“ข้าขอไม่ปิดบังท่านพ่อบ้าน เมื่อสัปดาห์ก่อนที่เมืองหย่งจินกับตำบลหย่งฝู ได้ต่อสู้กับทหารแคว้นตงหนานพวกมันบุกเข้ามาทางภูเขาจำนวนหลักหมื่น แต่ยังถือว่าโชคดีที่มีทหารจากเมืองหลวงไปช่วยไว้ได้ทัน ไม่เช่นนั้นป่านนี้คงเสียเมืองหย่งจินให้แคว้นตงหนานแล้วขอรับและตอนนี้ที่ชายแดนกำลังตึงเครียดเป็นอย่างมาก เพรา
“ฮือ ๆ ๆ จงเอ๋อร์ทำไมเจ้าถึงได้คิดทำเรื่องเช่นนั้นเล่า แม่แค่อยากให้พวกเราอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข ไม่ต้องไปยุ่งเกี่ยวกับผู้ใดเท่านั้นก็เพียงพอแล้ว” อนุเจินที่ได้อ่านจดหมาย บอกเล่าเรื่องราวชั่วร้ายของอู๋เสียนจงก็ได้แต่ตัดพ้อออกไปอู๋เสียนจงที่พูดไม่ได้มีเพียงเสียงอือ ๆ ออกมาพร้อมเสียงสะอื้นไห้ เพรา
เช้าวันถัดมาบรรยากาศในท้องพระโรง มีแต่ความเคร่งเครียด เนื่องจากข่าวลือเรื่องสงครามที่เกิดขึ้นเมื่อวาน ทำให้วันนี้ขุนนางทุกคนต่างอยากรู้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ขอเพียงให้ฮ่องเต้ตรัสออกมาด้วยพระองค์เองพวกเขาถึงจะเชื่อแต่วันนี้กลับขาดเสนาบดีกรมการโยธาเยี่ยเกาจง ผู้นำกลุ่มขุนนางที่สนับสนุนองค์ชายสาม ในก
เพราะมีขุนนางของแคว้นที่มีความคิดอยากเป็นกบฏ คนพวกนี้มักคิดว่าตนเองฉลาดกว่าผู้อื่น อย่าให้เจิ้นมีหลักฐานอยู่ในมือของเจิ้นเชียว กบฏแผ่นดินพวกนี้จะต้องรับโทษสูงสุด คือการประหารชีวิตเก้าชั่วโคตร แผ่นดินแคว้นฉู่จะไม่มีตระกูลของคนทรยศเหลือรอดแม้แต่คนเดียว” นี่คือการเตือนจากข้าและจะเป็นการเตือนเพียงครั้งเ
ซึ่งมันก็มีเหตุผลจึงคิดไปทางเดียวกัน คือทำการค้าให้ยิ่งใหญ่ขึ้นกว่านี้ แต่คงต้องรอหลังสงครามจบลงเสียก่อน ค่อยคิดเรื่องขยายร้านอาหารไปที่เมืองอื่น และยังต้องคิดก่อนว่าจะเปิดกิจการที่เมืองใดบ้าง ทุกอย่างต้องวางแผนให้รัดกุมในทุกขั้นตอนเมื่อหมดเรื่องกังวลใจแล้ว จึงหารือเรื่องการเพาะปลูกผักและทำหมูแดดเด
หลิ่วอานเห็นว่าลู่เวินยืนยันอย่างหนักแน่น จึงวางใจกับเรื่องนี้และเริ่มเคาะเกราะไม้ เพื่อส่งสัญญาณให้ชาวบ้านทุกคน รีบมายังลานกลานหมู่บ้าน หนึ่งเค่อต่อมาทุกครอบครัว ล้วนมารวมตัวกันครบทุกคน “ทุกคนเงียบ ๆ กันหน่อย ที่ข้าเรียกพวกเจ้ามาประชุมร่วมกัน ตอนนี้มีคนต้องการจ้างงานพวกเจ้าทุกครอบครัว และการทำงานก
