จัสมินกลับถึงคอนโดตัวเองในช่วงเย็นที่แสงสว่างจากธรรมชาติถูกแทนที่ด้วยแสงไฟ เธอกับไนต์แยกกันที่ลานจอดรถ และเธอไม่ได้ถามว่าเขาจะไปไหนต่อ หรือเอาง่ายๆ คือเธอไม่มีสิทธิ์ถามเรื่องส่วนตัวของเขา แม้จะอยากรู้ว่าเขาจะไปไหนทำอะไรก็ได้แต่เก็บความสงสัยที่มีเอาไว้ในใจ
กล่องนาฬิกาเรือนหรูที่เพิ่งได้มาสดๆ ร้อนๆ ถูกหยิบออกมาเปิดดูอีกครั้ง ก่อนจะถูกเก็บเข้าไว้ในตู้โชว์อย่างดิบดี ดวงตาคู่สวยกวาดมองดูตู้เครื่องประดับของตัวเองที่มีทั้งนาฬิกา กำไลข้อมือ สร้อย แหวน รวมไปถึงตุ้มหู และเครื่องประดับเล็กๆ น้อยๆ อีกมากมาย รวมๆ แล้วในตู้นี้มีมูลค่ามากถึงเลขเจ็ดหลัก ถ้ารวมพวกกระเป๋ารองเท้าด้วยราคาก็น่าจะเหยียบแปดหลักได้
เธอคงจะเป็นของเล่นราคาแพงอย่างที่เขาว่าจริงๆ อย่างปฏิเสธไม่ได้ เพราะสิ่งของเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นเขาที่ให้มา แต่จะมีกระเป๋าใบหนึ่งที่ลูกค้าประจำที่เธอดูแลซื้อให้เป็นของขวัญ แต่ไนต์ไม่รู้ เขาคิดว่าเธอซื้อเอง และเธอก็ตั้งใจให้เขาเข้าใจแบบนั้น เพราะไม่อยากจะให้มีปัญหาตามมา
ครืน… ครืน…
สมาร์ทโฟนที่ถูกปิดเสียงไว้เกิดแรงสั่นขึ้นให้ได้ยิน จัสมินละสายตาจากตู้เครื่องประดับมองหาสมาร์ทโฟนของตัวเอง
คิ้วเรียวสวยขมวดเข้าหากันทันทีเมื่อเห็นเบอร์โทรศัพท์ที่คุ้นเคยแต่ไม่ได้ถูกบันทึกชื่อไว้โทรเข้ามา เธอชั่งใจอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะกดรับสายแล้วกรอกเสียงทักทายไป
“สวัสดีค่ะ”
[ครีมโกนหนวดฉันอยู่ไหน]
“คะ? คุณยังไม่ได้หยิบไปเหรอคะ” จัสมินถามพร้อมกับรีบเดินไปเปิดดูในถุงชอปปิ้งของตัวเองไปด้วย
[ถ้าหยิบมาฉันจะโทรหาทำไม]
“มันยังอยู่กับฉันค่ะ” เมื่อเห็นของที่เป็นของเขายังอยู่ในถุงเหมือนเดินก็รีบบอกให้เขารู้
[เอามาให้ฉัน]
“ตอนนี้เหรอคะ”
[...]
ไร้คำตอบจากปลายสาย มีเพียงแค่ความเงียบเท่านั้น นั่นทำให้จัสมินรู้แล้วว่าต้องทำอย่างไรต่อ
“เข้าใจแล้วค่ะ ฉันจะรีบไป”
[ถึงแล้วโทรมา]
“ค่ะ...” คนตัวเล็กขานรับเสียงเบาพร้อมกับสายที่ถูกตัดไป
ทั้งที่เพิ่งแยกจากเขาเมื่อชั่วโมงที่แล้วแท้ๆ แต่ต้องกลับไปหาเขาอีกจนได้ สถานะแค่ของเล่นแบบเธอ คนอื่นอาจจะมองว่าเขาคงมาหาบ้างบางครั้ง แต่นั่นก็แค่สิ่งที่คนอื่นมองเท่านั้น เพราะความเป็นจริงเธอกับเขาแทบจะอยู่ด้วยกันตลอด จะห่างกันจริงจังก็แค่ตอนที่เขากลับอังกฤษเท่านั้น…
ตุบ!
