“นาตาเลีย... ผมไม่คิดว่าจะได้พบคุณอีกที่นี่”
คิ้วเข้มของเลออง เดอ วีแลล ขมวดเข้าหากันเล็กน้อยตอนที่โรเบิร์ตบอกว่านางแบบสาวชาวรัสเซีย อดีตคู่นอนคนล่าสุดของชายหนุ่มมาขอพบเป็นการส่วนตัว
เลอองแปลกใจเพราะคิดว่าหญิงสาวกลับบ้านที่รัสเซียหรือไม่ก็กลับไปทำงานที่ฝรั่งเศสต่อเพราะโมเดลลิ่งต้นสังกัดของหญิงสาวอยู่ที่ปารีส แต่ไม่คิดว่าเธอจะกลับมาเมืองไทยเพื่อตั้งใจมาหาเขาแบบนี้
นาตาเลียยิ้มหวาน แว่นตากันแดดอำพรางอยู่เกือบครึ่งใบหน้า เธอหวังว่าเขาจะชวนเธอขึ้นไปพบบนห้องพักชั้นพิเศษ...ห้องที่เธอกับเขาเคยมีกิจกรรมที่เร่าร้อนต่อกัน... แต่โรเบิร์ตกลับบอกว่าเลอองสั่งให้เธอมารอที่ห้องอาหารของโรงแรมแล้วเขาจะลงมาหาเอง แม้จะเป็นห้องรับรองแขกระดับวีไอพี...แต่สำหรับคนที่เคยนอนบนเตียงเดียวกับเลออง เดอ วีแลล มาแล้วด้วยซ้ำ การกระทำเช่นนี้ก็บอกได้ชัดว่าความสัมพันธ์ของเขาและเธอเหลือเพียงอะไร
“ช่วงนี้ฉันพอจะมีเวลาว่างค่ะ ก็เลยกลับมาพักร้อนที่เมืองไทย ทราบว่าช่วงนี้คุณก็ยังทำงานอยู่ที่นี่ ยังไม่ได้ไปที่อื่น ก็เลย...เอ่อ...อยากแวะมาหา...ฉันคิดถึงคุณค่ะ”
“ผมก็ระลึกถึงคุณเสมอเช่นกัน”
เลอองตอบอย่างสุภาพ
เขาได้ยินมาว่าระยะหลังนาตาเลียมีปัญหาเรื่องส่วนตัวจนกระทบกับงานเดินแบบ แต่เขาไม่รู้ว่าเธอมีปัญหาอะไร นาตาเลียไม่เคยคุยเรื่องส่วนตัวอะไรกับเขา เขาเองก็ยอมรับว่าตัวเองใจดำที่ไม่เคยถาม
แต่การที่จู่ ๆ เธอมาหาเขาถึงวันนี้ก็เป็นไปได้ว่านางแบบสาวมีเรื่องให้เขาช่วยเหลือ ซึ่งเลอองตั้งใจไว้แล้วว่าจะช่วยเหลือหญิงสาวอย่างเต็มที่ อย่างน้อยเธอและเขาก็เคยมีช่วงเวลาดี ๆ ร่วมกันมา
“เลอองคะ ฉันอยากกลับมาอยู่กับคุณ ได้ไหมคะ”
“กลับมาอยู่กับผม? ในฐานะอะไรแนต คุณอยากมาทำงานกับผมอย่างนั้นหรือ"
“จะให้ฉันทำงานหรือทำอะไรก็ได้ค่ะ ขอแค่ได้อยู่ใกล้ ๆ คุณอีก คุณจะทำฉันเหมือนเป็นแค่โสเภณีบนเตียงนอนของคุณก็ได้ ฉันไม่คิดจะเรียกร้องต้องการอะไรมากกว่านั้น แต่ขอแค่ให้ฉันได้กลับมาอยู่ในชีวิตของคุณอีกครั้งเถอะนะคะ ได้โปรดนะคะเลออง"
"นาตาเลีย คุณไม่จำเป็นต้องทำถึงขนาดนั้นหรอกนะ"
"ทำได้สิคะ ฉันทำได้ทุกอย่างขอให้ได้อยู่กับคุณอีกครั้ง...ฉันมีชีวิตอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีคุณนะเลออง"
ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไป เขาจ้องตานางแบบสาวด้วยอาการสุขุม ดวงตาสีฟ้าใสทอประกายจริงจัง
“นาตาเลีย ปัญหาจริง ๆ ของคุณคืออะไร ผมคิดว่าเราคุยกันเรื่องนั้นดีกว่าและผมยินดีจะช่วยแก้ปัญหาได้”
“ไม่ค่ะ ฉันไม่ได้มีปัญหาอะไรเลย”
“ไม่ต้องอายหรือเกรงใจผมหรอกนาตาเลีย เราก็เห็นกันอยู่ว่าคุณ...เหมือนไม่ใช่นาตาเลียคนเดิม”
“แนตยังเป็นคนเดิมค่ะ เพียงแต่ไม่ได้อายุน้อยเท่ากับผู้หญิงคนใหม่ของคุณก็เท่านั้น!”
