หลังกลับถึงบ้านเย็นวันนั้น ไป๋เหลียนไม่ได้บอกเรื่องที่เกิดขึ้นให้คุณย่าฟัง เธอไม่อยากทำให้คุณย่าไม่สบายใจ แต่หวังจุนเหยากลับคิดต่างกัน เขาบอกรายละเอียดทั้งหมดให้คุณย่าทราบ แถมยังบอกเรื่องลักษณะของจี้ชิ้นนั้นให้หวังซูหุยฟังด้วย เผื่อว่าเธอจะเคยเห็นจี้แบบนี้มาก่อน
“เท่าที่ย่าเคยได้ยินมา สมัยก่อนมีตระกูลโบราณที่คอยปกป้องประเทศอยู่ตระกูลหนึ่งที่มีจี้เช่นนี้เป็นสัญลักษณ์ประจำตระกูล แต่ผ่านมาหลายปีแล้ว ย่าก็ไม่รู้ว่าคนพวกนั้นไปอยู่ที่ไหนกันแล้ว พวกเขาไม่ชอบเปิดเผยตัวตนและออกงานสังคมเหมือนกับตระกูลโบราณอื่น ๆ รอให้ถึงงานประมูลหลังไป๋เหลียนสอบเสร็จก่อน ย่าจะลองถามเจ้าของงานดูว่ารู้จักที่อยู่ของตระกูลนั้นไหมก็แล้วกันนะ”
“ขอบคุณคุณย่ามากนะครับ ผมอยากจัดงานแต่งงานดี ๆ ให้ไป๋เหลียน ถ้าได้พบครอบครัวจริง ๆ ของเธอ ผมจะได้ขอเธอแต่งงานอย่างเป็นทางการด้วยยังไงล่ะครับ”
“เรื่องนี้ปล่อยให้ย่าจัดการเอง ถ้าไป๋เหลียนเป็นลูกหลานตระกูลโบราณจริง ๆ แกต้องเตรียมตัวรับมือพวกเขาให้
วันต่อมาก็ยังคงเป็นสวีเจี้ยนกับเหอเปียวที่ไปรับสองสาวมายังคฤหาสน์ ซึ่งตอนนี้จางเหยากับหลี่ซินเริ่มกล้าที่จะคุยกับทั้งสองคนมากขึ้น พวกเธอรู้สึกว่าผู้ชายสองคนนี้น่าสนใจอย่างที่หวังเหลียนบอกจริง ๆ อีกทั้งหน้าตาของพวกเขาก็หล่อเหลาเอาการไม่น้อย เมื่อคืนนี้กว่าที่พวกเธอจะนอนก็ได้คุยกันถึงเรื่องผู้ชายสองคนนี้เกือบครึ่งค่อนคืน พวกเธอไม่มั่นใจนักว่าพวกเขาสนใจพวกเธอจริง ๆ แต่พอเห็นว่าวันนี้ยังคงเป็นพวกเขาที่มารับพวกเธอ จางเหยากับหลี่ซินจึงมั่นใจมากขึ้นว่าพวกเขาน่าจะสนใจพวกเธอเป็นแน่ เรื่องนี้รอให้ไปถึงคฤหาสน์เสียก่อน พวกเธอจะลองปรึกษาหวังเหลียนดูอีกทีวันนี้ก่อนการอ่านหนังสือ จางเหยากับหลี่ซินก็พูดเรื่องสวีเจี้ยนกับเหอเปียวให้หวังเหลียนฟัง“อืม… ฉันคิดว่าพวกเขาน่าจะชอบพวกเธอสองคนจริง ๆ นะ ไม่อย่างนั้นคงไม่อาสาไปรับพวกเธอแบบนี้หรอก ว่าแต่พวกเธอสนใจคนไหนกันบ้างล่ะ ฉันจะได้บอกสามีให้ลองถามพวกเขาให้”“ฉัน… ฉันคิดว่าพี่สวีเจี้ยนน่าจะชอบฉันนะ” หลี่ซินพูดอย่าง
