก็คือการทำตัวเป็นลูกเลี้ยงที่ดีเชื่อฟังคำชี้แนะของชุยอวี้หลันโดยไม่โต้เถียง“เกิดอะไรขึ้น เหตุใดช่วงนี้คุณหนูใหญ่จึงได้ทำตัวผิดแปลกไปเช่นนี้เล่า” เมื่อชุยอวี้หลันเอ่ยถามเช่นนี้หลินเหม่ยเหยาก็ส่งยิ้มให้พลางเอ่ยถามกลับไปด้วยน้ำเสียงราบเรียบ“ข้าเปลี่ยนไปมากเลยหรือ ข้าก็หลงคิดว่าการเปลี่ยนแปลงของข้าน่าจะทำให้แม่เล็กพึงพอใจได้เสียอีก” นางเอ่ยพลางก้มหน้าลงคัดอักษรตามบทคัดลอกที่ชุยอวี้หลันหามาให้“คุณหนูใหญ่เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดียินดีเชื่อฟังข้าเช่นนี้ข้าย่อมดีใจ เพียงแต่อยู่ๆ ท่านก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างกะทันหันเช่นนี้มันทำให้ข้าอดรู้สึกกังวลใจไม่ได้ เกิดอะไรขึ้นกับท่าน มีผู้ใดพูดจาล่วงเกินท่านหรือว่ามีใครทำให้ท่านรู้สึกไม่สบายใจหรือเปล่า” เมื่อมารดาเลี้ยงของนางเอ่ยถามเช่นนี้หลินเหม่ยเหยาก็ส่ายหน้า“ไม่มีหรอกเจ้าค่ะ ข้าก็แค่คิดว่าสิ่งที่แม่เล็กสอนสั่งอีกทั้งยังเข้มงวดกับข

  • ขยะผู้นี้ข้ายกให้เจ้า   บทที่ 2 กำเนิดใหม่ในร่างเดิม

    ยามที่หลินเหม่ยเหยาลืมตาตื่นขึ้นมา นางก็พบว่าตนเองกำลังนอนอยู่บนเตียงนอนของตนเองในสกุลหลิน สภาพแวดล้อมภายในห้องล้วนมีสภาพเหมือนตอนที่นางยังไม่ได้ปักปิ่น ในยามนั้นหลินเจวี๋ยผู้เป็นบิดาของนางยังคงเข้าออกห้องของนางโดยไม่ได้ถือสาเรื่องธรรมเนียมใดๆ ทั้งสิ้น“เหยาเหยา เจ้าดูนี่สิพ่อได้ฟู่จื่อมามากมาย เจ้าต้องช่วยพ่อตรวจสอบดูนะว่าพิษของมันถูกพ่อทำให้เจือจางลงไปจนหมดสิ้นแล้วหรือยัง” เสียงของหลินเจวี๋ยทำให้หลินเหม่ยเหยารีบขยับตัวลุกขึ้น ดึงม่านคลุมเตียงออกแล้วจ้องมองไปยังผู้ที่เดินเข้ามาในห้องด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อ“ท่านพ่อ!” เสียงเรียกกับท่าทีของบุตรสาวไม่ได้ทำให้หลินเจวี๋ยรู้สึกประหลาดใจแต่อย่างใด ในตอนนี้ความสนใจทั้งหมดของเขากำลังจดจ่ออยู่กับสมุนไพรที่เขาพึ่งจะได้มา“อย่ามัวแต่นอนอยู่เลย ดูนี่สิฟู่จื่อนี่คุณภาพดีมากทีเดียว” หลินเจวี๋ยพูดพลางยื่นกล่องไม้ใส่สมุนไพรให้บุตรสาวดู แต่หลินเหม่ยเหยากลับไม่สนใจนางโผเข้าไปโอบกอดบิดาของตนเองแล้วร่ำไห้ออกมา“ท่านพ่อ ต้องโทษข้าที่มองคนไม่เป็น ทำให้ท่านและทุกคนในครอบครัวต้องได้รับเคราะห์กรรมอันเลวร้าย” ท่าทีของบุตรสาวทำให้หลินเจวี๋ยนิ่งงั

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status