แชร์

บทที่ 6

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-06-04 13:05:40

ตามมาเอาเรื่องถึงบ้าน

"ท่านแม่ คือว่าท่านพี่...เอ่อ...ท่านพี่"

"แม่เฒ่าหวัง! แม่เฒ่าหวัง! อยู่หรือไม่"

ยังไม่ทันที่อาฉีจะได้อธิบาย เสียงดุดันของบุรุษก็ดังขึ้นมาก่อน ทำให้ลู่เสียนละสายตาจากอันฉีเดินออกไปดูหน้าบ้าน ข้างนอกนั้น ลู่จิว จางหย่ง และอู๋ห่างผู้เป็นบิดายืนเรียงแถวหน้ากระดานกันอยู่ นางหวังที่กำลังอยู่ในครัวได้ยินเสียงคนมาร้องเรียกก็เดินออกมาดู

"มีอะไรหรือเถ้าแก่หยวน"

หยวนอู๋ห่าง พ่อหม้ายหนุ่มใหญ่วัยสี่สิบหนาว ประกอบอาชีพค้าขายหนังสัตว์และขนสัตว์ เขามีรูปร่างสูงใหญ่ใบหน้าดุดัน พอลู่จิวนำเรื่องที่ถูกเจียอีถีบตกน้ำไปฟ้องอู๋ห่างก็รีบแจ้นมาที่บ้านนางหวังโดยทันที หมายจะมาเอาเรื่องเจียอีที่กลั่นแกล้งลูกสาวของตนให้ถึงที่สุด

"ไหน หลานสาวเจ้าอยู่ที่ใด หลานสาวเจ้าผลักลูกสาวข้าตกน้ำ"

"ถีบ ถีบเจ้าค่ะ ไม่ใช่ผลัก" ลู่จิวพูดแทรก

"เจียอีนะหรือผลักลูกสาวท่านตกน้ำ เจียอีเจ้ามานี่"

ลู่เสียนกวักมือเรียกลูกชายและลูกสาวให้มาอธิบายเรื่องราว เจียอีแกล้งเดินเข้ามาด้วยท่าทางนอบน้อมเรียบร้อย แสร้งทำเป็นอ่อนแอคล้ายจะล้มแหล่ไม่ล้มแหล่ ในขณะที่น้ำยังเปียกชุ่มเสื้อผ้าหยดติ๋ง ๆ

"นั่นไงเจ้าคะ นางนั่นแหละที่ผลักข้าตกน้ำ"

ลู่จิ่วชี้มาที่เจียอี กระทืบเท้าสองข้างสลับไปมาเหมือนเด็ก อุปนิสัยของนางนั้นมักจะเอาแต่ใจและดื้อรั้น ทุกคนในหมู่บ้านรู้กันดี ที่นางเป็นแบบนี้สาเหตุหลักก็มาจากอู๋ห่างตามใจนางเกินไปจนเสียคน ตั้งแต่แม่ของนางตกตายเมื่อห้าปีที่แล้วอู๋ห่างก็ตามใจนางเป็นพิเศษ ไม่ว่าลูกสาวจะทำอย่างไรก็เห็นดีเห็นงามไปเสียหมด ผิดกับลูกชายที่ไม่ค่อยตามใจและยังไม่ค่อยได้รับการเอาใจใส่เท่าที่ควร โชคดีที่จางหย่งเป็นคนซื่อ ๆ ไม่ได้มีพิษสงร้ายกาจอย่างเช่นน้องสาว

"คุณหนูลู่จิว ท่านใส่ความข้าแล้ว แค่ก ๆ ถึงท่านจะไม่ชอบข้าแต่การพูดจาใส่ความหาเรื่องให้ผู้ใหญ่ต้องผิดใจกันนั่นไม่ใช่เรื่องที่บุตรควรกระทำ ตัวข้าทั้งอ่อนแอและบอบบางจะเอากำลังที่ไหนทำเจ้าตกน้ำ แค่ก ๆ เป็นเจ้าไม่ใช่หรือที่โยนรองเท้าข้าลงน้ำ ทำให้ข้าต้องลงไปตามเก็บขึ้นมาสภาพข้าจึงเปียกปอนแบบนี้ ส่วนตัวเจ้าก็ลื่นตะไคร่น้ำตกลงไปเองจนเปียก"