จางเหยากับหลี่ซินพอได้รับสายจากหวังเหลียนแล้วก็รีบเก็บสิ่งของเตรียมตัวเดินทางไปอ่านหนังสือกับเพื่อน ทั้งสองตรวจสอบจนเห็นว่าไม่มีลืมสิ่งใดแล้วจึงได้พากันลงไปรอบอดี้การ์ดที่กำลังเดินทางมารับพวกเธอที่ด้านล่างหอพักระหว่างนั่งรอ ทั้งสองยังคุยกันอย่างตื่นเต้นเพราะคิดว่าบ้านของสามีเพื่อนนั้นจะต้องใหญ่โตราวกับวังแน่ ในเมื่อเขามีบอดี้การ์ดคอยติดตามจำนวนมาก“เธอคิดว่าคนในบ้านจะดูถูกพวกเราไหม จางเหยา”“ฉันคิดว่าไม่นะ ก็หวังเหลียนบอกแล้วไงว่าคุณย่าของสามีเธอสั่งคนเตรียมของอร่อยๆ เอาไว้ให้เราตั้งเยอะแยะน่ะ ฉันคิดว่าคนในบ้านคงให้เกียรติเรามากกว่า”“อืม… ฉันกังวลนิดหน่อยน่ะ เธอก็รู้ว่าพวกเราเป็นแค่เด็กที่บ้านฐานะธรรมดา ๆ ฉันเลยกลัวว่าพวกเขาที่รับใช้ผู้ดีอย่างตระกูลหวังจะดูถูกเอาน่ะสิ”“เธอก็คิดมากเกินไป ขนาดหวังเหลียนเป็นเด็กที่บ้านไม่ได้ร่ำรวยเหมือนกัน พวกเขายังยอมรับเธอเป็นนายหญิงของบ้านเล
หลังกลับถึงบ้านเย็นวันนั้น ไป๋เหลียนไม่ได้บอกเรื่องที่เกิดขึ้นให้คุณย่าฟัง เธอไม่อยากทำให้คุณย่าไม่สบายใจ แต่หวังจุนเหยากลับคิดต่างกัน เขาบอกรายละเอียดทั้งหมดให้คุณย่าทราบ แถมยังบอกเรื่องลักษณะของจี้ชิ้นนั้นให้หวังซูหุยฟังด้วย เผื่อว่าเธอจะเคยเห็นจี้แบบนี้มาก่อน“เท่าที่ย่าเคยได้ยินมา สมัยก่อนมีตระกูลโบราณที่คอยปกป้องประเทศอยู่ตระกูลหนึ่งที่มีจี้เช่นนี้เป็นสัญลักษณ์ประจำตระกูล แต่ผ่านมาหลายปีแล้ว ย่าก็ไม่รู้ว่าคนพวกนั้นไปอยู่ที่ไหนกันแล้ว พวกเขาไม่ชอบเปิดเผยตัวตนและออกงานสังคมเหมือนกับตระกูลโบราณอื่น ๆ รอให้ถึงงานประมูลหลังไป๋เหลียนสอบเสร็จก่อน ย่าจะลองถามเจ้าของงานดูว่ารู้จักที่อยู่ของตระกูลนั้นไหมก็แล้วกันนะ”“ขอบคุณคุณย่ามากนะครับ ผมอยากจัดงานแต่งงานดี ๆ ให้ไป๋เหลียน ถ้าได้พบครอบครัวจริง ๆ ของเธอ ผมจะได้ขอเธอแต่งงานอย่างเป็นทางการด้วยยังไงล่ะครับ”“เรื่องนี้ปล่อยให้ย่าจัดการเอง ถ้าไป๋เหลียนเป็นลูกหลานตระกูลโบราณจริง ๆ แกต้องเตรียมตัวรับมือพวกเขาให้
