Share

6. ปรับเปลี่ยนความคิด

Author: Lastlatte.
last update Last Updated: 2025-11-04 15:46:18

“เอาเป็นว่าวันนี้เธอกลับไปก่อนแล้วกันเดี๋ยวฉันเรียกคนรถให้ ส่วนเรื่องงานก็พักไปก่อน แต่อีกสามวันฉันจะไปเอาคำตอบว่าเธอยังอยากจะทำงานนี้อยู่ไหม ถ้าไม่ฉันจะหางานอื่นให้ทำแทน” ธนัทพูดขึ้นหลังจากที่บรรยากาศในห้องตกอยู่ในความเงียบมาพักใหญ่ เขาจึงเสนอให้ณดลได้กลับไปคิดทบทวนตัวเองโดยที่ไม่ว่าณดลจะเลือกทางไหนเขาพร้อมที่จะสนับสนุน ขอแค่ให้ณดลสบายใจและยังอยู่กับเขาก็พอ

“คุณธนัทอย่าไล่ผมเลยนะครับ”

“ฉันไม่ได้ไล่แค่อยากให้เธอได้คิดทบทวนว่าจะเอายังไงต่อ ฉันไม่ว่าอะไรถ้าหากเธอไม่อยากทำงานนี้ ฉันจะหางานอื่นให้” ธนัทบอก

“ขอโทษนะครับที่ผมมันไม่ได้เรื่อง ถึงที่ผ่านมาจะเจอแต่คำพูดดูถูกแบบนี้มาตลอดแต่ผม...ก็ไม่ชินกับมันสักที ตอนแรกผมก็ไม่ได้อยากทำงานนี้แต่เพราะคำพูดของคุณ ทำให้ผมอยากจะลองพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น อยากทำให้คุณภูมิใจที่เลือกให้โอกาสคนอย่างผม”

“ถึงผมจะตัวใหญ่เหมือนคิงคองแต่ใจผมมันจิ๊ดเดียวทั้งใจเซาะและก็ขี้กลัว…ที่กลัวที่สุดคือการที่ทำให้คนที่เชื่อมั่น เชื่อใจในตัวผมผิดหวัง ซึ่งมันเคยเกิดขึ้นและจบลงไม่ดีนักสาเหตุก็เพราะความโง่ของผมเอง ทำให้ผมกลัวว่าจะทำให้คุณผิดหวัง กลัวว่าจะทำให้คุณต้องอายเพราะเลือกคนสภาพแบบนี้มาอยู่ข้างๆ” ณดลพูดความกังวลและความในใจออกมาพร้อมสองมือที่ยกขึ้นเช็ดน้ำตา เขาไม่เข้าใจว่าทำไมอยู่ๆถึงร้องไห้ออกมาต่อหน้าธนัทได้ ทั้งที่ผ่านมาแม้จะรู้สึกแย่แค่ไหนเขาก็อดทนกลั้นน้ำตาไว้ได้อยู่เสมอ ก่อนที่จะตัดสินใจเล่าเรื่องในอดีตที่เป็นปมในใจให้กับธนัทฟัง

“ไม่ต้องกังวลเลยว่าฉันจะผิดหวังเพราะฉันรับรู้ในทุกความพยายามของเธอ จากที่ฟังเธอเล่าเขาคนนั้นอาจจะคาดหวังในตัวเธอมากเกินไป พอไม่ได้ดั่งที่หวังก็เลยพาล คนเรามีความถนัดที่แตกต่างกัน งานที่เขาให้เธอทำอาจจะไม่ใช่งานที่ถนัดแต่มันก็ไม่ได้ล้มเหลวนิ เธอแค่ทำออกได้แล้วแต่ยังไม่ได้ดีมากพอให้เขาพอใจ”

“การที่จะปรับเปลี่ยนความคิดและจัดการความกังวลที่เธอมีอยู่อาจจะต้องใช้เวลา แต่ถ้าเธออยากเปลี่ยน ฉันก็พร้อมที่จะช่วยนะ” ธนัทบอกด้วยรอยยิ้ม

