Home / รักโบราณ / ชะตารักสองบุปผา / บทที่ 3 ขอพรสวรรค์

Share

บทที่ 3 ขอพรสวรรค์

last update Last Updated: 2025-05-04 15:11:07

หลังจากที่อวิ๋นซีเฉินจากไปแล้ว สวีเหลียนฮวาก็เรียกคนให้มาช่วยนางเปลี่ยนเสื้อผ้าอาภรณ์ ชุดแต่งกายของสตรีโบราณช่างรุ่มร่ามและเดินเหินยากลำบากเสียจริง นางคงต้องพยายามปรับตัวให้เคยชินกับการแต่งกายเช่นนี้เสียแล้ว

"ฮองเฮาเพคะ ทรงอยากบรรทมหรือไม่เพคะ?"

สวีเหลียนฮวาหันไปมองนางกำนัลน้อยที่เดินเข้ามารินน้ำชาให้นางด้วยความคล่องแคล่ว ในความทรงจำของเจ้าของร่างเดิมบอกกับนางว่า นางกำนัลผู้นี้คือสาวใช้คนสนิทของนาง นามว่า หลิงเจียว เป็นสาวใช้ที่ติดตามมารับใช้นางจากตระกูลสวี

สวีเหลียนฮวานั่งครุ่นคิดถึงเรื่องราวต่าง ๆ ไปมาด้วยความว้าวุ่นใจ นางรู้สึกเสียดายช่วงเวลาที่ผ่านมายิ่งนัก นางเป็นถึงนักเรียนหัวกะทิ มีความสามารถที่เก่งรอบด้าน อีกทั้งยังเป็นที่ชื่นชอบของเพื่อนฝูงและกำลังจะเป็นว่าที่ตำรวจหญิงอนาคตไกลอีกด้วย

แต่ต้องมาตกตายเพราะถูกรถชนเนี่ยนะ!!! เฮ้อ!!! สวรรค์ช่างกลั่นแกล้งนางยิ่งนัก 

สวีเหลียนฮวาหันไปมองที่กระจกก่อนจะรู้สึกแปลกใจไม่น้อย สตรีนางนี้มีใบหน้าเหมือนกับนางไม่มีผิดเลย จะต่างกันก็เพียงแค่เจ้าของร่างนี้มีแววตาที่เศร้าหมองเหลือเกิน

ชีวิตของสวีเหลียนฮวาช่างอาภัพยิ่งนัก นางไม่เก่งอะไรสักอย่าง อีกทั้งยังอ่อนแอไม่สู้คน แฝดน้องของนางก็ช่างใจดำยิ่งนัก คิดจะหนีงานแต่งก็หนีไปเสียเฉย ๆ ทิ้งหายนะให้นางต้องมาทนกับฮ่องเต้บ้าอำนาจผู้นี้!!! 

แต่เอาเถิด! ไหน ๆ ก็มีโอกาสได้ใช้ชีวิตอีกครา ข้าก็จะทำให้เจ้าไม่ลำบากไปมากกว่านี้ก็แล้วกัน 

สวีเหลียนฮวาถอนหายใจออกมาอย่างอับจนหนทาง นางรู้สึกเหนื่อยล้ายิ่งนัก เพราะร่างนี้ถูกกดหน้าจมอยู่ใต้อ่างน้ำมาครู่หนึ่ง นางจึงรู้สึกแสบจมูกจนเกินจะทน สวีเหลียนฮวาจึงทิ้งตัวลงนอนบนเตียงก่อนจะผล็อยหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย 

รุ่งเช้ามาเยือน แสงอาทิตย์จากนอกหน้าต่างส่องผ่านเข้ามาให้ความอบอุ่นแก่นางได้มากทีเดียว สวีเหลียนฮวาลุกขึ้นนั่งบนเตียง ก่อนจะบิดกายไปมาด้วยความเกียจคร้าน

"ฝ่าบาทเสด็จ!!!"

สวีเหลียนฮวากลอกตาไปมาด้วยความเหนื่อยหน่าย จะมาทำไมแต่เช้ากันนะ นางเพิ่งจะตื่นนอนเมื่อครู่นี้เองแท้ ๆ

อวิ๋นซีเฉินก้าวเดินเข้ามาในตำหนักเฟิ่งหวงอย่างรวดเร็ว ดวงตาคมฉายแววเย็นชาทันทีที่ได้เห็นใบหน้าของสวีเหลียนฮวา 

"หึ!!! สตรีเช่นเจ้าคงมิเคยเรียนรู้กฎสามเชื่อฟังสี่จรรยาสินะ ไม่สมควรที่จะได้อยู่ในตำหนักเฟิ่งหวงของข้าเลยด้วยซ้ำ!!!"

