แชร์

เรื่องไม่คาดคิด

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-06-06 22:58:14

ชัยชนะจากการประลองรสชาติครั้งนั้นสร้างชื่อเสียงให้เหม่ยหลินและตระกูลหลี่อย่างรวดเร็ว เช้าวันรุ่งขึ้น ณ ตลาดในเมือง แผงขายอาหารของพวกเขาคึกคักเป็นพิเศษ ผู้คนต่างมาเข้าคิวรอซื้อ "บะหมี่เจผักรวม" และ "ซุปเห็ดหลินจือดำ" อย่างไม่ขาดสาย กลิ่นหอมฟุ้งของอาหารจีนโบราณที่ปรุงด้วยความพิถีพิถันลอยอบอวลไปทั่วทั้งตลาด

"ท่านแม่เจียง! ข้าขอซุปเห็ดหลินจือดำสองถ้วย!"

"ท่านแม่เจียง! บะหมี่เจของท่านอร่อยจริง ๆ ข้าจะกลับมากินทุกวันเลย!"

เสียงชมเชยและเสียงเงินทองที่ดังกระทบกัน สร้างรอยยิ้มกว้างบนใบหน้าของเหม่ยหลินและลูก ๆ หลี่เฟยหลงกับหลี่เฟยหานช่วยกันตักอาหารอย่างคล่องแคล่ว ส่วนชิวลี่ฮวากับหลี่เฟยหยางก็ช่วยกันรับเงินและห่ออาหารด้วยความกระตือรือร้น

"วันนี้เราขายดีมากเลยนะขอรับท่านแม่!" หลี่เฟยหยางเอ่ยขึ้นด้วยความดีใจ ใบหน้าเล็ก ๆ ของเขาเปื้อนไปด้วยคราบแป้งเล็กน้อย

เหม่ยหลินยิ้ม "ใช่แล้วลูก วันนี้เราต้องทำอย่างเต็มที่นะ"

ตลอดทั้งวันนั้น อาหารของเหม่ยหลินขายหมดเกลี้ยงตั้งแต่ช่วงบ่าย ผู้คนบางส่วนถึงกับผิดหวังที่มาไม่ทัน พวกเขาก็ต่างสั่งจองอาหารสำหรับวันพรุ่งนี้ล่วงหน้า

"ท่านแม่! วันนี้เราได้เงินเยอะมากเลยขอรับ!" หลี่เฟยหลงถือถุงผ้าที่เต็มไปด้วยเงินเหรียญทองแดงและเงินพดด้วงมาให้เหม่ยหลิน ดวงตาเป็นประกายด้วยความภาคภูมิใจ

เหม่ยหลินรับถุงเงินมา เธอรู้สึกถึงน้ำหนักของมันและรอยยิ้มก็ผุดขึ้นบนใบหน้า "ดีมาก! วันนี้พวกเจ้าทำงานหนักมากเลยนะ"

เมื่อกลับมาถึงบ้าน สิ่งแรกที่เหม่ยหลินทำคือการจัดสรรเงินที่ได้มา เธอแบ่งส่วนหนึ่งไว้สำหรับซื้อวัตถุดิบสำหรับวันพรุ่งนี้ อีกส่วนหนึ่งเก็บไว้สำหรับหนี้ของจางไห่ และส่วนที่เหลือก็แบ่งให้ลูก ๆ และชิวลี่ฮวา เพื่อให้พวกเขานำไปใช้จ่ายส่วนตัว

"แต่ท่านแม่...พวกเราไม่เคยมีเงินเยอะขนาดนี้มาก่อนเลยขอรับ" หลี่เฟยหานเอ่ยขึ้นด้วยความประหลาดใจ

"ต่อไปนี้พวกเจ้าก็จะมีแล้ว" เหม่ยหลินตอบ "แม่จะทำให้พวกเราทุกคนมีชีวิตที่ดีขึ้น"

คืนนั้น ทั้งครอบครัวร่วมกันกินอาหารอย่างมีความสุข อาหารมื้อนี้ไม่ได้หรูหราอะไรนัก แต่เป็นอาหารที่เต็มไปด้วยรสชาติของความพยายามและชัยชนะ มันเป็นมื้ออาหารที่อบอุ่นและเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ

แต่ในขณะที่พวกเขากำลังกินอาหารอยู่นั้น จู่ ๆ ก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น

ก๊อกๆๆ!

