Share

บทที่ 7 ขอแต่งงาน

last update Last Updated: 2025-05-29 22:53:02

เมื่อฮุ่ยหมิงเห็นดังนั้นก็ลอบแย้มรอยยิ้มออกมา นางแกล้งพูดชื่อของหวงเฟยเทียนเพื่อให้ยัยป้าแม่เลี้ยงตกใจและร้อนรนขัดขวางนาง ฮุ่ยหมิงรู้ดีอยู่แล้วว่าถึงอย่างไรยัยป้าแม่เลี้ยงต้องหาทางขัดขวางนางแน่ แต่จะขัดขวางได้นานหรือไม่ต้องดูอีกที นางต้องใส่ไฟเพิ่มให้ดี ยิ่งไฟโทสะของพวกเขาโหมแรงเท่าไหร่ ทางรอดของนางก็มากขึ้นเท่านั้น

นางต้องถ่วงเวลาเพื่อรอให้หวงเฟยหลงมาถึง ตอนนี้ ฮุ่ยหมิงได้แกล้งเอ่ยชื่อหวงเฟยเทียนออกไปแล้ว ตามบทหวงเฟยหลงต้องมาถึงแล้วไม่ใช่หรือ ทำไมตอนนี้เขายังไม่โผล่หน้ามาอีก นางต้องถ่วงเวลาอีกนานแค่ไหน

“เหตุใดเจ้าจึงกล่าวเช่นนั้น” ฮ่องเต้ทรงตรัสถามจางฮูหยิน ออกไป ดูจากท่าทางร้อนรนของนางแล้ว ลูกชายคนรองอย่างหวงเฟยเทียนคงมีความสัมพันธ์สนิทสนมกับจางลี่เซียนลูกสาวของนางไม่น้อย

“เอ่อ ทูลฝ่าบาทเพคะ จางฮุ่ยหมิงลูกสาวของหม่อมฉันวาสนานางไม่ดีนัก ชื่อเสียงของนางอื้อฉาวไม่น้อย แต่งเข้าไปคงทำให้องค์รัชทายาทลำบาก หากประชาชนไม่ยอมรับนางแล้วขับไล่ ลูกสาวของหม่อมฉันไม่แย่หรือเพคะ คนเป็นแม่อย่างหม่อมฉันจะทนได้เช่นไรหม่อมฉันเป็นห่วงนางมากไม่อยากให้นางเผชิญชีวิตเลวร้ายเช่นนั้น” เมื่อได้สติจางฮูหยินที่ลืมตัวไปชั่วขณะก็รีบหาเหตุผลมาโต้แย้ง

ฮุ่ยหมิงกรอกตามองบนไปหลายทีแต่ไม่ได้พูดสิ่งใดออกมา โอ้โหบทบาทแม่เลี้ยงแสนดี ยัยป้าแม่เลี้ยงของนางช่างหน้าหนาหน้าทนจริงๆ พูดออกมาได้ไม่อายปาก

“ลูกเองก็ไม่อยากแต่งงานกับนาง หากนางแต่งเข้ามาแล้วต้องลำบากเช่นจางฮูหยินว่า ลูกมิกลายเป็นสามีเห็นแก่ตัวทำร้ายชีวิตนางหรือสเด็จพ่อ” หวงเฟยเทียนรีบพูดเสริม ถึงนางจะงดงามเย้ายวนปานใดแต่เมื่อเทียบกับจิตใจแล้ว สำหรับเขานางช่างไร้ค่า

“ใช่แล้วลูกรัก หากเจ้าแต่งเข้าไปแล้วต้องทุกข์ยากลำบาก คนเป็นพ่อแม่อย่างพวกเราไหนเลยจะทนไหว” เสนาบดีจางช่วยพูดเสริมเมื่อภรรยาส่งสายตาให้เขาช่วยพูด

“พี่หญิงท่านอย่าได้คิดเอาชนะข้าเกินไป จนละเลยความสุขส่วนตัวของท่านเองเลยเจ้าค่ะ” จางลี่เซียนทำใจกล้าพูดกับฮุ่ยหมิงด้วยน้ำเสียงสั่นเทาพร้อมกันนั้นร่างบางของนางก็สั่นเทาน้อยๆ ตามไปด้วย

โอ้โห พวกเจ้าช่างเสแสร้งหวังดีกันเก่งเหลือเกิน โดยเฉพาะจางลี่เซียนน้องสาวตัวดี พูดอย่างกับว่าข้าอยากเอาชนะเจ้า

อยากแย่งคนรักของเจ้าเสียเหลือเกิน มีอะไรดีอยากให้ข้าแย่ง ก่อนเถอะ พูดแบบนี้ยังได้ประกาศความสัมพันธ์ของตัวเองกับหวงเฟยเทียนแบบเนียนๆ ด้วย เจ้าเล่ห์เชียวนะหากเจ้ากลัวข้าอย่างปากว่าจริง คงไม่กล้าเป็นเมียน้อยพี่สาวตัวเองหรอก กลัวปลอมๆ หน่ะสิเห็นแล้วหงุดหงิด ฮุ่ยหมิงได้แต่แยกเขี้ยวใส่จางลี่เซียนในใจ

“เช่นนั้นเจ้าลองคิดให้ดีหรือไม่ หากแต่งเข้าไปต้องเจอกับเรื่องเลวร้ายเหล่านั้นเจ้าจะทนไหวหรือ” ฮ่องเต้หวงป๋อหลินถามนางขึ้นอีกครั้ง