"ถวายพระพรเพคะฝ่าบาท"

"ถูกด่ายังไม่สำนึก!!! หน้าด้านหน้าทนยิ่งนัก"

สวีเหลียนฮวาไม่ได้สนใจที่เขาดูถูกดูแคลนนางเท่าใดนัก นางทำเพียงฟังหูซ้ายทะลุออกหูขวาก็เท่านั้น อวิ๋นซีเฉินเริ่มหงุดหงิดแล้ว เขาสะบัดมือไล่เหล่านางกำนัลขันทีออกไปจนหมด ก่อนจะก้าวยาว ๆ เข้าไปหาสวีเหลียนฮวา และยื่นมือไปกระชากเอวบางของนางเข้าหาตัวเขา ส่วนอีกมือหนึ่งก็จับสองมือขาวราวหยกงามของนางเอาไว้ 

"ปล่อยนะเพคะ!"

"หึ!!! คิดว่าข้าหลงใหลเจ้าเช่นนั้นหรือ? เจ้าจะไม่มีวันได้แตะต้องกายข้าอีก!!!"

"หม่อมฉันก็ไม่ได้อยากแตะนักหรอกเพคะ!!!"

"หึ!!! ภายนอกเจ้าเสแสร้งแกล้งทำเป็นสตรีอ่อนแอบอบบาง นี่คือธาตุแท้ของเจ้าสินะ!!! ตอบข้ามา หลานฮวาของข้าอยู่ที่ไหน!!!"

สวีเหลียนฮวารู้สึกรำคาญชายหนุ่มตรงหน้าเป็นอย่างยิ่ง นี่มันเวรกรรมอันใดของนางกัน จึงต้องมาแต่งงานกับคนเช่นนี้ 

"ไม่รู้เพคะ!!! นางหนีไปไม่ได้บอกผู้ใดแม้แต่หม่อมฉัน!"

"เจ้ารู้!!! แต่เจ้าอยากได้ข้าจนตัวสั่น จึงสวมรอยเข้ามาแต่งกับข้าแทนนาง ข้ารู้ ความหล่อของข้ามันคงทิ่มแทงใจเจ้าสินะ!!!"

สวีเหลียนฮวารู้สึกอยากจะอาเจียนขึ้นมาทันทีที่ได้ยินเขาเอ่ยเช่นนี้ ให้ตายเถอะ!!! เขานี่มัน 

"หากพระองค์ทรงรังเกียจหม่อมฉัน ก็ทรงปลดหม่อมฉันออกจากตำแหน่งฮองเฮาสิเพคะ ไม่เห็นจะยาก"

"เจ้าท้าทายข้าหรือ!!!"

"ไม่ได้ท้าทายเพคะ หม่อมฉันพูดความจริง คนสองคนมิได้รักกัน จะทนอยู่ร่วมกันไปทำไมเพคะ!"

"โอววว ช่างเจรจาพาทีเสียจริงเชียว จำใส่หัวเจ้าเอาไว้!!! ข้าปลดเจ้าแน่!!! แต่เจ้าจะต้องทนทรมาน อยู่เป็นเงาของสวีหลานฮวาจนกว่าข้าจะหานางพบ เพราะเจ้า!!! หากเจ้าไม่มีใบหน้าเหมือนนาง นางก็คงไม่คิดหนีข้าไปเช่นนี้!!!"

บ้าบอสิ้นดี!!! นางมีใบหน้าเดียวกับสวีหลานฮวานางก็ผิดเช่นนั้นหรือ?

"เจ็บนะเพคะ ปล่อย!!!"

"คิดว่าข้าอยากแตะเนื้อต้องตัวเจ้านักหรือ!!!"

"ก็ปล่อยสิเพคะ โอ๊ะ!!!"

สวีเหลียนฮวาพยายามดิ้นรนหนีจากการกอดรัดของเขา แต่ทว่าเพราะยื้อยุดฉุดกระชากกันไปมาเสื้อผ้าผืนบางของนางจึงหลุดลุ่ยลง จนเผยให้เห็นเนินอกอวบอิ่มเต่งตึงของสาวแรกรุ่นที่ชวนมอง สวีเหลียนฮวาพยายามหาทางดึงมันให้เข้าที่ แต่อวิ๋นซีเฉินกลับยกยิ้มเจ้าเล่ห์มองนางด้วยแววตาที่ดูแคลน 

"เจ้าถึงกับกล้ายั่วยวนข้าเพียงนี้เชียวหรือ น่าสมเพชสิ้นดี!!!"

"อยากจะทรงคิดเช่นไรก็ตามแต่ใจพระองค์เถิดเพคะ"

"ดี!!! ข้าจะคิดว่าเจ้ามันอำมหิต ริษยา!!!"

"โอ๊ย!!!"

อวิ๋นซีเฉินผลักร่างของสวีเหลียนฮวาลงไปนอนกองกับพื้นอย่างนึกรังเกียจ แต่ทว่ากลิ่นหอมจากกายนางช่างส่งกลิ่นเย้ายวนใจเขายิ่งนัก คล้ายกับกลิ่นบุปผานานาพรรณที่เขาชื่นชอบ 

บัดซบ! เหม็นสาบออกปานนี้ ใครจะไปหลงใหลนางกัน 

"อีกครู่หนึ่งจะมีพิธีขอพรจากเทพสวรรค์ เจ้าจงเตรียมตัวให้ดี อย่าทำให้ข้าขายหน้า มิเช่นนั้นข้าจะฆ่าเจ้าให้ตายคามือเสีย!!!"

อวิ๋นซีเฉินเอ่ยเพียงเท่านั้นก่อนจะเดินจากไปทันที หลิงเจียวที่เห็นเช่นนั้นจึงรีบวิ่งเข้ามาช่วยพยุงสวีเหลียนฮวาทันที 

"ฮองเฮาเพคะ!!!"

"ข้ามิเป็นอันใด เจ้าช่วยข้าเตรียมตัวทีเถิด หากชักช้า อาการทางจิตของฮ่องเต้กำเริบคงแย่กว่านี้!!!"

"เพคะ"

ไม่นานนักสวีเหลียนฮวาก็แต่งกายเสร็จเรียบร้อย นางสวมชุดประจำตำแหน่งฮองเฮา ใบหน้าของนางสวยงามยิ่งนัก อีกทั้งยังขาวนวลเนียนราวกับพระจันทร์ที่ส่องสว่างบนท้องฟ้า ริมฝีปากบางสวยได้รูป ดวงตาที่เป็นประกายราวกับดวงดาว เครื่องหน้าของนางงดงามจนเรียกได้ว่าล่มเมืองเลยทีเดียว 

หากแต่งเติมอีกนิดคงจะงดงามเหนือสตรีใดในใต้หล้า!

สวีเหลียนฮวาเดินทางไปที่แท่นพิธีขอพรซึ่งตั้งอยู่ริมสระน้ำขนาดใหญ่กลางวังหลวง ในสระน้ำมีดอกเหลียนฮวามากมายหลากสีดูงดงามยิ่งนัก 

"ถวายพระพรฮองเฮาเพคะ"

สวีเหลียนฮวาหันไปมองเหล่าสตรีที่เข้ามาทำความเคารพนางด้วยแววตาที่เป็นมิตร แต่ละนางล้วนสวมเสื้อผ้าอาภรณ์ชั้นดี แลดูสง่างามเป็นอย่างมาก 

"หม่อมฉันจิ้งกุ้ยเฟยเพคะ เป็นพระสนมเอกของฝ่าบาท"

สตรีน้อยใบหน้างดงามสวยหวาน แววตาเรียวสวยราวกิ่งดอกท้อ กำลังเอ่ยกับนางด้วยน้ำเสียงที่อ่อนหวาน แต่ทว่าเน้นหนักตรงคำว่า 'พระสนมเอก'

สวีเหลียนฮวาส่งเสียงเฮอะในลำคอ จิ้งกุ้ยเฟยผู้นี้คงคิดจะบอกนางอ้อม ๆ ว่า ตนเป็นคนโปรดของฮ่องเต้โรคจิตนั่นสินะ?

นางต้องใส่ใจหรือ? ก็ไม่!

"ในวังนี้มีกฎระเบียบมากมายนัก หากฮองเฮามิทรงรังเกียจ ให้หม่อมฉันไปเข้าเฝ้าสนทนาเป็นเพื่อนยามว่างดีหรือไม่เพคะ?"

