เฉินมู่หยางที่กำลังทำปลาอยู่ก็หันมาทางนางและเด็กๆ เฉินโม่หวายกระดกแก้วไม้ไผ่ทีเดียวเพื่อเอาน้ำข้าวลงท้อง นี่เป็นเงินที่ท่านพ่อหามาอย่างลำบากเพื่อซื้อข้าวสารให้เขา ต้องกินสิเขาไม่ได้กินเพราะนางสั่งให้กินเสียหน่อย กินเพราะเห็นแก่ท่านพ่อต่างหาก เฉินโม่หวายดื่มเร็วไปจึงสำลักออกมา
"แค่กๆๆ แค่กๆๆ " มือผอมแห้งทุบหน้าอกตนเอง จ้าวเฟยเฟยเดินไปลูบหลังให้ เขาผงะในใจยังระแวงนางอยู่ จ้าวเฟยเฟยกลอกตามองบนก่อนจะเอ่ย
"การเกิดเป็นคนนั้นยากยิ่ง หากเจ้าจะกินมื้อนี้เพื่อสั่งลาข้าก็ไม่ว่า แต่คนเราน่ะนะถ้าอยากตายอย่างน้อยก็ตายอย่างมีศักดิ์ศรีหน่อย ไม่ใช่ตายเพราะตะกละ"
เฉินโม่หวายมองหน้านางน้ำตาคลอ สตรีคนนี้ร้ายกาจยิ่งนัก เขาสะบัดหน้าวิ่งเข้าเรือนแพไปนั่งร้องไห้ เฉินมู่หยางเดินมาพอดีก่อนจะส่งปลาที่ทำเรียบร้อยให้กับนาง เขาเอ่ยตำหนิคนตรงหน้า
"โม่หวายยังเด็ก แต่ละคำพูดของเจ้าล้วนทำร้ายจิตใจ"
"แล้วอย่างไร จะกระโดดน้ำตายหรือ หึยายแกนั่นทั้งตบทั้งตี กระทั่งด่าว่าลูกโสเภณียังไม่เห็นตายเลย แต่พอข้าพูดกลับรับไม่ได้หรือ เขาเป็นเด็กผู้ชายอนาคตต้องรับผิดชอบครอบครัวเป็นที่พึ่งให้น้องสาว นิสัยหยุมหยิมอย่างนี้โตไปจะมีประโยชน์อะไร"
จ้าวเฟยเฟยรับเอาปลามาก่อนจะไปเพิ่มไฟ นางทอดปลาจนเป็นสีเหลืองทองจากนั้นก็ใส่ขิงที่หั่นแว่นลงไปตามด้วยต้นหอมป่า ใส่เกลือเล็กน้อย เติมน้ำแล้วเคี่ยว เกือบจะยามเฉินแล้วในที่สุดอาหารก็พร้อมสำหรับสี่คน จ้าวเฟยเฟยยกอาหารเข้าไปในเรือน จานชามไม่พอนางจะเป็นต้องใช้กระบอกไม้ไผ่มาเป็นที่ใส่อาหารแทน
น้ำแกงปลาสีขาวน้ำนมช่วยให้มีความอยากอาหารมากขึ้น เฉินโม่หวายที่ยังงอนจากการที่ถูกนางว่าก็ไม่ยอมลุกมากินข้าว จ้าวเฟยเฟยเห็นว่าเขาเอาแต่ใจเพื่อเรียกร้องบิดาก็ไม่สนใจก่อนจะเอ่ยกับเฉินมู่หยาง
"ข้าจะไปชายป่าสักหน่อยน่ะ"
"ไปชายป่า?....ที่นั่นมีอะไร"
"บ้านแม่หม้ายหลิน นางป่วยอยู่กับบุตรชายแค่สองคน ข้าจะเอาข้าวไปให้นางสักมื้อ อย่าห่วงเลยเงินข้าคืนท่านแน่"
เฉินมู่หยางไม่เคยรู้เลยว่านางรู้จักใส่ใจคนอื่นด้วย จากนั้นจ้าวเฟยเฟยก็ตักอาหารบางส่วนใส่กระบอกไม้ไผ่ก่อนจะใส่ตะกร้าแล้วเดินออกไปชายป่า นางไม่ลืมที่จะเอาน้ำดื่มที่นางแช่จี้หยกลงไปด้วย ส่วนเฉินมู่หยางรู้ดีว่านางต้องการให้บุตรชายของเขากินข้าวก่อน มิเช่นนั้นนางคงไม่รีบออกไปจึงเอ่ยกับบุตรชายเมื่อนางไปแล้ว
