หน้าหลัก / รักโบราณ / ชะตาฟ้าลิขิตสวรรค์ / บทที่ 1 ความโชคร้ายมาเยือน พรสวรรค์นำพา

แชร์

ชะตาฟ้าลิขิตสวรรค์
ชะตาฟ้าลิขิตสวรรค์
ผู้แต่ง: องค์หญิงโนเนม

บทที่ 1 ความโชคร้ายมาเยือน พรสวรรค์นำพา

ผู้เขียน: องค์หญิงโนเนม
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-05-19 10:26:45

ท่ามกลางดวงดาวที่เจิดจ้าบนท้องนภา จ้าวชิงชิงหญิงสาวผู้เพียบพร้อมทั้งรูปร่างหน้าตาและทรัพย์สมบัติกลับรู้สึกว่าวันนี้ท้องฟ้าช่างมืดมิดเหลือคณา ราวกับว่าความมืดมิดกำลังจะคืบคลานเข้ามาหาเธอไปตลอดกาล

"ตายรึยังคะที่รัก?"

"ไม่น่าจะรอดแล้ว เรารีบจัดการเถอะ"

จ้าวชิงชิงใช้แรงเฮือกสุดท้ายหันไปมอง หลี่เย่สามีผู้เป็นที่รักของเธอกับหยางมี่เทียนเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวในชีวิตที่รวมหัวกันฆ่าเธอ คนทรยศ!!

"ขอโทษนะชิงชิง ผมหวังว่าคุณจะหลับให้สบายไม่ต้องห่วงอะไร ผมจะดูแลทุกอย่างแทนคุณเอง"

"ทะ ทำไม?"

จ้าวชิงชิงใช้แรงที่เหลือเปล่งเสียงที่ดังเพียงน้อยนิดออกไป ทว่าดูเหมือนเธอจะไร้เรี่ยวแรงเหลือเกิน

"ยาที่คุณกินเข้าไปมันค่อยๆ ออกฤทธิ์ช้าๆ ตอนนี้พ่อแม่ของคุณได้หลับใหลไปตลอดกาลแล้วนะ ผมจะฉีดมันเข้าไปให้คุณทรมานน้อยลง คุณจะได้หลับสบายๆ"

จ้าวชิงชิงพยายามส่ายหน้าไปมาช้าๆ เธอไม่มีแม้กระทั่งเรี่ยวแรง เธอเพิ่งรู้วันนี้ว่าเธอถูกสามีกับเพื่อนสนิทแสนชั่วช้าแอบวางยาเธอและคนในครอบครัวมาโดยตลอด เธอไม่เคยสงสัยเลยว่าอาการแปลกประหลาดที่เกิดขึ้นกับเธอกับพ่อแม่ของเธอจะเป็นฝีมือของหลี่เย่กับหยางมี่เทียน

หลี่เย่หยิบกระดาษออกมาหนึ่งใบ เขาจับนิ้วโป้งของจ้าวชิงชิงกดลงกับหมึกและประทับลงไปที่กระดาษ

"เรียบร้อยแล้วที่รัก เท่านี้เราก็รวยมหาศาลแล้ว"

พวกชั่วทั้งสองคน!!! ไม่คิดเลยว่าจะใช้วิธีสกปรกแบบนี้กับเธอ จ้าวชิงชิงมองหลี่เย่กับหยางมี่เทียนด้วยสายตาโกรธแค้น แต่ที่เจ็บปวดมากกว่านั้นคือเธอไม่สามารถจะทำอะไรได้เลย

เธอเป็นผู้หญิงเก่ง ฉลาด ชาติตระกูลดี แต่ทำไม? ทำไมโชคชะตาเล่นตลก นำพาให้เธอไปพบเจอคนชั่วทั้งสองคนนี้

หลี่เย่ค่อยๆ ฉีดยาเข้ามาที่แขนของจ้าวชิงชิง ความเจ็บปวดแวบผ่านเข้ามา ก่อนที่ทุกอย่างจะมืดมิดลงไป

ราชวงศ์ต้าโจว

จวนตระกูลหลิว

"คุณหนู!!! คุณหนูฟื้นแล้วรึเจ้าคะ ฮือออ คุณหนูใหญ่!!! 