“ทูลฝ่าบาทเพคะ ที่ท่านพ่อท่านแม่และลี่เซียนพูดมาก็ไม่ผิดนัก องค์รัชทายาทไม่อยากแต่งงานกับหม่อมฉันเห็นทีคงจะฝืนใจใครไม่ได้ แต่หม่อมฉันยังทราบมาว่าพระองค์มีองค์ชายใหญ่หวงเฟยหลงอีกคน เหตุใดเขาจึงไม่ได้มาดูตัวเพคะ” ฮุ่ยหมิงอดทนรอต่อไปไม่ไหวจึงทำใจกล้าเอ่ยปากสอบถามไป นางไม่อยากเลือกแต่งกับใครนอกจากหวงเฟยหลง ตอนนี้แม้แต่เงาของเขานางยังไม่เห็นด้วยซ้ำเขาไม่ได้เข้าร่วมการดูตัว ฮ่องเต้เองก็ไม่ได้ตรัสถึงเขาแม้เพียง ครึ่งคำ นางถ่วงเวลามานานขนาดนี้แล้วแถมยังเล่นไปตามบทบาทในนิยาย เวลานี้เขาต้องมาถึงแล้วทำไมยังไม่มีวี่แววของเขาอีก

“องค์ชายใหญ่หวงเฟยหลงไปปราบโจรกฎบที่เขาเหลียงซานยังไม่กลับมา ข้าไม่อยากบังคับเขาจึงไม่ได้ให้เข้าร่วมการดูตัวครั้งนี้” ฮ่องเต้หวงป๋อหลินตรัสออกมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

ฮุ่ยหมิงรู้สึกเหมือนตัวเองถูกฟ้าผ่าลงมาที่หัวมึนงงไปหมด ทำไมถึงไม่เป็นแบบในเนื้อเรื่องหล่ะ นางทำอะไรผิดพลาดไปอย่างนั้นหรือ ฮุ่ยหมิงได้แต่คิดทบทวน นางแค่เปลี่ยนแปลงเนื้อเรื่องบางส่วน ทำไมถึงได้มีผลกระทบรวดเร็วเช่นนี้ แย่แล้วตอนนี้นางแย่แล้วจริงๆ จะทำอย่างไรต่อไปดี ยังมีทางเลือกอะไรให้เลือกได้อีกบ้างต้องรีบคิดหาทางออกแล้ว

“ฝ่าบาทเพคะ ขออภัยที่หม่อมฉันต้องทูลให้ทราบว่าหม่อมฉันให้สัญญากับองค์ชายใหญ่ไว้แล้วว่าจะแต่งให้เขา ในเมื่อเขาไม่อยู่ในตัวเลือกหม่อมฉันเลือกไม่แต่งกับใครได้หรือไม่ หากไม่ใช่หวงเฟยหลงหม่อมฉันไม่อยากแต่งงานกับผู้ใดทั้งนั้นเพคะ” ฮุ่ยหมิงกลั้นใจพูดออกไปแม้จะรู้ว่าสิ่งที่ตัวเองพูดเสี่ยงตายเพียงใด นางไม่ยอมไปทนทุกข์ในวังหลวงแน่นอน ไม่รู้ว่าฮ่องเต้จะทรงรับฟังนางบ้างหรือไม่

“บังอาจนัก เจ้าให้สัญญากับเขาเมื่อใดกัน เจิ้นถึงขนาดพาองค์ชายมาให้เจ้าเลือกแต่เจ้ากลับไม่เลือก เจ้ารู้หรือไม่ว่าการขัดราชโองการมีโทษประหารชีวิตทั้งตระกูล” ฮ่องเต้หวงป๋อหลินพูดด้วยน้ำเสียงเดือดดาล หากนางไม่เลือกแต่งกับองค์ชายคนใดที่เขาพามา เขาคงโดนถอนหงอกจากเหล่าขุนนางเพราะดึงดันจะทำตามสัญญาทั้งที่นางไม่มีคุณสมบัติเหมาะสมแน่นอน เขาไม่เชื่อว่าหวงเฟยหลงให้สัญญาแต่งงานกับนาง เนื่องจากข่าวที่ได้ยินมาตลอดคือฮุ่ยหมิงมีใจให้กับหวงเฟยเทียน หากนางอยากประชดหวงเฟยเทียนโดยการแต่งงานกับหวงเฟยหลงเขาไม่มีวันยอมให้เป็นอย่างนั้นแน่ ที่สำคัญเมื่อสามวันก่อนเขาได้ออกราชโองการให้เฟยหลงไปแล้ว กษัตริย์ตรัสแล้วไม่คืนคำ เขาไม่สามารถบังคับหวงเฟยหลงให้แต่งกับฮุ่ยหมิงได้

เมื่อได้ยินว่าฮุ่ยหมิงจะแต่งงานกับองค์ชายใหญ่อย่างหวงเฟยหลงเสนาบดีจางและจางฮูหยินก็รู้สึกโล่งใจ แต่ก็ต้องตกใจสุดขีดอีกครั้งเมื่อฮ่องเต้พูดถึงโทษประหาร ลูกสาวตัวร้ายของเขาวางแผนจะฆ่าทิ้งทั้งครอบครัวหรืออย่างไร เขารีบลนลานเข้ากราบทูลฮ่องเต้ทันที