ทุกคนหันไปมองหน้ากันด้วยความสงสัย เหม่ยหลินลุกขึ้นเดินไปเปิดประตู เมื่อประตูเปิดออก เธอก็พบกับชายวัยกลางคนรูปร่างท้วม ใบหน้าประดับด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ เขาคือ จางไห่!

"โอ้! ท่านแม่เจียง!" จางไห่กล่าวด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยการเยาะเย้ย "ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ ดูท่าทางสบายดีขึ้นเยอะเลยนี่"

เหม่ยหลินมองจางไห่ด้วยสีหน้าเรียบเฉย เธอรู้ว่าเขามาเพื่ออะไร

"ท่านจางมีอะไรหรือเจ้าคะ?" เหม่ยหลินถาม

"ก็มาทวงหนี้สินที่ท่านแม่ของเจ้าติดค้างข้าไว้น่ะสิ!" จางไห่ตอบ พลางยื่นกระดาษแผ่นหนึ่งที่ดูเก่าแก่ยับยับมาให้ "สิบตำลึงทอง! เจ้าจำได้ใช่ไหม!"

หลี่เฟยหลงที่เดินเข้ามาใกล้ก็กำมือแน่นด้วยความโกรธ แต่เหม่ยหลินเพียงแค่ยิ้มบาง ๆ

"ข้าจำได้เจ้าค่ะ" เหม่ยหลินตอบ พลางหยิบถุงเงินที่เตรียมไว้จากด้านในเสื้อของเธอ "นี่คือเงินสิบตำลึงทองที่ท่านแม่ของข้าติดค้างท่านไว้"

จางไห่รับถุงเงินมาด้วยความแปลกใจ เขาลองชั่งน้ำหนักของมัน และเมื่อเห็นว่ามันเป็นเงินพดด้วงจริง ๆ ใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นซีดเผือด

"นี่...นี่เจ้าไปเอาเงินมาจากไหน!" จางไห่ถามเสียงสั่น "เจ้าขายอาหารได้เงินเยอะขนาดนี้เชียวหรือ!"

"ใช่เจ้าค่ะ" เหม่ยหลินตอบอย่างไม่สะทกสะท้าน "ข้าเป็นเชฟ ข้าบอกท่านแล้วว่าข้าจะหาเงินมาคืนท่าน และข้าก็จะทำให้ท่านต้องเสียใจที่ดูถูกข้า"

จางไห่กัดฟันแน่น ใบหน้าของเขาแดงก่ำด้วยความโกรธและความอับอาย เขากระแทกถุงเงินลงบนโต๊ะไม้ใกล้ ๆ แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความคับแค้นใจ

"หึ! คิดว่าจะจบแค่นี้อย่างนั้นรึ! อย่าฝันไปเลย! ตราบใดที่เจ้ายังอยู่ในตลาดของข้า! เจ้าจะต้องเจอดีแน่!"

จางไห่กล่าวทิ้งท้ายด้วยน้ำเสียงอาฆาต ก่อนจะเดินจากไปอย่างหัวเสีย

ทุกคนในบ้านถอนหายใจอย่างโล่งอก เหม่ยหลินรู้ดีว่านี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของปัญหา และจางไห่จะไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ แน่นอน

เงาอิทธิพลคุกคาม

หลังจากเหตุการณ์กับจางไห่ผ่านไปสองสามวัน ธุรกิจอาหารของเหม่ยหลินก็ยังคงดำเนินไปได้ด้วยดี ชื่อเสียงของ "บะหมี่เจผักรวม" และ "ซุปเห็ดหลินจือดำ" เริ่มเป็นที่รู้จักในวงกว้าง ผู้คนจากหมู่บ้านใกล้เคียงก็เริ่มเดินทางมาที่ตลาดเพื่อลิ้มลองอาหารของเธอ ครอบครัวหลี่มีเงินทองจับจ่ายใช้สอยอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

