เข้าสู่ระบบ
ร้านคาราโอเกะแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร
“กูละอิจฉาไอ้เข้มฉิบ น้องพุดเมียมันสวยน่ารักจริงๆ” จอมทัพเอ่ยถึงเพื่อนรักที่ตนไปร่วมงานแต่งงานมาเมื่อไม่กี่วันก่อน
“สาวๆ ของมึงเยอะแยะ สวย เอ็กซ์ เซ็กซี่ไม่หยอกนี่หว่า เลือกสักคนสิวะ” พยับหมอกกระเซ้า ชูแก้วให้เพื่อนก่อนกระดกแก้วสาดน้ำสีอำพันลงคอ
“เฮ้ย! กูแค่อิจฉามันเล่นๆ ที่ได้เมียน่ารัก กระดูกอ่อนน่าขบเคี้ยวอีกต่างหาก ส่วนไอ้เรื่องจะให้กูแต่งนี่ อีกนานว่ะ รึถ้ายังสนุกไปได้เรื่อยๆ กูก็อยู่แบบนี้แหละ จะหาห่วงมาล่ามคอให้น่าเบื่อทำไมวะไอ้ยับ”
“หมอกโว้ยหมอก กรุณาเรียกชื่อกูให้เสนาะรูหูกูหน่อย ไอ้เวร! เดี๋ยวพ่อปัดเตะไส้แตก”
คนชื่อเพราะแต่มักถูกเพื่อนเรียกซะเสียโวย ซ้ำกระดิกปลายเท้าที่พาดบนเข่าเป็นเชิงข่มขู่เพื่อนปากดี
พยับหมอกทำตาขวางใส่จอมทัพก่อนจะหันมาทางเพื่อนรักอีกคนที่นั่งกระดกเหล้าเงียบๆ ไม่บ่อยนักที่พวกเขาจะได้รวมตัวกันแบบนี้ ด้วยต่างคนต่างมีภาระหน้าที่การงาน
เพราะงานแต่งงานของโรมรันจึงทำให้มาเจอกันอีกครั้งในรอบครึ่งปีก็ว่าได้
“แล้วมึงล่ะคราม คิดจะแต่งงานแต่งการกับใครเขามั่งมั้ย หรือจะหมกตัวอยู่สวนยางเป็นมหาโจรต่อไป”
คราม หรือฟ้าคราม วงศ์เศวตรนนท์ เลิกคิ้วขึ้นสูงข้างหนึ่ง หวนนึกถึงวงหน้าสวยหวานของเมียเพื่อน สาวน้อยนามพุดแก้วเป็นผู้หญิงที่สวยงามน่ารัก แต่นั่นไม่ใช่สิ่งสำคัญมากไปกว่า เธอเป็นผู้หญิงที่ทำให้โรมรันมีความสุข เขาชื่นชมยินดีกับเพื่อนรักด้วยเช่นกัน
“มึงถามแต่คนอื่น ตัวมึงล่ะ”
“ยังไม่เจอคนที่ใช่ว่ะ ถ้าสนุกได้เรื่อยๆ เหมือนไอ้จอมว่า กูก็อยู่แบบนี้ไปเรื่อยๆ รึถ้าเจอแบบไอ้เข้มกูก็อาจเต็มใจหาห่วงมาล่ามคอเหมือนกัน”
“กูไม่ชอบเด็ก” ฟ้าครามย้ำเสียงเรียบ
“เฮ้ย เด็กก็สนุกนะมึง ทำอะไรไม่เป็น หน้าเหนียมๆ อายๆ แตะนิดแตะหน่อยสะดุ้ง ชวนให้กูนี่รู้สึกว่าตัวเองเทพมากๆ ฮ่าๆ” จอมทัพ คนชอบเด็กทำเสียงเริงรื่น ทำหน้าทะเล้น
ก่อนจะมีเพื่อนคนใดตอกกลับเพราะความหมั่นไส้ เสียงหวานฉ่ำก็ดังแทรกขึ้นมาก่อน