“ฝ่าบาทโปรดเย็นพระทัยก่อน กระหม่อมจะพูดกับนางให้ดีนางย่อมตกลงแน่นอนพะยะค่ะ” พูดเสร็จก็หันมาคุยกับฮุ่ยหมิง

“เหตุใดเจ้าจึงเลือกองค์ชายใหญ่ เขานั้นหรือให้สัญญาแต่งงานกับเจ้า โอกาสดีๆ แบบนี้จะหาที่ไหนได้อีก องค์ชายมีให้เลือกถมเถไปเจ้าก็เลือกมาสักคน อย่าชักช้าเสียเวลา” เสนาบดีจางพูดกับฮุ่ยหมิงเสียงดังพร้อมกับส่งสายตากดดันให้ ส่วนจางฮูหยิน ที่อยู่ใกล้ก็ส่งสายตาโกรธเคืองมาเช่นกัน

“พี่หญิงท่านอย่าได้ประชดพี่เฟยเทียนเลยเจ้าค่ะ หากท่านต้องการเลือกพี่เฟยเทียนท่านก็เลือกเถิด อย่าได้ทำร้ายตัวเองด้วยวิธีนี้เลยข้าสามารถยอมรับได้เจ้าค่ะ” จางลี่เซียนหันมาพูดกับ ฮุ่ยหมิงด้วยน้ำเสียงปนสงสารระคนเห็นใจ

ฮุ่ยหมิงอยากจะกรีดร้องออกมากับคำพูดของจางลี่เซียน คนเหล่านี้เพี้ยนไปแล้วหรืออย่างไรที่คิดว่านางประชดรักหวงเฟยเทียนโดยการแต่งงานกับหวงเฟยหลง นี่มันตรรกะป่วยจิตอะไรกัน คนพวกนี้ต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ จริงอยู่ที่เมื่อก่อนฮุ่ยหมิงคนเดิมหลงรักหวงเฟยเทียนจนโงหัวไม่ขึ้น ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ครอบครองเขา แต่นางไม่ใช่ คนเราจะเปลี่ยนแปลงกันไม่ได้เลยหรือ นางจำเป็นต้องรักหวงเฟยเทียนไปตลอดชีวิตหรืออย่างไร

“เจ้าแต่งงานกับองค์รัชทายาทไม่ได้ เลยวางแผนแต่งงานกับองค์ชายใหญ่ที่มีฐานะใกล้เคียงกับองค์รัชทายาทเพื่อแก้แค้นอย่างนั้นหรือ เจ้าร้ายกาจเกินไปแล้ว เจ้ากับเขาพูดกันนับคำได้ใครจะเชื่อเรื่องที่เจ้ากุขึ้นมากัน หากองค์ชายใหญ่กลับมารู้ว่าเจ้าแอบอ้างมีสัญญาแต่งงานกับเขาเจ้าย่อมมีโทษ ถึงเจ้าไม่กลัวโทษประหารแต่พวกข้ากลัว” เสนาบดีจางพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเดือดดาล

“ก็ท่านพ่อกับท่านแม่ขัดขวางข้าไม่ให้แต่งงานกับองค์ รัชทายาทไม่ใช่หรือเจ้าคะ แล้วเหตุใดพอข้าบอกว่าจะแต่งงานกับองค์ชายใหญ่พวกท่านจึงไม่ช่วยข้า” ฮุ่ยหมิงรีบตอบโต้อย่างรวดเร็ว เมื่อกี้ยังขัดขวางนางอยู่เลย พอนางบอกจะแต่งกับคนอื่นดีใจ

เหตุใดตอนนี้ถึงพากันกลัวจนหัวหดเสียหล่ะ ตัวนางเองตอนนี้ก็เริ่มหวาดกลัวเช่นกัน ยุคสมัยนี้แม้แต่ความตายของตนเองยังถูกผู้อื่นพรากไปโดยง่าย นางยังไม่ได้ทำความผิดด้วยซ้ำกลับต้องโทษประหารเสียแล้ว

“อย่างนั้นข้าให้เจ้าพูดอีกครั้ง ในบรรดาองค์ชายทั้งสาม เจ้าจะแต่งกับผู้ใด หากครั้งนี้เจ้ายังเล่นลิ้นโต้เถียงไปมาข้าจะลงโทษประหารทั้งหมด” ฮ่องเต้หวงป๋อหลินให้โอกาสนางเลือกครั้งสุดท้าย วันนี้เขาเสียเวลามามากพอแล้ว เขาต้องการจบเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด

“หม่อมฉัน เอ่อ หม่อมฉัน” ฮุ่ยหมิงพูดติดอ่างตะกุกตะกัก ถึงนางจะเข้มแข็งเพียงใดสุดท้ายก็เป็นเพียงหญิงสาวคนหนึ่ง เมื่อถึงเวลาจวนตัวน้ำตาเม็ดใหญ่ก็ไหลลงมาอย่างห้ามไม่อยู่ ฮุ่ยหมิงทั้งหวาดกลัวและเสียใจ นางรู้สึกว่าไม่ยุติธรรมกับนางเอาเสียเลย หวงเฟยเทียนไม่ได้มีใจให้กับนาง ส่วนหวงเฟยหลงที่นางหวังพึ่งพาก็หายเงียบไม่รู้เป็นตายเช่นไร นี่มันชีวิตของนางความสุขของนาง ทำไมนางถึงไม่มีสิทธิ์เลือกหรือปฏิเสธด้วยตนเอง

