Home / รักโบราณ / ชะตาฟ้าลิขิตสวรรค์ / บทที่ 11 ภัยมาเยือน 1-2

Share

บทที่ 11 ภัยมาเยือน 1-2

last update Last Updated: 2025-05-19 10:31:54

"เจ้าค่ะคุณหนู"

ไป๋หลางรับคำก่อนจะเปิดผ้าม่านของรถม้าออก

"นี่เจ้าหยุดก่อน คุณหนูใหญ่ปวดหนัก"

คนขับรถม้าหยุดรถกะทันหัน ก่อนพยักหน้าให้ไป๋หลาง

"คุณหนูเจ้าคะ บ่าวสงสัยว่าคนขับรถม้าของจวนเป็นคนละคนกับตอนมาเจ้าค่ะ"

"เจ้าแน่ใจเหรอ"

ไป๋หลางพยักหน้าด้วยตาที่สั่นเทา หลิวลี่เซียนจึงเดินลงจากรถม้าแล้วพิจารณาชายคนดังกล่าวตรงหน้า จริงเหมือนที่ไป๋หลางบอกนาง ถ้าชายตรงหน้ามิใช่คนขับรถม้าของจวนตระกูลหลิวแล้วเป็นใครกัน?

"ที่นี่มิใช่ทางกลับจวนตระกูลหลิว เจ้าจะพาข้าไปที่ใด?"

หลิวลี่เซียนจ้องมองชายตรงหน้าด้วยแววตาเรียบเฉย ไม่ใช่ว่านางใจกล้าคิดจะต่อสู้กับชายตรงหน้า แต่นางแค่ต้องการรู้ว่าชายคนนี้เป็นคนของผู้ใดกัน

"คนขับรถม้าของจวนข้าไปไหน"

ชายตรงหน้ายังคงไม่ตอบอะไรทั้งสิ้น หลิวลี่เซียนเริ่มรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาเล็กน้อย

หลิวลี่เซียนหันไปมองไป๋หลางก่อนจะล้วงหยกหญิงงามโชคดีออกมาจากแขนเสื้อของนาง ก่อนจะกระซิบกับไป๋หลางด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

"ไป๋หลาง เจ้าตั้งสติแล้วฟังข้าให้ดีนะ"

"เจ้าค่ะคุณหนูใหญ่"

"เจ้าเอาหยกนี่ติดตัวไว้ ไปที่ศาลาร้องทุกข์บอกว่าต้องการพบกับท่านชุนหลาง บอกเขาว่าข้าหลิวลี่เซียนคุณหนูจวนตระกูลหลิวต้องการความช่วยเหลือด่วน เร็วเข้า!!"

จิ้นหมิงเป็นขันทีคนสนิทของฝ่าบาท การจะได้พบตัวเขาอาจจะทำให้ล่าช้า สู้ตามหาชุนหลางให้เจอก่อนจะเป็นการดีกว่า

"ตะ แต่บ่าว!!!"

"ไปสิ!!! ไม่ต้องห่วงข้า ถ้าเจ้าไม่รีบไปเจ้ากับข้าอาจไม่ได้กลับไปทั้งสองคน เราเป็นหญิงทั้งคู่สู้พวกมันไม่ได้แน่"

"ฮืออออ คุณหนูใหญ่"

"ไป!!!"

หลิวลี่เซียนผลักไป๋หลางให้วิ่งออกไป ชายบนรถม้าเห็นท่าไม่ดีจึงรีบลงมาตามไป๋หลาง

พลั่ก!! ตุ้บ

หลิวลี่เซียนยื่นเท้าของนางไปขัดขาของชายผู้นั้นจนล้มหน้าคะมำพื้น นางยิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนจะมองไปที่ชายผู้นั้นที่ล้มไม่เป็นท่า

ชายชุดดำยังไม่ทันจะได้ยืนขึ้นด้วยซ้ำ หลิวลี่เซียนก็หยิบไม้ขนาดเหมาะมือฟาดกระหน่ำลงไปที่ศีรษะของชายคนดังกล่าวจนสลบเหมือด

หึ!!! รู้จักชิงชิงน้อยไปซะละ สมัยอยู่โลกอนาคตนางเคยตามไล่จับหลี่เย่กับภรรยาน้อย นางตีจนสองคนนั้นสลบไปสามวันสามคืน

แต่สุดท้ายนางก็พลาดให้กับเพื่อนสนิทของตัวเอง

หลิวลี่เซียนส่ายหน้าไปมาไล่ความคิดนี้ออกไป ถึงจะคิดก็ไม่สามารถกลับไปแก้ไขอะไรได้อีก เจ็บใจนักที่สองคนนั้นยังเสวยสุขอยู่!