เสียงเอะอะโวยวายปนเสียงสะอื้นไห้ ทำให้จ้าวชิงชิงที่เพิ่งฟื้นได้สติค่อยๆ ลืมตาขึ้นด้วยความหนักอึ้งที่ศีรษะ

จ้าวชิงชิงมองไปรอบๆ ด้วยความมึนงง

ที่นี่ที่ไหนกัน? ไม่ใช่ที่บ้านเหรอ แล้วหลี่เย่กับหยางมี่เทียนล่ะ?

"ฉันยังไม่ตายเหรอเนี่ย?"

จ้าวชิงชิงจับใบหน้าและลูบตามร่างกายของตนเองก่อนจะต้องตกใจ ทำไมเธอถึงมาแต่งกายด้วยชุดโบราณเช่นนี้

ชุดผ้าไหมปักลายดอกเหมยชมพูอ่อนทั้งชุด ช่างงดงามนัก

เดี๋ยวก่อน!!! นี่ฉันหลงมากองถ่ายหนังจีนโบราณเขวี้ยงดาบฟึ่บฟั่บๆ เหรอ

"คุณหนูใหญ่เจ้าคะ ดื่มยาก่อนนะเจ้าคะ ท่านตกน้ำไปตอนที่ไปชมสวนดอกเหมยที่จวนตระกูลเจินแล้วหมดสติไป บ่าวเป็นห่วงท่านแทบแย่!"

จ้าวชิงชิงมองไปที่เด็กสาวหน้าตาจิ้มลิ้ม ดูแล้วน่าจะอายุราวสิบห้าปีด้วยความสงสัย เธอจึงเผยรอยยิ้มออกมาแล้วมองไปที่เด็กคนนั้น

"ที่นี่ที่ไหนเหรอ? แล้วกำลังถ่ายซีรีส์อะไรกัน ใช่เรื่องที่หยางหยางเป็นพระเอกปะ? ฉันชอบเขามากเลยอะ ตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน? เอ๊ะ!!! ว่าแต่ใครเป็นนางเอก ใช่หลิวอี้เฟยรึเปล่า? ไม่ๆๆๆ สิ แล้วใครพาฉันมาที่นี่กันเนี่ย?"

เด็กสาวตรงหน้ามองจ้าวชิงชิงด้วยสายตาไม่เข้าใจ

"คุณหนูพูดเรื่องอันใดเจ้าคะ บ่าวไม่เข้าใจ"

"แหม!! แม่หนูเลิกเล่นละครละตอบพี่สาวมาสิจ๊ะว่าที่นี่ที่ไหน แล้วเอ่อ? หนูเห็นผู้ชายที่หล่อๆ กับหญิงสาวผิวขาวๆ ผ่านมาทางนี้บ้างไหม?"

จ้าวชิงชิงพยายามข่มโทสะเมื่อต้องเอ่ยถึงหลี่เย่กับหยางมี่เทียน หึ! คนชั่ว ถ้าฉันได้เจอหน้าพวกแก ฉันจะจัดการพวกแกให้สาสมเลย

"ว่าไงสาวน้อย?"

"ที่นี่จวนตระกูลหลิวของท่านเสนาบดี หลิวเทียนเฉิงกับฮูหยินลี่หยางเจ้าค่ะ"

เด็กสาวตรงหน้ายังคงตอบคำถามของจ้าวชิงชิงด้วยสายตาใสซื่อ

จ้าวชิงชิงเริ่มรู้สึกได้ถึงความผิดปกติ เธอค่อยๆ ลุกขึ้นพยายามจะก้าวไปที่กระจก แต่รู้สึกว่าร่างกายช่างไม่มีแรงเอาเสียเลย

"คุณหนูจะไปที่ใดเจ้าคะ คุณหนูต้องรักษาตัวนะเจ้าคะ"

"ฉันจะไปที่กระจก!"

จ้าวชิงชิงไม่สนใจเสียงร้องเตือนของเด็กสาวที่อยู่ตรงหน้า เธอค่อยๆ เดินโซเซไปหยุดอยู่ที่หน้ากระจก

หญิงสาวที่หน้าตาเหมือนกับเธอ แต่ดูแล้วอายุน้อยกว่าเธอไปถึงครึ่งหนึ่ง หญิงสาวในกระจกดูราวอายุสิบหกปี หน้าตาอ่อนแรง แต่ยังคงความสง่างามเอาไว้

