“ เสด็จแม่ว่าอย่างไรนะพะยะค่ะ ” อ๋องหรู่หยางแทบจะตกเก้าอี้ เมื่อได้รับฟังเรื่องราวที่พระมารดาของเขาบอกเล่ากับเขาอย่างเปรมปรีด์ เหมือนพระสนมมีตุ๊กตาตัวใหม่ที่จะจับมันแต่งกายอย่างไร จับวางที่ไหนก็ได้
นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน อยู่ๆ ก็จะให้เหลียนฮวาหลานสาวแม่นมเข้าถวายตัวเป็นสตรีของฮ่องเต้ ซึ่งก็คือเสด็จพ่อของเขา มันจะบ้าไปแล้ว
นางเป็น เอ่อ…..ของเขาไปแล้ว จะให้ไปถวายตัวให้เสด็จพ่อ ไม่ได้อย่างเด็ดขาด แต่เขาก็ไม่กล้าปริปากบอกกับเสด็จแม่ของเขาไปตรงๆ ในหัวจึงหมุนวนอย่างรวดเร็ว เพราะต้องคิดหาเหตุผลดีๆที่จะไม่ให้สตรีนางนั้นกลายเป็นสตรีของเสด็จพ่อของตัวเอง
“ คงไม่เหมาะพะยะค่ะ นางไม่เหมาะกับการเข้าไปอยู่ในวังหลัง ” พระสนมหยู อึ้งไป บุตรชายหมายความว่าอย่างไร แทนที่จะสนับสนุนให้หลานของแม่นมของตัวเองได้ดิบได้ดี แม่นมหวังจะได้พลอยสบายใจไปด้วย
“ ทำไมเจ้าถึงคิดว่าไม่เหมาะเล่า แม่ว่าดีนะ นางงดงามถึงปานนั้น ไม่แน่วาสนานางอาจจะได้เป็นถึงพระสนมก็เป็นได้ แล้วนางก็จะสบายไปทั้งชีวิต นางงดงามมากนะ เสด็จพ่อของเจ้าอาจจะโปรดปรานนางก็เป็นได้ รูปร่างของนางก็กำลังดี แม่ว่าบุรุษน่าจะชอบสตรีรูปร่างและผิวพรรณเช่นเดียวกับนางนะ ” คิ้วเข้มของอ๋องหนุ่มขมวดเข้าหากันแทบจะเป็นปม
ใช่เขายอมรับ บุรุษโดยมากจะต้องชื่นชอบนางเป็นแน่ ขนาดเขาเองยัง….อ๋องหนุ่มรีบหยุดความคิดของตนเอง ใช่เขายอมรับว่าเขาเองก็เหมือนจะติดใจนางเข้า ถึงกับเก็บเอานางไปฝันอยู่หลายคืนมาแล้ว
เขาพยายามหักห้ามใจตนเองไม่ให้คิดเกินเลยกับนาง แต่เจ้าลูกชายของเขามันไม่ยอมฟังเลย มันบ้า พอฝันถึงนางทีไร ก็เป็นฉากที่เขากับนางอยู่บนเตียงหลังใหญ่ของเขาและบนฟูกนอนหนานุ่มของเขาไปเสียทุกที
และเขากำลังโยกบั้นเอวถี่ยิบ โดยมีร่างอวบอัดของสตรีนางนั้นอยู่ใต้ร่าง เสียงครางหวานของนางยังติดหูอยู่เลย แล้วอย่างนี้ บุรุษอื่นจะไม่ติดใจนางได้อย่างไร แต่จะให้เป็นเสด็จพ่อไม่ได้อย่างเด็ดขาด