จิ้งกุ้ยเฟยเอ่ยพลางลอบสังเกตใบหน้าของสวีเหลียนฮวาไปด้วย ได้ยินมาว่าเมื่อคืนฝ่าบาทกริ้วหนักมาก ข่าวลือเรื่องบุตรสาวฝาแฝดของตระกูลสวีสลับตัวกันนั้น ผู้คนในวังหลวงต่างล่วงรู้กันหมด ได้ยินมาว่าฝ่าบาททรงเกือบจะฆ่าสวีเหลียนฮวาให้ตายคามือด้วยซ้ำ เหตุใดจึงไม่ปลดนางออกจากตำแหน่งฮองเฮาไปเสียเล่า!!! น่าเจ็บใจนัก

คิด ๆ ดูแล้ว นางก็สะใจไม่น้อย สวีเหลียนฮวาน่าจะหายสาบสูญไปพร้อมกับน้องสาวฝาแฝดของนางเสีย!!! 

สวีเหลียนฮวายิ้มให้จิ้งกุ้ยเฟยเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่รีบไม่ร้อน 

"ขอบใจเจ้ามาก แต่ข้ามิชอบสนทนากับผู้ใดมากนัก ขอตัวก่อน"

"เพคะฮองเฮา'

จิ้งกุ้ยเฟยกัดฟันกรอด หึ!!! อวดดีหยิ่งยโสไปเถิด อีกไม่นานเจ้าคงได้หลุดออกจากตำแหน่งฮองเฮาเป็นแน่ 

"ฝ่าบาทเสด็จ!!!"

เสียงแหลมเล็กของขันทีดังขึ้น เหล่านางสนมและข้ารับใช้ทั้งหลาย ต่างย่อกายทำความเคารพอวิ๋นซีเฉินอย่างนอบน้อม เขาปรายตามองดูสวีเหลียนฮวาคราหนึ่ง เมื่อเห็นว่านางไม่ใส่ใจเขาแม้แต่น้อยจึงรู้สึกหงุดหงิดในใจ 

เสแสร้งไปเถิด!!! ข้ารู้ในใจเจ้าอยากได้ข้าจนตัวสั่น!!!

อวิ๋นซีเฉินมองขึ้นไปบนแท่นพิธีด้วยสายตาพึงพอใจ พิธีขอพรเทพสวรรค์ให้เมืองต้าเทียนอยู่ร่มเย็นเป็นสุข พิธีนี้สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคนแล้ว ฮ่องเต้ที่ขึ้นครองบัลลังก์ต่อจะต้องทำพิธีนี้ทุก ๆ ปี ถือเป็นธรรมเนียมที่ต้องปฏิบัติ อวิ๋นซีเฉินเดินเข้ามาหาสวีเหลียนฮวาก่อนจะยื่นมือมาตรงหน้านาง สวีเหลียนฮวาขมวดคิ้วมุ่น แต่เมื่อเงยหน้าขึ้นไปมองเขา กลับพบว่าอวิ๋นซีเฉินกำลังถลึงตามองนางราวกับจะฆ่านางให้ตายคามือ 

"ยื่นมือมาทำไมหรือเพคะ?"

"ทูลฮองเฮา พิธีขอพรจากเทพสวรรค์ ฮ่องเต้และฮองเฮาต้องทรงขอพรร่วมกันพ่ะย่ะค่ะ นี่เป็นธรรมเนียมที่ถือปฏิบัติกันมาช้านานพ่ะย่ะค่ะ"

ราชเลขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่นอบน้อม สวีเหลียนฮวาพยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะชั่งใจคิด 

"ไม่จับมือได้หรือไม่?"

"จะจับมือข้าดีดี หรือให้ข้าถีบเจ้าออกไปก็เลือกเอา!"

"จับมือก็ได้เพคะ!!!"

สวีเหลียนฮวาส่งสายตาไม่พอใจให้เขาคราหนึ่ง ก่อนจะยื่นมือของนางไปจับมือของเขาเอาไว้ ป่าเถื่อนที่สุด!!! เขากล้าถามเรื่องถีบนางต่อหน้าทุกคน ไม่ไว้หน้านางบ้างเลย!!!

"เสร็จสิ้นพิธีแล้ว ข้าจะล้างมือให้สะอาด มิให้ความชั่วร้ายจากเจ้ามาติดกายข้าเป็นอันขาด!!!"

