FAZER LOGIN
จ้าวเหลียนเฟยที่ตอนนี้พยายามลืมตาขึ้น เธอรู้สึกเจ็บที่ศีรษะ ไอ้รถถบรรทุกคันนั้นเฉี่ยวเอารถเธอลอยกระเด็น แต่เธอกลับไม่ตายเช่นนั้นหรือ นี่มันปาฏิหารย์หรือไงนะ
กระทั่งเธอค่อยๆลืมตาขึ้นมาก็ต้องนิ่วหน้า ตรงหน้าของเธอเหมือนจะเป็นหลังคาที่ทำจากหญ้าฟาง เดี๋ยวนะเธอกำลังนอนอยู่บนพื้นแถมยังได้กลิ่นกลิ่นดินโคลนให้ตายนี่อะไรกันวะเนี่ย จ้าวเหลียนเฟยสะบัดศีรษะไปมา
สายตาเริ่มปรับโฟกัสได้แล้ว รอบๆเหมือนเป็นกำแพงที่ทำจากดินเหนียว บ้านดินเหรอหลังคาทำมาจากฟางข้าวและเธอนอนอยู่บนพื้นที่แฉะๆ สายตาเหลือบไปเห็นก้อนกลมๆ สองก้อนอยู่ตรงมุมบ้านที่เธอได้กลิ่นโคลนที่เธอได้กลินมาจากพื้นที่เธอนอนอยู่มีน้ำขัง ดูเหมือนฝนจะตกแล้วมีน้ำซึมเข้ามา ไม่เช่นนั้นก็รั่วจากหลังคา
จ้าวเหลียนเฟยเห็นก้อนกลมๆ สองก้อนเริ่มขยับ ให้ตายสินั่นมันศีรษะน้อยๆ ของเด็กสองคนนั่งกอดกันอยู่นี่ น่าจะสามสี่ขวบเองล่ะมั้ง จ้าวเหลียนเฟยเห็นพวกเขาใส่ชุดโบราณก็แปลกใจ ฉันข้าวภพมาเหรอ อะไรกันวะเนี่ย กำลังจะไปฉลองปีใหม่กับคุณยายและคุณน้าแท้ๆเลย
"ไม่นะ...อย่ามาอเมซิ่งจิงกาเบลแบบนี้ ฉันแค่ฝันแหละเดี๋ยวก็ตื่นขึ้นมาฉันก็เจอหมอหล่อๆ ในชุดกราวน์กับพยาบาลสาวในชุดขาวๆ สวยๆ พร้อมสายระโยงระยาง ใช่ๆ ฉันกำลังฝันมันเป็นความฝัน หมอคงให้ยานอนหลับเดี๋ยวฉันก็ตื่น อูย..เจ็บหัวชะมัดเหมือนถูกใครตีท้ายทอยเลย อืม"
และอยู่ๆ เธอก็ปวดหัวจนนอนตัวงอ ดิ้นทุรนทุรายไปมา กระทั่งเด็กน้อยค่อยๆ ลุกออกมาดูก่อนจะเอ่ยปากคุยกัน
"พี่ใหญ่..ท่านแม่ปีศาจเป็นอะไรไป หรือว่านางจะตายแล้วเจ้าคะ"
"อย่าไปสนใจนางเลย ตายไปเสียก็ดีผู้หญิงร้ายกาจอย่างนางไม่คู่ควรกับท่านพ่อหรอก"
"เจ้าหนู..มียาแก้ปวดหัวไหม โอ๊ย ปวดอะไรขนาดนี้ แล้วยายนี่ใครอีกเนี่ย"
จ้าวเหลียนเฟยที่ตอนนี้นั่งคุกเข่า เอาหัวตัวเองโขกกับพื้นดินเพื่อระบายความเจ็บปวด เธอเห็นผู้หญิงอีกคนที่หน้าตาคล้ายกับเธอ ผู้หญิงคนนี้ตั้งแต่เด็กจนโตถูกสตรีคนหนึ่งทำร้ายและทุบตีหลายหน
พ่อของก็ไม่สนใจรักใคร่แต่ลูกสาวคนใหม่ กระทั่งเธอถูกแย่งคู่หมั้นไปและพ่อกับแม่เลี้ยงของเธอขายเธอให้กับนายพรานคนหนึ่งเพื่อมาเป็นภรรยา แต่ยายเด็กนี่ก็ร้ายกาจไม่น้อย ก่อเรื่องตบตีกับญาติสามีไม่เว้นแต่ละวัน เจอหน้ามใครก็ชี้หน้าด่าทอ จนคนในบ้านและชาวบ้านในหมู่บ้านรังเกียจ เป็นเพราะเธอถูกกระทำมานานเธอจึงสะสมความเกลียดชังเอาไว้ เมื่อเก็บไม่ไหวก็ระเบิดออกมา
