LOGIN"ใช่ ฉันนั่งเฝ้าหนูเฉย ๆ สองชั่วโมง"
"เหรอคะ?" "หนูยังไม่เชื่อกับสิ่งที่ฉันบอกเหรอ?" ขุนยกยิ้มมุมปากเมื่อเห็นใบหน้าสับสนของเด็กสาว ถ้าให้พูดตามตรงสำหรับเขาที่ผ่านมาถ้าต้องอยู่ในห้องกับผู้หญิงก็คงหนีไม่พ้นเรื่องอย่างว่า แต่สถานการณ์นี้มันต่างออกไป อย่างแรกคือเขาไม่คิดทำอะไรคนหลับหรอกเพราะถ้าอีกฝ่ายไม่ยินยอมก็ไม่ต่างกับขืนใจ อย่างที่สองคือเขาไม่รู้อายุของเธอและเธอดูเด็กมาก กลัวว่าจะเด็กกว่าลูกสาวของตน เขาเลยไม่คิดทำอะไร "ป...เปล่าค่ะ หนูขอบคุณอีกครั้งค่ะที่ช่วยหนูไว้" ตอบเสียงอ้อมแอ้ม แม้ในใจอยากถามออกไปว่าเธอไม่น่าพิศวาสเหรอเขาถึงมองเธอนอนเฉย ๆ เพราะผู้ชายที่เข้าหาเธอในสภาพที่เธอแต่งหน้าแต่งตัวทุกคนมักรุกเธอและแสดงสิ่งที่ต้องการออกมาตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอเสมอ เลยทำให้เธออดคิดไม่ได้ "ว่าแต่หนูอายุเท่าไหร่ แอบพ่อแม่มาเที่ยวหรือเปล่า" ขุนลอบถามอายุของเด็กสาว ยิ่งได้เห็นใบหน้าหวาน ก็ยิ่งทำให้เขาอยากรู้ "หนูไม่ได้แอบเที่ยวค่ะ หนูอายุยี่สิบสองปีแล้วค่ะ มีบัตรประชาชนยืนยันได้ค่ะ หนูไม่ได้โกหกแน่นอน" "อ่อ แล้วตอนนี้อาการดีขึ้นแล้วใช่ไหม" "ค่ะ ไม่ได้มึนอย่างก่อนหน้าแล้วค่ะ" "งั้นหนูไปล้างหน้าล้างตาเถอะจะได้สดชื่น...แล้วจะได้กลับ" "ค่ะ" ซึ่งเธอก็ทำตามอย่างที่เขาบอก ขุนเผลอเลียริมฝีปากตัวเองเมื่อจ้องมองร่างอรชรนั้นจนหายลับเข้าไปในห้องน้ำ ร่างอรชรนั้นดูเย้ายวนจนอดมองไม่ได้ ยิ่งตอนที่เขาได้อุ้มร่างบางนั้นก็สัมผัสได้ว่าอ่อนนุ่มมากแค่ไหน อีกอย่างตอนนี้เขาได้รู้อายุของเธอแล้วและเธอก็มีอายุมากกว่าลูกสาวของตนตั้งหนึ่งปี ถ้าให้พูดตามตรงเด็กสาวอายุเท่านี้เขาก็ควงมานักต่อนัก ถ้าไม่เด็กกว่าลูกสาวหรือรุ่นเดียวกับลูกสาวของตน และไม่ใช่คนรู้จัก เขาก็ไม่ติดอะไร สาบานได้ว่าตั้งแต่แรกเขาไม่ได้คิดอกุศลกับเธอ แต่ตอนนี้เริ่มไม่แน่ใจ เพราะเป้าหมายแรกเริ่มของเขาในคืนนี้คือมาหาความสุขให้ตัวเอง แต่ยังไม่ทันได้หลับนอนกับใครดันเกิดเรื่องขึ้นซะก่อน แต่ตอนนี้เขาเกิดอยากสานต่อสิ่งที่ตั้งใจไว้ก็เท่านั้น ชีวิตเขาก็แค่อยากหาความสุขหลังจากเหนื่อยกับงาน หาความสุขไปเรื่อยไม่เคยกินซ้ำ ตามประสาคนไม่คิดจะมีเมีย และไม่คิดผูกมัดกับใคร