"โธ่! หม่อมฉันก็บอกแล้วนี่เพคะ ว่าไม่ต้องจับมือ แต่พระองค์ก็ทรงดึงดันเองนี่เพคะ หม่อมฉันต่างหากเล่าเพคะที่ต้องล้างมือให้สะอาด!!!"

"หุบปาก!!! อย่าให้ข้าโมโหไปมากกว่านี้!!!"

"หึ" 

อวิ๋นซีเฉินพาสวีเหลียนฮวามายืนตรงกลางแท่นพิธี ก่อนจะเริ่มทำการกราบไหว้ขอพรเหล่าเทพทุกองค์บนสวรรค์ เพื่อช่วยคุ้มครองเมืองหลวงต้าเทียนให้สงบสุข 

ผ่านไปไม่นานพิธีขอพรก็เสร็จสิ้น สวีเหลียนฮวากำลังจะก้าวเดินกลับไปยืนที่เดิม แต่ทว่าอวิ๋นซีเฉินกลับเอ่ยปากรั้งนางเอาไว้ก่อน 

"อย่าเพิ่งไป"

"พิธีเสร็จสิ้นแล้วมิใช่หรือเพคะ?"

"ยัง อย่าถามมาก!!! หุบปากเสีย!!!"

สวีเหลียนฮวาถอนหายใจออกมาด้วยความเบื่อหน่าย นางหันไปมองเขาเพียงเล็กน้อย อวิ๋นซีเฉินยื่นมือออกไปที่ด้านหน้า ก่อนจะแหงนหน้ามองขึ้นไปบนท้องฟ้า ดวงตาของเขาดูจริงจังกว่าเมื่อครู่เป็นอย่างมาก จนสวีเหลียนฮวาเองไม่กล้าเอ่ยปากรบกวนจิตใจของเขาอีก 

"เทพสวรรค์ได้โปรดเมตตาเถิด จงช่วยคุ้มครองข้า ให้ข้าแข็งแรงและอายุยืนยาว ขอให้ข้าครองบัลลังก์ต้าเทียนอย่างสงบสุขร่มเย็น และได้โปรดเมตตา ให้ข้ารูปงามราวเทพสวรรค์เหนือบุรุษในใต้หล้า หล่อเหลามิเสื่อมคลายไปชั่วนิรันดร์ ท่านเทพสวรรค์โปรดเมตตาด้วย"

สวีเหลียนฮวาส่งเสียงเฮอะในลำคอ นางรู้สึกขบขันเขาอยู่ในใจ เกิดมานางเพิ่งเคยได้ยินการขอพรบ้าบอเช่นนี้!!!

ขอพรให้หล่อเหลารูปงามไม่เสื่อมคลายอย่างนั้นหรือ?

ปัญญาอ่อนสิ้นดี!!!

อวิ๋นซีเฉินปรายตามองสวีเหลียนฮวาคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ดูแคลนนางอย่างไม่ปิดบัง 

"มิต้องมายิ้มเช่นนี้ ข้าไม่มีวันรักคนอย่างเจ้า!!!"

สวีเหลียนฮวาส่งยิ้มตาหยีให้เขาคราหนึ่ง ก่อนจะครุ่นคิดในใจ

หม่อมฉันก็ไม่มีวันรักคนโรคประสาทเช่นกันเพคะ!!!

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ชะตารักสองบุปผา   ตอนพิเศษ บทสรุปของชะตารักสองบุปผา