เธอเคยมีคู่หมั้นเป็นบัณฑิตคนหนึ่งชื่อหลี่อี้ ตอนนี้กลับกลายเป็นคู่หมั้นของน้องสาว และไอ้คู่หมั้นจอมโลเลเคยมาหาถึงสองครั้งเพื่อขอยืมเงิน พอดีกับที่แม่น้องสาวตัวดีมาพบเจอเข้า นางเอาไปป่าวประกาศว่าจ้าวเฟยเฟยคนนี้ล่อลวงน้องเขยตนเอง จนชาวบ้านเกือบจะจับนางใส่กรงหมูถ่วงน้ำ แต่เพราะเกรงใจสามีของนางเฉินมู่หยางพวกเขาจึงไม่ลงมือ
แต่ความจริงสามีไม่ใช่ว่าเขารักใคร่ห่วงใยเธอคนนี้สักเท่าไหร่ ที่สำคัญเขาออกจะเกลียดเธอด้วยซ้ำ เพราะเขาจับได้ว่าเธอมักจะทุบตีเด็กทั้งสองเวลาที่เขาไม่อยู่ และล่าสุดจ้าวเฟยเฟยคนนี้ลงมือโหดเหี้ยม ตบอาสาวของเขาจนหน้าบวมเหมือนหมู ทำให้บ้านใหญ่ทนไม่ไหวยื่นคำขาดให้เขาหย่าและเรียกสินสอดคืนพร้อมกับตัดสัมพันธ์
จ้าวเฟยเฟยคนเดิมก็ท้าหย่าเช่นกัน แต่เพราะพ่อของเด็กทั้งสองต้องไปทหารในอีกสองเดือนข้างหน้าจึงไม่อาจหย่านางได้อย่างน้อยเด็กๆ ต้องมีคนดูแล อีกทั้งบ้านใหญ่ไม่ต้องการเลี้ยงดูตัวสิ้นเปลืองที่ทำงานไม่ได้
จ้าวเหลียนเฟยที่ตื่นมาสักพักจุงสรุปได้ว่าเธอตายแล้ว และตอนนี้มาอาศัยร่างคนอื่นจากการที่รวบรวมเศษความทรงจำของเจ้าของร่างเดิมที่ได้มา ผู้หญิงคนนี้ชื่อจ้าวเฟยเฟย และเหมือนจะเป็นคนเลวในสายตาทุกคน แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมดบางเรื่องก็ถูกคนใส่ความ
เดิมนางมีคู่หมั้นอยู่แล้วเมื่อสอบได้เขาก็จะแต่งงานกับนาง เมื่อสอบได้จริงๆทางอดีตมารดาไอ้คู่หมั้นเฮงซวยนั่นก็ป่าวประกาศไปทั่วว่าบุตรชายสอบผ่านเป็นบัณฑิต ไม่ต้องการสะใภ้เช่นนางที่ไร้การศึกษา แม่น้องสาวตัวดีกับเมียใหม่ของบิดาจึงหาอุบายเปลี่ยนตัวคู่หมั้น และหลอกให้บิดานางเอานางมาขายให้กับสกุลเฉินเพื่อเป็นภรรยานายพรานคนหนึ่ง
ภรรยาของเฉินมู่หยางหลังจากออกเดือนก็หายสาบสูญไปทิ้งบุตรคู่แฝดเอาไว้ เขาหาเงินโดยการล่าสัตว์บ้านใหญ่อาศัยการล่าสัตว์จากเขาจึงร่ำรวยมีเงินทอง แต่ทว่าบุตรทั้งสองของเขากับผอมแห้ง เพราะเขาต้องไปเป็นทหารตามที่ราชสำนักสั่งมา บ้านใหญ่จึงรังเกียจที่จะเลี้ยงเด็กทั้งสองที่ทำงานไม่ได้และอยู่ในวัยกำลังกิน