จ้าวชิงชิงกลั้นใจเดินออกไปที่นอกห้อง ทันทีที่ออกไปลมหนาวก็พัดมาปะทะร่างของเธอ ทำให้เหน็บหนาวนัก จ้าวชิงชิงกวาดสายตามองไปโดยรอบ หญิงสาวมากมายบ้างก็กำลังกวาดลาน บ้างก็กำลังเช็ดถู บ้างกำลังยกถ้วยน้ำชาเดินไปตามทาง แต่เมื่อทุกคนเห็นจ้าวชิงชิงก็โค้งกายทำความเคารพ

"คารวะคุณหนูใหญ่เจ้าค่ะ"

ไม่จริง!!! ที่นี่มันที่ไหนกันแน่ ฉันหลุดมาอยู่ที่ไหน คุณพ่อคุณแม่ล่ะ

ในระหว่างที่จ้าวชิงชิงกำลังอยู่ในอาการตกใจและสับสน ก็มีเสียงเสียงหนึ่งดังขึ้น

"ลี่เซียน! เจ้าฟื้นแล้วรึลูกแม่!"

จ้าวชิงชิงหันไปมองตามเสียงก็พบกับหญิงผู้หนึ่งอายุราวสามสิบกว่าปี ใบหน้าสูงวัยดูงดงามคล้ายเธอถึงเจ็ดแปดส่วนวิ่งเข้ามากอดเธอทั้งน้ำตา

"โธ่! ลี่เซียนลูกแม่ แม่คิดว่าเจ้าจะไม่ฟื้นแล้วซะอีก แล้วนี่อะไรกัน ไป๋หลาง! เจ้าปล่อยให้คุณหนูใหญ่ออกมาตากลมหนาวได้อย่างไร!!!"

"ขออภัยเจ้าค่ะฮูหยิน บ่าว เอ่อ คือบ่าวห้ามแล้วแต่คุณหนูไม่ยอมฟังบ่าวเจ้าค่ะ"

"นี่เจ้า"

จ้าวชิงชิงหันมองเด็กสาวที่ชื่อไป๋หลางสลับกับมองหญิงที่แทนตนเองว่าแม่ตรงหน้า

หรือว่าผู้หญิงคนนี้จะคือ ลี่หยาง ฮูหยินที่ไป๋หลางพูดถึง

นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน!!!

จ้าวชิงชิงมองหน้าฮูหยินลี่หยางด้วยความสับสน

"ลี่เซียน เจ้าเป็นอะไรไป? ทำไมมองแม่แบบนี้เล่า"

"ที่นี่ที่ไหน?"

จ้าวชิงชิงเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก ทำให้ฮูหยินลี่หยางขมวดคิ้วด้วยความสงสัย

"เจ้าถามอะไร? แม่ไม่เข้าใจ"

"ที่นี่ที่ไหน เอ่อ ฉันหมายถึง รัชสมัยไหน ราชวงศ์อะไร?"

"ราชวงศ์ต้าโจว ฮ่องเต้นามว่าจ้าวชิงเฟย เจ้าถามทำไมหรือ?"

ใบหน้าของจ้าวชิงชิงซีดเผือด เธอหลับตาลงและนึกย้อนเรื่องราว เธอตายจากโลกปัจจุบันย้อนกลับมาสู่อดีตในร่างของตัวเองวัยเด็กที่ชื่อหลิวลี่เซียนงั้นหรือ นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน!

จ้าวชิงชิงไม่อยากจะเชื่อ แต่ก็ทำใจให้ไม่เชื่อไม่ได้ ภาพตรงหน้าทำให้เธอมึนงงสับสนไปหมด

"ไม่จริง!!! ไม่จริง"

"หลิวลี่เซียนเป็นอะไรลูก!!!"

ฮูหยินลี่หยางรีบวิ่งมาประคองร่างที่หมดสติไปของจ้าวชิงชิงด้วยความตกใจ

"เกิดอะไรขึ้นรึเจ้าคะท่านแม่?"

"ลี่ซือ เจ้ารีบไปตามหมอเร็วเข้า แล้วให้คนไปแจ้งท่านพ่อเจ้าด้วยว่าพี่เจ้าฟื้นขึ้นมาแล้วหมดสติไป!!!"

"อะไรนะเจ้าคะ พี่ใหญ่ฟื้นแล้วรึ!!!"

"เจ้าตกใจอันใด รีบไปทำตามที่แม่สั่งเร็วเข้า!!!"