หัวใจดวงน้อยของณดลเต้นระรัวไม่เป็นจังหวะกับรอยยิ้มนั้น…มันช่างอบอุ่นและชวนให้หวั่นไหว

“คุณธนัทครับ…ผมอยากปรับเปลี่ยนความคิด ผมอยากเอาชนะตัวเอง ผมอยากเป็นคนที่เก่งขึ้น ผมอยากพัฒนาตัวเองครับ” ณดลรู้สึกดีขึ้นที่ได้พูดคุยกับธนัท

“ได้สิ”

“คุณธนัทจะให้ผมทำงานต่อใช่ไหมครับ”

“ถ้าเธอต้องการ ฉันก็ไม่มีปัญหา”

“ข…ขอบคุณนะครับ” ณดลยกมือไหว้

“ไม่ต้องยกมือไหว้หรอก แค่ขอบคุณกันเฉยๆก็พอ”

“แต่คุณธนัทอายุมากกว่าผมนี่ครับ” ธนัทรู้สึกเจ็บจี๊ดทันทีที่ได้ยิน ไม่คิดว่าณดลคนซื่อจะพูดแบบนี้ออกมา เป็นเหมือนการตอกย้ำว่าเขานั่นแก่กว่าอย่างสุภาพ

“ฉันแค่สาม…สามสิบสี่”

“แต่ผมยี่สิบเจ็ด…”

“ฮึ่มม...นั่นแหละไม่ต้องไหว้ เราคนกันเอง”

“แต่คุณดูดีมากเหมือนอายุยี่สิบต้นๆอยู่เลย”

“จริงเหรอ”

“จริงสิครับ หน้าผมยังดูแก่กว่าคุณอีก” ณดลพูดติดตลก

“เธอก็น่ารักนะ ไม่ได้ดูแก่กว่าวัยซะหน่อย” ธนัทไม่พูดเปล่าแต่กลับขยับเคลื่อนใบหน้าเข้าไปใกล้แล้วใช้สายตามองพิจารณาใบหน้าของณดลที่ไม่ว่าใครจะมองว่ายังไงแต่สำหรับเขาคนตรงหน้านี้น่ารักและน่าจับฟัดเป็นที่สุด

“คุณธนัทพูดให้ผมรู้สึกดีอีกแล้ว”

“ฉันพูดจริง แต่ถ้าเธอกังวลฉันมีทางออก”

“ทางออก?”

“ใช่ กลับบ้านไปเดี๋ยวก็รู้”

“บอกเลยไม่ได้เลยเหรอครับ” ณดลทำตาปริบๆ

“ไม่ได้ เดี๋ยวไม่ตื่นเต้น”

“ก็ได้ครับ”

บรรยากาศในการทำงานของณดลดูผ่อนคลายขึ้นอย่างเห็นได้ชัดแถมยังดูกระตือรือร้นมากขึ้นกว่าเดิม แม้จะทำงานผิดบ้างแต่ธนัทก็เลือกที่จะถามว่าณดลเข้าใจแบบไหนและช่วยพูดอธิบายให้เจ้าตัวเข้าใจได้อย่างถูกต้อง

“ณดลเดี๋ยวเอาแฟ้มเอกสารเล่มนี้ไปให้คุณดวงใจแผนกบัญชี ไปถูกไหม”

“แผนกบัญชีชั้นสองอยู่ทางขวามือตอนออกจากลิฟท์ครับ” ณดลอ่านจากที่เขาจดไว้ในสมุดว่าแผนกไหนอยู่ตรงไหนบ้าง

“เก่งมาก” ณดลยิ้มออกมาเมื่อถูกชม ก่อนจะลุกขึ้นหยิบเอาแฟ้มเอกสารและเดินออกไป

แผนกบัญชี

“ขออนุญาตครับ ผมเอาแฟ้มเอกสารมาคืนให้คุณดวงใจ ไม่ทราบว่าคือคุณคนไหนเหรอครับ” ณลเปิดประตูเข้าไปพร้อมกับเอ่ยถามด้วยความสุขภาพ

