Share

บทที่ 128

Author: ชุนกวงห่าว
ถ้าเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป ต่อไปเธอคงอายจนไม่กล้าสู้หน้าใครอีกแล้ว

พอคิดถึงตรงนี้ โจวฉินก็อดไม่ได้ที่จะพร่ำบ่นออกมา “ฉันบอกตั้งแต่แรกแล้วว่าไม่ควรรับเธอกลับมาเลย! นอกจากจะสร้างเรื่องขายขี้หน้าให้พวกเราแล้ว เธอยังจะทำอะไรได้อีก?!”

“พอได้แล้ว อย่ามัวพล่ามไร้สาระ รีบไปโรงพยาบาลแล้วบอกให้เธอถอนฟ้องซะ ผมมีประชุมตอนแปดโมง ต้องไปบริษัทก่อน”

พูดจบ สือหมิงฮุยก็ลุกขึ้นเดินจากไปทันที

โจวฉินชำเลืองมองบัตรธนาคารบนโต๊ะ พอนึกถึงเรื่องที่สืออวี๋ไปฟ้องร้องหานเชี่ยน เธอก็รู้สึกหัวเสีย จึงหยิบบัตรขึ้นมาแล้วสั่งให้พ่อบ้านเตรียมรถไปโรงพยาบาล

เมื่อเดินเข้ามาในห้องพักผู้ป่วย คุณย่าสือกำลังนั่งซดโจ๊กอยู่ ส่วนสืออวี๋ก็นั่งปอกแอปเปิ้ลให้ท่านอยู่ข้าง ๆ

โจวฉินทำหน้าบึ้งตึง “สืออวี๋ ออกมากับฉันเดี๋ยวนี้ ฉันมีเรื่องจะคุยด้วย”

พอเห็นสีหน้าถมึงทึงของโจวฉิน คุณย่าสือก็แสดงสีหน้าไม่พอใจขึ้นมาทันที “มีเรื่องอะไรทำไมพูดต่อหน้าฉันไม่ได้?”

“คุณแม่ ท่านอย่ายุ่งดีกว่าค่ะ!”

ขืนคุณย่าสือรู้เรื่องนี้เข้า ด้วยนิสัยที่รักและตามใจสืออวี๋ปานนั้น ก็ไม่รู้ว่าท่านจะมีปฏิกิริยายังไงบ้าง

สืออวี๋ยื่นแอปเปิ้ลที่ปอกเสร็จเรียบร้อย
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Latest chapter

  • คุณกับเลขาเกิดมาคู่กัน แล้วจะมาคุกเข่าในงานแต่งฉันทำไม?   บทที่ 142

    ช่วงหลายปีมานี้ตระกูลสือตกต่ำลงก็จริง แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นที่ตระกูลเล็ก ๆ จะมาทำตัวอวดดีต่อหน้าพวกเขาได้สักหน่อยรอยยิ้มบนใบหน้าของพ่อหานแข็งค้างไปเล็กน้อย “คุณท่านครับ ผมทราบว่าท่านโกรธเรื่องโง่ ๆ ที่หานเชี่ยนทำลงไป ถ้าเป็นผมผมก็โกรธเหมือนกัน ยิ่งนึกถึงเรื่องที่เธอจ้างคนไปใส่ร้ายคุณหนูสือในเน็ตเพราะบาดหมางกันแค่เล็กน้อย ผมก็รู้สึกผิดต่อคุณหนูสือเหลือเกิน เป็นผมที่อบรมสั่งสอนลูกไม่ดีเองครับ”ขณะพูดถ้อยคำเหล่านี้ น้ำเสียงของพ่อหานก็ฟังดูจริงใจ คล้ายรู้สึกผิดอย่างแท้จริง“ประธานหาน เรื่องที่คุณหนูหานทำลงไป แค่ขอโทษไม่กี่คำมันหายกันไม่ได้หรอกนะ คุณอย่ามาลองเชิงฉันเลย หลานฉันเอายังไงฉันก็เอายังงั้น พวกคุณกลับไปเถอะ”สีหน้าของพ่อหานค่อย ๆ มืดมนลง ในใจเต็มไปด้วยความโกรธ แต่ก็ไม่กล้าแสดงออกต่อหน้าคุณย่าสือหรือสืออวี๋ เพราะตอนนี้บริษัทของเขากำลังตกอยู่ในอันตราย แค่เกิดเรื่องเล็กน้อยก็ทำให้บริษัทล่มจมได้แล้วเขาสูดหายใจลึกอีกครั้ง ก่อนมองไปที่คุณย่าสือ “คุณท่านครับ คุณหนูสือ วันนี้ที่ผมมา ก็เพื่อหวังจะคลี่คลายความเข้าใจผิดระหว่างหานเชี่ยนกับคุณหนูสือ หานเชี่ยนแกสำนึกผิดแล้วจริง ๆ ขอแค่คุณหนู