ห้องน้ำ เมื่อเข้ามาในห้องน้ำข้าวหอมก็จัดการกับธุระของตัวเอง จากนั้นก็ไม่ลืมที่จะทำให้ตัวเองสดชื่นขึ้นโดยใช้น้ำยาบ้วนปากที่มีอยู่ในห้องน้ำบ้วนปากพร้อมซับหน้าเบาๆ จนตอนนี้เธอรู้สึกมีสติขึ้นเกือบครบ "แต่ทำไมใจยังเต้นแรงแบบนี้ล่ะ" ยกมือขึ้นมากุมตรงใจแค่นึกถึงคนที่อยู่ด้านนอกก็รู้สึกปั่นป่วนขึ้นมา เธอไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร รู้แค่ว่าคือคนที่ช่วยเธอไว้ แต่เขาคือคนแปลกหน้าที่ทำให้เธอใจเต้นแรง แกร๊ก! ข้าวหอมเปิดประตูออกมาจากห้องน้ำกลับพบว่าภายในห้องว่างเปล่า กลับไม่พบใครอีกคนอย่างที่คิดไว้ "ไปแล้วเหรอ..." ข้าวหอมยืนงุนงงอยู่ลำพังไม่คิดว่าเธอจะถูกทิ้งไว้แบบนี้ หัวใจที่เคยเต้นกระหน่ำในตอนแรกแต่ตอนนี้กลับรู้สึกหอเหี่ยวขึ้นมา ครืด แต่แล้วประตูกระจกตรงระเบียงก็ถูกเลื่อนเปิดพร้อมม่านที่ถูกแยกออกทำให้เห็นว่าใครอีกคนเดินเข้ามาจากตรงนั้น "คุณ..." หัวใจของเธอกลับมาเต้นกระหน่ำอีกครั้งเมื่อเห็นว่าไม่ได้ถูกทิ้งเพียงลำพัง และรู้สึกอุ่นใจขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก "พอดีฉันสูบบุหรี่มาน่ะ หนูคงไม่รังเกียจใช่ไหม" ขุนเอ่ยถามพร้อมหยิบเม็ดอมมาอมดับกลิ่น "ไม่รังเกียจค่ะ หนูไม่ได้คิดมากอะไร" เธอไม่รังเกียจหรือคิดมากอย่างที่พูดจริง ๆ แต่เธอแค่ไม่นึกว่าผู้มีพระคุณคนนี้จะสูบบุหรี่ด้วย ดูจากบุคลิกและท่าทางภายนอกเขาดูรักสุขภาพ แต่เธอก็ไม่ได้อะไร ใจเต้นแรงอีกแล้ว ยิ่งเห็นยิ่งใจสั่น เธอไม่เคยเสียอาการแบบนี้กับใครมาก่อน แต่ทำไมกับคนแปลกหน้าคนนี้ถึงทำให้เธอใจเต้นได้ขนาดนี้สามอาทิตย์ผ่านไปคอนโดข้าวหอมหยิบเดรสแขนตุ๊กตาสีขาวที่ดูน่ารักเรียบร้อยมาสวมใส่ จากนั้นก็รวบผมขึ้นพร้อมหยิบแว่นสายตามาสวมใส่"ใกล้ได้เวลานัดพอดี"เนื่องจากวันนี้เพื่อนสนิทอย่างของขวัญชวนเธอไปทานข้าวร่วมกับครอบครัวของเธอ เนื่องจากพ่อของเธอเปิดร้านอาหารแห่งใหม่ ทำให้ครั้งนี้เธอจะได้มีโอกาสได้เจอพ่อของเพื่อนในวันนี้ ซึ่งของขวัญจะเป็นฝ่ายมารับ เพราะเธอไม่ได้มีรถขับ ที่เธออยู่คอนโดนี้เป็นเพราะอยู่ติดมหาลัยทำให้สามารถเดินไปเรียนได้เพราะเธอไม่มีรถ ครอบครัวเธอฐานะปานกลางแต่ไม่ถึงกับสามารถซื้อทุกอย่างได้ตามอำเภอใจพรึ่บ"ตื่นเต้นอยู่เหมือนกันนะเนี่ย