Share

สองแม่ลูกสกุลหลิน

last update Terakhir Diperbarui: 2025-06-27 17:20:01

เฉินมู่หยางที่กำลังทำปลาอยู่ก็หันมาทางนางและเด็กๆ   เฉินโม่หวายกระดกแก้วไม้ไผ่ทีเดียวเพื่อเอาน้ำข้าวลงท้อง  นี่เป็นเงินที่ท่านพ่อหามาอย่างลำบากเพื่อซื้อข้าวสารให้เขา  ต้องกินสิเขาไม่ได้กินเพราะนางสั่งให้กินเสียหน่อย  กินเพราะเห็นแก่ท่านพ่อต่างหาก  เฉินโม่หวายดื่มเร็วไปจึงสำลักออกมา

"แค่กๆๆ แค่กๆๆ " มือผอมแห้งทุบหน้าอกตนเอง  จ้าวเฟยเฟยเดินไปลูบหลังให้  เขาผงะในใจยังระแวงนางอยู่  จ้าวเฟยเฟยกลอกตามองบนก่อนจะเอ่ย

"การเกิดเป็นคนนั้นยากยิ่ง  หากเจ้าจะกินมื้อนี้เพื่อสั่งลาข้าก็ไม่ว่า  แต่คนเราน่ะนะถ้าอยากตายอย่างน้อยก็ตายอย่างมีศักดิ์ศรีหน่อย  ไม่ใช่ตายเพราะตะกละ"

เฉินโม่หวายมองหน้านางน้ำตาคลอ  สตรีคนนี้ร้ายกาจยิ่งนัก  เขาสะบัดหน้าวิ่งเข้าเรือนแพไปนั่งร้องไห้  เฉินมู่หยางเดินมาพอดีก่อนจะส่งปลาที่ทำเรียบร้อยให้กับนาง  เขาเอ่ยตำหนิคนตรงหน้า

"โม่หวายยังเด็ก  แต่ละคำพูดของเจ้าล้วนทำร้ายจิตใจ"

"แล้วอย่างไร  จะกระโดดน้ำตายหรือ  หึยายแกนั่นทั้งตบทั้งตี  กระทั่งด่าว่าลูกโสเภณียังไม่เห็นตายเลย  แต่พอข้าพูดกลับรับไม่ได้หรือ  เขาเป็นเด็กผู้ชายอนาคตต้องรับผิดชอบครอบครัวเป็นที่พึ่งให้น้องสาว  นิสัยหยุมหยิมอย่างนี้โตไปจะมีประโยชน์อะไร"

จ้าวเฟยเฟยรับเอาปลามาก่อนจะไปเพิ่มไฟ   นางทอดปลาจนเป็นสีเหลืองทองจากนั้นก็ใส่ขิงที่หั่นแว่นลงไปตามด้วยต้นหอมป่า  ใส่เกลือเล็กน้อย   เติมน้ำแล้วเคี่ยว   เกือบจะยามเฉินแล้วในที่สุดอาหารก็พร้อมสำหรับสี่คน   จ้าวเฟยเฟยยกอาหารเข้าไปในเรือน   จานชามไม่พอนางจะเป็นต้องใช้กระบอกไม้ไผ่มาเป็นที่ใส่อาหารแทน  

น้ำแกงปลาสีขาวน้ำนมช่วยให้มีความอยากอาหารมากขึ้น  เฉินโม่หวายที่ยังงอนจากการที่ถูกนางว่าก็ไม่ยอมลุกมากินข้าว  จ้าวเฟยเฟยเห็นว่าเขาเอาแต่ใจเพื่อเรียกร้องบิดาก็ไม่สนใจก่อนจะเอ่ยกับเฉินมู่หยาง

"ข้าจะไปชายป่าสักหน่อยน่ะ"

"ไปชายป่า?....ที่นั่นมีอะไร"

