เข้าสู่ระบบ“คะ คุณไม่ได้ป้องกัน?”
“ผมปล่อยในตัวคุณ” ข้าวฟ่างแทบอยากจะกรีดร้องออกมาให้สุดเสียง ร่างแบบบาง ทั้งผิวและหุ่นสวยสมกับเป็นนางแบบหมุนกลับในแบบที่หันหลังให้เขา ขณะที่สมองกำลังประมวลอะไรหลายๆ อย่างจนมันหนักอึ้ง ทว่ามุมปากของอีกฝ่ายกลับยกยิ้ม สายตากวาดมองคนตัวเล็กจากทางด้านหลัง คนอื่นอาจจะเชื่อในเรื่องของความบังเอิญ แต่ยกเว้นเขา ผู้ชายที่ชื่ออลัน ทุกอย่างในโลกใบนี้ไม่มีความบังเอิญ มีแต่ความตั้งใจ “จะไปไหน” ถามทันทีที่คนเบือนหน้าหนีในตอนแรกหมุนตัวกลับ ฝ่ามือเกือบแตะลงบนต้นแขนขาวแต่ดีที่ยั้งมือเอาไว้ได้ทัน ดวงตาคมกริบทิ้งมองใบหน้าสะสวยในเวลาต่อมา “เอาเป็นว่าฉันจะจัดการทุกอย่างเอง” “ยังไงครับ” “ก็ถือซะว่าระหว่างเรามันเป็นแค่เซ็กซ์ ส่วนเรื่องท้องคุณไม่ต้องห่วง เดี๋ยวฉันจัดการตัวเอง” “จัดการยังไง” นางแบบสาวสบตากับคนถาม ลมหายใจเข้าออกเริ่มแรงขึ้นเมื่อต้องมายืนอธิบายในเรื่องที่ไม่อยากจะคุย “ฉันโตแล้วค่ะ หายาคุมฉุกเฉินกินป้องกันได้” “แล้วคุณรู้ไหมครับว่ามันไม่ได้ป้องกันได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะฉะนั้นก็แปลว่าคุณมีสิทธิ์ที่จะท้องลูกของผม” บอกออกมาพร้อมกับทิ้งสายตาลงมองต่ำ “ฉันคงไม่โชคร้ายขนาดนั้นมั้งคะ” “คุณใจร้ายนะครับที่มองว่าลูกของผมเป็นเรื่องที่โชคร้ายสำหรับคุณ” “แล้วคุณจะเอายังไง สามล้านที่คุณอยากได้ฉันไม่มีให้คุณหรอก แล้วอีกอย่าง… การที่คุณมีอะไรกับฉัน คนที่เสียหายมันก็คือฉัน คุณไม่ควรเรียกร้องอะไรด้วยซ้ำ” “แล้วถ้าผมบอกว่าการที่คุณมีอะไรกับผม มันก็เป็นเรื่องที่โชคดีของคุณเหมือนกันล่ะ” “เดี๋ยวนะ” ฝ่ามือเรียวยกขึ้นห้าม นี่ถือว่าเป็นเรื่องบ้าบอมากที่สุดที่เคยเจอมาเลย “คือฉันเมาค่ะ เมื่อคืนฉันเมามาก เมาจนจำอะไรไม่ได้ และฉันก็ไม่รู้ด้วยว่าคุณเป็นใคร เราไม่รู้จักกัน และฉันก็ไม่รู้ด้วยว่าการนอนกับคุณมันมีดีอะไร” ข้าวฟ่างสูดลมหายใจเข้าปอดหนักๆ ทำไมมีความรู้สึกว่าผู้ชายตรงหน้าเจ้าเล่ห์มาก ใบหน้าหล่อเหลาเรียบเฉยราวกับคนไร้ความรู้สึกทำให้ยากเกินกว่าจะอ่านคนอย่างเขาออก ไม่เข้าใจอารมณ์ ไม่เข้าใจความรู้สึก ไม่เข้าใจอะไรสักอย่างเลย! “ผมไม่เอาเงินสามล้านแล้วก็ได้” พอได้ยินแบบนั้น