เข้าสู่ระบบสภาพของหนุ่มตรงหน้าทำให้เธอไม่นึกเสียใจเลยที่ตัดสินใจยุติความสัมพันธ์กับเขาหันไปเลือกคุณกอบเกื้อที่มีเงินมีฐานะ ถึงแม้ช่วงหลังๆ ก่อนที่สามีสูงวัยของเธอจะเสียชีวิต กิจการของเขาย่ำแย่ จนสุดท้ายต้องปิดบริษัทในที่สุด ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังได้เสวยสุข สะดวกสบายมาสิบกว่าปี ถ้าตอนนั้นตัดสินใจเลือกฟ้าคราม ชีวิตเธอจะรู้จักคำว่าสบายหรือเปล่าไม่รู้ ดูจากสภาพของเขาตอนนี้ มันยิ่งกว่าโจร...
ผมเผ้ายาวเป็นรากไทร หน้าตาเฟิ้มด้วยหนวด ผิวพรรณหรือก็เข้มคล้ำดำกร้าน
น่าแปลกที่เธอไม่เคยได้ยินคุณกอบเกื้อพูดว่าเป็นเพื่อนกับพ่อของฟ้าคราม
“อย่าว่าอย่างนั้นอย่างนี้เลยนะคราม ยัยอ้อนอยู่กับเปรมก็สบายดีแล้ว นี่ก็มีคนมาทาบทามสู่ขอเพราะชอบใจเอ็นดูความน่ารักของอ้อน เปรมว่าไม่จำเป็นที่คุณหรือพ่อของคุณจะต้องพายัยอ้อนไปอยู่ด้วยเลย”
“อ้อนเพิ่งเรียนจบ ปวส. เองนะครับ พี่เปรมจะไม่ให้เรียนต่อเหรอ อ้อนยังเด็กอยู่เลย” เพชรพญาถามเสียงเครียด ไม่ชอบใจที่เปมิศากำลังทำเหมือนเอาลูกเลี้ยงไปขายให้ไอ้พวกเสี่ยเงินหนาที่ชอบเลี้ยงอีหนูไว้สนองตัณหา
ฟ้าครามละสายตาจากหน้าอดีตคนรัก เรื่องราวของกรณิการ์ที่รับรู้มาจากเพชรพญาไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก คุณกอบเกื้อเคยเป็นลูกค้าบริษัทของเพชรพญา เมื่อกิจการต้องปิดตัว ทรัพย์สมบัติต้องขายเพื่อเอาเงินมาจ่ายหนี้สิน ก่อนตายคุณกอบเกื้อก็ฝากเปมิศาให้มาทำงานกับบิดาของเพชรพญา
ชายหนุ่มมองเลยไปที่สาวน้อยที่ก้มหน้างุดโดยมีตรีนุชนั่งอยู่ข้างๆ ด้วยท่าทางที่อยากจะพูดอะไรออกมาแต่ถูกน้องสาวบีบมือเอาไว้
น่าแปลก พี่น้องกันจริงๆ ก็ไม่ใช่ แต่ดูรักดูห่วงกันเป็นพิเศษ
“เด็กยังต้องเรียน” เสียงห้าวเนิบดังขึ้นเป็นประโยคแรกหลังนั่งเงียบมาอึดใจใหญ่
“แต่งงานแล้วก็เรียนได้ เสี่ยอูเป็นคนใจดีจะตายนะคราม บอกคุณพ่อของครามได้เลย ไม่ต้องห่วงยัยอ้อนหรอก เปรมดูแลลูกสาวของคุณกอบได้”
“ผมไม่ได้มาที่นี่เพื่อเจรจาแต่มารับ คุณควรเข้าใจเสียใหม่” ฟ้าครามบอกเสียงนิ่ง หันไปหาสาวน้อยที่บัดนี้เป็นเด็กสาวสมวัย หน้าตาเกลี้ยงเกลาไร้เครื่องสำอาง “ไปเก็บเสื้อผ้าสิ อีกไม่กี่ชั่วโมงฉันต้องกลับใต้”
“คราม! คุณไม่เข้าใจ คุณจะทำแบบนี้ไม่ได้” เปมิศาแหวแว้ด ยังไงเธอก็ให้เด็กนั่นไปไหนไม่ได้
ฟ้าครามตวัดตานิ่งดุมาสบตาวาววับเหยียดหยันของอีกฝ่าย ขณะที่เพชรพญารีบไล่สองสาว
“สามพาอ้อนไปเก็บเสื้อผ้า”
“แต่...” ตรีนุชพยายามจะค้าน
ชายหนุ่มถอนฉุน ลุกไปคว้ามือเล็กของสองสาวเดินออกจากห้องนั้นทันที
อดีตคนเคยรักเผชิญหน้ากันตามลำพัง...