  • คุณกับเลขาเกิดมาคู่กัน แล้วจะมาคุกเข่าในงานแต่งฉันทำไม?   บทที่ 141

    หลังครุ่นคิดอยู่นาน หานเชี่ยนก็ตัดสินใจว่าจะลองคุยกับสืออวี๋ดูก่อน หากสืออวี๋ยังไม่ยอมยกโทษ เธอก็จะแตกหักกับอีกฝ่ายให้มันรู้แล้วรู้รอดกันไปอีกด้านหนึ่ง เมื่อสืออวี๋กลับถึงห้อง และได้นั่งพักจนหายเหนื่อยแล้ว เธอก็ลากกระเป๋าเดินทางออกมาเริ่มจัดของเมื่อบรรจุของเต็มกระเป๋าเดินทาง เธอก็ไม่ได้จัดเตรียมอะไรต่อเสื้อผ้าและของใช้ในกระเป๋าเดินทางใบนี้ เพียงพอสำหรับให้เธอใช้ระหว่างย้ายไปอยู่บ้านเก่าตระกูลสือแล้วสืออวี๋ลากกระเป๋าเดินทางไปไว้ที่ประตู ก่อนหยิบชุดนอนไปอาบน้ำและเข้านอนเช้าวันรุ่งขึ้น เธอนำกระเป๋าเดินทางไปโรงพยาบาลเพื่อมอบให้ป้าอู๋ทุกวันที่ป้าอู๋เดินทางไปกลับโรงพยาบาล คนขับรถของบ้านเก่าก็จะทำหน้าที่คอยรับส่งเสมอเมื่อเห็นกระเป๋าเดินทางของสืออวี๋ ป้าอู๋ก็ยิ้มพลางกล่าวว่า “คุณหนูใหญ่คะ งั้นเดี๋ยวป้าเอาไปไว้ในห้องของคุณหนูให้เลยนะคะ ก่อนหน้านี้ป้าทำความสะอาดห้องคุณหนูเรียบร้อยแล้ว ถึงเวลาคุณหนูแค่ย้ายเข้าไปก็อยู่ได้เลยค่ะ”สืออวี๋พยักหน้า “รับทราบค่ะ ป้าอู๋ เหนื่อยหน่อยนะคะ”“ไม่เหนื่อยหรอกค่ะ คุณหนูขึ้นไปอยู่เป็นเพื่อนคุณย่าท่านเถอะ ป้าขอตัวก่อนนะคะ”“ได้ค่ะ”เมื่อสืออวี๋ก