แต่ความสำเร็จย่อมมาพร้อมกับความริษยาและอุปสรรค

วันหนึ่ง ขณะที่เหม่ยหลินกำลังง่วนอยู่กับการปรุงอาหารที่แผงขายของเธอ จู่ ๆ ก็มีกลุ่มชายฉกรรจ์รูปร่างใหญ่โตราวห้าหกคนเดินเข้ามาล้อมแผงของเธอไว้ หัวหน้าของกลุ่มคือชายร่างใหญ่มีรอยสักเต็มแขน ใบหน้าดุดัน ดวงตาเต็มไปด้วยความอำมหิต

"นี่คือแผงของแม่เจียงอย่างนั้นรึ?" ชายร่างใหญ่เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงห้าวหาญ

เหม่ยหลินเงยหน้าขึ้นมอง สีหน้าของเธอเรียบเฉย แต่ในใจกลับรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดี หลี่เฟยหลงที่ยืนอยู่ข้าง ๆ รีบขยับเข้ามาบังร่างของเหม่ยหลินไว้เล็กน้อย

"มีอะไรหรือเจ้าคะ?" เหม่ยหลินถาม

"ข้าคือ หัวหน้าหมา ผู้ดูแลความเรียบร้อยของตลาดแห่งนี้" ชายร่างใหญ่ตอบ พลางยิ้มเยาะ "ได้ยินว่าเจ้าทำอาหารอร่อยนักนี่! แถมยังกล้าดีมาท้าประลองกับมาดามหลี่อีก!"

เหม่ยหลินรู้ทันทีว่าชายคนนี้ต้องเป็นคนของมาดามหลี่หรือจางไห่แน่ ๆ

"แล้วท่านต้องการอะไรจากข้าหรือเจ้าคะ?" เหม่ยหลินถามอย่างใจเย็น

หัวหน้าหมาหัวเราะในลำคอ "ข้าต้องการอะไรอย่างนั้นรึ! ก็ต้องการส่วนแบ่งจากกำไรของเจ้าน่ะสิ!"

คำพูดของหัวหน้าหมาทำให้ผู้คนที่กำลังซื้อของอยู่รอบ ๆ ต่างถอยห่างออกไป สายตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัวต่อชายกลุ่มนี้

"ส่วนแบ่งอย่างนั้นหรือเจ้าคะ?" เหม่ยหลินทวนคำ "ข้าไม่เคยได้ยินว่าต้องจ่ายค่าส่วนแบ่งให้ใคร"

"หึ! เจ้าคงจะยังไม่รู้สินะว่าใครเป็นเจ้าของตลาดแห่งนี้!" หัวหน้าหมากล่าวด้วยน้ำเสียงคุกคาม "มาดามหลี่เป็นผู้มีอิทธิพลในตลาดแห่งนี้ หากเจ้าไม่อยากมีปัญหา...ก็จ่ายค่าคุ้มครองให้ข้าทุกเดือน! ไม่เช่นนั้น...แผงของเจ้าอาจจะไม่เหลือแม้แต่ซาก!"

คำพูดของหัวหน้าหมาทำให้หลี่เฟยหลงถึงกับกำมือแน่น ดวงตาของเขาฉายแววโกรธเคือง แต่เหม่ยหลินเพียงแค่ยิ้มบาง ๆ

"ข้าไม่มีเงินจะให้ท่านหรอกเจ้าค่ะ" เหม่ยหลินตอบอย่างเด็ดเดี่ยว "ข้าเป็นคนทำมาหากินสุจริต และข้าจะไม่ยอมจ่ายค่าคุ้มครองให้ใครหน้าไหนทั้งนั้น!"

คำตอบของเหม่ยหลินสร้างความประหลาดใจให้แก่หัวหน้าหมา เขามองเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจ

"โอ้โห! กล้าดียังไงมาพูดจาแบบนี้กับข้า!" หัวหน้าหมาตะโกนเสียงดัง "เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใครกัน!"