หลิวลี่เซียนยกเท้ากระทืบไปที่ลำตัวจนชายผู้นั้นตัวกระตุกอีกครั้ง

หึ! ขอข้าระบายอารมณ์กับเจ้าแทนละกัน

หลิวลี่เซียนกระโดดขึ้นหลังม้าก่อนจะควบม้ากลับไปยังทางเดิม

ป่านนี้ไป๋หลางน่าจะถึงศาลาร้องทุกข์แล้ว

ฟิ้ว! พรึ่บ

ฮี้!!!

อยู่ดีๆ ม้าที่นางขี่ก็เสียการควบคุม ลูกธนูปักเข้าที่ขาข้างขวาของมัน มันยกสองขาหน้าขึ้นจนสุด ทำให้หลิวลี่เซียนที่อยู่บนรถม้าร่วงตกลงมา

"โอ๊ย!!!"

หลิวลี่เซียนยกข้อศอกของนางขึ้นมาดู มีรอยแผลฟกช้ำเป็นวงกว้าง เอวของนางรู้สึกเคล็ดเล็กน้อย

"เจ้านี่เก่งกว่าที่ข้าคิดไว้ซะอีก"

หลิวลี่เซียนละสายตาจากบาดแผล นางเงยหน้าขึ้นไปมองเสียงที่คุ้นเคยเหมือนเคยได้ยินมาจากที่ไหน ก่อนที่นางจะมีสีหน้าตกใจระคนแปลกใจอยู่ไม่น้อย

องค์ชายรอง?

จ้าวเฟยหรงกระโดดลงจากหลังม้าเดินตรงมาที่หลิวลี่เซียน เขายื่นมือส่งไปให้นาง หลิวลี่เซียนมีสีหน้าเรียบเฉยก่อนจะค่อยๆ พยุงตัวเองลุกขึ้นยืน จ้าวเฟยหรงยกยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย หญิงงามตรงหน้าช่างเย้ายวนใจยิ่งนัก

"พระองค์มาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรเพคะ รึว่าชายชุดดำคนนั้น?"

"เจ้าฉลาดดีนี่"

องค์ชายรองยิ้มตาหยีอย่างอารมณ์ดี ทำให้ใบหน้าของเขาดูสว่างสดใสมีชีวิตชีวายิ่ง แต่ทว่าในสายตาของหลิวลี่เซียนมันช่างดูน่ารังเกียจหาสิ่งใดเปรียบ

องค์ชายรองก้าวเท้าเข้ามาหาหลิวลี่เซียนอย่างไม่รอช้า ในระหว่างที่นางกำลังก้าวขาถอยหนี เขาก็กระชากแขนนางเอาไว้และดึงเข้าหาตัวของเขา

หลิวลี่เซียนมีสีหน้าตกใจเล็กน้อย นางจ้องหน้าองค์ชายรองด้วยความหงุดหงิด แต่ทว่าฝ่ายตรงข้ามกลับยิ้มเยาะนางเหมือนกับต้องการจะบอกแก่นางว่า เจ้าจะทำอะไรได้ ข้าเป็นองค์ชายนะ

"พระองค์จะทรงทำอะไรหม่อมฉันเพคะ"

"ข้าต้องการตัวเจ้าไปอยู่ในตำหนักของข้า"

"พระองค์หมายความว่าอะไรเพคะ"

"ยอมเป็นชายาเอกของข้าเถอะ ข้าสัญญาจะทำให้เจ้ามีความสุขที่สุด"

หึ! มีความสุขกับผีละสิไม่ว่า เห็นนางเป็นคนโง่งมรึไงกัน เขาคงไม่รู้สินะว่านางเคยผ่านการมีครอบครัวในโลกอนาคตมาแล้ว คำพูดสวยหรูแต่วางกับดักเอาไว้มากมาย

"พระองค์อย่ามายุ่งกับหม่อมฉันเลยเพคะ หม่อมฉันไม่ได้ต้องการสิ่งที่พระองค์มีเลยแม้แต่น้อย"

"เจ้าอย่าเล่นตัวให้มันมากนัก ในใต้หล้านี้มีหญิงงามไม่รู้กี่ร้อยกี่พันคนปรารถนาจะได้เข้ามาอยู่ในตำหนักของข้า" 

"ยกเว้นหม่อมฉันเพคะ!!!" 

"หากข้าต้องการ เจ้าไม่มีทางปฏิเสธ!!!"

