LOGIN“ลองชิมดูไหมครับ”
“ไม่ ฉันท้องเสียขึ้นมาใครจะรับผิดชอบ”
คนฟังกลอกตามองบน พลางถอนหายใจออกมาอย่างเอือม ๆ ไม่ชิมก็ไม่ต้องชิมสิ ไม่เห็นต้องพูดอะไรแบบนี้ เขาไม่ได้บังคับสักหน่อย
หลังจากเล่นกับเด็ก ๆ มาเกือบสองชั่วโมง พลับจีนจึงขอไปช่วยทำมื้อเย็นในครัว เคนที่ไม่รู้ว่าจะไปไหนก็เลยทำได้แค่เดินตามมาเงียบ ๆ ยืนกอดอกมองอยู่หน้าประตูห่าง ๆ ไม่ได้คิดที่จะเข้าไปช่วยหรือทำตัวเกะกะคนในครัว แม้ว่าอยากเดินออกไปสูบบุหรี่ก็ทำไม่ได้ เพราะมีป้ายห้ามแทบจะทุกจุด เคนก็เข้าใจอยู่ว่าทำไม
พลับจีนเดินหน้าบึ้งกลับไปในครัว ฝีมือการทำอาหารถ้าให้เทียบกับน่านน้ำเขานี่เทียบไม่ติดเลยสักนิด แค่พอกินได้ก็ดีเท่าไรแล้ว ที่เข้ามาช่วยก็เป็นแค่ลูกมือ คอยหยิบนั่นหยิบนี่ หั่นผัก หั่นเนื้อบ้างเล็ก ๆ น้อย ๆ
เสียงพูดคุย หัวเราะเจี๊ยวจ๊าวของพวกผู้หญิงในครัวทำให้พลับจีนเผลอยิ้มตามไปด้วย แม้จะไม่ได้สนิทสนมกันแต่เพราะเป็นพลับจีนการปรับตัวเข้ากับคนอื่นถึงได้เป็นเรื่องง่าย เพราะเขาจะมีคติเตือนใจตัวเองอยู่เสมอ
‘หากอยากอยู่บนโลกนี้ได้ก็ต้องรู้จักปรับตัวให้เป็น’
ผิดกับอีกคนที่ดูจะขวางโลก เอาตนเป็นที่ตั้งเสียมากกว่าทุกสิ่ง สำหรับพลับจีนอาจจะทำได้ไม่ยาก เคนเองก็ทำได้แต่ทว่าเจ้าตัวไม่คิดที่จะทำ เพียงเพราะคิดว่ามันไม่ได้จำเป็นขนาดนั้น
ปกติแล้วเคนมักจะใช้เวลาอยู่กับตัวเองเสียมากกว่า ไม่ใช่ทุกวันจะออกเที่ยวที่นั่นที่นี่หากไม่มีธุระที่ต้องทำ เพื่อนที่สนิทด้วยก็มีอยู่แค่สองคน พอเรียนจบต่างคนก็ต่างไปใช้ชีวิตตัวเอง ได้เจอกันก็นาน ๆ ครั้ง แต่มีอยู่คนหนึ่งที่ไปไกลถึงต่างประเทศ พอจะบินไปหาก็ถูกห้ามเอาไว้ เคนเองก็ไม่อยากทำให้ลำบากใจจึงได้แต่รอว่าสักวันคงจะกลับมาหากันบ้าง
ความเบื่อหน่ายทำให้เคนเดินหนีออกไปจากห้องครัว กลับไปนั่งอยู่ในรถ เห็นพลับจีนกำลังสนุกกับสิ่งที่ทำอยู่ก็ไม่อยากขัด เพราะยังไงเสียเขาก็เป็นฝ่ายชวนมาเอง หากไปรบเร้าว่าอยากกลับก็คงจะใจร้ายน่าดู จึงเป็นฝ่ายปลีกตัวออกมาอยู่คนเดียวแบบนี้แทน
นึกแล้วก็น่าตลกที่เขาเป็นพวกรักความสงบ ชอบใช้เวลาอยู่กับตัวเองมากกว่าออกไปสังสรรค์ ทว่ากลับเปิดร้านเหล้าที่มีคนคลาคล่ำไปมาเกือบร้อยคนในแต่ละคืน เสียงเพลงที่ดังกระหึ่มจนบางครั้งก็รู้สึกหงุดหงิด พอมานึกดูแล้วแม้แต่ตัวของเขาเองก็ตอบไม่ได้ว่าทำไปทำไม เพื่ออะไร ทั้งที่ไม่ได้ชอบสิ่งที่ตัวเองทำอยู่ตอนนี้เลยสักนิด
เหมือนกับว่าตอนนี้.. ที่เขาตอบตัวเองไม่ได้ว่าทำไมถึงเริ่มเอาตัวเองไปข้องเกี่ยวกับพลับจีนมากขึ้น ทั้งที่เมื่อก่อนไม่เคยเป็นแบบนี้
เขาหาเหตุผลมาตอบตัวเองไม่ได้เลย
.
