Home / วาย / ข้าวโพดในไร่ชา (Mpreg) / ตอนที่ 5 งานของผู้ช่วย

Share

ตอนที่ 5 งานของผู้ช่วย

last update Last Updated: 2025-06-29 12:43:39

 “เข้าใจที่พูดใช่ไหม ถ้าไม่เข้าใจอะไรก็ถามแล้วกัน” เสียงทุ้มของพ่อเลี้ยงหนุ่มพูดขึ้นหลังจากได้อธิบายงานในส่วนที่ผู้ช่วยส่วนตัวคนใหม่ต้องทำต้องรับผิดชอบให้คนตัวเล็กฟัง ส่วนผู้ช่วยคนใหม่ก็ฟังอย่างตั้งอกตั้งใจ 

 ภายในออฟฟิศที่พ่อเลี้ยงกิตติภูมิสร้างไว้เป็นสำนักงานอาคารหลังใหญ่มีห้องทำงานของพ่อเลี้ยงอยู่ด้านในสุดและห้องของผู้ช่วยอยู่ติดกัน ส่วนด้านนอกเป็นห้องรับแขก ออฟฟิศอยู่ไม่ไกลจากบ้านพักสักเท่าไหร่แต่ต้องเดินทางด้วยรถเท่านั้นเพราะถ้าเดินไปมีหวังขาลากแน่ๆ ทุกเช้าคนเป็นเจ้านายเลยต้องมีหน้าที่สารถีมารับผู้ช่วยของตัวเองที่เรือนมะลิเพื่อที่จะมาทำงานด้วยกันตามที่เเม่เลี้ยงกานดาได้จัดแจงหน้าที่ของเจ้าของไร่ชาที่ควรกระทำต่อลูกจ้างอย่างหนูข้าวโพดไว้ให้เขา

 “เข้าใจแล้วครับ” ผู้ช่วยคนใหม่ตอบเจ้านายหลังจากที่ได้รับฟังงานในหน้าที่ของตัวเอง งานของเขาไม่มีอะไรมากนอกจากการทำบัญชี รายรับรายจ่ายของไร่ การดูแลเรื่องการเบิกจ่ายค่าแรงของคนงาน และงบการเงินต่างๆ ส่วนมากทำให้ต้องอยู่แต่ในออฟฟิศ 

 เจ้าของเสียงใสเอียงหน้าขึ้นมามองว่าอีกคนจะมอบหมายงานอะไรให้กับตัวเองก็ถึงกับใจเต้นไม่เป็นส่ำเมื่อพอเงยหน้าขึ้นมองก็เจอใบหน้าขาวหล่อคมที่ที่ยืนอยู่ข้างเก้าอี้ที่ร่างบางนั่งอยู่ก้มลงมา มือยาวจับเม้าท์ของคอมพิวเตอร์ ส่วนอีกมือเท้าอยู่ที่พนักเก้าอี้เหมือนกับตอนนี้ข้าวโพดตกอยู่ในอ้อมกอดของร่างสูงโดยปริยายไอ้หัวใจบ้าอยู่ๆ ก็มาเต้นผิดจังหวะเอาง่ายๆ เพียงเพราะอยู่ใกล้คนหล่อ และถ้าพ่อเลี้ยงหันหน้าเอียงมาทางร่างบางเพียงนิดเดียว นิดเดียวเท่านั้นปากก็จะชนกันแล้วก็เหมือนข้าวโพดจะโดนจูบแล้ว พอคิดถึงจูบแก้มขาวใสก็พลอยแดงด้วยความเขินอายที่ตัวเองคิดซุกซน