เปมิศาเชิดหน้า กดสายตาเหยียดหยันมองอดีตคนรัก เรือนร่างนั้นแข็งแกร่งดูกำยำสมกับวัยฉกรรจ์ของชายชาตรี ฟ้าครามเป็นหนุ่มหล่อเหลาเข้มคมแบบที่สาวนิยมชมชอบ เธอเคยดีใจ ภูมิใจ และรู้สึกภาคภูมิมากมายที่สามารถแย่งเอาเขามาครองได้เมื่อครั้งที่เรียนมหาวิทยาลัย ครั้นได้ทำงาน ทัศนคติความคิดของเธอเปลี่ยนไป ความหล่อมันกินไม่ได้แค่ชื่นชมได้บางเวลา เธอจึงเลือกคนที่ทำให้เธอมีหน้ามีตามีฐานะมากกว่าหนุ่มนักศึกษาปอนๆ
“เปรมไม่อ้อมค้อมแล้วกันนะ ครามดูสิ ตอนนี้เปรมไม่ได้ลำบากอะไร บ้านช่องก็มีอยู่ ถึงคุณกอบจะตายไปแล้ว แต่เงินทองที่ทิ้งไว้ก็พอมี เปรมดูแลยัยอ้อนได้ อยากเรียนต่อก็ได้ จนกว่าจะมีคนที่เหมาะสมมารับหน้าที่ดูแลอ้อนต่อ ที่พูดแบบนี้เพราะเปรมไม่อยากให้ยัยอ้อนต้องไปลำบากกับคุณ ลำพังตัวคุณเองเถอะ ทำอะไรอยู่ที่ไหน ไหนๆ คุณกอบก็ลุกมาทวงคำสัญญาไม่ได้หรอก คุณและครอบครัวไม่จำเป็นต้องเอายัยอ้อนไปเป็นภาระเพิ่ม”
“คุณเลยคิดจะปลดระวางภาระด้วยการให้เด็กนั่นแต่งงานกับใครสักคนที่มีเงินงั้นสิเปรม”
“ถ้าไม่มีเงินจะเลี้ยงจะดูแลยัยอ้อนได้เหรอคราม นี่เปรมเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้อ้อนอยู่นะ”
เธอไม่ได้สนใจไยดี ออกจะขวางหูขวางตายัยเด็กนั่นมาตลอดจนอยากจะกำจัดไปให้พ้นหูพ้นตา ที่ต้องทำเป็นไยดีก็เพราะเงินทองที่เธอเห็นรำไรจากเสี่ยอู
“สำหรับคุณ เงินคงสำคัญมากกว่าอะไรทั้งหมดนั่นล่ะเปรม”
“คราม น้ำเสียงคุณเหมือนดูถูกเปรมอยู่นะ”
“ผมคิดว่าดูคนไม่ผิดหรอก ไม่ว่าคุณจะคิดอะไรยังไง ผมไม่สน วันนี้ผมมารับลูกสาวของคุณกอบเกื้อ เพราะฉะนั้นเด็กนั่นต้องไปกับผม”
“ลำพังตัวคุณจะจะเอาตัวรอดรึเปล่าเถอะ ทำงานทำการอะไร หาเลี้ยงตัวเองได้พอแล้วเหรอถึงได้ดิ้นรนอยากหาภาระใส่ตัวนักน่ะคราม อ้อนอยู่นี่ สบายดีแล้ว แต่งงานกับคนรวยๆ ต่อไปก็เป็นคุณนายคอยชี้นิ้ว ถามจริงเถอะ จะมีใครสักกี่คนที่อยากหาภาระให้ตัวเอง คุณกับพ่อคิดอะไรอยู่ ลำพังตัวเองก็คงแย่แล้วมั้ง หรือคิดจะเอายัยอ้อนไปขายตามชายแดนหรือไง”