นางแบบสาวทำตาโตทันที “โอเคค่ะ แปลว่าคุณ…” “แต่ผมมีข้อเสนออื่นให้คุณนะ” สีหน้าที่กำลังจะหลุดความสบายใจถูกเจือไว้ด้วยความผิดหวังอีกครั้งก่อนที่เรียวปากเอิบอิ่มจะขยับถามออกมา “ข้อเสนออะไร” “ผมไม่เอาเงินสามล้านจากคุณ แต่คุณต้องอยู่กับผมสามเดือน จนกว่าผมจะมั่นใจว่าประจำเดือนของคุณไม่ขาด ท้องของคุณไม่โต คุณไม่เอาลูกของผมติดท้องไป” “แล้วถ้าฉันไม่ตกลงล่ะ” “ผมไม่อยากเป็นคนใจร้ายในสายตาคุณนะ ผมอยากให้คุณรับข้อเสนอของผม เราควรตกลงกันดีๆ” “คุณรู้จักฉันหรือเปล่า คุณรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร แล้วรู้ไหมว่าฉันไม่สามารถอยู่กับผู้ชายคนไหนได้ทั้งนั้น ถ้าคนอื่นรู้เข้าฉันจะเป็นยังไง” “แปลว่าคุณจะยอมอยู่กับผมสามเดือน แต่ไม่อยากให้คนอื่นรู้เรื่องของเราใช่ไหมครับ” “แล้วถ้าฉันไม่ตกลงล่ะ?” ถามพร้อมกับสบตาอีกฝ่ายตรงๆ เชื่อเถอะ เป็นใครก็คงไม่ยอมง่ายๆ แน่ๆ แค่ในคืนวันเกิดที่สนุกสุดเหวี่ยง ตื่นขึ้นมากลับพบว่าตัวเองอยู่บนเตียงกับใครก็ไม่รู้ เสียตัวก็มากเกินพอ ต้องไปทำตามข้อเสนอที่เขาเรียกร้องอีก มันไม่น่าจะได้จริงๆ “ผมบอกแล้วว่าผมไม่อยากใจร้ายกับคุณ” “คุณจะทำอะไรฉัน?” “ผมทำให้คุณไม่มีงานได้นะ ถือว่าลงโทษในความดื้อของคุณ” “ดื้อ? ฉันน่ะเหรอที่ดื้อ!” “ผมให้เวลาฟ่างสามวัน ไปเก็บของให้เรียบร้อย แล้วเราจะย้ายมาอยู่ที่นี่ด้วยกัน” ชื่อของเธอที่หลุดออกมาจากปากของเขายิ่งทำให้นางแบบสาวเข้าใจว่าเขารู้จักเธอจริงๆ “คุณเป็นใคร แล้วคุณทำแบบนี้กับฉันทำไม” “ฟ่างนั่นแหละที่เป็นฝ่ายเริ่ม” “ฉันอาจจะเริ่มเพราะความเมาไง ฉันเมา ฉันไม่มีสติ ฉันจำอะไรไม่ได้” “แต่พอเมาแล้วฟ่างมามีอะไรกับผมไง ในเมื่ออะไรๆ มันก็เกิดขึ้นแล้ว เราก็ควรยอมรับมันไม่ใช่เหรอครับ” “ฉันว่าเราคุยกันไม่รู้เรื่องแล้วนะ ฉันว่าเราควรเลิกคุย” นางแบบสาวกัดฟันแน่น กลั้นใจเดินผ่านคนตัวสูงไปคว้าเสื้อผ้าของตัวเองที่ถูกเก็บอย่างเป็นระเบียบกลับมาสวมใส่ ทั้งที่เธออ่ะเมา และคนเมาอย่างเธอคงทำอะไรแบบนี้ไม่ได้แน่ๆ เสื้อผ้าทุกชิ้นไม่ว่าจะเป็นชิ้นเล็กหรือชิ้นน้อย ถูกเก็บอย่างเป็นระเบียบ ถ้าไม่ใช่เธอก็ต้องเป็นเขา นั่นก็แปลว่าเขามีสติทุกอย่าง แต่เลือกที่จะปล่อยเลยตามเลยสินะ แบบนี้เขาเรียกจงใจชัดๆ “คุณจะกลับก่อนก็ได้ คุณจะมีเวลาเก็บของสามวันตามที่ผมให้ ครบกำหนดเมื่อไหร่ผมจะไปรับฟ่างด้วยตัวเอง” “หึ!” มุมปากบางผุดรอยยิ้มจางๆ ก่อนจะตวัดสายตากลับไปมอง เอาจริงๆ ถ้าเธอไม่ยอมเขาก็ทำอะไรเธอไม่ได้อยู่แล้วไหม เขาเป็นใครถึงคิดจะมาบังคับให้เธอทำอะไรก็ได้ มันไม่ได้ง่ายขนาดนั้นหรอก “แล้วเจอกันนะครับ เดี๋ยวจะมีคนไปส่งคุณที่คอนโดเอง” “ไม่ต้อง” “ถ้าคุณสงสัยอะไรหรือมีปัญหาตรงไหนที่อยากถามผม เบอร์โทรของผมอยู่ในโทรศัพท์ของคุณ ผมรอรับสายฟ่างตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง” “นี่คุณแอบใช้โทรศัพท์ฉันเหรอคะ” ชักสีหน้าออกไปอย่างไม่ชอบใจ โทรศัพท์มือถือเป็นของส่วนตัว และไม่ว่าอะไรก็ตามแต่ที่มันเป็นของของเธอเขาไม่ควรเข้ามายุ่งตั้งแต่แรก “ผมแค่เมมเบอร์ของผมไว้ให้คุณ” “แล้วฉันบอกตอนไหนว่าฉันอยากได้” “เถอะครับ ผมเชื่อว่าคุณจะโทรมา” ใบหน้าของคนฟังเบือนออกไปอีกทาง นี่มันเวรกรรมอะไรของเธอ ทำไมต้องมาเจอกับอะไรแบบนี้ ถ้าคิดว่าเธอจะติดต่อกลับมาหาเขาเพราะพิศวาสแล้วล่ะก็ บอกเลยว่าไม่มีทาง ถึงใบหน้าของเขาที่แม้จะมองผ่านๆ ยังเห็นว่าหล่อมากแค่ไหน ไม่ว่าเขาจะเป็นใครมาจากไหนเขาก็ไม่สามารถทำให้เธอมาสยบแทบเท้าเขาได้ทั้งนั้น เรื่องกลัวว่าเขาจะตามข่มขู่ แบล็คเมล์ หรือตามราวีมันก็ใช่ ถ้ามันเป็นแบบนั้นจริงๆ ก็ค่อยหาทางออกอีกที ถ้าจะให้เธอมายอมเขาง่ายๆ ในตอนนี้ บอกเลยว่าทำไม่ได้จริงๆ ———————-ภายในห้องตรวจที่อุณหภูมิเย็นจัด และไม่รู้ว่าความหนาวหรือว่าเขากำลังตื่นเต้นกันแน่ที่ทำให้หัวใจแกร่งเต้นแรงในตอนนี้ ไคเลอร์จับจ้องที่หน้าจอที่กำลังเคลื่อนไหว คุณหมอกำลังทำอัลตร้าซาวด์ กำลังดูการเคลื่อนไหว และการเจริญเติบโตของเจ้าตัวน้อยที่อยู่ในครรภ์ ดูจังหวะการเต้นของหัวใจ หัวใจของคนเป็นพ่อเป็นแม่เองมันก็เต้นตาม “ขอแสดงความยินดีกับคุณพ่อและคุณแม่ด้วยนะคะ คุณได้ลูกสาวค่ะ” สูตินรีแพทย์เอ่ยออกมาเมื่อรู้เพศที่แท้จริง สิ่งนั้นเรียกรอยยิ้มจากคนเป็นพ่อและแม่ได้ในทันทีเช่นกัน “ลูกสาวผมแข็งแรงดีใช่ไหมครับคุณหมอ” คุณพ่อที่ได้ลูกสาวรีบเอ่ยถาม ในขณะที่มืออีกข้างกุมมือเมียรักเอาไว้แน่น “แข็งแรงดีค่ะ น้ำหนักตัวของคุณแม่อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ถือว่าคุณแม่บำรุงเจ้าตัวน้อยได้ดีทีเดียวเลยค่ะ” คนถูกชมยิ้มกว้าง เธอน่ะอยากจะบอกออกไปทันทีว่าที่ทุกอย่างมันดีแบบนี้มันไม่ได้เป็นเพราะเธอแค่คนเดียว แต่เป็นเพราะพ่อของลูกด้วยที่เขาคอยเอาใจใส่ ดูแลเรื่องอาหาร เขาหาข้อมูลทุกอย่างเพียงเพราะอยากดูแลเธอให้ดีที่สุด“ช่วงไตรมาสที่สองคุณแม่จะไม่มีอาการแพ้ท้องแล้ว หมอแนะนำให้อาหารแต่ละมื้อให้จัดเตรียมให้ครบห้าหมู่นะคะ ไม่
พลอยชมพูอมยิ้มออกมาอย่างชอบใจในตอนที่มองพ่อของลูกลงมือบีบนวดที่ขาของเธอ นิ้วยาวทั้งห้าวางขย้ำลงเบาๆ ไม่ทิ้งน้ำหนักมากจนเกินไปเพราะกลัวว่ามันจะทำให้เธอเจ็บแล้วผิวช้ำ นอกเหนือจากการระมัดระวังเรื่องการลงแรง ก็เห็นจะเป็นการอดทนต่อความรู้สึกของตัวเองที่มันกำลังทำให้เขารวนอยู่ในตอนนี้ บ่อยครั้งที่พ่อของลูกหายใจติดขัด และหลายครั้งที่เขาเลือกที่จะเบือนหน้าหนี ปล่อยให้มือสัมผัสอยู่แบบนั้น แต่สายตาไม่กล้าจับจ้อง ราวกลับกลัวว่าจะต้านทานความรู้สึกของตัวเองไม่ไหวยังไงยังงั้น“พี่เลอร์ ขยับขึ้นมาบีบด้านบนอีกหน่อยได้ไหมคะ มันปวดตรงต้นขามากเลยค่ะ” “ให้ขยับขึ้นด้านบนอีกเหรอ” “ใช่ค่ะ ขยับขึ้นมาเลย พลอยเมื่อยมาก” คนฟังลอบกลืนน้ำลายลงคอด้วยความยากลำบาก แต่ในเมื่อเธอออกคำสั่ง เขาก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะหลีกเลี่ยงได้อยู่แล้ว แค่เธอบอกว่าเมื่อย เขาก็พร้อมที่จะนวด และบ่อยครั้งที่เผลอลูบแทนการนวด มันเป็นอะไรที่โคตรยากสำหรับเขาเลย “พี่เลอร์เป็นอะไรหรือเปล่าคะ ทำไมถึงหายใจแรงแบบนั้นล่ะ” ไคเลอร์เลือกที่จะส่ายหน้าแทนคำตอบ “เหนื่อยไหมคะ อยากให้พลอยนวดให้พี่คืนไหม” เธอถามตาใส รู้อยู่เต็มอกว่าเธอกำลังเล่นใหญ่แกล้งเขา
ความสบายใจถาโถมเข้าใส่จนคนตัวเล็กระบายรอยยิ้มออกมาจนได้ พลอยชมพูกอดคอพ่อของลูกเอาไว้แน่น แค่ได้พูดออกมามันกลับทำให้เธอสบายใจมากกว่าที่คิด หากรู้แบบนี้เธอคงบอกเขาตั้งแต่แรก ไม่ปล่อยให้ตัวเองต้องคิดมากอยู่แบบนั้นแน่นอน “พลอยไม่รู้ว่าตอนที่พี่เลอร์ไปทำงาน พี่จะเจอใครบ้าง” “หึงหวงพี่?” คนถามยิ้มมุมปาก เชื่อเถอะว่าเขาไม่ได้อึดอัดหรือลำบากใจแบบที่เธอกลัวแน่ เขารู้สึกดีมากต่างหากที่เธอรู้สึกแบบนี้ เพราะมันเป็นคำตอบว่าในหัวใจของเธอมันมีเขาจริงๆ “ก็ตอนนี้พลอยท้องอยู่ ทุกอย่างมันไม่ได้ดูดีเหมือนเดิมแล้ว” อาจจะเป็นรูปร่าง หรืออะไรหลายๆ อย่างที่มันเปลี่ยนแปลงไป เธอรู้ว่าผู้ชายทุกคนไม่ได้คิดแบบเดียวกัน และไม่ได้เป็นเหมือนกันทุกคน แต่ก็อย่างที่เธอบอกความรู้สึกพวกนี้มันเกิดขึ้นมาเองเธอพยายามที่จะหลีกเลี่ยงแล้วแต่เธอทำไม่ได้ “วันที่พี่เสียใจที่สุด คือวันที่พี่ปล่อยให้พลอยหลุดมือ พี่เกือบสูญเสียผู้หญิงที่พี่รักไปพร้อมกับลูกแท้ๆ ของพี่ นั่นคือสิ่งที่ทำให้พี่เสียใจมากที่สุด และในเมื่อมันเป็นแบบนั้นพี่จะปล่อยให้ผู้หญิงที่พี่บอกว่ารักเสียใจเพราะการกระทำของพี่ได้ยังไง” “……”“ตอนนี้พลอยไม่ได้เป็นแค่เม
@คอนโดมิเนียมของไคเลอร์ คนที่แอบน้อยอกน้อยใจไม่สามารถข่มตาให้หลับได้ตั้งแต่ตอนที่พ่อของลูกหายออกไปจากห้อง ทั้งที่พยายามบอกตัวเองและเตือนสติตัวเองอยู่ตลอดว่าเขาแค่ออกไปทำงาน แต่เธอกลับไม่สามารถข่มความคิดเอาไว้ได้เลย ร่างบอบบางดันตัวลุก ก่อนจะขยับตัวไปเปิดไฟบริเวณหัวเตียงจนภายในห้องนอนส่องสว่าง ใบหน้าที่ถูกกระทบด้วยแสงไฟขาวจัดกว่าเก่า ในขณะที่ในแววตาฉายความรู้สึกทุกอย่างออกมาอย่างชัดเจนเช่นกัน พลอยชมพูขยับตัวลงจากเตียงอย่างเชื่องช้า คว้าโทรศัพท์มือถือมาปลดล็อกเพื่อดูเวลาบนหน้าจอ ทุกอย่างยังคงว่างเปล่าไม่มีข้อความจากพ่อของลูกส่งมาถามไถ่กัน เขาอาจจะวุ่นวายและติดธุระอยู่กับเรื่องงาน หรือบางทีก็อาจจะมีอย่างอื่นที่น่าสนใจมากกว่าเธอ ความคิดมากกระตุ้นให้ธารน้ำตาให้ตีตื่นขึ้นมาจนได้ อยู่ดีๆ ก็รู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง คล้ายกับมีบางสิ่งบางอย่างที่หายไปเพียงแค่ในตอนนี้มีเธออยู่ในห้องชุดหรูตามลำพัง เธออยากให้เวลามันเดินเร็วมากกว่านี้ อยากให้เขารีบกลับมา อยากเรียกร้องให้เขากลับก่อนเวลาด้วยซ้ำ แต่เธอกลับไม่กล้าพอ กลัวว่าหากเข้าไปก้าวก่ายมากเกินไปมันจะทำให้ทุกอย่างแย่ไปมากกว่าเดิม มือบางลวงตาวางโ
