หลังจากนั้นอาเธอร์ก็โทรไปหาพ่อของเขา เพราะเขาต้องการจะโอนหุ้นบริษัทของเขาให้เป็นของเครือสเตบรีส เพราะบริษัทของเขาเขาสร้างขึ้นมาเองโดยไม่ได้พึ่งพาพ่อของเขาเลยสักนิด จึงทำให้เขาพลาดเอาเบอนาร์ดเข้ามาได้ และวันนี้เขาก็เลือกจะโอนหุ้นให้กับพ่อของเขา เพื่อที่เบอนาร์จะได้ไม่มีสิทธิ์ยึดหุ้นในส่วนของเขาไปได้ เขาจึงเหลือหุ้นไว้ที่เขาเพียงสิบเปร์เซ็นต์เท่านั้น เพื่อป้องกันไม่ให้เบอนาร์ดได้ครอบครองหุ้นทั้งหมด“แกแน่ใจนะอาเธอร์ว่าจะโอนเข้ามาในเครือของพ่อทั้งหมด” สตีเฟ่นเอ่ยถามลูกชายออกไปด้วยเสียงเข้ม พร้อมกับมองลูกชายผ่านวีดิโอคลอ เพราะเมื่อก่อนเขาบอกแทบตายลูกชายก็ไม่ยอมจนผ่านมาสิบปีแบบนี้“ครับ ผมจะโอนให้พ่อทั้งหมด เพราะอีกหน่อยผมก็ต้องไปรับช่วงต่อจากพ่ออยู่ดีนิครับหรือถ้าพ่อจะยกให้แม่เลี้ยงผมก็คงว่าอะไรไม่ได้นิครับ แล้วตอนนี้ผมก็ไม่มีทางเลือกแล้ว ผมแค่อยากจะอยู่กับลูกกับเมียแบบมีความสุขครับพ่อ ” อาเธอร์เอ่ยบอกไป ตอนนี้เขาไม่สนใจแล้วว่าพ่อเขาจะเอาอะไรไปให้แม่เลี้ยงของเขาบ้าง ตอนนี้เขาแค่ต้องการที่พึ่งเท่านั้น แล้วคนนั้นก็ต้องเป็นพ่อของเขาคนที่เขาไว้ใจที่สุด“เฮ้อ แกก็ยังคิดกับเขาแบบนั้นอยู่อีกเหรอ
พอมาติกาบอกมาแบบนั้นอาเธอร์ก็เกร็งกว่าเดิม ก่อนจะหันไปหาเพื่อนหนุ่มแล้วชักสีหน้าใส่กัน เพราะดีแลนคนเดียวเลยที่ทำให้เขาพลอยโดนไปด้วย ส่วนพยาบาลทั้งสองพอรู้ว่าสองหนุ่มมีเจ้าของแล้วก็รีบเปลี่ยนเสื้อผ้าให้สองหนุ่มแบบรวดเร็ว เพราะพวกเธอกลัวสายตาของสองสาวที่มองมา“อ่อขออนุญาตถอดกางเกงนะคะ แล้วก็ขออนุญาติปิดผ้าม่านสักครู่นะคะ” พยาบาลสาวที่เปลี่ยนชุดให้อาเธอร์พูดขึ้นมา มาติกาก็กัดฟันมองแล้วยิ้มแบบกัดฟัน“ฉันว่าเขาก็ไม่ได้มือเจ็บนิคะคุณพยาบาล เขาคงจะเปลี่ยนเองไหว คุณอาเธอร์จะเปลี่ยนเองหรือให้คุณพยาบาลเขาเปลี่ยนให้คะ” มาติกาถามไปก็ยิ้มเยือกเย็นใส่อาเธอร์ เพราะเขามีทางเดียวให้เลือกคือเปลี่ยนเองเท่านั้น“อ่อ ผมมือไม่เจ็บใช่ๆ เดี๋ยวผมเปลี่ยนเองก็ได้ครับ คุณพยาบาลเปลี่ยนให้แค่นี้ก็ได้ครับ ขอบคุณ” อาเธอร์รีบตอบไปแบบรนๆ เพราะกลัวมาติกาจะว่าเขา“นึกว่ามือคุณจะหักแล้วซะอีก งั้นก็รีบๆเปลี่ยนค่ะ มีลูกน้องช่วยนิคะ” มาติกาบอกไปโดยที่เธอไม่ได้เข้าไปช่วยอะไรเขาเลย“หึๆ หึงล่ะสิยัยมายด์” กิติกรแซวออกมาเบาๆอย่างอดไม่ได้ ปากบอกว่าไม่อยากจะยุ่งกับเขา แต่พอแบบนี้รีบขัดแทบไม่ทัน“เปล่า ฉันไม่ได้หึง ก็แค่เห็นว่ามือ