หลอดครีมโกนหนวดที่เพิ่งถูกเปิดใช้ไปเมื่อสองวันก่อนถูกทิ้งลงถังขยะหลังจากที่กดวางสายเสร็จ
ร่างสูงโปร่งที่สวมเพียงแค่กางเกงเดินออกจากห้องน้ำ เดินตรงไปที่ตู้แช่ไวน์ที่อยู่ข้างเคาน์เตอร์บาร์ ยืนเลือกไวน์ที่จัดเรียงอย่างเป็นระเบียบในตู้ออกมาหนึ่งขวด ระหว่างที่รอให้จัสมินเอาครีมโกนหนวดหลอดใหม่มาให้ก็จิบไวน์รอไปพลาง
ดูเวลาแล้วคงอีกราวๆ ครึ่งชั่วโมงหรืออาจจะนานกว่านั้นกว่าเธอจะมาถึง เพราะช่วงเย็นแบบนี้การจราจรค่อนข้างติดขัด
ตอนแรกที่กลับมาถึงเพนท์เฮาส์เขาก็ตั้งใจจะอาบน้ำแต่งตัวเข้าไปที่คลับเหมือนทุกวัน แต่พอรู้ว่าวันนี้เป็นวันหยุดของเธอก็ทำให้เขาเลือกที่จะไม่เข้าไป ให้ลูกน้องคนสนิทอย่างธันย์เข้าไปจัดการแทน
ไนต์ถือแก้วไวน์พร้อมกับถังแช่ขวดไวน์ที่เปิดแล้วเดินออกไปนั่งที่โซนห้องกระจกเปิดโล่งที่สามารถมองเห็นท้องฟ้าและวิวเมืองได้อย่างชัดเจน ปิดไฟที่ให้แสงสว่างจ้าแล้วเปิดเพียงโคมไฟประดับที่อยู่ตามมุมให้พอมีแสงสลัว
บรรยากาศตอนกลางคืน อากาศเย็นๆ จากเครื่องปรับอากาศและไวน์ชั้นดี เป็นอะไรที่ทำให้เขาหลงใหลที่สุด
เวลาผ่านไปกว่าครึ่งชั่วโมงที่ไนต์นั่งจิบไวน์มองท้องฟ้าอยู่รอการมาถึงของอีกคน ก่อนที่เขาจะได้ยินเสียงสมาร์ทโฟนที่ถูกวางทิ้งไว้ที่เคาน์เตอร์บาร์ส่งเสียงขึ้นมาท่ามกลางความเงียบ
Rrrrr~
ชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งขยับตัวลุกจากโซฟาเดินไปดูว่าใครคือเจ้าของสายที่โทรเข้ามา และเมื่อเห็นว่าเป็นเบอร์ที่ไร้ชื่อแต่ก็จำได้ดีว่าเบอร์โทรศัพท์เบอร์นี้เป็นของใครจึงรีบกดรับสาย
[ฉันถึงแล้วค่ะ จะให้ฝากไว้...]