.
เวลาเกือบหกโมงเย็น หลังจากช่วยในครัวเสร็จ พลับจีนก็รีบตามหาคนที่มาด้วยกัน ก่อนจะเดินกลับมาที่รถ และเห็นว่าเคนอยู่ที่นี่จริง ๆ ดูจากสีหน้าก็รู้แล้วว่าเบื่อ แทนที่จะชวนเขากลับ ทว่าไม่พูดอะไรสักคำ แถมยังมานอนรออยู่อย่างนี้จนเขามาหาเอง
“ขอโทษที่ปล่อยให้รอนะครับ คุณเคนน่าจะบอกพลับว่าอยากกลับแล้ว”
“ตอนนี้กลับได้ยัง” ไม่ได้ถามเพราะประชด แต่เป็นคำถามที่ต้องการคำตอบจริง ๆ หากพลับจีนยังอยากที่จะอยู่ต่อเขาจะได้นอนรออยู่ที่นี่
“ครับ เย็นมากแล้ว กลับกันเลยก็ได้ครับ” พลับจีนดึงเอาสายเข็มขัดนิรภัยมารัดเอาไว้โดยไม่ต้องให้เจ้าของรถบอก
ระหว่างทางภายในรถยังคงเงียบเหมือนกับทุก ๆ ครั้ง แต่ครั้งนี้พลับจีนกลับไม่ได้รู้สึกอึดอัดอย่างเช่นครั้งก่อน ๆ ไม่รู้เป็นเพราะชินแล้วหรือเปล่า
“นี่”
“ครับ?”
จู่ ๆ เคยก็พูดขึ้น ทำเอาพลับจีนขานรับแทบจะทันที พลางหันมองเสี้ยวใบหน้าคมที่กำลังตั้งใจมองทาง ไม่แม้แต่จะเหลือบตามามองกัน
“ปกติเสาร์ อาทิตย์ เธอรับสอนพิเศษเหรอ”
“พลับรับสอนเสาร์เว้นเสาร์ครับ ไม่ได้สอนทุกอาทิตย์ ส่วนวันอาทิตย์เป็นวันหยุดครับไม่มีงาน”
“อยากทำงานหรือเปล่า”
“งาน? งานอะไรครับ”
“พ่อบ้าน”
เคนเห็นว่าพลับจีนทำงานหลายอย่าง ปัจจัยหลักของคนที่ทำงานแทบไม่มีวันหยุดแบบนี้คงหนีไม่พ้นเงิน ยิ่งเรื่องราวชีวิตของพลับจีนที่เขาพอรู้มา กับสภาพแวดล้อมที่พลับจีนอาศัยอยู่ก็พอจะเดาไว้ว่าคงจำเป็นต้องใช้เงิน เคนเลยลองเสนองานให้ จะทำหรือไม่ทำเขาก็ไม่ได้บีบบังคับอะไรอยู่แล้ว ก็แค่ลองถามดูเท่านั้น
“พ่อบ้านที่ไหนครับ”
“แค่ทำความสะอาดคอนโดฯ ให้ฉันทุกวันอาทิตย์ ถ้าอาทิตย์ไหนฉันกลับไปนอนที่นั่นก็แค่เตรียมอาหารเย็นเอาไว้ให้ ฉันให้เดือนละสองหมื่น ไม่รวมค่าอาหาร”
“สองหมื่น!?”