“นายไม่รู้เหรอว่าคือคนไหน” หญิงสาววัยกลางคนหนึ่งพูดขึ้น

“ขอโทษด้วยครับ ผมพึ่งมาทำงานวันนี้วันแรกเลยยังจำไม่ค่อยได้ว่าใครเป็นใครบ้าง” ณดลบอก

“งั้นก็รู้ไว้นะว่าฉันชื่อดวงใจนั่งอยู่ที่โต๊ะนี้ แต่ครั้งหน้าเวลาเอาเอกสารมาให้รบกวนวางไว้ที่โต๊ะหน้าห้องดีกว่าไม่ต้องเข้ามาข้างในมันเหม็นสาป” ดวงใจบอกก่อนจะตามมาด้วยเสียงหัวเราะของคนอื่นๆในแผนก

“ได้ครับ…งั้นผมเอาวางไว้ที่โต๊ะตรงนี้นะครับ” ณดลเดินเอาแฟ้มเอกสารมาวางที่โต๊ะหน้าประตูห้องตามที่ดวงใจบอกก่อนจะกลับไปทำงานต่อ

“นี่! แกกวนประสาทฉันเหรอ เมื่อกี้ก็ยืนอยู่ข้างฉันก็เอาให้ฉันเลยสิ ที่ฉันบอกให้วางตรงนั้นคือครั้งหน้า!!” ดวงใจโวยวายแต่ณดลก็ไม่สนใจ

“กลับมาแล้วครับ” ณดลเปิดประตูห้องเข้ามากก็เห็นธนัทกำลังนั่งคุยอยู่กับนที

“อ้าว เด็กเดินเอกสารกลับมาแล้ว” นทีพูดแซว

“ถึงจะเดินเอกสารครั้งแรกแต่ก็ส่งเอกสารถึงที่หมายนะครับ” ณดลบอก

“ได้เดินทั้งวันแน่…เชื่อพี่” นทีบอกจากประสบการณ์

“ดีเลยครับ ผมชอบเดินไปเดินมานั่งในห้องแอร์นานๆผมแอบง่วง”

“ง่วงก็นอนสิ ที่โซฟามีหมอนมีผ้าห่มให้” ธนัทบอกอย่างเอาใจ

“บริการดีจริงๆ” นทีพูดแซวเบาๆ

“เอ่อคือ…ผมมีเรื่องอยากจะถามหน่อยน่ะครับ”

“ว่ายังไง/เรื่องอะไรเหรอ” ธนัทกับนทีพูดพร้อมกัน

“คือ…ตัวของผมมีกลิ่นเหม็นไหมครับ” ณดลคนซื่อถามออกมาเพราะคิดมากกับคำพูดของดวงใจที่พูดใส่ว่าเหม็นสาป

“เหวอ!!” นทีร้องเสียงหลงด้วยความตกใจเมื่อเขาทำท่าจะลุกขึ้นไปช่วยพิสูจน์กลิ่นให้กับณดลแต่กลับถูกเจ้านายขี้หวงดึงเสื้อด้านหลังไว้ก่อนจะกระซิบให้กลับไปที่ห้องทำงานของตัวเอง

“มานี่ ฉันดมให้” ธนัทลุกขึ้นและแทรกตัวมายืนใกล้ณดลทันที ส่วนนทีก็ขอตัวกลับไปทำงานต่อทิ้งให้ณดลมองตามอย่างไม่เข้าใจแต่ก็ไม่ได้ถามอะไรเพราะคิดว่านทีอาจจะมีงานด่วน

“ไม่เห็นจะเหม็นเลย มีแต่กลิ่นเหมือนแป้งเด็ก หอมอ่อนๆ” ธนัทไม่พูดเปล่าอาศัยจังหวะนี้แอบสูดดมกลิ่นหอมจากซอกคอของณดลไปด้วย

“จริงนะครับ แล้วทำไมเขาถึงบอกว่าเหม็นสาปตอนที่ผมเข้าไปในแผนก ผมก็พยายามดมแต่ก็ไม่ได้กลิ่นอะไร”