 คนที่ยืนอยู่ตอนแรกก็จ้องที่จอคอมพิวเตอร์ พอถามอีกคนแต่เห็นนิ่งไปเลยอยากมองหน้าเพื่อต้องการคำตอบ แค่คนที่นั่งอยู่เงยหน้ามองตัวเอง แก้มใสๆ นั้นสวยหวานปนน่ารักน่ามอง ริมฝีปากบางเล็กเป็นกระจับสีชมพูน่าจูบนี่อีก ถ้าได้ลองจูบน่าจะหวานมาก ยิ่งตอนนี้แก้มใสๆ เริ่มเป็นสีชมพูอมแดงมันยิ่งทำให้ร่างบางน่ารักไปอีก เขาอยากจะกดจมูกไปลองสัมผัสกับแก้มแดงนั่นจังเลยว่าจะนุ่มสักแค่ไหน หยุดเลยไอ้บลูนั่นคนงานมึงจะมาเป็นสมภารกินไก่วัดไม่ได้ จิตฝ่ายดีเตือนร่างสูงทำให้เขาได้สติรีบยืดตัวขึ้น ทำหน้าขรึมเสียงเข้มต่อ

 “คิดอะไรลามกกับผมหรือเปล่า อยู่ๆ ก็หน้าแดง” ร่างสูงกอดอกถามคนที่นั่งแก้มแดงอยู่

 “คิดลามกอะไร ใครจะไปคิดอะไรกับคนแก่อย่างคุณที่ปากร้ายเหมือนน้องพิตบูล” ร่างบางตอบสวนทันควันอย่างแสบสัน

 “เออ อย่าให้เห็นว่าอยากได้ผัวแก่ก็แล้วกัน พ่อจะขำให้ฟันหลุด” คนตัวโตพูดอย่างมีโมโหนิดๆ ที่โดนเด็กมันว่าแก่ ก่อนที่จะเอามะเหงกใส่หน้าผากลูกจ้างเบาๆ แล้วเดินออกไป ทิ้งไว้แค่คนที่นั่งฮึดฮัดอารมณ์ไม่ดีที่โดนทำโทษอยู่คนเดียวในห้อง

 ข้าวโพดมาทำงานกับกิตติภูมิเกือบเดือนพอได้มาเห็นการทำงานของพ่อเลี้ยงหนุ่มเข้าจริงๆ ร่างบางต้องนับถือเขามากๆ ที่บริหารจัดการทั้งงานทั้งคนได้ดีขนาดนี้ วันๆ งานของพ่อเลี้ยงล้นมือ ตอนที่ไม่มีเขามาช่วยงานเรื่องบัญชีแม่เลี้ยงกานดาบอกว่าลูกชายของนางต้องทำเอง เขาเอาเวลาไหนพักผ่อนกันนะ เพราะขนาดมีเขามาช่วยแล้ววันๆ ข้าวโพดแทบจะไม่เห็นหน้าอีกคนเลยนอกจากจะมารับมาส่งเขาที่ออฟฟิศเท่า

 “เอ่อ ขอโทษครับ ไม่ทราบว่าพ่อเลี้ยงกิตติภูมิอยู่ไหมครับ” 

 ใบหน้าสวยเงยหน้าขึ้นจากหน้าจอคอมพิวเตอร์เมื่อได้ยินเสียงใครสักคนเข้ามาถามหาเจ้าของไร่ ห้องทำงานของข้าวโพดเป็นกระจกใสจึงสามารถมองเห็นภายนอกและภายในห้องได้ พอเงยหน้าขึ้นมองตามเสียงก็ได้พบกับชายหนุ่มรูปร่างสูงกำยำหน้าตาคมคายในชุดกางเกงยีนเสื้อยืดสีเข้มยืนอยู่ใกล้กับประตูห้องทำงานของตัวเอง ก่อนที่ร่างบางจะลุกจากเก้าอี้ทำงานเพื่อต้อนรับแขกของเจ้านาย แล้วเอ่ยบอกแขกซึ่งตัวเองไม่รู้ว่าเป็นใคร 

 “พ่อเลี้ยงเข้าไปในไร่ครับ เอ่อ ไม่ทราบว่า..”

 “ผมบดินทร์ หรือดินครับเป็นเพื่อนกับพ่อเลี้ยง คุณเป็นผู้ช่วยคนใหม่ของพ่อเลี้ยงหรือครับ” บดินทร์แนะนำตัวเองพร้อมกับถามชายหนุ่มร่างบางที่ตัวเองเพิ่งเคยเห็นหน้า คนอะไรผิวขาวนวลละเอียดหน้าตาไปทางสวยน่ารักมากกว่าหล่อ มองเผินๆ เหมือนผู้หญิงผมสั้น เวลายิ้มน่ารักมาก ถูกใจไอ้ดินคนหล่อเป็นที่สุด

 “สวัสดีครับผมข้าวโพดครับ เพิ่งจะทำงานกับพ่อเลี้ยงได้ไม่ถึงเดือนเองครับ เชิญคุณบดินทร์นั่งก่อนนะครับเดี๋ยวผมหาน้ำเย็นให้ดื่ม” 

 “ขอบคุณครับ น้องข้าวโพดเรียกพี่ว่าพี่ดินดีกว่าครับ เรียกคุณบดินทร์มันดูห่างเหินยังไงไม่รู้” คนพี่ที่ดูอยากจะสนิทกับเขาพูดอนุญาตให้ข้าวโพดเรียกเพียงชื่อเล่น

 “ครับ น้ำครับ พี่ดิน” ข้าวโพดวางแก้วน้ำเย็นไว้ที่โต๊ะรับแขกข้างหน้าบดินทร์ ก่อนที่จะขอตัวทำงานของตนให้เสร็จต่อ เพราะบดินทร์บอกให้ทำตัวตามสบาย ทั้งสองตะโกนคุยกันอย่างถูกคอเพราะบดินทร์เป็นคนคุยเก่ง คุยสนุก จนคนพี่ขี้เกียจตะโกนคุยแล้วจึงได้พาร่างสูงมาดแมนไปยืนพิงประตูห้องทำงานของข้าวโพดแทน

 “น้องข้าวโพดว่างเมื่อไหร่ถ้าสนใจเดี๋ยวพี่จะพาไปเที่ยววัดที่นี่มีแต่สวยๆ ทั้งนั้นเลย” บดินทร์อาสาชวนข้าวโพดไปไหว้พระที่วัดเพราะอีกคนบอกว่ายังไม่ได้มีโอกาสไปไหนเลย และชอบวัดทางภาคเหนือ

 เสียงคนสองคนคุยกันอย่างถูกคอทำให้ผู้ที่ก้าวเข้ามาใหม่ชะงักเท้าเล็กน้อย มองไปก็เห็นเพื่อนไอ้ดินตัวดีของตัวเองที่ยืนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่คุยอยู่กับลูกจ้างกิตติมศักดิ์ผู้ช่วยตัวดีของเขาที่ยิ้มระรื่นเชียว ทีคุยกับเขานับคำได้ ดีหน่อยตรงที่ช่วยงานเขาได้เยอะไม่ต้องมาห่วงเรื่องงานเอกสารอะไรนี่อีก

 “อะ แอ้ม ไอ้ดินมึงมานานหรือยัง มีธุระอะไรหรือเปล่า” เจ้าของสถานที่เดินเข้ามาถามเพื่อนมองก็รู้ว่ามันมานานแล้วเพราะความเย็นที่เกาะอยู่บนแก้วน้ำรับแขกไม่มีความเย็นแล้ว เสือกไม่โทรหากูปกติก็ไปบุกถึงไร่ชา

 “กูมานานแล้ว ไม่มีอะไรหรอกกูเหงา พอดีมาเจอกับน้องข้าวโพดเลยหายเหงาแล้ว มึงเลิกงานหรือยัง กูจะชวนมึงกินเหล้า”

 “กินเหล้าอะไร มึงก็รู้ว่ากูไม่กินเหล้าถ้าไม่ใช่วันหยุด วันนี้เพิ่งวันพุธ มึงมาผิดวันแล้ว เอาดีๆ มึงมีอะไรว่ามา” กิตติภูมิถามเพื่อนตัวดีทันทีอย่างรู้กันมันรู้ดีว่าเขาจะไม่ดื่มเด็ดขาดถ้าอีกวันต้องทำงาน แล้วร่างสูงก็หย่อนกายลงพักที่โซฟารับแขก จนเพื่อนที่ยืนอยู่หน้าห้องข้าวโพดต้องเดินมาหา 

 “กูเบื่อ พ่อกูจะจับคู่ให้กูกับลูกเพื่อน ให้พาเขาไปกินข้าว กูเลยหนีมาหามึงมาขอข้าวมึงกินวันนี้” บดินทร์เฉลยธุระของตัวเองทันที

