ผ่านเหมันต์ฤดูมาอีกสองครา หวงจื่อถงได้ฤกษ์สอบจิ้นซื่อแล้ว วรยุทธ์ของพวกเขาก้าวหน้าจนอาจารย์ปู่ต้องยอมรับ โดยเฉพาะหวงจื่อถง เขามีพละกำลังในการต่อสู้มากกว่าคนทั่วไป ความรู้เรื่องตำราก็อยู่ในระดับสูง ส่วนหลินลู่ฉีไม่ว่านางจะทำอะไร ก็ราวกับมีมือที่มองเห็น ส่งนางให้ถึงฝั่งได้ในเวลาอันรวดเร็ว
ชื่อเสียงของหมอพเนจรแซ่หลินโด่งดังขึ้นในระยะเวลาอันรวดเร็ว แต่เพื่อไม่ให้คนอื่นเข้าถึงตัวตนได้ง่าย ทุกครั้งที่ออกไปตั้งโต๊ะรักษาด้านนอก หลินลู่ฉีจะปลอมตัวเป็นบุรุษ เขียนใบหน้าให้ดูน่าเกลียดเข้าไว้
หวงชางกว้านซื้ออาคารปล่อยเช่าในเมืองหลวงตลอดสองปีมานี้ เขาต้องตกใจกับรายได้ที่เข้ามาทุกเดือน ทั้งที่แทบไม่ได้ทำอะไร แต่รายได้กลับมากกว่ากำไรของร้านซินอี๋เสียอีก หวงจื่อถงมีที่ดินในเมืองหลวงสองร้อยกว่าหมู่ รอรับรายได้จากค่าเช่าโดยไม่ต้องทำอะไร
&nbs
บทที่ 226 : แม่นางฝูคนนี้สติดีอยู่หรือไม่ องค์หญิงสิบเอ็ดแทรกขึ้น “ฉีฉีข้ากลับเห็นต่างจากเจ้า ต่อให้มีช่างแปรรูปทองคำฝีมือดี แต่ว่าเครื่องประดับต่างต้องมีการออกแบบที่สวยงาม ถึงจะขายได้ราคานะ” ซุนอี้หานก็คิดเช่นนี้ “เป็นดังองค์หญิงสิบเอ็ดเอ่ยมาจริง ๆ มีช่างฝีมือดีก็ต้องมีช่างออกแบบที่ดีด้วย ตอนนี้ช่างออกแบบนั้น หายากกว่าช่างแปรรูปทองคำเสียอีก” “ออกแบบเครื่องประดับทองคำก็ไม่ได้ยากอะไรนี่นา มันก็เหมือนเครื่องประดับทั่ว ๆ ไปไม่ใช่หรือ” ซุนอี้หานมองนางแล้วยิ้มจาง ๆ “ไม่เหมือนกัน เครื่องประดับชนิดอื่นใช้การแกะสลักในการทำ การเจียรให้ได้รูปร่างตามที่ต้องการ แต่ทองคำต้องใช้ความร้อนหลอม การผลิตจึงค่อนข้างยาก หาช่างออกแบบได้ยากมากเช่นกัน” เมื่อเขาเอ่ยเช่นนี้ก็จริงอยู่เหมือนกัน
บทที่ 225 : ที่แท้ฉีฉีก็ห่วงข้านี่เอง “พี่ชายหวงจื่อเหยาเพิ่งท้องได้เดือนเดียว ท่านอย่าเพิ่งร้อนใจไปเลย” “องค์หญิงสิบเอ็ดพูดถูกข้าร้อนใจเกินไปจริง ๆ” “เอ่อ ท่านอย่าเรียกข้าว่าองค์หญิงได้หรือไม่ ฉีฉีกับจื่อเหยาเรียกข้าว่าเฟินเฟิน ท่านก็เรียกตามนี้เถอะ” “ไม่ดี ๆ ข้าเป็นเพียงหัวหน้าหน่วยในกรมอาญา เรียกท่านว่าองค์หญิงเหมาะสมที่สุดแล้ว” หวงจื่อถงมีท่าทีเป็นกันเองกับองค์หญิงสิบเอ็ดมากขึ้น นั่นเพราะนางเป็นสหายกับน้องสาวของเขาทั้งสองคนนั่นเอง องค์หญิงสิบเอ็ดไม่เร่งเร้าเขาอีก หากเยวี่ยชิงหมิงเป็นคนคบหาได้ง่ายแบบหวงจื่อถงก็ดีสิ นางอดเปรียบเทียบพวกเขาไม่ได้จริง ๆ หวงจื่อ
บทที่ 224 : เป็นชีพจรมงคล ท่านตั้งครรภ์ได้หนึ่งเดือนแล้ว หลินลู่ฉีพอจะเดาได้ว่านางรู้เรื่องมากน้อยเพียงใด “ยังไม่รู้ว่าใครเป็นคนบงการอยู่เบื้องหลัง และยิ่งไม่รู้ว่าจุดประสงค์ของพวกมันคืออะไร พี่จื่อเหยาพี่ลืมอะไรไปหรือไม่ ข้าไม่ได้อ่อนแอดูแลตัวเองไม่ได้เสียหน่อย คราวนี้ที่ถูกจับก็เป็นการเล่นละครตบตาคนร้ายเท่านั้นเอง แต่น่าเสียดายตอนย้อนกลับไปหาพวกมัน เจอแค่ศพที่ถูกคนฆ่าปิดปากไป