“ใครเป็นคนพูด” ธนัทถามด้วยน้ำเสียงที่ดูไม่พอใจ

“คุณดวงใจบอกตอนที่เอาเอกสารเข้าไปให้ครับ เธอบอกว่าครั้งหน้าให้เอาเอกสารวางไว้ที่โต๊ะหน้าห้องแทนไม่ต้องเดินเข้ามาในแผนก” ณดลเล่าตามความจริง

“จิ๊! อาจจะเป็นกลิ่นอับของแอร์ในแผนกก็ได้ เธออย่าคิดมากเลย ฉันดมแล้วตัวเธอมีแต่กลิ่นหอมของแป้งเด็ก” ธนัทบอกและเหมือนณดลจะไม่รู้ว่าถูกอีกฝ่ายพูดแซะ

“โล่งอกไปที”

“เอาอะไรมาตัวเหม็น”

“ผมกังวัลแทบแย่กลัวว่าตัวจะเหม็น แต่ก็สงสัยอยู่ว่าจะเหม็นได้ไงเพราะทำงานอยู่ในห้องแอร์เย็นๆแบบนี้ไม่ได้ไปแบกอิฐแบกปูนกลางแดดเหมือนเมื่อก่อนซะหน่อย”

“แต่ตอนที่เธอไปช่วยงานตาทองจนเหงื่อท่วมตัว ฉันก็ไม่ได้กลิ่นอะไรนะ”

“จริงเหรอครับ ผมกังวัลน่ะครับกลัวว่าตัวเหม็นแล้วคนเขาจะรังเกียจ”

“กังวลมากเกินไปแล้ว”

วันนี้ก็เป็นอีกวันที่ธนัทบอกว่าจะมากินมื้อเย็นด้วยแต่ขอเวลาไปอาบน้ำและทำธุะส่วนตัวให้เรียบร้อยก่อนแล้วจะมาหา ณดลจึงเอาของกินที่ซื้อมาเทใส่จานแล้วเอาไปอุ่นร้อนที่โรงครัวรอ แต่ก็ไม่วายถูกพวกแม่ครัวที่โรงครัวพูดแซะ

“แดกไม่ได้แล้วมั้งพวกข้าวแกงที่กูทำ”

“อย่างว่าแหละ คงไม่เคยได้แดกอะไรดีๆ พอคุณเขาเมตตาทำทานซื้อให้กินก็ต้องรีบแดกเพราะไม่รู้ว่าวันไหนจะโดนเฉดหัวทิ้ง”

ณดลเลือกที่จะไม่สนใจคำพูดเหล่านั้น เขารีบอุ่นให้เสร็จและรีบพาตัวเองกลับมารอธนัทในห้อง

“ผมอุ่นกับข้าวเสร็จพอดีเลยครับ”

“ฉันมีของเล่นมาด้วย พร้อมกับของหวานแสนอร่อย” ธนัทชูมือทั้งสองข้างขึ้น ข้างซ้ายถือกระเป๋าใบเล็ก ส่วนข้างขวาถือถุงชานมไข่มุกร้านดังกับเครปเค้กกล่องใหญ่

“ของกินเยอะมาก ผมต้องขยายเอวกางเกงเพิ่มสักหน่อยแล้วละครับ”

“ไม่อ้วนหรอก เธอออกกำลังกายทุกเช้านี่”

“เห็นเหรอครับ”

“ฉันก็ตื่นมาออกเหมือนกัน แต่ออกในห้องมีเครื่องออกกำลังกายหลายอย่างเลย เธอสนใจมาออกด้วยกันไหม” ธนัทลองชวนเพื่อสำเร็จ

“ไม่ดีกว่าครับ ตรงนั้นเป็นพื้นที่ส่วนตัวของคุณ” ณดลปฏิเสธด้วยความเกรงใจ

“ฉันอนุญาต”