“หุบปากเถอะเปรมถ้าพูดเรื่องดีๆ ไม่เป็น”
เปมิศาเหยียดยิ้ม สบตาคมกล้าอย่างไม่สะทกสะท้าน
“คนดีมันมีน้อย จะให้เปรมเชื่อเหรอว่า พวกคุณไม่คิดจะหาผลประโยชน์จากเด็กนั่น”
“นั่นไม่ใช่สิ่งที่ผมต้องมานั่งบอกคุณ แต่เชื่อเถอะว่า พวกเราไม่มีความคิดแบบคุณแน่นอน”
“น่าเชื่อดีนักนี่ ญาติพี่น้องก็ไม่ใช่จะเอาห่วงไปผูกคอทำไมถ้าไม่มีแผน”
“เหมือนที่คุณมีสินะ จะบอกให้นะเปรม เราดูคุณมานาน พ่อคิดจะให้พวกคุณดูแลกันเองเลยไม่มารับตัวเด็กไปตั้งแต่ตอนนั้น เพราะท่านพอรู้อยู่ว่า สามีคุณทิ้งสมบัติไว้พอควร แต่คุณถลุงมันหมดไปแล้วนี่จริงไหม ที่คุณร้องปาวๆ อยู่นี่เพราะกลัวจะเสียโอกาสกับเงินก้อนโตที่ไอ้เสี่ยนั่นจะให้ไม่ใช่หรือไง”
“คราม! คุณดูถูกเปรมมากไปแล้วนะ”
“อ้อนรักคุณคราม อยากให้คุณครามมีความสุขค่ะ”“ฉันสุขจนล้น อ้อนจ๋า”“รักอ้อนมากๆ นะคะ”“แน่อยู่แล้ว ฉันแก่ขนาดนี้จะให้ไปวิ่งหาผู้หญิงที่ไหนอีก กลัวแต่เธอจะเผลอไปรักคนอื่น”“แน้... หาความแล้วนะคะ คุณครามแก่ที่ไหน แถมหล่อแบบนี้ อ้อนจะไปไหนได้”“แต่แรกว่าเถื่อน ว่าโหด”“โหดก็รัก เถื่อนก็รักค่ะ”“น่ารักนะเรา”กรณิการ์หัวเราะคิก ป่ายปีนขึ้นไปบนตักกว้าง ทำตัวน่ารักเพิ่มมากขึ้นไปอีกด้วยการขยับเสียดสีเนื้อตัวอ่อนนุ่มปลุกปั่นกายแกร่งให้แข็งขึง ซึ่งเธอไม่ต้องใช้ความพยายาม แค่สัมผัส ฟ้าครามก็ตื่นแล้ว“เห็นไหมคะ แก่อะไรตื่นไวปานนี้”ฟ้าครามส่ายหน้าแต่คลี่ยิ้มอ่อนโยนให้คนน่ารัก เขาแนบหน้าครึ้มเคราเข้ามาจูบปากหวานๆ ที่แสนจะพูดถูกใจ“อ้อนทำมันตื่น ต้องดูแลมันรู้ไหม”“รู้หรือไม่รู้ดีน้า...”หน้างามระบายยิ้ม ส่งสายตายั่วเย้า แต่ขยับบั้นท้ายคลึงเคลื่อนเบาๆ เมื่อสามีหนุ่มไล่จูบฟัด กรณิการ์หัวเราะลั่นก่อนถูกจูบจนตัวอ่อน คำหวานถูกกระซิบบอกย้ำ แล้วเธอจะใจดำกับเขาได้ยังไงสาวน้อยจึงเริ่มต้นออดอ้อน สนองรัก ตามเสียงพร่ำขอของสามีอย่างเต็มใจอย่างยิ่งยวดฟ้าครามคำรามระคนครางกระหึ่ม เมียสาวแปลงร่างเป็นนางแมวป่ายั่ว