"ข้าคือเหม่ยหลิน" เหม่ยหลินตอบอย่างชัดถ้อยชัดคำ "และข้าจะไม่ยอมให้ใครมารังแกครอบครัวของข้าเด็ดขาด!"

"หึ! ปากดีนัก!" หัวหน้าหมากล่าว "ในเมื่อเจ้าไม่ยอมจ่าย...ก็อย่าหาว่าข้าไม่เตือนแล้วกัน!"

หัวหน้าหมากล่าวทิ้งท้ายด้วยรอยยิ้มเยาะ ก่อนจะสั่งให้ลูกน้องของเขาทำลายแผงขายของเหม่ยหลิน

"พวกแก! ทุบแผงนี่ให้เละเลย!" หัวหน้าหมาออกคำสั่ง

ลูกน้องของหัวหน้าหมาพุ่งเข้าใส่แผงของเหม่ยหลินทันที พวกเขาเริ่มทุบทำลายโต๊ะ เก้าอี้ และภาชนะใส่อาหาร ข้าวของกระจัดกระจายไปทั่วพื้น อาหารที่ปรุงไว้ก็หกเลอะเทอะ

"หยุดนะ! พวกเจ้าทำอะไรกัน!" หลี่เฟยหลงตะโกนขึ้นอย่างโมโห เขารีบเข้าไปขวาง แต่ก็ถูกลูกน้องของหัวหน้าหมาผลักกระเด็นออกไป

"พี่ใหญ่!" หลี่เฟยหานและหลี่เฟยหยางร้องขึ้นด้วยความตกใจ ชิวลี่ฮวาก็เข้ามาประคองหลี่เฟยหลงไว้

เหม่ยหลินมองดูแผงขายของเธอที่กำลังถูกทำลายด้วยความรู้สึกเจ็บปวด แต่ในแววตาของเธอกลับไม่มีความหวาดกลัว มีเพียงความโกรธที่กำลังคุกรุ่น

"หยุดเดี๋ยวนี้!" เหม่ยหลินตะโกนขึ้นเสียงดัง เสียงของเธอเต็มไปด้วยพลังอำนาจที่ทำให้ทุกคนถึงกับชะงัก

"เจ้ามีอะไรจะพูดอีกอย่างนั้นรึ!" หัวหน้าหมากล่าวอย่างดูถูก

"ข้าขอท้าเจ้า!" เหม่ยหลินกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น "ข้าขอท้าเจ้าประลองฝีมือ!"

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ข้านี้แหละที่จะทำให้ตระกูลนี้ร่ำรวย   แผนพิษและทางรอด

    ความรู้สึกของเหม่ยหลินพังทลายลงในพริบตาเมื่อได้ยินคำสารภาพของขันทีจาง และเห็นผงสีดำในมือของหลี่เฟยหาน โลกทั้งใบราวกับหมุนคว้าง ภาพความฝันที่เธอสร้างขึ้นเพื่อครอบครัว กำลังจะพังทลายลงเพราะการทรยศหักหลังครั้งนี้"ไม่จริง... เจ้าโกหก!" เหม่ยหลินตะโกน ดวงตาแดงก่ำด้วยความเจ็บปวด "หลี่เฟยหาน! ลูกบอกแม่มา! ลูกทำอะไรลงไป!?"หลี่เฟยหานตัวสั่นงันงก ใบหน้าเล็กๆ ของเขาซีดเผือด น้ำตาไหลพราก "ท่านแม่... ลูก... ลูกถูกบังคับขอรับ! ขันทีจาง... เขา... เขายื่นเงินให้ลูก... บอกว่าจะให้ลูกกับพี่ๆ สบาย... แล้ว... แล้วถ้าลูกไม่ทำ... เขาจะฆ่าท่านแม่... ฆ่าพี่ใหญ่... ฆ่าท่านชิวลี่ฮวา..." เสียงของเขาขาดหายไป พร้อมกับร่างที่ทรุดลงนั่งร้องไห้สะอึกสะอื้นขันทีจางหัวเราะอย่างชั่วร้าย "ฮ่าฮ่าฮ่า! ช่างเป็นภาพที่น่ารันทดใจนัก! เจ้าแม่เจียงผู้ยิ่งใหญ่ กำลังจะถูกลูกชายของตัวเองฆ่า!" เขาก้าวเข้ามาใกล้ ยกผงสีดำในมือของหลี่เฟยหานขึ้นดู "ดูสิ! ผงพิษ 'ฝุ่นมรณะ' ชนิดรุนแรงที่สุด! แม้แต่เซียนก็ยากจะรอด! องค์จักรพรรดิจะได้สวรรคตอย่างสงบในวันนี้ และเจ้า... จะต้องเป็นแพะรับบาป! ฮ่าฮ่าฮ่า!""เจ้ามันปีศาจ!" เหม่ยหลินกัดฟันแน่น ควา