“รออยู่ตรงนั้น” เพียงแค่กดรับสายก็มีเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นมา แต่เขาไม่รอให้เธอพูดจบก็รีบพูดแทรกออกไป
ถ้าจะให้ฝากไว้เขาจะสั่งให้เธอเอามาให้ทำไมตั้งแต่แรก
ไนต์กดวางสายแล้วหยิบเสื้อเชิ้ตที่ถอดวางพาดอยู่บนโซฟามาสวมใส่ลวกๆ ก่อนจะเดินไปที่ลิฟต์เพื่อลงไปรับคนตัวเล็กขึ้นมาบนห้อง
ใช้เวลาไม่กี่นาทีก็ลงมาถึงล็อบบี้ สายตาคมกวาดมองรอบๆ เพื่อหาคนที่ตัวเองคุ้นเคย ก่อนจะพบกับร่างบางของจัสมินที่ยืนอยู่ข้างประตูทางเข้า ในมือเล็กถือกล่องครีมโกนหนวดของเขาอยู่
“เอากุญแจรถมา” เดินมาถึงเขาก็เอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง แบมือไปตรงหน้าเพื่อรอกุญแจรถจากเธอ
“คะ?” คนตัวเล็กถึงกับทำหน้าตางุนงง เมื่ออยู่ๆ เขาก็มาขอกุญแจรถจากเธอแบบนี้
“กุญแจรถ”
เมื่อได้ยินเสียงคนตัวสูงย้ำคำอีกครั้งก็รีบวางกุญแจรถในมือลงที่ฝ่ามือหนา ไม่ทันจะได้ถามอะไรเขาก็ยื่นมืออีกข้างมาจับมือเธอแล้วพาเดินไปที่เคาน์เตอร์ที่มีพนักงานของคอนโดหรูประจำอยู่ตลอด 24 ชั่วโมง
“เบนซ์ที่จอดอยู่ข้างหน้าเอาเข้าที่จอดให้ด้วย” ไนต์เอ่ยกับพนักงานดูแลของคอนโดหรูด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง วางกุญแจรถลงที่เคาน์เตอร์แล้วดึงมือคนตัวเล็กให้เดินตามต่อไปที่ลิฟต์ทันที
เข้ามาภายในลิฟต์ได้มือเล็กที่ถูกมือหนาจับอยู่ก็ถูกปล่อยให้เป็นอิสระ นี่เป็นครั้งแรกที่เธอกำลังจะได้ขึ้นไปเหยียบบนพื้นที่ส่วนตัวของเขา เพราะปกติแล้วจะเป็นเขาที่ไปหาเธอที่คอนโด และดูท่าแล้วเขาคงไม่ปล่อยให้เธอกลับง่ายๆ ไม่อย่างนั้นคงไม่สั่งให้คนเอารถเธอเข้าไปจอด
ติ๊ง!
สัญญาณลิฟต์ดังขึ้นพร้อมกับประตูที่เปิดออก เจ้าของบ้านเดินนำออกไปก่อน ก่อนที่แขกอย่างจัสมินจะเดินตามพร้อมกับมองดูความหรูหราของเพนท์เฮาส์ไปด้วยความตื่นตาตื่นใจ ต้องรวยขนาดไหนถึงจะสามารถซื้อเพนท์เฮาส์หรูที่ตั้งอยู่ชั้นบนสุดของตึกสูงแบบนี้ได้ แถมยังมีลิฟต์ส่วนตัวที่เปิดออกมาก็อยู่ภายในบ้านแล้ว ที่สำคัญยังมีสระว่ายน้ำส่วนตัวอีกด้วย
นี่มันบ้านในฝันของเธอชัดๆ
เธอเองก็เคยวาดฝันว่าอยากจะมีบ้านสวยๆ แบบนี้ มีสระว่ายน้ำส่วนตัวแบบนี้ และมันก็ยังคงเป็นความฝันของเธออยู่จนทุกวันนี้ และคงจะเป็นความฝันไปตลอด เพราะเธอคงไม่มีปัญญาที่จะซื้อมันได้
