“ขายบ้านหลังนี้เจ้าไม่เสียดายแน่หรือ”
“ข้าตัดสินใจแล้วเจ้าค่ะ เก็บไว้ก็เท่านั้นมิสู้ขายเอาเงินมาใช้ดีกว่า” คิดว่าน่าอยู่นักหรือหมู่บ้านเส็งเคร็งเช่นนี้มีอะไรให้นางเสียดายกัน ขาย ๆ ไปนั่นแหละดีแล้ว เก็บไว้ก็ไม่มีประโยชน์ หากจะเรียกให้ถูกก็คือไม่ควรค่าแก่การกลับมาที่นี่ต่างหาก
นางเพิ่งเอาโฉนดที่ดินขึ้นทะเบียนเพื่อฝากขาย ก็ไม่แปลกที่เขาจะถามนางเช่นนั้น คนเราเกิดและโตที่ใดก็ย่อมมีความทรงจำความผูกพันเป็นธรรมดา แต่ว่านางไม่ใช่ ไม่ใช่ทั้งไป๋เหลียน ไม่ใช่ทั้งคนของโลกแห่งนี้ แล้วจะเสียดายไปไย
นอกจากมีธุระเรื่องขายที่แล้ว นางและหลี่มู่กวายังมีธุระต้องไปหอฮวาเหมย ด้วยท่านอ๋องได้นัดหมายให้ไปพบที่นั่น หญิงสาวจึงถือโอกาสนี้ไปร่ำลาพวกพี่สาวคณิกาทั้งสาม อย่างไรเสียนางไปแล้วคงจะไม่กลับมาที่นี่อีก แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นก็ไม่อาจตัดใจ ปล่อยเงินก้อนโตหายไปต่อหน้าต่อตาได้อย่างไร ที่นี่ล้วนเป็นแหล่งเงินทองชั้นดี
“เดี๋ยวก่อนเจ้าค่ะ ตรงนั้นเกิดอะไรขึ้นเราเข้าไปดูสักหน่อยดีหรือไม่”
เบื้องหน้ากลับมีคนรุมล้อมดูอะไรสักอย่าง ทั้งเสียงสตรีก็ดูจะคุ้นหูนัก ความอยากรู้อยากเห็นทำให้หญิงสาวเดินหน้าตั้งฝ่ากลุ่มคนไปทันที ยังไม่ทันจะได้ตอบสตรีข้างกายก็เดินลิ่วนำหน้าไปเสียแล้ว หลี่มู่กวาได้แต่ส่ายหน้าอย่างเหนื่อยหน่ายใจ จะถามความเห็นกันไปเพื่ออะไร ท้ายที่สุดแล้วตัวนางก็ไม่ได้รอฟัง
“เฮ้ย เดินเร็ว ๆ สิวะนังเด็กบ้านี่”
“พี่ใหญ่ได้โปรดปล่อยข้าไปเถอะ จะให้ข้าทำงานเพิ่มข้าก็ยอมอย่าเอาข้าไปขายเลย”
“ข้าไม่สน”
“พี่ใหญ่ข้าไม่อยากเป็นหญิงคณิกา ข้าขอร้อง”
หลังจากฝ่าฝูงผู้คนเข้าไปได้ ไป๋เหลียนจึงรู้ว่าเสียงคุ้นหูนั่นคือหญิงรับใช้ที่เคยช่วยนำทางนางในหอฮวาเหมย เห็นสภาพของอีกฝ่ายแล้วชวนให้รู้สึกสงสารนัก
ดูจากรูปการณ์คงไม่พ้นถูกคนในบ้านพาไปขาย เห็นแล้วให้นึกถึงตัวเองชะตากรรมก็ไม่ต่างอะไรกับหญิงรับใช้ผู้นี้สักเท่าไร ขนาดไม่ได้เป็นหญิงคณิกาคนทั้งหมู่บ้านยังตั้งท่ารังเกียจ ไม่อยากคิดเลยว่าถ้าเป็นคณิกาคนเหล่านั้นจะทำกับตนเช่นไรบ้าง
“มู่กวา ท่านช่วยนางได้หรือไม่”
“อย่าไปยุ่งเรื่องของผู้อื่นเลย เจ้าก็รู้นี่ลูกหลานเป็นสิทธิ์ของคนในบ้าน จะกลายเป็นเราเข้าไปยุ่งเรื่องครอบครัวผู้อื่นเปล่า ๆ”