กองทัพที่มีหลายแสนนายของแคว้นฉู่ นำโดยแม่ทัพใหญ่เซียวชินอ๋อง ที่เคลื่อนทัพจากเมืองหลวง มายังชายแดนของเมืองหย่งจิน การเดินทางไกลครั้งนี้ใกล้จะสิ้นสุดลงแล้ว เหลืออีกเพียงสองสัปดาห์เท่านั้น ทหารทุกนายจะได้พักผ่อนให้เต็มที่ ก่อนจะเริ่มทำศึกกับแคว้นตงหนานแม้จะเป็นการเดินทางที่เร่งรีบอยู่บ้าง แต่ทหารนับแ
เมื่อได้รู้ว่ามีวิธีเตรียมดินและการบำรุงดินก่อนเพาะปลูก พวกเขาก็จดจำเอาไว้เพื่อนำกลับไปทำในที่ดินของตนเองบ้าง และผลที่ได้ก็เป็นที่น่าพอใจมาก นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้มีผักสีเขียวสดใส ในที่ดินของครอบครัวเพื่อใช้ทำอาหาร ทุกคนจึงได้ทำตามวิธีนี้กันอย่างถ้วนหน้าการเพาะปลูกพืชผักจากการจ้างชาวบ้านแถบเมื
“พูดดี ๆ แล้วไม่ฟัง ไม้อ่อนไม่ชอบชอบไม้แข็งกันสินะ เช่นนั้นอย่าหาว่าพวกข้าใช้ความรุนแรงในการจับตัวเด็กนั่นก็แล้วกัน ทุกคนเข้าไปจับตัวนางหากใครขัดขืนสังหารได้ทันที”“ได้เลยลูกพี่ พวกเราบุกเข้าไปพร้อมกัน”“พี่ซีจ้ง พี่มู่อวี่ ข้าต้องการตัวหัวหน้านั่นสั่งสอนพอเป็นพิธี ส่วนคนที่เหลืออย่าให้รอดสังหารพวกม
“จวี้เฟิง จินอัน พวกเจ้าอยู่ที่ที่สืบได้ข้อมูลอะไรบ้างหรือไม่”“อืม พวกข้าสืบมาได้สักพักแล้ว ทั้งเจ้าเมืองและนายอำเภอในเขตดูแลของกู้เสวียน ต่างเข้าร่วมการสนับสนุนส่งเงินและเสบียงให้กับแม่ทัพฉาน เรื่องนี้ข้าส่งจดหมายถึงท่านอ๋องแล้ว และกำลังสืบหาหลักฐานเพื่อมัดตัวพวกมันอยู่ ว่าแต่พวกเจ้ามาที่แดนใต้ทำไ
ปัง!! “หนิงเอ๋อร์ ๆ ลูกพ่อ เป็นอย่างไรบ้างบาดเจ็บตรงไหน ใครเป็นคนทำกับเจ้าเช่นนี้บอกพ่อมาเร็วเข้า”“ตายแล้ววว!! ใครช่างบังอาจทำลูกแม่เป็นแผลเช่นนี้ หนิงเอ๋อร์เล่าให้พ่อกับแม่ฟังสิว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่”“ฮือ ๆ ๆ ท่านพ่อท่านแม่ พวกท่านต้องแก้แค้นให้ข้านะเจ้าคะ หากเกิดรอยแผลเป็นที่หลัง ข้าจะแต่งงานอ