"บ้านแม่หม้ายหลิน  นางป่วยอยู่กับบุตรชายแค่สองคน  ข้าจะเอาข้าวไปให้นางสักมื้อ  อย่าห่วงเลยเงินข้าคืนท่านแน่"

เฉินมู่หยางไม่เคยรู้เลยว่านางรู้จักใส่ใจคนอื่นด้วย  จากนั้นจ้าวเฟยเฟยก็ตักอาหารบางส่วนใส่กระบอกไม้ไผ่ก่อนจะใส่ตะกร้าแล้วเดินออกไปชายป่า  นางไม่ลืมที่จะเอาน้ำดื่มที่นางแช่จี้หยกลงไปด้วย    ส่วนเฉินมู่หยางรู้ดีว่านางต้องการให้บุตรชายของเขากินข้าวก่อน  มิเช่นนั้นนางคงไม่รีบออกไปจึงเอ่ยกับบุตรชายเมื่อนางไปแล้ว

"ท่านแม่ของเจ้านางอาจจะพูดจารุนแรงไปบ้าง  โม่หวายแต่นางก็หวังดี"

"ขอรับ  ท่านพ่อ  แต่ว่าต่อไปท่านห้ามกอดนางอีกข้าไม่อยากให้ท่านชอบนาง"

เฉินมู่หยางถอนหายใจก่อนเอ่ย

"วันหลังห้ามแอบดูผู้ใหญ่  อีกอย่างพ่อไม่ได้กอดนาง  เราอยู่บนแพบางทีก็มีคลื่นทำให้แพแกว่งโคลงไปมาไม่ยืนมั่นคง  พ่อแค่รับนางไว้กันไม่ให้นางล้มก็เท่านั้น  กินข้าวได้แล้ว"

เฉินผิงผิงไม่เห็นด้วยกับพี่ชายเสียงเล็กๆเอ่ยกับบิดา

"ท่านพ่อ  ท่านแม่เปลี่ยนไปแล้ว  นางใจดีกับผิงผิงมากนักท่านพ่อต้องรักท่านแม่นะเจ้าคะ  ผิงผิงอยากมีท่านแม่"

นี่เป็นครั้งแรกที่น้องสาวเห็นต่างกับเขา  เฉินโม่หวายใบหน้าหงิกงอกว่าเดิม  แต่เด็กน้อยอีกคนไม่สนใจนางไม่ยอมกินจะท่านแม่กลับมา  ซึ่งทำให้พี่ชายต้องรอไปด้วย  ทั้งสามจึงนั่งรอจ้าวเฟยเฟยกลับมากินข้าวพร้อมกัน

ชายป่าห่างจากกระท่อมเฉินมู่หยางสิบจ้างจ้าวเฟยเฟยเดินมาหยุดที่กระท่อมโทรมหลังหนึ่งที่บัดนี้กลับแทบจะไม่ใช่ที่อยู่ของคน  เมื่อคืนลมแรงหลัะงคาไม่เหลือแล้ว  สองแม่ลูกไปนั่งซุกอยู่ใต้เตียงไม้เนื้อตัวเปียกปอน  จ้าวเฟยเฟยร้องเรียกทั้งคู่

"พี่สาวหลิน  เฉินอี้พวกท่านเป็นอย่างไรบ้าง"

เด็กหนุ่มวัยสิบสองปีกับสตรีวัยสามสิบเศษๆคนหนึ่งคลานออกมาจากใต้เตียงเมื่อเห็นคนที่มาแววตาดีใจก็เผยรอยยิ้มทั้งที่เขาหนาวสั่นจนปากเริ่มม่วง

"พี่เฟยเฟยท่านมาแล้ว  ได้ยินว่าท่านถูกป้าหวังตีเป็นอย่างไรบ้างขอรับ"

"พี่หายดีแล้ว   เปียกทั้งคืนเลยหรือ"

"ขอรับ  ท่านแม่เองก็ไม่ไหว  ข้าไม่รู้จะทำเช่นไร  นางไข้ขึ้นตัวร้อนนัก"