 ไอ้บ้าเอ๊ย!!! อยากเตะผ่าหมากไอ้หมอนี่จังเลยแฮะ!!! เอาแต่ใจยิ่งนัก ไร้เหตุผลสิ้นดี หลิวลี่เซียนพยายามสะบัดแขนให้หลุดจากการเกาะกุมขององค์ชายรอง แต่ทว่าเขายิ่งจับนางแน่นเข้าไปอีก และยังใช้มืออีกข้างมาบีบแก้มนางไว้อีกด้วย

"หม่อมฉันเจ็บเพคะ!!!"

"หึ!!"

ศาลาร้องทุกข์

ไป๋หลางที่วิ่งมาอย่างเหนื่อยหอบ นางหยุดพักหายใจก่อนที่จะรวบรวมสติและเดินเข้าไปทหารรักษาการณ์

"แม่นางต้องการพบใครรึ"

"ข้ามาหาท่านชุนหลาง"

"มีธุระอันใด"

"คุณหนูของข้ากำลังเดือดร้อน นางให้ข้ามาหาท่านชุนหลางที่นี่เจ้าค่ะ นางยังให้หยกนี้แก่ข้ามาด้วย!!!"

"ทหารรักษาการณ์มองหน้าไป๋หลางคราหนึ่ง ก่อนจะทำหน้าครุ่นคิด ในระหว่างนั้นเองก็มีเสียงควบม้าดังมาทิศทางที่นางยืนอยู่

"มีเรื่องอะไรกัน แล้วนั่น!!"

ชุนหลางที่กำลังกลับจากการลาดตระเวน มองหยกในมือของไป๋หลาง เขาจำได้ทันทีว่านั่นคือตราสัญลักษณ์ประจำพระองค์ขององค์รัชทายาท

เขารีบก้าวเข้าไปหาไป๋หลางที่ตอนนี้น้ำตานองหน้า ยืนตัวสั่นด้วยความกลัว

"เจ้าได้หยกนี้มาจากที่ใดแม่นาง"

"ใต้เท้าเจ้าคะ ฮืออ ช่วยคุณหนูใหญ่ด้วยเจ้าค่ะ ฮือ"

ชุนหลางรู้ได้ทันทีว่าแม่นางน้อยตรงหน้าเขาคนนี้คือคนรับใช้ของหลิวลี่เซียน

"เจ้ารอข้าอยู่ที่นี่ อีกเดี๋ยวข้าจะพาคนไปช่วยคุณหนูของเจ้า"

"ขอบพระคุณใต้เท้ายิ่งนักเจ้าค่ะ ฮือ"

"พวกเจ้าคอยดูแลนางให้ดีจนกว่าข้าจะกลับมา!!"

ชุนหลางรีบควบม้าตรงดิ่งไปที่วังหลวงทันทีอย่างไม่รอช้า

ตำหนักองค์รัชทายาท

ชุนหลางรีบเข้าเฝ้าจ้าวจิ้งเทียนอย่างไม่รอช้า หลังจากที่เขาได้รับฟังเรื่องราวจากชุนหลาง สีหน้าของจ้าวจิ้งเทียนไม่สู้ดีนัก

"ทำเช่นไรดีพ่ะย่ะค่ะ"

"เตรียมคนให้พร้อม ไม่ต้องมากจนน่าสงสัย พาสาวใช้ของลี่เซียนมาเจอข้าที่ศาลานัดพบ"

"พ่ะย่ะค่ะ"

ชุนหลางควบม้าออกจากวังหลวงตรงไปรับไป๋หลางมาพบกับจ้าวจิ้งเทียน เขายังคงปลอมตัวเป็นเพียงขันทีธรรมดา ไป๋หลางเองก็ไม่มีเวลามาสนใจสิ่งใดตอนนี้ นางห่วงคุณหนูของนางยิ่งนัก

"ชายที่ขี่รถม้าของจวนเจ้าใส่ชุดดำงั้นหรือ"

"เจ้าค่ะ"

ชุดดำ? ทหารลับของจ้าวเฟยหรง

จ้าวจิ้งเทียนมีสีหน้าเย็นชาขึ้น ถ้าเป็นเช่นที่เขาคิดไว้ตอนนี้หลิวลี่เซียนกำลังเจอภัยพิบัติที่น่าโสมมที่สุด

ทหารลับรักษาพระองค์นั้น จัดไว้สำหรับองค์ชายทุกพระองค์ มีเพียงไม่กี่คนที่รู้เรื่องนี้ จ้าวจิ้งเทียนสั่งคนสืบจนทราบว่าจ้าวเฟยหรงมีพลทหารลับชื่อว่าอินทรีดำ