เป็นข้อเสนอที่น่าสนใจ อีกทั้งเงินที่ได้ก็เยอะเกินค่าแรง ทำงานแค่อาทิตย์ละครั้ง แต่ได้เงินต่อเดือนถึงสองหมื่น พลับจีนแทบไม่อยากปฏิเสธ ทว่ากลับลังเลที่จะตอบตกลง เขาไม่แน่ใจว่าจะทำงานกับเคนได้หรือเปล่า หากทำอะไรผิดจนอีกฝ่ายไม่พอใจไม่รู้เลยว่าจะโดนอะไรบ้าง เพราะคนอย่างเคนเขาเดาใจไม่ออกจริง ๆ
อีกอย่าง ก่อนหน้านี้เมื่อสี่เดือนก่อนยังห้ามเขาไม่ให้ยุ่งวุ่นวายเพราะกลัวจะสร้างปัญหาให้ตนเอง แต่แล้วทำไมถึงคิดที่จะเอาเขาไปไว้ใกล้ตัวเสียเอง
ต้องการอะไรจากเขากันแน่...
“พลับขอคิดก่อนได้ไหมครับ”
“เธอคิดว่าฉันจะรอคำตอบเธอได้นานแค่ไหน”
คนที่มีความอดทนต่ำอย่างเคนจะสามารถรอฟังคำตอบที่ต้องการฟังตอนนี้ได้นานแค่ไหนกัน หากให้เจ้าตัวตอบก็คงบอกเลยว่าไม่รอ
“ขอเวลาคิดจนกว่าจะถึงที่พลับอยู่แล้วกันครับ”
พลับจีนขอเวลาแค่น้อยนิด ให้ได้คิดทบทวนความหนักเบาของเหตุผลที่ตีกันอยู่ในหัวจนกว่าจะถึงห้องแถวที่เขาอยู่ ตอนนั้นเขาคงจะให้คำตอบเคนได้โดยไม่ลังเล
หลังจากที่คุยกันเรื่องที่เคนต้องการให้เขาไปเป็นพ่อบ้าน ภายในรถก็เงียบมาตลอดทาง จนกระทั่งมาถึงห้องแถวที่พลับจีนอยู่ คนที่ต้องการคำตอบมองออกไปนอกรถไม่ถามซ้ำแม้จะรอฟังอยู่ก็ตาม
“เรื่องที่คุณเคนเสนอมา” พลับจีนไม่ลืมว่าตัวเองพูดอะไรไว้ก่อนหน้านี้ เขาบอกว่าจะให้คำตอบกับเคน ตอนนี้ก็ถึงเวลาแล้ว “พลับตกลงนะครับ”
สิ่งที่ทำให้เขาลังเลก่อนหน้านี้พลับจีนต้องสะบัดทิ้งไป เพราะสุดท้ายแล้วสำหรับเขาตอนนี้เงินสำคัญกว่า ยิ่งมีหนทางที่เขาสามารถทำเงินได้ งานก็ไม่ลำบาก ไม่ผิดกฎหมาย ก็คงต้องคว้าเอาไว้ ส่วนเรื่องปัญหาที่เคยกังวลเขาจะพยายามไม่ให้มันเกิดขึ้น
น่าตลกอยู่เหมือนกันที่ครั้งนั้นเคยคิดว่าเคนต้องการเอาเงียบฟาดหัวเพื่อปิดบังสิ่งที่เราทั้งคู่กระทำลงไป พอตอนนี้เขากลับยอมทำตามคำสั่ง รับข้อเสนอของเคนเพื่อปิดบังความลับของตัวเอง อีกทั้งยังยอมไปทำงานให้เพื่อเงินที่จะได้