    สวีเหลียนฮวากลับมาถึงต้าเทียนได้หลายวันแล้ว ยามนี้ท่านแม่ทัพใหญ่สวีที่รู้สึกผิดต่อบุตรสาวก็พยายามมาขอพบนางที่ตำหนักเฟิ่งหวง แต่สวีเหลียนฮวากลับไม่ยอมให้เขาเข้าพบเลยสักครั้งนางมิใช่สวีเหลียนฮวาคนเก่า และนางรู้ดีว่านี่คือความตั้งใจของสวีเหลียนฮวาที่ตายไปแล้ว บิดาผู้นี้ไม่เคยเห็นนางเป็นบุตรสาว เพราะนางอ่อนแอ และสู้สวีหลานฮวาไม่ได้ อีกทั้งตอนที่นางหนีไปจากต้าเทียน หลิงเจียวได้เล่าให้นางฟังว่า แม่ทัพใหญ่สวีโกรธนางมาก ถึงกับมาทูลต่อไท่ซังหวงว่านางคือความอับอายของตระกูลสวี ไท่ซังหวงที่ได้ยินเช่นนั้นจึงต่อว่าแม่ทัพใหญ่สวีไปเสียยกใหญ่ อีกทั้งยังบอกอีกด้วยว่า หากไม่เห็นนางเป็นบุตรสาว ก็ไม่เป็นไร พระองค์พึงใจสะใภ้ผู้นี้ ใครก็อย่าได้คิดมาต่อว่านางเป็นอันขาดเช่นนั้นนางเองก็จะไม่ขอพบเจอกับบิดาเช่นนี้อีก แม้จะไม่ได้เกลียด แต่การไม่พบกันย่อมจะเป็นเรื่องที่ดีเสียมากกว่าด้านจิ้งกุ้ยเฟยก็ได้ออกจากวังหลวงไปแต่งกับบัณฑิตตระกูลโจว ชีวิตของนางดูจะมีความสุขเป็นอย่างมาก มีหลายคราที่นางแวะเวียนมาเยี่ยมเยือนสวีเหลียนฮวาถึงในวังหลวงอยู่หลายครั้ง อีกทั้งยังบอกอีกด้วยว่าสามียอดรักของนางนั้น 'ยาว' ถูกใจนางเพียงใ

  • ชะตารักสองบุปผา   บทที่ 26 ข้ายอมแล้ว

    ท้ายที่สุดสวีเหลียนฮวาก็ต้องปิดร้านบะหมี่ไปก่อน นางนั่งมองอวิ๋นซีเฉินที่เดินไปเก็บร้าน ก่อนจะเดินตรงเข้ามาหานาง พร้อมกับจ้องมองนางด้วยแววตาที่ล้ำลึก สวีเหลียนฮวาที่เห็นเช่นนั้น จึงถลึงตามองเขาทันที "มองข้าทำไม?""เหลียนฮวา เจ้ายอมคืนดีกับข้าเถิดนะ""ไม่!!! เจ้ามันคนนิสัยไม่ดี ชอบข่มเหงจิตใจข้า!""ข้าจะไม่ทำอีกแล้ว ข้ายอมเจ้าแล้ว เอาเถิด ข้าจะรอจนกว่าเจ้าจะยอมใจอ่อนนะ""ไม่..."ยังไม่ทันที่สวีเหลียนฮวาจะเอ่ยสิ่งใดต่อ ดวงตาคู่สวยของนางก็เหลือบลงไปที่หว่างขาของอวิ๋นซีเฉิน คงเพราะเขาไม่ทันระวังตอนที่กระทืบชายผู้นั้น ทำให้เป้ากางเกงของเขาขาดออกเป็นวงกว้าง เผยให้เห็นลำแท่งเอ็นร้อนขนาดใหญ่ที่โผล่ออกมาท้าทายสายตาของนาง สวีเหลียนฮวาลอบกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ คล้าย ๆ กับว่ามันจะใหญ่ขึ้นใช่หรือไม่? นางไม่ได้กินมันมานานแล้วด้วย?ให้ตายเถอะ!!! นางคิดสิ่งใดอยู่กันแน่!!! "ข้าจะไปอาบน้ำแล้ว"สวีเหลียนฮวาเอ่ยเพียงเท่านั้น ก่อนจะเดินหนีเขาไปอาบน้ำทันที ยามค่ำคืนมาเยือน เพราะที่นี่คือแคว้นที่อยู่ในป่า จึงค่อนข้างเงียบสงบ มีเพียงเสียงจากสัตว์ป่าดังแว่วมาในบางคราเท่านั้น เหล่าชาวบ้านต่างเข้านอนกันหมดแ