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ชะตาฟ้าลิขิตสวรรค์   บทที่ 24 พิธีอภิเษกสมรส

    หลังจากครบกำหนดที่เจินเซียงกลับมาจากวัดต้าฝู นางได้เดินทางกลับจวนเจ้ากรมกลาโหมเพื่อเตรียมตัวอภิเษกกับจ้าวจิ้งเทียน หนึ่งเดือนต่อมาเมื่อเข้าสู่สายลมแห่งฤดูหนาว ขบวนเจ้าสาวจากตระกูลเจินเจ้ากรมกลาโหมพร้อมสินสอดที่ยาวนับพันลี้ก็ได้เคลื่อนขบวนเข้าสู่วังหลวงหลิวลี่เซียนได้เข้าวังหลวงไปพร้อมกับจวิ้นอ๋องและพระชายาในฐานะพระญาติ ส่วนหลิวลี่ซือไปในฐานะว่าที่คู่หมั้นของจ้าวเฟยหรงองค์ชายรองพิธีอภิเษกสมรสเป็นไปด้วยความราบรื่น จนกระทั่งส่งตัวเจ้าสาวเข้าหอ หลิวลี่เซียนนำของขวัญเป็นปิ่นปักผมทองและเวชสำอางที่นางทำขึ้นเองมอบให้แก่เจินเซียงที่ตอนนี้ได้รับการสถาปนาเป็น 'หวงไท่จื่อเฟย' ตำแหน่งองค์หญิงพระชายา พระชายาเอกในองค์รัชทายาท ด้านจ้าวจิ้งเทียนเมื่อเข้าพิธีอภิเษกแล้วเขาก็ได้รับการสถาปนาเป็น 'หวงไท่จื่อ' องค์รัชทายาทผู้สืบทอดบัลลังก์อย่างชอบธรรม"ยินดีด้วยเพคะหวงไท่จื่อเฟย ขอให้พระองค์ทรงเกษมสำราญเพคะ""ขอบใจเจ้ายิ่งนักลี่เซียน"หวงไท่จื่อเฟยจากตระกูลเจินยิ้มจนตาหยี นางมีความสุขยิ่งนัก นางตั้งใจว่านับตั้งแต่วันนี้นางจะใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ให้มีความสุขหลังจากดื่มสุรามงคลและได้ฤกษ์เข้าหอแล้ว เหล่าพระญ

  • ชะตาฟ้าลิขิตสวรรค์   บทที่ 23 พระราชทานสมรส

    หลังจากที่ได้รับพระราชโองการจากฮ่องเต้ เสนาบดีหลิวที่ตอนนี้ได้เปลี่ยนสถานะเป็นจวิ้นอ๋องก็ได้ย้ายครอบครัวตระกูลหลิวของตนมาพำนักที่จวนอ๋องพระราชทาน ซึ่งเป็นจวนอ๋องที่ฮ่องเต้จ้าวชิงเฟยตั้งใจสร้างเอาไว้เผื่อพระนัดดาทั้งหลายในอนาคตพระชายาจวิ้นอ๋องหลิวลี่หยางยังไม่ค่อยคุ้นชินกับที่อยู่ใหม่มากนัก นางค่อนข้างคิดถึงบ้านเก่าไม่น้อย บางวันจึงกลับไปพักผ่อนที่จวนตระกูลหลิวและรับสั่งให้บ่าวไพร่ดูแลจวนให้ดีจวิ้นอ๋องค่อนข้างปลื้มใจกับบุตรสาวของเขาไม่น้อย เขาได้สอบถามเรื่องราวแต่แรกเริ่มว่าเป็นมาเช่นไร หลิวลี่เซียนสามารถรักษาพระพักตร์องค์รัชทายาทได้อย่างไร หลิวลี่เซียนเองก็เต็มใจเล่าให้ผู้เป็นบิดามารดาฟัง และนางยังได้รู้อีกด้วยว่า แท้จริงแล้วจวนตระกูลหลิวของบิดาเป็นพระญาติใกล้ชิดกับฮ่องเต้มิน่าเล่าทั้งฮ่องเต้และจ้าวฮวงโหวต่างมีใบหน้าเหมือนคุณพ่อคุณแม่ของนาง ที่แท้ก็เป็นบรรพบุรุษของนางนี่เองหลิวลี่ซือลอบเบ้ปากเล็กน้อย นางขี้เกียจจะฟังเรื่องราวพวกนี้ อีกอย่างตอนนี้ตระกูลนางก็ไม่ใช่ขุนนางธรรมดาทั่วไปอีกแล้ว เรื่องนี้ทำให้นางรู้สึกภูมิใจอยู่ไม่น้อยที่จะได้เชิดหน้าชูตาขึ้นมาอีกขั้นไม่นานนักข่าวเรื่องอ