นาตาเลียเผลอใส่อารมณ์ เลอองนิ่งงัน แววตาอ่อนโยนหายไปแล้ว กลายเป็นหน้ากากแห่งความเยือกเย็น
“สรุปว่าคุณจะไม่ยอมพูดเรื่องของคุณจริง ๆ ใช่ไหมนาตาเลีย ถ้าคุณไม่พูดผมก็จะขอตัวก่อน คงไม่มีเวลามากพอจะนั่งฟังความเห็นของคุณที่มีต่อข่าวซุบซิบของผม”
เลอองตัดบทเฉียบขาดก่อนลุกขึ้นยืนและเดินออกจากห้องวีไอพีนั้นไป
นาตาเลียมองตาม ความเสียใจกลายเป็นความโกรธและรู้สึกรุนแรง...อยากทำร้าย...
"คุณคิดว่าจะเมินฉันได้หรือเลออง...รู้จักนาตาเลียคนนี้น้อยไปแล้วล่ะ"
นางแบบสาวชาวรัสเซียกัดฟันพูดกับตัวเอง ก่อนลุกขึ้นเดินตามเขาไปติด ๆ
* * * * *
“วันนี้กลับบ้านไปได้แล้วลิล ไม่มีงานอะไรแล้วนี่ใช่มั้ย”
เมลิสาหันมาสั่งลลิลเมื่อสองสาวเดินทางมาถึงโรงแรมที่เลอองเป็นเจ้าของและมีชั้นบนสุดเป็นที่พักส่วนตัวทั้งชั้น
“แต่คุณมาลินีอยากให้ลิลอยู่รอคุณเมที่นี่มากกว่านะคะ”
“รอทำอะไร?”
“รอกลับบ้านพร้อมกันค่ะ”
ลลิลตอบตามตรงแม้จะรู้ว่าสุดท้ายนางแบบสาวต้องปฏิเสธ ซึ่งก็จริง เมลิสาถอนหายใจก่อนยกมือขึ้นโบก
“ไปเถอะ กลับไปกับคนขับรถนั่นแหละ ถ้าฉันจะกลับเดี๋ยวคุณเลอองเขาก็ให้คนขับรถของเขาไปส่งที่บ้านเองนั่นแหละ ส่วนเรื่องคุณแม่ ถ้าท่านโวยวาย เธอก็รับหน้าไปแทนละกัน ฉันขี้เกียจจะพูดด้วยแล้ว”
“เอาอย่างนั้นก็ได้ค่ะ”
ลลิลรับคำ รู้อยู่แล้วว่าอย่างไรเสียเมลิสาก็ไม่มีทางให้เธอนั่งรออยู่ที่นี่หรอก แต่เธอถือว่าได้บอกไปตามหน้าที่แล้ว คุณมาลินีจะมาเอ็ดเธอทีหลังไม่ได้ก็แล้วกัน
เมลิสาไม่ได้บอกเลอองล่วงหน้าว่าเธอจะมาหา แต่เพราะอยู่ในฐานะคู่ควงคนปัจจุบันของเขาเธอจึงสามารถขึ้นลิฟต์ไปหาเขาถึงห้องรับแขกชั้นบนสุดได้ โดยมีแม่บ้านคอยดูแลต้อนรับอยู่ตามระเบียบ
ลลิลกำลังจะนั่งรถตู้ส่วนตัวของเมลิสากลับ ก็เผอิญเห็นกล่องใส่ยาตกอยู่บนพื้น มันเป็นวิตามินบำรุงสารพัดชนิดที่นางแบบสาวต้องกินให้ตรงเวลา
“มาตกอยู่ตรงนี้ได้ยังไงกันเนี่ย”
“อะไรหรือครับคุณลิล”
คนขับรถร้องถามเมื่อเห็นว่าหญิงสาวก้ม ๆ เงย ๆ ไม่ก้าวขึ้นรถสักที
“กล่องวิตามินของคุณเมเขาจ้ะ เดี๋ยวลิลวิ่งตามเอาไปให้คุณเมดีกว่าเธอจำเป็นต้องใช้มัน พี่เข้มรอแป๊บนึงนะ”
"ได้ครับ"
คนรถตอบ ส่วนลลิลก็รีบวิ่งตื๋อกลับเข้าไปในโรงแรม...
