“ไป๋เหลียนเจ้ามาแล้วหรือ พวกเราคิดถึงเจ้าใจจะขาดอยู่แล้ว” อวิ๋นซีมาถึงก่อนใคร ดีใจที่ได้เจอไป๋เหลียนเร็วกว่าที่คิด ของที่นางซื้อไปแม้จะยังใช้ไม่หมด แต่มันก็ช่วยไม่ได้ในเมื่อทั้งคุณภาพและราคามันดีเสียจนอยากจะซื้อเก็บไว้เยอะ ๆ โดยเฉพาะครีมน้ำหอมที่ว่ามันช่วยให้นางเรียกแขกได้มากทีเดียว
“น้องสาวในที่สุดเจ้าก็มา” ลู่ฮวาเข้ามาเป็นคนที่สอง ร้องวี้ดว้ายทันทีเมื่อเห็นไป๋เหลียน นางแทบจะกระโดดกอดอีกฝ่ายด้วยความดีใจราวกับได้เจอผู้มีพระคุณ ช่วยให้ชีวิตนางได้เกิดใหม่อีกครั้ง
“ไป๋เหลียนพี่สาวมาแล้ว คราวนี้ข้าขอที่อยู่เจ้าด้วยนะ ข้าไม่รอเจ้ามาหาเองแล้วพวกเราจะเป็นฝ่ายไปหาเจ้าเองดีกว่า” จูถิงมาเป็นคนที่สาม รู้สึกว่าการรอให้ไป๋เหลียนมาหาไม่ค่อยจะทันใจนัก มิสู้รู้ที่อยู่อยากจดหมายหรือไปหาเมื่อไรก็ได้มิต้องรออย่างไร้จุดหมาย
“คารวะพี่สาวทั้งสาม เกิดอะไรขึ้นหรือเจ้าคะ เหตุใดถึงได้อยากเจอข้านัก” เพิ่งจะพบกันเมื่อสี่วันก่อนแท้ ๆ ของที่ขายก็ไม่น่าจะใช้หมดอย่างต่ำก็ต้องใช้เวลาเป็นเดือน
“ก็ไอ้ที่เรียกว่าครีมน้ำหอมที่เจ้าให้มาน่ะสิ ใช้ดีมาก นี่ก็ใกล้จะหมดแล้วกลัวว่าถ้ารอถึงวันนัดจะไม่พอใช้น่ะ”
“อะไรกันเจ้าคะพี่จูถิง พวกท่านใช้ไปมากแค่ไหนกัน แค่สี่วันจะหมดขวดแล้วหรือเจ้าคะ” จะไม่ให้ตกใจได้อย่างไร คนปกติทาทั่วตัวหนึ่งขวดใช้ได้เป็นเดือน แต่นี่พวกนางบอกว่ากลัวจะหมดก่อน นี่ทาหรืออาบกันแน่
“ใช่แล้ว เป็นเพราะครีมน้ำหอมของเจ้า ตอนนี้ทำให้พวกเราสามคนกลายเป็นดาวเด่นไปแล้ว เจ้าเหมือนเทพธิดามาโปรด เป็นตัวนำโชคของพวกเราจริง ๆ” อวิ๋นซีปิดปากหัวเราะอย่างมีจริตจะก้าน แค่ชั่วข้ามคืนตนและน้องสาวทั้งสองชื่อเสียงกระฉ่อนไปทั่วทั้งเมือง ต่างก็ได้ฉายาคณิกาตัวหอมธิดาแห่งเทพบุปผา ผู้ใดจะไม่ดีใจกันเล่า
“เจ้ามีเยอะหรือไม่แพงแค่ไหนข้าก็จะซื้อ ครั้งนี้ข้าทุ่มสุดตัว” ลู่ฮวายกถุงเงินถุงใหญ่ขึ้นมาวางไว้ตรงหน้าไป๋เหลียน เงินแค่นี้อีกไม่กี่วันนางก็ได้คืนมาแล้วจะเสียดายไปไย
“ไม่ต้องเป็นห่วงเจ้าค่ะ ข้ามีเท่าที่พี่สาวต้องการเชียว ที่สำคัญมิได้มีแค่กลิ่นเดียวนะเจ้าคะ เชิญพวกท่านลองเลือกที่ถูกใจได้ตามใจชอบ”
“จริงหรือ ดียิ่ง เช่นนั้นเอามาเลย” สามสาวคณิกาพูดขึ้นพร้อมกัน พวกนางตั้งตารอจะได้เลือกซื้อไม่ไหว รับรองเลยว่าครั้งนี้จะกักตุนไว้ให้เยอะเชียว
