เข้าสู่ระบบชายหนุ่มถอนใจอย่างระอา ในใจตอนนี้มันคิดว่า เขาเคยมองเคยรักผู้หญิงตรงหน้าได้ยังไงกัน
เปมิศาเดือดดาล มือกำแน่น ตัวสั่นเทานิดๆ ดวงตาวาววับจ้องสบตาอดีตคนเคยรักอย่างเหยียดหยาม
“ใช่ เสี่ยอูเขามีเงินมีทองมากองเป็นสินสอด ซึ่งนั่นเปรมคิดว่ามันก็ถูกต้องแล้ว เด็กเราดูแลเลี้ยงกันมา ถึงไม่ใช่ลูกเต้าแท้ๆ แต่เปรมคงไม่ปล่อยให้ยัยอ้อนต้องไประเหเร่ร่อนกับผู้ชายไม่มีอะไรเลยหรอกนะ อ้อ ถ้าคุณอยากได้ตัวเด็กนั่นจริง ก็แต่งงานกับมันสิ เอาเงินทองมากองตรงหน้าเปรมนี่ แล้วเปรมจะให้ไป”
ตาคมวาวโรจน์ขึ้น ปากได้รูปเม้มกันจนเป็นเส้นตรง ชั่วแวบเดียว ก็กลับเป็นปกติ สีหน้าเรียบราบเฉยชากับแววตาไร้ความรู้สึกจับจ้องมองหญิงสาวสวยตรงหน้าอย่างรู้สึกสมเพชใจ
“เปรมไม่ได้ดูถูกคุณ แต่ลูกคุณหนูแบบยัยอ้อนที่ทำอะไรไม่เป็นเลย ไม่เหมาะจะไปกัดก้อนเกลือกินหรือตรากตรำลำบากทำงานหนักหรอกนะ คุณกลับไปเถอะ”
“คุณก็รู้ดีนะว่า สั่งผมไม่ได้ ผมจะไม่แต่งกับเด็กนั่นเพราะคุณบอกให้แต่ง หรือหอบเงินหอบทองมากองตรงหน้าคุณหรอกนะ ถามเด็กดีกว่า ว่าอยากไปลำบากกับผมหรืออยู่กับคุณเพื่อแต่งงานกับเสี่ยบ้าตัณหา” ฟ้าครามคร้านจะต่อปากกับเปมิศา ที่ดูท่าแล้วคงพูดกันไม่รู้เรื่อง เพชรพญาพาสองสาวกลับเข้ามาพอดี เขาจึงหันไปถาม “ว่าไงอีหนู จะอยู่ที่นี่หรือไปกับฉัน”
เปมิศาตวัดตาดุๆ จิกมองหน้าลูกเลี้ยงสาวคนสวย จงใจใช้สายตาแบบที่ทำประจำเพื่อข่มให้เด็กสาวกลัว
กรณิการ์กลืนน้ำลายไม่ลง ลำคอแห้งผาก มองเห็นเส้นทางชีวิตของตนชัดเจนจนน่าใจหาย
ถ้าอยู่ที่นี่...เธอก็ต้องแต่งงานกับคนที่แม่เลี้ยงหาให้
แต่ถ้าไปกับเขา... ผู้ชายหน้าดุ ตัวสูงใหญ่ บุคลิกอย่างกับโจรป่า ชีวิตเธอคง...