* * * * *
“ไปสั่งให้เตรียมรถ เดี๋ยวฉันจะพาคุณเมลิสาไปกินข้าวข้างนอกแทน” เลอองสั่ง บอดี้การ์ดร่างยักษ์พยักหน้าก่อนจะรีบเดินไปทำตามคำสั่งของเจ้านาย
ระหว่างที่รออยู่หน้าลิฟต์ เลอองเผลอถอนหายใจเหนื่อยหน่ายมันไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาเคยยุติความสัมพันธ์กับใครสักคนโดยที่อีกฝ่ายไม่เต็มใจ แต่ที่ผ่านมาชายหนุ่มก็มีวิธีจัดการของตัวเองอย่างละมุนละม่อม เขาได้เรียนรู้ว่าไม่มีปัญหาอะไรที่เงินแก้ไม่ได้ บางคนงอแงไม่ยอมออกไปจากชีวิตของเขาเพราะคิดว่าเขายังจ่ายไม่มากพอก็เท่านั้น
ครั้งนี้ก็คงจะจบด้วยทางออกเดียวกัน คือเขาจะบอกโรเบิร์ตให้มาเจรจาและเคลียร์ทุกอย่างให้
เพียงแต่ครั้งนี้เขารู้สึกเหนื่อยและรู้สึกผิด...ไม่ใช่กับนาตาลี แต่รู้สึกผิดกับโรเบิร์ตที่ต้องคอยรับหน้าสาว ๆ แทนเขา และที่สำคัญที่สุดคือเขาเริ่มรู้สึกผิดกับการกระทำของตัวเอง
อาจถึงเวลาที่เขาจะหยุดเสเพลได้แล้วกระมัง...ความคิดนี้แวบผ่านเข้ามาอย่างไม่เคยเกิดขึ้น แต่ก็แวบสั้น ๆ เพราะลิฟต์ตรงหน้าเปิดออกก่อนพอดี
เมลิสายิ้มกว้างเมื่อเห็นหน้าเขาและรีบก้าวออกมา
“เมเห็นว่าคุณหายไปนาน ก็เลยไม่อยากรออยู่ในห้องน่ะค่ะ”
“ไม่เป็นไรครับ ผมก็กำลังจะขึ้นไปตามคุณเมพอดี เราเปลี่ยนแผนออกไปหาอะไรอร่อยข้างนอกกินกันดีกว่า”
เมลิสารีบเข้ามาสอดแขนอย่างดีใจ
“เดี๋ยวก่อน !”
เลอองเงยหน้ามองแล้วก็หน้าบึ้งทันทีเมื่อเห็นว่านาตาเลียเดินตามมาขวางหน้าไว้ เมลิสาย่อมรู้จักเพื่อนร่วมวงการแม้จะไม่เคยพบกันเป็นการส่วนตัว สัญชาติญาณหญิงทำให้นางแบบสาวลูกครึ่งไทย-อังกฤษกอดแขนเลอองแน่นเข้าอย่างแสดงความเป็นเจ้าของ...