“ ไม่ได้จริงๆ พะยะค่ะ เพราะลูกตัดสินใจแล้วว่าจะรับนางเป็นหญิงอุ่นเตียงของลูก ” อ๋องหนุ่มตัดสินใจทันทีเพราะเขานึกเหตุผลอื่นไม่ออกจริงๆ เพราะในใจมันคิดได้แต่เหตุผลนี้เท่านั้น ไม่รู้มันเป็นบ้าอะไร เวลาคิดถึงนางทีไร ตำแหน่งนี้ก็ขึ้นมาในหัวของเขาแทบจะทุกครั้งไป
“ ไม่ได้หรอกลูก เสียดายอนาคตของนาง เจ้าก็มีสตรีให้เลือกมากมาย อย่าไปยุ่งกับนางเลย ปล่อยให้น้องไปมีอนาคตที่ดีๆกับชายที่เหมาสะกับนางจะดีกว่า ที่จริงแล้ว
แม่นมเหลียนก็คิดจะยกนางให้กับแม่ทัพไป๋หรือไม่ก็บุตรชายท่านรองเจ้ากรมอาญาน่ะ เพราะพวกเขาส่งคนมาสู่ขอนางคราวก่อน แต่นางปฏิเสธไปเพราะยังไม่อยากจะออกเรือน แล้วลูกคิดจะรับนางเป็นแค่หญิงอุ่นเตียงแม่ว่าไม่เหมาะ แต่ถึงแม้จะให้ลูกรับนางเป็นชายาแม่ก็ว่านางยังไม่คู่ควรกับลูก
นางงามมากนะแต่ความงามเพียงอย่างเดียวก็ไม่อาจจะเป็นพระชายาของเจ้าได้ แต่นางสามารถแต่งงานกับพวกขุนนางหรือไม่ก็คุณชายที่มีฐานะดีๆสักคน แม่ว่ากำลังเหมาะเลย เพราะนางควรจะมีอนาคตที่ดี นางงดงามปานนั้น
ขนาดแม่ยังคิดว่านางงามพอที่จะถวายตัวได้ด้วยซ้ำ แล้วเรื่องอะไรจะให้มาเป็นแค่หญิงอุ่นเตียงของเจ้า แม่ว่าแม่นมเหลียนคงไม่ยอมหรอก ” อ๋องหนุ่มยิ่งคิ้วขมวดเข้าไปใหญ่
เขาแอบคิดในใจ เสด็จแม่จะอยากให้นางเป็นหรือไม่อยากให้นางเป็นหญิงอุ่นเตียงของเขา แต่นางก็เป็นไปแล้ว ความจริงเหล่านี้มิอาจจะเปลี่ยนแปลงได้ เพียงแต่ท่านแม่ยังไม่รู้เท่านั้นเอง แล้วเขาก็พลันนึกได้
ใครมาสู่ขอนางนะ แม่ทัพไป๋กับบุตรชายรองเจ้ากรมอาญาหรือ เขานิ่งงันไปทันที ทำไมเขาไม่รู้เรื่องนี้เลย แล้วทำไมนางถึงปฏิเสธไปล่ะ แต่ถึงตอนนี้ถึงแม้นางจะตกลงก็ไม่สมควรแล้ว
หากบุรุษที่เป็นสามีของนางรู้เข้าว่านางไม่ใช่สตรีบริสุทธิ์อีกแล้ว เรื่องราวมันจะยุ่งยากปานใดกัน อ๋องหนุ่มอึ้งงันไป แต่จะด้วยอะไรก็ตามนางถวายตัวไม่ได้เป็นอันขาดแล้ว แต่งงานกับชายอื่นก็ไม่ได้
อ๋องหนุ่มเกิดรู้สึกขุ่นมัวไม่พอใจสักนิด แต่ก็ไม่ใช่ว่าเขาหวงนางหรอกนะ แค่เพียงเกรงว่าจะเกิดปัญหาในภายหลังเท่านั้น เพราะนางไม่ใช่สตรีที่บริสุทธิ์ผุดผ่องอีกแล้ว