 “อ้าวก็ไม่ดีหรือไงวะ มึงอายุเยอะสมควรออกเรือนได้แล้วนะ”

 “ไอ้บลู มึงไม่ต้องมาสนับสนุนเห็นด้วยกับพ่อกู มึงต้องอยู่ฝั่งกูซิ จู่ๆ เอาสัญญาที่ให้กันไว้ตั้งแต่สมัยพระเจ้าเหามาบังคับให้กูหมั้น ให้กูแต่งกับใครก็ไม่รู้ไม่เคยเห็นหน้ากันเลยหน้าตาคงขี้เหร่มาก ถ้าหน้าตาน่ารักสวยๆ อย่างน้องข้าวโพดก็ว่าไปอย่าง ถ้าเป็นแบบนี้กูแต่งทันทีเลย” 

 คนพูดยังมาหลีผู้ช่วยของเจ้าของไร่ต่อ โดยไม่สนใจหน้าอีกคนที่เริ่มตึง นี่ไม่ทันไรโดนผู้ช่วยเขาตกไปแล้วหรือไง ทำไมทุกคนที่เห็นจึงถูกคนตัวเล็กตกเอาง่ายๆ ทุกคน โดยเฉพาะแม่ของเขาโทรมาทีไรถามหาแต่ผู้ช่วยแทนที่จะถามข่าวลูกชายบ้างไม่มีเลย

 “มึงเห็นหน้าเขายัง เขาอาจจะสวยมากก็ได้นะ”

 “สวยห่าอะไร เขาเป็นผู้ชายเพิ่งเรียนจบจากกรุงเทพ คงแรดอยากมีผัวน่าดูจึงยอมให้คลุมถุงชน กูจำได้แต่ว่าตอนเด็กเป็นเด็กอ้วนๆ ร้องไห้ตามกูขี้มูกกรัง หยึยยย นึกถึงแล้วขยะแขยง” บดินทร์พูดถึงคู่หมั้นอย่างแสบสัน ทำเอาคนที่นั่งฟังอยู่เงียบๆ สะอึกแทนผู้ชายอีกคนที่ต้องมาโดนผู้ชายที่เป็นคู่หมั้นว่าขนาดนั้น

 “แล้วมึงจะเอายังไง กูไม่ดื่มนะวันนี้” เจ้าของบ้านถามแขก

 “ไอ้บลู มึงใจร้าย มึงจะปล่อยให้เพื่อนรักของมึงกินเหล้าเมาคนเดียวจริงๆ เหรอ งั้น น้องข้าวโพดครับ กินเหล้าเป็นเพื่อนพี่ดินได้ไหมครับ”

 “ไม่ต้องเลยมึง ไอ้ห่า กูไม่กิน คนของกูก็ต้องห้ามกิน ทุกคนรู้กฎข้อนี้ดี” กิตติภูมิพูดเสียงดังพร้อมกับหันไปทางร่างบางเชิงบอกให้อยู่เงียบๆ ห้ามเสนอตัวรับปากถ้าไม่อยากเจอดี

 “งั้น ก็กินข้าวบ้านมึงนะวันนี้ กูจะนอนกับมึงด้วย” เพื่อนรักเอาแต่ใจอีกคนยังงอแงด้วยไม่อยากกลับบ้านไปเจอคู่หมั้น

 “ถ้างั้นก็โอเค งั้นก็กลับไปที่บ้านกู ป่ะกลับกัน” กิตติภูมิหันมาพยักหน้าบอกผู้ช่วยของตัวเองเชิงบอกให้เก็บของและเตรียมตัวกลับบ้าน 