หมู่บ้านอวี๋หยางจ้าวเฟยเฟยหยิบจดหมายของสามีมาอ่านอีกรอบเขาส่งมาเดือนก่อน("เสี่ยวเฟย..พี่คิดถึงเจ้ากับลูกๆ ยิ่งนัก เดือนหน้าจะครบรอบวันจากไปของท่านพ่อและท่านแม่ เจ้าบอกว่าจะไปเซ่นไหว้พวกท่านแทนพี่เรื่องนี้ต้องขอบใจเจ้ามากนัก เจ้ากำลังตั้งครรภ์จงดูแลตัวเองดีๆ เงินทองพี่มีมากพอที่จะเลี้ยงดูเจ้ากับลูกให้อดอยากยากจน จงอย่าหักโหมทำงานมากเกินไปนัก ขาดเหลือสิ่งใด กลับไปพี่จะชดเชยให้เจ้าทุกอย่าง พี่อยากกลับไปอยู่เคียงข้างเจ้ายามที่คลอดลูกของเรา แต่ชายแดนยังต้องจัดการกับกลุ่มก้อนที่ไม่ยอมสวามิภักดิ์ ให้สัญญากับเจ้าเมื่อสงครามจบจะรีบกลับไปหาเจ้ากับลูกของเราโดยไว รักเจ้าเสมอคนดี เฉินมู่หยาง")นางจะเป็นตัวแทนของเขาไปไหว้สุสานของบิดามารดาของเขาแทน ซึ่งนางกำลังเตรียมข้าวของอยู่ จ้าวเฟยเฟยเปิดร้านใบชาเพิ่มอีกหนึ่งร้าน นางกำลังได้คู่ค้ารายใหม่เฉินโม่หวายเขียนใบรายการสินค้าให้มารดา ส่วนเฉินเหว่ยออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้พี่สะใภ้ ทั้งสองคนมีค่าแรงเป็นเงินเดือนๆละสองตำลึง เฉินผิงผิงเองก็มีหน้าที่ต้อนรับลูกค้าที่มาซื้อของ เพราะท่านแม่เปิดร้านขนมอบเจ้าตัวน้อยชอบกินขนมและไป้เหฟยียนเองก้มักจะทำบ่อยๆ จ้าวเฟยเฟยเลย
หุบเขาไป๋ฮวาเฉินมู่หยางกำลังเดินทางกลับหมู่บ้านกับไป่เซิง ทั้งสองคนแยกตัวจากกลุ่มของสำนักคุ้มภัย พวกเขาหยุดงานแต่ว่าเฉินมู่หยางได้ยินว่าท่านพ่อป่วยจำต้องใช้เงินตำลึง เขาแค่แปลกใจเงินทองที่ให้บิดามารดาก็ไม่น้อยเหตุใดกลับไม่มีรักษาตัวสักอีแปะ หรือว่าท่านย่ากับท่านปู่นจะรีดไถไปจนหมดอีกแล้วทั้งสองคนเดินมาเรื่อยๆ ค่ำก็นอนบนคบไม้เพื่อกันถูกสัตว์ป่าที่ออกหากินกลางคืนทำร้ายเอาได้ ขณะกำลังเดินมาเพื่อจะผ่านทางหุบเขาก็ได้ยินเสียงโลหะกระทบกัน เป็นเสียงกระบี่กระทบกันมีคนกำลังสู้รบ ทั้งสองคนไม่อยากจะเอาปัญหามาให้ตัวเองจึงจะเดินเลี่ยงไปทางอื่น แต่เฉินมู่หยางต้องหยุดเพราะมีมือยื่นออกมาจากพงหญ้าคว้าเท้าเขาเอาไว้ เมื่อเขามองลงมาก็เห็นเป็นมือขาวซีดของสตรี นางเอ่ยอย่างอ่อนแรง"ได้โปรด...ช่วยข้าด้วยเถอะ"เสียงสู้รบเงียบไปแล้วได้ยินแต่เสียงตะโกนดังมา"พี่ใหญ่ นายจ้างต้องการหัวของสตรีคนนั้นพร้อมกับร่างที่มีเด็กอยู่ในท้อง""ไปตามหานางให้เจอ ต้องเอาตัวมาให้ได้ แค่หญิงท้องแก่คนหนึ่งไปไหนได้ไม่ไกลหรอก ฆ่านางแล้วเอาศพไปรับเงิน""เฮๆๆๆๆ ฆ่านาง ฆ่านาง ฆ่านาง"เสียงกลุ่มนักฆ่าร้องโห่เรียกกำลังใจก่อนจะพากันออกตามห