"ท่านแม่ของเจ้านางอาจจะพูดจารุนแรงไปบ้าง โม่หวายแต่นางก็หวังดี"
"ขอรับ ท่านพ่อ แต่ว่าต่อไปท่านห้ามกอดนางอีกข้าไม่อยากให้ท่านชอบนาง"
เฉินมู่หยางถอนหายใจก่อนเอ่ย
"วันหลังห้ามแอบดูผู้ใหญ่ อีกอย่างพ่อไม่ได้กอดนาง เราอยู่บนแพบางทีก็มีคลื่นทำให้แพแกว่งโคลงไปมาไม่ยืนมั่นคง พ่อแค่รับนางไว้กันไม่ให้นางล้มก็เท่านั้น กินข้าวได้แล้ว"
เฉินผิงผิงไม่เห็นด้วยกับพี่ชายเสียงเล็กๆเอ่ยกับบิดา
"ท่านพ่อ ท่านแม่เปลี่ยนไปแล้ว นางใจดีกับผิงผิงมากนักท่านพ่อต้องรักท่านแม่นะเจ้าคะ ผิงผิงอยากมีท่านแม่"
นี่เป็นครั้งแรกที่น้องสาวเห็นต่างกับเขา เฉินโม่หวายใบหน้าหงิกงอกว่าเดิม แต่เด็กน้อยอีกคนไม่สนใจนางไม่ยอมกินจะท่านแม่กลับมา ซึ่งทำให้พี่ชายต้องรอไปด้วย ทั้งสามจึงนั่งรอจ้าวเฟยเฟยกลับมากินข้าวพร้อมกัน
ชายป่าห่างจากกระท่อมเฉินมู่หยางสิบจ้างจ้าวเฟยเฟยเดินมาหยุดที่กระท่อมโทรมหลังหนึ่งที่บัดนี้กลับแทบจะไม่ใช่ที่อยู่ของคน เมื่อคืนลมแรงหลัะงคาไม่เหลือแล้ว สองแม่ลูกไปนั่งซุกอยู่ใต้เตียงไม้เนื้อตัวเปียกปอน จ้าวเฟยเฟยร้องเรียกทั้งคู่
"พี่สาวหลิน เฉินอี้พวกท่านเป็นอย่างไรบ้าง"
เด็กหนุ่มวัยสิบสองปีกับสตรีวัยสามสิบเศษๆคนหนึ่งคลานออกมาจากใต้เตียงเมื่อเห็นคนที่มาแววตาดีใจก็เผยรอยยิ้มทั้งที่เขาหนาวสั่นจนปากเริ่มม่วง
"พี่เฟยเฟยท่านมาแล้ว ได้ยินว่าท่านถูกป้าหวังตีเป็นอย่างไรบ้างขอรับ"
"พี่หายดีแล้ว เปียกทั้งคืนเลยหรือ"
"ขอรับ ท่านแม่เองก็ไม่ไหว ข้าไม่รู้จะทำเช่นไร นางไข้ขึ้นตัวร้อนนัก"
"เอาเช่นนี้ พามารดาเจ้าไปบ้านข้าก่อน นี่เป็นน้ำแร่พอดีเมื่อวานข้าขึ้นเขาสำรวจเลยเจอมันให้นางดื่มอาจมีแรงขึ้นมาบ้าง"
เฉินอี้รับน้ำมาจากนางก่อนจะค่อยๆกรอกปากมารดา ไม่นานจากที่อ่อนแรงก็เริ่มหายใจสม่ำเสมอ เปลือกตานางขยับเล็กน้อยก่อนจะลืมตาเอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง
"อี้เอ๋อร์ อาซ้อเฉินท่านมาแล้วหรือ"
"พี่หลินท่านอย่าเอ่ยอะไรเลย เดิมเอาอาหารมาให้ท่าแต่ดูเหมือนบ้านท่านจะอยู่ไม่ได้แล้ว ไปพักบ้านข้าก่อนค่อยหาทาง"
จ้าวเฟยเฟยเอ่ยขึ้น ในความทรงจำร่างเดิมแต่งมาที่นี่ได้สามวันก็มาเจอกับสองแม่ลูกที่ลำบากยิ่งกว่านางเสียอีก วันนั้นนางเจอเข้ากับไข่ไก่ป่า เดิมจะแอบไว้กินเองแต่เมื่อเห็นแม่หม้ายคนหนึ่งกับเด็กที่กำลังช่วยกันขุดรากไม้นางจึงยกไข่ป่าให้พวกเขา