และนั่นทำให้ดวงตาสีใสของนาตาเลียลุกวาบขึ้น แต่เมื่อเธอไม่พูดอะไรออกมาอีก เลอองก็แตะมือเมลิสาเบา ๆ และพาเดินเลี่ยงไปอีกทาง
ลลิลวิ่งกระหืดกระหอบมาถึงพอดี และเมื่อเห็นเมลิสากำลังจะเดินออกไปก็รีบวิ่งตามไปแต่กลายเป็นการขวางใครบางคนโดยไม่ได้ตั้งใจ
“คุณเลออง!”
บอดี้การ์ดที่เพิ่งเดินกลับมาร้องขึ้นและรีบดึงตัวชายหนุ่มกับนางแบบสาวก่อนทั้งคู่จะรู้ตัวด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้น
“ช่วงนี้พี่อั๋นก็งานยุ่งมากเลยสินะคะ”“ก็ประมาณนั้นแหละ แล้วลิลล่ะ เป็นยังไงบ้าง”“ลิลก็เรื่อย ๆ ค่ะ แต่ก็กำลังคิดอยู่ว่าจะลองหาอะไรใหม่ ๆ ทำดู”“ฮ้า...จริงหรือเปล่า หมายถึงงานใหม่หรือ” “ยังไม่แน่ใจค่ะ พี่อั๋นอย่าเพิ่งบอกใครนะคะ ห้ามเด็ดขาดเลย”“ได้สิ เรื่องของลิล พี่ไม่บอกใครหรอก”แววตาคมจ้องมองมาตรง ๆ และค้างนิ่งอยู่อย่างนั้น ตอนแรกหญิงสาวก็ยิ้มขอบคุณแต่วินาทีต่อมาเริ่มสัมผัสได้ว่าอรรณพมองเธอด้วยสายตาวาววามแปลก ๆ“ลิล สุดสัปดาห์นี้พอจะว่างบ้างมั้ย พวกพี่กับเพื่อนจะไปปาร์ตี้วันเกิดกันที่หัวหิน แต่พี่ไม่อยากไปคนเดียว กำลังหาเพื่อนไปด้วย”ลลิลอึกอัก ไม่รู้จะตอบเขาไปอย่างไร“อย่าคิดมากนะ พี่แค่หาคนไปด้วยจะได้ไม่เหงา พวกเพื่อน ๆ มันก็ควงแฟนกันไปหมด พี่ยังไม่มีใคร ไปคนเดียวก็ตะหงิด ๆ เราจะอยู่ในงานกันสักพักก็ได้ แล้วถ้าลิลอยากไปเที่ยวหรือไปกินอะไรเป็นพิเศษ พี่ค่อยพาไป...”อรรณพมองลลิลอย่างคาดหวัง จะว่าไปเขาก็เลียบเคียงหญิงสาวมานานแล้วแต่เธอไม่เคยรู้ตัว เห็นทีหนนี้ต้องแสดงออกไปให้ชัด ๆ จะได้รู้ว่าเขาสนใจเธอ“คือว่าลิล...”“อ้าว! คุณ...มาอยู่นี่นี่เอง คุณดาด้าเขาตามหาคุณอยู่น่ะ”เสียงดังทร
“ผมไม่ได้คิดอย่างนั้น”“ไม่คิด แต่ก็ทำอยู่”“แต่ผู้หญิงทุกคนรวมถึงคุณเมลิสา ต่างก็คบกับผมโดยที่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร ไม่มีใครเอาเปรียบใคร มันเป็นข้อตกลงของเราสองคน”“คุณพูดเหมือนไม่เคยรักใคร เพราะถ้าคุณรักใครคุณก็คงจะเข้าใจว่าทำไมฉันบอกว่าคุณใจร้าย”เลอองหัวเราะอีก“ความรักน่ะหรือ...ไร้สาระน่า คุณนี่ไร้เดียงสากว่าที่ผมคิดอีกนะ”“ความรักเป็นเรื่องไร้สาระงั้นหรือคะ”“ก็ไม่เชิง...