"เอาเช่นนี้  พามารดาเจ้าไปบ้านข้าก่อน  นี่เป็นน้ำแร่พอดีเมื่อวานข้าขึ้นเขาสำรวจเลยเจอมันให้นางดื่มอาจมีแรงขึ้นมาบ้าง"

เฉินอี้รับน้ำมาจากนางก่อนจะค่อยๆกรอกปากมารดา  ไม่นานจากที่อ่อนแรงก็เริ่มหายใจสม่ำเสมอ  เปลือกตานางขยับเล็กน้อยก่อนจะลืมตาเอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง

"อี้เอ๋อร์   อาซ้อเฉินท่านมาแล้วหรือ"

"พี่หลินท่านอย่าเอ่ยอะไรเลย  เดิมเอาอาหารมาให้ท่าแต่ดูเหมือนบ้านท่านจะอยู่ไม่ได้แล้ว  ไปพักบ้านข้าก่อนค่อยหาทาง"

จ้าวเฟยเฟยเอ่ยขึ้น   ในความทรงจำร่างเดิมแต่งมาที่นี่ได้สามวันก็มาเจอกับสองแม่ลูกที่ลำบากยิ่งกว่านางเสียอีก  วันนั้นนางเจอเข้ากับไข่ไก่ป่า  เดิมจะแอบไว้กินเองแต่เมื่อเห็นแม่หม้ายคนหนึ่งกับเด็กที่กำลังช่วยกันขุดรากไม้นางจึงยกไข่ป่าให้พวกเขา 

 และจากนั้นนางก็แอบเอาอาหารมาให้บ่อยๆเท่าที่จะแอบเอามาได้  สองแม่ลูกที่ได้ยินนางเอ่ยชวนพยักหน้า  จากนั้นหลินเฉินอี้ก็พยุงมารดาเดินตามจ้าวเฟยเฟยไป  เมื่อมาถึงก็ประหลาดใจ  บ้านดินนั้นอยู่ไม่ได้แล้วแต่พวกเขาสร้างแพบ้านและอยู่ในนั้น   

"บ้านอยู่ไม่ได้ข้าเลยสร้างเรือนแพ  พวกท่านแม่ลูกอยู่ไปก่อน    ที่จริงวันนี้ข้าจะเข้าเมือง  ที่ข้าไปหาก็อยากให้อาอี้มาช่วยเฝ้าบ้าน งั้นวันนี้พวกท่านพักที่นี่ก่อน  ข้าเข้าเมืองแล้วกลับมาจะหาทางออกให้อีกที"

จ้าวเฟยเฟยเอ่ยกับคนทั้งคู่  จากนั้นก็มาถึงเรือนแพก่อนจะเรียกหาเฉินมู่หยาง

"ท่านพี่  ท่านออกมาหน่อยเจ้าค่ะ"

เฉินมู่หยางนิ่งเงียบ  เมียเรียกเขาท่านพี่ไม่ใช่คำว่าตาเฒ่า  เขาหูเพี้ยนหรือก่อนจะลุกออกมาก็เห็นว่านางพาคนกลับมาสองคนจึงรีบเดินข้ามสะพานมาหา

"พวกเขาคือ...."

"นี่พี่หลิน  ส่วนนี่บุตรชายของนางชื่อเฉินอี้บ้านพวกเขาพังเพราะพายุเมื่อคืน  อาศัยอยู่กับเราก่อนพอดีเราจะเข้าเมืองต้องมีคนเฝ้าบ้าน  คนบ้านใหญ่ท่านมิใช่ท่านไม่รู้"

เฉินมู่หยางพยักหน้าก่อนจะเอ่ย  

"อาซ้อ  บ้านข้าคับแคบท่านคงจะไม่ถือสานะ"

"ไม่เป็นไร  แค่มีที่หลบฝนก็พอแล้ว"

"ข้าจะไปดูที่นอนให้ท่านพักก่อน  เฉินอี้เจ้าพามารดาเจ้าข้ามสะพานดีๆล่ะ"