ยิ่งคิดน้ำตายิ่งไหลหวงเฟยหลงจะกลับมาหรือไม่ ในนิยายก็เขียนเอาไว้แล้วว่าเขากลับมาไม่ใช่หรือ นางบอกว่าจะแต่งงานกับเขาก็ไม่มีใครเชื่อ หวงเฟยหลงท่านอยู่ที่ใดช่วยกลับมาบอกพวกเขาที ข้ารอมานานขนาดนี้ทำไมถึงไม่มีวี่แววของท่านเลย

ฮุ่ยหมิงแสยะยิ้มให้ตนเองหนึ่งที นี่นางกำลังรออะไรอยู่อย่างนั้นหรือ ตอนนี้นางมืดแปดด้านยิ่งคิดน้ำตาก็ยิ่งไหล ไม่สามารถเอื้อนเอ่ยคำใดออกมาได้ มีแต่คำถามในใจว่าทำไมถึงเป็นเช่นนี้

“ถวายบังคมพะยะค่ะฝ่าบาท องค์ชายใหญ่หวงเฟยหลง ขออนุญาตเข้าเฝ้าพะยะค่ะ” กงกงชราเข้ามารายงานฮ่องเต้ให้ทราบ

ฮุ่ยหมิงที่ก้มหน้าร้องไห้เหมือนหัวใจถูกบีบคั้น เมื่อได้ยินชื่อหวงเฟยหลงน้ำตานางก็เหือดแห้งไปทันที ตอนนี้พูดได้เพียงว่านางดีใจจนบอกไม่ถูก เหมือนชีวิตที่เคยเหี่ยวแห้งถูกอาบไปด้วยหยดน้ำแห่งความหวังอีกครั้ง นางหัวเราะออกมาเสียงดังทั้งน้ำตาอย่างไม่อาย ผู้คนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างแตกตื่นกันยกใหญ่ ไม่ใช่ว่านางเสียใจจนเป็นบ้าไปแล้วหรือ

“เขากลับมาแล้วอย่างนั้นหรือมีเรื่องด่วนหรือไม่ ช่างเถอะ เจ้าไปพาเขาเข้ามา” ฮ่องเต้หวงป๋อหลินหันไปถามข้ารับใช้ แต่ไม่ทันใจจึงรับสั่งให้พาหวงเฟยหลงเข้าเฝ้าทันที พึ่งกลับมาก็รีบเร่งเข้าเฝ้าเช่นนี้ ลูกชายของเขาคงมีเรื่องด่วนเป็นแน่ อีกอย่างจะได้สอบถามให้ชัดเจนว่าเขามีสัญญาแต่งงานกับจางฮุ่ยหมิงหรือไม่

เมื่อเข้ามาถึงภายในจวนหวงเฟยหลงก็รีบตรงดิ่งมาหาร่างบางของฮุ่ยหมิงทันที เห็นแค่ด้านหลังของนางเขาก็จำนางได้เหตุใดนางจึงร้องไห้ถึงเพียงนี้ ใครทำอะไรนาง หวงเฟยหลงรู้สึกเจ็บปวดในใจไปหมด เรี่ยวแรงที่มีเหมือนค่อยๆ สลายหายไปยามเห็นหยาดน้ำตาของนางหลั่งริน เขาไม่ชอบเห็นฮุ่ยหมิงร้องไห้เสียใจอย่างนี้เลย

“หมิงเออร์ เจ้าเป็นอะไรไป ใครทำอะไรเจ้า” หวงเฟยหลงรีบพุ่งตัวไปพยุงฮุ่ยหมิงให้ลุกขึ้นทันที เขายกมือซับน้ำตาให้อย่างแผ่วเบา ใบหน้าของนางที่เลอะคราบน้ำตาเช่นนี้ช่างทำให้เขา ปวดใจนัก

“เฟยหลงเป็นท่าน ฮือ ท่านกลับมาแล้ว” ฮุ่ยหมิงปล่อยโฮออกมาพร้อมกับสวมกอดเขา นางหวาดกลัวเหลือเกินที่แห่งนี้ไม่เหมือนกับโลกที่นางจากมาทุกอย่างแตกต่างกันสิ้นเชิง นางเหมือนอยู่ตัวคนเดียวไร้ที่พึ่งพา มีเพียงเขาเป็นแสงสว่างในหนทางที่นางจะก้าวเดินต่อไป

“ขอบคุณที่ท่านกลับมา” ฮุ่ยหมิงกระซิบบอกและพยายามซุกหน้าเข้าไปในอ้อมกอดอันอบอุ่นของเขา นางอยากขอบคุณเขา อย่างน้อยในโลกใบนี้นางยังมีเขาเป็นที่พึ่งพา

“อะแฮ่ม” ฮ่องเต้พยายามกระแอมไอขัดจังหวะสอง หนุ่มสาวที่ยืนกอดกันประเจิดประเจ้อท่ามกลางสายตาผู้คน

ถึงอย่างนี้นทั้งสองคนก็หาได้สนใจใคร จนเขารู้สึกกระดากอายแทนเสียเองจึงรีบเอ่ยถามหวงเฟยหลงขึ้นมา

“เฟยหลง หวงเฟยหลง เจ้ากลับมาก็รีบขอเข้าเฝ้าข้าเลย มีธุระเร่งด่วนอันใดรึ” ต้องเรียกถึงสองครั้งสองคราลูกชายหน้าไม่อายถึงยอมหันหน้ากลับมาคุยกับเขา