หม่าหลันในร่างไป๋เหลียนพอรู้ความจริงก็ยิ่งนึกสงสารร่างเดิมที่ต้องทนทุกข์มานานตั้งแต่ยังเด็กเพราะสองแม่ลูกชั่วร้ายนี้ ส่วนหวังจุนเหยาอยากรู้ว่าภรรยาเขาเป็นลูกเต้าเหล่าใครกันแน่นั้นยินดีที่จะจ่ายเงินแค่หนึ่งล้านหยวนให้คนโลภพวกนี้ไปเพื่อจะได้นำสร้อยเส้นนั้นไปตามหาว่าเจ้าของเป็นใคร“สามี คุณไม่จำเป็นต้องเสียเงินมากมายแบบนั้นหรอกนะคะ ถ้าเธอมีสร้อยที่ว่าจริงๆ ฉันคงเคยเห็นมาตั้งนานแล้ว ฉันคิดว่าเธอแค่อยากหลอกเอาเงินคุณมากกว่า” ไป๋เหลียนรีบหยุดหวังจุนเหยาที่กำลังจะกวักมือเรียกหลินซินให้มาจ่ายเงิน“ชิ เด็กอย่างแกจะไปรู้อะไรนังไป๋เหลียน สร้อยนี่ฉันซ่อนเอาไว้มาตลอด ไม่อย่างนั้นแกคงรู้เรื่องไปนานแล้วว่าตัวเองไม่ได้เป็นลูกของฉันน่ะ ใครจะโง่เอามาให้แกดูกันเล่า ไม่เชื่อก็ถามลูกชายฉันดูสิว่าสร้อยนี้มีจริงไหม”ไป๋จินมองไป๋เหลียนอย่างดูถูก เธอคิดว่าเด็กอย่างไป๋เหลียนไม่สมควรรู้เรื่องนี้จนกว่าเธอจะขายไป๋เหลียนออกไปแล้วได้เงินมาจำนวนมาก ส่วนลูกชายเธอนั้น เธอบอกความจริงเขาตั้งแ
“นี่ไป๋เหลียน ทำไมเธอใส่ชุดคลุมท้องมาแบบนี้ล่ะ” จางเหยาถามอย่างสงสัย“ก็ฉันกำลังท้องได้สี่เดือนแล้วน่ะสิ รอให้สอบปลายภาคเสร็จก่อน ฉันจะดรอปเรียนเพื่อรอคลอดลูกแล้วล่ะ” ไป๋เหลียนตอบพร้อมรอยยิ้ม เธออยากเห็นหน้าเจ้าตัวเล็กแทบแย่แล้ว“ห๊ะ! นี่เธอท้องด้วยเหรอ ทำไมเธอไม่บอกพวกเราก่อนหน้านี้ล่ะ” หลี่ซินตกใจมาก“อ้าว ฉันแค่ไม่อยากให้พวกเธอเป็นห่วงมากแค่นั้นเอง”“เฮ้อ เธอนี่นะ ถ้าเกิดก่อนหน้านี้มีคนมารังแกเธอจนเป็นอันตรายกับหลานพวกฉันแล้วจะทำยังไงล่ะ ทีหลังก็หัดบอกกันก่อนบ้าง พวกเราจะได้ช่วยกันดูแลเธอให้ดี”“ฉันรู้ ๆ ขอบใจพวกเธอมากนะ เรารีบไปนั่งกันดีกว่า เดี๋ยวก็จะเริ่มเรียนแล้วด้วย”ทั้งสามคนรีบเข้าไปนั่งที่ประจำเพื่อรอเรียนวิชาแรกของวันนี้ ซึ่งเป็นวิชาที่หวังจุนเหยาเป็นอาจารย์สอนเสียด้วย ส่วนช่วงบ่ายพวกเธอมีเรียนวิชาพื้นฐานอีกหนึ่งวิช