  • ชะตารักสองบุปผา   บทที่ 25 ยอมนางแต่เพียงผู้เดียว

    ผู้นำแคว้นม่อเป่ยรีบวิ่งหนีไปทันทีอย่างไม่รีรอ อวิ๋นซีเฉินจึงหันไปมองเสิ่นเหยาและหานเยียนเล็กน้อย "เรียบร้อยดีหรือไม่?""อาเฉิน ทางนั้นเรียบร้อยดี เจ้าจะกลับต้าเทียนเมื่อใด?""ยังไม่มีกำหนด เจ้ากลับไปกราบทูลเสด็จพ่อเสียก่อน ว่าข้าจะพาเหลียนฮวากลับไปด้วย""นางยังมิยอมกลับหรือ?""ยัง แต่อีกไม่นานหรอก""ตกลง ข้าจะกลับไปรายงานไท่ซังหวงที่ต้าเทียนเสียก่อน แล้วจะกลับมาหาเจ้าอีกครา ส่วนศพของอวิ๋นเสวี่ยเฟยข้าโยนทิ้งเป็นอาหารสัตว์ป่าไปแล้ว""อืม ดีมาก! นำศีรษะมันไปเสียบประจานที่หน้าประตูเมืองต้าเทียนด้วย ส่วนเจ้าเสิ่นเหยา ข้าขอบใจเจ้ามาก""กระหม่อมมิกล้ารับพ่ะย่ะค่ะ เป็นเพราะความเมตตาของฝ่าบาท กระหม่อมจึงสามารถล้างแค้นให้ตระกูลเสิ่นได้"เมื่อเอ่ยวาจากันจนเข้าใจแล้ว เสิ่นเหยาและหานเยียนจึงขอตัวลากลับทันที อวิ๋นซีเฉินมุ่งหน้ากลับมาที่บ้านของสวีเหลียนฮวา ก่อนจะเอ่ยเรียกนาง "เหลียนฮวา""มีอะไร?""ข้านำอาหารมาเผื่อเจ้าด้วย เจ้าออกมากินเสียหน่อยเถิด""ไม่ ข้าจะนอนแล้ว"สวีเหลียนฮวาเอ่ยปฏิเสธเพียงเท่านั้น ก่อนจะดับแสงเทียนในห้องลงทันที อวิ๋นซีเฉินก้มหน้างุดด้วยความเหนื่อยล้า เขาเอนกายพิงที่เสาไม้ตร

  • ชะตารักสองบุปผา   บทที่ 24 ตามง้อภรรยา

    สวีเหลียนฮวาที่เห็นว่าหมดหน้าที่ของตนเองแล้ว จึงหันหลังเพื่อจะกลับไปที่แคว้นม่อเป่ยทันที "อาเฉิน""พวกเจ้าจัดการเก็บกวาดแคว้นฉินให้เรียบร้อย สังหารให้หมดสิ้น ส่วนชาวบ้านบริสุทธิ์ก็อย่าเข่นฆ่าให้พวกเขาหวาดกลัว""เจ้าจะไปที่ใด?""อาเยียน ข้าจะไปตามหัวใจของข้ากลับคืน"อวิ๋นซีเฉินเอ่ยเพียงเท่านั้น ก่อนจะมุ่งหน้าติดตามสวีเหลียนฮวาไปทันที สวีเหลียนฮวาที่เห็นว่าเขาติดตามนางมาด้วยก็รีบเร่งฝีเท้าให้เร็วมากกว่าเดิม นางไม่อยากเจอหน้าเขาอีก แต่ทว่าอีกใจหนึ่งนางก็แอบดีใจที่เห็นว่าเขาปลอดภัยดี "เหลียนฮวา""ตามมาทำไมเพคะ?""เหลียนฮวา อยู่ที่นี่ข้ามิใช่ฝ่าบาท แต่ข้าเป็นอาเฉินของเจ้า""ของหม่อมฉันหรือ?""อย่าเอ่ยวาจาห่างเหินกับข้าเช่นนี้เลย""ไม่พอใจก็ไสหัวไปเสีย!!! ข้าขอให้เจ้ามาตามข้าหรืออย่างไรกัน!!!"สวีเหลียนฮวาเอ่ยเพียงเท่านั้นก่อนจะสะบัดหน้าหนีเขาและเดินจากไปทันที อวิ๋นซีเฉินเองก็ไม่ยอมลดละ เขายังคงตามนางจนเข้าสู่แคว้นม่อเป่ย นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้มองดูแคว้นม่อเป่ยอย่างชัดเจน ที่นี่มีทั้งอากาศที่บริสุทธิ์ และอบอวลไปด้วยกลิ่นอายของธรรมชาติที่จรรโลงใจ เดินตามนางมาได้ครู่หนึ่ง ก่อนจะพบกับบ้