  • ข้านี้แหละที่จะทำให้ตระกูลนี้ร่ำรวย   การทรยศ

    รุ่งอรุณหลังคืนแห่งความวุ่นวาย แสงตะวันสาดส่องเข้ามาในเรือนพักของท่านราชครูจ้าว เหม่ยหลินรู้สึกปลอดภัยอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนในรอบหลายเดือนที่ผ่านมา หลี่เฟยหลง ชิวลี่ฮวา หลี่เฟยหาน และหลี่เฟยหยาง ต่างกอดเธอแน่นด้วยความโล่งใจ การปรากฏตัวของหัวหน้าหมาและท่านราชครูจ้าวราวกับแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์แห่งความมืดมิดท่านราชครูจ้าวนั่งลงตรงข้ามกับเหม่ยหลิน ใบหน้าของท่านเต็มไปด้วยความเมตตาและแววตาที่เต็มไปด้วยความชื่นชม"ท่านแม่เจียง" ท่านราชครูจ้าวเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน "ข้าต้องขออภัยแทนเจ้าเมืองหลี่กวงหมิงด้วย ที่ทำให้ท่านต้องมาประสบเรื่องราวเลวร้ายเช่นนี้"เหม่ยหลินก้มศีรษะเล็กน้อย "ไม่เป็นไรเจ้าค่ะท่านราชครู ข้าเข้าใจดีว่าอำนาจมักจะทำให้คนตาบอด""ถูกต้อง" ท่านราชครูจ้าวพยักหน้า "เรื่องของเจ้าเมืองหลี่กวงหมิงนั้น ข้าได้ส่งคนไปสอบสวนแล้ว และข้าเชื่อว่าเขาจะต้องได้รับโทษทัณฑ์ตามความผิดที่เขากระทำ"ท่านราชครูจ้าวหันไปมองหัวหน้าหมาที่ยืนอยู่ข้างๆ "หัวหน้าหมา เจ้าทำความดีความชอบในครั้งนี้ ข้าจะรายงานเรื่องนี้ต่อองค์จักรพรรดิ ให้ท่านได้รับความดีความชอบอย่างที่ควรจะได้รับ"หัวหน้าหมาก้มศีรษะด้