  • ชะตาฟ้าลิขิตสวรรค์   บทที่ 22 คทาหยกหรูอวี้กับราชโองการสองฉบับ

    หลิวลี่เซียนมองฮ่องเต้จ้าวชิงเฟยด้วยแววตาที่ตกใจไม่น้อย แต่เพียงแค่แวบเดียวเท่านั้นสายตานี้ของนางก็หายไป เหลือเพียงความเคารพที่มีต่อฮ่องเต้พระองค์หนึ่งเท่านั้นภพปัจจุบันเขาอาจจะเป็นพ่อของนาง แต่ในภพนี้เขาเป็นฮ่องเต้ที่สูงส่ง นางต้องให้ความเคารพเขาเป็นสิ่งที่ถูกต้องที่สุดแล้วฮ่องเต้จ้าวชิงเฟยมองหลิวลี่เซียนด้วยแววตาล้ำลึกครั้งหนึ่งบุตรสาวของเสนาบดีหลิวนางทำไมช่างดูคุ้นตา เหมือนกับว่าเขาเคยพบเจอนางที่ใดมาก่อน"ไปเชิญเสนาบดีหลิวเทียนเฉิงมาพบข้าที่ตำหนัก"ฮ่องเต้จ้าวชิงเฟยเอ่ยพลางสะบัดชายเสื้อมังกรให้ขันทีไปตามเสนาบดีหลิว ก่อนจะหันมามองหลิวลี่เซียนเสนาบดีหลิวรั้งตำแหน่งเสนาบดีกรมพระคลัง ดูแลเรื่องการจัดเก็บภาษีรายได้ของแผ่นดิน เบิกจ่ายงบประมาณของราชสำนัก เป็นขุนนางตงฉินผู้ซื่อสัตย์น้อยคนนักที่จะรู้ว่าเสนาบดีหลิวผู้นี้เป็นพระญาติฝั่งมารดาของฮ่องเต้จ้าวชิงเฟย เขาเป็นบุตรชายคนโตของน้องสาวไทเฮาองค์ปัจจุบัน นั่นก็คือมารดาของฮ่องเต้จ้าวชิงเฟยนั่นเองไทเฮาตระกูลหลิวพระองค์นี้ทรงอภิเษกกับฮ่องเต้พระองค์ก่อน และได้รับการสถาปนาให้ขึ้นเป็นจ้าวฮวงโหว ก่อนจะมีพระประสูติการพระโอรสนามว่าจ้าวชิงเฟยแล

  • ชะตาฟ้าลิขิตสวรรค์   บทที่ 21 จัดการคนชั่ว

    หลังจากที่จับตัวหนิงซานกับหวาเยียนเข้าคุกหลวงเรียบร้อยแล้ว จ้าวจิ้งเทียนได้ส่งคนไปแจ้งเรื่องราวต่อจ้าวฮวงโหว นางรู้สึกเหมือนดั่งมรสุมใหญ่ได้ลอยหายไปในพริบตา พลันยกยิ้มมุมปาก มเหสีรองเหมย เจ้าไม่มีทางมีชัยชนะเหนือข้าได้หรอกฮ่องเต้จ้าวชิงเฟยที่กำลังว่าราชการในท้องพระโรงเสร็จเรียบร้อยแล้วนั้น กำลังเดินทางกลับตำหนักมังกร พลันสายตาของเขาได้หันไปพบกับจ้าวจิ้งเทียน พระราชโอรสองค์โตของเขาที่มายืนรออยู่ที่หน้าตำหนัก"ถวายบังคมเสด็จพ่อ"ฮ่องเต้จ้าวชิงเฟยหันไปมองด้านหลังของจ้าวจิ้งเทียน จึงพบเข้ากับเจินเซียงและหญิงสาวอีกหนึ่งคน ดูจากการแต่งกายแล้วคงจะเป็นบุตรสาวของตระกูลขุนนางเป็นแน่ หลิวลี่เซียนที่ก้มหน้าตลอดเวลาไม่ได้เงยหน้าไปมอง แต่ก็รับรู้ได้ว่าฮ่องเต้กำลังมองมาที่นางอยู่"เจ้ามีเรื่องอันใดถึงมาพบข้าที่นี่?""ลูกมีเรื่องกราบทูลเสด็จพ่อพ่ะย่ะค่ะ"จ้าวชิงเฟยพยักหน้าเล็กน้อยเมื่อเข้ามาในตำหนัก ฮ่องเต้จ้าวชิงเฟยทรงให้เหล่านางกำนัลขันทีออกไปให้หมดเหลือเพียงราชเลขาคนสนิทเพียงคนเดียว ตอนนี้ภายในตำหนักจึงเหลือคนไม่มาก จ้าวจิ้งเทียนเงยหน้าขึ้นมองเสด็จพ่อของเขาเล็กน้อย"ลูกขอให้เสด็จพ่อทรงเชิญเสด็จแ