แค่ผมไม่สนใจ”ลลิลแสร้งถอนหายใจอย่างหนักหน่วง มองเขาเหมือนเห็นใจอย่างสุดซึ้ง“ฉันสงสารผู้หญิงของคุณจังเลย ที่ต้องคบหากับผู้ชายที่ไม่รู้จักความรัก เพราะผู้หญิงพวกนั้นก็คงจะไม่มีวันได้รับความรักจากคนอย่างคุณ”เลอองยังยิ้ม แต่แววตากระด้างขึ้น เขาชะโงกหน้ามากระซิบ“แล้วคุณรู้ได้ยังไงว่าผู้หญิงที่คบหากับผมเขาต้องการความรัก...สิ่งที่ผมให้กับพวกเธอเหล่านั้นมันสำคัญแล้วก็...เร้าใจ...ยิ่งกว่าความรักเสียอีก ถ้าพูดขนาดนี้แล้วคุณยังไม่เข้าใจ ไว้สักวันผมจะสาธิตให้ดูเอาไหมล่ะว่าอะไรที่มันน่าสนใจกว่าความรักเพ้อ ๆ ที่คุณว่ามานั่น”ลลิลอึ้ง เขาจงใจกวาดสายตามองเธอเหมือนจะให้ทะลุเข้าไปในเนื้อผ้า“ทุเรศ น่ารังเกียจ!”“ไม่เคยมีใครบอกว่
ลลิลเกริ่นเรื่องหางานใหม่กับมาลินี...และดูว่าแม่ของเมลิสาจะยินดีกับข่าวนี้เป็นอันมากเพราะคิดแล้วว่าผู้ช่วยคนใหม่ อย่างไรก็สามารถจ่ายค่าจ้างได้ถูกกว่าที่จ่ายให้ลลิลแน่ ๆ“ไว้แกรอให้ฉันหาคนใหม่มาให้ลูกเมได้ก่อนก็แล้วกันนะ แล้วค่อยลาออกไป...”“ได้ค่ะคุณมาลินี”“ว่าแต่แกจะไปทำมาหากินอะไร มีงานใหม่ที่ไหนแล้วหรือ”“ยังหรอกค่ะ...ไว้คุณมากับคุณเมหาคนใหม่ได้แล้ว ลิลค่อยมองหางานใหม่ก็แล้วกันค่ะ”“ก็ดี...”มาลินีตอบสั้น ๆ ระยะเวลายาวนานที่หญิงสาวคนนี่้รับใช้ครอบครัวของเธอมาไม่ได้ทำให้เกิดความอาลัยอาวรณ์เลยสักนิด ลลิลนึกน้อยใจอย่างช่วยไม่ได้ แต่ก็ยิ่งทำให้มั่นใจว่าดีแค่ไหนแล้วที่คิดจะออกจากบ้านหลังนี้ เพราะคงไม่มีใครนึกเห็นคุณค่าในตัวเธอขึ้นมาได้แม้จะอยู่ไปจนตายก็ตามแม้แต่เมลิสาเมื่อได้ทราบว่าลลิลอาจจะลาออกในไม่ช้า ก็ยังไม่แม้แต่พูดจารั้งไว้ เพราะเธอกำลังคลั่งไคล้ใหลหลงอยู่กับเลอองจนไม่สนใจเรื่องอื่น...ชีวิตของผู้หญิงอย่างลลิลนี่มันช่างต่ำต้อยจนหาคนมาใยดีไม่ได้เลยจริง ๆ...* * * * *นิตยสารรับสมัครงานเล่มโตถูกกางเต็มโต๊ะเล็ก ๆ ในร้านกาแฟหอมกรุ่นแห่งนั้น ลลิลกำลังนั่งเปิดพลิกทีละหน้าอย่างพินิจพิ
“ดูคุณยังเป็นกังวลนะ เลออง”โรเบิร์ตเอ่ยเสียงเรียบหลังจากสังเกตเห็นว่าตั้งแต่กลับเข้าห้องพักมาในเวลาเกือบสองทุ่ม ชายหนุ่มก็เอาแต่นั่งหน้านิ่วคิ้วขมวด สลับถอนหายใจหนัก ๆ เป็นอย่างนี้มาเกือบชั่วโมงแล้ว“ถ้าเป็นเรื่องเมื่อตอนกลางวัน ไม่ต้องเป็นห่วงแล้ว เพราะว่า...”