หวังว่าคุณพ่อจะชอบช่อดอกไม้นี้"ข้าวหอมหยิบช่อดอกไม้สีขาวบริสุทธิ์ขึ้นมาชื่นชมเธอตั้งใจจะมอบช่อดอกไม้นี้ให้พ่อของเพื่อนเพื่อแสดงความยินดีกับร้านใหม่ และครั้งนี้เป็นการเจอผู้ใหญ่ก็อยากมีอะไรติดไม้ติดมือไปด้วยเวลาต่อมา"สวัสดีค่ะอาสิงห์"ข้าวหอมยกมือไหว้คนรักของเพื่อนทันทีเมื่อเข้ามาในรถ"สวัสดีครับ"คนรักของเพื่อนทักทายกลับอย่างเป็นกันเอง"โห่ ช่อดอกไม้แกสวยมาก จนฉันอยากได้เองเลย"ของขวัญพูดอย่างตื่นตาเมื่อได้เห็นช่อดอกไม้ของเธอ แต่ไม่ใช่แค่เธอหรอ
หนึ่งอาทิตย์ผ่านไปมหาลัย"แกยังไม่กลับใช่ไหม"ข้าวหอมเอ่ยถามเพื่อนสนิทอย่างของขวัญ"ใช่ วันนี้อาสิงห์ติดธุระเลยมารับช้านิดหน่อย""งั้นฉันนั่งรอเป็นเพื่อนแกก่อนละกัน"เพราะข้าวหอมก็ไม่ได้รีบไปไหนอยู่แล้ว อีกอย่างคอนโดก็อยู่ติดมหาลัยเลยจะนั่งเป็นเพื่อนของขวัญเสียก่อน ถ้าเธอกลับก่อนของขวัญคงต้องนั่งรอคนเดียว"งื้อ เพื่อนหอมน่ารักที่สุด""ตั้งแต่เปิดตัวคบกับอาสิงห์ แกดูมีความสุขตลอดเวลาเลยนะ""ก็คนมันมีความสุขจริง ๆ นี่หน่า มันโคตรดีต่อใจเลย"ของขวัญตอบไปด้วยยิ้มไปด้วย"ฉันดีใจนะที่ยังเห็นว่าแกมีความสุขและหลังเรียนจบจะมีข่าวดีเกิดขึ้น"เพราะของขวัญจะแต่งงานหลังเรียนจบเลย และตอนนี้เพื่อนกำลังอินเลิฟมากซึ่งผู้ชายที่เป็นเจ้าของหัวใจของเพื่อนคือคนที่เพื่อนนับถือเป็นอามาก่อน แต่ตอนนี้สถานะได้เปลี่ยนไปแล้ว จากสถานะอาหลานกลายเป็นคู่รักกันเรียบร้อยแล้ว"ฉันอยากให้แกมีแฟนบ้างจัง ถ้าแกได้คบใครสักคนหรือได้มีคนดูแล ไม่แน่หลังเรียนจบเราสองคนอาจจะมีข่าวดีพร้อมกันก็ได้""แหม่ตอนนี้ฉันยังหาใครไม่ได้ด้วยซ้ำ ฉันให้แกนำไปก่อนเลย"ข้าวหอมตอบกลับเพื่อนไปอย่างนั้น"แกน่ารักจะตาย ตัวก็ขาวจั๊วะ ยิ่งเวลาแกได้แต่
"ร...เราเริ่มกันเลยไหมคะ" ข้าวหอมตอบเสียงสั่น และคำตอบของเธอทำให้เขาหัวเราะในลำคอ จนเธอทำตัวไม่ถูกรู้สึกเก้อเขิน เธอก็ไม่รู้ว่าความสัมพันธ์แบบนี้ต้องเริ่มจากตรงไหน เธอก็คิดว่าพอเธอตอบตกลง เขาจะต้องรีบพาเธอขึ้นเตียงแล้วเริ่มกิจกรรมทันที แต่กลับไม่ใช่อย่างที่คิด "หนูกลัวไหม?" ขุนเอ่ยถามเสียงนุ่มพร้อมลูบหัวของเธอเบา ๆ การที่เธอบอกว่าไม่เคยวันไนท์กับใครก็ใช่ว่าจะไม่เคยผ่านเรื่องอย่างว่ามาก่อน อย่างที่บอกว่าเธอคงไม่ใช่หญิงสาวบริสุทธิ์ แค่อาจจะไม่เคยมีสัมพันธ์ชั่วข้ามคืนกับใครก็เท่านั้น เขาเลยค่อยเป็นค่อยไปไม่อยากใจร้อน อยากให้เธอปรับตัวเข้าหาคู่นอนเสียก่อน และเขาก็ไม่อยากให้เหยื่อตรงหน้าหลุดมือไป "ม...