เด็กหนุ่มพยักหน้า   สองสามีภรรยาเดินข้ามไปก่อน  หลินเหมยเซียงเกาะแขนบุตรชายค่อยๆเดิน  เมื่อพวกเขาเข้าบ้านไปแล้วหลินเฉินอี้จึงเอ่ยแก่มารดา

"เสด็จแม่   ทรงไหวหรือไม่"

"อี้เอ๋อร์   อาซ้อเฉินนางเป็นคนดีต่อไปลูกอย่าลืมบุญคุณนาง"

"เสด็จแม่ทรงวางพระทัย    ลูกจะต้องล้างมลทินให้ตระกูลท่านตาและทวงความเป็นธรรมให้ท่านแน่ๆ"

"วังหลวงเป็นสถานที่กินคน  พวกเราใช้ชีวิตที่นี่เถอะอย่าไปยุ่งเกี่ยวอีกเลย  เข้าไปกันเถอะพวกเขารอแล้ว"

หลินเฉินอี้ปฏิญาณในใจ  หลี่กุ้ยเฟยข้าสัญญาว่าจะให้พวกเจ้าสกุลหลี่ชดใช้สามร้อยชีวิตให้กับสกุลหลิน  จากนั้นก็พามารดาของตนเข้ามาบังเรือนแพในที่สุด

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ข้ามภพมาเป็นมารดาเลี้ยงแสนร้ายกาจ   ข้าไม่อยากให้ท่านไป

    ตั้งแต่บ้านใหม่เสร็จเรียบร้อยนี่เป็นครั้งแรกที่เลี้ยงอาหาร เฉินกั่วต้งกับท่านย่าใหญ่ภรรยาของเขาก็ได้รับเชิญมาด้วยในวันนี้ สตรีนั่งอีกโต๊ะกับเด็กๆ บุรุษนั่งแยกเสียงพูดคุยกันถึงเรื่องการเดินทางในวันพรุ่งนี้ เฉินกั่วต้งเอ่ยออกมา"มู่หยางเอ๊ย....พรุ่งนี้ยามซื่อใต้เท้าฮั่วจะมารับคนที่หมู่บ้านเราเป็นหมู่บ้านสุดท้ายพวกเจ้าเตรียมตัวดีหรือยัง""ท่านปู่ใหญ่อย่ากังวลเลยขอรับ เสี่ยวเฟยนางเตรียมเสบียงให้พวกเรากว่าสามเกวียน อาหารมีพอจนไปถึงชายแดนแน่ขอรับ""อืม...นางช่างเป็นภรรยาที่ดีเจ้าแต่งนางมาไม่ผิดเลย แล้วพวกเจ้าเล่าบิดามารดานั้นพูดใครสั่งความกันเรียบร้อยหรือยัง จื่อหยวนเจ้ามีไป๋เหยียน คอยดูแลมารดาของเจ้า ส่วนเจ้าฟางฉายอย่ากังวลเลย พวกเจ้าคือวีรบุรุษของหมู่บ้านเรา มารดาเจ้าก็เหมือนกับมารดาคนในหมู่บ้าน พวกเราจะดูแลนางเอง"ฟางฉายคีบขาหมูใส่ในถ้วยของผู้นำหมู่บ้านก่อนจะเอ่ยขอบคุณ"ขอบพระคุณท่านผู้นำขอรับ หมู่บ้านเราโชคดีที่ได้ท่านปกครอง"ไป๋เซิงที่มีน้องสาวคอยดูแลบิดากับมารดาและบุตรสาวก็ไม่กังวลเท่าไหร่ มีเพียงหลิวเยี่ยนฉางที่พี่สาวอยู่ไกล แต่ว่าอาซ้อรับปากแล้วว่าจะดูแลให้เขา