"หา...เจ้า เจ้าพูดโกหก"

ลู่จิวโก่งคอเถียง ทว่าเมื่ออู๋หางมองไปที่ร่างเปียกโชกของเจียอีก็เริ่มสงสัยในตัวลูกสาวแล้วว่าที่นางเอาเรื่องไปฟ้องเขา ให้เขามาจัดการคนบ้านหวังนั้นเป็นเรื่องจริงหรือเรื่องแต่ง

"พวกท่านคงจำเรื่องเมื่อปีที่แล้วได้ ในปีนั้นข้าก็ถูกนางผลักตกน้ำ ในปีนี้ข้าก็ยังโดนกระทำแบบเดิมอยู่อีก ช่างไม่ยุติธรรมกับข้ายิ่งนัก แม่นางลู่จิว ข้าอยากถามว่าเจ้าไม่พอใจอะไรถึงทำกับข้าแบบนี้"

เจียอีตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จแล้วคว้าแขนเสื้อเปียก ๆ มาซับน้ำตาที่ไม่มีสักหยด แต่ถึงอย่างนั้นนางก็ยังส่งเสียงสะอื้นไห้กระซิก ๆ ทำเหมือนว่าจำนนต่อโชคชะตาที่ตนเองเป็นฝ่ายถูกกระทำอยู่ฝ่ายเดียว นั่นยิ่งเรียกร้องคะแนนสงสารจากผู้ใหญ่ได้เป็นอย่างดี

"ท่านพ่อ อย่าไปเชื่อนาง ถามท่านพี่จางหย่งดูสิ ท่านพ่อถามท่านพี่ดู"

"เอาล่ะ ๆ ว่าอย่างไรล่ะจางหย่ง น้องสาวเจ้าโยนรองเท้านางลงน้ำแล้วเจียอีนางเป็นคนเก็บขึ้นมาจริงหรือไม่"

ภาพเหตุการณ์ที่ลู่จิวโยนรองเท้าเจียอีลงน้ำ และเจียอีก็เป็นคนเก็บขึ้นมาเองค่อย ๆ ฉายขึ้นมาเป็นฉาก ๆ จางหย่งเป็นคนซื่อตรง เมื่อบิดาถามเท่านั้นเขาก็ตอบเท่านั้น ไม่ได้กล่าวถึงฉากที่เจียอีถีบลู่จิวตกลงไปในน้ำ

"ลู่จิวเป็นคนโยนรองเท้าของนางจริง แล้วแม่นางน้อยบ้านหวังก็เป็นคนไปเก็บขึ้นมาจริงขอรับ"

"หา ท่านพี่!"

เมื่อเห็นว่าจางหย่งไม่ได้กล่าวถึงเรื่องที่ตนเองตกน้ำลู่จิวก็รู้สึกเหมือนไม่ได้รับความเป็นธรรม นางอ้าปากจะพูดแต่ผู้เป็นพ่อก็ทึกทักไปแล้วว่าสิ่งที่คนซื่ออย่างจางหย่งพูดมานั้นมีความเป็นไปได้ จึงทำมือห้ามปรามลู่จิวไว้ไม่ให้นางพูดต่อ เท่านี้เขาก็อับอายมากพอแล้ว

"เช่นนั้นเป็นเรื่องของเด็กเล่นกัน เราเป็นผู้ใหญ่แล้วก็อย่าเก็บมาใส่ใจเลย วันนี้ข้าขออภัยที่มารบกวน เช่นนั้นแม่เฒ่าหวังข้าคงไม่รบกวนแล้ว"