  • ข้านี้แหละที่จะทำให้ตระกูลนี้ร่ำรวย   อุบาย

    ชัยชนะอันหอมหวานจากการประลองรสชาติสะท้านเมืองหลวง มิได้นำมาซึ่งความสงบสุขอย่างที่เหม่ยหลินและครอบครัวคาดหวัง ตรงกันข้าม มันกลับเป็นจุดเริ่มต้นของพายุลูกใหม่ที่โหมกระหน่ำรุนแรงกว่าเดิม แสงแห่งชื่อเสียงที่เจิดจ้าของ “เชฟเหม่ยหลิน” ส่องสว่างไปทั่วอาณาจักร ทว่าในเงามืดนั้น พลังอำนาจที่มองไม่เห็นกำลังเคลื่อนไหวอย่างลับๆความผันผวนในจวนเจ้าเมืองหลี่กวงหมิง เจ้าเมืองผู้ยิ่งใหญ่ที่ไม่เคยพ่ายแพ้ต่อใคร บัดนี้กลับถูกแม่ครัวสามัญชนหักหน้าอย่างยับเยินกลางที่สาธารณะ ความอัปยศครั้งนี้กัดกินจิตใจของเขาอย่างรุนแรง ทำให้เขากลายเป็นคนเจ้าอารมณ์และหวาดระแวงยิ่งกว่าเดิม ทุกวันเขาจะสั่งให้คนนำอาหารของเหม่ยหลินมาให้เขากิน แต่เขาก็ไม่เคยบอกว่าอร่อยเลยแม้แต่คำเดียว และมักจะหาเรื่องตำหนิอย่างไม่เป็นเหตุผล“นี่มันอะไรกัน! ข้าวผัดนี่แข็งเกินไป! เจ้าคิดว่าข้าเป็นชาวนาที่กินแต่ข้าวแข็งๆ อย่างนั้นรึ!” หลี่กวงหมิงปาจานข้าวผัดลงพื้นเสียงดังลั่นในห้องอาหารของเขาพ่อครัวประจำจวนและบรรดาคนรับใช้ต่างพากันตัวสั่นงันงก พวกเขาไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้ามองขณะเดียวกัน ในมุมมืดของจวน เจ้าเมืองได้ส่งคนไปสืบเรื่องราวของเหม่ยหลินอย

  • ข้านี้แหละที่จะทำให้ตระกูลนี้ร่ำรวย   ประลองรสชาติ

    เช้าตรู่วันประลอง ท้องฟ้าเหนือเมืองหลวงยังคงมืดสลัวด้วยไอหมอกจางๆ แต่ใจกลางเมืองกลับคึกคักไปด้วยผู้คนมหาศาลที่หลั่งไหลมาจากทั่วทุกสารทิศ เพื่อเป็นสักขีพยานในศึกประลองรสชาติครั้งประวัติศาสตร์นี้ ไม่ใช่เพียงแค่การแข่งขันทำอาหารธรรมดา แต่มันคือการปะทะกันระหว่าง อำนาจ และ ความสามารถ ระหว่าง ศักดิ์ศรี ของเจ้าเมืองผู้ยิ่งใหญ่ กับ ความกล้าหาญ ของแม่ครัวสามัญชนเหม่ยหลินและครอบครัวเดินทางมาถึงลานประลองที่ถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ มีเวทีขนาดใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงกลาง รายล้อมด้วยที่นั่งสำหรับแขกผู้มีเกียรติและประชาชนทั่วไป กลิ่นหอมของเครื่องหอมปะปนกับกลิ่นไอของตลาดสดอบอวลไปทั่วบริเวณ"ท่านแม่! คนเยอะมากเลยขอรับ!" หลี่เฟยหยางเกาะแขนเหม่ยหลินแน่น ดวงตากลมโตสอดส่ายมองไปรอบๆ ด้วยความตื่นเต้นปนหวาดหวั่น"ไม่ต้องกลัวหรอกลูก" เหม่ยหลินยิ้มให้กำลังใจลูกชาย เธอเองก็รู้สึกตื่นเต้นไม่แพ้กัน แต่ความมุ่งมั่นในใจกลับแข็งแกร่งกว่าสิ่งใดเมื่อเดินไปถึงหลังเวที พวกเขาก็เห็นเจ้าเมืองหลี่กวงหมิงยืนอยู่พร้อมกับพ่อครัวประจำจวนของเขา และชายชุดดำสองคนที่คุ้นหน้าคุ้นตา ใบหน้าของหลี่กวงหมิงเรียบตึง แต่แววตาของเขากลับฉาย