 ร่างบางจึงเซฟงานที่ทำอยู่แล้วรีบปิดคอมพิวเตอร์ ดูความเรียบร้อยของแอร์และไฟก่อนที่จะเดินตามเจ้านายออกไปขึ้นรถ บดินทร์ถึงกับงงที่เห็นร่างบางของคนที่เขาสนใจเดินขึ้นรถไปกับเพื่อนรักอย่างไอ้บลู เพราะปกติไอ้เพื่อนรักของเขาไม่ค่อยจะเทคแคร์ใครนอกจากคนสำคัญของมันอย่างแฟนสาวที่เลิกรากันไปเมื่อหลายปีกับคนในครอบครัว ส่วนน้องข้าวโพดนี่ยังไงเป็นคนงานแต่ได้นั่งหน้ารถคู่กับเจ้านาย ปกติเห็นผู้ช่วยคนก่อนๆ ก็กลับเองถึงจะเป็นผู้หญิงก็ไม่เห็นเพื่อนเขาจะขับรถไปส่งหลังเลิกงานเลย ชักจะยังไงซะแล้ว หรือว่าเป็นคนสำคัญของเพื่อนรักวะ มิน่าล่ะตอนเขาพูดกับน้องดูไอ้เพื่อนรักของเขาจะไม่ค่อยพอใจเท่าไร 

 บดินทร์ขับรถตามหลังรถของกิตติภูมิมาก็สงสัยเพราะอีกคนขับรถไปจอดที่เรือนมะลิ ก่อนที่ร่างบางของน้องข้าวโพดจะหอบของลงจากรถ นี่อย่าบอกนะว่าน้องข้าวโพดคนสวยของเขาพักอยู่ที่เรือนมะลิที่ไอ้บลูหวงนักหวงหนา แสดงว่าเด็กหนุ่มคนนี้ไม่ใช่คนงานธรรมดาแน่นอน ไอ้ดินคนนี้ต้องรู้ให้ได้ว่าน้องข้าวโพดสำคัญกับเพื่อนรักของเขายังไง ต่อมอยากเผือกของบดินทร์เริ่มทำงานสงสัยที่คิดจะจีบน้องข้าวโพดคงจะแห้วซะแล้วแทนที่จีบได้น้องมาเป็นแฟนคงได้เป็นเพื่อนสะใภ้แทนแล้วล่ะไอ้ดิน

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ข้าวโพดในไร่ชา (Mpreg)   ตอนพิเศษ 11 ความรักที่ไม่อาจหักห้ามและความสุขที่แท้จริง (พันธกร VS ภาณุพงศ์)

    หลังจากบทสนทนานั้น บรรยากาศในบ้านกลับมาผ่อนคลาย พ่อแม่ของพันธกรเริ่มพูดคุยกับภาณุพงศ์อย่างเปิดใจมากขึ้น ความตึงเครียดและความไม่ไว้วางใจที่เคยมีก็เริ่มหายไป พวกท่านเริ่มเห็นถึงความเป็นคนดีและความจริงใจของภาณุพงศ์ ในช่วงเย็น พ่อของพันธกรยิ้มออกมาเป็นครั้งแรก ขณะที่พูดคุยกับภาณุพงศ์เกี่ยวกับอนาคต “ลูกเขยแบบเธอก็ดูไม่เลวเลยนะ ถ้าทำได้อย่างที่พูดไว้ พ่อก็คงไม่มีอะไรต้องห่วง” พ่อของพันธกรพูดพร้อมกับหัวเราะเบาๆ “ขอบคุณครับพ่อ ผมจะทำให้ดีที่สุด” ภาณุพงศ์ยิ้มรับ พันธกรยิ้มออกมาด้วยความโล่งใจ เขาไม่เคยคิดเลยว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้นได้ แต่เมื่อได้เห็นพ่อแม่ยอมรับตัวตนของเขาและภาณุพงศ์ เขาก็รู้สึกว่าทางเดินที่เคยยากลำบากนั้นได้เปิดกว้างขึ้นแล้ว แสงแดดยามเช้าสาดส่องลงบนทุ่งดอกดาวเรืองที่บานสะพรั่ง ทุ่งดอกไม้สีเหลืองทองสว่างสดใสทำให้บรรยากาศรอบๆ เต็มไปด้วยความอบอุ่นและความสงบ พันธกรยืนมองดอกไม้ที่เขาใช้เวลาหลายปีในการดูแลด้วยความรักและภาคภูมิใจ แต่ครั้งนี้เขาไม่ได้ยืนอยู่คนเดียว ข้างๆ เขาคือภาณุพงศ์ คนที่เขารัก ซึ่งตอนนี้นายตำรวจหนุ่มจับมือพันธกรไว้แน่น ทั้งคู่ยืนเคียงข้างกัน มองดูทุ่งดอกดาวเรือ