"เฒ่าแก่หยวน ให้เรื่องมันแล้วไป จะได้ไม่ผิดใจกันเพราะเรื่องเด็กเล่น"

"ไป ลู่จิว จางหย่งกลับบ้าน"

เฒ่าแก่หยวนที่ตั้งใจจะมาเอาเรื่องให้ถึงที่สุด พอสถานการณ์พลิกกลับบอกว่าเป็นเรื่องของเด็ก แต่เจียอีก็นึกขอบคุณจางหย่งไม่น้อยที่เขาได้ช่วยนางไว้ในครั้งนี้ นางเผลอมองแผ่นหลังของจางหย่งจนกระทั่งเขาหันกลับมายิ้มให้ เมื่อนั้นนางถึงรีบหลบสายตาทำเหมือนว่าเมื่อครู่ไม่ได้กำลังมองเขาอยู่

"เจ้าเองก็ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าได้แล้ว ดูเจ้าสิเปียกเหมือนลูกหมาตกน้ำ ไปเถิดเดี๋ยวจะไม่สบาย"

"เจ้าค่ะ"

บอกลูกสาวแล้วลู่เสียนก็เดินไปที่หลังบ้าน นางเดินผ่านบ่อน้ำเห็นรอยเปียกที่พื้นดินพร้อมกับรอยเท้าคน นางจึงหันกลับไปมองเจียอีด้วยแววตาสงสัย แต่เนื่องด้วยนิสัยเดิมของเจียอีไม่ใช่คนดื้อรั้น ดังนั้นลู่เสียนจึงสลัดความคิดไม่ดีเกี่ยวกับลูกสาวทิ้งไป

เจียอีผลัดเปลี่ยนชุดใหม่เรียบร้อย เดินออกมานอกบ้านเพื่อรดน้ำเห็ดฟาง วันนี้ครบ 15 วันพอดีหลังจากปลูก เมื่อเปิดผ้าออกดูนางแย้มยิ้มอย่างดีอกดีใจ ใต้ผ้านั้นเห็ดฟางขึ้นเป็นจำนวนมาก กำลังเป็นดอกตูมมีทั้งดอกเล็กดอกใหญ่ เจียอีเดินกลับมาเอาตะกร้าในครัวไปเก็บเห็ดฟาง ครั้งนี้นางไม่มีความคิดอยากเอาเห็ดฟางไปขายตลาด แต่อยากเอาไปทำเป็นอาหารมื้อค่ำมากกว่า

"เจียเอ๋อร์ อีก 3 วันก็จะถึงวันปักปิ่นของเจ้า พรุ่งนี้แม่จะพาเจ้าไปเลือกปิ่นสวย ๆ ที่ตลาดสักอัน"

"เจ้าค่ะ"

"ต้องโทษที่แม่อ่อนแอเกินไป หากได้สินเดิมติดตัวมามากกว่านี้อย่างน้อยเจ้าก็คงได้ปิ่นปักผมดี ๆ เป็นของขวัญในวันปักปิ่น"

"อย่าพูดเช่นนั้นเจ้าค่ะ ถึงข้าจะไม่ได้ใช้ปิ่นปักผมที่เป็นมรดกตกทอดก็ไม่เป็นไร เก็บปิ่นปักผมที่ท่านพ่อให้ท่านแม่ไว้เถิดเจ้าค่ะ สักวันหนึ่งอาฉีจะต้องใช้มอบให้หญิงสาวที่เขาชื่นชอบ"

"ไม่นะท่านแม่ ข้าอยากอยู่กับท่านแม่และท่านพี่ตลอดไป"