“แต่สตรีก็ไม่สมควรโดนแบบนี้นี่เจ้าคะ ท่านช่วยนางสักหน่อยมิได้หรือถือว่าข้าขอร้องท่าน” ไป๋เหลียนอดสงสารเด็กสาวผู้นั้นเสียมิได้ เพิ่งจะเริ่มเป็นสาวยังไม่ทันจะมีความรักครอบครัวดี ๆ กลับต้องหมดอนาคตไปกับพวกสันดานต่ำช้า
ทว่ากายหนากลับเอาแต่ยืนนิ่ง มองภาพเหตุการณ์เบื้องหน้าด้วยสายตาว่างเปล่า มิได้นำพาสิ่งที่นางร้องขอแต่อย่างใด
ระหว่างที่ขอให้แม่ทัพหนุ่มช่วยหญิงรับใช้อยู่นั้น เด็กสาวหน้าตางดงามกำลังถูกพี่ชายตบตีไม่เลิก ใบหน้าบวมช้ำหาที่ดีไม่ได้ กระนั้นก็ใช่ว่าเจ้าตัวจะไม่ลุกขึ้นสู้ ถูกจิกหัวลากไปตามทางพร้อมกับร้องขออ้อนวอนให้พี่ชายปล่อยนางไป
“พี่ใหญ่ปล่อยข้าไปเถอะนะ ข้ามีเงินข้าจะให้ท่านหมดเลย อย่าเอาข้าไปขายเป็นหญิงคณิกาเลยนะ ฮือออ พี่ใหญ่เห็นแก่น้องสาวคนนี้สักครั้งเถอะนะ” เด็กสาวงัดเอาเงินก้อนสุดท้ายที่เตรียมจะหนีออกมา เงินทองค่อยหาเอาใหม่เมื่อใดก็ได้ ตอนนี้ขอแค่ให้นางหลุดพ้นจากตรงนี้ไปให้ได้ก็พอ
“หน็อยนี่เจ้าแอบเก็บไม่บอกข้าหรือ นังสวะ” ผู้เป็นพี่ชายถึงกับเดือดดาลขึ้นมาทันที ก่อนหน้าบอกไม่มีเอาแต่ร้องห่มร้องไห้ คราวนี้กลับงัดเอาเงินขึ้นมาต่อรอง
เพียะ!
“โอ๊ย”
แทนที่พี่ชายจะพอใจ เด็กสาวกลับถูกตบเข้าที่ใบหน้าฉาดใหญ่ เซถลาเข้าหากลุ่มคนมุงดูเหตุการณ์เข้าเต็มเปา
“เจ้าเจ็บหรือไม่”
“แม่นางไป๋เหลียน ฮือออ ชะ ช่วยข้าด้วย ข้าไม่อยากเป็นคณิกา”
หญิงรับใช้ตั้งใจจะขอความช่วยเหลือจากไป๋เหลียนในคราแรก ทว่าเมื่อนึกถึงพี่ชายตัวโตที่กำลังก้าวอาด ๆ มาที่ตนทำเอาตื่นกลัวตัวสั่นงันงก แม่นางไป๋เหลียนตัวเล็กนิดเดียวทั้งยังเป็นเพียงสตรีชาวบ้านธรรมดาจะช่วยอะไรตนได้ นางจึงรีบผลักอีกฝ่ายให้ออกห่าง ด้วยเกรงว่าจะโดนลูกหลงไปด้วย
“แม่นางปล่อยข้าเจ้าค่ะ ประเดี๋ยวท่านจะโดนลูกหลงไปด้วย”
“ไปกับข้า ไปแจ้งทางการว่าเจ้าถูกบังคับเจ้ามิได้เต็มใจ”
“กรี๊ดดด เช่นนั้นก็เป็นเรื่องจริงน่ะสิที่ว่าท่านแม่ทัพมีภรรยาอยู่แล้ว ที่แท้ก็เป็นเจ้านี่เอง”“เช่นนั้นข้าก็ไม่แปลกใจที่เจ้ามีของแปลกใหม่มาขายให้พวกเรา เป็นถึงฮูหยินแม่ทัพละก็คงได้ติดตามแม่ทัพหลี่ไปหลายที่พบผู้คนมากมายสินะ เจ้าคงได้ไปท่องเที่ยวมาเยอะล่ะซิ ข้าอิจฉาเจ้านัก”“เจ้าเนี่ยปิดบังพวกเราไว้เงียบเชียวนะ”คณิกาดาวเด่นทั้งสามต่างก็พากันคาดเดาและยิงคำถามไม่หยุด