แชร์

บทที่ 129

ผู้เขียน: ชุนกวงห่าว
สืออวี๋เหลือบมองบัตรที่โจวฉินยื่นมา ก่อนจะยกมุมปากยิ้มเล็กน้อย

สีหน้าของโจวฉินดูย่ำแย่ “แกยิ้มอะไร?”

“เปล่าค่ะ บัตรนี่คุณเก็บกลับไปเถอะ ฉันไม่ถอนฟ้องหรอก”

“สืออวี๋ แกต้องทำให้ทุกคนอึดอัดใจถึงจะพอใจใช่ไหม?”

สืออวี๋เงยหน้ามองเธอ “คุณโจว ถึงจะอึดอัดใจ นั่นก็เป็นสิ่งที่คุณหาเรื่องเองทั้งนั้น เรื่องที่ฉันจะฟ้องหานเชี่ยนหรือไม่ มันก็เป็นเรื่องของฉัน ไม่เกี่ยวกับคุณแม้แต่น้อย เป็นคุณเองต่างหากที่เข้ามายุ่งไม่เข้าเรื่อง”

“แกพูดอีกทีสิ?!”

ขณะที่โจวฉินกำลังจะระเบิดอารมณ์อีกครั้ง ก็มีเสียงกระแอมดังมาจากด้านบนของบันได

สีหน้าของโจวฉินเปลี่ยนไป เธอเงยหน้าขึ้นมอง “ใครอยู่ตรงนั้น?!”

ร่างสูงสง่าในชุดสะอาดตาเดินลงมาจากชั้นบน เมื่อเห็นชัดว่าเป็นซือเยี่ยน สืออวี๋ก็เม้มปากเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยทักทาย

“หมอซือ”

ซือเยี่ยนพยักหน้า “ขอโทษด้วยครับ ที่รบกวนพวกคุณคุยกัน”

โจวฉินที่อยู่ด้านข้างมีใบหน้าเขียวคล้ำ เมื่อเห็นเสื้อกาวน์สีขาวบนตัวซือเยี่ยนและวิธีที่สืออวี๋เรียกเขา เธอก็พูดเสียงเย็นชาว่า “คุณเป็นหมอของโรงพยาบาลนี้เหรอ?”

ซือเยี่ยนมองเธอ “ครับ”

โจวฉินแค่นเสียงหัวเราะ “ไม่รู้เหมือนกันว่าโรงพยาบาลนี้ฝ
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทล่าสุด

  • คุณกับเลขาเกิดมาคู่กัน แล้วจะมาคุกเข่าในงานแต่งฉันทำไม?   บทที่ 453

    “ตกลงครับ”ซือเยี่ยนสตาร์ทรถแล้วขับออกไปโจวฉินยืนส่งอยู่ที่หน้าประตู มองตามรถที่แล่นไกลออกไปจนลับสายตา จึงค่อยละสายตาแล้วหันหลังเดินกลับเข้าไปในบ้านระหว่างทางกลับ สืออวี๋ถามซือเยี่ยนว่าหลังจากนี้เขาต้องเดินทางไปกลับระหว่างเมืองเซินกับเมืองหลวงบ่อย ๆ ใช่ไหมซือเยี่ยนพยักหน้า “อืม อีกอย่างผมเพิ่งเข้ามารับช่วงต่อซือซื่อได้ไม่นาน ที่บริษัทมีงานหลายอย่างที่ต้องลงไปจัดการหน้างานด้วยตัวเอง คงต้องบินไปกลับบ่อยหน่อย”“ถ้าไม่มีธุระอะไร คุณก็พยายามอยู่ที่เมืองหลวงเถอะค่ะ ไม่งั้นต้องนั่งเครื่องบินตลอด เหนื่อยแย่เลย”“แต่ผมจะคิดถึงคุณ”เมื่อสบเข้ากับแววตาคู่ลึกซึ้งของซือเยี่ยน ใบหน้าของสืออวี๋ก็ร้อนผ่าวขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว เธอรีบหลบสายตาเขาโดยสัญชาตญาณ“ถะ... ถ้าคุณคิดถึงฉันมาก ฉันอาจจะแวะไปหาคุณที่เมืองหลวงบ้างก็ได้”ซือเยี่ยนอดไม่ได้ที่จะยกยิ้มที่มุมปาก เขาพยักหน้ากล่าวว่า “ตกลงครับ”สัญญาณไฟเปลี่ยนเป็นสีเขียว ซือเยี่ยนจึงออกรถแต่เพิ่งจะพ้นสี่แยกมาได้ไม่นาน จู่ ๆ รถบรรทุกคันใหญ่จากเลนสวนก็พุ่งตรงเข้ามาหาพวกเขาเนื่องจากตรงนี้เป็นถนนเลนเดียว จึงไม่มีทางให้หลบเลี่ยงได้เลยสีหน้าของซ