อันฉีงอแงตามประสาเด็ก นางหวังและตงซิ่วจึงหัวเราะเบา ๆ แล้วอธิบายให้เด็กน้อยฟัง

"ฉีเอ๋อร์เอ้ย แม่กับพี่สาวเจ้าอยู่กับเจ้าไปไม่ได้ตลอดชีวิตหรอกนะ สักวันหนึ่งพี่สาวเจ้าก็จะต้องแต่งออกไป แล้ววันหนึ่งแม่เจ้าก็จะแก่ชราลงเหมือนตากับยาย"

"แต่ข้ารักท่านแม่กับท่านพี่มากไม่อยากแยกจากขอรับ"

"...เมื่อเจ้าโตขึ้นเจ้าก็จะเข้าใจเอง"

สามวันต่อมา ลู่เสียนพาเจียอีและอันฉีมาหาเลือกซื้อปิ่นปักผมที่ตลาด นางหยิบปิ่นจากร้านขายเครื่องประดับข้างทางพลิกไปพลิกมาหลายครั้ง ปิ่นปักผมที่นางถูกใจประดับด้วยมุกห้าสีสวยงามแวววาว บ่งบอกว่าช่างฝีมือที่เป็นคนทำปิ่นนี้ขึ้นมาตั้งใจทำออกมาอย่างประณีตบรรจง มองดูแล้วงดงามไร้ที่ติ

"เถ้าแก่ปิ่นปักผมอันนี้ราคาเท่าไร"

"อันนี้ 30 อีแปะแม่นาง สวยมากเลยนะอันนี้ของเพิ่งมาใหม่"

"...เอ่อ แล้วอันนี้ล่ะ"

นางหยิบอีกอันที่ดูไม่ค่อยแวววาวเหมือนอันก่อน เป็นปิ่นประดับด้วยหยกขาวเล็ก ๆ หากแต่เป็นปิ่นที่เรียบง่ายไม่หวือหวาแต่ก็สวยงามไม่แพ้กัน

"อันนี้ 20 อีแปะ แต่ข้าว่าปิ่นปักผมมุกห้าสีเหมาะกับแม่นางน้อยมากกว่านะ"

"เช่นนั้น...เจียเอ๋อร์ เจ้าว่าอย่างไร"

พิจารณาจากราคาแล้วเจียอีก็ตัดสินใจได้ในทันที นางชี้ไปที่ปิ่นปักผมที่ประดับด้วยหยกขาว เพราะต้องการประหยัดเงินช่วยลู่เสียน แต่ลู่เสียนไม่ค่อยพอใจกับคำตอบของเจียอีมากนัก นั่นก็เพราะว่านางอยากให้ลูกเลือกสิ่งที่ดีกว่า หาใช่เลือกเพราะราคาที่ต่ำกว่า

"เจ้าแน่ใจหรือ แต่แม่ว่าปิ่นมุกนี่"

"ท่านแม่เจ้าคะ ข้าชอบปิ่นหยกมากกว่าจริง ๆ เจ้าค่ะ หากท่านแม่ตั้งใจจะซื้อปิ่นมุกในราคา 30 อีแปะให้ข้าจริง เช่นนั้นข้าเอาปิ่นหยกในราคา 20 อีแปะ แล้วข้าอยากจะขอท่านแม่อีกสัก 5 อีแปะได้ไหมเจ้าคะ"

"...ก็ได้ เจ้าชอบอันไหนก็เอาอันนั้นเถิด" ลู่เสียนวางปิ่นมุกลงที่เดิมแล้วยื่นปิ่นหยกให้พ่อค้าห่อผ้าให้

"ข้าเอาอันนี้"

"ได้เลยแม่นาง"

เมื่อจ่ายเงินพ่อค้าแล้วลู่เสียนก็ยื่นเงินมาให้เจียอี 5 อีแปะ เจียอีรับมาแล้วฉีกยิ้มหน้าบาน นางคว้ามืออันฉีวิ่งมาหน้าร้านขายขนม เลือกขนมกุ้ยฮวาที่อันฉีอยากกินมาหนึ่งอัน แล้วก็ซื้อขนมน้ำตาลด้วยหนึ่งไม้ ลู่เสียนที่เพิ่งจะตามมาถึงหน้าร้านมองลูกทั้งสองแล้วก็อดยิ้มไม่ได้ ที่แท้เจียอีนางก็แค่อยากเสียสละเพื่อให้น้องได้กินขนมนี่เอง