“แหม... สนุกอะไรกันค้า...หนุ่มๆ”
“โอ้...เจ๊รัก... มาๆ กอดที ไม่เจอเจ๊ตั้งนาน สวยขึ้นจนจำแทบไม่ได้”
จอมทัพยิ้มกว้าง ตาเป็นประกาย อ้าแขนรอเจ๊รัก หรือรักมณี เจ้าของร้านคาราโอเกะแห่งนี้ พวกเขาสนิทกับสาวสวยที่ยังพริ้งเพราคนนี้เป็นอย่างดี แม้ว่า อายุอานามของเจ๊รักเลยเลขห้าไปแล้ว
รักมณียิ้มกว้างหวานหยด เดินเข้าสู่วงแขนหนุ่มวัยฉกรรจ์ที่แน่นไปทั้งเนื้อทั้งตัว ไม่กอดเปล่า ยังยื่นหน้าไปหอมแก้มหนุ่มหล่อซ้ายขวาอีกด้วย กอดจอมทัพเสร็จก็เลยไปกอดพยับหมอกและฟ้าคราม ถือโอกาสทิ้งบั้นท้ายดินระเบิดของตนเองบนต้นขาแข็งแกร่งของหนุ่มคมเข้มที่หน้าดุดันกว่าใครเพื่อน วงแขนข้างหนึ่งยังเหนี่ยวอยู่ที่ลำคอหนา
ฟ้าคมกดยิ้มบางๆ ไม่ได้ว่าอะไร
“เจ๊คิดถึ้ง...คิดถึงพวกเธอ ว่าแต่เจ๊สวยพอจะขึ้นเตียงกับเธอได้มั้ยนายจอม อิอิ”
“โอ้ว...เจ๊ อยู่เป็นพี่ที่ผมเคารพเหอะคร้าบ ผมไม่อยากทำให้เจ๊หัวใจวายก่อนวัยอันควร”
“แหม...ปากคอเราะรายไม่เปลี่ยน ไม่แน่นะ ได้ลองสักทีอาจจะติดใจนะยะ เอาล่ะๆ ตามสบายกันนะ คราม หมอก จอมนานๆ มาที เจ๊จะให้น้องๆ น่ารักๆ มาคอยดูแล”
“ดูอย่างเดียวจะไปมันอะไรล่ะครับเจ๊รักสุดสวย” พยับหมอกเย้า ตาพราว
“ปาก...ไม่เคยเปลี่ยนกันเลยพวกเธอนี่น่ะ จะอะไรยังไงเจ๊ไม่ยุ่งย่ะ รึถ้าครามอยากจะไปชมวิวชั้นบนกะเจ๊ก็ยินดีนะ” รักมณีหันมายิ้มหวานให้หนุ่มที่ตนนัวเนียด้วย
ชายหนุ่มยิ้ม “ผมเองก็ยังไม่อยากติดคุกข้อหาชำเราผู้สูงวัยนะครับ”
“เฮ้อ พอกันนะพวกเธอ ปากแบบนี้มันน่าจูบให้ขาดใจจริงๆ ไม่เอาละ คุยกับพวกเธอทำฉันหมดความมั่นใจ เดี๋ยวจะไปเรียกน้องๆ มาให้”
“เจ๊รักน่าร้าก...เสมอสำหรับพวกผมล่ะครับ”
“ย่ะ”
สาวที่ยังสวยสะบัดค้อน ก่อนจะพาเรือนร่างระหงสมส่วนอันเกิดจากการดูแลตัวเองเป็นอย่างดีจะเดินออกไปจากห้อง ทิ้งหนุ่มๆ ที่หัวเราะกันครึกครื้นไว้ในห้อง ก่อนที่ไม่กี่นาทีถัดมา สาวสะพรั่งสามนางจะเดินยิ้มหวานหยดเข้ามาหา
“สวัสดีค่ะเฮีย”
“โอ้ว... เรียกพี่ก็พอจ้ะสุดสวย” จอมทัพรีบบอก กวักมือเรียกสาวๆ ไปนั่งด้วย