  • ข้าวโพดในไร่ชา (Mpreg)   ตอนพิเศษ 10 ความทุกข์ท่ามกลางการกีดกัน (พันธกร VS ภาณุพงศ์)

    พันธกรยืนอยู่กลางทุ่งดาวเรืองที่เคยเป็นความภาคภูมิใจของเขา แต่ทุกอย่างรอบตัวกลับดูไร้สีสันและไม่มีชีวิตชีวาเหมือนเมื่อก่อน หลังจากที่พ่อแม่พยายามกีดกันความสัมพันธ์ของเขากับภาณุพงศ์ และบังคับให้เขาอยู่ในกรอบของครอบครัว ชีวิตของพันธกรก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปเขาไม่ค่อยพูด ไม่ค่อยออกไปพบปะใคร และไม่สนใจสิ่งที่เคยทำให้เขามีความสุขอีกต่อไป ทุกวันเขาแค่ทำงานตามหน้าที่ ร่างกายทำงานไปตามปกติ แต่หัวใจกลับแห้งแล้งเหมือนถูกกักขังในกรงแห่งความทุกข์แม่ของพันธกรมองดูลูกชายด้วยความเจ็บปวดใจ ในสายตาของเธอ เขากลายเป็นคนเงียบขรึมและหม่นหมองไปอย่างเห็นได้ชัด เธอไม่เคยเห็นเขาเป็นแบบนี้มาก่อน ตั้งแต่วันที่เธอและสามีกีดกันความรักของเขา เขาก็ไม่เคยยิ้มอย่างจริงใจอีกเลย"พ่อ พ่อลองมองดูลูกของเราซิ ตั้งแต่วันนั้นที่เราห้ามเขา เขาก็ไม่เหมือนเดิมอีกเลย" คนเป็นแม่พูดกับพ่อด้วยน้ำเสียงกังวลและทุกข์ใจพ่อของพันธกรซึ่งแม้จะภายนอกยังดูแข็งกร้าว แต่ภายในใจกลับรู้สึกถึงความเจ็บปวดไม่ต่างกัน เขาเองก็รู้ว่าลูกชายของเขาไม่ได้มีความสุขเหมือนที่เคยเป็น เขาได้แต่ถอนหายใจยาวออกมาก่อนจะเอ่ยกับภรรยาคู่ชีวิต"พ่อแค่ไม่อยากให้ลู

  • ข้าวโพดในไร่ชา (Mpreg)   ตอนพิเศษ 9 การเผชิญหน้ากับความคาดหวังของครอบครัว (พันธกร VS ภาณุพงศ์)

    หลังจากการเผชิญหน้ากับภาณุพงศ์ พันธกรยังคงใช้เวลาส่วนใหญ่ในไร่ดอกดาวเรือง ความสงบของธรรมชาติที่ล้อมรอบเขาเป็นเหมือนเครื่องปลอบประโลมความคิดที่ยังคงยุ่งเหยิงอยู่ในใจ แม้ว่าเขาจะปฏิเสธภาณุพงศ์ไปและไล่ภาณุพงศ์กลับไปเชียงใหม่ในตอนแรก แต่ความจริงคือคำพูดของภาณุพงศ์ยังคงก้องอยู่ในหัวใจของเขา ความจริงใจที่เห็นในสายตา และน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความรู้สึกเสียใจและรัก ทำให้พันธกรเริ่มรู้สึกถึงความหวั่นไหวในใจ เขานั่งลงใต้ร่มไม้ มองดูดอกดาวเรืองที่เริ่มเปลี่ยนสีเมื่อแสงแดดตกกระทบ มันทำให้เขานึกถึงช่วงเวลาที่ดีระหว่างเขากับภาณุพงศ์ก่อนที่ทุกอย่างจะเริ่มซับซ้อน ความทรงจำเหล่านั้นทำให้พันธกรอดคิดไม่ได้ว่า บางทีเขาอาจไม่สามารถตัดใจจากภาณุพงศ์ได้อย่างที่เขาตั้งใจ ขณะที่กำลังจมอยู่กับความคิด โทรศัพท์ของพันธกรดังขึ้น ชื่อของภาณุพงศ์ปรากฏบนหน้าจอ เขามองมันอยู่นานก่อนจะตัดสินใจรับสาย ด้วยน้ำเสียงที่นิ่ง "ว่าไง" ถึงแม้พันธกรจะข่มเสียงให้นิ่ง แต่ในใจตอนนี้เขากลับเต้นรัว เพราะเสียงที่ภาณุพงศ์ตอบกลับมากลับเป็นเสียงที่อ่อนโยน "พี่แค่อยากถามว่าพันสบายดีไหม พี่รู้ว่าพันคงกำลังเครียดกับหลายๆ เรื่อง" "ก็ดี