ไป๋เหลียนคิดจะอธิบายให้พวกนางเข้าใจสถานะของตนกับท่านแม่ทัพ แต่ก็คงไม่ทันเสียแล้ว ในเมื่อทุกคนคิดไปไกลคาดเดาไปเอง พูดอะไรไปคงไม่เข้าหูแล้วกระมังเช่นนั้นก็ปล่อยให้พวกนางคิดไปเถอะ ขอแค่อย่าให้ท่านแม่ทัพได้ยินก็พอ มิเช่นนั้นชีวิตนางคงอยู่ไม่รอดไปจนจบเป็นแน่ แค่คิดก็เสียวคอแล้วไหมเล่าหาเรื่องตายเร็วให้กันโดยแท้“เจ้าค่ะ คือว่าพี่สาว ที่ข้ามาหาพวกท่านวันนี้คือข้าจะมาลาเจ้าค่ะ” หญิงสาวรีบเข้าเรื่องทันที ถ้าไม่พูดตอนนี้มีหวังคงได้พูดแต่เรื่องหลี่มู่กวาไม่หยุด“มาลาหรือ เจ้าจะไปที่ใด ช่างน่าเสียดายนักเพิ่งจะสนิทกันแท้ ๆ ที่สำคัญเครื่องประทินผิวของเจ้าก็ดีมากเสียด้วย ไม่มีเจ้าแล้วพวกเราจะใช้ชีวิตต่ออย่างไร” ลู่ฮวารู้สึกใจหาย ไม่คิดว่
เด็กสาวส่ายหน้าอย่างไม่เห็นด้วย แม้จะไปแจ้งทางการก็ได้เพียงแค่ถูกว่ากล่าวตักเตือนมิได้ลงโทษอะไร ไม่แคล้วถูกจับมาขายเช่นเดิม เรื่องเช่นนี้มีให้เห็นได้ทั่วไปไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร“ส่งน้องสาวข้ามาเดี๋ยวนี้ อย่ายุ่งไม่เข้าเรื่อง” ชายร่างใหญ่ก้าวอาด ๆ เข้าหาสตรีทั้งสอง ทั้งฉุนและไม่พอใจที่น้องสาวขัดขืนไม่ยอมเชื่อฟัง เสียเวลาทำธุระอย่างอื่นชะมัด ความอดทนเริ่มจะหมดลงเรื่อย ๆ“นางเป็นน้องของเจ้าเอามาขายเป็นผักเป็นปลาเช่นนี้ได้อย่างไร ไม่อายพ่อแม่บรรพบุรุษบ้างหรือ ทำมาหากินเองไม่ได้ต้องมาขายน้องแลกเงิน ถุย...” ไป๋เหลียนด่าทออย่างเหลืออด พลางมองค้อนหลี่มู่กวาที่ไม่ยอมช่วยเหลือ“ปากดีนักนะ เรื่องของคนอื่นอย่าริมาสั่งสอน” บุรุษร่างกายใหญ่โตเทอะทะง้างมือขึ้นหมายฟาดสั่งสอนให้สำนึก บังอาจเข้ามาสอดไม่เข้าเรื่อง มีหรือคนอย่างตนจะให้สตรีมาด่าเช่นนี้ ดีละ จัดการนังนี่ไปขายด้วยคงจะได้หลายตำลึง“อ๊ากกกกก”ตุบ!“เอามือสกปรกของเจ้าออกไป” แม่ทัพหนุ่มใช้เท้าถีบเข้าไปที่ใบหน้าเหมือนหมูตอนเต็มแรง พร้อมกับชักดาบออกจากฝัก เฉือนปลายจมูกแหว่งไม่พอหูข้างหนึ่งก็ถูกตัดเช่นกัน และยังใจดีโยนเงินจำนวนหนึ่งตำลึงให้ชายผู้นั