“ดี เริ่มงานพรุ่งนี้เลยแล้วกัน” คิดไว้อยู่แล้วว่าพลับจีนคงไม่ปฏิเสธ ก่อนหน้านี้ก็คงเล่นตัวไม่ยอมตอบตกลง “เอามือถือมา”
พลับจีนหยิบมือถือส่งให้เคน พร้อมทั้งปลดล็อกให้เสร็จสรรพ มองอีกฝ่ายกดข้าแอปพลิเคชันคุ้นตา กรอกไอดีพร้อมกับเพิ่มเพื่อนเข้าไปด้วยตัวเอง ก่อนจะส่งคืนให้เจ้าของ
“ไลน์คุณเคนเหรอครับ”
“ส่งเลขบัญชีเอาไว้ในแชต วันไหนฉันกลับไปนอนที่นั่นฉันจะบอกเอง แล้วก็ไม่ต้องติดต่อมาถ้าไม่มีอะไรสำคัญ”
“ครับ”
ถึงไม่สั่งเขาก็คงไม่ติดต่อไปมั่วซั่วอยู่แล้ว คิดว่าเขาอยากคุยด้วยขนาดนั้นเลยหรือยังไง
“ลงไปได้แล้ว”
เจ้าของรถเอ่ยเสียงห้วน ไล่ให้อีกคนลงจากรถ ไม่ได้สนใจว่าพลับจีนจะมีสีหน้ายังไง ได้ยินเสียงถอนหายใจอยู่เบา ๆ ทว่าเคนก็ยังคงนิ่งเฉยไม่หันไปมอง พอพลับจีนลงไป ก็ถอยรถขับออกไปทันที
“ขอให้มาส่งหรือไง ลากเขาไปเองแท้ ๆ แล้วยังมาไล่อีก เป็นเจ้านายแล้วไงวะ! ไอ้ตาคุณเคนบ้าเอ๊ย!!”
คิดว่าตัวเองมีอำนาจเหนือกว่าแล้วจะทำสีหน้า พูดจายังไงกับเขาก็ได้หรือไง อยากจะหนีก็หนีไม่พ้น เหมือนเป็นเวรเป็นกรรมของเขาที่ไม่รู้ไปสร้างไว้ตั้งแต่ชาติไหน เพราะเท่าที่จำได้ชาตินี้เขาไม่เคยไปทำอะไรให้เลยสักนิด
พอมาคิดดูให้ดีแล้ว เคนต่างหากที่เข้ามาข้องเกี่ยวกับเขา ทั้งที่เป็นฝ่ายสั่งห้าม แต่ก็อาจจะผิดที่เขา หรือไม่ก็ช่วงเวลาที่มันบังเอิญทำให้เขาเจอกับเคนเวลาที่เกิดเหตุการณ์แย่ ๆ พอต้องการความช่วยเหลือคนที่อยู่ตรงหน้าเขากลายเป็นเคนทุกครั้ง สวรรค์กำลังทดสอบความอดทนของเขาที่มีต่อคนปากเสีย มารยาทแย่คนนี้หรือ?
‘หากอยากอยู่บนโลกนี้ได้ก็ต้องรู้จักปรับตัวให้เป็น’
tbc.
คุยกับนักเขียน
ใครน้าาาา ที่เคยบอกว่าไม่อยากให้เขามายุ่งวุ่นวาย ไม่อยากมีปัญหา แล้วนี่มันอะไรกัน ทำไมกลายเป็นคนที่มาวุ่นวายกับเขาเสียเอง หลายครั้งแล้วนะคุณพี่ จะเอายังไงกันแน่จ๊ะ แม่ถามว่าหนูจะอายังไงกับน้อง ตอบ!!