ดวงตากลมสวยกระพริบถี่ๆ ในยามที่มองพ่อของลูกแต่งตัวที่หน้ากระจก จังหวะที่ไคเลอร์ฉีดน้ำหอมลงบนร่างกายเป็นตอนที่พลอยชมพูหันไปมองเวลาบนนาฬิกาแขวนผนัง ตอนนี้มันสี่ทุ่มกว่า เป็นเวลาที่เราควรพักผ่อนด้วยกันบนเตียงเหมือนทุกๆ วัน แต่วันนี้พ่อของลูกกลับมีงานที่ต้องไปจัดการ “วันนี้จะกลับตอนกี่โมงคะ” ที่จริงเธอไม่ได้อยากตั้งคำถามนะ เพราะระยะเวลาที่ผ่านมาหลังจากที่เราสองปรับความเข้าใจกัน ไคเลอร์ให้เวลาเธอมาโดยตลอด ทั้งดูแล เอาใจใส่ ให้เวลามากที่สุดเท่าที่เขาจะให้ได้ จากที่ตอนแรกคิดว่าเพียงพอและคงเข้าใจเขาได้ไม่ยากในเรื่องงานที่เขาทำ แต่ในจังหวะที่คนรักต้องออกไปทำงานจริงๆ เธอเองกลับมีความรู้สึกว่าที่ผ่านมามันยังไม่พอ เธอโลภมากกว่านั้น อยากได้เวลาจากเขามากกว่านั้น อยากรั้งตัวเขาให้อยู่กับเธอ อยู่ในสายตากันตลอดเวลา เขาออกไปทำงานแต่ละวัน จะเจอใครบ้าง และเขาจะเผลอถูกใจใครหรือเปล่า เธอรู้ว่าเรื่องแบบนั้นมันเกิดขึ้นได้ง่ายมาก รู้ว่าต้องใช้ความเชื่อใจ เพราะเวลาแบบนี้เธอกลับห้ามความคิดที่มันรบกวนอยู่ในตอนนี้ไม่ได้“น่าจะกลับเช้าเลย พลอยนอนได้เลยนะ ไม่ต้องรอพี่” คนบอกพับแขนเสื้อเชิ้ตลวกๆ ทั้งที่เขาฉีดน้ำห
“ให้วินช่วยล้างไหมเฮีย” คาลวินเดินตามพี่ชายเข้ามาในห้องครัว และยังอดที่จะอมยิ้มไม่ได้เมื่อเห็นคนตัวโตเริ่มปรับตัวเป็นทั้งสามีและพ่อที่ดี ต่อให้จะเป็นภาพที่แปลกตามากแค่ไหน แต่มันก็น่ารักมากอยู่ดี “ไม่ต้อง” “วินอาจจะล้างสะอาดกว่าเฮียก็ได้นะครับ” “มีธุระอะไรก็พูดมาเลย ไม่ต้องมาเซ้าซี้ กูรำคาญ หรืออยากให้คิดบัญชีที่มึงปั่นกูจนหัวหมุน” ไคเลอร์ปรายสายตามองคนที่กำลังคุยด้วย ที่จริงก็ปล่อยผ่านได้นั่นแหละ ไม่ได้ติดอะไรทั้งนั้น เพียงแค่พอเจอหน้ามันก็อดที่จะพูดไม่ได้แค่นั้นเอง“เฮียโกรธวินมากเหรอครับ”“แล้วสิ่งที่มึงทำกับกู กูควรรักมึงมากขึ้นงั้นเหรอ?”“แล้วถ้าวินบอกว่าขอโทษล่ะครับ” คำพูดของคาลวินส่งผลให้คนตัวโตกว่าชะงัก คิ้วดกเข้มขมวดเข้าหากันทันที“มึงว่าไงนะ”“วินอยากขอโทษเฮียครับ ขอโทษทุกเรื่องเลย วินรู้นะว่าวินทำเกินไป ทั้งที่ควรเข้าข้างพี่ชายตัวเอง แต่วินกลับไม่ทำ” พูดไปยิ้มไป และถ้าให้พูดตามความรู้สึกจริงๆ หากย้อนเวลากลับไปได้ เขาก็ยังเลือกที่จะทำแบบนี้อยู่ดี “แล้วยังไงต่อ?”“วินมาขอโทษครับ ขอโทษที่ทำให้เฮียคิดมากหลายวัน”“แต่กูคิดมากเป็นเดือน”“อ้าวเหรอครับ หรือวินนับวันผิดนะ”“มึงกว