“ผมเล่นไม่เป็นแล้วก็กลัวว่าจะไปทำของคุณพังด้วย” ณดลบอกเหตุผล

“ฉันสอนเอง” ธนัทพยายามเสนอตัวเต็มที่แต่ณดลก็ยังคงปฏิเสธจึงได้แต่จำยอมเพราะไม่อยากบังคับกลัวจะสร้างความอึดอัดให้กับอีกฝ่าย

“มาๆ มากินของอร่อยกันดีกว่า คอหมูย่างของโปรดของใครกันนะ” ธนัทพาเปลี่ยนเรื่อง

“ของโปรดผมครับ!” ณดลรีบตอบ

“เชื่อแล้วว่าของโปรด” ธนัทยิ้มขำอย่างเอ็นดู

“เถ้าแก่คนเก่าเคยซื้อมาเลี้ยงแล้วผมชอบมากแต่พอจะซื้อกินเอง ผมก็เสียดายตังค์ถึงมันจะราคาไม่ได้แพงขนาดนั้นแต่สำหรับคนที่รายได้ไม่แน่นอนอย่างผมเวลาจะใช้จ่ายอะไรต้องคิดดีๆ คิดอีกทีตลอด” ณดลเล่า

“งั้นก็ตอนนี้ไม่ต้องคิดกังวลเรื่องรายได้แล้ว เธอกินได้เต็มที่เลยนะ อยากกินอะไรก็บอก ฉันพร้อมและเต็มใจที่จะเสาะหามาให้”

“คุณธนัทใจดีจังครับ”

“เธอชอบคนใจดีไหมละ”

“ชอบครับ”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • คุณธนัทครับ ผมว่ามันแปลกๆ (เคะกล้าม)   29. ความสุขในชีวิต [End]

    ณดลสัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงบางอย่างที่เกิดขึ้นในที่ทำงาน หลังจากที่เขาตัดสินใจใช้สถานะแฟนกับธนัทอย่างเป็นทางการ จากทุกครั้งที่เวลาเดินผ่านเอาเอกสารไปให้เขามักจะถูกเหล่าพนักงานมองเหยียดหรือไม่ก็หันไปพูดซุบซิบนินทา หนักหน่อยก็พูดว่าขึ้นมาลอยๆซึ่งเขาก็ทำได้เพียงปล่อยผ่านไป แต่ปัจจุบันกลายเป็นว่าคนพวกนั้นต่างพากันส่งยิ้มมาให้เขาแม้จะเป็นรอยยิ้มแห้งๆก็ตาม บางคนเมื่อก่อนเดินแทบจะชนเหมือนกับว่ามองไม่เห็น ตอนนี้กลับก้มหัวให้เขาแล้วรีบเดินไปและที่สำคัญไม่มีใครใช้ประโยคและน้ำเสียงที่พูดดูถูกหรือจิกหัวใช้เหมือนก่อนหน้านี้กับเขาอีกเลย คนที่จะไขข้อสงสัยได้ก็มีเพียงแค่คุณแฟนของเขาที่กำลังนั่งทำงานอยู่ “คุณธนัทครับ ผมมีอะไรอยากถาม” “ว่าไงครับที่รัก” ธนัทตอบรับเสียงหวานพร้อมสรรพนามที่ทำเอาณดลจั๊กจี้ทุกครั้งที่ได้ยิน “ต้องเป็นฝีมือของคุณแน่ๆเลยใช่ไหมครับ ที่ทำให้คนอื่นมีท่าทางแปลกๆกับผม พวกเขาดูเกร็งแล้วก็ไม่แกล้งผมเหมือนเมื่อก่อน” “ฉันทำอะไร…ไม่ได้ทำอะไรเลย” ธนัทปฏิเสธ “ไม่เชื่อครับ บอกผมมาเลยนะถ้าไม่ยอมบอก ไม่ให้นอนกอด” ณดลพูดขู่ “พวกนั้นคงเห็นโพสต์ของฉันละมั้ง” ธนัทขยับเก้าอี้เลื่อนมาอยู

  • คุณธนัทครับ ผมว่ามันแปลกๆ (เคะกล้าม)   28. ชอบเธอไปทั้งตัว [NC18+]