หลังจากที่เพลิดเพลินกับการชื่นชมความสวยงามของเพนท์เฮาส์หรูที่เปิดแอร์เย็นฉ่ำไปทั่วทุกพื้นที่ของบ้าน ดวงตาคู่สวยก็มองหาเจ้าของบ้านที่ไม่รู้ว่าตอนนี้อยู่ไหน ก่อนจะหันไปเห็นว่าเขาเดินออกมาจากห้องห้องหนึ่งด้วยสภาพเปลือยท่อนบนสวมเพียงแค่กางเกงเท่านั้น ในมือของเขามีผ้าขนหนูสีขาวสะอาดตาและมีของบางอย่างที่เธอมองไม่ชัดว่าคืออะไร แต่พอคนตัวสูงเดินมาใกล้ๆ ถึงได้รู้ว่ามันคือที่โกนหนวด
“ไปล้างมือแล้วตามมา” ไนต์เอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง แล้วเดินผ่านหน้าคนตัวเล็กไปที่โซนห้องกระจกที่เดิมก่อนที่เขาจะลงไปรับเธอขึ้นมา
จัสมินมองตามหลังร่างสูงโปร่งที่เดินไปอีกทาง แผ่นหลังกว้างที่มีรอยสักบนช่วงไหล่ซ้ายทำให้เขาดูเป็นผู้ชายที่น่าค้นหาและดูมีเสน่ห์ไปทั้งตัว เธอมองตามหลังของเขาไปจนคนตัวสูงทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา และเหมือนว่าเขาจะหันกลับมาเธอจึงรีบมองหาก๊อกน้ำเพื่อจะไปล้างมือแล้วจะได้รีบไปหาเขา
หลังจากที่ล้างมือเสร็จคนตัวเล็กก็เดินตรงไปหาเจ้าของบ้านที่นั่งเอนหลังกับโซฟาจิบไวน์ไปด้วยท่าทางใจเย็น เดินมาถึงตรงนี้เธอเพิ่งจะได้เห็นว่าไม่ใช่แค่รอบข้างที่เป็นกระจก แต่ด้านบนก็เป็นกระจกที่สามารถมองเห็นกลุ่มดาวบนท้องฟ้าได้ด้วย ถ้าไฟถูกปิดให้มืดสนิทคงมองเห็นดาวได้ชัดกว่านี้
“จะให้ฉันทำอะไรคะ”
“โกนหนวด”
เมื่อได้คำตอบแล้วว่าตัวเองต้องทำอะไรก็ไม่รอช้าที่จะขยับเข้าไปยืนข้างๆ แกะครีมโกนหนวดในมือออกจากกล่องพร้อมกับอ่านวิธีใช้ไปด้วย เพราะนี่คือครั้งแรกที่เธอต้องมาทำอะไรแบบนี้
ไนต์นั่งจิบไวน์อย่างใจเย็นพลางเหลือบมองคนตัวเล็กที่ยืนอยู่ข้างๆ ขมวดคิ้วอ่านฉลากข้างกล่องครีมโกนหนวดไปด้วยท่าทางจริงจัง
“ชักช้า”
“ก็ฉันไม่เคยทำมาก่อนนี่คะ”
“แน่อยู่แล้วสิ ถ้าเธอบอกว่าเคยฉันคงต้องให้คนสืบ” ไวน์ที่เหลือในแก้วถูกยกขึ้นกระดกลงคอรวดเดียวหมด ก่อนเขาจะวางแก้วกระแทกลงกับโต๊ะอย่างแรง
ปึก!
เธอไม่เคยทำนั้นมันไม่แปลก แต่ถ้าเธอเคยทำนั่นสิถึงจะแปลก และแบบนั้นเขาคงต้องให้คนตามสืบว่าเธอแอบไปมั่วกับใครมาลับหลังเขาหรือเปล่า...
ฟุ่บ!