ส่วนจ้าวจิ้งเทียนพลทหารลับของเขานั้น เป็นสิ่งที่จ้าวเฟยหรงตามหามาตลอด แต่ไม่สำเร็จเพราะพลทหารลับของจ้าวจิ้งเทียนนั้น เขาให้ทหารเหล่านั้นแสร้งปลอมตัวเป็นบัณฑิตบ้าง ชายขี้เมาตามท้องตลาด รึแม้กระทั่งพ่อค้าเถ้าแก่ร้านค้า เรื่องราวของจ้าวเฟยหรงจึงไม่สามารถละจากสายตาเขาไปได้

แต่ครั้งนี้เขาพลาดสิ่งใดไปกันแน่!!!

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ชะตาฟ้าลิขิตสวรรค์   บทที่ 24 พิธีอภิเษกสมรส

    หลังจากครบกำหนดที่เจินเซียงกลับมาจากวัดต้าฝู นางได้เดินทางกลับจวนเจ้ากรมกลาโหมเพื่อเตรียมตัวอภิเษกกับจ้าวจิ้งเทียน หนึ่งเดือนต่อมาเมื่อเข้าสู่สายลมแห่งฤดูหนาว ขบวนเจ้าสาวจากตระกูลเจินเจ้ากรมกลาโหมพร้อมสินสอดที่ยาวนับพันลี้ก็ได้เคลื่อนขบวนเข้าสู่วังหลวงหลิวลี่เซียนได้เข้าวังหลวงไปพร้อมกับจวิ้นอ๋องและพระชายาในฐานะพระญาติ ส่วนหลิวลี่ซือไปในฐานะว่าที่คู่หมั้นของจ้าวเฟยหรงองค์ชายรองพิธีอภิเษกสมรสเป็นไปด้วยความราบรื่น จนกระทั่งส่งตัวเจ้าสาวเข้าหอ หลิวลี่เซียนนำของขวัญเป็นปิ่นปักผมทองและเวชสำอางที่นางทำขึ้นเองมอบให้แก่เจินเซียงที่ตอนนี้ได้รับการสถาปนาเป็น 'หวงไท่จื่อเฟย' ตำแหน่งองค์หญิงพระชายา พระชายาเอกในองค์รัชทายาท ด้านจ้าวจิ้งเทียนเมื่อเข้าพิธีอภิเษกแล้วเขาก็ได้รับการสถาปนาเป็น 'หวงไท่จื่อ' องค์รัชทายาทผู้สืบทอดบัลลังก์อย่างชอบธรรม"ยินดีด้วยเพคะหวงไท่จื่อเฟย ขอให้พระองค์ทรงเกษมสำราญเพคะ""ขอบใจเจ้ายิ่งนักลี่เซียน"หวงไท่จื่อเฟยจากตระกูลเจินยิ้มจนตาหยี นางมีความสุขยิ่งนัก นางตั้งใจว่านับตั้งแต่วันนี้นางจะใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ให้มีความสุขหลังจากดื่มสุรามงคลและได้ฤกษ์เข้าหอแล้ว เหล่าพระญ

  • ชะตาฟ้าลิขิตสวรรค์   บทที่ 23 พระราชทานสมรส

    หลังจากที่ได้รับพระราชโองการจากฮ่องเต้ เสนาบดีหลิวที่ตอนนี้ได้เปลี่ยนสถานะเป็นจวิ้นอ๋องก็ได้ย้ายครอบครัวตระกูลหลิวของตนมาพำนักที่จวนอ๋องพระราชทาน ซึ่งเป็นจวนอ๋องที่ฮ่องเต้จ้าวชิงเฟยตั้งใจสร้างเอาไว้เผื่อพระนัดดาทั้งหลายในอนาคตพระชายาจวิ้นอ๋องหลิวลี่หยางยังไม่ค่อยคุ้นชินกับที่อยู่ใหม่มากนัก นางค่อนข้างคิดถึงบ้านเก่าไม่น้อย บางวันจึงกลับไปพักผ่อนที่จวนตระกูลหลิวและรับสั่งให้บ่าวไพร่ดูแลจวนให้ดีจวิ้นอ๋องค่อนข้างปลื้มใจกับบุตรสาวของเขาไม่น้อย เขาได้สอบถามเรื่องราวแต่แรกเริ่มว่าเป็นมาเช่นไร หลิวลี่เซียนสามารถรักษาพระพักตร์องค์รัชทายาทได้อย่างไร หลิวลี่เซียนเองก็เต็มใจเล่าให้ผู้เป็นบิดามารดาฟัง และนางยังได้รู้อีกด้วยว่า แท้จริงแล้วจวนตระกูลหลิวของบิดาเป็นพระญาติใกล้ชิดกับฮ่องเต้มิน่าเล่าทั้งฮ่องเต้และจ้าวฮวงโหวต่างมีใบหน้าเหมือนคุณพ่อคุณแม่ของนาง ที่แท้ก็เป็นบรรพบุรุษของนางนี่เองหลิวลี่ซือลอบเบ้ปากเล็กน้อย นางขี้เกียจจะฟังเรื่องราวพวกนี้ อีกอย่างตอนนี้ตระกูลนางก็ไม่ใช่ขุนนางธรรมดาทั่วไปอีกแล้ว เรื่องนี้ทำให้นางรู้สึกภูมิใจอยู่ไม่น้อยที่จะได้เชิดหน้าชูตาขึ้นมาอีกขั้นไม่นานนักข่าวเรื่องอ