ทั้งสามคนก็แทรกตัวลงข้างๆ ร่างแกร่งของแต่ละหนุ่มสุดหล่อเหลาสามสไตล์ทันที พวกเธอเห็นหน้าแวบแรกก็รู้สึกว่าความหล่อเข้มนั้นกระแทกตา เขย่าหัวใจให้ระทึกไหวโครมคราม
ฟ้าครามพยักหน้ารับสาวสวยที่แนะนำชื่อของเธอกับเขาพร้อมคอยบริการรินเหล้า ร้องเพลงคลอไปกับเพื่อนๆ ของเธอและพยับหมอกกับจอมทัพ
สำหรับเขาแล้ว เที่ยวได้ทุกที่ กินดื่มได้ทุกอย่าง หากไม่ได้สนใจอะไรมากมายไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือเหล้า
เหล้ามีไว้ผ่อนคลายยังไง ผู้หญิงสำหรับฟ้าครามคือความหมายนั้น
ใช่ว่าเขาไม่ให้ความสำคัญกับผู้หญิง เพียงแต่เขาแยกแยะและปลดปล่อยตามสัญชาตญาณของผู้ชายที่ยังโสด จบแล้วจาก เลิกแล้วต่อกันไป บางครั้งบางคนก็มีเจอกันครั้งที่สองสามแล้วแต่โอกาสและอารมณ์จะพาไป แต่ถึงวันนี้ก็ยังไม่มีผู้หญิงคนไหนที่ทำให้เขาคิดอยากจะร่วมชีวิตด้วย
“ไม่สนุกเหรอคะพี่ ไม่เห็นร้องเพลงเลย สักเพลงไหมคะ” สาวสวยยื่นไมโครโฟนมาให้ พลางยื่นหน้าแฉล้มมาออดอ้อนออเซาะ เบียดสีเนื้อตัวกับต้นแขนแน่นแข็งสมบูรณ์ที่แนบกับทรวงอก
“อ้อนรักคุณคราม อยากให้คุณครามมีความสุขค่ะ”“ฉันสุขจนล้น อ้อนจ๋า”“รักอ้อนมากๆ นะคะ”“แน่อยู่แล้ว ฉันแก่ขนาดนี้จะให้ไปวิ่งหาผู้หญิงที่ไหนอีก กลัวแต่เธอจะเผลอไปรักคนอื่น”“แน้... หาความแล้วนะคะ คุณครามแก่ที่ไหน แถมหล่อแบบนี้ อ้อนจะไปไหนได้”“แต่แรกว่าเถื่อน ว่าโหด”“โหดก็รัก เถื่อนก็รักค่ะ”“น่ารักนะเรา”กรณิการ์หัวเราะคิก ป่ายปีนขึ้นไปบนตักกว้าง ทำตัวน่ารักเพิ่มมากขึ้นไปอีกด้วยการขยับเสียดสีเนื้อตัวอ่อนนุ่มปลุกปั่นกายแกร่งให้แข็งขึง ซึ่งเธอไม่ต้องใช้ความพยายาม แค่สัมผัส ฟ้าครามก็ตื่นแล้ว“เห็นไหมคะ แก่อะไรตื่นไวปานนี้”ฟ้าครามส่ายหน้าแต่คลี่ยิ้มอ่อนโยนให้คนน่ารัก เขาแนบหน้าครึ้มเคราเข้ามาจูบปากหวานๆ ที่แสนจะพูดถูกใจ“อ้อนทำมันตื่น ต้องดูแลมันรู้ไหม”“รู้หรือไม่รู้ดีน้า...”หน้างามระบายยิ้ม ส่งสายตายั่วเย้า แต่ขยับบั้นท้ายคลึงเคลื่อนเบาๆ เมื่อสามีหนุ่มไล่จูบฟัด กรณิการ์หัวเราะลั่นก่อนถูกจูบจนตัวอ่อน คำหวานถูกกระซิบบอกย้ำ แล้วเธอจะใจดำกับเขาได้ยังไงสาวน้อยจึงเริ่มต้นออดอ้อน สนองรัก ตามเสียงพร่ำขอของสามีอย่างเต็มใจอย่างยิ่งยวดฟ้าครามคำรามระคนครางกระหึ่ม เมียสาวแปลงร่างเป็นนางแมวป่ายั่ว