ค่ายทหารในแคว้นเหลียวไป่เซิ'มาหาเฉินมู่หยางเพราะท่านแม่ทัพใหญ่มีเรื่องจะคุยกับเขา"ท่านแม่ทัพ แม่ทัพใหญ่ต้องการคุยบางอย่างกับท่านน่ะขอรับ""น่าจะเป็นเรื่องเหยื่อตัวโตที่ถูกขังเอาไว้ ป่านนี้คงผอมแล้วกระมัง รองแม่ทัพไป๋ท่านช่วยส่งจดหมายให้ข้าสักหน่อย ส่งไปจวนเจ้าเมืองหาใต้เท้าจิน""ขอรับ"ไป๋เซิงรับคำสั่ง ยามนี้เขาเป็นรองแม่ทัพตะวันออกติดตามแม่ทัพเฉินและเฝ้ารักษาปกครองเมืองเหลียว พรุ่งนี้จะเข้าไปอยู่ในวังหลวง องค์หญิงและเชื้อพระวงศ์แคว้นเหลียวต่างเสนอตนเองเป็นบรรณาการให้กับเขาและแม่ทัพใหญ่ แต่ทว่าเฉินมู่หยางมิได้สนใจร่างสูงเดินออกมาจากเรือนพัก ทหารที่ยึดเมืองเข้าพักยังอาคารและตำหนักต่างๆ เกณฑ์เชื้อพระวงศ์ไปอยู่ที่ตำหนักเย็นทั้งหมด เฉินมู่หยางเดินมากำลังจะถึงก็มีสตรีนางหนึ่งพรวดพราดออกมา เพื่อต้องการล้มในอ้อมกอดของเขา แต่กลับถูกซ่งเทียนอี้สะบัดมือใส่จนนางล้มลง"ไม่เจียมตัว ข้าเกลียดที่สุดก็คือสตรีที่เสแสร้งทำตัวอ่อนแอให้บุรุษปกป้อง""ไอ้เด็กบ้า...อย่างไรข้าก็เป็นถึงองค์หญิงนะเจ้ากล้าทำเช่นนี้กับข้าหรือ""องค์หญิง เหอะจะถูกส่งไปขุดเหมืองอีกไม่กี่วันยังจะปากดี จะบอกให้นะ แม่ทัพของพวกเราม
ยามนี้จ้าวเฟยเฟยนั่งพิงเก้าอี้ไม้เพื่อรอฟังคนตรงหน้าอธิบาย มู่หยวนเดินมาหาจับมือบางขึ้นมาเอ่ยด้วยน้ำเสียงอบอุ่น"เฟยเอ๋อร์ หลานคือหลานของตา มีบางอย่างที่ทำให้พวกเราต้องพัดพรากจากกัน""เถ้าแก่มู่ ท่านช่วยบอกข้าสักหน่อยว่านี่มันเรื่องอะไรกันแน่"นางชักมือออกก่อนจะเสียงแข็งใส่ชายสูงวัยตรงหน้า มู่หยวนนั่งลงและเริ่มเล่าเรื่องราวทั้งหมด เมื่อเอ่ยจบเขาก็รอฟังว่าหลานสาวจะเอ่ยอะไร ส่วนจ้าวเฟยเฟยนั้นได้แต่สงสารร่างเดิม หากพวกเขาตามหานางเร็วกว่านี้ร่างเดิมคงไม่ต้องตายอย่างน่าสงสาร จ้าวเฟยเฟยพยักหน้าให้ก่อนจะเอ่ยกับพวกเขา"พวกท่านรอจนเกือบสี่สิบปีถึงมาตามหา ช่างเถอะข้าไม่อยากถือสาเรื่องที่ผ่านไปแล้ว แต่ว่าที่ข้าอยากรู้คนเหล่านั้นเป็นใครทำไมพุ่งเป้ามาที่ข้ากัน"มู่หย่งอันถอนหายใจเอ่ยกับเหลนสาวของตัวเอง"สี่สิบปีก่อนยังมีอีกคนที่หายสาบสูญ""มีอีกคนหรือ...ใคร?"จ้าวเฟยเฟยเอ่ยถามด้วยความอยากรู้ คนโบราณนี่พลัดพรากเก่งจริงๆ เหมือนนางกำลังอยู่ในซีรีส์สักเรื่องที่พล็อตละครน้ำเน่า มูหย่งอันสบตาหลานสาวก่อนจะเอ่ยปากเล่า"ครั้งนั้นไหวอ๋องปราบปรามกบฏ ที่แย่งชิงบัลลังก์จากอดีตฮ่องเต้ เมื่อเสร็จสิ้นยังไม่ทันได้
