เข้าสู่ระบบ“พี่ฟี่~~” เสียงอันสดใสของ โซเฟีย เอ่ยเรียกพี่สาวพลางวิ่งเข้ามากอดโซฟี่เข้าเต็มแรง จนตัวคนตั้งรับเสียหลักเอนถอยไปด้านหลังเล็กน้อย
โซฟี่หัวเราะในลำคอเบา ๆ มือก็กอดน้องสาวสุดที่รักตอบ ไม่นานนักทั้งสองก็ถอนกอดออกจากกัน โซเฟียมองพี่สาวพร้อมกับน้ำตาคลอในกระบอกตา รู้สึกห่วงโซฟี่อย่างบอกไม่ถูก เมื่อผู้ชายที่เธอต้องเคียงคู่ ไม่ใช่ผู้ชายที่เธอรัก “โซเฟีย” โซฟี่พูดกับน้องสาวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน พร้อมยกมือลูบเช็ดน้ำตาให้แผ่วเบา “พี่เจอเขาหรือยัง เขาเป็นยังไงบ้าง ดุเหมือนที่คนเขาบอกกันไหม” “ก็คงงั้น แต่ไม่เป็นไรนะ เฟียไม่ต้องห่วง พี่รับมือได้” “..ถ้าเขาทำเกินกว่าเหตุ พี่บอกเฟียนะ เฟียจะให้โชนจัดการเขา” โซเฟียเข้ากอดพี่สาวอีกครั้ง โชน แฟนหนุ่มของเธอที่ยืนมองสองพี่น้องแสดงความรักกันก็อมยิ้มบาง ๆ เอ็นดูแฟนสาวที่ตอนนี้เหมือนเด็กน้อยอ้อนพี่สาว “หึ แฟนเฟียก็หลานเขาไม่ใช่เหรอ” “ไม่รู้ล่ะ ถ้าโชนไม่จัดการเขาให้ เฟียจะเลิกกับโชน” “อ้าว” ชายหนุ่มด้านหลังได้ยินแล้วก็ร้องออกมาเบา ๆ “อย่าไปทำให้โชนเขาเดือดร้อนเลย เขารักเฟียมากนะ” “หงึก” “พี่ไม่เป็นอะไรหรอก พี่จะไม่ยอมให้เขาทำร้ายอะไรพี่แน่นอน” โซเฟียผละกอดออก พลันเผลอหลุบตามองหน้าอกพี่สาว “นมใหญ่จัง” เธอหลุดพูดอย่างแพ้เสียงในหัว ทำเอาโซฟี่ต้องยิ้มกริ่มด้วยความเอ็นดู “ได้แต่งหน่อย ไม่กั๊กเลยนะเนี่ยคนสวยของเฟีย” โซฟี่ยกมือนำนิ้วชี้ปิดปากตนให้โซเฟียไม่พูดเสียงดังทั้งที่ปากยังไม่เก็บรอยยิ้มลง ทำเอาโซเฟียขำคิกคักเบา ๆ ตามประสาคนทะเล้นขี้เล่น “งั้นเฟียไม่กวนแล้ว รอดูคนสวยในพิธีนะคะ” “เดินในงานดี ๆ นะ อย่าซนให้โชนเขาปวดหัวล่ะเรา” “นายนี่รับมือเฟียได้สบาย ๆ อยู่แล้ว พี่ไม่ต้องห่วงหรอก” โชนเข้ามาโอบไหล่โซเฟียแล้วยื่นหน้าจูบแก้มเธอไปหนึ่งครั้ง “อื้ออ มาทำอะไรตรงนี้ล่ะโชน” โซเฟียถามแฟนหนุ่ม “รับมือเธอให้พี่ฟี่ดูไง” “ฮ่า ๆ ๆ” โซฟี่หัวเราะเบา ๆ ด้วยความเอ็นดูทั้งสอง โซเฟียเอาคืนด้วยการจูบแก้มโชนกลับ จากนั้นก็วิ่งหนีไปทางอื่นทันที ชายหนุ่มยิ้มมองตามหลังเธอ พลันจะรีบตามไป “ไปนะครับพี่ฟี่ ขอให้โชคดีนะครับ” “ขอบคุณนะจ๊ะ โชนรีบตามเฟียไปเถอะ ทะเล้นจริง ๆ” เมื่อถึงเวลาเริ่มพิธี แขกเหรื่อนั่งประจำที่กันแล้ว เชสก็เข้ามายืนรอเจ้าสาวซึ่งจะเดินเข้าสู่พิธีมาภายหลังที่แท่นพิธี เขานึกย้อนถึงคำพูดของมารดา ที่เธอบอกว่ายังไม่ให้เขาจูบจริง เนื่องจากฝ่ายเจ้าสาวยังไม่พร้อม ขอให้ใช้นิ้วบังไว้เนียน ๆ คิดแล้วเชสก็ยกยิ้มมุมปาก จู่ ๆ ภาพหน้าอกของหญิงสาวก็เด้งขึ้นมาในหัวอัตโนมัติ เป็นภาพติดตาเขาอย่างปฏิเสธไม่ได้จริง ๆ เชสส่ายหน้าเบา ๆ พลางกระแอมในลำคอ ปรับอารมณ์ความคิดของตนให้กลับสู่สภาวะปกติ เพียงไม่นานก็ถึงเวลาที่เจ้าสาวเดินเข้าพิธีมา ควงคู่กับบิดาของเธอ เมื่อถึงตัวเจ้าบ่าว เชสก็กางศอกข้างหนึ่งออก บอกเธอเป็นนัยว่าให้มาควงแขนตน พิธีกรกล่าวเปิดพิธี ครู่เดียวก็ได้เวลาที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวต้องกล่าวคำปฏิญาณต่อกัน โดยเป็นฝ่ายชายที่เริ่มพูดก่อน “ข้าพเจ้า นายรชตะ ฐากูร ขอรับนางสาว..” เขาหยุดคำพูดไป พลันถลึงตามองหญิงสาวตรงหน้าเล็กน้อย เธอจึงนึกฉงนกับท่าทีของเขา “เธอชื่ออะไร” เขาถามเสียงกระซิบกับเจ้าสาวของตน “คะ” “ชื่อไง ชื่ออะ” “อ้อ.. ชื่อโซฟี่ค่ะ” “ฮะ? โซฟี” “มะ-” หญิงสาวยังไม่ทันได้แก้คำพูดของเขา ชายหนุ่มก็เอ่ยคำปฏิญาณต่อ เธอจึงนึกเคืองอยู่ในใจ เธอชื่อโซฟี่ ไม่ใช่โซฟี ช่วยเน้นเสียงด้วย ถ้าไม่ยอมเรียกให้ถูก ก็ไปมีเมียเป็นคนที่ชื่อโซฟีจริง ๆ เลยไป พิธีดำเนินต่อไป จนถึงเวลาที่พิธีกรประกาศอย่างเป็นทางการถึงสถานะที่เปลี่ยนไปของทั้งสอง และหลังจากนั้นคู่บ่าวสาวก็ต้องทำการจุมพิตแสดงความรักกันต่อหน้าผู้คนที่มาร่วมแสดงความยินดี เชสจับให้คนตัวเล็กข้างกายหันหน้าเข้าหาตน พลันมองดวงตาคู่สวยด้วยแววตาเป็นประกาย ราวกับเสือร้ายกำลังจ้องมองเหยื่อเลิศรส เขาจับเชยคางเธอขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะยื่นหน้าไปเพื่อจะประกบริมฝีปากแนบสนิท