  • ชะตาฟ้าลิขิตสวรรค์   บทที่ 22 คทาหยกหรูอวี้กับราชโองการสองฉบับ

    หลิวลี่เซียนมองฮ่องเต้จ้าวชิงเฟยด้วยแววตาที่ตกใจไม่น้อย แต่เพียงแค่แวบเดียวเท่านั้นสายตานี้ของนางก็หายไป เหลือเพียงความเคารพที่มีต่อฮ่องเต้พระองค์หนึ่งเท่านั้นภพปัจจุบันเขาอาจจะเป็นพ่อของนาง แต่ในภพนี้เขาเป็นฮ่องเต้ที่สูงส่ง นางต้องให้ความเคารพเขาเป็นสิ่งที่ถูกต้องที่สุดแล้วฮ่องเต้จ้าวชิงเฟยมองหลิวลี่เซียนด้วยแววตาล้ำลึกครั้งหนึ่งบุตรสาวของเสนาบดีหลิวนางทำไมช่างดูคุ้นตา เหมือนกับว่าเขาเคยพบเจอนางที่ใดมาก่อน"ไปเชิญเสนาบดีหลิวเทียนเฉิงมาพบข้าที่ตำหนัก"ฮ่องเต้จ้าวชิงเฟยเอ่ยพลางสะบัดชายเสื้อมังกรให้ขันทีไปตามเสนาบดีหลิว ก่อนจะหันมามองหลิวลี่เซียนเสนาบดีหลิวรั้งตำแหน่งเสนาบดีกรมพระคลัง ดูแลเรื่องการจัดเก็บภาษีรายได้ของแผ่นดิน เบิกจ่ายงบประมาณของราชสำนัก เป็นขุนนางตงฉินผู้ซื่อสัตย์น้อยคนนักที่จะรู้ว่าเสนาบดีหลิวผู้นี้เป็นพระญาติฝั่งมารดาของฮ่องเต้จ้าวชิงเฟย เขาเป็นบุตรชายคนโตของน้องสาวไทเฮาองค์ปัจจุบัน นั่นก็คือมารดาของฮ่องเต้จ้าวชิงเฟยนั่นเองไทเฮาตระกูลหลิวพระองค์นี้ทรงอภิเษกกับฮ่องเต้พระองค์ก่อน และได้รับการสถาปนาให้ขึ้นเป็นจ้าวฮวงโหว ก่อนจะมีพระประสูติการพระโอรสนามว่าจ้าวชิงเฟยแล

