Share

บทที่99

Penulis: ชุนกวงห่าว
ซือเยี่ยนเห็นกล่องในมือของเธอ แววตามีความประหลาดใจวาบผ่านไป

“ลาออกแล้วเหรอ?”

สืออวี๋พยักหน้า “ก็ประมาณนั้น”

“แล้วช่วงนี้คุณมีแผนจะหางานใหม่ไหม?”

“ยังไม่มี ขอพักสักระยะหนึ่งก่อนแล้วค่อยว่ากันเถอะ”

ก่อนที่เรื่องระหว่างเธอกับเหลียงหยวนโจวยังจัดการไม่เสร็จ ไม่ว่าจะหางานอะไร เหลียงหยวนโจวก็ต้องเข้ามาขัดขวางแน่นอน

อีกอย่างก่อนหน้านี้เฉียนเหว่ยเคยแนะนำให้เธอไปเรียนต่อปริญญาโท ซึ่งเธอเองก็กำลังพิจารณาอยู่

ตอนเรียนมหาวิทยาลัย เธอเรียนวิชาหลักได้คะแนนดีมาก เดิมทีสามารถเรียนต่อโดยไม่ต้องสอบ แต่เพราะเหลียงหยวนโจวกำลังเริ่มสร้างธุรกิจ ต้องมีเงินทุนสนับสนุน ดังนั้นหลังเรียนจบเธอก็ออกมาทำงานหาเงินให้เขาสร้างธุนกิจ

การไม่ได้เรียนต่อปริญญาโทเป็นปมในใจของเธอมาตลอด ตอนนี้มีโอกาสอยู่พอดี เธอจึงจะคิดพิจารณาดูดีๆว่า จะทำงานต่อ หรือไปเรียกต่อดี

“อืม ผมรู้จักหัวหน้าสำนักงานกฎหมายอยู่หลายคน ถ้าคุณอยากหางาน ผมสามารถช่วยคุณแนะนำได้”

สืออวี๋หันมองเขา “ขอบคุณค่ะ คุณซือ”

แต่เธอไม่ได้คิดจะให้ซือเยี่ยนช่วย เพราะเธอไม่อยากสร้างปัญหาให้เขา

ด้วยนิสัยของเหลียงหยวนโจวแล้ว ครั้งนี้คงไม่ปล่อยให้เธอหางานได้อย่างง
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terbaru

  • คุณกับเลขาเกิดมาคู่กัน แล้วจะมาคุกเข่าในงานแต่งฉันทำไม?   บทที่ 170

    บนเวที สีหน้าของคุณย่าสือในตอนนี้ ยากจะใช้คำว่าเคร่งขรึมมาอธิบายได้อีกต่อไป ถ้าไม่ใช่เพราะท่านขาหักอยู่ ป่านนี้คงลุกพรวดขึ้นไปตบหน้าโจวฉินสักฉาดสองฉาดแล้วท่านหันไปทางป้าอู๋ “ไปเอาไมโครโฟนมาให้ฉัน”“ค่ะ คุณท่าน”ป้าอู๋เดินเข้าไปข้างกายโจวฉิน “คุณผู้หญิงคะ รบกวนส่งไมโครโฟนให้ดิฉันด้วยค่ะ”เมื่อตระหนักได้ว่าคุณย่าสือต้องการจะทำอะไร โจวฉินก็เผลอตัวจะซ่อนไมโครโฟนไว้ข้างหลัง ทว่ายังไม่ทันได้ขยับ ข้อมือก็ถูกป้าอู๋คว้าไว้แน่น“เจ็บ!”โจวฉินผู้ใช้ชีวิตอย่างสุขสบายมาตลอด ไม่เคยถูกใครปฏิบัติเช่นนี้มาก่อน ด้วยความตกใจจึงปล่อยมือออกไปโดยไม่รู้ตัวป้าอู๋ฉวยจังหวะนั้นคว้าไมโครโฟนมา ก่อนจะปล่อยมือเธอแล้วหันกลับไปทางคุณท่านโจวฉินพยายามจะแย่งไมโครโฟนคืน แต่ก็ถูกสือหมิงฮุยขวางไว้“สือหมิงฮุย คุณจะทำอะไร?! หลีกไปนะ!”สือหมิงฮุยจ้องเธออย่างเย็นชา “นี่ยังขายหน้าไม่พออีกหรือไง?! ถ้ารู้แต่แรกว่าคุณจะพูดจาแบบนี้ เมื่อกี้ผมไม่ยอมให้คุณขึ้นมาด้วยหรอก!”โจวฉินแค่นหัวเราะ ถ้าไม่ใช่เพราะเขาเอาแต่ลำเอียงเข้าข้างสืออวี๋ ทั้งยังไม่ยอมไปพูดกับคุณย่าสือเรื่องให้สือม่านจัดงานเลี้ยงพร้อมกันกับสืออวี๋ เธอก็คงไ