“ฉันไม่ได้หมายถึงเรื่องนั้น แต่หมายถึง คร่อมแล้วต้องคลึงด้วย มันจะยิ่งดี” เพราะเขากำลังถูกกดทับจนปวดร้าว ฟ้าครามขบกรามกรอด ผงกหัวมอง เมื่อเมียรักไล้ลิ้นลงไปถึงสะดือ เธอไม่ลืมจุ่มจ้วงลิ้นวนแอ่งเล็กๆ นั่นเล่น ก่อนจะเดินหน้าต่อไปตามขอบกางเกงที่สาบซิปเปิดแยกมือบางช้อนเข้าใต้สัดส่วนอลังการ มันกระตุกราวกับเริงร่า เหยียดขยายรอเวลาแผลงฤทธิ์ สาวน้อยมองแล้วหน้าร้อนผ่าวๆ หากเธอก็เหลือบขึ้นมองหน้าคมเข้มหล่อเหลาที่เดี๋ยวนี้เขาจะตัดแต่งหนวดเคราจนสั้นเตียนทำให้ยิ่งหล่อเข้มคม เธอสบตาร้อนแรง ชอบใจที่ทำให้สามีเก็บกลั้นทรมานได้“ปรานีกันบ้างเถอะที่รัก”“คนใจร้ายชอบแกล้ง ทำไมต้องสงสาร”“แกล้งเพราะรัก” เขาออด ทำตัวอ่อนหวานอย่างพยายามฝึกทำเต็มที่สองปีมานี้ฟ้าครามปรับเปลี่ยนตัวเองไม่น้อย จากคนที่ดุดันเคร่งขรึม เวลาอยู่กับกรณิการ์เขารู้จักออดทำตัวอ้อน แม้เสียงที่พูดจะไม่หวานหยด แต่น้ำเสียงนั้นก็จับใจเมียรัก“อ้อนก็ลงโทษเพราะรัก”กางเกงยีนตัวเก่งเลื่อนลงไปทางปลายเท้าพร้อมกับปราการของท่านชาย ความเข้มแข็งผงาดตั้งประกาศศักดา กรณิการ์ใจสั่น แต่ด้วยความรักที่มีต่อเขา แท้จริงเธอแค่อยากเอาใจฟ้าครามบ้าง สิ่งที่เขาท
เจ้าของร่างหนาชะงัก เสียงร่ำไห้บาดหัวใจ น้ำตาที่รินไหลคล้ายน้ำกรดรดราดตัวให้แสบร้อนจนทนไม่ได้“อ้อน”“ไม่! ได้โปรด อย่าทำฉัน คุณคราม ฮือๆ ช่วยอ้อนด้วย ช่วยด้วย ฮือๆ”“อ้อน นี่ฉันเอง”ฟ้าครามกระซิบ จูบเคล้าปากอิ่มที่บวมเจ่ออย่างปลอบประโลม บ้าชะมัด เขาไม่น่าทำตามคำแนะนำของพ่อเลย เสียงร่ำไห้ของกรณิการ์บีบหัวใจเขาชะมัด อ้อมกอดแกร่งกระชับ กายหนาผละห่าง อุ้มร่างบางขึ้น เธอไม่ฟังเขาสักนิด เลยต้องพาออกไปนอกห้อง สับคัตเอาต์ไฟ ก่อนจะเข้าห้อง กดสวิตช์เปิดไฟให้สว่าง“อ้อน ดูสิ ฉันเอง”ร่างบางถูกเขย่าจนผมเผ้ากระจาย เสียงห้าวดุที่คุ้นเคยแทรกเข้ามาในหัว กรณิการ์ลืมตาเปียกน้ำตาขึ้นมอง พอพบว่าเป็นฟ้าครามจริงๆ เธอก็ร้องไห้โฮ... ผวาเข้าระดมกำปั้นเล็กๆ ทุบอกกว้างไม่ยั้ง“คนบ้า บ้า บ้า