  • ชะตารักสองบุปผา   บทที่ 23 มุ่งหน้าสู่แคว้นฉิน

    อวิ๋นซีเฉินส่งคนออกไปตามหาสวีเหลียนฮวาอย่างไม่ยอมลดละ แต่ก็ไร้ซึ่งวี่แววของนาง เขานึกโกรธเกลียดตนเองในใจเป็นอย่างยิ่ง ที่คืนนั้นเขาคลาดสายตาจากนางและยังพูดจากระทบกระเทือนจิตใจของนางอีก ยามนี้เขาเข้าใจแล้ว ว่าหากไม่มีนางคอยอยู่ข้างกาย เขาเองก็ไม่อยากจะมีชีวิตอยู่อีกต่อไป เรื่องของหัวใจก็ช่างหนักหนาสาหัส เรื่องของฉินอ๋องก็ประเดประดังเข้ามาอย่างรวดเร็ว อวิ๋นเสวี่ยเฟยส่งคนมาสอดแนมที่ต้าเทียน และให้ลอบสังหารเสิ่นเหยาเสีย เสิ่นเหยาคือผู้ที่จะปล่อยเอาไว้ไม่ได้ เนื่องจากมันล่วงรู้ความเป็นไปของแคว้นฉินเป็นอย่างดี อวิ๋นเสวี่ยเฟยรู้ว่าสวีเหลียนฮวาได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย เขายกยิ้มเจ้าเล่ห์ที่มุมปาก เช่นนี้ก็ดีแล้ว เขาจะได้สังหารอวิ๋นซีเฉินให้ตกตายไปเสีย และตามล่าหาตัวนางมาเป็นนางบำเรอของเขา เขาชื่นชอบนางเป็นอย่างมาก นางทั้งงดงามและเก่งกาจกว่าสตรีใดในใต้หล้า หากเขาได้นางมาครอบครอง ย่อมต้องเป็นเรื่องดีแต่ทว่าหน่วยสอดแนมของอวิ๋นเสวี่ยเฟยก็ถูกอวิ๋นซีเฉินจับได้ในเวลาต่อมา และถูกเขาสังหารทิ้งทันที พร้อมกับส่งหัวของหน่วยสอดแนมผู้นั้นกลับไปให้อวิ๋นเสวี่ยเฟยที่แคว้นฉิน อวิ๋นเสวี่ยเฟยโกรธแค้นเป็นอย

  • ชะตารักสองบุปผา   บทที่ 22 หนี

    ด้านเสิ่นเหยานั้น เขาต่อสู้กับฉินอ๋องอย่างเอาเป็นเอาตาย ด้วยเพราะเขาเก่งทั้งด้านบุ๋นและด้านบู๊ จึงสามารถรอดตายมาได้อย่างเหลือเชื่อ เขาพาร่างที่โชกเลือดโซซัดโซเซมาถึงต้าเทียนอย่างยากลำบาก เดิมทีเหล่าทหารที่เฝ้าเวรยามหน้าประตูไม่ยอมให้เขาเข้าไปในต้าเทียนได้ แต่ทว่าอวิ๋นซีเฉินและหานเยียนกลับมาถึงต้าเทียนพอดี จึงได้พบกับเสิ่นเหยา ก่อนจะพาเขาเข้ามารักษาตัวในวังหลวง สวีหลานฮวาที่ได้รู้ข่าวว่าเสิ่นเหยายังไม่ตาย นางจึงรีบวิ่งเข้ามาหาเขาที่ตำหนักมังกรสวรรค์ทันที ภาพที่นางเห็นคือเสิ่นเหยาบาดเจ็บสาหัส ร่างกายของเขาโชกไปด้วยเชือด สวีหลานฮวาทนไม่ไหวจนต้องปล่อยโฮออกมา "เสิ่นเหยา ท่านห้ามตายนะ ฮึก อย่าตายนะ""หลานฮวา""ข้าตั้งครรภ์ลูกของท่าน ข้าตั้งครรภ์แล้วเสิ่นเหยา"เสิ่นเหยาที่ได้ยินเช่นนั้นก็ดีใจเป็นอย่างยิ่ง เขาพยายามเอื้อมมือไปจับใบหน้าของนางด้วยความยากลำบาก "หลาน ฮวา""ฮือออ ท่านต้องอยู่กับข้านะ!!!"อวิ๋นซีเฉินสั่งให้ตามหมอหลวงมารักษาเขาอย่างเร่งด่วน เสิ่นเหยาเจ็บหนักปางตาย แต่ยังดิ้นรนมาถึงต้าเทียนเพื่อพบกับคนรักของเขา อวิ๋นซีเฉินที่ได้เห็นเช่นนั้นก็อดชื่นชมไม่ได้ "เจ้าก็อยู่เฝ้าสามีเจ้

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status