“เจ็บมาตั้งนานไม่เห็นจะร้อง พอเพื่อนจนมุมล่ะเจ็บขึ้นมาทันที ร้ายนักนะไอ้พี่ดีน” เมรินพูดไปก็ยิ้มออกมาอย่างรู้ทัน ก่อนจะเดินเข้าไปหาดีแลนใกล้ๆแล้วมองใบหน้าหล่อที่เต็มไปด้วยเลือด“มายด์จะตามไปก็แล้วกันค่ะ พี่ดีนก็ไปกับเขาเถอะ คุณก็ไปให้หมอทำแผลด้วยล่ะ เดี๋ยวมาตายก่อนไม่ได้เห็นหน้าลูก” มาติกาเอ่ยบอกไปก็มองดีแลนที่นอนเลือดอาบอยู่ในอ้อมกอดของอาเธอร์ ก่อนจะบอกอาเธอร์ด้วยเสียงอ่อน เห็นแล้วก็ไม่รู้จะขำหรือสงสารดี ตอนตีกันไม่คิดพอเจ็บมาแล้วก็ยังต้องพากันไปหาหมอเองอีก“หึ ไม่ต้องห่วงหรอก ผมหาหมอเสร็จแล้วจะกลับมาหานะ ไปฟินลิป เอาไอ้ดีนไปได้แล้ว” อาเธอร์พูดไปก็ยิ้มมุมปาก เมื่อได้ยินมาติกาพูดออกมาแบบห่วงใยเขาแบบนั้น อย่างน้อยเธอก็ยังห่วงใยเขาอยู่ “แล้วอ้วนไม่ห่วงเขาเหรอ เขาเจ็บจริงๆนะ ดูสิ” ดีแลนพูดบอกไปขณะถูกลูกน้องของอาเธอร์จับเอาแขนทั้งสองไปพาดไหล่ เพื่อจะพาตัวเขาไปโรงพยาบาล“ก็ให้เพื่อนรักคุณพาสิ ต่อยกันเองได้ ก็ไปหาหมอกันเองได้เหมือนกันนั่นแหละ อีกอย่างปากเก่งได้แบบนี้ต่อให้เลือดไหลออกมาหมดตัว คุณก็คงไม่ตายหรอก” เมรินพูดบอกดีแลนไปแล้วมองเขาแบบปลงๆ ขนาดเจ็บตัวขนากนั้นแล้วยังมีใจจะมากวนอีก เธอ
ด้านอาเธอร์ก็เลือกจะเดินออกมา เพราะเขาไม่อยากจะตามตื้อผู้หญิงที่กลายไปเป็นของคนอื่นแล้ว แต่พอเดินออกมายังไม่ถึงห้าก้าวเขาก็สะดุดป้ายสีฟ้าจนเกือบล้มลง เขาก็ก้มมองอย่างหัวเสียทันที ก่อนจะขมวดคิ้วสงสัยกับคำที่ติดลงบนแต่แผ่นป้าย“สี่เดือนแล้ว” อาเธอร์อ่านไปก็มองอย่างสงสัยพร้อมกับหยิบผ่านป้ายที่ดีแลนจะมาเอาในตอนแรกขึ้นมา แล้วเขาก็มายืนมองแล้วหันหลังไปหามาติกาแบบเกิดคำถามว่าสรุปแล้วเธอท้องสามเดือน หรือว่าสี่เดือนกันแน่ แล้วที่เธอบอกเขาเมื่อกี้ว่าท้องสามเดือนล่ะ เธอจะโกหกเขาทำไมกัน หรือว่าเขาจะเป็นพ่อเด็ก“พี่ดีน ทำยังไงดี เขาจะรู้ไหม” มาติกาพูดบอกไปเบาๆ เมื่ออาเธอร์หยิบป้ายอายุครรภ์ของเธอที่เตรียมไว้สำหรับถ่ายรูปขึ้นมาดู พร้อมกับแววตาที่เขาหันมามองเธอแบบนั้น เธอก็เป็นกังวลขึ้นมาทันที“อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด ถึงที่สุดแล้วมายด์ก็ต้องยอมรับความจริง” ดีแลนพูดเบาๆออกมาอย่างรู้ทันทีเลยว่าพวกเขากำลังพลาด เพราะตอนนี้อาเธอร์มันกำลังมองมาที่พวกเขาแล้ว มาติกาเองก็ทำหน้าแบบกลืนไม่เขาคายไม่ออก เพราะเธอไม่รู้ว่าอาเธอร์จะมาอารมณ์ไหนอีก แล้วเธอจะเอายังไงกับเรื่องนี้ดี“มายด์ ผมคงจะไปไหนไม่ได้ถ้าคุณยังพูดอ