  • คุณกับเลขาเกิดมาคู่กัน แล้วจะมาคุกเข่าในงานแต่งฉันทำไม?   บทที่ 169

    นายท่านสือด่วนจากไปตั้งแต่ยังหนุ่ม คุณย่าสือจึงต้องแบกรับภาระตระกูลสือทั้งหมดไว้เพียงลำพังตั้งแต่อายุยังน้อย หากไม่ใช่เพราะท่าน กิจการของตระกูลสือคงถูกบรรดาญาติสายรองฮุบไปจนหมดสิ้นแล้ว ดังนั้นโจวฉินจึงรู้สึกยำเกรงแม่สามีผู้นี้อยู่หลายส่วนพอคิดถึงสิ่งที่ตัวเองกำลังจะทำในงานเลี้ยงคืนนี้ โจวฉินก็อดรู้สึกร้อนตัวขึ้นมาไม่ได้ จนไม่กล้าสบตากับคุณย่าสือเมื่อเห็นว่าเธอสงบปากสงบคำ คุณย่าสือจึงหันไปทางป้าอู๋ “เข็นฉันไปที่ห้องจัดเลี้ยง”เมื่อมาถึงห้องจัดเลี้ยง เมื่อมองภาพความคึกคักโอ่อ่าด้านใน คุณย่าสือก็แย้มยิ้มออกมาพ้นจากวันนี้ไป จะไม่มีใครกล้าดูแคลนสืออวี๋อีกต่อไปที่ท่านจัดงานเลี้ยงนี้ขึ้น หนึ่งคือเพื่อประกาศให้ทุกคนรับรู้ว่าสืออวี๋ได้กลับคืนสู่ตระกูลสืออย่างเป็นทางการ และสองคือเพื่อปูทางสำหรับอนาคตของสืออวี๋ทันทีที่คุณย่าสือปรากฏตัว สายตาทุกคู่ในงานก็จับจ้องมาที่ท่านเป็นจุดเดียวสือหมิงฮุยและโจวฉินเดินตามหลัง ทั้งหมดพากันขึ้นไปบนเวทีคุณย่าสือรับไมโครโฟนไปถือ กระแอมเล็กน้อยก่อนจะกล่าวว่า “ขอบคุณทุกท่านที่มาร่วมงานเลี้ยงในวันนี้ งานนี้จัดขึ้นเพื่อสืออวี๋ หลานสาวของฉัน ในปีนั้นที่แม