  • คุณกับเลขาเกิดมาคู่กัน แล้วจะมาคุกเข่าในงานแต่งฉันทำไม?   บทที่ 140

    หวังจือจือตกตะลึงอยู่ตรงนั้น ผ่านไปหลายวินาทีถึงตั้งสติขึ้นมาได้“ทนายสือ ฉันขอโทษค่ะ ฉันไม่รู้จริง ๆ ว่าควรทำยังไง คุณจะฟ้องฉัน ฉันก็ยอม ขอแค่คุณยอมช่วยฉันเป็นครั้งสุดท้าย ใช้เส้นสายของคุณ ช่วยฉันระดมเงินสักหน่อย ฉันจะพูดความจริงทั้งหมดในศาล คืนความยุติธรรมให้คุณเอง”“ความยุติธรรมที่คุณพูดถึง ฉันไปเรียกร้องเองได้ค่ะ ส่วนเรื่องเงิน ฉันจนปัญญาที่จะช่วยคุณจริง ๆ”เธอยินดีช่วยลูกความของตัวเองภายในขอบเขตความสามารถที่ทำได้ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเธอจะยอมทนอีกฝ่ายโดยไม่มีขีดจำกัดพฤติกรรมของหวังจือจือในครั้งนี้ แตะเส้นขีดจำกัดของเธอแล้ว เธอไม่ให้อภัย และไม่คิดจะช่วยเหลือด้วยเพราะคนบางคน ไม่สมควรได้รับความเห็นใจแม้แต่น้อยครั้งนี้ถ้ายื่นมือเข้าช่วย เกิดมีโอกาสครั้งต่อไป รับรองว่าคนแบบนี้คงย้อนกลับมาแว้งกัดเธออีกแน่“ทนายสือ คุณจะใจร้ายใจดำขนาดนี้จริง ๆ เหรอคะ? คุณอยากบีบให้พวกเราแม่ลูกต้องตายจริง ๆ ใช่ไหม?!”สืออวี๋ไม่แม้แต่จะหยุดเท้า เดินตรงเข้าไปในตัวอาคารทันทีหวังจือจือมองทิศทางที่แผ่นหลังของทนายสาวหายลับไป ในดวงตาทอประกายอาฆาตแค้นในเมื่อสืออวี๋ไม่ยอมช่วยเธอ ก็อย่าหาว่าเธอใจด

  • คุณกับเลขาเกิดมาคู่กัน แล้วจะมาคุกเข่าในงานแต่งฉันทำไม?   บทที่ 139

    สืออวี๋เปิดหน้าต่างแชต พิจารณาดูอยู่ครู่หนึ่ง ก็รู้สึกถูกใจสไตล์การตกแต่งห้องสองห้องในนั้นมากทีเดียวเธอส่งรูปห้องทั้งสองนั้นให้นายหน้า พร้อมทั้งบอกเขาว่าสองห้องนี้ค่อนข้างดีนายหน้ารีบตอบกลับ ถามเธอว่าคืนนี้มีเวลาไหม ถ้ามีเวลา เขาก็ช่วยพาเธอไปดูห้องได้เลยทันทีหลังนัดแนะกับนายหน้าเรียบร้อยว่าจะไปดูห้องตอนหนึ่งทุ่ม สืออวี๋ก็วางมือถือลงและเริ่มเตรียมอาหารกลางวันพริบตาเดียวก็ถึงตอนเย็น เมื่อป้าอู๋มาแล้ว สืออวี๋ก็เก็บข้าวของเตรียมตัวกลับแต่ก่อนจะไป คุณย่าสือก็เตือนเธอว่า “อย่าลืมเก็บของให้เรียบร้อย ถ้าแกไม่มีเวลาเก็บ เดี๋ยวย่าจะให้คนรับใช้สองคนไปช่วยเก็บให้เอง”สืออวี๋ไม่ชอบให้คนอื่นมายุ่มย่ามกับข้าวของส่วนตัวของเธอมาแต่ไหนแต่ไร จึงส่ายหน้าปฏิเสธ “ไม่เป็นไรค่ะ หนูขอเวลาสักวันสองวัน รับรองว่าเก็บเรียบร้อยแน่นอน”อีกอย่าง เธอแค่กลับไปอยู่บ้านเก่าชั่วคราวเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องขนของอะไรไปเยอะแยะ ไม่งั้นเวลาย้ายเข้าย้ายออกคงลำบากน่าดู“ดีแล้ว อย่าขับรถให้มันเร็วนักล่ะ อย่าลืมดูแลตัวเองด้วย”“ทราบแล้วค่า”หลังไปดูห้องพักทั้งสองห้องกับนายหน้าเสร็จเรียบร้อย สืออวี๋ก็ถูกใจห้องที่ตกแต่ง