“ฉันไม่ได้หมายถึงเรื่องนั้น แต่หมายถึง คร่อมแล้วต้องคลึงด้วย มันจะยิ่งดี” เพราะเขากำลังถูกกดทับจนปวดร้าว ฟ้าครามขบกรามกรอด ผงกหัวมอง เมื่อเมียรักไล้ลิ้นลงไปถึงสะดือ เธอไม่ลืมจุ่มจ้วงลิ้นวนแอ่งเล็กๆ นั่นเล่น ก่อนจะเดินหน้าต่อไปตามขอบกางเกงที่สาบซิปเปิดแยกมือบางช้อนเข้าใต้สัดส่วนอลังการ มันกระตุกราวกับเริงร่า เหยียดขยายรอเวลาแผลงฤทธิ์ สาวน้อยมองแล้วหน้าร้อนผ่าวๆ หากเธอก็เหลือบขึ้นมองหน้าคมเข้มหล่อเหลาที่เดี๋ยวนี้เขาจะตัดแต่งหนวดเคราจนสั้นเตียนทำให้ยิ่งหล่อเข้มคม เธอสบตาร้อนแรง ชอบใจที่ทำให้สามีเก็บกลั้นทรมานได้“ปรานีกันบ้างเถอะที่รัก”“คนใจร้ายชอบแกล้ง ทำไมต้องสงสาร”“แกล้งเพราะรัก” เขาออด ทำตัวอ่อนหวานอย่างพยายามฝึกทำเต็มที่สองปีมานี้ฟ้าครามปรับเปลี่ยนตัวเองไม่น้อย จากคนที่ดุดันเคร่งขรึม เวลาอยู่กับกรณิการ์เขารู้จักออดทำตัวอ้อน แม้เสียงที่พูดจะไม่หวานหยด แต่น้ำเสียงนั้นก็จับใจเมียรัก“อ้อนก็ลงโทษเพราะรัก”กางเกงยีนตัวเก่งเลื่อนลงไปทางปลายเท้าพร้อมกับปราการของท่านชาย ความเข้มแข็งผงาดตั้งประกาศศักดา กรณิการ์ใจสั่น แต่ด้วยความรักที่มีต่อเขา แท้จริงเธอแค่อยากเอาใจฟ้าครามบ้าง สิ่งที่เขาท
เจ้าของร่างหนาชะงัก เสียงร่ำไห้บาดหัวใจ น้ำตาที่รินไหลคล้ายน้ำกรดรดราดตัวให้แสบร้อนจนทนไม่ได้“อ้อน”“ไม่! ได้โปรด อย่าทำฉัน คุณคราม ฮือๆ ช่วยอ้อนด้วย ช่วยด้วย ฮือๆ”“อ้อน นี่ฉันเอง”ฟ้าครามกระซิบ จูบเคล้าปากอิ่มที่บวมเจ่ออย่างปลอบประโลม บ้าชะมัด เขาไม่น่าทำตามคำแนะนำของพ่อเลย เสียงร่ำไห้ของกรณิการ์บีบหัวใจเขาชะมัด อ้อมกอดแกร่งกระชับ กายหนาผละห่าง อุ้มร่างบางขึ้น เธอไม่ฟังเขาสักนิด เลยต้องพาออกไปนอกห้อง สับคัตเอาต์ไฟ ก่อนจะเข้าห้อง กดสวิตช์เปิดไฟให้สว่าง“อ้อน ดูสิ ฉันเอง”ร่างบางถูกเขย่าจนผมเผ้ากระจาย เสียงห้าวดุที่คุ้นเคยแทรกเข้ามาในหัว กรณิการ์ลืมตาเปียกน้ำตาขึ้นมอง