“เอ่อ สเด็จพ่อขอประทานอภัยพะยะค่ะ ลูกเพียงเห็น หมิงเออร์ร้องไห้ จึงอยากปลอบใจนางให้สงบลงก่อน ที่ลูกขอเข้าเฝ้าก็เพื่อขอให้พระองค์พระราชทานสมรสให้แก่นางกับลูกพะยะค่ะ สเด็จพ่อโปรดกรุณาด้วย” หวงเฟยหลงค้อมหัวเคารพฮ่องเต้อย่างนอบน้อม

“หือ หมิงเออร์อย่างนั้นรึ เจ้ากับนางไปสนิทชิดเชื้อกันเพียงนี้ตั้งแต่เมื่อใดกัน” ฮ่องเต้หวงป๋อหลินเลิกคิ้วถามด้วยความสงสัย แต่ด้วยท่าทางที่ทั้งสองคนแสดงออกมาเห็นทีว่าเขาคงไม่ต้องพูดอะไรแล้วกระมัง

“สเด็จพ่อ เรื่องมันยาวไว้ลูกเล่าให้ฟังวันหลังได้หรือไม่” หวงเฟยหลงตอบกลับด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

“ได้ เจ้าแน่ใจแล้วหรือว่าจะแต่งกับนาง” ฮ่องเต้หวงป๋อหลินถามย้ำอีกครั้งเพื่อความมั่นใจ ไม่รู้ว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองคนเกิดขึ้นได้อย่างไร แต่เมื่อหวงเฟยหลงเอ่ยปากขนาดนี้แล้วเขาจะขัดขวางอะไรได้

“ลูกแน่ใจพะยะค่ะ ลูกให้สัญญากับนางไว้แล้วว่าจะกลับมาขอนางแต่งงาน สเด็จพ่อช่วยเป็นพยานให้ด้วยได้หรือไม่”

พูดจบหวงเฟยหลงก็หยิบแหวนหยกสองวงออกมาจากอกเสื้อทันที เขาคุกเข่าลงตรงหน้าฮุ่ยหมิงพร้อมกับจับมือเรียวยาวของนางมาสวมแหวนไว้ที่นิ้วนางข้างซ้าย หวงเฟยหลงเห็นวิธีนี้จากชนเผ่าในหมู่บ้านที่เขาไปปราบโจรกบฏแล้วชื่นชอบ รู้สึกว่าวิธีนี้แสดงออกถึงการขอคนรักเป็นคู่ชีวิตได้ดี จึงอยากนำมาใช้กับ ฮุ่ยหมิงบ้าง

“หมิงเออร์ เจ้ายินดีจะใช้ชีวิตร่วมกับพี่หรือไม่” หวงเฟยหลงถามนางด้วยสายตาเว้าวอนอย่างรอคำตอบ เขาอยากดูแลนาง ไม่อยากให้นางมีน้ำตาเช่นวันนี้อีก

“เจ้าค่ะ ข้าจะใช้ชีวิตร่วมกับท่านพี่เฟยหลง” ฮุ่ยหมิงน้ำตารื้นขึ้นมาอีกรอบ ได้แต่คิดในใจว่าใครกันจะกล้าปฏิเสธคนเช่นท่านหวงเฟยหลง หัวใจของนางเต้นระรัวรู้สึกอบอุ่นขึ้นมา ในโลกเดิมที่จากมานั้นนางอยู่ได้ด้วยตนเอง ยืนบนขาของตัวเอง ปัญหาทุกอย่างที่ผ่านเข้ามานางก็ต่อสู้ฝ่าฟันด้วยตนเองทั้งสิ้น แต่วันนี้กลับมีเขามาปกป้องรู้สึกว่าหัวใจสั่นไหวไม่น้อย เขาไม่ได้พูดคำหวานแต่คำพูดที่เขาถามนางว่าจะใช้ชีวิตกับเขาหรือไม่ช่างดูมั่นคง หนักแน่น จนนางรู้สึกตื้นตันไม่น้อย

“ขอบคุณเจ้ามาก” หวงเฟยหลงพูดด้วยน้ำเสียงดีใจเขาดึงมือฮุ่ยหมิงมาจูบเบาๆ ก่อนจะลุกขึ้นมาสบตากับนางเล็กน้อย เสร็จแล้วจึงหันไปคุยกับฮ่องเต้โดยที่เขาและนางยังจับมือกันอยู่

“สเด็จพ่อราชโองการที่ลูกขอ พระองค์ทรงทำให้เรียบร้อยแล้วใช่หรือไม่”

“เรียบร้อยตั้งแต่สามวันก่อนที่เจ้าส่งจดหมายมาหาข้าแล้ว เจ้ามีอันใดอีกหรือไม่” ฮ่องเต้หวงป๋อหลินสอบถามอย่างสงสัย ลูกชายคนโตของเขายืนยันจะไม่รับรางวัลใด ขอเพียงราชโองการที่เขาออกให้เท่านั้น

“ถ้าอย่างนั้นสเด็จพ่อประกาศพร้อมกันกับราชโองการประทานสมรสได้หรือไม่”

“ถ้าเจ้าต้องการเช่นนั้นย่อมได้ หากไม่มีอะไรแล้วข้าต้องขอตัวไปจัดการงานแล้ว วันนี้เสียเวลามาพอสมควรไปกันเถอะกงกง” ฮ่องเต้หวงป๋อหลินเดินออกไปพร้อมกับขบวนเสร็จและองค์ชายคนอื่น หากหวงเฟยหลงต้องการแต่งงานกับนางเขาก็ว่ากระไรไม่ได้ ตอนนี้ทำตามสัญญาที่ให้ไว้ได้ก็เพียงพอแล้ว