ร่างบางของจัสมินถูกมือหนาดึงให้นั่งลงบนตักอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว ทำเอาตกอกตกใจจนเผลอโผตัวเข้าเกาะไหล่แกร่งไว้แน่น
“ไหนว่าจะให้โกนหนวดไงคะ”
“ยืนค้ำหัวฉันอยู่แบบนั้นเธอจะโกนยังไง”
ก็จริงของเขา แต่การนั่งแบบนี้เธอเองก็ไม่ถนัดเหมือนกัน
“ฉันขอเปลี่ยนท่านะคะ” พูดจบเธอก็ดันตัวเองลุกขึ้นจากตักแกร่งทันทีโดยไม่รอให้เจ้าของตักอนุญาต
คำพูดกำกวมของคนตัวเล็กที่ดูไม่ได้ตั้งใจทำให้คนฟังถึงกับแอบชะงัก รู้สึกลมหายใจติดขัดขึ้นมากะทันหัน เมื่อในหัวของเขาดันนึกถึงการเปลี่ยนท่าในบริบทอื่นที่ไม่ใช่ท่าทางในการโกนหนวด
ฟุ่บ!
คนตัวเล็กที่บอกว่าขอเปลี่ยนท่า นั่งกลับลงมาบนตักของเขาอีกครั้ง แต่เป็นการนั่งคร่อม ขาทั้งสองข้างของเธอวางอยู่ข้างตัวเขา ช่างเป็นท่าโกนหนวดที่ยั่วให้เขาอยากทำอย่างอื่นมากกว่าการโกนหนวดซะอีก
“แน่ใจแล้วเหรอว่าเธอจะนั่งโกนหนวดให้ฉันท่านี้”
“แล้วมีท่าที่ดีกว่านี้รึเปล่าล่ะคะ ท่านี้ฉันถนัดที่สุดแล้ว”
“นั่นสิ ลืมไปว่าเธอเก่งท่านี้...” ริมฝีปากหยักได้รูปยกยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
แค่นึกถึงตอนที่เธอเป็นคนควบคุมเขาในท่านี้ ความเป็นชายที่สงบอยู่ใต้กางเกงก็เหมือนกับว่าจะเริ่มตื่นตัวขึ้นมาช้าๆ
จัสมินที่สัมผัสได้ถึงบางอย่างที่ตัวเองนั่งทับอยู่กำลังตื่นตัวก็รู้สึกได้ถึงอาการเห่อร้อนขึ้นมาบนใบหน้า ไม่รู้เลยว่าระหว่างโกนหนวดให้เขากับทำอย่างอื่นอะไรจะเกิดขึ้นก่อนกัน...
แก่นกายใหญ่ถูกดันเข้าไปภายในความคับแน่นของกายสาว ผนังร้อนที่นุ่มหยุ่นด้านในตอดกระตุกรัดแน่นทุกการเคลื่อนไหวที่ผ่านเข้าไป“อ๊ะ อื้อ...”จัสมินครางกระเส่าร่างกายเคลื่อนไหวไปตามแรงกระแทกกระทั้นที่คนตัวสูงส่งผ่านมา สายตาที่พยายามจะโฟกัสที่ท้องฟ้าถูกคนตัวสูงดึงดูดความสนใจไปหมดแล้วการเคลื่อนไหวร่างกายของเขาสะกดให้เธอเพ่งมองแค่เขาไม่อาจละสายตา มือหนาที่จับขาเธอแยกออกจากกันกว้างเลื่อนขึ้นมาจับเอวคอดของเธอไว้แน่น กดจังหวะรัวเร็วขึ้นตามอารมณ์ปรารถนาที่กำลังพุ่งทยานขึ้นสูงไนต์ปล่อยมือจากเอวคอดกิ่วของคนตัวเล็ก โน้มตัวลงหาเธอจนแผงอกแกร่งแนบชิดกับหน้าอกอวบอิ่มที่กระเพื่อมเคลื่อนไหวไปตามแรงกระแทกกระทั้น กดริมฝีปากจูบลงที่ไหล่เล็กไล่ขึ้นตามลำคอระหง