พอพบว่าเป็นฟ้าครามจริงๆ เธอก็ร้องไห้โฮ... ผวาเข้าระดมกำปั้นเล็กๆ ทุบอกกว้างไม่ยั้ง“คนบ้า บ้า บ้า บ้าที่สุด ฮือๆ”ฟ้าครามนั่งเฉย ปล่อยให้เมียสาวทุบได้ตามใจ พอเธอทุบเหนื่อยก็ซบหน้ากับซอกคอเขา ร้องไห้สะอึกสะอื้น เขาจึงลูบไล้แผ่นหลังบางเบาๆ อย่างปลอบโยนกระทั่ง เสียงสะอื้นสร่างซา เนื้อตัวอุ่นนุ่มหยุดสะท้าน เสียงแผ่วดังขึ้นอย่างไม่เข้าใจในการกระทำบ้าๆ ของสามี“ทำไมต้องแกล้งอ้อนแบบนี้”“ไม่ได้แกล้ง”“แล้วที่ทำเรียกว่าอะไรล่ะ
เสียงเสื้อนอนขาดดังแควกจากแรงกระชากทึ้ง กรณิการ์กรี๊ดลั่น ทว่า... เสียงนั้นไม่ดังออกมา เพราะหน้าถูกกดลงกับหมอน สองขาถูกทับ เมื่อเจ้าคนชั่วฉีกทึ้งเสื้อผ้าเธอเสร็จก็ดึงตัวเธอขึ้น แล้วจับเอาเสื้อนั้นขยำเป็นก้อนยัดปากเธอ เสียงร้องดังเพียงอู้อี้“อู้... เมียไอ้คราม ทั้งขาวทั้งหอม ขอพี่กระแทกให้น้ำแตกทีนะน้อง น่าเอาเป็นบ้า”กรณิการ์หวาดผวา ฟ้าครามไปไหน เขาอยู่ไหน ช่วยด้วย! ช่วยเธอด้วย“ไม่!”ร่างบางกระเสือกกระสนหนีไปบนเตียง มันก็ปล่อยให้เธอหนี เพื่อจะได้ฉีกฉุดกระชากกางเกงออกจากตัวเธอจนเหลือเพียงกางเกงชั้นในกับเสื้อชั้นใน กรณิการ์ขวัญเสีย ดิ้นรนอย่างบ้าคลั่ง ก่อนมือจะถูกรวบและมัดด้วยเศษเสื้อนอน วินาทีต่อมาเสื้อชั้นในก็ถูกกระตุกออก เธอผวาเด้งตัวหนีแต่ถูกผลักลงไปนอนหงายบนที่นอน ก่อนที่ขาจะถูกง้างออกห่างกัน ร่างใหญ่แทรกเข้ามาตรงกลางเสียงพึงพอใจดังขึ้นในลำคอของผู้อุกอาจ เมื่อกางมือทาบพื้นที่สงวน มือหยาบใหญ่ แต่พื้นที่ใต้ฝ่ามือก็เกือบปิดไม่มิด“อ่อย (ปล่อย) อ่า (อย่า)”เจ้าของร่างทะมึนไม่สนใจ มือหนึ่งจับมือที่ถูกมัดรวบกดไว้เหนือศีรษะเล็ก อีกมือเคล้าคลึงพื้นที่น่าหลงใหล เกลี่ยไล้ปลายนิ้วกับรูปรอย
สาวน้อยวิ่งตรงไป เลือกดอกไม้อย่างคุ้นเคยเพราะเคยมาซื้อหลายครั้ง คุ้นกับพ่อค้าเป็นอย่างดี“ดอกนี้ดีกว่าไหมจ๊ะน้องสาว พี่บ่าวจะซื้อให้”ดอกกุหลาบยื่นมาตรงหน้า ทำให้กรณิการ์ผงะ เงยหน้ามองก็พบหนุ่มสองคน คนหนึ่งตัวใหญ่อีกคนรูปร่างเล็กแต่ผิวคล้ำ กลิ่นเหล้าคลุ้งจนมึนหัว เธอเดาว่าน่าจะเป็นชาวเลแถวนั้น