  • คุณกับเลขาเกิดมาคู่กัน แล้วจะมาคุกเข่าในงานแต่งฉันทำไม?   บทที่ 138

    “หุบปากซะ!”เสียงตวาดด้วยความโมโหของคุณย่าสือ ทำให้สือหมิงฮุยสะดุ้งโหยงเขามองไปที่คุณย่าสือ เมื่อเห็นใบหน้าของอีกฝ่ายแดงก่ำ ร่างกายสั่นสะท้าน จึงรีบเดินเข้าไปประคอง“แม่ครับ เป็นอะไรหรือเปล่าครับ?”“เพี๊ยะ!”ในจังหวะที่เข้าไปใกล้ คุณย่าสือก็สะบัดฝ่ามือตบหน้าเขาไปฉาดหนึ่งสือหมิงฮุยถึงกับงุนงงในแรงตบนั้น นับตั้งแต่เขาบรรลุนิติภาวะ คุณย่าสือก็ไม่เคยลงไม้ลงมือกับเขาเลยแม้แต่ปีที่เขาตัดขาดความสัมพันธ์กับสืออวี๋ คุณย่าสือก็แค่ทะเลาะกับเขาครั้งใหญ่ และไม่พูดกับเขาไปปีกว่าไม่นึกเลยว่าวันนี้ คุณย่าสือจะลงมือตบตีเขาสือหมิงฮุยทำหน้าไม่ถูก มองคุณย่าสือทั้งที่บนใบหน้ามีรอยนิ้วมือแดงเถือก“แม่ครับ แม่ตบผมทำไม?”คุณย่าสือหน้าเขียวคล้ำ “แกไม่สมควรโดนตบหรือไง?! ตอนที่สืออวี๋กลับมาบ้านตระกูลสือ แกจะลำเอียงเข้าข้างสือม่านยังไงก็ช่าง ยังไงแกกับโจวฉินก็เลี้ยงสือม่านมากับมือ ย่อมผูกพันกันเป็นธรรมดา แต่ใจคนเราไม่ใช่ก้อนหิน ต่อให้ฉันรู้สึกว่าสิ่งที่แกกับโจวฉินทำมันไม่ถูกต้อง แต่ก็ไม่อยากพูดอะไร”“แต่นี่คนนอกเข้ามากลั่นแกล้งถึงหัวลูกสาวแกแท้ ๆ แกยังจะช่วยคนนอกซ้ำเติมลูกสาวตัวเองอีก สือหมิงฮุย

  • คุณกับเลขาเกิดมาคู่กัน แล้วจะมาคุกเข่าในงานแต่งฉันทำไม?   บทที่ 137

    คุณย่าสือไม่ได้อยากให้สืออวี๋เหน็ดเหนื่อยขนาดนั้น ท่านหวังเพียงให้สืออวี๋ได้เป็นเหมือนคุณหนูตระกูลสือคนอื่น ๆ ที่ไม่ต้องกังวลกับการหาเลี้ยงชีพ ขอแค่ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรัก มีความสุขกับชีวิตก็พอแต่ท่านก็เข้าใจดีว่า ต่อให้ตนมอบเงินทองมากมายให้แก่สืออวี๋ สืออวี๋ก็คงไม่เลิกทำงานอยู่ดีความรักจากพ่อแม่ที่ขาดหายไปในวัยเด็ก คือสิ่งที่แม้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ ก็ไม่สามารถชดเชยกลับคืนมาได้“อย่าทำงานหักโหมเกินไปแล้วกัน หาจุดสมดุลระหว่างการทำงานกับการพักผ่อนให้ได้ ถึงหาเงินแต่ก็ต้องใส่ใจสุขภาพด้วย”สืออวี๋พยักหน้า “คุณย่า หนูเข้าใจแล้วค่ะ”เมื่อเธอพูดจบ ประตูห้องพักผู้ป่วยก็ถูกเปิดออกพอดีสองย่าหลานหันไปมองที่ประตู จึงได้เห็นสือหมิงฮุยเดินเข้ามาด้วยใบหน้าบูดบึ้งเมื่อเห็นเขา สืออวี๋ก็ไม่ได้รู้สึกอะไรนัก เธอลุกขึ้นกล่าวว่า “คุณย่าคะ เดี๋ยวหนูขอไปดูหน่อยว่ามื้อกลางวันทำอะไรกินดี”“ไปเถอะ”จังหวะที่สืออวี๋กำลังจะเดินไปทางห้องครัว สือหมิงฮุยก็ขมวดคิ้วเรียกไว้ “เดี๋ยวก่อน พ่อมีเรื่องจะคุยด้วย”สืออวี๋มองเขา สีหน้าเย็นชา “ถ้าจะมาคุยเรื่องที่คุณโจวเคยบอกไว้ก่อนหน้านี้ ก็ไม่ต้องเสียเวลาพูดหรอกค่ะ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status