และจากนั้นนางก็แอบเอาอาหารมาให้บ่อยๆเท่าที่จะแอบเอามาได้ สองแม่ลูกที่ได้ยินนางเอ่ยชวนพยักหน้า จากนั้นหลินเฉินอี้ก็พยุงมารดาเดินตามจ้าวเฟยเฟยไป เมื่อมาถึงก็ประหลาดใจ บ้านดินนั้นอยู่ไม่ได้แล้วแต่พวกเขาสร้างแพบ้านและอยู่ในนั้น
"บ้านอยู่ไม่ได้ข้าเลยสร้างเรือนแพ พวกท่านแม่ลูกอยู่ไปก่อน ที่จริงวันนี้ข้าจะเข้าเมือง ที่ข้าไปหาก็อยากให้อาอี้มาช่วยเฝ้าบ้าน งั้นวันนี้พวกท่านพักที่นี่ก่อน ข้าเข้าเมืองแล้วกลับมาจะหาทางออกให้อีกที"
จ้าวเฟยเฟยเอ่ยกับคนทั้งคู่ จากนั้นก็มาถึงเรือนแพก่อนจะเรียกหาเฉินมู่หยาง
"ท่านพี่ ท่านออกมาหน่อยเจ้าค่ะ"
เฉินมู่หยางนิ่งเงียบ เมียเรียกเขาท่านพี่ไม่ใช่คำว่าตาเฒ่า เขาหูเพี้ยนหรือก่อนจะลุกออกมาก็เห็นว่านางพาคนกลับมาสองคนจึงรีบเดินข้ามสะพานมาหา
"พวกเขาคือ...."
"นี่พี่หลิน ส่วนนี่บุตรชายของนางชื่อเฉินอี้บ้านพวกเขาพังเพราะพายุเมื่อคืน อาศัยอยู่กับเราก่อนพอดีเราจะเข้าเมืองต้องมีคนเฝ้าบ้าน คนบ้านใหญ่ท่านมิใช่ท่านไม่รู้"
เฉินมู่หยางพยักหน้าก่อนจะเอ่ย
"อาซ้อ บ้านข้าคับแคบท่านคงจะไม่ถือสานะ"
"ไม่เป็นไร แค่มีที่หลบฝนก็พอแล้ว"
"ข้าจะไปดูที่นอนให้ท่านพักก่อน เฉินอี้เจ้าพามารดาเจ้าข้ามสะพานดีๆล่ะ"
เด็กหนุ่มพยักหน้า สองสามีภรรยาเดินข้ามไปก่อน หลินเหมยเซียงเกาะแขนบุตรชายค่อยๆเดิน เมื่อพวกเขาเข้าบ้านไปแล้วหลินเฉินอี้จึงเอ่ยแก่มารดา
"เสด็จแม่ ทรงไหวหรือไม่"
"อี้เอ๋อร์ อาซ้อเฉินนางเป็นคนดีต่อไปลูกอย่าลืมบุญคุณนาง"
"เสด็จแม่ทรงวางพระทัย ลูกจะต้องล้างมลทินให้ตระกูลท่านตาและทวงความเป็นธรรมให้ท่านแน่ๆ"
"วังหลวงเป็นสถานที่กินคน พวกเราใช้ชีวิตที่นี่เถอะอย่าไปยุ่งเกี่ยวอีกเลย เข้าไปกันเถอะพวกเขารอแล้ว"
หลินเฉินอี้ปฏิญาณในใจ หลี่กุ้ยเฟยข้าสัญญาว่าจะให้พวกเจ้าสกุลหลี่ชดใช้สามร้อยชีวิตให้กับสกุลหลิน จากนั้นก็พามารดาของตนเข้ามาบังเรือนแพในที่สุด