  • ชะตาฟ้าลิขิตสวรรค์   บทที่ 20 เรื่องหลอกลวง

    "ท่านคิดจะทำเช่นไรต่อไปจิ้นหมิง"หลิวลี่เซียนหันไปเอ่ยถามจ้าวจิ้งเทียน ก่อนจะโยนองุ่นที่นางแอบหยิบมาจากหอโคมแดงตอนที่เดินออกมาจากประตูโยนขึ้นและอ้าปากงับมาเคี้ยวอย่างอารมณ์ดี จ้าวจิ้งเทียนมองหลิวลี่เซียนด้วยสายตาที่เอ็นดูนางไม่น้อย เด็กน้อยผู้นี้ของเขาช่างดูสดใสนัก เขาที่ใช้ชีวิตมาจนอายุสิบแปดปีไม่เคยพบเจอหญิงในใต้หล้าใดที่น่ารักน่าชังเท่านาง"พรุ่งนี้ข้าคงต้องให้เจ้าไปพบเจินเซียงที่จวนเจ้ากรมกลาโหม เจ้าต้องพานางออกมาให้ได้ ข้าต้องการให้เจินเซียงได้พบกับหวาเยียน หลังจากนั้นข้าจะให้นางไปสารภาพผิดกับเสด็จพ่อ แล้วข้าจะเป็นผู้ทวงคืนความยุติธรรมให้น้องสาวของข้าด้วยตนเอง"หลิวลี่เซียนพยักหน้าเล็กน้อย พ่อหนุ่มคนนี้ช่างรอบคอบจริงๆ"เจ้าพักผ่อนเถอะ ขอบใจเจ้ามากที่ไปกับข้าในวันนี้""เป็นพระกรุณาเพคะองค์รัชทายาท"หลิวลี่เซียนโค้งกายคารวะ ก่อนจะปิดประตูหน้าต่างใส่หน้าจ้าวจิ้งเทียน เขายกยิ้มมุมปากขึ้นเล็กน้อยพลางคิด นี่นางเคารพเขาจริงๆ งั้นหรือ?จวนเจ้ากรมกลาโหมหลังจากที่แต่งกายเรียบร้อย หลิวลี่เซียนก็ออกจากจวนแต่เช้าเพื่อไปที่จวนเจ้ากรมกลาโหม"ขอโทษที่ไม่ได้แจ้งเจ้าก่อนว่าข้าจะมา""ไม่เป็นไร รีบ