  • ข้ามภพมาเป็นมารดาเลี้ยงแสนร้ายกาจ   นิสัยเอาแต่ใจช่างเหมือนกัน

    ทั้งสองเดินลงจากเขามาถึงบ้านก็ปลายยามเซินพอดี เฉินมู่หยางอุ้มจ้าวเฟยเฟยเดินข้ามก้อนหินมาตามลำธาร จางซือเหยียนที่อาสาเลี้ยงเด็กๆถึงกับส่ายหน้า หลงพระชายาเพียงนี้หากไม่ติด/ไปชายแดนคงหัวปีท้ายปีกระมัง ก่อนจะเอ่ยกระเซ้าทั้งคู่"มิใช่ไปเก็บเห็ด ไปเก็บบ่อยๆไม่เคยจะเห็นเพลียสักนิด พอมีคนไปด้วยทำเป็นหมดแรง"จ้าวเฟยเฟยนับหนึ่งถึงสิบในใจ ตาเฒ่านี่ต้องโดนสักทีสิน่า ถ้าไม่ติดว่าพรุ่งนี้เดินทางนะ แม่จะใส่ยาถ่ายให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย ใบหน้าหวานที่ซุกอยู่กับอกสามีก็เงยหน้าสบตาหวานฉ่ำเอ่ยออดอ้อนกับเขา"ท่านพี่..เสียงแมลงหวี่แมลงวันน่ารำคาญนัก ท่านช่วยไปหายาไล่แมลงให้ข้าทีนะเจ้าคะ"เฉินมู่หยางสบตาเมียก่อนจะพยักหน้า เขาไม่อาจตอบได้คนหนึ่งก็อาจารย์ที่เคารพ อีกคนก็เมียสุดที่รัก จางซือเหยียนหนวดกระดิกเมื่อได้ยินวาจาของนาง หึ ท่านอ๋องและองค์ชายทั้งหลายยังต้องเกรงใจเขา แต่นี่ท่านอ๋องน้อยที่ยังไม่รู้แม้แต่สถานะตนเองกลับเอาแต่เข้าข้างพระชายาของตน ก่อนจะมองหน้าคนในอ้อมกอดเฉินมู่หยาง เขามองเห็นใบหน้าของนางทับซ้อนกับอีกคนที่อยู่ในวัง"สมกับที่เป็นสายเลือดตาแก่มู่ ตาหลานมิต่างกันจริงพวกปากค

  • ข้ามภพมาเป็นมารดาเลี้ยงแสนร้ายกาจ   ข้าคิดดีแล้ว

    เฉินมู่หยางสอบเอวหนาช้าๆ คนใต้ร่างกอดแผ่นหลังเขาแนบแน่น ไม่ว่าเขาจะจูงไปที่ใดนางก็พร้อมเดินตาม ร่างสูงสอบเอวหนาไม่หยุด เรียกเสียงครางจากเมียสาวดังลั่นห้อง เตียงนี้เด้งจริงๆอย่างที่เมียบอก "อ๊า..ท่านพี่ เร่งอีก ไม่ไหวแล้ว""เสี่ยวเฟยจ๋า เจ้าอย่ารัดพี่แน่นพี่จะไม่ไหว""ท่านพี่ เร่งเถอะ เฉินมู่หยางได้โปรด อ๊ายยย"เฉินมู่หยางเร่งความเร็วสาวเอวถี่ ร่างงามกระตุกเกร็ง กายสาวแอ่นโค้งขึ้น มือบางขยำผ้าปูเตียงเอาไว้ เหงื่อเม็ดเล็กๆซึมใบหน้าของนาง ผมเปียกชื้นแนบไปกับใบหน้าและลำคอ มันเย้ายวนในสายตาเฉินมู่หยางยิ่งนัก เขาส่งนางไปสวรรค์ถึงสามครั้งแล้ว ครั้งนี้เขาจะไปพร้อมกับนาง"อ่าห์ เสี่ยวเฟยพร้อมกันอีกครั้งนะคนดี""อื้อ ท่านพี่เร่งเลย ข้าไม่ไหว อ๊า จะถึงแล้ว ท่านพี่ได้โปรดแรงอีก อื้อ""เสี่ยวเฟยจ๋า อ่าห์มาแล้วพร้อมกันนะ""อ๊าคคค /อ๊ายยย"ทั้งคู่ปลดปล่อยพร้อมกัน สองร่างหอบหายใจอย่างแรง เฉินมู่หยางซบลงกับซอกคอหอมกรุ่น ในขณะที่นางเอกก็กอดตอบเขาแนบแน่น จนทั้งคู่ผ่อนคลายร่างสูงจึงยอมถอยออกมาให้นางได้พัก สายตาเขามองไปยังกลางกายสาวที่มีจุดสีแดงก็ยิ้มภูมิใจก่อนจะเอ่ยกับค