  • คุณกับเลขาเกิดมาคู่กัน แล้วจะมาคุกเข่าในงานแต่งฉันทำไม?   บทที่ 168

    “อาอวี๋ ผมทำไปก็เพื่อคุณ คืนนี้คุณเป็นเจ้าภาพ ถ้ามัวแต่จับผิดแขกไม่เลิกรา คนอื่นเขาจะมองว่าคุณใจแคบเกินไปได้”สืออวี๋นึกขำในใจ คำว่า ใจกว้างที่เหลียงหยวนโจวพูดถึง ก็คือการบังคับให้เธอยอมกล้ำกลืนฝืนทนเขานี่ช่างสวมบทคนดีได้จริง ๆ“ฉันแค่อยากรู้ว่าข่าวลือที่คุณหนูต่งพูดถึงมันคืออะไร นี่ก็ผิดด้วยเหรอคะ?”เหลียงหยวนโจวหน้าเสียไปทันที เขารู้สึกว่าสืออวี๋ช่างไม่รู้จักมองภาพรวมเอาเสียเลยเพิ่งกลับมาตระกูลสือก็ทำตัวอวดดีขนาดนี้ มีหวังทำให้คนตระกูลสือกับคุณย่าสือไม่พอใจ จนโดนพวกเขารังเกียจซ้ำรอยเดิมแน่“อาอวี๋ ผมก็แค่อยาก...”ยังไม่ทันพูดจบ สีหน้าของเหลียงหยวนโจวก็พลันเปลี่ยนไปในจังหวะที่ทั้งสองกำลังคุยกัน ซือเยี่ยนก็เดินมาหยุดอยู่ข้างกายสืออวี๋ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ทราบ เขาถอดเสื้อสูทของตัวเองออกแล้วคลุมลงบนไหล่ของเธอผู้คนรอบข้างต่างชะงักไป หลายคนเริ่มสบตากันไปมา ใบหน้าเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นก่อนหน้านี้สืออวี๋ก็ออกโรงปกป้องซือเยี่ยนขนาดนั้น ตอนนี้ซือเยี่ยนยังมาคลุมสูทให้เธอต่อหน้าคนมากมายขนาดนี้ หรือว่าสองคนนี้แอบคบกันอยู่?ในงานมีคนส่วนหนึ่งที่รู้เรื่องที่สืออวี๋เคยแตกหักกับต

  • คุณกับเลขาเกิดมาคู่กัน แล้วจะมาคุกเข่าในงานแต่งฉันทำไม?   บทที่ 167

    พอจับน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยการเยาะเย้ยและเหน็บแนมของอีกฝ่ายได้ สายตาของคนรอบข้างต่างก็ฉายแววสะใจก็เพราะพวกเขาทุกคนรู้ดีว่าตระกูลสือเพิ่งไปรับสืออวี๋มาจากบ้านนอกตอนเธออายุสิบหก ในสายตาของพวกเขา สืออวี๋ก็เป็นแค่คนบ้านนอกคนหนึ่ง หากไม่ใช่เพราะเธอเป็นลูกสาวแท้ ๆ ของตระกูลสือ ก็ไม่มีทางคู่ควรพอที่จะมายืนอยู่ตรงนี้ร่วมกับพวกเขาด้วยซ้ำสืออวี๋มองไปที่เธอ พยักหน้าแล้วกล่าวว่า “เมื่อก่อนไม่รู้ก็ไม่เป็นไรค่ะ แต่ตอนนี้คุณรู้แล้ว งั้นก็ช่วยขอโทษเพื่อนของฉันสำหรับการเสียมารยาทเมื่อสักครู่ด้วย”แววตาของหญิงสาวฉายแววไม่อยากจะเชื่อ “คุณจะให้ฉันขอโทษเขางั้นเหรอ? นี่คุณล้อฉันเล่นหรือเปล่า?”คนที่อยู่ในงานนี้ล้วนแต่เป็นผู้มีหน้ามีตาในสังคม ถ้าเธอต้องมาขอโทษหมอคนหนึ่งต่อหน้าสาธารณชน แล้วต่อไปเธอจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนได้อีก?สืออวี๋จ้องมองเธอ แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ฉันไม่รู้จักคุณ และฉันก็ไม่มีนิสัยชอบพูดล้อเล่นกับคนที่ไม่สนิทด้วยค่ะ”พอเห็นเธอออกตัวปกป้องซือเยี่ยนขนาดนั้น เหลียงหยวนโจวก็ทนดูต่อไปไม่ไหว เขาเอ่ยปากพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “สืออวี๋ เมื่อกี้ซือเยี่ยนเป็นฝ่ายเริ่มด่าคุณหนูต่งก่อน คุณ