โซฟี่เห็นว่าชายหนุ่มไม่มีทีท่าว่าจะใช้นิ้วกั้นปากของกันและกัน ทันทีที่ปากหนาเกือบจะประทับกับปากเธอ คนตัวเล็กก็แกล้งหันหน้าหลบไปด้านข้างแล้วจามเสียงดังออกมา ทำเอาคนดูที่รอลุ้นภาพน่าประทับใจอยู่ต้องตกใจและเสียดายไปตาม ๆ กัน โซฟี่ขอไมโครโฟนจากพิธีกรมาจ่อปากพูดบอกแขกในงาน “พอดีวันนี้ดิฉันไม่ค่อยสบายน่ะค่ะ ขออนุญาตข้ามขั้นตอนการจูบไปนะคะ กลัวเจ้าบ่าวติดหวัดค่ะ” เชสได้ยินอย่างนั้นก็กระตุกยิ้มมุมปากขำเบา ๆ ข้ออ้างเธอนี่ฟังขึ้นมากเลย คิดแล้วก็คว้าสิ่งในมือหญิงสาวมาถือต่อ “ผม ในฐานะสามีของเธอ ผมไม่กลัวติดหวัดหรอกครับ เพราะยังไงผมก็ติดเธอไปแล้ว อาการหนักกว่าอีก” “ฮิ้ววว!” แขกทั้งหลายพากันร้องพูดแซวคู่บ่าวสาว “ให้พี่จูบเถอะนะโซฟี่ แค่แป๊บเดียว คิดซะว่าไม่มีคนดูอยู่” เธอส่ายหน้าไปมาเบา ๆ ตอบ “ทำไมล่ะ กลัวอะไร” เขาลดไมค์ลงจากปากแล้วถามเสียงเบา “ก็คุณจะจูบฉันจริงหนิคะ” “ก็เป็นผัวเมียกันแล้ว จะกลัวอะไร” “เราไม่ได้รักกัน ฉันไม่ได้พิศวาสคุณ ใครจะจูบลงล่ะคะ” “มองแค่ว่าฉันหล่อก็พอ แค่นี้ก็ทำให้อยากจูบแล้วไม่ใช่เหรอ” “…” หญิงสาวมองเขานิ่ง คิดในใจว่าเจ้าบ่าวเธอหลงตัวเองชะมัด “มา รีบ ๆ จูบให้มันจบ ๆ เถอะ” เชสบอกแล้วก็เอื้อมมือไปจับต้นแขนเล็ก จะดึงเธอให้เข้ามาประชิดมากขึ้น ทว่าโซฟี่กลับไอถี่ออกมาขัดจังหวะ จนดูท่าจะไม่ดี “เอ่อ ผมว่าคงต้องทำตามที่เจ้าสาวบอกแล้วล่ะครับ” พิธีกรพูดขึ้น “ขอรบกวนให้ทุกคนไปจินตนาการความหวานของทั้งคู่กันเองได้เลยนะครับ ขอบคุณคร้าบ” เชสมองพิธีกรหนุ่มพูดตาเขม็งอย่างไม่พอใจ พลางถอนหายใจออกมา “ตอนนี้จบพิธีแล้ว เชิญคู่บ่าวสาวเดินออกจากพิธีได้เลยนะครับ” เชสจับมือเจ้าสาวให้มาควงแขนตน ก่อนจะพาเดินออกจากบริเวณพิธีไปด้วยกันอย่างไม่รีรอ “ไม่อยากจูบกับฉันขนาดนั้นเลยดิ” เชสถามหลังจากเดินมากับโซฟี่จนลับสายตาคนอื่นแล้ว คนตัวเล็กไม่ได้พูดคำใดตอบเขา มองสบตาชายหนุ่มแล้วก็หลุบตามองต่ำหลบสายตาเขา “ฉันถาม ทำไมไม่ตอบ” “อ้าวคู่นี้ มายืนอะไรกันตรงนี้” วิลเลียม บิดาของโซฟี่ที่เดินตามออกมาเอ่ยทัก “โน่น