เงิน 5 อีแปะที่ขอลู่เสียนมายังเหลืออีก 3 อีแปะ อย่างไรก็ไม่มีสิ่งของที่อยากได้แล้ว ดังนั้นเจียอีจึงมอบเงินที่เหลือคืนลู่เสียน ทั้งสามเดินผ่านร้านขายของแห้ง เห็นเฟิ้งหรั่นที่หน้าร้านพอดีเจียอีจึงรีบกล่าวทักทาย

"พี่เฟิ้งหรั่น"

"อ้าว เจียอี อาฉี แล้วนั่น...เอ่อ"

"นี่ท่านแม่ข้าเองเจ้าค่ะชื่อลู่เสียน ท่านแม่เจ้าคะนี่พี่เฟิ้งหรั่น เถ้าแก่เนี้ยคนสวยร้านขายของแห้งที่ข้าเคยเล่าให้ฟัง" เจียอีแนะนำหญิงทั้งสองให้รู้จักกัน

"คารวะพี่สาว"

"ยินดีที่ได้เจอน้องเฟิ้งหรั่น"

"เออ จริงสิเจียอี เหม่งสุ้นที่เจ้าฝากข้าวางขายไม่น่าเชื่อว่ามีคนสนใจซื้อไปลองทำกินเยอะเลย เจ้าพอจะมีมาวางอีกหรือไม่ ครั้งหน้าข้าขอซื้อขาดเลย"

"จริงหรือเจ้าคะ"

"อื้ม นี่เงินส่วนที่ขายออกไปแล้วเจ็ดส่วนของเจ้า ข้าเองก็เอาไปให้แม่ครัวลองทำให้กินดูตามวิธีที่เจ้าบอก มันอร่อยมากเลย"

เฟิ้งหรั่นยื่นเงินจำนวน 25 อีแปะให้เจียอี แล้วเจียอีก็ยื่นต่อให้ลู่เสียน มาถึงตอนนี้เจียอีเริ่มมีความหวังมากขึ้น อย่างน้อยสินค้าของนางก็เริ่มเป็นที่ยอมรับของผู้คนแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือรักษาคุณภาพแล้วกระจายสินค้าให้ได้มากยิ่งขึ้น

"เอาไว้อีกไม่เกินห้าวันข้าจะนำเหม่งสุ้นมาส่งให้เจ้าค่ะ ขอบคุณพี่เฟิ้งหรั่นที่ช่วยแนะนำเหม่งสุ้นให้ลูกค้ารู้จัก วันนี้ข้ากับแม่และน้องต้องขอลา"

"อื้ม เดินทางกลับดี ๆ นะ"

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • จากสาวน้อยบ้านนาสู่ภรรยาท่านแม่ทัพ   บทที่ 139

    เจียอียิ้มแห้งแล้ววางฝ่ามือลูบตรงท้องน้อย ลู่จิวเห็นท่าทางเช่นนั้นก็ได้แต่เอียงคอมองด้วยความสงสัย "ห๋า!...อย่าบอกนะว่าเจ้า""อื้ม""จะ เจ้าหิว!""...เฮ้อ..."เหตุใดลู่จิวถึงไม่เปลี่ยนไปเลยนะ..."ข้ากำลังตั้งครรภ์ต่างหากเล่า""ตั้งครรภ์! จริงหรือเนี่ย""จริง"สิ้นเสียงยืนยันลู่จิวกระโดดโลดเต้นราวก