เด็กทั้งสองเคี้ยวอาหารจนหมดปากจึงเอ่ยกับบิดา คู่แฝดเอ่ยชมอาหารที่จ้าวเฟยเฟยทำไม่ขาดปาก เฉินมู่หยางคิดว่าการค้าครั้งนี้เมียเขาคงได้แล้ว หากเป็นหลินอ้าวเขาเชื่อใจที่จะให้ติดต่อค้าขายกับภรรยามากกว่าคนอื่น บิดาที่รักบุตรเช่นนี้ไม่สนใจสตรีอื่นให้ปวดหัวแน่นอนเสียงด้านนอกมีคนมา ไม่นานสตรีใบหน้างดงามก็เดินมาหลังร้านก่อนจะเอ่ยเรียกหลินอ้าว"เถ้าแก่หลิน ข้านำมื้อเช้ามาฝากเด็กๆเจ้าค่ะ"เซียวฮวนฮวนเอ่ยน้ำเสียงอ่อนหวานแก่หลินอ้าว เด็กทั้งคู่หันไปหานางก่อนจะลุกมาหาเรียกนางว่าท่านแม่"ท่านแม่มาแล้วหรือเจ้าคะ ท่านแม่มาทานข้าวกับซินซินสิเจ้าคะ ท่านอามู่หยางนำของอร่อยมาให้ตั้งมากมาย"เซียวฮวนฮวนหน้าแดง หลินอ้าวสู่ขอนางเมื่อหลายวันก่อน จากนั้นเขาก็บอกเด็กทั้งคู่ว่านางจะมาเป็นท่านแม่ เด็กๆดีใจที่จะมีท่านแม่ ยามใดที่เซียวฮวนฮวนมาหาจะดีใจกันมากนัก เฉินมู่หยางเอ่ยทักทายนางก่อน"คุณหนูเซียวพบกันอีกแล้ว""คุณชายเฉิน...ไม่เจอเสียนานเลยเชียวท่านสบายดีหรือไม่ ท่านพ่อมิได้ออกกองคาราวานแล้วข้าจึงไม่ได้พบท่านอีก""สบายดีขอรับ เราพบกันเมื่อหลายวันก่อนท่านคงจำข้าไม่ได้""เขาคือหลานชายเฉินหยวน
เฉินมู่หยางขับเกวียนมาจนถึงประตูเมืองเขาจ่ายค่าเข้าให้กับไป๋เซิงและบิดาก่อนจะนัดมาเจอกันอีกที เกวียนวัวผูกไว้ยังที่รับฝากจอด เฉินมู่หยางถือตะกร้าที่คลุมด้วยผ้าฝ้ายขาวสะอาดตา เดินไปทางร้านขายยาก่อนจะนำใบรายการสมุนไพรที่เมียเขียนให้มาส่งให้คนดูแลร้านพร้อมกับบอกรายละเอียด"หลงจู๊..รบกวนท่านจัดตามรายการนี้ อันไหนที่บอกให้บดเป็นผงก็รบกวนท่านช่วยบดให้ด้วย จัดเตรียมเรือบดยาให้ข้าสามอัน นี่เป็นเงินมัดจำ อีกหนึ่งชั่วยามข้าจะกลับมาเอาขอรับ""เอ่อ..นายพรานเฉิน แม้ว่ายาเหล่านี้จะราคาไม่แพง แต่บางอย่างไม่สามารถใช้ด้วยกันได้นะ""ภรรยาของข้านางจะเอาไปดับกลิ่นคาวของเนื้อน่ะ ข้าเองก็ไม่รู้หรอก นางเป็นแม่บ้านนางเข้าครัวมากว่าข้าเสียอีกขอรับ""อ้อ..เช่นนั้นข้าจะจัดการให้ แต่อย่างละสิบชั่งนี่มันไม่เยอะเกินไปหรือ""ข้าเองก็ถามนางแล้ว นางบอกว่าไม่พอด้วยซ้ำท่านจัดการตามที่นางสั่งเถอะขอรับเดี๋ยวข้าไปธุระก่อน"จากนั้นเขาก็เดินไปทางตรอกของร้านขายของชำของเถ้าแก่หลิน ร้านตรงข้ามที่มีปัญหากันยังไม่เปิดร้าน แต่หบินอ้าวเปิดแล้ว ร่างสูงของหลินอ้าวกำลังจัดร้านเปิดแต่เช้าเชียว เฉินมู่หยางมาถึงก็เอ่