ออกมาแล้วก็ไปที่รถโน่นสิ” “จะไปกันแล้วเหรอคะ” โซเฟียที่วิ่งตามมาถามขึ้น ก่อนจะเข้ากอดแขนพี่สาวหลวม ๆ “ดูแลตัวเองดี ๆ นะพี่ฟี่ อย่าให้เขาทำอะไรพี่นะ” โซฟี่จับมือน้องสาวซึ่งจับแขนตนอยู่กุมเบา ๆ พลางอมยิ้มแล้วพยักหน้าให้เป็นการตอบรับ “พี่ต้องไปแล้ว ไว้เราโทร.คุยกันนะเฟีย” บอกด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน ก่อนจะเปลี่ยนไปมองโชน เชิงฝากให้เขาดูแลน้องสาวตนเองต่อ โชนเข้าใจที่โซฟี่ต้องการดี จึงค่อย ๆ จับโซเฟียให้ถอยหลังมา แล้วโอบเอวเธอไว้หลวม ๆ โซฟี่ไหว้สวัสดีผู้ใหญ่ ก่อนจะเปลี่ยนมาโบกมือลาโซเฟียต่อ จากนั้นก็หันตัวเดินเคียงคู่กับเชส เพื่อไปขึ้นรถยนต์ซึ่งจอดรออยู่ไม่ไกล “อาเธอนี่บุคลิกน่าหมั่นไส้จัง” โซเฟียพูดกับโชนขณะมองดูคู่บ่าวสาวของงานเดินจากไป คนฟังจึงรีบยกมือนำนิ้วชี้ปิดปากเธอเชิงบอกแฟนสาวให้ระวังคำพูด สายตาเขามองผู้ใหญ่ซึ่งยืนอยู่ข้าง ๆ พลางยิ้มเจื่อนให้ไป “ขอโทษแทนเฟียด้วยนะครับคุณย่า” “ไม่เป็นไรจ้ะ ก็จริงอย่างที่หนูโซเฟียว่านั่นแหละ หึ” ธาริณีพูดตอบด้วยรอยยิ้มดูใจดี โซเฟียยิ้มเจื่อนพลางยกมือพนมไหว้เธอไป เชสกับโซฟี่ขึ้นรถกันมาแล้ว เชสเป็นคนขับ ส่วนโซฟี่นั่งอยู่เบาะข้าง ไม่มีการพูดคุยกันระหว่างทางแต่อย่างใด กระทั่งเวลาผ่านไป เชสจึงพูดขึ้นก่อน “จะไม่ถามหน่อยเหรอว่าฉันจะพาเธอไปไหน” คนถูกถามไม่ตอบ ได้แต่นั่งนิ่ง ตามองทางข้างหน้าไปอย่างนั้น “อย่ามากวนประสาท ฉันคุยด้วยทำไมไม่ตอบ ตั้งแต่เมื่อกี้แล้วนะ” “ทำไมฉันต้องถามคะ ในเมื่อยังไงคุณก็จะพาฉันไปที่เรือนหอของพวกเราอยู่แล้ว” “หึ ฉันอาจจะพาเธอแวะไปที่อื่นก่อนก็ได้” “..คุณพิศวาสฉันเหรอคะ” “ใจเย็น คนอย่างฉันเหรอจะพิศวาสเธอ เธอไม่ใช่สเปกฉันเลยสักนิด” โซฟี่ได้ยินแล้วก็คิดในใจ ว่าเมื่อกี้ตอนที่เขาเจอกับเธอครั้งแรก ลูกชายเขายังตื่นตาตื่นใจออกนอกหน้าอยู่เลย แล้วนี่ทำมาเป็นพูด “ถ้าไม่ได้ต้องเข้าพิธีแต่งงาน เธอก็จะหน้าจืด ๆ แต่งตัวเชย ๆ ไม่มีอะไรน่าสนใจ เหอะ ฉันจะให้ค่าผู้หญิงแบบเธอไปทำไม เสียเวลา