“ขอบคุณมากครับลุง เรื่องนั้นผมวางใจลุงเสมอ”เลอองชิงบอกก่อน“ถ้าอย่างนั้น ผมควรจะทราบหรือไม่ว่าเรื่องอะไรที่ทำให้คุณกลุ้มอกกลุ้มใจมากขนาดนี้”“มัน...ชัดเจนมากเลยหรือครับ”“พอสมควร”เลขาฯ วัยหกสิบเลื่อนสมุดปกหนังไปอีกทาง และประสานมือใต้คาง เป็นกริยาที่เขามักทำเวลาจะตั้งใจรับฟังเรื่องที่สำคัญของเลอองท่าทางแบบนี้ทำให้เลอองไว้ใจโรเบิร์ตมาเสมอ แต่แปลก...ครั้งนี้เขากลับลังเลที่เอ่ย“คือ...ผมรู้สึกไม่ค่อยดีน่ะ”เลอองเกริ่น ก่อนจะเล่าเรื่องที่ลลิลฉีกเช็คที่เขามอบให้เธอให้โรเบิร์ตฟังคนเป็นเลขาฯ ปล่อยให้เจ้านายเล่าจนจบ นึกแปลกใจเพราะไม่เคยเห็นเลอองเก็บเรื่องเล็กน้อยแบบนี้มาเป็นกังวลแต่ก็ไม่เอ่ยถึงข้อสังเกตนี้ออกไปได้แต่ออกความเห็นอย่างเป็นกลาง“คุณผู้ช่วยคนนั้น เธออาจนึกไม่ถึงว่าจะได้รับคำขอบคุณด้วยวิธีนั้น"“ผมไม่ได้คิดจะดูถูกเธอแม้
วินาทีถัดมานาตาเลียก็ถูกรวบตัวโดยบอดี้การ์ดร่างใหญ่อีกสองคนที่สมทบมาติด ๆ ขวดแก้วในมือเธอร่วงหล่นแตกกระจาย แต่ของเหลวข้างในนั้นถูกสาดออกไปหมดแล้ว“คุณผู้หญิง คุณเป็นอะไรหรือเปล่า”บอดี้การ์ดคนหนึ่งรีบถามลลิลที่ยังยืนตะลึงอยู่ตรงนั้น...ลลิลไม่ทันตอบได้แต่ก้มดูแขนของตัวเองที่เริ่มแสบเป็นรอยแดง...ครึ่งชั่วโมงต่อมา หญิงสาวก็ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน* * * * *นาตาเลียเอาแต่นั่งร้องไห้เมื่อถึงมือตำรวจ นางแบบสาวสารภาพว่าติดยากล่อมประสาทจนพักหลังทำงานไม่ค่อยได้ทำให้ไม่ค่อยมีงานเข้ามาเหมือนแต่เคย รวมกับอีกหลาย ๆ เรื่องก็ทำให้เธอเครียดจนไม่รู้ว่าทำมันไปได้อย่างไร เธอสารภาพว่าตั้งใจจะเอาน้ำกรดไปสาดใส่ผู้หญิงคนใหม่ของเลออง ก็คือเมลิสาไม่รู้ว่าโชคดีหรือโชคร้าย ที่คนที่รับเคราะห์นั้นไปแทนคือผู้ช่วยของเมลิสา...ก็คือลลิล แต่อาจเป็นโชคดีของนาตาเลียก็ได้ เพราะถ้าเมลิสาบาดเจ็บแม้เพียงปลายเส้นผม รับรองว่าเธอคงจะโดนฟ้องชนิดไม่ให้ได้ผุดได้เกิดเลอองพาเมลิสาไปนั่งสงบสติอารมณ์ และคุยกับเธออยู่นาน กว่าจะออกมาบอกว่าเมลิสาและเขาจะไม่แจ้งความ และฝากให้มือขวาอย่างโรเบิร์ตจัดการเรื่องให้จบโดยเงียบ