ถังจื่อหยวนอุ้มร่างบางเดินไปทางลำธารสายเล็กที่ทางด้านนั้นไม่มีใครเดินผ่านก่อนจะวางร่างบางลง ไป๋เหยียนรู้สึกว่าคนตรงน่าเวลานี้นากลัวยิ่งนัก นางพยายาออกจากอ้อมกอดของเขาแต่ถังจื่อหยวนกลับโอบเอวนางเอาไว้ มืออีกข้างจับปลายคางนางไม่ให้ดิ้นหนี ก่อนจะแนบริมฝีปากตนเองลงไปหา ไป๋เหยียนเม้มปากแน่น แต่เขามีวิธีให้นางยอมเปิดปาก"ต่อต้านหรือ เจ้าแน่ใจนะหากพี่ไป๋เซิงรู้ว่าครึ่งเดือนก่อนเจ้าเอาไป๋ฮวาไปเที่ยวแล้วยังพานางไปเล่นพนันกัดจิ้งหรีดอีกด้วย เจ้าว่าพี่ชายเจ้าจะว่าอย่างไรกัน แม่ตัวแสบ"ไป๋เหยียนตาโตเขารู้ได้อย่างไรกัน วันนั้นนางพาหลานสาวไปเที่ยวหมู่บ้านข้างเคียงเพราะตามท่านพ่อไปซื้อยาให้ท่านแม่ แค่แวะวงพนันแป๊บเดียวยังไม่ได้ลงเล่นเลย ก่อนจะเอ่ยเสียงอ่อย"ท่านต้องการอะไรถ้าไม่พูดเรื่องนี้""เปิดปากเจ้าออก อย่าต่อต้านทำได้ไหม"ไป๋เหยียนกลืนน้ำลายก่อนจะพยักหน้าแล้วทำตาม ถังจื่อหยวนจูบนางอย่างนุ่มนวล ลิ้นร้อนชื้นเกี่ยวลิ้นเล็กควานหาความหวาน มือบางยกขึ้นโอบรอบท้ายทอยหน้า กลิ่นบุรุษเพศที่นางเพิ่งได้ใกล้ชิดเป็นครั้งแรกทำเอาท้องไส้ปั่นป่วน กระทั่งเขาถอนริมฝีปากออกมาสบตานางแล้วเอ่ย
จ้าวเฟยเฟยไปเก็บผลซานจามาทำถังหูหลู่แจกเด็กๆและชาวบ้าน หากอยากค้าขายต้องมีสินค้าทดลองก่อน ในยุคที่ไม่มีสื่อโซเชี่ยลปากต่อปากคือการประชาสัมพันธ์ที่ดีที่สุด เด็กๆต่างรู้ดีว่าเดินตามท่านป้าจ้าวย่อมมีของอร่อยให้กิน ไป๋ฮวารีบปล่อยมืออาหญิงทันทีที่เห็นหลินเฉินอี้ นางวิ่งมาหากางแขนให้อุ้ม"พี่เฉินอี้ อุ้มฮวาฮวาด้วยเจ้าค่ะ"เด็กหนุ่มก้มลงอุ้มแม่หนูน้อยขึ้นมาก่อนจะยิ้มให้ ไป๋ฮวากอดคอเขาใบหน้าเล็กๆซุกซอกคอพี่ชายอย่างออดอ้อน หลินเฉินอี้อมยิ้มกับท่าทางของแม่ตัวเล็กที่เชื่องเหมือนลูกแมวตัวน้อย (ที่ในอนาคตนางจะเปลี่ยนจากลูกแมวน้อยเป็นแม่เสือหากนางบอกไปทางซ้ายเขาก็ไม่กล้าก้าวเท้าขวา) ส่วนเฉินผิงผิงมารดาอุ้มนางเองท่านอาไปเรียนหนังสือกับพี่ชายแล้ว ไม่นานก็ถึงบริเวณที่มีต้นซานจาขึ้นอยู่หลายต้น ทุกคนช่วยกันเก็บแต่จ้าวเฟยเฟยเอ่ยออกมาก่อน"วันนี้ที่มาเก็บข้าจะทำขนมให้พวกเจ้ากิน แต่ไม่ได้รับซื้อเหมือนลูกท้อเช่นคราวก่อนนะเข้าใจไหม""ขอรับท่านป้าจ้าว""เจ้าค่ะท่านป้าจ้าว"จ้าวเฟยเฟยกลอกตามองบนก่อนจะเอ่ยเสียงเข้ม"ใครเรียกป้าอีกวันนี้อดกินถังหูหลู่""ขอรับพี่สาว""เจ้าค่ะพี่สาว""น่าร้ากกก เอาล่