  • ข้าวโพดในไร่ชา (Mpreg)   ตอนพิเศษ 8 การเผชิญหน้าท่ามกลางความเจ็บปวด (พันธกร VS ภาณุพงศ์)

    วันนี้เป็นวันที่ฟ้าครึ้มเล็กน้อย ลมพัดเบาๆ ภาณุพงศ์กำลังนั่งดื่มกาแฟอยู่ในคาเฟ่ประจำ เขาตั้งใจใช้เวลาว่างจากงานเพื่อลองจัดการความรู้สึกที่ยังคงค้างคาใจเกี่ยวกับพันธกร แม้จะพยายามลืมแต่ในใจลึกๆ เขายังคงนึกถึงอยู่เสมอทุกครั้งที่เขาว่างในขณะที่เขากำลังจะลุกขึ้นไปจ่ายเงิน เขาก็เห็นข้าวโพดเดินเข้ามาในร้าน ภาณุพงศ์จึงเดินเข้าไปทักทาย“น้องข้าวโพด มาทำอะไรแถวนี้ครับ”“อ้าว พี่พงศ์ ไม่คิดว่าจะเจอกันที่นี่ ข้าวโพดอยากมาทานเค้กร้านนี้ครับก็เลยบังคับให้เฮียบลูพามา แล้วพี่พงศ์ล่ะครับ”“ก็เหมือนเดิม พักนี้ยุ่งๆ เลยหาที่นั่งสงบๆ คิดอะไรนิดหน่อย แล้วนี่ไอ้บลูล่ะ”“เฮียบลูคุยโทรศัพท์กับลูกค้าอยู่ครับ ข้าวโพดเลยเดินเข้ามาก่อน” ข้าวโพดบอกเพื่อนสามีและมองภาณุพงศ์เหมือนกำลังชั่งใจว่าจะพูดดีหรือไม่“เอ่อ พี่พงศ์รู้ไหมครับ ว่าพี่พันเพิ่งมาหาที่เชียงใหม่เมื่อวาน”ภาณุพงศ์ตกใจที่ได้ยิน หัวใจเต้นตึกตักที่ได้ยินเพียงแค่ชื่อของคนที่อยู่ในความคิดของเขาตลอด“พะ พันมาที่นี่ เขามาที่นี่เหรอ”“ใช่ครับ พี่พันมาหาข้าวโพดเมื่อวาน และเขาบอกอยากเจอพี่มาก และมีอะไรจะบอกพี่พงศ์ แต่…” ข้าวโพดหยุดพูดเหมือนกลืนไม่เข้าคายไม่อ

  • ข้าวโพดในไร่ชา (Mpreg)   ตอนพิเศษ 7 การตัดสินใจกลับไปเจอกับสิ่งที่ไม่คาดคิด (พันธกร VS ภาณุพงศ์)