  • ข้ามภพมาเป็นมารดาเลี้ยงแสนร้ายกาจ   ยอมให้เขาเข้าหอ

    เฉินมู่หยางคลายอ้อมกอดก่อนจะเชยคางนางขึ้น จ้าวเฟยเฟยยิ้มตอบและใช้สองมือคล้องท้ายทอยหนาไว้ สัมผัสอุ่นร้อนจากริมฝีปากหนาแนบลงมายังเรียวปากอวบอิ่มของนางอย่างแผ่วเบา ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นจูบที่ร้อนแรงและดูดดื่ม"ท่านพี่.. ตอนปลดอาภรณ์ของข้าวันนี้ท่านห้ามใช้มือช่วยนะ""ลองภูมิพี่หรือคนดี""ท่านทำได้หรือไม่เล่า หากทำได้กลับไปคืนนี้จะให้ต่อ คิกๆๆ"เสียงหัวเราะยั่วยวนมาจากนาง สายตาซุกซนมองหน้าเขา เฉินมู่หยางจูบนางอีกครั้ง จากนั้นก็ละจากริมฝีปากพรมจูบไต่ลงมา เขาดูดเลียใบหูเล็กจนจ้าวเฟยเฟยสยิวครางกระเส่ามือบางของนางเลื่อนจากท้ายทอยหนาของเขามาด้านหน้า กรีดไล้นิ้วเรียวไปตามลำคอแกร่ง ก่อนจะหยุดที่ปมสายรัดเอวแล้วค่อยๆ คลายออก สองมือผลักเสื้อตัวนอกของเขาออกไปอย่างเชื่องช้าเฉินมู่หยางละจากริมฝีปากนุ่ม พรมจูบไล่ลงมาตามลำคอระหง กดย้ำเบาๆ ให้เป็นรอยประทับ เสียงครางแผ่วหวานของนางดังแว่วในลำคอ เมื่อเขาใช้ปากงับสายเสื้อนอนให้หลุดจากไหล่ทีละข้าง จนลงมากองอยู่ที่เอวบางนางเอ่ยนยั่วยวนสามีน้ำเสียงกระเส่ารัญจวน“ท่านพี่...หนาวยิ่งนัก ขนลุกไปหมดแล้วเจ้าค่ะ” จ้าวเฟยเฟยเอ่ยเสียงกระซิบ ขณะที่นิ้วเรียวของนางกรีดไ