สองแขนค้ำยันทรงตัวเร่งจังหวะถี่รัวจนคนตัวเล็กเกร็งกระตุกอยู่ใต้พันธนาการ“อ๊ะ คุณไนต์ อื้อ... คะ คุณ...” คนตัวเล็กครางกระเส่า ยกมือขึ้นโอบกอดคนตัวสูงไว้แน่น จิกเล็บลงบนแผ่นหลังกว้างระบายความเสียวซ่านที่กำลังพุ่งทยานขึ้นสูงใกล้ถึงขีดสุดริมฝีปากหยักได้รูปไล่จูบซับขึ้นตามลำคอระหงจนถึงใบหูเล็ก ตวัดลิ้นเลียที่ใบหูของเธอจนร่างบางสั่นสะท้านหนักขึ้นกว่าเดิม“อื
“อ๊ะ...”เสียงครางแผ่วดังมาจากคนตัวเล็กที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาโกนหนวดด้วยความตั้งใจ แต่ก็ต้องชะงักเมื่อคนตัวสูงไม่ค่อยจะให้ความร่วมมือ“เป็นอะไร ทำต่อสิ” ไนต์ถามเสียงเรียบทำหน้านิ่งเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งที่ความเป็นจริงเขากำลังก่อกวนเธอด้วยการบีบเคล้นสะโพกของเธออยู่“คุณก็อยู่นิ่งๆ ก่อนสิคะ”“สั่งฉัน?”“ถ้าคุณไม่นิ่งฉันก็ทำไม่ได้ เงยหน้าหน่อยค่ะ”ไนต์เงยหน้าขึ้นตามที่คนตัวเล็กบอก หยุดมือที่บีบขย้ำสะโพกของเธอลง ท่าทางตั้งใจนั่นทำให้เขายอมอยู่นิ่งๆ ปล่อยให้เธอโกนหนวดให้ต่อไปจัสมินรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยที่คนตัวสูงยอมเงยหน้าตามที่เธอบอกง่ายๆ แถมยังยอมหยุดขย้ำสะโพกเธอด้วย แต่มือเขาก็ยังวางแหมะอยู่ที่ข้างต้นขาของเธอไม่ยอมขยับออกห่าง“เม้มปากให้หน่อยค่ะ”เป็นอีกครั้งที่ไนต์ทำตามคำสั่งอย่างไม่ถกเถียงอะไร ทำให้การโกนหนวดของจัสมินราบรื่นขึ้นจนใกล้จะเสร็จเรียบร้อยมือเล็กลูบเบาๆ ไปตามกรอบหน้าและปลายคางของคนตัวสูง เพื่อทดสอบดูว่าตัวเองนั้นโกนหนวดให้เขาเกลี้ยงเกลาดีแล้วหรือเปล่าสายตาคมจ้องมองใบหน้าสวยที่ตอนนี้ดูจริงจังอย่างตั้งใจไม่วางตา เกิดคำถามขึ้นในใจว่าเพราะอะไรเขาถึงได้เล่นกับเธอได้นานขน
จัสมินกลับถึงคอนโดตัวเองในช่วงเย็นที่แสงสว่างจากธรรมชาติถูกแทนที่ด้วยแสงไฟ เธอกับไนต์แยกกันที่ลานจอดรถ และเธอไม่ได้ถามว่าเขาจะไปไหนต่อ หรือเอาง่ายๆ คือเธอไม่มีสิทธิ์ถามเรื่องส่วนตัวของเขา แม้จะอยากรู้ว่าเขาจะไปไหนทำอะไรก็ได้แต่เก็บความสงสัยที่มีเอาไว้ในใจกล่องนาฬิกาเรือนหรูที่เพิ่งได้มาสดๆ ร้อนๆ ถูกหยิบออกมาเปิดดูอีกครั้ง ก่อนจะถูกเก็บเข้าไว้ในตู้โชว์อย่างดิบดี ดวงตาคู่สวยกวาดมองดูตู้เครื่องประดับของตัวเองที่มีทั้งนาฬิกา