    ในบรรยากาศของบ้านไม้สักเก่าแก่หลังใหญ่ที่เชียงคาน พันธกรนั่งฟังพ่อและแม่พูดคุยเรื่องการเตรียมงานแต่งงานที่พ่อเขาได้ตกลงกันไว้กับทางครอบครัวของอิงอรไปแล้วโดยไม่ถามความเห็นของเขา วันที่ถูกกำหนดไว้แน่นอนแล้ว เป็นการตกลงที่รวดเร็วเกินไป ทำให้พันธกรรู้สึกเหมือนถูกดึงเข้าสู่เส้นทางที่เขาไม่ได้ต้องการ “พ่อกับแม่คุยกับครอบครัวหนูอิงเรียบร้อยแล้ว งานแต่งจะจัดเดือนหน้า” พ่อของพันธกรพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ถือว่าเป็นเรื่องดีสำหรับครอบครัวเรา อีกไม่นานแม่ก็จะได้เห็นหลานเต็มบ้านเต็มเมือง” แม่ของเขาพูดเสริมขึ้นพร้อมด้วยรอยยิ้มที่ส่งมาให้เขาอย่างอบอุ่นและคาดหวัง พันธกรได้แต่พยักหน้ารับคำ แม้ภายนอกจะดูสงบนิ่ง แต่ในใจกลับเต็มไปด้วยความสับสนและความทุกข์ใจ เขายังคงคิดถึงภาณุพงศ์อย่างห้ามไม่ได้ ความรู้สึกที่เคยคิดว่าจะจางหายไปกลับทวีความรุนแรงขึ้น เมื่อเขาต้องเผชิญกับการตัดสินใจครั้งสำคัญในชีวิต ไม่กี่วันต่อมา พันธกรตัดสินใจเดินทางไปเชียงใหม่เพื่อหาโอกาสระบายความอึดอัดใจให้กับข้าวโพด ซึ่งเป็นญาติผู้น้องที่เขาสนิทและไว้ใจ เขารู้ว่าข้าวโพดเป็นคนเดียวที่เขาจะพูดคุยด้วยได้โดยไม่ต้องกลัวว่าจะถูกตัดสิน

  • ข้าวโพดในไร่ชา (Mpreg)   ตอนพิเศษ 6 ความคาดหวังของครอบครัวกับความในใจที่สับสน(พันธกร VS ภาณุพงศ์)

    บรรยากาศในบ้านของพันธกรดูสดใสขึ้นตั้งแต่เขากลับมาอยู่ที่เชียงคาน แต่ในใจของเขากลับรู้สึกอึดอัดมากขึ้นทุกวัน โดยเฉพาะเมื่อต้องเจอกับแรงกดดันจากพ่อของเขา วันนี้พ่อเขาโทรมาหาให้เขาไปทานข้าวและนอนที่บ้านมีเรื่องจะคุยด้วย เขาซึ่งปกตินอนที่บ้านที่ไร่ดอกดาวเรืองเลยต้องเข้ามาหาพ่อกับแม่ผู้ให้กำเนิด “พ่อคิดว่าอิงอรเป็นผู้หญิงที่เหมาะสมกับลูก” พ่อพูดขณะนั่งจิบชาหลังอาหารเย็น “เธอเป็นคนดี เรียนเก่ง แถมยังช่วยงานพ่อแม่ของเธอได้เยอะ พ่อว่าถ้าลูกได้ใช้เวลากับเธอมากกว่านี้ อาจจะเห็นอะไรดีๆ มากขึ้นก็ได้” พันธกรรู้ดีว่าพ่อของเขาตั้งใจจะให้เขาแต่งงานและตั้งหลักปักฐานตามแบบที่ครอบครัวคาดหวังไว้ เขาไม่ได้อยากทำให้พ่อผิดหวัง เขาจึงพยักหน้ารับด้วยความจำใจ “ได้ครับพ่อ ผมจะลองออกไปเจอเธอดู” วันเสาร์เช้าตรู่ อิงอรกับครอบครัวของเธอปรากฏตัวที่บ้านพ่อกับแม่ของพันธกรในชุดเดรสเรียบๆ แต่ดูน่ารัก เธอมาพร้อมกับรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความตั้งใจจะทำให้วันนี้เป็นวันที่น่าจดจำสำหรับพวกเขาทั้งคู่ “สวัสดีค่ะ พี่พัน” อิงอรยิ้มอย่างเป็นกันเอง “วันนี้เราจะไปไหนกันดีคะ” พันธกรพยายามฝืนยิ้มกลับ “เดี๋ยวผมพาไปเดินเล่นริมโขงนะ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status