“เฮอะ! คุณชายหวังจะตาต่ำเกินไปกระมังคะ ที่ยอมรับผู้หญิงบ้านนอกแบบนี้เป็นภรรยา แทนที่จะเป็นลูกสาวดิฉันที่มีหน้ามีตาทางสังคมมากกว่า” เสิ่นอี้หลินทนฟังคนมาต่อว่าลูกสาวไม่ไหวจึงรีบเอ่ยปากก่อนที่สามีจะเข้ามาห้ามเอาไว้“คุณป้าคะ! สามีฉันไม่ได้ตาต่ำหรอกนะคะ ก็ตัวเขาออกจะสูงซะขนาดนี้ ฉันว่าสามีของฉันมีวิสัยทัศน์มากกว่าที่เลือกฉันแทนที่ลูกสาวป้าน่ะค่ะ ผู้หญิงอะไร แต่งตัวล่อเสือล่อตะเข้ แถมแต่งหน้าหนาเตอะอย่างกับอะไรดี สามีดิฉันเค้าไม่ชอบผู้หญิงที่ดูกร้านโลกอย่างนี้หรอกค่ะ จริงไหมคะ สามี~” ไป๋เหลียนซบแขนล่ำ ๆ พร้อมส่งยิ้มหวานให้กับหวังจุนเหยา“กรี๊ด!!! นังเด็กนี่ปากดีนักนะ หยูเว่ย ตบมันให้แม่ทีสิลูก ผู้หญิงชั้นต่ำแบบนี้กลับกล้ามาดูถูกตระกูลเสิ่นเรา” เสิ่นอี้หลินกระทืบเท้าอย่างโมโหที่ถูกเด็กถอนหงอกไป๋เหลียนเอามือปิดหูเพราะรำคาญเสียงแหลมของสองแม่ลูกตรงหน้า หวังจุนเหยาพอได้ยินว่าเสิ่นอี้หลินสั่งลูกสาวให้มาทำร้ายเมียรัก เขาก็รีบเปลี่ยนสีหน้าเป็นเย็นชาทันที ต
นานหลายสิบปีแล้วที่เขาส่งคนออกตามหาลูกสาวที่หายไป แต่กลับไม่มีเบาะแสอะไรเพิ่มเติมเลยแม้แต่น้อย เขาไม่เข้าใจเช่นกันว่าทำไมภรรยาของเขาถึงอยากรับเลี้ยงเสิ่นหยูเว่ยนัก ทั้งที่หน้าตาเด็กผู้หญิงอายุสามขวบก็เหมือน ๆ กันหมด แต่ที่เขาต้องจำใจรับเธอเข้ามาเพราะภรรยาเอาแต่ร้องไห้ไม่เป็นอันกินอันนอนที่ลูกสาวของพวกเขาหายตัวไป อีกทั้งนิสัยส่วนตัวบางอย่างของเสิ่นหยูเว่ยเขาก็ไม่ค่อยชอบใจนักเสิ่นฉางเวินมองสองแม่ลูกอย่างระอา พวกเธอคุยกันเป็นตุเป็นตะเหมือนกับว่านายหญิงผู้เฒ่าหวังจะรับเสิ่นหยูเว่ยเป็นหลานสะใภ้แล้วอย่างนั้นแหละ ยิ่งเขาหันไปมองหวังจุนเหยาที่เอาอกเอาใจเด็กคนนั้น เขาก็ยิ่งคิดว่าสิ่งที่ภรรยากับลูกเลี้ยงเขาเพ้อฝันอยู่คงไม่มีทางเป็นจริงได้แน่หวังจุนเหยาไม่รู้เลยว่ามีคนแอบมองเขากับภรรยาอยู่ ตอนนี้เขาตื่นเต้นมากที่จะได้พบหน้าลูกครั้งแรก อายุครรภ์ของไป๋เหลียนเข้าสู่เดือนที่สี่แล้ว ซึ่งเขารู้ดีว่าจะสามารถทราบเพศและทราบพัฒนาการทางร่างกายว่าลูกของพวกเขาแข็งแรงดีหรือไม่ด้วยหวังจุนเหยาที่แสนจะหวง