“นาตาเลีย... ผมไม่คิดว่าจะได้พบคุณอีกที่นี่”คิ้วเข้มของเลออง เดอ วีแลล ขมวดเข้าหากันเล็กน้อยตอนที่โรเบิร์ตบอกว่านางแบบสาวชาวรัสเซีย อดีตคู่นอนคนล่าสุดของชายหนุ่มมาขอพบเป็นการส่วนตัวเลอองแปลกใจเพราะคิดว่าหญิงสาวกลับบ้านที่รัสเซียหรือไม่ก็กลับไปทำงานที่ฝรั่งเศสต่อเพราะโมเดลลิ่งต้นสังกัดของหญิงสาวอยู่ที่ปารีส แต่ไม่คิดว่าเธอจะกลับมาเมืองไทยเพื่อตั้งใจมาหาเขาแบบนี้นาตาเลียยิ้มหวาน แว่นตากันแดดอำพรางอยู่เกือบครึ่งใบหน้า เธอหวังว่าเขาจะชวนเธอขึ้นไปพบบนห้องพักชั้นพิเศษ...ห้องที่เธอกับเขาเคยมีกิจกรรมที่เร่าร้อนต่อกัน... แต่โรเบิร์ตกลับบอกว่าเลอองสั่งให้เธอมารอที่ห้องอาหารของโรงแรมแล้วเขาจะลงมาหาเอง แม้จะเป็นห้องรับรองแขกระดับวีไอพี...แต่สำหรับคนที่เคยนอนบนเตียงเดียวกับเลออง เดอ วีแลล มาแล้วด้วยซ้ำ การกระทำเช่นนี้ก็บอกได้ชัดว่าความสัมพันธ์ของเขาและเธอเหลือเพียงอะไร“ช่วงนี้ฉันพอจะมีเวลาว่างค่ะ ก็เลยกลับมาพักร้อนที่เมืองไทย ทราบว่าช่วงนี้คุณก็ยังทำงานอยู่ที่นี่ ยังไม่ได้ไปที่อื่น ก็เลย...เอ่อ...อยากแวะมาหา...ฉันคิดถึงคุณค่ะ”&ldquo
ทีมงานแทบทุกคนในเช้าวันนั้นต้องอ้าปากค้างกันถ้วนหน้าเมื่อเห็นแลมโบกินีสีขาวแล่นทะยานมาจอดริมหาดส่วนตัวที่กำลังถูกเซ็ตเป็นสถานที่ถ่ายแฟชั่นของวันนี้ไม่ใช่เพราะรถหรูที่ทำให้ตกตะลึง แต่เป็นเพราะคนที่ก้าวลงจากรถคือชายหนุ่มรูปงามปานเทพบุตรผู้ซึ่งเป็นที่รู้จักทั่วไปในวงสังคมและอีกนางหนึ่งก็คือนางแบบคนดังเจ้าของเซ็ตแฟชั่นของวันนี้“เสร็จงานแล้วโทรหาผมนะ ผมจะมารับ”“ขอบคุณค่ะ”เมลิสาส่งยิ้มหวานหยาดเยิ้มกลับไปให้“หนูเม๊...”ศักดารัณส่งเสียงแหลมปรี๊ดปรี่เข้ามาหาทันทีที่แลมโบกินีสีขาวคันนั้นแล่นจากไป เมลิสาหยิบแว่นตาดำอันใหญ่ขึ้นสวมและวางสีหน้าเรียบเฉยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่คนใกล้ชิดอย่างผู้จัดการส่วนตัวย่อมดูออก นางแบบสาวดูอิ่มอกอิ่มใจและมีความสุขยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด“ต๊าย...ขอพักร้อนแค่ไม่กี่วัน ก้าวหน้ากว่าที่คิดนะคะเนี่ย”“ไม่มีอะไรสักหน่อยค่ะพี่ดาด้า ก็แค่...คุยกัน”“คุยเรื่องอะไรแล้วคุยกันท่าไหนหรือคะ ถึงกับต้องมาส่งกันแต่เช้าตรู่แบบไม่ยอมให้ตัวอยู่ห่า