เลยตามเรื่องต่อไม่ได้” หวงจื่อเหยาทำหน้าเป็นกังวล ไม่รู้หลินลู่ฉีเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องร้ายเหล่านี้ได้อย่างไร แต่พอหันไปทางองค์หญิงสิบเอ็ด ที่เอาแต่ก้มหน้าสำนึกผิดก็พอจะเข้าใจ “เอาล่ะ คงโทษใครไม่ได้ ต้องโทษคนชั่วเหล่านั้น คราวหน้าหากมีใครมาจับตัวเจ้าอีก ก็ซัดพวกมันให้หมอบไปเลย อย่าให้หนีรอดไปได้” นางชูกำปั้นขึ้นด้วย&nb
บทที่ 223 : ต่อไปก็สอดเรื่องคนอื่นให้น้อย ๆ ลงก็แล้วกัน เรื่องการเลือกตำราแพทย์ องค์หญิงสิบเอ็ดไม่มีความรู้เรื่องนี้ แต่อยากมีส่วนร่วมกับสหาย จึงได้เอ่ยถามนางออกไป “ฉีฉีเจ้าต้องการเล่มไหน ข้าช่วยเลือกให้” ได้ยินแล้วหลินลู่ฉีก็อมยิ้ม เงยหน้ามองนางอย่างเอ็นดู “เจ้าออกไปเดินเล่นข้างนอกก่อนก็ได้ ข้าต้องใช้เวลาในการเลือก เจ้าจะเบื่อเอาได้” นางคิดก่อนครู่หนึ่ง “อืม ได้แล้วไปเจอกันที่ร้านซินอี๋ดีหรือไม่” นางยังไม่เคยไปที่ร้านซินอี๋มาก่อน จึงเลือกนัดเจอกันที่นั่น “ได้สิราว ๆ ครึ่งชั่วยามเจอกันที่นั่นก็แล้วกัน” หลินลู่ฉีไม่ห่วงความปลอดภัยของนาง มีองครักษ์ติดตามไปด้วยสองคน รุ่ยอ๋องสั่งคนจับตาดูคนร้ายไว้แล้ว หากกล้าลงมือก็ดีจะได้เจอเบาะแสง่ายขึ้น อีกอย่างร้านซินอี๋เองก็อยู่ไม่
บทที่ 222 : เดิมทีเขาเคยมีคู่หมั้นด้วยนะ เรื่องจับตัวแม่เล้ามาเค้นถามเป็นอันต้องยุติเอาไว้ก่อน เพราะต้องตามหาครอบครัวของนางให้เจอ คนของรุ่ยอ๋องจับตาดูความเคลื่อนไหว ของหอเยว่ชิงกับจวนอัครเสนาบดีอยู่ เพราะยังไม่รู้ตัวตนที่แท้จริงของคนบงการ เลยต้องหว่านแหออกไปแบบนี้ “เฟินเฟินทำไมเจ้ายังอยู่บ้านข้าอีกเล่า” หลินลู่ฉีเห็นนางเดินตามตัวเองเข้าเรือนไปก็อดถามไม่ได้ คิดว่านางจะกลับไปพร้อมกับองครักษ์ที่มารับถึงหน้าประตู “ข้าบอกให้คนไปแจ้งเสด็จพี่แล้ว ว่าข้าจะอยู่กับเจ้าสักพัก เสด็จแม่เลยส่งคนมาคุ้มกันข้า บ้านเจ้าน่าจะมีห้องว่างให้องครักษ์สองคนของข้าอยู่กระมัง” “องครักษ์สองคน” หลินลู่ฉีมองไปด้านหลัง เห็นว่าพวกนางเป็นสตรีทั้งคู่ “ได้ ๆ เจ
บทที่ 211 : สินเดิมนางยาวกว่าลูกสาวขุนนางบางคนเสียอีก หลินลู่ฉีกำลังยุ่งอยู่กับการเตรียมสินเดิมให้หวงจื่อเหยา นางกลับได้รับของขวัญน่ายินดีสองกล่อง กล่องหนึ่งขนาดใหญ่ อีกกล่องขนาดคนถือได้ เป็นการส่งมอบให้อย่างลับ ๆ คนส่งมอบจดหมายฉบับหนึ่งให้นาง ก่อนกลับออกไปอย่างเงียบ ๆ ไม่มีใครรู้ไม่มีใครเห็นว่ามาส่งอะไร แล้วใครเป็นคนส่งมาให้ “นายหญิงพวกเขาไม่พูดอะไรก็ไปเลย นี่จดหมายเจ้าค่ะ” หูฮวนนำจดหมายมามอบให้นายหญิงของตนเอง หลินลู่ฉีคลี่ออกอ่านในทันที ของรางวัลตอบแทน จาก รุ่ยอ๋อง นางพับจดหมายเก็บใส่อกเสื้อ เดินเข้าไปเปิดดูกล่องแรก ทองคำแท่งสีเหลืองอร่ามแยงตา เปิดกล่องที่สองเป็นไข่มุกเม็ดงามละลานตาเต็มไปหมด นี่เป็นผลผลิตที่ได้จากภูเขาสองลูกกับเกาะอีกหนึ่งแห่ง หลินลู่ฉียกม