  • ข้ามภพมาเป็นมารดาเลี้ยงแสนร้ายกาจ   ต่างเปิดเผยความลับของกันและกัน

    ยามซวีจางซือเหยียนก็มาหาลูกศิษย์ของตนก่อนจะเรียกเฉินมู่หยางออกไปคุย ร่างสูงเดินมาหาชายชราที่ยืนรออยู่ เขามอบจดหมายสองฉบับให้กับเขาจากนั้นก็เอ่ยกำชับ"ต้องส่งมอบด้วยตนเอง และที่สำคัญห้ามให้ใครรู้หาโอกาสที่ปลอดคนเพื่อส่งมอบ แม้แต่สหายของเจ้าทุกคนด้วย""ขอรับท่านอาจารย์ ว่าแต่อาจารย์จะแยกทางกับข้าเลยหรือขอรับ""อืม..ใช่แล้วข้ามีงานต้องไปทำ เสียเวลามามากแล้ว""มิใช่ท่านบอกว่ามาตามหาคนหรอกหรือ เช่นนั้นท่านตามหาคนเจอแล้วหรือขอรับ""ได้ข่าวแล้วจึงต้องรีบไปพบ เจ้าไปพักผ่อนเถอะ มีอะไรก้พูดคุยกันเสียให้เรียบร้อย วันมะรืนต้องเดินทางแล้ว""ขอรับ อาจารย์ท่านก็รีบพักผ่อนเถอะขอรับค่ำมากแล้ว"เฉินมู่หยางหันหลังกลับ แต่หูเขาได้ยินอาจารย์เอ่ยตามมาเบาๆ"ท่านอ๋องน้อย ทรงระวังตัวด้วยนะพ่ะย่ะค่ะ"ร่างสูงหันกลับมาก็เห็นชายชราดีดตัวไปทางหมู่บ้านเรียบร้อยแล้ว เมื่อสักครู่อาจารย์เรียกผู้ใดกัน ท่านอ๋องน้อยเช่นนั้นหรือหมู่บ้านเล็กๆแห่งนี้นอกจากองค์ชายแปดคนนั้นยังมีใครอีก จางนั้นเขาก็สะบัดศีรษะและเลิกสนใจ ไม่ว่าจะเป็นท่านอ๋องหรือองค์ชายก็ไม่เกี่ยวกับเขา ขอเพียงลูกเมียมีความสุขกินอิ่มนอนหลับ

  • ข้ามภพมาเป็นมารดาเลี้ยงแสนร้ายกาจ   ขายน้ำตาลทรายขาว

    บ้านเฉินมู่หยางจ้าวเฟยเฟยกำลังจัดเสื้อผ้าใส่ห่อให้สามีอยู่ เฉินมู่หยางที่วางข้าวของเรียบร้อยก็ตรงมาหานางสวมกอดจากด้านหลัง มือบางกุมหลังมือของเขาก่อนะเอี้ยวตัวกลับมา ชายหนุ่มกำลังจะจุมพิตเมียตัวเองเสียงเล็กๆก็ดังมา"ท่านพ่อ...ท่านแก่ป่านนี้แล้วเหตุใดยังอ้อนท่านแม่อีกขอรับ ข้าห้าขวบยังไม่ทำตัวเช่นท่านเลย"เฉินมู่หยางหันขวับไปทันที ไอ้ตัวแสบนี่ ตั้งแต่เข้ากันได้ดีกับมารดาก็กีดกันเขายึดเอาท่านแม่ไว้คนเดียว มันน่านักเจ้าลูกชายข้าจะส่งเจ้าไปสำนักศึกษาประจำเสียเลย ก่อนจะเอ่ยยียวน"พ่อจะไปทัพแล้ว ต้องคิดถึงท่านแม่เจ้าเป็นธรรมดา กอดนางนิดหน่อยจะเป็นไรไป"ร่างเล็กเดินตรงมา มือข้างหนึ่งยกขึ้นมาไว้ด้านหน้าระดับเอว อีกข้างไพล่หลังกำเอาไว้ หลังตั้งตรง วางท่าราวกับบัณฑิตผู้เคร่งขรึม ก่อนจะเอ่ยกับเขา"คุณชายเฉิน ท่านจะโอบกอดสตรีในที่สาธารณะนั้นไม่ได้ ต่อให้สตรีนั้นแม้เป็นภรรยาตนก็ย่อมต้องให้เกียรติ ท่านเองเคยเป็นบัณฑิตเรื่องแค่นี้มิเข้าใจหรอกหรือ"เฉินมู่หยาง"............"คิกๆๆๆ จ้าวเฟยเฟยหัวเราะเขา ในที่สุดก็ถูกบุตรชายสั่งสอน เฉินมู่หยางมองบุตรชายตาเขียวก่อนจะเอ่ยกับเมียร

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status