  • ชะตาฟ้าลิขิตสวรรค์   บทที่ 21 จัดการคนชั่ว

    หลังจากที่จับตัวหนิงซานกับหวาเยียนเข้าคุกหลวงเรียบร้อยแล้ว จ้าวจิ้งเทียนได้ส่งคนไปแจ้งเรื่องราวต่อจ้าวฮวงโหว นางรู้สึกเหมือนดั่งมรสุมใหญ่ได้ลอยหายไปในพริบตา พลันยกยิ้มมุมปาก มเหสีรองเหมย เจ้าไม่มีทางมีชัยชนะเหนือข้าได้หรอกฮ่องเต้จ้าวชิงเฟยที่กำลังว่าราชการในท้องพระโรงเสร็จเรียบร้อยแล้วนั้น กำลังเดินทางกลับตำหนักมังกร พลันสายตาของเขาได้หันไปพบกับจ้าวจิ้งเทียน พระราชโอรสองค์โตของเขาที่มายืนรออยู่ที่หน้าตำหนัก"ถวายบังคมเสด็จพ่อ"ฮ่องเต้จ้าวชิงเฟยหันไปมองด้านหลังของจ้าวจิ้งเทียน จึงพบเข้ากับเจินเซียงและหญิงสาวอีกหนึ่งคน ดูจากการแต่งกายแล้วคงจะเป็นบุตรสาวของตระกูลขุนนางเป็นแน่ หลิวลี่เซียนที่ก้มหน้าตลอดเวลาไม่ได้เงยหน้าไปมอง แต่ก็รับรู้ได้ว่าฮ่องเต้กำลังมองมาที่นางอยู่"เจ้ามีเรื่องอันใดถึงมาพบข้าที่นี่?""ลูกมีเรื่องกราบทูลเสด็จพ่อพ่ะย่ะค่ะ"จ้าวชิงเฟยพยักหน้าเล็กน้อยเมื่อเข้ามาในตำหนัก ฮ่องเต้จ้าวชิงเฟยทรงให้เหล่านางกำนัลขันทีออกไปให้หมดเหลือเพียงราชเลขาคนสนิทเพียงคนเดียว ตอนนี้ภายในตำหนักจึงเหลือคนไม่มาก จ้าวจิ้งเทียนเงยหน้าขึ้นมองเสด็จพ่อของเขาเล็กน้อย"ลูกขอให้เสด็จพ่อทรงเชิญเสด็จแ

  • ชะตาฟ้าลิขิตสวรรค์   บทที่ 20 เรื่องหลอกลวง

    "ท่านคิดจะทำเช่นไรต่อไปจิ้นหมิง"หลิวลี่เซียนหันไปเอ่ยถามจ้าวจิ้งเทียน ก่อนจะโยนองุ่นที่นางแอบหยิบมาจากหอโคมแดงตอนที่เดินออกมาจากประตูโยนขึ้นและอ้าปากงับมาเคี้ยวอย่างอารมณ์ดี จ้าวจิ้งเทียนมองหลิวลี่เซียนด้วยสายตาที่เอ็นดูนางไม่น้อย เด็กน้อยผู้นี้ของเขาช่างดูสดใสนัก เขาที่ใช้ชีวิตมาจนอายุสิบแปดปีไม่เคยพบเจอหญิงในใต้หล้าใดที่น่ารักน่าชังเท่านาง"พรุ่งนี้ข้าคงต้องให้เจ้าไปพบเจินเซียงที่จวนเจ้ากรมกลาโหม เจ้าต้องพานางออกมาให้ได้ ข้าต้องการให้เจินเซียงได้พบกับหวาเยียน หลังจากนั้นข้าจะให้นางไปสารภาพผิดกับเสด็จพ่อ แล้วข้าจะเป็นผู้ทวงคืนความยุติธรรมให้น้องสาวของข้าด้วยตนเอง"หลิวลี่เซียนพยักหน้าเล็กน้อย พ่อหนุ่มคนนี้ช่างรอบคอบจริงๆ"เจ้าพักผ่อนเถอะ ขอบใจเจ้ามากที่ไปกับข้าในวันนี้""เป็นพระกรุณาเพคะองค์รัชทายาท"หลิวลี่เซียนโค้งกายคารวะ ก่อนจะปิดประตูหน้าต่างใส่หน้าจ้าวจิ้งเทียน เขายกยิ้มมุมปากขึ้นเล็กน้อยพลางคิด นี่นางเคารพเขาจริงๆ งั้นหรือ?จวนเจ้ากรมกลาโหมหลังจากที่แต่งกายเรียบร้อย หลิวลี่เซียนก็ออกจากจวนแต่เช้าเพื่อไปที่จวนเจ้ากรมกลาโหม"ขอโทษที่ไม่ได้แจ้งเจ้าก่อนว่าข้าจะมา""ไม่เป็นไร รีบ