เสียสายตา” “…” “ฉันพาเธอไปเรือนหอของเราที่พ่อฉันเตรียมไว้ให้เลยแล้วกัน เดี๋ยวพาไปที่อื่นก่อนแล้วเธอจะสำคัญตัวเองเกินไป” “ตอนนี้คุณสนใจฉัน เพราะแค่ฉันแต่งหน้าแต่งตัว เหมือนผู้หญิงที่คุณเคยผ่านมา เดี๋ยวฉันกลับไปเปลี่ยนชุด ลบเครื่องสำอาง คุณก็คงมองฉันเป็นเหมือนหมูเหมือนหมา” “หึ รู้ตัวก็ดี จะได้เตรียมใจไว้ เพราะฉันจะทำอย่างที่เธอบอกนั่นแหละ คนอย่างฉัน ถ้าผู้หญิงไม่น่าสนใจ ไม่ควรค่าพอให้เสียเวลา ฉันจะไม่ลดตัวไปเกลือกกลั้วด้วยเลย” “…” “กลับไปแล้วเธอก็อย่าเพิ่งทำอะไรกับตัวเองแล้วกัน” “ทำไมคะ” “ฉันต้องเอาเธอ” “คะ..” “อะไร เธอไม่รู้เหรอ ที่แต่งงานนี่ เราต้องมีลูกด้วยกัน” “…” “ถ้าไม่มี ครบ 1 ปีก็ไม่ได้หย่าตามที่ฉันต่อรองกับพ่อไว้ได้ เพราะฉะนั้นเธอต้องรีบมีลูกกับฉัน ครบ 1 ปีแล้วจะได้รีบไปไกล ๆ จากชีวิตฉัน ไม่อยู่ให้ฉันรกหูรกตาอีก” “…” “ตามนี้ อยู่ชุดนี้ หน้านี้ไป จนกว่าฉันจะแตกในใส่เธอ จำไว้” โปรดติดตามตอนต่อไป..“อ๊ะ! คุณจะพาฉันไปไหนคะ” โซฟี่ถามเสียงแผ่วด้วยใบหน้าเหยเกจากความกระสัน เมื่อเชสจับตนให้ลุกนั่งขึ้น ทำให้แท่งร้อนแทงลึกเข้าในช่องทางมากกว่าเดิมโดยปริยาย“เปลี่ยนที่บ้าง เบื่อบนเตียงแล้ว” บอกแล้วก็ลงจากที่นอนไป รอให้คนตัวเล็กตามมา ทว่าไม่รอให้เธอลงมายืนพื้นเองก็ชิงอุ้มร่างบางขึ้นในท่าอุ้มแตงก่อน“อ๊ะ! คุณเชส~”“จุกเหรอหืม?”“ถามมาได้ คุณอุ้มฉันแล้วลูกชายคุณก็แทงเข้ามาในของฉันพอดีเป๊ะเลยนะคะ”“พูดหน้ามุ่ยเชียว ไม่ชอบเหรอ”“ก็.. ชอบค่ะ แต่ว่ามันจุกง่ะ”“หึ โดนเอาแล้วอ้อนน่าดูนะ ทำอะไรก็น่ารักไปหมด”“…” เขากำลังหลงเธอมากเลยสินะ จะแพ้ภัยตัวเองแล้วหรือเปล่า หึเชสยกยิ้มมุมปากข้างหนึ่ง ก่อนจะหมุนตัวเดินไปพร้อมกับยกคนบนกายขึ้นสลับปล่อยลง ให้ร่องสาวกลืนกินความเป็นชายเข้าออกต่อเนื่อง ดุ้นเอ็นใหญ่ที่ผลุบโผล่พ้นจากปากทางแคบเล็กเคลือบน้ำเมือกใสไม่แห้งไป“คุณจะพาฉัน- อ๊ะ ไปไหนคะ”“ระเบียง”“เดี๋ยวก่อนได้ไหมคะ อ๊ะ..อ๊ะ ขอไปตรงประตูห้องน้ำก่อน”“ห้องน้ำ? ไปทำไม”“ไม่ต้องเข้าข้างในค่ะ แค่ประตูด้านนอกพอ อ๊ะ พอดี.. ฉันอยากเห็นประตูสั่นเพราะเราสองคนขยับใส่กันน่ะค่ะ”“หึ แอบแซ่บนะเธอเนี่ย”“แหะ ไม่หรอกค่ะ