เพื่อบดบังสายตาทุกคนไป๋เหลียนทำทีเปิดผ้าคลุมควานหาของในกระบุง ความจริงแล้วนางกำลังเก็บขวดครีมน้ำหอมใส่กระเป๋าผ้า หยิบเอาทุกยี่ห้อที่รู้จักเพื่อให้พี่สาวทั้งสามได้เลือกหากลิ่นที่ตนชอบ เมื่อได้ของครบนางจึงยกกระเป๋าผ้าขึ้นมาวางไว้บนโต๊ะ ก่อนจะนำครีมน้ำหอมตัวอย่างออกมาเรียงรายตรงหน้าคนทั้งสาม
“นี่คือขวดทดลอง เชิญพวกท่านเลือกกลิ่นที่ชอบได้ตามความต้องการเลยเจ้าค่ะ”
เลือกให้เยอะ ๆ เลยนะ บ่อเงินบ่อทองของข้า ไป๋เหลียนนั่งยิ้มตาหยีเมื่อเหล่าลูกค้าประจำของนางต่างยื้อแย่งกันให้วุ่น นอกจากวันนี้นางจะได้กอบโกยเงินจากลูกค้าขาประจำแล้ว คณิกาดาวเด่นทั้งสามยังแนะนำหญิงคณิกาคนอื่นให้รู้จักตามสัญญาที่เคยพูดไว้เมื่อคราวก่อน เพื่อแลกกับส่วนลดที่พวกนางจะได้รับ
กระนั้นก็มีข้อแม้ว่าขอไว้เฉพาะครีมน้ำหอมให้เก็บเป็นความลับ เพราะกว่าพวกนางจะมาถึงจุดนี้มันช่างยากเย็นแสนเข็ญ หากคณิกาคนอื่นทำเช่นพวกตนบ้างก็คงไม่พ้นจะเบียดพวกนางตกกระป๋องอีกคราเป็นแน่
ไป๋เหลียนนั้นไม่มีปัญหากับเรื่องที่ถูกร้องขอ ทั้งเห็นใจเสียด้วยซ้ำที่ต้องแลกอะไรหลาย ๆ อย่างเพื่อเอาชีวิตรอด ด้วยความถูกชะตาจึงยอมรับปากไม่ขายให้ผู้ใด
แม้คำขอร้องของคณิกาทั้งสามจะเห็นแก่ตัวไปสักหน่อย แต่ไป๋เหลียนก็ยอมรับปาก หากเป็นผู้อื่นเมื่อเห็นช่องทางทำเงินก็คงจะต้องรีบกอบโกย แต่ไป๋เหลียนกลับไม่ทำ นั่นเท่ากับว่านางได้ซื้อใจ อวิ๋นซี ลู่ฮวา จูถิง คณิกาดาวเด่นไปแล้วทั้งใจ
ที่สำคัญหากไม่ได้พบไป๋เหลียนในวันนั้น พวกนางก็อาจจะเป็นได้แค่คณิกาชั้นต่ำ ไม่ว่าแขกคนนั้นจะเลวตบตีแค่ไหนก็ต้องทนในเมื่อรับเงินมาแล้ว ทว่าตอนนี้มิได้เป็นเช่นนั้น พวกนางสามารถเลือกรับแขกได้ มีวันหยุดประจำเดือน ทั้งยังได้สิทธิพิเศษหลาย ๆ อย่างในหอคณิกาอย่างที่เคยใฝ่ฝัน
นับแต่นี้จะถือว่าเป็นมิตรที่ดีต่อกัน นอกจากจะช่วยหาลูกค้าให้แล้ว หากไป๋เหลียนมีเรื่องขอให้ช่วยพวกนางจะไม่มีทางปฏิเสธอย่างแน่นอน
“กรี๊ดดด เช่นนั้นก็เป็นเรื่องจริงน่ะสิที่ว่าท่านแม่ทัพมีภรรยาอยู่แล้ว ที่แท้ก็เป็นเจ้านี่เอง”“เช่นนั้นข้าก็ไม่แปลกใจที่เจ้ามีของแปลกใหม่มาขายให้พวกเรา เป็นถึงฮูหยินแม่ทัพละก็คงได้ติดตามแม่ทัพหลี่ไปหลายที่พบผู้คนมากมายสินะ เจ้าคงได้ไปท่องเที่ยวมาเยอะล่ะซิ ข้าอิจฉาเจ้านัก”“เจ้าเนี่ยปิดบังพวกเราไว้เงียบเชียวนะ”คณิกาดาวเด่นทั้งสามต่างก็พากันคาดเดาและยิงคำถามไม่หยุด ไป๋เหลียนคิดจะอธิบายให้พวกนางเข้าใจสถานะของตนกับท่านแม่ทัพ แต่ก็คงไม่ทันเสียแล้ว ในเมื่อทุกคนคิดไปไกลคาดเดาไปเอง พูดอะไรไปคงไม่เข้าหูแล้วกระมังเช่นนั้นก็ปล่อยให้พวกนางคิดไปเถอะ ขอแค่อย่าให้ท่านแม่ทัพได้ยินก็พอ มิเช่นนั้นชีวิตนางคงอยู่ไม่รอดไปจนจบเป็นแน่ แค่คิดก็เสียวคอแล้วไหมเล่าหาเรื่องตายเร็วให้กันโดยแท้“เจ้าค่ะ คือว่าพี่สาว ที่ข้ามาหาพวกท่านวันนี้คือข้าจะมาลาเจ้าค่ะ” หญิงสาวรีบเข้าเรื่องทันที ถ้าไม่พูดตอนนี้มีหวังคงได้พูดแต่เรื่องหลี่มู่กวาไม่หยุด“มาลาหรือ เจ้าจะไปที่ใด ช่างน่าเสียดายนักเพิ่งจะสนิทกันแท้ ๆ ที่สำคัญเครื่องประทินผิวของเจ้าก็ดีมากเสียด้วย ไม่มีเจ้าแล้วพวกเราจะใช้ชีวิตต่ออย่างไร” ลู่ฮวารู้สึกใจหาย ไม่คิดว่
เด็กสาวส่ายหน้าอย่างไม่เห็นด้วย แม้จะไปแจ้งทางการก็ได้เพียงแค่ถูกว่ากล่าวตักเตือนมิได้ลงโทษอะไร ไม่แคล้วถูกจับมาขายเช่นเดิม เรื่องเช่นนี้มีให้เห็นได้ทั่วไปไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร“ส่งน้องสาวข้ามาเดี๋ยวนี้ อย่ายุ่งไม่เข้าเรื่อง” ชายร่างใหญ่ก้าวอาด ๆ เข้าหาสตรีทั้งสอง ทั้งฉุนและไม่พอใจที่น้องสาวขัดขืนไม่ยอมเชื่อฟัง เสียเวลาทำธุระอย่างอื่นชะมัด ความอดทนเริ่มจะหมดลงเรื่อย ๆ“นางเป็นน้องของเจ้าเอามาขายเป็นผักเป็นปลาเช่นนี้ได้อย่างไร ไม่อายพ่อแม่บรรพบุรุษบ้างหรือ ทำมาหากินเองไม่ได้ต้องมาขายน้องแลกเงิน ถุย...” ไป๋เหลียนด่าทออย่างเหลืออด พลางมองค้อนหลี่มู่กวาที่ไม่ยอมช่วยเหลือ“ปากดีนักนะ เรื่องของคนอื่นอย่าริมาสั่งสอน” บุรุษร่างกายใหญ่โตเทอะทะง้างมือขึ้นหมายฟาดสั่งสอนให้สำนึก บังอาจเข้ามาสอดไม่เข้าเรื่อง มีหรือคนอย่างตนจะให้สตรีมาด่าเช่นนี้ ดีละ จัดการนังนี่ไปขายด้วยคงจะได้หลายตำลึง“อ๊ากกกกก”ตุบ!“เอามือสกปรกของเจ้าออกไป” แม่ทัพหนุ่มใช้เท้าถีบเข้าไปที่ใบหน้าเหมือนหมูตอนเต็มแรง พร้อมกับชักดาบออกจากฝัก เฉือนปลายจมูกแหว่งไม่พอหูข้างหนึ่งก็ถูกตัดเช่นกัน และยังใจดีโยนเงินจำนวนหนึ่งตำลึงให้ชายผู้นั