“ขายบ้านหลังนี้เจ้าไม่เสียดายแน่หรือ”“ข้าตัดสินใจแล้วเจ้าค่ะ เก็บไว้ก็เท่านั้นมิสู้ขายเอาเงินมาใช้ดีกว่า” คิดว่าน่าอยู่นักหรือหมู่บ้านเส็งเคร็งเช่นนี้มีอะไรให้นางเสียดายกัน ขาย ๆ ไปนั่นแหละดีแล้ว เก็บไว้ก็ไม่มีประโยชน์ หากจะเรียกให้ถูกก็คือไม่ควรค่าแก่การกลับมาที่นี่ต่างหากนางเพิ่งเอาโฉนดที่ดินขึ้นทะเบียนเพื่อฝากขาย ก็ไม่แปลกที่เขาจะถามนางเช่นนั้น คนเราเกิดและโตที่ใดก็ย่อมมีความทรงจำความผูกพันเป็นธรรมดา แต่ว่านางไม่ใช่ ไม่ใช่ทั้งไป๋เหลียน ไม่ใช่ทั้งคนของโลกแห่งนี้ แล้วจะเสียดายไปไยนอกจากมีธุระเรื่องขายที่แล้ว นางและหลี่มู่กวายังมีธุระต้องไปหอฮวาเหมย ด้วยท่านอ๋องได้นัดหมายให้ไปพบที่นั่น หญิงสาวจึงถือโอกาสนี้ไปร่ำลาพวกพี่สาวคณิกาทั้งสาม อย่างไรเสียนางไปแล้วคงจะไม่กลับมาที่นี่อีก แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นก็ไม่อาจตัดใจ ปล่อยเงินก้อนโตหายไปต่อหน้าต่อตาได้อย่างไร ที่นี่ล้วนเป็นแหล่งเงินทองชั้นดี“เดี๋ยวก่อนเจ้าค่ะ ตรงนั้นเกิดอะไรขึ้นเราเข้าไปดูสักหน่อยดีหรือไม่”เบื้องหน้ากลับมีคนรุมล้อมดูอะไรสักอย่าง ทั้งเสียงสตรีก็ดูจะคุ้นหูนัก ความอยากรู้อยากเห็นทำให้หญิงสาวเดินหน้าตั้งฝ่ากลุ่มคนไปทันที ย
ยามห้าย (21.00-22.59 น.)ไป๋เหลียนได้แต่นอนกลิ้งไปมาอยู่บนเตียง ฝืนตนเองเอาไว้ไม่ให้หลับไปเสียก่อนรอว่าหลี่มู่กวาจะกลับมาเมื่อไร ถึงแม้เขาจะบอกไว้ก่อนแล้วให้เข้านอนก่อนก็ตาม“ข้าจะทำอย่างไรให้ท่านแม่ทัพพาข้าไปด้วยดีนะ”ไม่ว่าจะคิดอย่างไรก็ไม่มีหนทางไหนที่เขาจะยอมให้นางติดตามไปด้วยได้เลย ยิ่งตนมีชนักติดหลังอยู่ด้วย การที่จะทำให้เขายอมตกลงจึงเป็นเรื่องยากยิ่งแต่ไม่ว่าอย่างไรนางก็จะต้องตามเขาไปด้วยให้ได้ ไม่มีวิธีที่ดีไปกว่าการลองขอเขาไปตามตรง ไม่แน่ว่าหลี่มู่กวาอาจจะใจอ่อน ต่อให้นางไปในฐานะสาวใช้หรือทาสก็ยอม“เมื่อไรจะกลับมาเสียที ไม่ใช่ว่าแอบกลับไปเมืองหน้าด่านแล้วหรอกนะ” ร่างบางลนลานลุกขึ้นนั่งทันที เขาบอกว่าจะไปช่วยหาโรงเตี๊ยมให้ท่านอ๋องได้พักในระหว่างที่อยู่ที่นี่ เดินทางเข้าเมืองกว่าชั่วยามยังไม่กลับมา รู้เช่นนี้นางน่าจะขอให้ทั้งสองคนนอนพักที่นี่เสียก็ดีแต่แล้วเสียงดังกุกกักจากด้านนอกทำเอาไป๋เหลียนใจชื้นขึ้นไม่น้อย ภาวนาให้เป็นหลี่มู่กวาด้วยเถอะ อย่าได้เป็นผีหรือไอ้ติงเฉิงหน้าหม้อนั่นเลย สองสิ่งนี้ทำให้นางรู้สึกหลอนและเข็ดขยาดขึ้นสมอง อย่างไรเสียต้องหาอะไรไว้ป้องกันตัว หญิงสาวรีบ