กำไลข้อมือ สร้อย แหวน รวมไปถึงตุ้มหู และเครื่องประดับเล็กๆ น้อยๆ อีกมากมาย รวมๆ แล้วในตู้นี้มีมูลค่ามากถึงเลขเจ็ดหลัก ถ้ารวมพวกกระเป๋ารองเท้าด้วยราคาก็น่าจะเหยียบแปดหลักได้เธอคงจะเป็นของเล่นราคาแพงอย่างที่เขาว่าจริงๆ อย่างปฏิเสธไม่ได้ เพราะสิ่งของเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นเขาที่ให้มา แต่จะมีกระเป๋าใบหนึ่งที่ลูกค้าประจำที่เธอดูแลซื้อให้เป็นของขวัญ แต่ไนต์ไม่รู้ เขาคิดว่าเธอซื้อเอง และเธอก็ตั้งใจให้เขาเข้าใจแบบนั้น เพราะไม่อยากจะให้มีปัญหาตามมาครืน… ครืน…สมาร์ทโฟนที่ถูกปิดเสียงไว้เกิดแรงสั่นขึ้นให้ได้ยิน จัสมินละสายตาจากตู้เครื่องประดับมองหาสมาร์ทโฟนของตัวเองคิ้วเรียว
จัสมินและเทียร์น่าเดินเลือกซื้อเครื่องสำอางกันอย่างสนุก จากที่แรกๆ จัสมินเกร็งจนไม่กล้าหยิบจับอะไร แต่พอถูกเทียร์น่าจับให้ลองนั่นนี่ก็คลายความเกร็งที่มีลง ไปๆ มาๆ พวกเธอสองคนคล้ายจะคุยกันถูกคอซะแล้ว“เทียร์ว่ากลิ่นนี้เหมาะกับพี่มินมากเลยค่ะ หวานๆ แต่ซ่อนความเซ็กซี่ ดูน่าค้นหาสุดๆ”จัสมินชะงักมือที่กำลังจะหยิบน้ำหอมกลิ่นประจำของตัวเอง หันไปมองตามเสียงของเทียร์น่าที่ยื่นกระดาษเทสกลิ่นน้ำหอมส่งมาให้เธอลองดมดู“หอมดีนะคะ แต่พี่มีกลิ่นประจำที่ชอบอยู่แล้ว” เธอเคยลองเปลี่ยนไปใช้กลิ่นอื่นดูแล้วแต่ไนต์ไม่ชอบ...เลยต้องกลับมาใช้กลิ่นเดิม“กลิ่นไหนคะ ขอเทียร์ลองหน่อยสิ”ได้ยินแบบนั้นจัสมินก็หยิบน้ำหอมกลิ่นที่ตัวเองใช้ประจำส่งให้กับเทียร์น่าได้ลองดมกลิ่นดู“เอ๋...กลิ่นนี้คุ้นๆ เหมือนเคยได้กลิ่นมาจากพี่ไนต์เลยค่ะ” เทียร์น่าเอ่ยด้วยสีหน้าครุ่นคิดเล็กน้อย พลางลอบสังเกตความผิดปกติของพี่สาวคนสวยที่เพิ่งได้รู้จักกัน“สงสัยคุณไนต์ก็คงใช้กลิ่นนี้ด้วยมั้งคะ”“พี่มินคะ นี่น้ำหอมผู้หญิงค่ะ พี่ไนต์ไม่ใช้อะไรแบบนี้หรอก” เธอว่าเธอมองไม่ผิดแน่ พี่ชายของเธอกับจัสมินต้องมีอะไรมากเกินกว่าคำว่าเจ้านายกับลูกน้อง แต่