“ขายบ้านหลังนี้เจ้าไม่เสียดายแน่หรือ”“ข้าตัดสินใจแล้วเจ้าค่ะ เก็บไว้ก็เท่านั้นมิสู้ขายเอาเงินมาใช้ดีกว่า” คิดว่าน่าอยู่นักหรือหมู่บ้านเส็งเคร็งเช่นนี้มีอะไรให้นางเสียดายกัน ขาย ๆ ไปนั่นแหละดีแล้ว เก็บไว้ก็ไม่มีประโยชน์ หากจะเรียกให้ถูกก็คือไม่ควรค่าแก่การกลับมาที่นี่ต่างหากนางเพิ่งเอาโฉนดที่ดินขึ้นทะเบียนเพื่อฝากขาย ก็ไม่แปลกที่เขาจะถามนางเช่นนั้น คนเราเกิดและโตที่ใดก็ย่อมมีความทรงจำความผูกพันเป็นธรรมดา แต่ว่านางไม่ใช่ ไม่ใช่ทั้งไป๋เหลียน ไม่ใช่ทั้งคนของโลกแห่งนี้ แล้วจะเสียดายไปไยนอกจากมีธุระเรื่องขายที่แล้ว นางและหลี่มู่กวายังมีธุระต้องไปหอฮวาเหมย ด้วยท่านอ๋องได้นัดหมายให้ไปพบที่นั่น หญิงสาวจึงถือโอกาสนี้ไปร่ำลาพวกพี่สาวคณิกาทั้งสาม อย่างไรเสียนางไปแล้วคงจะไม่กลับมาที่นี่อีก แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นก็ไม่อาจตัดใจ ปล่อยเงินก้อนโตหายไปต่อหน้าต่อตาได้อย่างไร ที่นี่ล้วนเป็นแหล่งเงินทองชั้นดี“เดี๋ยวก่อนเจ้าค่ะ ตรงนั้นเกิดอะไรขึ้นเราเข้าไปดูสักหน่อยดีหรือไม่”เบื้องหน้ากลับมีคนรุมล้อมดูอะไรสักอย่าง ทั้งเสียงสตรีก็ดูจะคุ้นหูนัก ความอยากรู้อยากเห็นทำให้หญิงสาวเดินหน้าตั้งฝ่ากลุ่มคนไปทันที ย
ยามห้าย (21.00-22.59 น.)ไป๋เหลียนได้แต่นอนกลิ้งไปมาอยู่บนเตียง ฝืนตนเองเอาไว้ไม่ให้หลับไปเสียก่อนรอว่าหลี่มู่กวาจะกลับมาเมื่อไร ถึงแม้เขาจะบอกไว้ก่อนแล้วให้เข้านอนก่อนก็ตาม“ข้าจะทำอย่างไรให้ท่านแม่ทัพพาข้าไปด้วยดีนะ”ไม่ว่าจะคิดอย่างไรก็ไม่มีหนทางไหนที่เขาจะยอมให้นางติดตามไปด้วยได้เลย ยิ่งตนมีชนักติดหลังอยู่ด้วย การที่จะทำให้เขายอมตกลงจึงเป็นเรื่องยากยิ่งแต่ไม่ว่าอย่างไรนางก็จะต้องตามเขาไปด้วยให้ได้ ไม่มีวิธีที่ดีไปกว่าการลองขอเขาไปตามตรง ไม่แน่ว่าหลี่มู่กวาอาจจะใจอ่อน ต่อให้นางไปในฐานะสาวใช้หรือทาสก็ยอม“เมื่อไรจะกลับมาเสียที ไม่ใช่ว่าแอบกลับไปเมืองหน้าด่านแล้วหรอกนะ” ร่างบางลนลานลุกขึ้นนั่งทันที เขาบอกว่าจะไปช่วยหาโรงเตี๊ยมให้ท่านอ๋องได้พักในระหว่างที่อยู่ที่นี่ เดินทางเข้าเมืองกว่าชั่วยามยังไม่กลับมา รู้เช่นนี้นางน่าจะขอให้ทั้งสองคนนอนพักที่นี่เสียก็ดีแต่แล้วเสียงดังกุกกักจากด้านนอกทำเอาไป๋เหลียนใจชื้นขึ้นไม่น้อย ภาวนาให้เป็นหลี่มู่กวาด้วยเถอะ อย่าได้เป็นผีหรือไอ้ติงเฉิงหน้าหม้อนั่นเลย สองสิ่งนี้ทำให้นางรู้สึกหลอนและเข็ดขยาดขึ้นสมอง อย่างไรเสียต้องหาอะไรไว้ป้องกันตัว หญิงสาวรีบ