  • ชะตาฟ้าลิขิตสวรรค์   บทที่ 19 หนุ่มคณิกาและเรื่องหลอกลวง 1-2

    รุ่งเช้าหลิวลี่เซียนไปที่เรือนของฮูหยินลี่หยางเพื่อรับประทานอาหารเช้าที่เรือนของมารดา ฮูหยินลี่หยางเอ่ยปากชมว่าหม่าล่าที่นางนำมาให้กินนั้นแปลกตาและอร่อยยิ่ง ส่วนหลิวลี่ซือที่นั่งร่วมโต๊ะด้วยนั้นลอบบิดเบ้มุมปากตนด้วยความริษยาตั้งแต่ที่พี่สาวนางตกน้ำครานั้นก็ดูเปลี่ยนไป เมื่อก่อนนางช่างอ่อนแอและขี้โรคนัก โดนลมเพียงนิดก็ไม่สบายต้องนอนรักษาตัวอยู่ในจวนเป็นนานแรมเดือน แต่ตอนนี้นางดูแข็งแรงไม่เจ็บป่วยไข้เหมือนแต่ก่อน ซ้ำยังดูงดงามสดใสยิ่งน่าถลกหนังหน้านางให้มันพังพินาศไปเสียหลังจากที่กินข้าวเช้าเสร็จแล้ว หลิวลี่ซือก็เดินออกมาจากเรือนฮูหยินลี่หยาง ก่อนจะจัดการเปลี่ยนเสื้อผ้าออกนอกจวนไปที่หอเป่าชิงเพื่อหาซื้อเครื่องประดับหลิวลี่ซือเป็นคนรักสวยรักงามยิ่ง นางชอบสะสมเครื่องประดับอัญมณีที่งดงามหลากหลายเมื่อเลือกเครื่องประดับได้ตามที่ต้องการแล้ว หลิวลี่ซือเตรียมให้อวี้จู้สาวรับใช้คนสนิทจ่ายค่าเครื่องประดับของนาง แต่ทว่ามีมือปริศนาข้างหนึ่งยื่นมาก่อน"แม่นาง ค่าเครื่องประดับนี้นายของข้าจะเป็นคนจ่ายให้ท่านเอง"หลิวลี่ซือหันไปมองก่อนจะพบกับบุรุษผู้หนึ่ง เขาแต่งกายคล้ายองครักษ์ในวังหลวง"นายของเจ

  • ชะตาฟ้าลิขิตสวรรค์   บทที่ 18 หนุ่มคณิกาและเรื่องหลอกลวง 1-1

    จ้าวจิ้งเทียนมีสีหน้าตกใจเล็กน้อย ชายารองงั้นหรือ หญิงสาวเช่นชิงชิงไม่ใช่คนที่จะพาเข้าวังหลวงมาเป็นภรรยาได้ง่ายดายเช่นนั้น"เสด็จแม่พ่ะย่ะค่ะ ลูกเชื่อว่าด้วยนิสัยของนางไม่มีทางยอมรับตำแหน่งที่ท่านแม่ทรงมอบให้แน่นอน ตั้งแต่ที่ลูกรู้จักนางมา นางเป็นหญิงสาวที่รักอิสระยิ่งพ่ะย่ะค่ะ""เจ้าจึงถูกตาต้องใจนาง?"จ้าวจิ้งเทียนหมดคำจะพูด เขาไม่ได้ปฏิเสธหรือบ่ายเบี่ยงใดๆ ทั้งสิ้น ตัวเขาเองก็ยังไม่แน่ใจในความรู้สึกที่มีต่อหลิวลี่เซียน เขากลัวว่านางจะไม่ได้คิดเช่นเดียวกันกับเขา จ้าวฮวงโหวย่อมต้องอ่านความคิดของจ้าวจิ้งเทียนออก นางยิ้มออกมาเล็กน้อยคล้ายไม่ได้ติดใจอันใดมากนัก"เช่นนั้นก็ตามใจเจ้า แม่เป็นคนไม่ชอบบังคับใจใคร เรื่องที่เจ้ารักษาใบหน้าจนหายดีแล้วนั้น ต้องกราบทูลต่อเสด็จพ่อเจ้าเสีย""พ่ะย่ะค่ะ"เมื่อสถานการณ์บีบบังคับ ความลับที่เขาตั้งใจจะไม่ยอมเปิดเผยก็จำต้องยอมเสียแล้วหลังจากที่กลับจากวังหลวงหลิวลี่เซียนก็เข้าไปพูดคุยเล่นกับเสนาบดีหลิวและฮูหยินลี่หยางเกี่ยวกับเรื่องที่เข้าวังหลวงวันนี้เพียงเล็กน้อย หลิวลี่ซือก็อยู่ที่นั่นด้วยเช่นกัน นางพยายามที่จะถามหลิวลี่เซียนว่าเข้าวังหลวงไปด้วยเหตุใด