  • ข้านี้แหละที่จะทำให้ตระกูลนี้ร่ำรวย   เงื่อนไข

    แสงตะวันเริ่มลับขอบฟ้า ท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นสีส้มแดงฉานเมื่อเหม่ยหลินกลับมาถึงบ้าน ตลอดทางกลับ เธอครุ่นคิดถึงสถานการณ์ที่ยากลำบากที่เธอและครอบครัวต้องเผชิญอยู่ตอนนี้ คำสั่งของเจ้าเมืองหลี่กวงหมิงเป็นดั่งดาบที่แขวนอยู่บนเส้นด้าย หากเธอปฏิเสธหรือทำผิดพลาดแม้แต่น้อย ชีวิตของเธอและลูกๆ อาจตกอยู่ในอันตรายเมื่อก้าวเข้าสู่ห้องโถงบ้าน ใบหน้าของหลี่เฟยหลง ชิวลี่ฮวา หลี่เฟยหาน และหลี่เฟยหยาง ก็ปรากฏแก่สายตา แววตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความกังวลและคำถาม"ท่านแม่! เป็นอย่างไรบ้างขอรับ? ท่านเจ้าเมืองพูดอะไรกับท่าน?" หลี่เฟยหลงเอ่ยถามทันทีด้วยน้ำเสียงร้อนรนเหม่ยหลินถอนหายใจเฮือกใหญ่ เธอนั่งลงบนเก้าอี้ไม้เก่าๆ อย่างเหนื่อยอ่อน ก่อนจะเล่าเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นในจวนเจ้าเมืองให้ทุกคนฟัง ตั้งแต่คำชมเชยของหลี่กวงหมิง ข้อเสนอให้เป็นพ่อครัวประจำจวน และคำสั่งให้ส่งอาหารทุกวัน รวมถึงการบีบบังคับให้บอกสูตรอาหารบรรยากาศในห้องเงียบสงัดลงทันที ใบหน้าของทุกคนซีดเผือดลงอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะหลี่เฟยหลงที่กำมือแน่น ใบหน้าของเขาแดงก่ำด้วยความโกรธ"ท่านเจ้าเมืองช่างบีบบังคับกันเกินไปแล้วขอรับ!" หลี่เฟยหลงเอ่ยขึ้นอย

  • ข้านี้แหละที่จะทำให้ตระกูลนี้ร่ำรวย   คลื่นใต้น้ำ

    ชัยชนะจากการประลองปัญญาครั้งนั้นส่งให้ชื่อเสียงของ เหม่ยหลิน และ ตระกูลหลี่ ดังกระฉ่อนไปทั่วทั้งตลาด และลามไปถึงหมู่บ้านใกล้เคียงอย่างรวดเร็ว ผู้คนต่างพูดถึง "แม่เจียงคนใหม่" ที่ไม่เพียงแต่ทำอาหารอร่อยเลิศ แต่ยังเฉลียวฉลาดและกล้าหาญ กล้าเผชิญหน้ากับผู้มีอิทธิพลอย่างหัวหน้าหมาเช้าวันรุ่งขึ้น แผงขายของเหม่ยหลินไม่เพียงแค่คึกคัก แต่กลับแน่นขนัดไปด้วยผู้คนที่มาต่อคิวยาวเหยียด พวกเขาไม่เพียงมาซื้อ "บะหมี่เจผักรวม" และ "ซุปเห็ดหลินจือดำ" เท่านั้น แต่ยังมาเพื่อชมบารมีของเหม่ยหลินและลูก ๆ ของเธอด้วย"ท่านแม่เจียง! ข้ามาจากหมู่บ้านเจียงเป่ย! ได้ยินว่าอาหารของท่านอร่อยล้ำเลิศนัก ข้าจึงมาขอชิมด้วยตัวเอง!" ชายชราคนหนึ่งกล่าวด้วยความเลื่อมใส"ท่านแม่เจียง! ข้าซื้อบะหมี่เจของท่านไปให้ลูกเมียกินแล้ว! พวกเขาชอบมากเลย! ขอบพระคุณท่านแม่เจียงที่ทำอาหารดี ๆ แบบนี้มาให้พวกเราได้กิน!" ชาวนาอีกคนกล่าวพร้อมรอยยิ้มเหม่ยหลินยิ้มตอบรับคำชมเชยอย่างอ่อนน้อม เธอและลูก ๆ ทำงานกันอย่างขะมักเขม้น หลี่เฟยหลงกับหลี่เฟยหานทำหน้าที่ตักบะหมี่และซุป ส่วนชิวลี่ฮวากับหลี่เฟยหยางก็ช่วยรับเงินและห่ออาหารด้วยความสนุกสนาน"ท่า

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status