“อืม... นี่ก็เป็นหนึ่งในข้อร้องขอของแคว้นฉู่เช่นกัน เสด็จพ่อเห็นว่าไม่ใช่สิ่งที่ขอมากไปจึงตอบตกลง” ที่เขาไม่ชอบใจเลยก็ตรงที่พวกมันทำราวกับแคว้นเป่ยเป็นเพียงหมูในคอก คิดอยากทำอะไรก็ทำ เรียกร้องจะเอานั่นเอานี่ไม่รู้จักเกรงใจ กระนั้นจะทำอย่างไรได้ในเมื่อกำลังพลยังไม่พร้อมจะรับศึกหนักตอนนี้ได้ ช่างน่าเจ็บใจนัก“พวกมันเหิมเกริมขึ้นทุกวัน เรายอมรับการประนีประนอมมิใช่ยอมแพ้เสียเมื่อไรกัน ไอ้พวกสุนัขลอบกัด” คราวที่แล้วแม้จะรู้ว่าเป็นพวกมันสร้างสถานการณ์ขึ้นมา ทว่าพวกเขากลับหาหลักฐานไม่ได้ทำให้เรื่องทั้งหมดกลายเป็นว่าท่านอ๋องถูกโจรป่าดักปล้น ยังดีที่สามารถเอาชีวิตรอดกันมาได้“ข้าน้อยว่าการขอพักขบวนที่เมืองหน้าด่านมิใช่เรื่องปกติขอรับ แม้คณะทูตจะเดินทางไกลก็จริง หากจะต้องพักแค่สามวันก็น่าจะพอแล้ว ไม่จำเป็นต้องรั้งอยู่นานถึงสิบวัน”“ข้าก็เห็นด้วยกับจิ้งกัง เป็นเช่นนี้ไม่ดีแน่”“เพราะแบบนี้เราถึงได้มาหาเจ้า เราก็ไม่อยากจะขัดความสุขของเจ้ากับภรรยาหรอกนะ แต่อย่างไรคงต้องรีบกลับหน้าด่านให้เร็วที่สุด จะล่าช้าต่อไปไม่ได้แล้ว จะพานางไปด้วยหรือให้รอที่นี่ก็คุยกันให้รู้เรื่องเสีย อีกสามวันเราต้องออกเดินท
นางคือภรรยาของข้าคำคำนี้ยังคงก้องอยู่ในหู ทำเอาไป๋เหลียนยืนเหม่อลอยทำอะไรไม่ถูก แม้นางจะถูกร้องขอให้ออกมาทำอาหารเย็นแล้วก็ตาม ทว่าความเป็นจริงกลับเอาแต่ยืนนิ่งมาได้สักพักใบหน้างามเห่อร้อนแดงเรื่อลามไปถึงใบหูอย่างช่วยไม่ได้ ขัดเขินเสียจนไม่แน่ใจว่าจะกล้ามองหน้าหลี่มู่กวาได้โดยไม่รู้สึกอะไรหรือไม่ ถึงเขาไม่ได้ตั้งใจจะพูดเช่นนั้นก็เถอะ กระนั้นก็ยังรู้สึกดีไม่น้อยเช่นนั้นในเมื่อวันนี้หลี่มู่กวาพูดถูกใจ นางก็จะทำของอร่อยเอาใจเขาเพิ่มจากเดิมอีกสักสองสามอย่างแล้วกัน อย่างไรเสียก็มีคนมาเพิ่มของเดิมที่ทำไว้คงไม่พอจะเรียกว่าทำอาหารก็ไม่ถูก เพราะนางก็ไม่ได้ทำอะไรดีขนาดนั้น ทุกอย่างล้วนแล้วแต่เอาออกมาจากมิติวิเศษ ส่วนที่ทำเองก็คงจะมีแค่หุงข้าวและอาหารพื้น ๆ ของโลกเดิมแค่บางอย่างที่ตนเองถนัดก็เท่านั้นเป็ดปักกิ่งถูกแร่หนังกรอบ ๆ จัดเรียงในจานอย่างดี ส่วนเนื้อเป็ดนั้นหั่นเป็นชิ้นพอดีคำแยกออกมาอีกจาน นอกจากนั้นยังมีปลานึ่งซีอิ๊วอีกหนึ่งอย่าง กระนั้นสิ่งที่นางลงมือทำจริงก็คือต้มยำกุ้งน้ำข้น รสชาติจัดจ้านซดร้อน ๆ ก็คงจะคล่องคอดีทว่าระหว่างทำอาหารอยู่นั้น ไป๋เหลียนก็ยังคงคอยเอียงหูฟังอยู่ตลอด บ้าน