จัสมินก้มหน้าก้มตาทานราเมงที่สั่งมา กะว่ารีบทานให้เส็จเร็วๆ จะได้รีบออกไปจากร้านนี้ แต่ทว่าขณะที่เธอกำลังเร่งรีบ คนที่นั่งอยู่โต๊ะในระดับสายตาก็พากันลุกขึ้นแล้วเดินออกไปก่อนเธอแล้วคนตัวเล็กมองตามสองคนหนุ่มสาวที่เดินออกจากร้านอาหารไป แล้วแอบลอบถอนหายใจอย่างโล่งอกที่ไม่ต้องรู้สึกอึดอัดในการทานอาหารมื้อนี้ตอนแรกก็กะว่าจะรีบทานรีบออกไป แต่พอเห็นคนทั้งคู่ลุกไปก่อนเลยเลือกที่จะนั่งทานอาหารมื้อแรกของวันต่ออย่างใจเย็น แต่ในหัวก็ยังเอาแต่นึกถึงภาพของสองคนนั้นอยู่ตลอดเวลา อยากจะรู้ใจจะขาดว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร ถ้าเป็นคนรักของเขา เธอจะได้รีบจัดการตัวเองออกจากความสัมพันธ์นั้นโดยเร็ว ก่อนที่คนของเขาจะรู้ตัว...ฟุ่บ!ขวับ!ใบหน้าสวยหันขวับด้วยความรวดเร็วเมื่ออยู่ๆ ที่ว่างข้างกายก็มีคนเดินมานั่ง ความตกใจทำให้เธอรีบขยับออกห่างอย่างอัตโนมัติ และเมื่อเห็นว่าคนที่นั่งลงเป็นใครก็ไม่ได้ทำให้ความตกใจของเธอลดน้อยลงเลย“คุณไนต์?!” ทำไมเขาถึงกลับมาได้ล่ะ เขากลับมาหาเธอเหรอ หรือว่าลืมของไว้แล้วแค่เดินกลับมาเอาไนต์จ้องมองคนตัวเล็กที่ดีดตัวออกห่างด้วยแววตานิ่งเฉย ก่อนจะละสายตาจากร่างบางมองไปบนโต๊ะที่มีถ้วยรา
หนึ่งสัปดาห์ต่อมา...ไอความเย็นจากเครื่องปรับอากาศปะทะเข้ากับผิวกายที่โผล่พ้นออกมานอกผ้าห่ม ปลุกให้คนตัวเล็กที่หลับไหลไปด้วยความอ่อนเพลียรู้สึกตัว มือเล็กเอื้อมดึงผ้าห่มขึ้นคลุมร่างกายตัวเองจนถึงคอทั้งที่ตายังหลับ ขยับขดตัวอยู่ภายใต้ผ้าห่มผืนใหญ่ด้วยความรู้สึกหนาวเย็นแรงขยับตัวของเธอดึงความสนใจจากคนตัวสูงที่นั่งพิงหัวเตียงอยู่ให้ละสายตาจากหน้าจอสมาร์ทโฟนในมือหันไปมอง ไนต์ขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อเห็นท่าทางการนอนของคนตัวเล็กผ่านรูปร่างของผ้าห่มผืนใหญ่ เธอขดตัวเข้าหากันจนแทบจะเป็นก้อนกลมๆ อยู่แล้วสายตาคมเหลือบมองที่รีโมทคอนโทรลของเครื่องปรับอากาศ เอื้อมมือหยิบขึ้นมากดปรับอุณหภูมิให้สูงขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย เพราะตอนแรกที่เขามาถึงเขาเปิดทิ้งไว้ที่ 18 องศา จากนั้นก็มีกิจกรรมเข้าจังหวะกันไปไม่น้อยกว่าสองรอบ ทำให้ไม่ได้รู้สึกว่าอุณหภูมินั้นเย็นเกินไป แต่ตอนนี้กิจกรรมนั้นจบลงแล้ว และคนตัวเล็กเจ้าของห้องก็หมดแรงไปแล้วอย่างที่เห็นหมับ!ไนต์รีบหันกลับมามองเมื่อมีแรงกอดกระชับลงบนขาที่อยู่ใต้ผ้าห่ม คนที่เคยนอนขดตัวอยู่ข้างๆ ตอนนี้ขยับตัวเองมาแนบชิดกอดขาเขาไว้แน่นแล้วซุกใบหน้าลงที่ข้างเอวสอบของเขาไปด