ปลายยามโหย่วแล้วเฉินมู่หยางอาบน้ำให้บุตรชายเรียบร้อยแล้ว ส่วนเฉินผิงผิงท่านแม่อาบให้ตั้งแต่ยามเซินจากนั้นก็ล้อมวงกันกินมื้อค่ำ เฉินโม่หวานกำลังคีบเห็ดโคนยำขึ้นมาก่อนมองมันแล้วก้มมองเป้ากางเกงของตัวเอง แล้วเขาก็วางลงไม่แตะมันเลย แต่เฉินผิงผิงกับเฉินเหว่ยต่างก็ไม่วางตะเกียบ กระทั่งใกล้หมดเจ้าตัวแสบอยากลองแต่กินได้สามคำก็ไม่มีแล้ว"ท่านแม่ เห็ดนี่เรียกเห็ดอะไรหรือขอรับ""เรียกว่าเห็ดโคนน่ะ อร่อยหรือไม่ เอาไว้ถ้าฝนตกแม่จะไปเก็บมาอีก""ลูกไปช่วยนะขอรับ มันอร่อยมากเหนียวๆหนึบๆเหมือนกินเนื้อไก่เลยขอรับ""ได้..ลูกรู้ไหมเห็ดมีประโยชน์มากนัก แม้ว่าไม่ใช่เนื้อสัตว์แต่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากว่าเนื้อสัตว์เสียอีก ในเมื่ออร่อยทำไมทีแรกลูกไม่ยอมกินเล่า"เด็กน้อยหน้าแดง แต่เฉินมู่หยางกลับคีบดอกใหญ่ที่สุดในจานขึ้นมาก่อนจะบอกนางว่า"พี่ไม่โกหกนะใหญ่กว่านี้หลายสิบเท่า พิสูจน์ได้นะเมียข้า""ท่านพี่เดี๋ยวเถอะ กินๆไปเลยนะไม่เช่นนั้นพรุ่งนี้จะต้มผักป่าใส่เกลือให้ท่านกินแทนคนบ้า"เด็กๆ ไม่รู้ว่าท่านแม่เป็นอะไรได้แต่มองหน้ากัน ส่วนคนตัวโตหลังจากแหย่เมียสำเร็จก็เคี้ยวข้าวตุ้ยๆ เมื่อมื้อค่ำเรียบร้อยเฉินม
เฉินมู่หยางอุ้มบุตรสาวเอาไว้ ชาวบ้านไปตามหลี่เจิ้งมาแล้ว พวกเขาอยากจัดการสามคนนี้แต่ก็ไม่อาจยื่นมือเพราะเป็นดองของเฉินมู่หยาง กระทั่งเฉินกั่วต้งมาถึงเห็นสภาพหัวแตกหน้าบวมของจ้าวคังกับจูไห่หรงก็ถอนหายใจก่อนจะเอ่ย"นี่จ้าวคัง นางจู ตอนนั้นพวกเจ้ายกเสี่ยวเฟยให้กับมู่หยางพวกเจ้าลั่นวาจาว่าจากนี้ไปไม่เกี่ยวข้องกันอีก ห้ามนางกลับไปขอความช่วยเหลือใดๆ ห้ามนางเหยียบบ้านเดิม แล้วยามนี้พวกเจ้าทำไมพวกเจ้าเป็นฝ่ายผิดสัญญาเสียเล่า"ท่านผู้นำ ข้าเป็นพ่อมันนะ มันกล้าฟ้องร้องข้าเอาสมบัติมาหมด มันกะจะให้พวกเราอดตายมันยังเป็นคนหรือไม่""ใช่เจ้าค่ะ ตอนนี้พวกเราแทบไม่มีข้าวสารกรอกหม้อแล้ว เงินที่เคยมีก็ถูกนางคนอกตัญญูนี่เอาไปหมด"สองผัวเมียชิงฟ้องเพื่อให้ชาวบ้านที่นี่รังเกียจและต้องการให้เฉินมู่หยางเห็นความเลวของนางจะได้ขอหย่า แต่กลับเป็นเสียงของเฉินมู่หยางที่ดังมาแทน"เดิมทีข้าอยากเรียกเจ้าว่าท่านพ่อตาสักหน่อย แต่ดูเหมือนเจ้าจะปฏิบัติกับเมียข้าเหมือนกับนางมิใช่สายเลือด เช่นนั้นข้าก็จะไม่เกรงใจอีกแล้ว ต่อไปหากมาหาเรื่องเมียข้าอีกข้าจะทำให้เจ้าหายสาบสูญไปจากหมู่บ้านเถาฮวาเสีย จ้าวคัง จ