หลังกินข้าวเสร็จพลับจีนเก็บจานไปล้าง เสร็จแล้วก็กลับมาที่เตียงเตรียมตัวนอน ครั้นหันไปมองเคนที่นั่งอยู่ตรงโซฟาปลายเตียงก็นึกสงสารขึ้นมา หากปล่อยให้นอนตรงโซฟาจะดูใจร้ายไปหรือเปล่า“คุณเคน.. ขึ้นมานอนบนเตียงด้วยกันไหมครับ” แค่นอนเฉย ๆ คืนเดียวคงไม่เป็นอะไรหรอกใช่ไหมนะ.. “เตียงอาจจะไม่ใหญ่ แต่พลับตัวเล็ก นอนสองคนน่าจะได้อยู่ครับ”ดวงตาคมมองสบนัยน์ตาเจ้าของห้อง ใบหน้าเรียบนิ่งไม่แสดงความยินดียินร้ายใด ๆ ออกมา“ฉันไม่ชอบนอนเบียดกับใคร”“แล้วคุณจะนั่งอยู่อย่างนั้นจนเช้าเหรอครับ” จริง ๆ เขาก็ไม่อยากเซ้าซี้นักหรอก จะนั่งจนเช้าก็ไม่เกี่ยวกับเขา แต่ในฐานะเจ้าของห้อง และคุณเคนก็อุตส่าห์พามาส่งจะใจร้ายปล่อยให้นั่งอยู่แบบนั้นได้ยังไง แม้ว่าจะรู้สึกอึดอัดใจบางเล็กน้อยที่ต้องใกล้ชิดกัน ทว่าพอนานวันเข้าความรู้สึกพวกนั้นก็บางเบาลงจากวันแรกเยอะพอสมควร “งั้นคุณเคนมานอนที่เตียงก็ได้ครับ เดี๋ยวพลับนอนโซฟาเอง”“ไม่ต้อง”“เอ๊ะ! นั่นก็ไม่เอา นี่ไม่เอา จะเอายังไงครับ พลับง่วงแล้วนะเมื่อไรจะได้นอน”“ฉันห้ามเธอไม่ให้นอนหรือไง?” คิ้วเข้มเลิกขึ้น ถามกลับด้วยน้ำเสียงติดจะหงุดหงิด“ก็คุณเล่นนั่งอยู่ปลายเตียงแบบนั้น
ตั้งแต่รู้ว่าเคนเป็นเจ้าของผับ Black butterfly ก็กลายเป็นว่าพลับจีนได้เจอบ่อยขึ้น ทั้งที่ทำงานที่นี่มาตั้งนานแต่ไม่เคยเจอกันมาก่อนเลยสักครั้ง ครั้นอยากหลบหน้าก็ทำไม่ได้ ในเมื่ออีกฝ่ายเป็นเจ้านายของตัวเองสืบเนื่องจากเหตุการณ์ครั้งที่แล้วที่โดนวางยา ผู้จัดการที่ได้รับคำสั่งมาอีกทีให้พลับจีนหยุดรับลูกค้าวีไอพีไปสักพัก เปลี่ยนมาดูแลลูกค้าชั้นล่างแทน อย่างน้อยถ้ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้นก็ยังอยู่ในสายตาเพื่อนร่วมงานคงช่วยกันได้ทันท่วงทีเสียงเพลงบริเวณชั้นหนึ่งดังกระหึ่มจนรู้สึกปวดหู แม้ว่าจะทำงานที่นี่แทบทุกวันอยู่แล้วแต่พลับจีนก็ยังไม่ชินอยู่ดี กระนั้นก็ยังคงยิ้มแย้มตามหน้าที่ แม้ว่าจะเป็นเพียงลูกค้าทั่วไปไม่ใช่ลูกค้าวีไอพี ถึงอย่างนั้นบางคนก็ทิปหนักไม่ใช่เล่นเหมือนกัน ยิ่งได้พลับจีนที่เป็นถึง Top 2 ของร้านที่ขึ้นชื่อเรื่องการบริการ และเอาใจลูกค้าเก่ง ทำให้ใคร ๆ ต่างก็พออกพอใจกันทั้งนั้น ถึงจะไม่ใช่คนที่หน้าตาดีที่สุด แต่กลับมีเสน่ห์ที่ใครเห็นก็ต้องเผลอมอง หรือแอบชอบกันบ้างพลับจีนมัวแต่ทำงานของตัวเองโดยที่ไม่รู้เลยว่ากำลังถูกจับจ้องโดยใครบางคนจากชั้นบนสุดของร้าน ทุกการกระทำอยู่ในสายตาของเคน