ไป๋เหลียนกับเพื่อน ๆ ไม่รู้เลยว่า หวังจุนเหยากำลังจะมาหาพวกเธอที่ห้องสมุดจริง ๆ ทั้งสามคนตั้งใจจดส่วนสำคัญของบทเรียนใส่ในสมุดโน้ตจนลืมเวลา ถ้าไม่มีเฉินเฟิงกับเจิ้งหลงคอยหาน้ำมาให้พวกเธอดื่มแก้กระหายบ้าง ทั้งสามคนคงไม่มีสมาธิในการอ่านหนังสือมากขนาดนี้ วันนี้ทั้งวัน ไป๋เหลียน จางเหยากับหลี่ซินต่างจดส่วนสำคัญไปได้ถึงสามวิชาแล้ว พอดีกับที่หวังจุนเหยาและบอดี้การ์ดมาถึงในอีกครึ่งชั่วโมงต่อมาพอดี“ทำไมคุณมาเร็วจังล่ะคะ งานเสร็จแล้วเหรอ?” ไป๋เหลียนเงยหน้าถามสามีที่กำลังก้มมองดูว่าเธอกำลังเขียนอะไรอยู่“เสร็จแล้วครับ ถ้าคุณจะอ่านต่อก็ได้นะ มีตรงไหนไม่เข้าใจถามผมได้เลย” หวังจุนเหยาหวังดีกับภรรยาตัวน้อย เลยอยากอาสาติวหนังสือให้เธอ“ไม่มีแล้วค่ะ พวกเราเองก็จดไปได้สามวิชาที่น่าจะออกสอบกลางภาคเรียนนี้แล้ว”“ใช่ค่ะ ดีที่มีไป๋เหลียนช่วยเตือนพวกเรานะคะ ไม่อย่างนั้นบางหัวข้อพวกเราคงจะข้ามไปแล้วจริง ๆ”
ไป๋เหลียนนำกล่องเครื่องประดับออกมาให้หวังซูหุยดูพร้อมรอยยิ้ม แต่กลับถูกหวังซูหุยบ่นเสียอย่างนั้น“ของแค่นี้ยังกล้าซื้อให้หลานสะใภ้ฉันนะ ไม่ได้ ๆ ย่าคิดว่ามันไม่เหมาะกับหลานสะใภ้ตระกูลหวังสักเท่าไหร่ วันหลังไป๋เหลียนไปกับย่านะลูก ย่าจะเลือกให้เอง”“โธ่ คุณย่าครับ ของพวกนี้ผมให้น้องเป็นคนเลือกเองนะครับ ถ้าคุณย่าเลือกให้ใหม่แล้วน้องจะใส่ไปเรียนได้ยังไงกันล่ะครับ เครื่องเพชรแต่ละชุดของคุณย่ามันเล็กเสียเมื่อไหร่กันเล่า”“อ้าว นี่แกหาว่าย่าจะเลือกของไม่ถูกใจไป๋เหลียนหรือยังไง ฮึ!” หวังซูหุยหันหนีเจ้าหลานชายที่พูดไม่เข้าหูอย่างงอน ๆ“เอ่อ… คุณย่าคะ หนูคิดว่าแหวนกับกำไลที่พี่จุนเหยาช่วยเลือกด้วยมันใส่สะดวกดีนะคะคุณย่า ถ้าใส่ชิ้นใหญ่เกินไป หนูกลัวว่าคนอื่นจะหมั่นไส้เอาน่ะค่ะ”“ชิ เห็นแก่ไป๋เหลียนหรอกนะ ถ้าอย่างนั้นย่าจะไม่บังคับก็ได้ แต่งานประมูลเครื่องประดับและของเก่าโบราณ