  • คุณกับเลขาเกิดมาคู่กัน แล้วจะมาคุกเข่าในงานแต่งฉันทำไม?   บทที่ 452

    เมื่อได้ยินเช่นนั้น ในที่สุดมุมปากของซือเยี่ยนก็ยกยิ้มขึ้น เขาหลุบตาลงมองพลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “จนปัญญาจะรับมือกับคุณจริง ๆ”ทั้งสองจูงมือกันเดินออกจากสนามบิน ระหว่างทางกลับบ้าน สืออวี๋ได้รับสายจากคุณย่าสือ ท่านบอกให้เธอพาซือเยี่ยนกลับไปทานข้าวเย็นที่บ้านสืออวี๋หันไปมองซือเยี่ยน แล้วบอกเรื่องที่คุณย่าอยากชวนเขาไปทานข้าวที่บ้านใหญ่พอซือเยี่ยนตกลง เธอถึงได้รับปากคุณย่า พร้อมกับกำชับเมนูโปรดของซือเยี่ยนไปสองสามอย่างก่อนจะวางสายช่วงพลบค่ำ ซือเยี่ยนหิ้วของขวัญเดินเข้ามาในบ้านเก่าตระกูลสือพร้อมกับสืออวี๋ทว่าเมื่อก้าวเข้ามาในห้องรับแขกและเห็นว่าสือหมิงฮุยกับโจวฉินก็อยู่ด้วย คิ้วของสืออวี๋ก็ขมวดมุ่นขึ้นเล็กน้อย แต่เธอก็ทำเป็นมองไม่เห็นพวกเขา แล้วเดินตรงไปนั่งลงข้าง ๆ คุณย่าทันที“คุณย่าคะ”“อืม”คุณย่าสือตบหลังมือเธอเบา ๆ ก่อนจะหันไปพูดกับซือเยี่ยนว่า “หมอซือมาแล้วเหรอ ทำไมถึงซื้อของมาเยอะแยะขนาดนี้ล่ะ รีบนั่งลงก่อนสิ”ซือเยี่ยนส่งของขวัญในมือให้ป้าอู๋ แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “คุณย่าครับ นี่เป็นพวกของบำรุงที่ผมซื้อมาฝาก ไม่ใช่ของมีค่าอะไรหรอกครับ”“มีน้ำใจจริง ๆ”ทั้งหมดนั่ง

  • คุณกับเลขาเกิดมาคู่กัน แล้วจะมาคุกเข่าในงานแต่งฉันทำไม?   บทที่ 451

    เหลียงหยวนโจวรับฟังด้วยสีหน้าเย็นชา นัยน์ตาคมคู่นั้นไร้ซึ่งอารมณ์ความรู้สึกใดเจือปนจนกระทั่งเสินหลีพูดจบ เขาจึงเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “คืนนี้ผมมีงานต้องทำ คงไม่ได้ไปหาแล้วนะ”เสินหลีน้ำเสียงเจือความผิดหวังเล็กน้อย “งั้นก็ได้ค่ะ... คุณก็อย่าทำงานดึกนักนะ พักผ่อนเร็ว ๆ นะคะ”“อืม แค่นี้นะ”ทันทีที่วางสาย เหลียงหยวนโจวก็สั่งคนขับรถเสียงเข้ม “ไปบริษัท”เขามีห้องพักผ่อนส่วนตัวอยู่ที่บริษัท วันไหนที่ต้องทำงานล่วงเวลาจนดึกดื่นก็จะนอนค้างที่นั่นเลยช่วงนี้เซี่ยงชินเฟินเอาแต่เร่งรัดให้เขาแต่งงานกับเสินหลี แต่เขาไม่มีความสนใจเรื่องนี้เลยแม้แต่น้อย และไม่ได้มีความคิดอยากจะแต่งงานด้วยเซี่ยงชินเฟินเคยถามเขาว่ายังคิดจะกลับไปคบกับสืออวี๋อีกหรือเปล่า เขาไม่ได้ตอบอะไร ทำเอาเซี่ยงชินเฟินโมโหจนด่าว่าเขาเสียยกใหญ่ความจริงเหลียงหยวนโจวรู้ดีอยู่แก่ใจว่าเรื่องระหว่างเขากับสืออวี๋มันเป็นไปไม่ได้แล้ว แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังไม่อยากแต่งงานกับเสินหลีอยู่ดีเพราะตราบใดที่ยังไม่แต่งงาน เขาก็ยังมีความหวังลม ๆ แล้ง ๆ หลงเหลืออยู่บ้างแต่หากแต่งงานไปแล้ว ชาตินี้เขากับสืออวี๋คงหมดหวังที่จะได้คู่กันอย