กลางกลีบกุหลาบสีหวานกำลังถูกลิ้นร้อนเลียละเลียดอย่างเพลินปาก ติ่งเกสรสีแดงสดเคลือบเต็มไปด้วยน้ำสีใสลากยาวไปถึงปากช่องทางสงวน ซึ่งชุ่มแฉะด้วยน้ำเมือกจากความปรารถนาของหญิงสาวที่หลั่งไหลล้นออกมาจากร่องคับแคบโซฟี่นำมือข้างหนึ่งปิดปากตัวเองเพื่อกลั้นเสียงแห่งความกระสันที่ดังอยู่ในลำคอไม่ขาด ส่วนมืออีกข้างก็กำขยำที่นอนแน่น เกร็งร่างกายไปทั้งตัวเมื่อดุ้นลิ้นของเชสมอบความรัญจวนใจให้เธอดีเหลือเกินชายหนุ่มเห็นหญิงสาวอดทนได้เก่งมากก็ยิ่งอยากท้าทายความสามารถของเธอ เขาใช้นิ้วหัวแม่มือบดขยี้ปุ่มกระสันหมุนวนไปมาถี่เร็วเพื่อให้เจ้าตัวรู้สึกอ่อนไหวมากขึ้น พลางแทงลิ้นแทรกเข้าไปในความแคบเล็ก ตวัดมันควงสว่านจนน้ำหล่อลื่นท่วมล้นปากทางร่องสาวคลุมนองเต็มลิ้นของเขาโซฟี่เสียวเกินห้ามใจ เธอยกเอวร่อนหาปากชายหนุ่มอย่างอดไม่ได้ เมื่อเชสระรัวปลายลิ้นสะกิดเม็ดคริสตัลสีหวานเร็วแรง เธอก็รีบนำมือที่กำลังปิดปากย้ายไปกำจับผ้าปูที่นอนเช่นอีกข้าง เกร็งจนตัวลอยอย่างที่ไม่เคยเป็น“อ๊ะ! คุณเชสคะ~”นี่แหละที่เขาต้องการ พอได้ยินเสียงของโซฟี่อย่างนั้นแล้วเชสก็จัดการใช้นิ้วแทงเข้าไปชักเข้าออกเร็วรัวในร่องนุ่มลื่น เพิ่มจำนวนนิ
เชสจับพลิกตัวร่างบางให้มาอยู่ในตำแหน่งสลับกับตนโดยไม่ได้ผละปากออก เขาจับประคองกรอบหน้าสวยแล้วตั้งใจงับกลืนกินเนื้อเยลลี่รสหวานของหญิงสาวราวกับคนกระหาย ทั้งสองจูบสนองกันอย่างเร่าร้อน โซฟี่ค่อย ๆ ยกมือจับลูบท้ายทอยเขาไปมาเบา ๆเพียงครู่เดียวชายหนุ่มก็ถอนจูบออก เขามองใบหน้าหวานของภรรยาสาวด้วยแววตาหลงใหล แม้ตอนนี้ดวงหน้าเธอจะไร้เครื่องสำอางใดแต่งแต้มเขานำมือไปดึงยางมัดผมของเธอ ที่ตอนนี้มัดทรงหางม้าต่ำอยู่ ให้เส้นยางคลายออกจนผมสีน้ำตาลอ่อนสยายสวยงาม เสริมให้ใบหน้าจิ้มลิ้มน่ามองยิ่งขึ้น“เธอสวยมากเลยโซฟี่”หญิงสาวไม่ได้พูดอะไรตอบเขาไปแล้วยื่นหน้าเข้าประกบปากชายหนุ่ม แสดงฤทธิ์ของยาที่ไม่อยากเว้นช่วงสนองความต้องการนานขณะโดนเธอจับจูบ เชสก็จะปลดกระดุมเสื้อตัวเองถอดออก ทว่าโซฟี่กลับพูดขึ้นก่อน“ไปทำในห้องคุณกันนะคะ”“ทำตรงนี้ก็ได้ ฉันสามารถ”“ไม่เอาค่ะ มันส่วนรวมเกินไป ถึงจะไม่มีใครคนอื่นอยู่กับเรา ฉันก็เขินอยู่ดี..”