“อ่าว แล้วนั่นฝรั่งที่ไหนอีกล่ะนั่น หู้ย หล่อมากเลยอ่ะกีกี้” เมรินพูดถามออกไปเบาๆแล้วมองไปแบบจดจ้อง แล้วความหล่อของฝรั่งคนนั้นก็เปล่งออร่าออกมาแบบชัดเจน เพราะรูปร่างหน้าตาหล่อเหลาแบบไม่มีที่ติ ขนาดดีแลนที่ว่าหล่อแล้ว ก็ยังไม่เท่าไอ้ฝรั่งคนนี้เลย แล้วเขาเป็นใครกัน ทำไมเข้ามาในบ้านนี้ได้ หรือว่าเป็นเพื่อนของดีแลน“อิเจ้ นั้นคุณอาเธอร์ ผัวตัวจริงของยัยมายด์มันไงเล่า” กิติกรกระซิบบอกไปแบบอดไม่ได้ ก่อนจะทำหน้าตกใจที่อาเธอร์เดินเข้าไปแบบหน้าโหดๆ“ห้ะ ผัวยัยมายด์” เมรินอุทานออกไปเมื่อได้ยิน ก่อนจะหันไปมองชายหนุ่มอีกครั้งแบบอึ้งๆ เพราะไม่คิดว่าสามีของน้องสาวจะงานดีขนาดนี้ แล้วอีตานี่มันจะมาทำไหม ในเมื่อน้องสาวเธอไม่ได้ต้องการให้มันรู้นิ แล้วมันมาที่นี่ได้ยังไง เห้ย ไม่ได้การละ ดูมันเดินเข้าไปหาดีแลนและน้องสาวเธอสิ มันจะเข้าไปหาเรื่องแน่ๆ เมรินคิดไปตามภาพที่เห็น“พี่ดีน ถือป้ายด้วยสิคะ ยังไม่ได้รูปถือป้ายเลยนะ” มาติกาพูดบอกไปก็ยิ้มแล้วหันไปจัดการกับชุดและผมของเธอเอง เพราะดีแลนยังไม่ได้ถ่ายรูปป้ายอายุครรภ์สี่เดือนของเธอเลย“ได้ครับ รอแปปนะ” ดีแลนพูดบอกไปก็เดินไปหยิบป้ายที่วางไว้ด้านข้าง พอเขาก้
ส่วนอาเธอร์ก็นั่งจิบกาแฟนั่งมองวิวทั่วกรุงเทพด้วยสายตาคิดหนัก เพราะเขายังคงกังวลเรื่องของดีแลนและมาติกาอยู่ ถ้าสองคนนั้นแอบเป็นชู้กันจริงแล้วเขาจะทำยังไงกัน เขาต้องรับไม่ได้แน่ๆ“นายครับ ผมได้ที่อยู่ของคุณมาติกาแล้วครับ แต่ว่าบ้านที่เธออยู่มีคุณดีแลนอยู่ด้วยนะครับ” ฟินลิปเอ่ยบอกเจ้านายของเขาไป พร้อมกับส่งซองเอกสารการซื้อบ้านในชื่อมาติกาให้อาเธอร์ดู“หมายความว่ายังไง มันไปอยู่บ้านเดียวกับเมียฉันได้ยังไง พูดสิวะ” อาเธอร์หันมาถามแบบไม่เข้าใจ แล้วรับซองเอกสารมาดู“บ้านที่คุณมาติกาอยู่คุณดีแลนเป็นคนซื้อให้เธอเมื่อสองเดือนก่อนครับ เมื่อคืนผมส่งคนไปดูแล้วคุณดีแลนก็อยู่บ้านหลังนั้นด้วยครับ แต่ไม่เจอคุณมาติกา นายลองไปดูเองไหมครับ” ฟินลิปบอกไปก็มองหน้าเจ้านายที่ตอนนี้ทำหน้าโกรธจนกรามขึ้นเป็นสัน“ไอ้ดีน ไอ้เลว มึงทรยศกู” อาเธอร์พูดออกมาแบบแค้นใจ ที่เพื่อนหนุ่มไปอยู่บ้านเดียวกับมาติกา ถ้าสองคนนั้นไม่ใช่ชู้กันแล้วจะไปอยู่บ้านเดียวกันได้ยังไง เขาไม่เคยคิดเลยว่าเพื่อนที่เขาไว้ใจจะกล้าหักหลังเขาแบบนี้ส่วนมาติกาเขาก็อุตส่าห์บอกให้เธอรอเขา แต่เธอก็มาแรดเป็นชู้กับดีแลนแบนี้ จะให้เขาทำอะไรเพื่อเธออีกอา