  • ชะตาฟ้าลิขิตสวรรค์   บทที่ 17 เข้าวังหลวงอย่างเร่งด่วน

    ตำหนักจ้าวฮวงโหวจ้าวจิ้งเทียนคิดไตร่ตรองเรื่องของเจินเซียงมาสักพักก่อนจะเข้าไปขอพบกับจ้าวฮวงโหวเสด็จแม่ของเขา"ถวายพระพรเสด็จแม่พ่ะย่ะค่ะ""ลุกขึ้นเถิด มานั่งข้างแม่เร็วเข้า จิ้นหมิง"จ้าวจิ้งเทียนลุกขึ้นก่อนจะเดินเข้าไปนั่งลงข้างพระวรกายของจ้าวฮวงโหว เขามองพระพักตร์ของเสด็จแม่ตนเองอย่างลำบากใจเรื่องนี้หนักหนาเกินกว่าเขาจะแก้ไขเองจริงๆ"ว่าอย่างไรจิ้นหมิง""ที่ลูกมาเข้าเฝ้าเสด็จแม่วันนี้ เพราะมีเรื่องสำคัญสองเรื่องอยากกราบทูลพ่ะย่ะค่ะ""ไหนเจ้าว่ามาสิ"จ้าวจิ้งเทียนหันไปมองเหล่านางกำนัลเป็นเชิงให้ออกไปให้หมด ก่อนจะยกมือขึ้นไปปลดผ้าคลุมใบหน้าของเขาออกอย่างช้าๆ เผยให้เห็นใบหน้างดงามราวกับเทพเซียนของเขา รอยแผลบนใบหน้าจางหายไปจนหมดสิ้นแทบไม่ทิ้งร่องรอยใดเหลือไว้ ราวกับว่าไม่เคยมีบาดแผลน่ารังเกียจนั่นอยู่บนใบหน้าของเขามาก่อน"จิ้นหมิง!!! ลูกแม่ นี่เจ้า หมอเทวดารักษาเจ้าจนหายดีแล้วหรือ สวรรค์ช่างเมตตายิ่งนัก!!!"จ้าวฮวงโหวยื่นมือมาจับที่ใบหน้าของจ้าวจิ้งเทียนอย่างดีใจปนตกใจ น้ำตาของนางเอ่อคลออย่างกลั้นเอาไว้ไม่อยู่ จ้าวจิ้งเทียนกุมมือของพระมารดาเอาไว้ด้วยความรักใคร่ ก่อนจะยิ้มให้จ้าวฮวงโห

  • ชะตาฟ้าลิขิตสวรรค์   บทที่ 16 ตัดปีกตระกูลเจิน

    ตำหนักพระมเหสีรองเหมย"ถวายพระพรพระมเหสีรองเพคะ"เหมยฮวาชิงย่อกายทำความเคารพมเหสีรองเหมยท่านอาของนาง พระมเหสีรองเหมยพระองค์นี้เข้าวังมาได้ห้าปีแล้ว แต่ยังไม่มีพระโอรสและพระธิดาแม้สักพระองค์เดียว เพราะสุขภาพของนางค่อนข้างไม่สู้ดี แต่ถึงอย่างนั้นนางก็ยังคงเป็นที่โปรดปรานของฮ่องเต้ เพราะราชสำนักยังต้องพึ่งพากำลังทางทหารของจวนโหวตระกูลเหมย มเหสีรองเหมยแม้ภายนอกจะดูอ่อนโยน ไม่มีปากมีเสียงกับใคร แต่ลึกๆ ภายในใจของนางซ่อนความโหดเหี้ยมเอาไว้ไม่น้อยนางริษยาจ้าวฮวงโหวกับพระสนมเอกยิ่งนัก ทั้งที่พวกนางไม่ใช่คนโปรดของฮ่องเต้สักเท่าใด แต่วาสนากลับทำให้พวกนางมีพระโอรส แล้วนางเล่า นางเป็นที่โปรดปราน แต่สวรรค์กลั่นแกล้งนางถึงเพียงนี้เพราะเหตุใดกัน"รีบลุกขึ้นเถิดหลาน เจ้าไม่ต้องมากพิธีการ""ขอบพระทัยเพคะพระมเหสีรอง"พระมเหสีรองเหมยโบกมือเป็นการไล่บ่าวรับใช้นางกำนัลออกไปจากตำหนักให้หมด เหลือเพียงแม่นมคนสนิทของนางกับเหมยฮวาชิงและชิงฮุ่ย"ท่านอารู้ข่าวของตระกูลเจินรึยังเพคะ"เหมยฮวาชิงเป็นคนเริ่มบทสนทนาเรื่องของเจินเซียงกับพระมเหสีรองเหมยก่อน พระมเหสีรองเหมยยกชาขึ้นจิบเล็กน้อย พลางหัวเราะออกมาอย่างอารมณ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status