    ในทุกครั้งที่จะมีความสัมพันธ์ทางกายกัน ธนัทมักจะชอบเอ่ยขออนุญาตอยู่เสมอเป็นเหมือนการถามความยินยอม แม้ว่าส่วนใหญ่จะเปลื้องผ้าเหลือแต่ตัวเปลือยๆกันแล้วก็ตาม แต่ก็นับว่าเป็นความน่ารักของเจ้าตัวที่ทำให้เขาแอบประทับใจ “ครับ” ณดลตอบตกลง ลิ้นร้อนเกี่ยวตวัดดูดดึงยอดอกของณดลทั้งสองข้างจนมันชุ่มไปด้วยหยาดน้ำสีใสแถมยังตั้งชูชันขึ้นอย่างน่าอาย แต่เขากลับกลายเป็นคนลามกที่ชอบให้ธนัทให้ลิ้นห่อแล้วดูดดึงมันเล่น และเพียงแค่นั้นส่วนกลางกายของเขาก็เริ่มแข็งมีอารมณ์ขึ้นมา “แค่ดูดนมเธอก็แข็งซะแล้วหมีน้อย” ธนัทเอ่ยแซวด้วยความเอ็นดูก่อนจะลากลิ้นขยับลงมาจนถึงท่อนเอ็นอวบ “อ๊าา…อื้ออ บ...แบบนี้” “อื้ออ…อ่ะอ่าา” ณดลร้องครางพลางแอ่นสะโพกสู้ริมฝีปากของธนัทที่กำลังครอบครองท่อนเอ็นของเขาเข้าไป “อืมม…อึกก” “อื้ออ…อ่ะอ้าา…ส...เสียวนะครับ” “อืม…จ๊วบบ…แผล่บๆ…แผล่บ” ธนัทถอนริมฝีปากออกแล้วใช้มือกำท่อนเอ็นไว้ ก่อนจะเปลี่ยนมารัวลิ้นที่ส่วนหัวแดงจนณดลครางเสียงดังกระเส้า สองมือหนาที่เขาเฝ้าถนอมช่วยบำรุงจนเริ่มกลับมานิ่มขึ้นจิกลงบนหัวของเขาเพื่อระบายความเสียว “อื้ออ...เสียว…อ่าา…คุณธนัทอื้อออ” สะโพกมนส่ายร่าไปมา ก่อ

  • คุณธนัทครับ ผมว่ามันแปลกๆ (เคะกล้าม)   27. คำสารภาพของคนปากแข็ง

    ณดลเข้าไปให้ปากคำเป็นเวลากว่าสองชั่วโมงก่อนจะถูกปล่อยตัวออกมา โดยที่ทางเจ้าหน้าที่นำตัวของผู้ต้องหาทั้งสี่เขาฝากขังไว้ก่อน เนื่องจากมีพฤติกรรมที่ดูอันตรายพยายามที่จะเข้ามาทำร้ายผู้เสียหาย “เป็นไงบ้าง” เป็นภวิตาที่เอ่ยถาม ส่วนธนัทที่ถึงแม้จะเป็นห่วงแต่ก็แค่มองมาเฉยๆไม่ได้พูดอะไร “ผมเล่าเรื่องทุกอย่างที่ถูกกระทำให้ทางตำรวจหมดแล้วครับ เล่าทุกอย่างเลย…” ณดลบอก “กลับได้แล้วใช่ไหม” ภวิตาถาม ณดลพยักหน้าหงึกๆเป็นคำตอบ “งั้นกลับกันเถอะ นี่ก็เก๊กหน้านิ่งอยู่ได้” ภวิตาหันไปบ่นลูกชายของตัวเอง “อารมณ์ไม่ดีครับ” ธนัทตอบมาสั้นๆ “ขอโทษครับ” ณดลบอกแต่ธนัททำเมิน “ทำทรงไปงั้นแหละ เชื่อแม่” ภวิตาพูดให้กำลังใจณดลที่ทำหน้าเหมือนหมีหงอยอยู่ “คุยกันดีๆ แม่ไปพักก่อน” เมื่อกลับมาถึงบ้านภวิตาก็รีบปลีกตัวออกไปเพื่อให้ลูกทั้งสองได้ปรับความเข้าใจกัน “จะกลับห้องตัวเองหรือจะขึ้นไปห้องฉัน” ธนัทถามโดยที่ไม่แม้แต่จะชายตามอง “ขออนุญาตไปห้องของคุณได้ไหมครับ” “งั้นก็ตามมา” ธนัทเดินนำขึ้นไปที่ห้องโดยที่ไม่ได้เดินรอเหมือนอย่างทุกที “ขอโทษครับ/เธอไม่เชื่อใจฉันเหรอ” ทั้งสองพูดออกมาพร้อมกันทันทีที่เข้ามาในห้อง “เ