  • คุณกับเลขาเกิดมาคู่กัน แล้วจะมาคุกเข่าในงานแต่งฉันทำไม?   บทที่ 450

    ผู้ชนแก้วรีบยกสุราของตนขึ้นดื่มจนหมดด้วยความลนลาน ไม่รู้ว่าตาฝาดไปเองหรือไม่ แต่เขารู้สึกเหมือนหางตาของเหลียงหยวนโจวดูจะแดงเรื่อขึ้นมาเล็กน้อยหลังดื่มวนกันไปสามรอบ เหลียงหยวนโจวก็ดื่มไปไม่น้อยทีเดียวแก้มที่เดิมขาวสะอาดก็กลายเป็นสีแดงจาง ๆ แววตาลดความกระจ่างใสลงไปหลายส่วน และเพิ่มความเลื่อนลอยขึ้นมาแทนที่ธุระที่ควรคุยก็คุยกันไปเกือบหมดแล้ว ผู้คนในวงสนทนาจึงเริ่มพูดคุยสัพเพเหระเหลียงหยวนโจวไม่มีความสนใจในหัวข้อที่พวกเขาคุยกัน จึงลุกขึ้นคว้าเสื้อสูทตัวนอกมาถือพลางขอตัวกลับคนที่อยู่ในวงไม่กล้ารั้งตัวเขาไว้ หลังร่ำลากันตามมารยาทไม่กี่คำ เหลียงหยวนโจวก็หมุนตัวเดินออกไปคืนนี้ดื่มไปไม่น้อย เวลานี้เขาเพียงรู้สึกปวดตุบที่ขมับ ฝีเท้าก็ไม่ได้หนักแน่นมั่นคงเช่นปกติเมื่อออกจากห้องส่วนตัว เขาก็เลี้ยวไปเข้าห้องน้ำกระทั่งวักน้ำขึ้นมาล้างหน้าจากอ่างล้างมือ สมองจึงตื่นตัวขึ้นเล็กน้อยขณะหันหลังเตรียมเดินจากไป หางตาก็เหลือบไปเห็นใครคนหนึ่งที่สุดปลายทางเดินดูคุ้นตาชอบกลเหลียงหยวนโจวหันไปมอง ก็จำได้ว่าฝ่ายนั้นคือผู้จัดการใหญ่ของบริษัทเล็ก ๆ แห่งหนึ่งที่อยู่ในห้องจัดเลี้ยงเมื่อครู่ เป็นค