“โอเค ฉันตามใจเธอ” สิ้นเสียงก็ช้อนตัวหญิงสาวอุ้มขึ้นในท่าเจ้าหญิง พาเดินไปยังจุดหมายที่เธอต้องการอย่างรวดเร็วประตูห้องของชายหนุ่มถูกเปิดออก ขณะที่เชสกำลังยื่นหน้าจูบปากดูดดื่มกับ
เมื่อดูแลเท้าภรรยาเสร็จแล้ว เชสก็พาเธอไปส่งที่หน้าห้อง เนื่องจากโซฟี่ขอเขาว่าไม่ต้องเข้าไปส่งถึงข้างในก่อนจะแยกย้ายกัน เชสก็บอกว่าตนจะออกไปข้างนอก“ไปไหนเหรอคะ”“เพื่อนชวนไปผับน่ะ”“อ้อ..”“หึ ฉันจะกลับมา แต่เธอไม่ต้องรอนะ นอนไปเลย”“แล้วอาหารเย็นล่ะคะ”“เธอทำกินของเธอเองเลย นี่เดี๋ยวฉันจะไปแล้ว”“โอเคค่ะ งั้นขับรถดี ๆ นะคะ”“แสดงความรักแบบภรรยาหน่อยสิ”“คะ”เขาหันแก้มข้างหนึ่งยื่นไปหาหญิงสาวพลันพองแก้มเล็กน้อย บอกเป็นนัยว่าให้เธอหอมแก้มตนโซฟี่มองแล้วก็ยืนนิ่ง ไม่ได้ทำตามอย่างที่เขาต้องการ“เร็วสิ ฟอดหนึ่งเร็ว”“ทำไมฉันต้องทำด้วยคะ ฉันไม่ได้อยากสูดกลิ่นคุณเข้าจมูกสักหน่อย”เชสถอยหน้าออกไปมองใบหน้าหวาน สีหน้าเรียบเฉยลง“ดื้อจริง ๆ”“…”“งั้นฉันทำเอง” เขาบอกจบก็ยื่นหน้าสูดกลิ่นที่แก้มของโซฟี่อย่างรวดเร็ว เธอจึงเบิกตาโพลงเล็กน้อยด้วยความตกใจ“คุณเชส” เอ่ยพลางยกมือจับแก้มที่โดนหอมของตน“อ่าห์ กลิ่นเมียหอมชื่นใจ”“คุณนี่เอาแต่ใจตัวเองจริง ๆ นะคะ”“เอาแต่เธอด้วย เตรียมตัวดี ๆ นะ”“…”“ไปนะครับคุณภรรยา” บอกจบก็ขยิบตาให้เธอไปหนึ่งข้างพลางยกยิ้มมุมปาก ก่อนจะหมุนตัวเดินออกจากบ้านไปในที่สุดโซ
“เดินไหวไหม” เชสเงยหน้าถามโซฟี่“ไหวค่ะ..”“แสดงว่าไม่ไหว” สิ้นเสียงแล้วเขาก็ยืนขึ้น ก่อนจะช้อนร่างบางอุ้มในท่าเจ้าสาว“ว้าย! คุณเชสคะ ฉันเดินไหวจริง ๆ นะคะ ไม่ต้องอุ้มก็ได้”“ภาพเสร็จเร็วสุดเมื่อไหร่” เขาไม่คุยกับเธอ แต่คุยกับช่างภาพแทน“ภายในเที่ยงวันพรุ่งนี้ค่ะคุณเชส”“ภายในเที่ยงคืนนี้” บอกจบก็เดินออกไปจากบริเวณนี้ทันที ปล่อยให้ช่างภาพและทีมงานคนอื่น ๆ ต่างอึ้ง ตระหนกกับคำพูดที่เปรียบเสมือนคำสั่งของเขา“เอาอีกแล้วนะคะ ทำไมคุณชอบทำอะไรตามใจจัง สั่งแบบนั้นถ้าเขารีบทำแล้วงานออกมาไม่สวยถูกใจคุณ คุณจะทำยังไงคะ” โซฟี่เอ่ยขณะอยู่บนหน้าแขนแกร่ง“ถ่ายกับเธอใหม่มั้ง”“..