“พี่เฟยหลงท่านมาช้านะเจ้าคะ ท่านรู้หรือไม่ว่าข้าต้องเจอกับอะไรบ้าง” ฮุ่ยหมิงหันไปมองค้อนวงใหญ่ให้เขา นางต้องร้องไห้เพราะคิดว่าเขาไม่มาไปตั้งเท่าไหร่ยังมีหน้ามาทำหวานใส่นางอีก

“พี่ขอโทษเจ้าด้วยหมิงเออร์ พอดีระหว่างทางเจออุปสรรคนิดหน่อย เจ้าอย่างอนเลยนะ” หวงเฟยหลงพยายามออดอ้อนเอาใจฮุ่ยหมิงก่อนจะดึงนางมากอดไว้ เขาไม่ต้องการให้นางเกิดความกังวลใจ จึงไม่ได้บอกว่าอุปสรรคนิดหน่อยของเขามันมากมายเพียงใด ฮุ่ยหมิงที่เขินอายจนหน้าแดงในอ้อมกอดของเขาน่ารักเพียงนี้หัวใจของเขารู้สึกจั๊กจี้ไปหมด เรื่องไม่ดีอื่นใดเขาจะไม่ปล่อยให้เข้าใกล้นางเด็ดขาด หมิงเออร์ของเขาต้องได้รับการทะนุถนอมเป็นอย่างดี ตอนนี้เขามีความสุขเหลือเกินหวงเฟยหลงแอบยิ้มออกมาอย่างปลาบปลื้ม

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ชายาตัวร้ายขององค์ชายใหญ่ผู้คลั่งรัก   บทที่ 36 ขอบคุณ (ตอนจบ)

    เวลาสิบปีผ่านไปไวเหมือนโกหก ไม่น่าเชื่อว่าชีวิตของ ฮุ่ยหมิงจะก้าวมาถึงจุดนี้ได้ ตอนนี้นางมีสามีแสนที่ดีและครอบครัวที่อบอุ่น (จริงหรือ) อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน“หมิงเออร์เจ้าคิดสิ่งใดอยู่ พี่เห็นเจ้าเหม่อลอยนานแล้ว” หวงเฟยหลงพึ่งพาลูกชายทั้งสามคนกลับมาจากในเมืองเอ่ยถามขึ้น เขาเห็นนางนั่งใจลอยตั้งแต่อยู่หน้าบ้าน“ไม่มีอะไรหรอกเจ้าค่ะ แล้วลูกชายทั้งสามของท่านหล่ะ คงไม่ได้ไปก่อเรื่องให้ข้าปวดหัวอีกใช่หรือไม่” ฮุ่ยหมิงถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่ายหลังจากคลอดลูกชายคนแรกได้เพียงหนึ่งปีนางก็ตั้งครรภ์เจ้าก้อนแป้งคนที่สองและสามตามมา ท้องนี้เล่นเอานางเกือบแย่เหมือนกัน นางแพ้ท้องหนักมากและตอนคลอดก็ลำบากเช่นกันเพราะเป็นลูกชายฝาแฝด หลังจากท้องครั้งนั้นฮุ่ยหมิงก็เข็ดขยาดไม่ยอมมีเจ้าก้อนแป้งอีกเลย แม้ว่าคุณพ่อลูกสามอย่างหวงเฟยหลงจะอ้อนวอนขอลูกสาวจากนางทุกเมื่อเชื่อวันก็ตามที“หือ ลูกไม่ได้ก่อเรื่องอะไรนี่” หวงเฟยหลงตอบเสียงสูงออกมาอย่างมีพิรุธ“อย่าให้ข้ารู้แล้วกันว่าลูกของท่านไปก่อเรื่องอะไรมา” ฮุ่ยหมิงมองหน้าเขาอย่างคาดโทษ เหตุผลที่นางชอบพูดว่าลูก ของเขา ก็เพราะลูกชายทั้งสามคนที่นางอุ้มท้องและคลอ