  • คุณธนัทครับ ผมว่ามันแปลกๆ (เคะกล้าม)   26. เพราะไว้ใจคนผิด

    “วันนี้มันไม่อยู่เหรอวะ” ป้าสายบัวพูดขึ้นเมื่อยืนเคาะประตูห้องของณดลมาพักใหญ่แต่ไม่มีใครออกมาเปิดประตูให้ “มันหลบอยู่เปล่า ก็ป้าเล่นไปขู่จะแทงตามันอ่ะ” กระแตพูด “จริงๆตัวมันก็ใหญ่นะแต่เสือกใจเซาะกลัวพวกเราซะงั้น” กระถินพูดขึ้นเพราะณดลตัวใหญ่กว่าแค่ตบพวกเธอทีเดียวน่าจะหลับไปหลายวัน “ก็ดีแล้วที่มันใจเซาะเราจะได้ไถเงินมันได้ แถมยังได้กินของดีๆที่คุณเขาซื้อมาให้มันอีก ถึงว่าไม่มาแดกข้าวที่โรงครัวเลยเพราะติดหรูกินแต่อาหารดีๆนี่เอง” “พวกมึงมาทำอะไรที่หน้าห้องไอ้ณดล!” เสียงของตาทองที่ตะโกนถามทำเอาสามสาวสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจ ป้าสายบัวรีบพูดกระซิบให้ทำตัวให้เป็นปกติ “เอ้า! กูถามไม่ตอบหูตึงกันแล้วรึไง” ตาทองพูด “ทำอะไร กูไม่ได้ทำอะไร แค่มาดูไอ้ณดลมันเป็นยังไงบ้าง” ป้าสายบัวตอบ “คนอย่างมึงน่ะเหรอจะมาดูดำดูดีไอ้ณดล” ตาทองไม่เชื่อคำพูดของอีกฝ่าย “ทำไม กูก็อยากรู้ว่ามันเป็นยังไงบ้าง เห็นวันนี้เงียบๆไม่มีใครเอาอะไรมาให้มัน กลัวมันจะอดตาย” “มันไปทำงานกับคุณธนัทแล้ว” “อ่อ งั้นกลับไปทำงานกันต่อเถอะพวกเรา” สามสาวที่ได้คำตอบก็แยกย้ายกลับไปทำงานที่โรงครัวต่อ แต่ตาทองยังคงสงสัยและรู้สึกแปลกใจ