“คุณชายกับคุณหนูให้ก้งเยว่คุ้มครองกลับที่พักไปก่อนนะขอรับ”“หืม พี่เจียวมิ่งมีธุระต้องไปจัดการเกี่ยวกับเรื่องเมื่อตอนบ่ายใช่ไหมขอรับ”“ใช่แล้วขอรับคุณชายใหญ่ พวกข้าสามคนจะไปสืบดูเสียหน่อย บางทีอาจจะเป็นหน่วยลับที่ประจำอยู่แดนใต้ พวกเขาอาจมีข้อมูลสำคัญเพิ่มเติม จึงต้องการให้พวกข้าไปพบขอรับ”“เช่นนั้น
เรื่องจัดการขนย้ายศพตอนนี้เหลือเพียงรอยเลือด ที่ทิ้งไว้เป็นที่ระลึกว่าตรงนี้มีการฆ่าคนตายเกิดขึ้นเท่านั้น หากเจ้าเมืองหย่งชุนคิดจะนำเรื่องนี้มาใส่ร้ายพวกตนคงจะยากสักหน่อย ก็แค่การป้องกันตัวจะเป็นเรื่องใหญ่ไปได้อย่างไร“เรื่องศพเรียบร้อยไปแล้วหนึ่ง ยังเหลือเรื่องร้านค้าอีกนะน้องเล็ก เจ้าจะใช้วิธีใดถึ
“เจ้าค่ะคุณหนู เดี๋ยวถึงจวนบ่าวจะรีบตามท่านหมอให้มารักษาแผลของท่านนะเจ้าคะ อาซีรีบพาคุณหนูกลับจวนเร็ว”“ห๊ะ! อะ อ่อ กลับจวน ๆ ๆ”รถม้าพากู้ซือหนิงกลับจวนอย่างรวดเร็ว เรื่องราวที่เกิดขึ้นกลางตลาดใช่ว่าจะไม่เคยพบเห็น แต่ทุกครั้งจะเป็นคนอื่นที่ถูกรังแก พอเห็นกู้ซือหนิงถูกเล่นงานกลับบ้าง ก็รู้สึกสะใจลึก
“กฎหมายหรือที่นี่เมืองหย่งชุน ท่านเจ้าเมืองคือกฎหมายสูงสุด และคุณหนูของข้าก็เป็นบุตรสาวเพียงคนเดียวของท่านเจ้าเมือง มีคำสั่งให้เจ้านายของเจ้ามอบม้าตัวนี้ ก็อย่าขัดความต้องการของคุณหนู ไม่เช่นนั้นพวกเจ้าจะเจ็บตัวเปล่า ๆ”“แหม ๆ ๆ เจ้าเมืองหย่งชุนนี่ยิ่งใหญ่คับฟ้าดีจัง ขนาดมีรัชทายาทเสด็จมาประทับอยู่ท
ตราบใดที่ราชวงศ์นี้ยังคงทำหน้าที่ได้ดี พวกเราและคนอื่น ๆ ยินดีจะปกป้องเอาไว้ ไม่ให้ขุนนางลุแก่อำนาจทั้งหลายแย่งชิงได้สำเร็จ เพราะฝ่ายเรามีอาวุธที่ร้ายแรงกว่าหลายเท่า ส่วนเรื่องที่พระองค์ถามว่าหม่อมฉันและพี่ชาย ไม่กลัวว่าเป็นถิ่นของแม่ทัพฉานอะไรนั่นหรือถ้าพวกหม่อมฉันกลัวจริง ๆ คงไม่เดินทางมาถึงที่นี
ขุนนางที่มีใจมักใหญ่ใฝ่สูงถูกกำจัดไปอีกหนึ่งคน ทำให้ราชสำนักเงียบสงบขึ้นมาก อาจจะมีบางคนที่จดจ้องตำแหน่งใหญ่ที่ว่างลง พวกเขาวาดหวังว่าตนจะได้รับการแต่งตั้ง แต่ก็ต้องวางท่าทีสงบเสงี่ยมไว้ก่อน มิเช่นนั้นอาจถูกฮ่องเต้เพ่งเล็งเอาได้ด้านแม่ทัพฉานจิ้งหูที่ได้รับรายงานจากเสียงอวิ๋น ว่าไม่มีการตอบกลับมาของ