  • คุณกับเลขาเกิดมาคู่กัน แล้วจะมาคุกเข่าในงานแต่งฉันทำไม?   บทที่ 166

    พอเห็นท่าทีเอาจริงเอาจังของหญิงสาว คนใช้ก็มีสีหน้าลังเล“ฉันต้องไปเรียนถามคุณท่านก่อนนะคะ...”ถ้าหากว่าอีกฝ่ายเป็นแขกที่คุณท่านเชิญมาจริง ๆ แล้วดันไล่แขกกลับไปแบบนี้ คุณท่านต้องตำหนิเธอแน่ยังไม่ทันพูดจบประโยค ก็ถูกผู้หญิงคนนั้นเอ่ยขัดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา“งานเลี้ยงจะเริ่มอยู่แล้ว เธอยังจะให้พวกเราทุกคนมารอเธอไปถามคุณท่านให้เสียเวลาอีกเหรอ? เธอรู้จักประธานเหลียงใช่ไหม? เขาเป็นพยานได้เลยว่าผู้ชายคนนี้ก็แค่หมอธรรมดาคนหนึ่ง วันนี้คนที่มาที่นี่ล้วนเป็นผู้มีหน้ามีตาในเมืองเซินทั้งนั้น เธอคิดว่าคุณย่าสือจะเชิญหมอธรรมดามาร่วมงานเลี้ยงด้วยงั้นเหรอ?”คนใช้หันไปมองเหลียงหยวนโจว “ประธานเหลียงคะ เขาเป็นแค่หมอธรรมดาจริง ๆ เหรอคะ?”เหลียงหยวนโจวพยักหน้า “อืม”เมื่อเห็นเหลียงหยวนโจวคล้อยตามคำพูดของผู้หญิงคนนั้น พอคนใช้หันกลับมามองซือเยี่ยนอีกครั้ง สีหน้าก็เคร่งขรึมขึ้น“คุณผู้ชาย ถ้าคุณไม่มีบัตรเชิญ ฉันคงต้องเชิญคุณออกไปจากที่นี่ค่ะ”พอได้ยินดังนั้น หญิงสาวก็แค่นเสียงเยาะ “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก! เดี๋ยวพอ รปภ. มา พวกเขาไม่สุภาพกับแกแบบนี้แน่!”“เขาอาจจะไม่ได้ตั้งใจมากินฟรีดื่มฟรีหรอก บางทีอ

  • คุณกับเลขาเกิดมาคู่กัน แล้วจะมาคุกเข่าในงานแต่งฉันทำไม?   บทที่ 165

    พอเห็นว่าโจวฉินให้ความสำคัญกับสือม่าน ท่าทีของแขกเหรื่อหลายคนในงานที่มีต่อสือม่านจึงเปลี่ยนไปอย่างเงียบ ๆ“คุณนายสือนี่รักลูกบุญธรรมจริง ๆ เมื่อกี้ตอนคุยกันก็เอาแต่ชมลูกบุญธรรมอยู่ตลอด ไม่เอ่ยถึงสืออวี๋เลยสักคำ ท่าทางคงจะไม่ชอบลูกสาวแท้ ๆ คนนี้เอามาก”“หึหึ ไม่ชอบก็ไม่เห็นจะแปลกตรงไหน สาวบ้านนอกคอกนาคนหนึ่ง จะเอาอะไรไปเทียบกับลูกสาวที่เลี้ยงดูปูเสื่อมากับมือ ถ้าเป็นคุณ คุณจะชอบคนไหนมากกว่ากันล่ะ?”“ได้ยินมาว่าพอสืออวี๋กลับมาบ้านตระกูลสือ ก็ก่อเรื่องไม่หยุด พยายามจะไล่สือม่านออกไปให้ได้ คนทั้งบ้านตระกูลสือเลยพากันรังเกียจเธอ หาว่าเธอเป็นคนใจแคบ”เหลียงหยวนโจวกำลังยืนคุยกับหุ้นส่วนธุรกิจของหยวนฮ่าง พอได้ยินคนรอบข้างกำลังพูดจาดูแคลนสืออวี๋ เขาก็ขมวดคิ้ว แต่ก็ไม่ได้เอ่ยปากพูดอะไรก็เพราะคนที่มาร่วมงานเลี้ยงในวันนี้ ล้วนแต่เป็นบุคคลมีหน้ามีตาในเมืองเซิน ขืนเผลอพูดอะไรไม่เข้าหูใครจนไปล่วงเกินคนเข้า แล้วส่งผลกระทบต่อบริษัท มันจะไม่คุ้มกันเลยทว่าขณะที่เขากำลังตั้งใจจะทำเป็นหูทวนลมอยู่นั้นเอง ก็มีน้ำเสียงเย็นเยียบเสียงหนึ่งดังขึ้นจากด้านข้าง“ในเมื่อเป็นแค่เรื่องที่ได้ยินมา ก็อย่าพูดออก

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status