  • คุณกับเลขาเกิดมาคู่กัน แล้วจะมาคุกเข่าในงานแต่งฉันทำไม?   บทที่ 449

    ตระกูลซือในเมืองหลวงเรียกได้ว่าเป็นผู้มีอิทธิพลล้นฟ้า แต่ตอนนี้ซือเยี่ยนกลับยอมลงทุนมาเปิดบริษัทสาขาที่เมืองเซินเพื่อสืออวี๋ แค่คิดก็รู้สึกเหลือเชื่อแล้วสืออวี๋อดขำไม่ได้ "ฉันเป็นแค่เหตุผลรองเท่านั้นแหละ เดิมทีเขาก็เตรียมหาเมืองสักเมืองมาเปิดสาขาอยู่แล้ว แค่พอดีว่าฉันอยู่เมืองเซิน เขาก็เลยเลือกมาเมืองเซินก่อน"เธอไม่ได้คิดว่าตัวเองจะสำคัญต่อจิตใจของซือเยี่ยนถึงขนาดนั้น อีกอย่างซือเยี่ยนก็ไม่ใช่คนประเภทที่เอาเรื่องส่วนตัวมาทำให้ผลประโยชน์ของบริษัทเสียหายด้วย"งั้นก็แสดงว่าเธอสำคัญต่อใจเขามากนะ อิจฉาชะมัด ยิ่งนึกถึงเมื่อก่อนตอนเธอคบกับเหลียงหยวนโจว มีแต่เธอที่ต้องหาเงินช่วยเขาสร้างเนื้อสร้างตัว แต่ผลสุดท้ายพอไอ้เวรตะไลนั่นประสบความสำเร็จ ก็ดันไปมีกิ๊กซะงั้น!"ขณะนึกถึงสิ่งที่สืออวี๋เคยทุ่มเทให้เหลียงหยวนโจว ซ่งจื่ออินก็ยังรู้สึกเดือดดาลไม่หายยามพูดถึงเหลียงหยวนโจว ในใจของสืออวี๋ก็ไม่มีความรู้สึกใด ๆ หลงเหลืออยู่อีกแล้ว"เรื่องมันผ่านไปแล้ว ฉันไม่เก็บมาใส่ใจแล้วล่ะ"ซ่งจื่ออินแค่นเสียงหึ "ฉันไม่ได้ใจกว้างเหมือนเธอนี่ พอนึกถึงว่านังแพศยาเสินหลีกลายเป็นคู่หมั้นของเหลียงหยวนโจวแล้ว

  • คุณกับเลขาเกิดมาคู่กัน แล้วจะมาคุกเข่าในงานแต่งฉันทำไม?   บทที่ 448

    ซือเยี่ยนชะลอฝีเท้า หยุดนิ่งอยู่กับที่ครู่หนึ่ง แต่สุดท้ายก็เดินจากไปโดยไม่หันกลับมามองอีกเลยดวงตาของคุณย่าซือฉายแววผิดหวังเล็กน้อย แม้ซือเยี่ยนจะยอมกลับมาทำงานที่ซือซื่อแล้ว แต่เห็นได้ชัดว่าเขายังไม่ให้อภัยท่านแต่เหตุการณ์เมื่อห้าปีก่อน ท่านเลือกช่วยชีวิตได้เพียงคนเดียวเท่านั้นไม่ว่าเป็นใครหน้าไหน ก็ต้องเลือกช่วยลูกชายตัวเองทั้งสิ้นดังนั้น แม้ท่านจะรู้สึกผิดอยู่ลึก ๆ แต่ก็ไม่ได้นึกเสียใจต่อให้ย้อนเวลากลับไปได้อีกครั้ง ท่านก็ยังจะเลือกช่วยชีวิตซือเยี่ยนอยู่ดีเมืองเซินซือห่าวอวี่เพิ่งว่าความเสร็จ จังหวะเดินพ้นประตูศาลออกมาก็ได้รับสายจากเฉียวหว่านอี๋ทันที"ห่าวอวี่ เรื่องที่พ่อแกถูกลักพาตัว แกคงได้ข่าวแล้วใช่ไหม?"ซือห่าวอวี่ตอบพลางเดินมุ่งหน้าออกมาด้านนอก "ใช่ครับ ได้ยินมาว่าขาพิการทั้งสองข้าง ชีวิตนี้คงไม่มีวันลุกขึ้นยืนได้อีก""...อืม ที่แม่โทรมาหาวันนี้ ก็เพื่อจะบอกว่า แม่เตรียมหย่ากับเขาแล้วน่ะ"ปล่อยให้คาราคาซังมาหลายปี ถึงเวลาต้องหย่ากันเสียทีเมื่อก่อนด้วยเห็นแก่ซือห่าวอวี่ และต่อมาก็เพราะทิฐิที่สุมอยู่ในอก เธอจึงไม่ยอมหย่า เนื่องจากไม่ต้องการให้ซือหวยอันกับหร่

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status