  • ชายาตัวร้ายขององค์ชายใหญ่ผู้คลั่งรัก   บทที่ 35 ข้าโชคดีที่เลือกท่าน

    หลังจากหมอชราได้ตรวจสอบดูอาการของฮุ่ยหมิงอย่าง ถี่ถ้วนแล้ว เขาก็หันมาแสดงความยินดีกับว่าที่คุณพ่อคุณแม่มือใหม่อย่างรวดเร็ว“ยินดีด้วยนายท่าน ฮูหยินตั้งครรภ์ได้เกือบสองเดือนแล้ว” หมอชราเอ่ยบอกกับหวงเฟยหลงด้วยรอยยิ้มยินดี“จริงหรือท่านหมอ ขะ ข้าจะได้เป็นพ่อคนแล้วจริงหรือ” หวงเฟยหลงไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน เขารอคอยวันนี้มานานในที่สุดก็กลายเป็นจริง“จริงนายท่าน ข้าเอาหัวเป็นประกัน เดี๋ยวข้าจัดยาบำรุงครรภ์ไว้ให้ฮูหยินด้วยเลย” หมอชรายืนยันให้หวงเฟยหลงฟังอีกครั้ง ก่อนลงมือจัดเทียบยาจนเรียบร้อยเสร็จสรรพ“ท่านหมอ แล้วข้าต้องดูแลนางยังไงบ้าง” หวงเฟยหลงสอบถามเรื่องการดูแลฮุ่ยหมิงระหว่างตั้งครรภ์ออกมา เขากังวลว่าตนเองจะทำอะไรผิดพลาดจนกระทบไปถึงเจ้าก้อนแป้งในครรภ์ เขาต้องการให้ทุกอย่างดำเนินไปด้วยดี“ในช่วงสองถึงสามเดือนอาการเบื้องต้นของฮูหยินมีเพียงแพ้ท้อง เบื่ออาหาร อ่อนเพลียง่าย อารมณ์แปรปรวน ท่านต้องดูแลเอาใจใส่ให้ดี อย่าให้ฮูหยินเดินเหินมากเกินไปและหลีกเลี่ยงการ ยกของหนักเท่านี้ก็เพียงพอแล้ว” หมอชราอธิบายรายละเอียดให้ หวงเฟยหลงฟังอย่างครบถ้วน“ข้าจะดูแลนางให้ดี หากมีอันใดคงต้องรบกวนท่านอีก

  • ชายาตัวร้ายขององค์ชายใหญ่ผู้คลั่งรัก   บทที่ 34 เริ่มต้นใหม่

    ข่าวการตายของหวงเฟยหลงหรือที่รู้จักกันในนามฮ่องเต้ทรราชแพร่กระจายไปทั่วแผ่นดิน แม้จะได้ชื่อว่าเป็นฮ่องเต้ทรราชแต่ขณะที่เขาครองราชย์ประชาชนทั้งหลายกลับมิได้อดอยากอย่างเช่นที่ผ่านมา ชีวิตความเป็นอยู่ของพวกเขาดีขึ้นไม่น้อยเนื่องจากขุนนางทั้งหลายถูกส่งออกมายังหัวเมือง ปัญหาเรื้อรังที่มีอยู่จึงได้รับการแก้ไข การจากไปของหวงเฟยหลงได้รับความอาลัยจากราษฎรกว่าครึ่งแผ่นดินหลังจากสังหารพี่ชายหวงเฟยเทียนก็ได้ขึ้นครองราชย์เป็นฮ่องเต้ของแผ่นดิน ส่วนฮองเฮาคู่บัลลังก์ก็ยังคงเป็นเฉินอ้ายเหม่ย อย่างในอดีตที่ผ่านมา เหตุการณ์บ้านเมืองกลับมาสงบสุขอีกครั้ง วิถีชีวิตของผู้คนก็เป็นไปอย่างปกติวิสัย เช่นเดียวกันกับครอบครัวเล็กๆ ครอบครัวหนึ่งในหมู่บ้านเชิงเขาอันเงียบสงบ“ฮ่าๆๆๆ ท่านอย่าแกล้งข้า หยุดเดี๋ยวนี้ ฮ่าๆๆ” ฮุ่ยหมิงหัวเราะออกมาไม่หยุดเมื่อโดนสามีอย่างหวงเฟยหลงปลุกด้วยการจั๊กจี้“ก็เจ้าไม่ยอมตื่นเสียที สายจนตะวันโด่งขนาดนี้แล้ว เจ้าไม่สบายหรือเปล่า” หวงเฟยหลงหยุดมือที่กำลังจั๊กจี้บนเอวนางไว้ แล้วเลื่อนขึ้นมาแตะบนหน้าผากแทน“ข้าสบายดีเจ้าค่ะ มิได้ตัวร้อนหรือเจ็บปวดอันใดแค่อ่อนเพลียนิดหน่อย สงสัยใกล้เข้าหน

  • ชายาตัวร้ายขององค์ชายใหญ่ผู้คลั่งรัก   บทที่ 33 บัลลังก์ที่ไม่อยากได้

    การปกครองของหวงเฟยหลงดำเนินไปด้วยความไม่พอใจของขุนนางหลายฝ่าย และนับวันความไม่พอใจก็ยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น เนื่องจากหวงเฟยหลงไม่ยอมฟังผู้ใด เขาไม่ยอมพัฒนากองทัพ แต่เลือกส่งทหารประจำการเข้าไปในพื้นที่ประสบภัยทางธรรมชาติแทน หมอหลวงถูกส่งไปยังพื้นที่โรคระบาด ขุนนางทั้งหลายถูกไล่ให้ไปปฏิบัติหน้าที่นอกเมืองเพื่อดูแลช่วยเหลือราษฎรผู้ประสบภัยหนาว ภัยความแห้งแล้ง ขุนนางหลายคนต้องลำบากลำบนไปยังหัวเมืองห่างไกล พวกเขาจึงเกิดความไม่พอใจอย่างถึงที่สุด ไม่เคยมีฮ่องเต้องค์ใดกระทำการเช่นนี้มาก่อน มีเพียงหวงเฟยหลงเท่านั้นการต่อต้านในราชสำนักเกิดขึ้นอย่างลับๆ แต่ถึงแม้จะลับเพียงใดก็ยังไม่รอดพ้นสายตาของหวงเฟยหลง ทุกสิ่งทุกอย่างที่เคลื่อนไหวต่างตกอยู่ในสายตาของเขาทั้งหมด หวงเฟยหลงเลือกเงียบเอาไว้ ในยามนี้เขาไม่ต้องการตอบโต้อันใด เพียงรอคอยให้ถึงเวลาที่เหมาะสม เขาจะสะสางเรื่องทั้งหมดให้จบลงในคราเดียวเมื่อฮ่องเต้ผู้นั่งบัลลังก์คนปัจจุบันไม่เป็นที่พึงพอใจ ขุนนางทั้งหลายจึงคิดหาทางนำตัวฮ่องเต้องค์ก่อนอย่างหวงเฟยเทียนกลับมา พวกเขาวางแผนสืบเสาะหาและติดต่อกับหวงเฟยเทียนอย่างลับๆ การไปมาหาสู่กันในช่วงเวลายาก