บ้าที่สุด ฮือๆ”ฟ้าครามนั่งเฉย ปล่อยให้เมียสาวทุบได้ตามใจ พอเธอทุบเหนื่อยก็ซบหน้ากับซอกคอเขา ร้องไห้สะอึกสะอื้น เขาจึงลูบไล้แผ่นหลังบางเบาๆ อย่างปลอบโยนกระทั่ง เสียงสะอื้นสร่างซา เนื้อตัวอุ่นนุ่มหยุดสะท้าน เสียงแผ่วดังขึ้นอย่างไม่เข้าใจในการกระทำบ้าๆ ของสามี“ทำไมต้องแกล้งอ้อนแบบนี้”“ไม่ได้แกล้ง”“แล้วที่ทำเรียกว่าอะไรล่ะ
เสียงเสื้อนอนขาดดังแควกจากแรงกระชากทึ้ง กรณิการ์กรี๊ดลั่น ทว่า... เสียงนั้นไม่ดังออกมา เพราะหน้าถูกกดลงกับหมอน สองขาถูกทับ เมื่อเจ้าคนชั่วฉีกทึ้งเสื้อผ้าเธอเสร็จก็ดึงตัวเธอขึ้น แล้วจับเอาเสื้อนั้นขยำเป็นก้อนยัดปากเธอ เสียงร้องดังเพียงอู้อี้“อู้... เมียไอ้คราม ทั้งขาวทั้งหอม ขอพี่กระแทกให้น้ำแตกทีนะน้อง น่าเอาเป็นบ้า”กรณิการ์หวาดผวา ฟ้าครามไปไหน เขาอยู่ไหน ช่วยด้วย! ช่วยเธอด้วย“ไม่!”ร่างบางกระเสือกกระสนหนีไปบนเตียง มันก็ปล่อยให้เธอหนี เพื่อจะได้ฉีกฉุดกระชากกางเกงออกจากตัวเธอจนเหลือเพียงกางเกงชั้นในกับเสื้อชั้นใน กรณิการ์ขวัญเสีย ดิ้นรนอย่างบ้าคลั่ง ก่อนมือจะถูกรวบและมัดด้วยเศษเสื้อนอน วินาทีต่อมาเสื้อชั้นในก็ถูกกระตุกออก เธอผวาเด้งตัวหนีแต่ถูกผลักลงไปนอนหงายบนที่นอน ก่อนที่ขาจะถูกง้างออกห่างกัน ร่างใหญ่แทรกเข้ามาตรงกลางเสียงพึงพอใจดังขึ้นในลำคอของผู้อุกอาจ เมื่อกางมือทาบพื้นที่สงวน มือหยาบใหญ่ แต่พื้นที่ใต้ฝ่ามือก็เกือบปิดไม่มิด“อ่อย (ปล่อย) อ่า (อย่า)”เจ้าของร่างทะมึนไม่สนใจ มือหนึ่งจับมือที่ถูกมัดรวบกดไว้เหนือศีรษะเล็ก อีกมือเคล้าคลึงพื้นที่น่าหลงใหล เกลี่ยไล้ปลายนิ้วกับรูปรอย
สาวน้อยวิ่งตรงไป เลือกดอกไม้อย่างคุ้นเคยเพราะเคยมาซื้อหลายครั้ง คุ้นกับพ่อค้าเป็นอย่างดี“ดอกนี้ดีกว่าไหมจ๊ะน้องสาว พี่บ่าวจะซื้อให้”ดอกกุหลาบยื่นมาตรงหน้า ทำให้กรณิการ์ผงะ เงยหน้ามองก็พบหนุ่มสองคน คนหนึ่งตัวใหญ่อีกคนรูปร่างเล็กแต่ผิวคล้ำ กลิ่นเหล้าคลุ้งจนมึนหัว เธอเดาว่าน่าจะเป็นชาวเลแถวนั้น แววตากะลิ้มกะเหลี่ยกวาดมองตัวเธอทั้งตัวสร้างความหวาดผวาให้กรณิการ์ เธอรีบส่งดอกไม้ให้พ่อค้า“ไม่ดีกว่าค่ะ ขอบคุณค่ะ”“เฮ้ย พวกมึงกลับเรือไปเลย อย่ามาวุ่นวายกับลูกค้ากู” พ่อค้าขายดอกไม้ส่งเสียงไล่“โธ่ จะรีบไล่กันไปไหนเล่า อยู่กับเรือมาแรมเดือน ขึ้นบกพบสาวน่ารักก็อยากทำความรู้จักเท่านั้นเองน่า” หนึ่งในนั้นร้องตอบพ่อค้า“นั่นสิจ๊ะ ชื่ออะไรครับคนสวย”กรณิการ์ไม่ตอบ จ่ายเงินรับถุงดอกไม้ หมุนตัวเดินกลับไปหาฟ้าคราม คิดเอาว่าถ้าเธอไม่เล่นด้วย พวกนี้ก็คงเลิกราไปเองทว่า... ไอ้หนุ่มใจกล้าคนหนึ่งกลับคว้าแขนเธอไว้อย่างถือวิสาสะ“เดี๋ยวสิ”“ว้าย ปล่อยนะ!” กรณิการ์สะบัดแขนเต็มแรงแต่ไม่หลุดสองหนุ่มหัวเราะร่าที่ได้แกล้งลวนลามสาวเจ้าโดยไม่สนเสียงด่าของพ่อค้า ซ้ำยังทำท่าจะรุกไล่มากไปกว่านั้น โดยไม่รู้ดวงมันกำลั
“เดี๋ยวนี้พูดแบบนี้ก็เป็นเหรอคะ”“หัดมา เดี๋ยวเมียงอน ต้องง้อยาวเสียพลังงานเยอะด้วย งอนครั้งต่อไปที่ไหนดี บ่อปลาหรือว่าสวนยาง”“บ้าจริง คุณงามนี่” หน้าสวยแดงก่ำ แต่ไม่ว่าที่ไหน เธอไม่คิดขัดใจเขาอยู่แล้วเมียที่ดีต้องตามใจผัว...“อ้อนรักคุณครามค่ะ” เสียงหวานสั่นกระซิบ ก่อนเรือนกายน่าปรารถนาจะขยับตอบรับลำนำสวาทสร้างความถูกใจให้กับสามีจอมเถื่อน“น่ารักมาก”เสียงห้าวพร่ากระซิบ ก่อนที่ห้องสวีทสุดหรูจะถูกแผดเผาด้วยเปลวปรารถนาตลอดค่ำคืนที่มีความหมาย สองกายผลัดกันบอกย้ำคำรักราวกับจะจารจดไว้ทั่วทุกอณูเนื้อกายและสลักในเนื้อหัวใจตราบนานเท่านาน...เป็นเวลาสองปีแล้วนับจากวันแต่งงาน กรณิการ์ปรับตัวเข้ากับชีวิตใหม่ สิ่งแวดล้อมใหม่ได้จนกลายเป็นความคุ้นเคย สวนของฟ้าครามยังให้ผลิตผลเป็นอย่างดี ทำรายได้ให้ชายหนุ่มทุกวัน ขณะที่เธอเรียนจบจากโรงเรียนสอนทำขนมทำอาหาร ฟ้าครามเปิดร้านให้ เริ่มแรกนั้นลองทำและฝากขายก่อน พอมีลูกค้าการันตีความอร่อย กรณิการ์ก็ได้ร้านซึ่งอยู่ในย่านท่องเที่ยว เปิดเป็นร้านน่ารักๆ บรรยากาศดี ขายอาหารและขนม มีลูกมือช่วยหลายคน กระทั่งมีแม่ครัวประจำ เพราะฟ้าครามไม่ยอมให้เธอห่างกาย เช้าๆ เ