  • ชะตาฟ้าลิขิตสวรรค์   บทที่ 19 หนุ่มคณิกาและเรื่องหลอกลวง 1-2

    รุ่งเช้าหลิวลี่เซียนไปที่เรือนของฮูหยินลี่หยางเพื่อรับประทานอาหารเช้าที่เรือนของมารดา ฮูหยินลี่หยางเอ่ยปากชมว่าหม่าล่าที่นางนำมาให้กินนั้นแปลกตาและอร่อยยิ่ง ส่วนหลิวลี่ซือที่นั่งร่วมโต๊ะด้วยนั้นลอบบิดเบ้มุมปากตนด้วยความริษยาตั้งแต่ที่พี่สาวนางตกน้ำครานั้นก็ดูเปลี่ยนไป เมื่อก่อนนางช่างอ่อนแอและขี้โรคนัก โดนลมเพียงนิดก็ไม่สบายต้องนอนรักษาตัวอยู่ในจวนเป็นนานแรมเดือน แต่ตอนนี้นางดูแข็งแรงไม่เจ็บป่วยไข้เหมือนแต่ก่อน ซ้ำยังดูงดงามสดใสยิ่งน่าถลกหนังหน้านางให้มันพังพินาศไปเสียหลังจากที่กินข้าวเช้าเสร็จแล้ว หลิวลี่ซือก็เดินออกมาจากเรือนฮูหยินลี่หยาง ก่อนจะจัดการเปลี่ยนเสื้อผ้าออกนอกจวนไปที่หอเป่าชิงเพื่อหาซื้อเครื่องประดับหลิวลี่ซือเป็นคนรักสวยรักงามยิ่ง นางชอบสะสมเครื่องประดับอัญมณีที่งดงามหลากหลายเมื่อเลือกเครื่องประดับได้ตามที่ต้องการแล้ว หลิวลี่ซือเตรียมให้อวี้จู้สาวรับใช้คนสนิทจ่ายค่าเครื่องประดับของนาง แต่ทว่ามีมือปริศนาข้างหนึ่งยื่นมาก่อน"แม่นาง ค่าเครื่องประดับนี้นายของข้าจะเป็นคนจ่ายให้ท่านเอง"หลิวลี่ซือหันไปมองก่อนจะพบกับบุรุษผู้หนึ่ง เขาแต่งกายคล้ายองครักษ์ในวังหลวง"นายของเจ

  • ชะตาฟ้าลิขิตสวรรค์   บทที่ 18 หนุ่มคณิกาและเรื่องหลอกลวง 1-1

    จ้าวจิ้งเทียนมีสีหน้าตกใจเล็กน้อย ชายารองงั้นหรือ หญิงสาวเช่นชิงชิงไม่ใช่คนที่จะพาเข้าวังหลวงมาเป็นภรรยาได้ง่ายดายเช่นนั้น"เสด็จแม่พ่ะย่ะค่ะ ลูกเชื่อว่าด้วยนิสัยของนางไม่มีทางยอมรับตำแหน่งที่ท่านแม่ทรงมอบให้แน่นอน ตั้งแต่ที่ลูกรู้จักนางมา นางเป็นหญิงสาวที่รักอิสระยิ่งพ่ะย่ะค่ะ""เจ้าจึงถูกตาต้องใจนาง?"จ้าวจิ้งเทียนหมดคำจะพูด เขาไม่ได้ปฏิเสธหรือบ่ายเบี่ยงใดๆ ทั้งสิ้น ตัวเขาเองก็ยังไม่แน่ใจในความรู้สึกที่มีต่อหลิวลี่เซียน เขากลัวว่านางจะไม่ได้คิดเช่นเดียวกันกับเขา จ้าวฮวงโหวย่อมต้องอ่านความคิดของจ้าวจิ้งเทียนออก นางยิ้มออกมาเล็กน้อยคล้ายไม่ได้ติดใจอันใดมากนัก"เช่นนั้นก็ตามใจเจ้า แม่เป็นคนไม่ชอบบังคับใจใคร เรื่องที่เจ้ารักษาใบหน้าจนหายดีแล้วนั้น ต้องกราบทูลต่อเสด็จพ่อเจ้าเสีย""พ่ะย่ะค่ะ"เมื่อสถานการณ์บีบบังคับ ความลับที่เขาตั้งใจจะไม่ยอมเปิดเผยก็จำต้องยอมเสียแล้วหลังจากที่กลับจากวังหลวงหลิวลี่เซียนก็เข้าไปพูดคุยเล่นกับเสนาบดีหลิวและฮูหยินลี่หยางเกี่ยวกับเรื่องที่เข้าวังหลวงวันนี้เพียงเล็กน้อย หลิวลี่ซือก็อยู่ที่นั่นด้วยเช่นกัน นางพยายามที่จะถามหลิวลี่เซียนว่าเข้าวังหลวงไปด้วยเหตุใด