  • ชายาตัวร้ายขององค์ชายใหญ่ผู้คลั่งรัก   บทที่ 32 ฮ่องเต้ทรราช

    หวงเฟยหลงขึ้นครองราชย์มาได้เกือบสองปีแล้วแต่ยังไร้วี่แววของฮองเฮาคู่บัลลังก์ เหล่าขุนนางทั้งหลายในราชสำนักจึงพยายามเสนอบุตรหลานของตนเองให้เขาเต็มที่ แต่หวงเฟยหลงหาได้สนใจใครเขายังคงดื้อด้านไม่ยอมแต่งงานใหม่ พร้อมกันนั้นก็ดำเนินการสร้างตำหนักแสนสวยงามขึ้นมาเพื่อระลึกถึงพระชายาที่จากไป ขุนนางและเหล่าราษฎรทั้งหลายต่างรับรู้กันถ้วนหน้าว่า หวงเฟยหลงรักปักใจต่อพระชายาเอกอย่างจางฮุ่ยหมิงมากเพียงใด“ฮ่องเต้พะยะค่ะ เรื่อง เอ่อ เรื่อง” ขุนนางในราชสำนักคนหนึ่งมีท่าทีกระอักกระอ่วนเมื่อต้องพูดเรื่องนี้ขึ้นมา“มีอันใด เจ้าพูดออกมาเถอะ วันนี้ข้าไม่มีอารมณ์สั่งประหารใคร” หวงเฟยหลงพูดออกมาอย่างไม่ใส่ใจ การประชุมในท้องพระโรงวันนี้เลยกำหนดเวลามากว่าครึ่งค่อนวันแล้ว เขาอยากกลับไปพักผ่อนเต็มที“ระ เรื่องฮองเฮาพะยะค่ะ อะเอ่อ พระองค์ทรงครองราชย์มาได้เกือบสองปีแล้ว หากว่ายังไม่มีฮองเฮาเคียงบัลลังก์คงไม่เป็นการเหมาะสมเท่าไหร่ ตามโบราณราชประเพณีแล้ว”ยังไม่ทันที่ขุนนางคนนั้นจะพูดจบ หวงเฟยหลงก็ยกมือขึ้นปรามเป็นเชิงบอกให้เขาหยุดพูดทันที“เจ้าช่างใจกล้าดีจริง สงสัยอยากถูกประหารเหมือนเสนาบดีกลาโหมคนก่อนกระมัง” หวง

  • ชายาตัวร้ายขององค์ชายใหญ่ผู้คลั่งรัก   บทที่ 31 หลบหนี

    หวงเฟยหลงเมื่อเห็นร่างของฮุ่ยหมิงร่วงหล่นลงไปต่อหน้าต่อตาก็ไม่อาจทำใจยอมรับได้ เขารู้สึกเหมือนว่าโลกทั้งใบกำลังพังทลายลงตรงหน้า ไม่มีนางเขาจะมีชีวิตอยู่อย่างไร หวงเฟยหลงเคียดแค้นไทเฮาอย่างถึงที่สุด เขาไม่เคยคิดทำร้ายหวงเฟยเทียน เลยสักครั้ง หลีกเลี่ยงการแย่งชิงอำนาจมาตลอด แต่สิ่งที่เขาได้รับวันนี้มันคืออะไรในเมื่อคนพวกนี้ทำร้ายเขาให้เจ็บปวดอย่างสุดแสนเขาก็จะทำให้คนพวกนี้ได้รับรู้ถึงความทรมานอย่างไม่มีที่สิ้นสุดเช่นเดียวกัน เมื่อตั้งสติได้หวงเฟยหลงก็ประกาศตัดขาดกับหวงเฟยเทียนอย่างไม่ไยดีทันที เขาสาบานว่าชีวิตนี้จะไม่มีวันให้อภัยหวงเฟยเทียนกับไทเฮาเป็นอันเด็ดขาด จะตามล่าพวกเขาให้ได้รับรู้ถึงรสชาติของการอยู่ไม่สู้ตายเมื่อเหตุการณ์ทุกอย่างจบลงเช่นนี้หวงเฟยเทียนจึงรีบเร่งพาไทเฮาที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสหลบหนีไป เขาได้รับการช่วยเหลือจากฮองเฮาจึงหลบหนีออกมาได้ ท่านพ่อของนางเป็นแม่ทัพใหญ่แม้ในตอนนี้ถูกยึดอำนาจไปแต่ก็ยังมีเหล่าทหารผู้จงรักภักดีพร้อมรับใช้อยู่หลังจากทหารของหวงเฟยหลงบุกเข้ายึดอำนาจภายใน วังหลวงได้ ท่านพ่อก็ให้ทหารบางส่วนพานางหนีออกมา พร้อมทั้งกำชับว่าต้องช่วยเหลือฮ่องเต้ให้ได้ โชค

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status