แววตากะลิ้มกะเหลี่ยกวาดมองตัวเธอทั้งตัวสร้างความหวาดผวาให้กรณิการ์ เธอรีบส่งดอกไม้ให้พ่อค้า“ไม่ดีกว่าค่ะ ขอบคุณค่ะ”“เฮ้ย พวกมึงกลับเรือไปเลย อย่ามาวุ่นวายกับลูกค้ากู” พ่อค้าขายดอกไม้ส่งเสียงไล่“โธ่ จะรีบไล่กันไปไหนเล่า อยู่กับเรือมาแรมเดือน ขึ้นบกพบสาวน่ารักก็อยากทำความรู้จักเท่านั้นเองน่า” หนึ่งในนั้นร้องตอบพ่อค้า“นั่นสิจ๊ะ ชื่ออะไรครับคนสวย”กรณิการ์ไม่ตอบ จ่ายเงินรับถุงดอกไม้ หมุนตัวเดินกลับไปหาฟ้าคราม คิดเอาว่าถ้าเธอไม่เล่นด้วย พวกนี้ก็คงเลิกราไปเองทว่า... ไอ้หนุ่มใจกล้าคนหนึ่งกลับคว้าแขนเธอไว้อย่างถือวิสาสะ“เดี๋ยวสิ”“ว้าย ปล่อยนะ!” กรณิการ์สะบัดแขนเต็มแรงแต่ไม่หลุดสองหนุ่มหัวเราะร่าที่ได้แกล้งลวนลามสาวเจ้าโดยไม่สนเสียงด่าของพ่อค้า ซ้ำยังทำท่าจะรุกไล่มากไปกว่านั้น โดยไม่รู้ดวงมันกำลั
“เดี๋ยวนี้พูดแบบนี้ก็เป็นเหรอคะ”“หัดมา เดี๋ยวเมียงอน ต้องง้อยาวเสียพลังงานเยอะด้วย งอนครั้งต่อไปที่ไหนดี บ่อปลาหรือว่าสวนยาง”“บ้าจริง คุณงามนี่” หน้าสวยแดงก่ำ แต่ไม่ว่าที่ไหน เธอไม่คิดขัดใจเขาอยู่แล้วเมียที่ดีต้องตามใจผัว...“อ้อนรักคุณครามค่ะ” เสียงหวานสั่นกระซิบ ก่อนเรือนกายน่าปรารถนาจะขยับตอบรับลำนำสวาทสร้างความถูกใจให้กับสามีจอมเถื่อน“น่ารักมาก”เสียงห้าวพร่ากระซิบ ก่อนที่ห้องสวีทสุดหรูจะถูกแผดเผาด้วยเปลวปรารถนาตลอดค่ำคืนที่มีความหมาย สองกายผลัดกันบอกย้ำคำรักราวกับจะจารจดไว้ทั่วทุกอณูเนื้อกายและสลักในเนื้อหัวใจตราบนานเท่านาน...เป็นเวลาสองปีแล้วนับจากวันแต่งงาน กรณิการ์ปรับตัวเข้ากับชีวิตใหม่ สิ่งแวดล้อมใหม่ได้จนกลายเป็นความคุ้นเคย สวนของฟ้าครามยังให้ผลิตผลเป็นอย่างดี ทำรายได้ให้ชายหนุ่มทุกวัน ขณะที่เธอเรียนจบจากโรงเรียนสอนทำขนมทำอาหาร ฟ้าครามเปิดร้านให้ เริ่มแรกนั้นลองทำและฝากขายก่อน พอมีลูกค้าการันตีความอร่อย กรณิการ์ก็ได้ร้านซึ่งอยู่ในย่านท่องเที่ยว เปิดเป็นร้านน่ารักๆ บรรยากาศดี ขายอาหารและขนม มีลูกมือช่วยหลายคน กระทั่งมีแม่ครัวประจำ เพราะฟ้าครามไม่ยอมให้เธอห่างกาย เช้าๆ เ