เจ้าของร่างสูงทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาหนังสีน้ำตาล-ทองราคาแพงจากแบรนด์ชั้นนำในต่างประเทศ ความนุ่มของมันทำให้รู้สึกผ่อนคลายอย่างน่าเหลือเชื่อ ศีรษะทุยเอนพิงไปกับพนักโซฟา หลับตาลง คิดทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ หลายสิ่งที่เขายังไม่เข้าใจ และยังหาคำตอบไม่ได้ปกติแล้วเคนมักจะหลับนอนที่ชั้นบนสุดของผับตัวเอง เพราะขี้เกียจขับรถกลับคอนโดฯ ส่วนบ้านใหญ่ยิ่งไม่ต้องพูดถึง ตั้งแต่ขึ้นเรียนมหา’ลัย เคนก็กลับไปที่นั่นน้อยลง แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีเวลาให้พ่อกับแม่เอาเสียเลย วันไหนที่พวกท่านเรียกหาเคนก็ไม่เคยปฏิเสธ เพียงแต่ไม่ได้นอนค้างก็เท่านั้นคอนโดฯ ที่มีก็ซื้อไว้ตั้งแต่เริ่มเข้าเรียนมหา’ลัย พอเรียนจบเปิดผับเปิดร้านอาหาร เคนก็ไม่ค่อยได้กลับไปนอนที่นั่นสักเท่าไร อาทิตย์หนึ่งอาจจะกลับไปนอนสักครั้ง หรือไม่ก็ไม่กลับไปเลย เรื่องทำความสะอาดเคนจะจ้างแม่บ้านให้มาทำทุกอาทิตย์จนกระทั่งวันนี้ที่เขาเสนอให้พลับจีนมาทำหน้าที่นั้นแทน ในฐานะ ‘พ่อบ้าน’ ที่ต้องรับผิดชอบตั้งแต่ดูแลความสะอาด รวมถึงอาหารการกิน พอได้คิดทบทวนดูแล้วสิ่งที่เขากำลังทำเหมือนกับว่ากำลังเห็นใจเด็กคนนั้น เพราะอะไร...เพราะเป็นเพื่อนน่านน้ำเพราะมีชีวิต
“ลองชิมดูไหมครับ”“ไม่ ฉันท้องเสียขึ้นมาใครจะรับผิดชอบ”คนฟังกลอกตามองบน พลางถอนหายใจออกมาอย่างเอือม ๆ ไม่ชิมก็ไม่ต้องชิมสิ ไม่เห็นต้องพูดอะไรแบบนี้ เขาไม่ได้บังคับสักหน่อยหลังจากเล่นกับเด็ก ๆ มาเกือบสองชั่วโมง พลับจีนจึงขอไปช่วยทำมื้อเย็นในครัว เคนที่ไม่รู้ว่าจะไปไหนก็เลยทำได้แค่เดินตามมาเงียบ ๆ ยืนกอดอกมองอยู่หน้าประตูห่าง ๆ ไม่ได้คิดที่จะเข้าไปช่วยหรือทำตัวเกะกะคนในครัว แม้ว่าอยากเดินออกไปสูบบุหรี่ก็ทำไม่ได้ เพราะมีป้ายห้ามแทบจะทุกจุด เคนก็เข้าใจอยู่ว่าทำไมพลับจีนเดินหน้าบึ้งกลับไปในครัว ฝีมือการทำอาหารถ้าให้เทียบกับน่านน้ำเขานี่เทียบไม่ติดเลยสักนิด แค่พอกินได้ก็ดีเท่าไรแล้ว ที่เข้ามาช่วยก็เป็นแค่ลูกมือ คอยหยิบนั่นหยิบนี่ หั่นผัก หั่นเนื้อบ้างเล็ก ๆ น้อย ๆเสียงพูดคุย หัวเราะเจี๊ยวจ๊าวของพวกผู้หญิงในครัวทำให้พลับจีนเผลอยิ้มตามไปด้วย แม้จะไม่ได้สนิทสนมกันแต่เพราะเป็นพลับจีนการปรับตัวเข้ากับคนอื่นถึงได้เป็นเรื่องง่าย เพราะเขาจะมีคติเตือนใจตัวเองอยู่เสมอ‘หากอยากอยู่บนโลกนี้ได้ก็ต้องรู้จักปรับตัวให้เป็น’ผิดกับอีกคนที่ดูจะขวางโลก เอาตนเป็นที่ตั้งเสียมากกว่าทุกสิ่ง สำหรับพลับจีนอาจจะ