  • คุณธนัทครับ ผมว่ามันแปลกๆ (เคะกล้าม)   25. คำโกหก

    “เรียกอีกทีเอาแบบไม่เกร็ง” ภวิตาบอกพร้อมยิ้มให้ด้วยความเอ็นดู “เอ่อ…เกร็งครับ” ณดลยอมรับออกมาตรงๆ “ค่อยๆเป็นค่อยๆไปดีกว่าครับแม่ ณดลยังคงปรับตัวไม่ทัน” ธนัทช่วยพูด “ก็ได้ๆ ตอนนี้ก็เรียกตามที่สะดวกใจไปก่อนแล้วกัน สนิทกันขึ้นเมื่อไหร่ค่อยเรียกแม่” ภวิตารับฟังก่อนจะพาเปลี่ยนเรื่องด้วยการเอาขนมที่เธอซื้อมาฝากมาป้อนให้ณดล “อร่อยมากเลยครับ” “อร่อยก็กินเยอะๆ ถ้าชอบเดี๋ยวแม่เหมามาให้” ภวิตาเริ่มแทนตัวเองว่าแม่เพื่อละลายพฤติกรรมระหว่างกัน “เกรงใจครับ แค่นี้ก็ดีใจมากๆแล้วครับ” “ไม่ต้องเกรงใจกันหรอก เราคนกันเอง” ยิ่งบอกว่าคนกันเองณดลยิ่งรู้สึกเกร็ง แผลของณดลไม่มีอาการติดเชื้อและค่อยๆแห้งทำให้หมออนุญาตให้กลับบ้านได้โดยนัดวันที่จะตัดไหมอีกที มีแค่ดวงตาข้างซ้ายที่ยังไม่หายดีทำให้ยังไม่สามารถกลับไปทำงานได้ เขาจึงขอย้ายกลับมาที่ห้องพักของตัวเองเพื่อให้สะดวกและง่ายต่อการใช้ชีวิตระหว่างที่ธนัทต้องไปทำงาน โดยมีตาทองคอยช่วยเอาอาหารมาให้เพราะภวิตาต้องไปช่วยงานธนัทแทนณดล ก๊อก ก๊อก “ครับๆ ตาทองเหรอครับ…เมื่อกี้พี่ตุ่นเอาข้าวมาให้ผมแล้วนะครับ” ณดลค่อยๆเดินมาเปิดประตูให้เพราะคิดว่าเป็นตาทองที่มาหา

  • คุณธนัทครับ ผมว่ามันแปลกๆ (เคะกล้าม)   24. เรียนรู้และเริ่มต้นใหม่

    “ฉันพูดจาไม่ดีกับณดลไว้มาก ไม่รู้เลยว่าเขาต้องผ่านอะไรมาบ้าง…ฉัน” ภวิตาที่เริ่มสำนึกคิดได้พูดออกมา “คุณหญิงไม่รู้ไม่ผิดครับ แต่ที่ผิดคือการไปพูดจาดูถูกทำร้ายจิตใจกัน ถ้าเราเป็นเหมือนมันแล้วโดนพูดแบบนั้นใส่เป็นผมคงเสียใจไม่น้อยเลยครับ มันเป็นแบบนั้นก็นับว่าโชคร้ายแล้วเราอย่าไปทำตัวใจร้ายบั่นทอนใจมันเลยนะครับ” ภวิตาพยักหน้ารับฟังในสิ่งที่ตาทองพูด “อีกอย่างที่ผมอยากจะบอกคือเราอย่าไปตัดสินคนที่รูปลักษณ์ภายนอก ต้องศึกษาเนื้อในของเขาก่อนแล้วค่อยตัดสินว่าคนนั้นเป็นยังไง และไม่ใช่เอาแต่เชื่อคำพูดยุยงของคนอื่น ลองได้มารู้จักเจ้าณดลก่อนแล้วคุณหญิงก็จะเข้าใจว่าทำไมคุณธนัทถึงเลือกมัน” ตาทองพูดสอน “ฉันเข้าใจแล้ว…ฉันเอาแต่คิดว่าสิ่งที่ฉันเลือกมันคือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับลูก แต่จริงๆสิ่งที่ฉันควรสนใจมากกว่านั้นคือความสุขของเขา ถ้าเขาอยู่กับใครแล้วมีความสุขฉันก็ควรสนับสนุนเขาในฐานะแม่ ฉันผิดเองที่เอาแต่เชื่อคำพูดของคนอื่นแล้วตัดสินณดลจากสิ่งที่ได้ยิน” ภวิตานั่งคิดทบทวนตัวเองสักพักก่อนจะพูดออกมา ที่ผ่านมาเธอไม่ชอบณดลเพราะฟังคำของป้าชม้อยแม่บ้านคนสนิทที่คอยโทรรายงาน ซึ่งแน่นอนว่ามีแต่เรื่องไม่ดีที่ณ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status