ไม่กลัวค่ะ" ข้าวหอมเริ่มหายใจไม่ทั่วท้อง เธอไม่ได้กลัวแต่มันกลับเป็นความรู้สึกประหลาดมากกว่า ร่างกายเธอร้อนวูบวาบไปหมด การที่เขาเอาแต่จ้องหน้าเธอพร้อมลูบหัวเธอเบา ๆ ถามด้วยน้ำเสียงอบอุ่น มันยิ่งทำให้หัวใจดวงน้อยเต้นไม่เป็นจังหวะและรู้สึกไหววูบไปหมด เธอไม่รู้ว่าความสัมพันธ์ชั่วข้ามคืนจำเป็นต้องทำให้คู่นอนหวั่นไหวและต้องใส่ใจความรู้สึกคู่นอนแบบนี้หรือเปล่า "เสื้อฉันเปียก หนูถอดให้ฉันหน่
"ดื่มน้ำก่อนสิ"เขาเปิดน้ำพร้อมเทใส่แก้วยื่นให้เธอ"ขอบคุณค่ะ"ข้าวหอมยิ้มรับเมื่อรู้สึกว่าได้รับการดูแลหมับพรึ่บซ่า!"ข...ขอโทษค่ะ หนูทำเสื้อคุณเปียก"ระหว่างที่เธอเอื้อมมือไปรับน้ำจากเขา ไม่รู้ทำไมมือไม้ถึงอ่อนเผลอผลักกับแก้วทำให้แก้วผลักใส่ตัวเขา จนน้ำกระเด็นรดเสื้อเชิ้ตสีขาวของเขาหมด"ไม่เป็นไร..."เขาตอบกลับอย่างไม่ถือสา"น...หนูเช็ดให้ค่ะ"ข้าวหอมรีบไปหยิบทิชชูและถือวิสาสะเช็ดเสื้อให้เขาอย่างลืมตัว เธอใช้ทิชชูซับเสื้อให้เขาอย่างร้อนรนเพราะเสื้อเปียกเป็นวงกว้างทำให้แนบไปกับผิวเนื้อจนเห็นเนื้อหน้าท้องของเขารู้ตัวอีกทีตอนนี้เธออยู่ใกล้เขามากจนได้กลิ่นหอมสะอาดจากตัวเขาผสมกับกลิ่นบุหรี่อ่อน ๆ และยังได้กลิ่นจากเม็ดอมของเขาอีก จนเธอเริ่มรู้สึกมึนเคลิ้มอย่างบอกไม่ถูก มือที่เช็ดอยู่ก็เริ่มสั่น ๆ เพราะไม่เคยสัมผัสและอยู่ใกล้ผู้ชายขนาดนี้มาก่อนอึกจังหวะที่เงยหน้าขึ้นมองกลับพบว่าคนตัวใหญ่ก็ก้มมองเธออยู่ก่อนแล้ว ข้าวหอมเม้มปากแน่นรู้สึกร้อนวูบวาบไปหมด"คืนนี้นอนที่นี่กับฉันไหม?"เสียงทุ้มเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบเพราะเขาแค่ลองเชิง..."ว...ว่าไงนะคะ?"เธอไม่ค่อยแน่ใจความหมายสักเท่า
"ใช่ ฉันนั่งเฝ้าหนูเฉย ๆ สองชั่วโมง""เหรอคะ?""หนูยังไม่เชื่อกับสิ่งที่ฉันบอกเหรอ?"ขุนยกยิ้มมุมปากเมื่อเห็นใบหน้าสับสนของเด็กสาว ถ้าให้พูดตามตรงสำหรับเขาที่ผ่านมาถ้าต้องอยู่ในห้องกับผู้หญิงก็คงหนีไม่พ้นเรื่องอย่างว่าแต่สถานการณ์นี้มันต่างออกไป อย่างแรกคือเขาไม่คิดทำอะไรคนหลับหรอกเพราะถ้าอีกฝ่ายไม่ยินยอมก็ไม่ต่างกับขืนใจ อย่างที่สองคือเขาไม่รู้อายุของเธอและเธอดูเด็กมาก กลัวว่าจะเด็กกว่าลูกสาวของตน เขาเลยไม่คิดทำอะไร"ป...เปล่าค่ะ หนูขอบคุณอีกครั้งค่ะที่ช่วยหนูไว้"ตอบเสียงอ้อมแอ้ม แม้ในใจอยากถามออกไปว่าเธอไม่น่าพิศวาสเหรอเขาถึงมองเธอนอนเฉย ๆ เพราะผู้ชายที่เข้าหาเธอในสภาพที่เธอแต่งหน้าแต่งตัวทุกคนมักรุกเธอและแสดงสิ่งที่ต้องการออกมาตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอเสมอ เลยทำให้เธออดคิดไม่ได้"ว่าแต่หนูอายุเท่าไหร่ แอบพ่อแม่มาเที่ยวหรือเปล่า"ขุนลอบถามอายุของเด็กสาว ยิ่งได้เห็นใบหน้าหวาน ก็ยิ่งทำให้เขาอยากรู้"หนูไม่ได้แอบเที่ยวค่ะ หนูอายุยี่สิบสองปีแล้วค่ะ มีบัตรประชาชนยืนยันได้ค่ะ หนูไม่ได้โกหกแน่นอน""อ่อ แล้วตอนนี้อาการดีขึ้นแล้วใช่ไหม""ค่ะ ไม่ได้มึนอย่างก่อนหน้าแล้วค่ะ""งั้นหนูไปล้างหน้าล้า
"คงเป็นครั้งแรกที่นั่งเฝ้าผู้หญิงหลับ""เหมือนมานั่งเฝ้าลูกสาวเลย"ขุนพลนั่งถอดหายใจกับตัวเอง เขาไม่ได้คิดอกุศลหรือให้ความสนใจกับเด็กสาวคนนี้ตั้งแต่แรกนั้นเป็นเพราะเห็นว่าเธอยังดูเด็กมาก ต่อให้จะสวยจะน่ารักแค่ไหน แต่ถ้าเขาไม่มั่นใจเรื่องอายุ เขาจะไม่ยุ่งเด็ดขาดปีนี้ขุนอายุ 40 ปีแล้ว แม้เขาจะควงเด็กอายุน้อยอยู่บ้าง แต่เด็กที่เขาจะควงต้องอายุมากกว่าลูกสาวของตน เพราะกลัวว่าจะเผลอพลาดไปทำใครท้องแล้วถ้าหากคน ๆ นั้นอายุน้อยกว่าลูกสาวของตนมันคงไม่ดีแน่ ถ้าเขาไม่มีลูกสาวก็ว่าไปอย่าง แต่เพราะว่าเขามีลูกแล้วและเป็นคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว เพราะแม่ของลูกเสียไปนานแล้ว และเขาก็ไม่คิดจะหาแม่ใหม่ให้ลูก เขาไม่คิดจะคบใครตั้งแต่ทีแรกแม้แต่กับแม่ของลูกเพราะเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างเขากับแม่ของลูกก็เกิดจากความผิดพลาดไม่ได้เกิดจากความรัก แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็รักลูกสาวมากเหตุผลที่ไม่กล้าทิ้งเด็กสาวคนนี้ก็คงเป็นเพราะว่าตนมีลูกสาวมั้งแต่เหตุการณ์แบบนี้เพิ่งเคยเกิดขึ้นกับเขาครั้งแรก"อือ"ร่างบางเริ่มรู้สึกตัวพร้อมขยับตัวไปมา เปลือกตาเริ่มเปิดขึ้นดวงตากลมโตกวาดมองเพดานห้องที่ดูไม่ค่อยคุ้นชิน"เราฝันอยู่เหรอ"ข้าวห