ภายในรถเงียบสนิทไม่มีบทสนทนาใด ๆ เกิดขึ้นระหว่างพวกเขาสองคน จนกระทั่งรถเลี้ยวมาจอดหน้าร้านขายของชำที่พลับจีนเองก็เคยมาอยู่หลายครั้ง“ลงสิ”พลับจีนหันมองเจ้าของรถด้วยความสงสัย ทว่าไม่ทันได้ถามอะไรอีกฝ่ายก็ลงจากรถไปเสียแล้ว ดวงตากลมกลอกมองบนพลางเป่าลมออกจากปากจนผมหน้าม้าเสียทรงร่างสมส่วนเดินตามหลังคนอายุมากกว่าเข้ามาในร้านขายของชำ หันไปยิ้มทักทายเจ้าของร้านเล็กน้อย“ช่วยเลือกซื้อของที่เด็ก ๆ ชอบหน่อย”“เด็กที่ไหนครับ”“บ้านเด็กกำพร้าที่เธอเคยไป”พลับจีนไม่เข้าใจเคนจริง ๆ ว่าเป็นคนแบบไหนกันแน่ ครั้งก่อนบอกไม่ชอบเด็ก ทว่าครั้งนี้กลับพาเขามาช่วยเลือกซื้อของให้เด็ก ๆ น่ะเหรอแต่ถึงสงสัยยังไงพลับจีนก็ไม่อยากถามอะไรให้มากนัก เดินไปหยิบตะกร้าใบใหญ่มาใบหนึ่ง เลือกซื้อพวกขนมและของใช้ที่คิดว่าจำเป็น จำพวกของเดิมๆ ที่เคยซื้อเหมือนทุกครั้งเวลาไปที่นั่น เคนเดินตามหลังมาเงียบ ๆ ไม่พูดไม่ขัด ไม่ว่าพลับจีนจะเลือกซื้ออะไร แม้ว่าของบางชิ้นจะราคาแพงก็ตาม“แค่นี้ก็น่าจะพอแล้วนะครับ”“มีเด็กเยอะไม่ใช่หรือไง แค่นี้จะพออะไร”“แต่นี้ก็หลายบาทแล้วนะครับ” คนที่มีงบน้อยอย่างพลับจีนแม้ว่าจะอยากช่วยเหลือคนอื่น แต่
เจ้าของร่างสูงยืนพิงหน้าต่างมองดูคนหมดสภาพที่นอนอยู่บนเตียง หลังจากถูกราดน้ำเรียกสติอยู่พักใหญ่กว่าจะหมดฤทธิ์ถึงได้หลับไป ปล่อยให้เคนจัดการเปลี่ยนผ้าให้ทั้งที่ไม่ใช่หน้าที่เลยสักนิดความต้องการของคนที่กินยาปลุกเซ็กซ์เข้าไปคือการที่มีความต้องการทางเพศ ซึ่งเคนไม่ได้อยากมีอะไรกับคนที่ขาดสติ วิธีที่พอจะช่วยได้ที่คิดออกก็มีเท่านี้ระหว่างทางกว่าจะมาถึงห้องพักของพลับจีน เจ้าตัวพยายามที่จะปีนป่ายเข้าหาเคนอยู่หลายครั้ง แต่ก็ถือว่าเก่งมากที่พยายามฝืนตัวเองได้ แม้ว่าจะต้องกัดแขนตัวเองจนเลือดซิบก็ตาม“เจอตัวยังครับคุณแซน”[ค่ะคุณเคน เป็นลูกค้าใหม่เพิ่งมาครั้งแรกค่ะ]“ไม่ว่าจะลูกค้าเก่าหรือลูกค้าใหม่ ผมไม่สนใจ กฎของร้านเป็นยังไงคุณแซนรู้ใช่ไหมครับ”[รู้ค่ะ แล้วเรื่องที่พนักงานของเราไปฟาดหัวเขาล่ะครับ]“ผมไม่รับผิดชอบอะไรทั้งนั้น เพราะพนักงานเราไม่ผิดที่ปกป้องตัวเอง”“ค่ะ เดี๋ยวที่เหลือแซนจะจัดการให้เรียบร้อยค่ะ”“ฝากด้วยครับ”เคนกดวางสายจากผู้จัดการร้าน ทอดมองพลับจีนพลางถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย ถึงไม่อยากข้องเกี่ยวด้วยแต่ก็ทำไม่ได้อยู่ดีเพราะยังไงเสียพลับจีนก็ถือว่าเป็นพนักงานในร้านของเขาเห