วันสุดท้ายของแฟชั่นวีคที่จัดขึ้นในประเทศไทย นางแบบชั้นนำหลายสิบชีวิตมารวมกันอยู่ที่เวทีนี้เช่นเดียวกับดีไซน์เนอร์นับสิบคนที่ต่างก็มีชื่อเสียงและมีผลงานเป็นที่ยอมรับในระดับสากล...เมื่อต้องเริ่มนาทีทำงาน เมลิสาก็จะวางทุกเรื่องราวเอาไว้ได้ก่อนเสมอ... ครั้งนี้ก็เช่นกัน เสร็จจากงานเดินแบบสามวันนี้เธอตั้งใจจะหลบไปพักผ่อนต่างประเทศสักสัปดาห์หรือสองสัปดาห์ ขึ้นอยู่กับว่าผู้จัดการส่วนตัวของเธอจะจัดการคิวงานให้ลงตัวได้หรือยัง...ผู้ช่วยผู้กำกับเวทีร้องเรียกนางแบบคิวต่อไป เมลิสาเดินออกไปทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเฉิดฉายสมกับที่เป็นนางแบบค่าตัวราคาแพง แน่นอนว่าชุดฟินาเล่ของวันนี้ก็เป็นเธอที่เป็นคนสวมใส่... เมลิสาเปลี่ยนชุดและออกไปเดินโชว์เสื้อผ้าอยู่อีกหลายชุดจนกระทั่งถึงชุดสุดท้าย เสียงปรบมือกึกก้องให้กับดีไซน์เนอร์คนเก่งโดยมีเมลิสาที่สวมใส่ชุดของเขายืนโพสท่าอยู่ชิดใกล้...แสงไฟแฟลชวูบวาบไปหมด...เมลิสามองไปรอบๆ ด้วยแววตาเยือกเย็นแล้วก็ประสานสายตาเข้ากับเขา...เลออง...!เขานั่งอยู่แถวหน้าของวีไอพี พยักหน้าทักทายเธอเล็กน้อย เมลิสาสูดลมหายใจลึก...พยายามตั้
ข่าวการเซ็นสัญญาของเมลิสากับแกรนด์ไดมอนด์เป็นข่าวใหญ่ทั้งหนังสือพิมพ์บันเทิงและธุรกิจ โดยเฉพาะเมื่อมีชื่อของนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงอย่างมิสเตอร์วีแลลเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย คนที่ดีใจที่สุดนอกจากเมลิสาเองก็ไม่พ้นมาลินีและศักดารัณผู้จัดการส่วนตัวที่จะได้ส่วนแบ่งมหาศาลจากการรับงานครั้งนี้แต่เมลิสาไม่ได้ใส่ใจตัวเลขเลย ใครจะรู้ว่าเธออาจจะยอมรับทำงานนี้แบบไม่คิดค่าตัวด้วยซ้ำ ขอเพียงแต่...ใบหน้าหล่อเหลาของเลอองผุดวาบขึ้นมา เมลิสาไม่กล้าจินตนาการต่อ แต่พยายามมุ่งมั่นรวบรวมสมาธิต่อไประหว่างถ่ายแบบ“คุณแม่คิดเหมือนพี่คุณดาหรือเปล่าคะ ว่าหมู่นี้ราศีคุณน้องเมนี่เจิดจรัสมาก และดูเปล่งประกายระยิบระยับอย่างไรชอบกล”“ก็แน่สิจ๊ะดาด้า ถ้าไม่เด่นไม่เริ่ด แล้วน้องเมของเราจะได้งานนี้หรือ”มาลินีเอ่ยอย่างภาคภูมิใจ หล่อนมัวแต่ดีใจกับตัวเลขและเงื่อนไขในสัญญาจนลืมที่จะสังเกตว่าลูกสาวเปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง ศักดารัณเท่านั้นที่ตาไวดูออกว่ามีอะไรแปลก ๆ แต่เขาก็บอกไม่ถูกว่าเธอเปลี่ยนไปอย่างไร“เยี่ยม สวยมากครับ สวยมาก”ช่างภาพอันดับหนึ่งของเมืองไทยกล่าวชมไม่ขาดปากเมื่อยามที่เมลิสาโพสต์ท่าหน้ากล้อง เขาเคยถ่ายภาพให้เมลิสามา