นางกำลังทำงานคนงานก็มาบอกว่ามีคนงานมาหานางบอกว่ามีคนมาจากต่างเมืองพูดคุยเรื่องใบชา จึงลุกออกไปคนงานจากร้านมาหานางบอกว่ามีลูกค้าต้องการติดต่อค้าขายใบชา จ้าวเฟยเฟยพยักหน้าก่อนจะบอกหลินเซียงเหมยดูแลทางนี้ นางค่อยๆลุกขึ้นเพื่อจะไปหาคู่ค้าใหม่ที่จะมาติดต่อ ก่อนจะนึกได้ว่าหากมาติดต่อนาง ต้องนัดหมายมาทางด้านหลินอ้าวก่อน อยู่ๆมาหานางโดยตรงนั้นมันผิดปกตินึกถึงคำของมู่หยวนเมื่อก่อนเดินทางไปนางยิ่งวิเคราะห์ความไม่สมเหตุสมผล นางจึงหยุดเดิน ก่อนที่คนงานจะหันกลับมาแล้วเอ่ยถามนางว่าเหตุใดถึงหยุดเดิน"เถ้าแก่ ...ท่านหยุดเดินทำไมลูกค้าคนนั้นรอท่านอยู่ ที่สำคัญเงินมากขนาดนั้นท่านไม่ต้องการหรือ""วาจาก้าวร้าว ท่าทางข่มขู่คุกคาม สายตาล่อกแล่ก รีบร้อนจนดูผิดปกติ ที่ง่ามมือมีรอยด้านหากเป็นกรรมกรจะไม่ด้านแค่ตรงนั้นเป็นพิเศษ มือนี้ปกติจับอาวุธ ไม่ใช่คนงานที่จ้างมาทำงานแน่นอน ทุกคนข้ารู้จักหมด เจ้าเป็นใครมาจากไหนกันแน่ เอาเถอะข้าเองก็อยากรู้"จ้าวเฟยเฟยคิดในใจจากนั้นก็เอ่ยกับคนงานชายที่เดินนำหน้า"พอดีข้าลืมหนังสือสัญญาน่ะ ข้ากลับไปเอาก่อนเจ้ารอที่นี่""ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวข้าไปเอาให้ท่านเองท่านวางไว้ที่ใด"จ้
ยามนี้จ้าวเฟยเฟยตั้งครรภ์ได้แปดเดือนแล้วนางได้ยินว่าชายแดนยึดต้าเหลียวได้ถึงเจ็ดเมือง อีกไม่นานก็จะเข้ายึดเมืองหลวงข่าวดีกว่านั้นคือเฉินมู่หยางสังหารแม่ทัพศัตรูไปสามคนยามนี้เขาได้ตำแหน่งแม่ทัพตะวันออกเรียบร้อยแล้ว ส่วนฮั่วป๋ายจะกลับเมืองหลวงเป็นรองเจ้ากรมกลาโหมคนต่อไปทางด้านจ้าวเฟยเฟยอยู่ทางนี้นางสร้างอาชีพใหม่ให้กับชาวบ้านโดยการให้พวกเขาปรับปรุงบ้านเป็นที่พัก ถนนจากท่าเรือมายังท้ายหมู่บ้านนั้นยาวเพียงสองลี้ ใช้เวลาไม่นานก็มาถึง อีกทั้งนางยังให้ทำที่จอดรถม้าอีกด้วยยามนี้ร่างอุ้ยอ้ายกำลังนั่งคิดเงินค่าแรงคนงานอยู่ แม้ว่าร้านปิ้งย่างของนางจะมีลูกค้ามากมายมาจากทุกทิศแต่ว่าสิ่งที่ทำเงินให้นางมากที่สุดก็ยังเป็นชาอยู่ดี นางได้ชาอู่หลงมาจากในมิติครั้งละหนึ่งร้อยห่อ ห่อละหนึ่งร้อยกรัม จ้าวเฟยเฟยขายมันห่อละสามสิบตำลึง คนในยุคนี้อวดรวยกันที่ว่าใครมีใบชาชั้นดีไว้ในครอบครองชาดอกกุหลาบและชาดอกเก๊กฮวยนางขายห่อละสามตำลึงแต่ทว่าหากร้านรับซื้อในราคาส่งนางขายพ่อค้าคนกลางห่อละสองตำลึง นางให้กำไรพวกเขามากหน่อยเพราะการขนส่งในยุคนี้แม้ว่าไม่มีต้นทุนน้ำมันแต่กลับเสียเวลาและใช้กำลังคนเฉินโม่หวายถือถาดไม