  • ชะตาฟ้าลิขิตสวรรค์   บทที่ 17 เข้าวังหลวงอย่างเร่งด่วน

    ตำหนักจ้าวฮวงโหวจ้าวจิ้งเทียนคิดไตร่ตรองเรื่องของเจินเซียงมาสักพักก่อนจะเข้าไปขอพบกับจ้าวฮวงโหวเสด็จแม่ของเขา"ถวายพระพรเสด็จแม่พ่ะย่ะค่ะ""ลุกขึ้นเถิด มานั่งข้างแม่เร็วเข้า จิ้นหมิง"จ้าวจิ้งเทียนลุกขึ้นก่อนจะเดินเข้าไปนั่งลงข้างพระวรกายของจ้าวฮวงโหว เขามองพระพักตร์ของเสด็จแม่ตนเองอย่างลำบากใจเรื่องนี้หนักหนาเกินกว่าเขาจะแก้ไขเองจริงๆ"ว่าอย่างไรจิ้นหมิง""ที่ลูกมาเข้าเฝ้าเสด็จแม่วันนี้ เพราะมีเรื่องสำคัญสองเรื่องอยากกราบทูลพ่ะย่ะค่ะ""ไหนเจ้าว่ามาสิ"จ้าวจิ้งเทียนหันไปมองเหล่านางกำนัลเป็นเชิงให้ออกไปให้หมด ก่อนจะยกมือขึ้นไปปลดผ้าคลุมใบหน้าของเขาออกอย่างช้าๆ เผยให้เห็นใบหน้างดงามราวกับเทพเซียนของเขา รอยแผลบนใบหน้าจางหายไปจนหมดสิ้นแทบไม่ทิ้งร่องรอยใดเหลือไว้ ราวกับว่าไม่เคยมีบาดแผลน่ารังเกียจนั่นอยู่บนใบหน้าของเขามาก่อน"จิ้นหมิง!!! ลูกแม่ นี่เจ้า หมอเทวดารักษาเจ้าจนหายดีแล้วหรือ สวรรค์ช่างเมตตายิ่งนัก!!!"จ้าวฮวงโหวยื่นมือมาจับที่ใบหน้าของจ้าวจิ้งเทียนอย่างดีใจปนตกใจ น้ำตาของนางเอ่อคลออย่างกลั้นเอาไว้ไม่อยู่ จ้าวจิ้งเทียนกุมมือของพระมารดาเอาไว้ด้วยความรักใคร่ ก่อนจะยิ้มให้จ้าวฮวงโห

  • ชะตาฟ้าลิขิตสวรรค์   บทที่ 16 ตัดปีกตระกูลเจิน

    ตำหนักพระมเหสีรองเหมย"ถวายพระพรพระมเหสีรองเพคะ"เหมยฮวาชิงย่อกายทำความเคารพมเหสีรองเหมยท่านอาของนาง พระมเหสีรองเหมยพระองค์นี้เข้าวังมาได้ห้าปีแล้ว แต่ยังไม่มีพระโอรสและพระธิดาแม้สักพระองค์เดียว เพราะสุขภาพของนางค่อนข้างไม่สู้ดี แต่ถึงอย่างนั้นนางก็ยังคงเป็นที่โปรดปรานของฮ่องเต้ เพราะราชสำนักยังต้องพึ่งพากำลังทางทหารของจวนโหวตระกูลเหมย มเหสีรองเหมยแม้ภายนอกจะดูอ่อนโยน ไม่มีปากมีเสียงกับใคร แต่ลึกๆ ภายในใจของนางซ่อนความโหดเหี้ยมเอาไว้ไม่น้อยนางริษยาจ้าวฮวงโหวกับพระสนมเอกยิ่งนัก ทั้งที่พวกนางไม่ใช่คนโปรดของฮ่องเต้สักเท่าใด แต่วาสนากลับทำให้พวกนางมีพระโอรส แล้วนางเล่า นางเป็นที่โปรดปราน แต่สวรรค์กลั่นแกล้งนางถึงเพียงนี้เพราะเหตุใดกัน"รีบลุกขึ้นเถิดหลาน เจ้าไม่ต้องมากพิธีการ""ขอบพระทัยเพคะพระมเหสีรอง"พระมเหสีรองเหมยโบกมือเป็นการไล่บ่าวรับใช้นางกำนัลออกไปจากตำหนักให้หมด เหลือเพียงแม่นมคนสนิทของนางกับเหมยฮวาชิงและชิงฮุ่ย"ท่านอารู้ข่าวของตระกูลเจินรึยังเพคะ"เหมยฮวาชิงเป็นคนเริ่มบทสนทนาเรื่องของเจินเซียงกับพระมเหสีรองเหมยก่อน พระมเหสีรองเหมยยกชาขึ้นจิบเล็กน้อย พลางหัวเราะออกมาอย่างอารมณ

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status