“อืม... นี่ก็เป็นหนึ่งในข้อร้องขอของแคว้นฉู่เช่นกัน เสด็จพ่อเห็นว่าไม่ใช่สิ่งที่ขอมากไปจึงตอบตกลง” ที่เขาไม่ชอบใจเลยก็ตรงที่พวกมันทำราวกับแคว้นเป่ยเป็นเพียงหมูในคอก คิดอยากทำอะไรก็ทำ เรียกร้องจะเอานั่นเอานี่ไม่รู้จักเกรงใจ กระนั้นจะทำอย่างไรได้ในเมื่อกำลังพลยังไม่พร้อมจะรับศึกหนักตอนนี้ได้ ช่างน่าเจ็บใจนัก“พวกมันเหิมเกริมขึ้นทุกวัน เรายอมรับการประนีประนอมมิใช่ยอมแพ้เสียเมื่อไรกัน ไอ้พวกสุนัขลอบกัด” คราวที่แล้วแม้จะรู้ว่าเป็นพวกมันสร้างสถานการณ์ขึ้นมา ทว่าพวกเขากลับหาหลักฐานไม่ได้ทำให้เรื่องทั้งหมดกลายเป็นว่าท่านอ๋องถูกโจรป่าดักปล้น ยังดีที่สามารถเอาชีวิตรอดกันมาได้“ข้าน้อยว่าการขอพักขบวนที่เมืองหน้าด่านมิใช่เรื่องปกติขอรับ แม้คณะทูตจะเดินทางไกลก็จริง หากจะต้องพักแค่สามวันก็น่าจะพอแล้ว ไม่จำเป็นต้องรั้งอยู่นานถึงสิบวัน”“ข้าก็เห็นด้วยกับจิ้งกัง เป็นเช่นนี้ไม่ดีแน่”“เพราะแบบนี้เราถึงได้มาหาเจ้า เราก็ไม่อยากจะขัดความสุขของเจ้ากับภรรยาหรอกนะ แต่อย่างไรคงต้องรีบกลับหน้าด่านให้เร็วที่สุด จะล่าช้าต่อไปไม่ได้แล้ว จะพานางไปด้วยหรือให้รอที่นี่ก็คุยกันให้รู้เรื่องเสีย อีกสามวันเราต้องออกเดินท
นางคือภรรยาของข้าคำคำนี้ยังคงก้องอยู่ในหู ทำเอาไป๋เหลียนยืนเหม่อลอยทำอะไรไม่ถูก แม้นางจะถูกร้องขอให้ออกมาทำอาหารเย็นแล้วก็ตาม ทว่าความเป็นจริงกลับเอาแต่ยืนนิ่งมาได้สักพักใบหน้างามเห่อร้อนแดงเรื่อลามไปถึงใบหูอย่างช่วยไม่ได้ ขัดเขินเสียจนไม่แน่ใจว่าจะกล้ามองหน้าหลี่มู่กวาได้โดยไม่รู้สึกอะไรหรือไม่ ถึงเขาไม่ได้ตั้งใจจะพูดเช่นนั้นก็เถอะ กระนั้นก็ยังรู้สึกดีไม่น้อยเช่นนั้นในเมื่อวันนี้หลี่มู่กวาพูดถูกใจ นางก็จะทำของอร่อยเอาใจเขาเพิ่มจากเดิมอีกสักสองสามอย่างแล้วกัน อย่างไรเสียก็มีคนมาเพิ่มของเดิมที่ทำไว้คงไม่พอจะเรียกว่าทำอาหารก็ไม่ถูก เพราะนางก็ไม่ได้ทำอะไรดีขนาดนั้น ทุกอย่างล้วนแล้วแต่เอาออกมาจากมิติวิเศษ ส่วนที่ทำเองก็คงจะมีแค่หุงข้าวและอาหารพื้น ๆ ของโลกเดิมแค่บางอย่างที่ตนเองถนัดก็เท่านั้นเป็ดปักกิ่งถูกแร่หนังกรอบ ๆ จัดเรียงในจานอย่างดี ส่วนเนื้อเป็ดนั้นหั่นเป็นชิ้นพอดีคำแยกออกมาอีกจาน นอกจากนั้นยังมีปลานึ่งซีอิ๊วอีกหนึ่งอย่าง กระนั้นสิ่งที่นางลงมือทำจริงก็คือต้มยำกุ้งน้ำข้น รสชาติจัดจ้านซดร้อน ๆ ก็คงจะคล่องคอดีทว่าระหว่างทำอาหารอยู่นั้น ไป๋เหลียนก็ยังคงคอยเอียงหูฟังอยู่ตลอด บ้าน