สาวน้อยหันไปมองตรีนุช สาวผู้พี่ส่ายหน้าคล้ายจะบอกว่าไม่ให้เธอเลือกสักทาง เธอมองเลยไปที่เพชรพญา ชายหนุ่มใจดีที่คอยช่วยเหลือเธอและตรีนุชมาตลอด เขาเป็นคนดี มีน้ำใจ... แม้ดวงตาที่เธอสบนั้นนิ่งไม่บอกอะไร กรณิการ์รับรู้ได้ว่า เขาอยากให้เธอตัดสินใจยังไง
“อ้อนจะไปกับคุณครามค่ะ”
“ยัยอ้อน!!!” เปมิศากับตรีนุชร้องลั่นพร้อมกัน ฝ่ายแม่เลี้ยงนั้น ตวาดออกมาเสียงลั่นมากกว่า
สถานีรถไฟหัวลำโพง
ร่างแบบบางพร้อมในชุดเดินทางเสื้อยืดกางเกงยีน มีเสื้อแขนยาวสวมทับอีกชั้น สัมภาระไม่มีอะไรมาก เป้เล็กหนึ่งใบ กระเป๋าสะพายใส่โทรศัพท์และกระเป๋าสตางค์ เธอเดินตามคนตัวใหญ่ต้อยๆ ตั้งแต่แยกจากเพชรพญาและตรีนุช ทั้งสองมาส่งที่สถานีรถไฟ
ตรีนุชมีความกังวลกระจายเต็มใบหน้า ส่วนเพชรพญานั้นมีรอยยิ้มให้ตลอดเวลา
กรณิการ์ลอบมองแผ่นหลังกว้าง ไม่รู้ว่าการตัดสินใจของเธอจะถูกหรือผิดที่เลือกมากับเขา...คนแปลกหน้า จะดีขึ้นหรือเลวร้ายกว่าการอยู่กับเปมิศา ใจเธออดหวั่นไม่ได้
มาคิดกังวลตอนนี้คงเปลี่ยนอะไรไม่ได้แล้ว กรณิการ์ถอนใจยาว...
รถไฟตู้นอน คือตั๋วที่ฟ้าครามจองเอาไว้ แต่ตอนที่ขึ้นมายังไม่มืด ลักษณะจึงเหมือนที่นั่งโดยสารทั่วไปที่เป็นเก้าอี้เรียงกันสองฝั่ง ตรงกลางเป็นทางเดิน
“กินอะไรก่อนสิ”
ถุงของกินเล่นถูกวางลงตรงหน้า ในนั้นมีไข่ทรงเครื่อง ลูกชิ้นปิ้ง และน้ำดื่ม เขาซื้อก่อนจะขึ้นมาบนรถนี่เอง
ครั้งนี้เป็นการเดินทางโดยรถไฟครั้งแรกของกรณิการ์ เธอจึงสนใจสถานี รถไฟ ผู้คนมากหน้าหลายตาทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่ได้เห็นเป็นครั้งแรกมากกว่าจะนึกถึงเรื่องซื้อของกิน
“ให้อ้อนเหรอคะ”
“ใช่ กินรองท้องไปก่อน ไว้รถจอดพักค่อยหาอะไรกิน”
“เอ่อ ขอบคุณค่ะ”
เสียงเขาค่อนข้างราบเรียบแต่มีกระแสเสียงที่ดุอยู่ในที ทำให้สาวน้อยก้มหน้ารับคำอย่างเสียไม่ได้ เธอไม่ค่อยหิว แต่กินรองท้องไว้ก็ดีจึงปอกไข่กินไปสองลูกเท่านั้น
รถเคลื่อนออกจากสถานี เป้าหมายคือจังหวัดใหญ่จังหวัดหนึ่งทางภาคใต้ ฟ้าครามนั่งกอดอกเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ในท่าสบาย ตามองออกไปนอกหน้าต่าง แต่ลอบสังเกตสาวน้อยตรงหน้าเป็นระยะ
เวลาเงียบๆ ก็ดูเรียบร้อย หน้าตาน่ารักสวยใสผิดกับสาวสวยเย้ายวนที่แต่งหน้าเข้มจัดคืนก่อน นิสัยที่แท้จริงของเจ้าหล่อนจะเป็นยังไงนั้นคงต้องรอดูต่อไป หวังว่าเจ้าหล่อนคงไม่ใช่เด็กใจแตก ไปทำตัวแย่ๆ ให้พ่อเขาต้องหนักใจ
“เรียนจบอะไร”
กรณิการ์เกือบทำขวดน้ำร่วง จู่ๆ เสียงห้าวก็ดังขึ้น เธอเหลือบมอง เขายังอยู่ในท่าเดิมคือมองออกไปนอกหน้าต่างไม่ได้สนใจเธอสักนิด
“ปวส.ค่ะ เรียนทำขนม”
“แล้วจะไปทำอะไรกิน”
เขาไม่ได้นึกดูถูก เพียงแต่แปลกใจเท่านั้นๆ เด็กๆ สมัยใหม่น้อยคนที่นึกอยากเรียนเรื่องพวกนั้น
สาวน้อยอึ้งไปนิด ความทรงจำเมื่อครั้งบิดายังอยู่ผุดขึ้นมาในหัว
“อ้อนชอบทำขนม ตั้งใจจะเปิดร้านเบเกอร์รีเล็กๆ หลังจากเรียนจบแล้วก็หาประสบการณ์ให้ตัวเองสักพัก แต่ว่า...”