ฉันไม่ถ่ายแล้วค่ะ”“ดื้อเหรอ”“ฉันไม่ใช่เด็กนะคะ มาดื้ออะไรกัน”“เธอเด็กกว่าฉันตั้ง 7 ปี”“..ไปสืบเกี่ยวกับฉันมาหมดแล้วเหรอคะ”“ก็นิดหน่อย”“…”“เรื่องถ่ายใหม่ ฉันไม่ถ่ายหรอก ภาพพวกเรามันสวยอยู่แล้ว ดูแค่ภาพดิบบนจอเมื่อกี้ก็เกินจะบรรยาย แค่ช่างเขาต้องไปแต่งภาพเพิ่มนิดหน่อย ซึ่งเวลาถึงเที่ยงคืนนี้ฉันก็ว่ามันไม่น้อยไปด้วยซ้ำ เพราะภาพเราสวยอยู่แล้ว และเราถ่ายกันไปแค่ไม่กี่ภาพ”“…”“หรือเธอว่าไม่จริง”“ก็จริงค่ะ.. แต่เมื่อกี้ฉัน
“ขออนุญาตนะคะ รองเท้าค่ะคุณผู้หญิง” เสียงหญิงสาวคนหนึ่งพูดขึ้น ทั้งโซฟี่และเชสต่างหันไปมอง โซฟี่เห็นพนักงานคนนั้นวางรองเท้าดังกล่าวลงพื้น ทำท่าจะเปลี่ยนสวมมันให้เธอ จึงรีบย่อตัวลงห้ามพนักงานนั้นไว้ก่อน“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวฉันใส่เองก็ได้ ขอบคุณนะคะ” พูดจบแล้วก็จะทำตามที่บอก แต่เชสกลับนั่งยองลงมาจับมือเธอห้ามไว้“เดี๋ยวฉันใส่ให้”“ไม่เป็นไรค่ะคุณเชส คุณเป็นมาเฟีย เป็นคนน่าเกรงขามในสายตาคนอื่น มาใส่รองเท้าที่เป็นของต่ำให้ฉัน คนอื่นจะมองไม่ดีนะคะ”“ฉันใส่รองเท้าให้เมียฉัน ใครมันมองว่าไม่ดีฉันจะเอาเลือดหัวมันออกมา” เขาตอบเสียงดัง ให้คนโดยรอบได้ยินด้วย“…”“ลุกขึ้นไปยืนดี ๆ จะได้ยกเท้าให้ฉันได้”หญิงสาวยอมทำตามที่เขาบอก สายตายังคงมองชายหนุ่มอยู่ตลอด เธอไม่คิดจริง ๆ ว่าคนอย่างเขาจะยอมลดตัวมายุ่งกับเท้าของเธอแบบนี้ ตั้งแต่ที่ทำทีหวงเธอกับผู้ชายคนอื่นเมื่อกี้แล้ว ไหนจะที่จูบแหวนแล้วพูดจาสุภาพแปลกหูกับเธออีกสามีเธอนี่เป็นอาหวังแน่ ๆ ทำดีให้เธอตายใจ เธอจะได้ยอมมีอะไรด้วย พอเธอท้อง เขาก็จะได้อิสระ ไม่เหลียวตามองเธออีก..ถ้าเป็นอย่างที่เธอคิดนี้จริง ก่อนจะถึงตอนที่เขาตั้งใจไว้ เธอจะทำให้เขาแพ้ภัย