  • จากสาวน้อยบ้านนาสู่ภรรยาท่านแม่ทัพ   บทที่ 138

    "...ตั้งครรภ์!"แม้น้ำเสียงที่เปล่งออกมาจะตกใจเล็กน้อย แต่ชายหนุ่มก็ยิ้มออกมาด้วยความดีใจระคนตื่นเต้น เขาจำต้องทวนถามสาวใช้อีกครั้งเพราะไม่อยากจะเชื่อหูตนเอง"จริงหรือ""เจ้าค่ะ คนท้องมักจะอยากกินของแปลก ๆ หากไม่ได้กินก็จะงอแงน้อยใจ ท่านแม่ทัพเชิญหมอมาตรวจดูดีกว่าเจ้าค่ะเพื่อความแม่นยำ""อืม เช

  • จากสาวน้อยบ้านนาสู่ภรรยาท่านแม่ทัพ   บทที่ 137

    บทส่งท้ายจากสาวน้อยบ้านนาสู่ภรรยาท่านแม่ทัพหลายเดือนผ่านไปที่ค่ายบูรพายังคงสงบสุขด้วยดี สาวใช้สองนางที่ประจำการอยู่เรือนรับรองเดินยกอาหารเข้ามาให้เจียอี หนึ่งในสองคนนั้นวางอาหารลงบนโต๊ะแล้วเดินไปเรียกเจียอีที่กำลังทำหน้าเบื่อหน่ายอยู่ที่เตียง"ฮูหยินเจ้าคะ ข้าได้ทำตามวิธีการที่ฮูหยินบอกทุกประกา

  • จากสาวน้อยบ้านนาสู่ภรรยาท่านแม่ทัพ   บทที่ 136

    "ไปอยู่ที่ค่ายบูรพาดูแลตัวเองดี ๆ นะ""ข้าจะดูแลตัวเองดี ๆ...เจ้าก็เช่นกัน""อื้ม" หลังจากร่ำลาเรียบร้อยแล้วลู่จิวก็หันมาสบตาจือเฉิน เขายกยิ้มให้นางเล็กน้อย เดิมทีคิดว่าลู่จิวจะมาเพื่อรั้งเขาไว้หรือพูดอะไรสักอย่าง แต่ไม่เป็นอย่างที่คิด...นางแค่มาลาสหายของนางเพียงเท่านั้นจือเฉินรู้สึกเหมือนหัวใจแหล

  • จากสาวน้อยบ้านนาสู่ภรรยาท่านแม่ทัพ   บทที่ 135

    ดินแดนบูรพา (จบ)ในระหว่างที่ลู่จิวและอู๋ห่างกำลังจะเดินทางถึงหน้าโรงเตี๊ยม จือเฉินได้ควบม้ามาขวางเอาไว้ จึงทำให้คนขับรถม้าต้องดึงบังเหียนหยุดกะทันหัน คนที่นั่งอยู่ในรถม้าไม่ทันตั้งตัวทำให้ร่างกายเสียหลักจากแรงบังคับหยุด ลู่จิวรีบประคองอู๋ห่างเอาไว้แล้วแหวกม่านเดินลงมาดูว่าเกิดอะไรขึ้นที่ด้านนอก พ

  • จากสาวน้อยบ้านนาสู่ภรรยาท่านแม่ทัพ   บทที่ 134

    "อื้อ...จริงสิ ข้าเห็นยามากมายในห้องท่านพ่อ ปกติท่านพ่อกินยาบำรุงเยอะขนาดนี้เลยหรือ""...คุณหนู ข้า...เอ่อ ข้าไม่รู้จะพูดดีไหม""พูดมา""คราวนั้นที่ข้าล่วงหน้ากลับมาก่อน พอข้ามาถึงก็พบเถ้าแก่หยวนนอนหมดสติอยู่ในห้องอ่านตำราของคุณชายจางหย่ง ดีที่เรียกหมอมาดูอาการทันเวลา ตั้งแต่นั้นมาเถ้าแก่ก็ป่วยบ่อย

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status