เสียงหวานอ่อนลงและเงียบหายไปในที่สุด ฟ้าครามไม่หันมามอง พอจะเข้าใจความรู้สึกของสาวน้อย
“แล้วอยากเรียนอะไรต่อ”
“อ้อนอยากเรียนทำขนม ทำอาหารค่ะ ตอนนี้ก็พอทำได้ ทำเป็นอยู่หลายอย่าง แต่คงยังเปิดร้านไม่ได้”
“นั่นสิ อายุแค่นี้ เรียนให้จบปริญญาก่อนดีไหม”
“อ้อนไม่มีเงินหรอกค่ะ ที่เรียนจบมาได้นั่นก็ดีแล้ว คิดว่าจะหางานทำดีกว่า”
“งานอะไร หรืองานแบบคืนนั้น”
“งานอะไรคะ คืนไหน...”
ดวงหน้าใสเอียงมองคนถามอย่างสงสัยใคร่รู้ ถ้าเขามีงานให้เธอทำก็ดีสิ งานสุจริต ไม่ต้องขายตัว ไม่ต้องแต่งงานกับใคร แต่ว่า... เธอแต่งงานกับใครไม่ได้แล้วสิ!
นั่นเพราะเธอแต่งงานกับเขาไปเรียบร้อย!
“อ้อนรักคุณคราม อยากให้คุณครามมีความสุขค่ะ”“ฉันสุขจนล้น อ้อนจ๋า”“รักอ้อนมากๆ นะคะ”“แน่อยู่แล้ว ฉันแก่ขนาดนี้จะให้ไปวิ่งหาผู้หญิงที่ไหนอีก กลัวแต่เธอจะเผลอไปรักคนอื่น”“แน้... หาความแล้วนะคะ คุณครามแก่ที่ไหน แถมหล่อแบบนี้ อ้อนจะไปไหนได้”“แต่แรกว่าเถื่อน ว่าโหด”“โหดก็รัก เถื่อนก็รักค่ะ”“น่ารักนะเรา”กรณิการ์หัวเราะคิก ป่ายปีนขึ้นไปบนตักกว้าง ทำตัวน่ารักเพิ่มมากขึ้นไปอีกด้วยการขยับเสียดสีเนื้อตัวอ่อนนุ่มปลุกปั่นกายแกร่งให้แข็งขึง ซึ่งเธอไม่ต้องใช้ความพยายาม แค่สัมผัส ฟ้าครามก็ตื่นแล้ว“เห็นไหมคะ แก่อะไรตื่นไวปานนี้”ฟ้าครามส่ายหน้าแต่คลี่ยิ้มอ่อนโยนให้คนน่ารัก เขาแนบหน้าครึ้มเคราเข้ามาจูบปากหวานๆ ที่แสนจะพูดถูกใจ“อ้อนทำมันตื่น ต้องดูแลมันรู้ไหม”“รู้หรือไม่รู้ดีน้า...”หน้างามระบายยิ้ม ส่งสายตายั่วเย้า แต่ขยับบั้นท้ายคลึงเคลื่อนเบาๆ เมื่อสามีหนุ่มไล่จูบฟัด กรณิการ์หัวเราะลั่นก่อนถูกจูบจนตัวอ่อน คำหวานถูกกระซิบบอกย้ำ แล้วเธอจะใจดำกับเขาได้ยังไงสาวน้อยจึงเริ่มต้นออดอ้อน สนองรัก ตามเสียงพร่ำขอของสามีอย่างเต็มใจอย่างยิ่งยวดฟ้าครามคำรามระคนครางกระหึ่ม เมียสาวแปลงร่างเป็นนางแมวป่ายั่ว
“ฉันไม่ได้หมายถึงเรื่องนั้น แต่หมายถึง คร่อมแล้วต้องคลึงด้วย มันจะยิ่งดี” เพราะเขากำลังถูกกดทับจนปวดร้าว ฟ้าครามขบกรามกรอด ผงกหัวมอง เมื่อเมียรักไล้ลิ้นลงไปถึงสะดือ เธอไม่ลืมจุ่มจ้วงลิ้นวนแอ่งเล็กๆ นั่นเล่น ก่อนจะเดินหน้าต่อไปตามขอบกางเกงที่สาบซิปเปิดแยกมือบางช้อนเข้าใต้สัดส่วนอลังการ มันกระตุกราวกับเริงร่า เหยียดขยายรอเวลาแผลงฤทธิ์ สาวน้อยมองแล้วหน้าร้อนผ่าวๆ หากเธอก็เหลือบขึ้นมองหน้าคมเข้มหล่อเหลาที่เดี๋ยวนี้เขาจะตัดแต่งหนวดเคราจนสั้นเตียนทำให้ยิ่งหล่อเข้มคม เธอสบตาร้อนแรง ชอบใจที่ทำให้สามีเก็บกลั้นทรมานได้“ปรานีกันบ้างเถอะที่รัก”“คนใจร้ายชอบแกล้ง ทำไมต้องสงสาร”“แกล้งเพราะรัก” เขาออด ทำตัวอ่อนหวานอย่างพยายามฝึกทำเต็มที่สองปีมานี้ฟ้าครามปรับเปลี่ยนตัวเองไม่น้อย จากคนที่ดุดันเคร่งขรึม เวลาอยู่กับกรณิการ์เขารู้จักออดทำตัวอ้อน แม้เสียงที่พูดจะไม่หวานหยด แต่น้ำเสียงนั้นก็จับใจเมียรัก“อ้อนก็ลงโทษเพราะรัก”กางเกงยีนตัวเก่งเลื่อนลงไปทางปลายเท้าพร้อมกับปราการของท่านชาย ความเข้มแข็งผงาดตั้งประกาศศักดา กรณิการ์ใจสั่น แต่ด้วยความรักที่มีต่อเขา แท้จริงเธอแค่อยากเอาใจฟ้าครามบ้าง สิ่งที่เขาท
เจ้าของร่างหนาชะงัก เสียงร่ำไห้บาดหัวใจ น้ำตาที่รินไหลคล้ายน้ำกรดรดราดตัวให้แสบร้อนจนทนไม่ได้“อ้อน”“ไม่! ได้โปรด อย่าทำฉัน คุณคราม ฮือๆ ช่วยอ้อนด้วย ช่วยด้วย ฮือๆ”“อ้อน นี่ฉันเอง”ฟ้าครามกระซิบ จูบเคล้าปากอิ่มที่บวมเจ่ออย่างปลอบประโลม บ้าชะมัด เขาไม่น่าทำตามคำแนะนำของพ่อเลย เสียงร่ำไห้ของกรณิการ์บีบหัวใจเขาชะมัด อ้อมกอดแกร่งกระชับ กายหนาผละห่าง อุ้มร่างบางขึ้น เธอไม่ฟังเขาสักนิด เลยต้องพาออกไปนอกห้อง สับคัตเอาต์ไฟ ก่อนจะเข้าห้อง กดสวิตช์เปิดไฟให้สว่าง“อ้อน ดูสิ ฉันเอง”ร่างบางถูกเขย่าจนผมเผ้ากระจาย เสียงห้าวดุที่คุ้นเคยแทรกเข้ามาในหัว กรณิการ์ลืมตาเปียกน้ำตาขึ้นมอง พอพบว่าเป็นฟ้าครามจริงๆ เธอก็ร้องไห้โฮ... ผวาเข้าระดมกำปั้นเล็กๆ ทุบอกกว้างไม่ยั้ง“คนบ้า บ้า บ้า บ้าที่สุด ฮือๆ”ฟ้าครามนั่งเฉย ปล่อยให้เมียสาวทุบได้ตามใจ พอเธอทุบเหนื่อยก็ซบหน้ากับซอกคอเขา ร้องไห้สะอึกสะอื้น เขาจึงลูบไล้แผ่นหลังบางเบาๆ อย่างปลอบโยนกระทั่ง เสียงสะอื้นสร่างซา เนื้อตัวอุ่นนุ่มหยุดสะท้าน เสียงแผ่วดังขึ้นอย่างไม่เข้าใจในการกระทำบ้าๆ ของสามี“ทำไมต้องแกล้งอ้อนแบบนี้”“ไม่ได้แกล้ง”“แล้วที่ทำเรียกว่าอะไรล่ะ
เสียงเสื้อนอนขาดดังแควกจากแรงกระชากทึ้ง กรณิการ์กรี๊ดลั่น ทว่า... เสียงนั้นไม่ดังออกมา เพราะหน้าถูกกดลงกับหมอน สองขาถูกทับ เมื่อเจ้าคนชั่วฉีกทึ้งเสื้อผ้าเธอเสร็จก็ดึงตัวเธอขึ้น แล้วจับเอาเสื้อนั้นขยำเป็นก้อนยัดปากเธอ เสียงร้องดังเพียงอู้อี้“อู้... เมียไอ้คราม ทั้งขาวทั้งหอม ขอพี่กระแทกให้น้ำแตกทีนะน้อง น่าเอาเป็นบ้า”กรณิการ์หวาดผวา ฟ้าครามไปไหน เขาอยู่ไหน ช่วยด้วย! ช่วยเธอด้วย“ไม่!”ร่างบางกระเสือกกระสนหนีไปบนเตียง มันก็ปล่อยให้เธอหนี เพื่อจะได้ฉีกฉุดกระชากกางเกงออกจากตัวเธอจนเหลือเพียงกางเกงชั้นในกับเสื้อชั้นใน กรณิการ์ขวัญเสีย ดิ้นรนอย่างบ้าคลั่ง ก่อนมือจะถูกรวบและมัดด้วยเศษเสื้อนอน วินาทีต่อมาเสื้อชั้นในก็ถูกกระตุกออก เธอผวาเด้งตัวหนีแต่ถูกผลักลงไปนอนหงายบนที่นอน ก่อนที่ขาจะถูกง้างออกห่างกัน ร่างใหญ่แทรกเข้ามาตรงกลางเสียงพึงพอใจดังขึ้นในลำคอของผู้อุกอาจ เมื่อกางมือทาบพื้นที่สงวน มือหยาบใหญ่ แต่พื้นที่ใต้ฝ่ามือก็เกือบปิดไม่มิด“อ่อย (ปล่อย) อ่า (อย่า)”เจ้าของร่างทะมึนไม่สนใจ มือหนึ่งจับมือที่ถูกมัดรวบกดไว้เหนือศีรษะเล็ก อีกมือเคล้าคลึงพื้นที่น่าหลงใหล เกลี่ยไล้ปลายนิ้วกับรูปรอย
สาวน้อยวิ่งตรงไป เลือกดอกไม้อย่างคุ้นเคยเพราะเคยมาซื้อหลายครั้ง คุ้นกับพ่อค้าเป็นอย่างดี“ดอกนี้ดีกว่าไหมจ๊ะน้องสาว พี่บ่าวจะซื้อให้”ดอกกุหลาบยื่นมาตรงหน้า ทำให้กรณิการ์ผงะ เงยหน้ามองก็พบหนุ่มสองคน คนหนึ่งตัวใหญ่อีกคนรูปร่างเล็กแต่ผิวคล้ำ กลิ่นเหล้าคลุ้งจนมึนหัว เธอเดาว่าน่าจะเป็นชาวเลแถวนั้น แววตากะลิ้มกะเหลี่ยกวาดมองตัวเธอทั้งตัวสร้างความหวาดผวาให้กรณิการ์ เธอรีบส่งดอกไม้ให้พ่อค้า“ไม่ดีกว่าค่ะ ขอบคุณค่ะ”“เฮ้ย พวกมึงกลับเรือไปเลย อย่ามาวุ่นวายกับลูกค้ากู” พ่อค้าขายดอกไม้ส่งเสียงไล่“โธ่ จะรีบไล่กันไปไหนเล่า อยู่กับเรือมาแรมเดือน ขึ้นบกพบสาวน่ารักก็อยากทำความรู้จักเท่านั้นเองน่า” หนึ่งในนั้นร้องตอบพ่อค้า“นั่นสิจ๊ะ ชื่ออะไรครับคนสวย”กรณิการ์ไม่ตอบ จ่ายเงินรับถุงดอกไม้ หมุนตัวเดินกลับไปหาฟ้าคราม คิดเอาว่าถ้าเธอไม่เล่นด้วย พวกนี้ก็คงเลิกราไปเองทว่า... ไอ้หนุ่มใจกล้าคนหนึ่งกลับคว้าแขนเธอไว้อย่างถือวิสาสะ“เดี๋ยวสิ”“ว้าย ปล่อยนะ!” กรณิการ์สะบัดแขนเต็มแรงแต่ไม่หลุดสองหนุ่มหัวเราะร่าที่ได้แกล้งลวนลามสาวเจ้าโดยไม่สนเสียงด่าของพ่อค้า ซ้ำยังทำท่าจะรุกไล่มากไปกว่านั้น โดยไม่รู้ดวงมันกำลั
“เดี๋ยวนี้พูดแบบนี้ก็เป็นเหรอคะ”“หัดมา เดี๋ยวเมียงอน ต้องง้อยาวเสียพลังงานเยอะด้วย งอนครั้งต่อไปที่ไหนดี บ่อปลาหรือว่าสวนยาง”“บ้าจริง คุณงามนี่” หน้าสวยแดงก่ำ แต่ไม่ว่าที่ไหน เธอไม่คิดขัดใจเขาอยู่แล้วเมียที่ดีต้องตามใจผัว...“อ้อนรักคุณครามค่ะ” เสียงหวานสั่นกระซิบ ก่อนเรือนกายน่าปรารถนาจะขยับตอบรับลำนำสวาทสร้างความถูกใจให้กับสามีจอมเถื่อน“น่ารักมาก”เสียงห้าวพร่ากระซิบ ก่อนที่ห้องสวีทสุดหรูจะถูกแผดเผาด้วยเปลวปรารถนาตลอดค่ำคืนที่มีความหมาย สองกายผลัดกันบอกย้ำคำรักราวกับจะจารจดไว้ทั่วทุกอณูเนื้อกายและสลักในเนื้อหัวใจตราบนานเท่านาน...เป็นเวลาสองปีแล้วนับจากวันแต่งงาน กรณิการ์ปรับตัวเข้ากับชีวิตใหม่ สิ่งแวดล้อมใหม่ได้จนกลายเป็นความคุ้นเคย สวนของฟ้าครามยังให้ผลิตผลเป็นอย่างดี ทำรายได้ให้ชายหนุ่มทุกวัน ขณะที่เธอเรียนจบจากโรงเรียนสอนทำขนมทำอาหาร ฟ้าครามเปิดร้านให้ เริ่มแรกนั้นลองทำและฝากขายก่อน พอมีลูกค้าการันตีความอร่อย กรณิการ์ก็ได้ร้านซึ่งอยู่ในย่านท่องเที่ยว เปิดเป็นร้านน่ารักๆ บรรยากาศดี ขายอาหารและขนม มีลูกมือช่วยหลายคน กระทั่งมีแม่ครัวประจำ เพราะฟ้าครามไม่ยอมให้เธอห่างกาย เช้าๆ เ