“ ถ้าอย่างนั้นลูกจะรับนางเป็นอนุก็แล้วกัน หาฤกษ์ที่ดีที่สุดแล้วจัดงานแต่งเล็กๆ รับนางเป็นอนุเลย เสด็จแม่ว่าอย่างไรพะยะค่ะ ” พระสนมหยูขมวดคิ้ว เพราะไม่เห็นด้วยเป็นอย่างมาก บุตรชายจะมาวุ่นวายเรื่องของหลานสาวแม่นมทำไมกัน
แต่ก็เริ่มจะผิดสังเกตุและแอบลอบมองบุตรชาย หรือว่าเจ้าลูกคนนี้จะพึงใจฮวาเอ๋อเข้าเสียแล้วหรือไม่ คอยแต่จะรับนางเข้าเรือนหลังอยู่นั่นแหละ
ทั้งๆที่ก็รู้ว่านางไม่เหมาะที่จะแต่งเป็นชายาของตนเอง แต่ก็คิดจะรับนางเป็นอนุ ทั้งๆที่ตัวเองก็ยังไม่ได้แต่งชายาเข้าจวนเลยด้วยซ้ำ
“ เจ้าเองก็ไม่ได้รักนาง ไม่ได้พึงใจนางไม่ใช่หรือ จะไปยุ่งเกี่ยวกับพวกเขาทำไมกันเล่า นางจะแต่งงานกับผู้ใดก็ให้นางเลือกเองเถิด แต่งกับแม่ทัพไป๋ก็ยังได้เป็นฮูหยินของเขา ดีกว่าเป็นอนุของเจ้าเป็นไหนๆ เรื่องอะไรกัน แม่นมเหลียนของเจ้าก็คงไม่ยอมหรอก หลานสาวก็มีแค่คนเดียว คนมาสู่ขอก็มีอยู่ จะมายอมเป็นเม่ียน้อยชายอื่นทำไมกันเล่า ”
พระสนมหยูก็ยังคงสั่นหน้าปฏิเสธเพราะมันดูไม่สมเหตุสมผลสักนิด ที่บุตรชายจะมายุ่งเกี่ยวเรื่องนี้
ที่พระสนมบอกปฏิเสธบุตรชายอย่างไม่เห็นด้วย ก็เพราะไม่คิดว่าเรื่องนี้มันจะเกี่ยวข้องกับเขาสักนิด แต่อยู่ๆ เขากลับเสนอจะรับนางเป็นอนุของเขาเสียอย่างนั้น เกิดอะไรขึี้นกับบุตรชายของนางกันแน่
“ เอาละ แม่เวียนหัวไปหมดแล้ว งั้นก็ยกเลิกทุกอย่างไปก่อนก็แล้วกัน ให้นางเลือกเองว่าจะแต่งงานกับผู้ใด แต่หากนางยังไม่อยากแต่งก็อย่าไปรบเร้านางเลย นางเพิ่งจะเข้ามาเมืองหลวงแค่ไม่กี่เดือน คงจะอยากเที่ยวเล่นก่อนให้ทั่วๆ นางยังไม่แต่งงานก็ไม่เป็นไรหรอก
เอาล่ะ ไหนๆ นางก็มีคนมาสู่ขอหลายคนอยู่แล้ว ให้นางเลือกด้วยตัวเองก็แล้วกัน ว่าอยากจะแต่งงานกับใคร เอาละแม่ไปที่เรือนแม่นมเหลียนก่อนนะ จะได้ไปถามกับเจ้าตัวเขาด้วยว่าจะเลือกใคร หรือยังจะอยู่เช่นนี้ไปก่อนแม่ก็ไม่่ว่าอะไร เพราะยังมีพิธีคัดเลือกพระชายาขององค์ชายอีกหลายพระองค์
แม่อาจจะคิดดูก่อนว่าจะให้นางเข้าร่วมพิธีคัดเลือกชายาขององค์ชายพระองค์ใดดี " แล้วพระสนมก็เดินออกไปจากเรือนของบุตรชายที่พอลับหลังมารดา ใบหน้าของเขาก็พลันบึงตึึ้งไปอย่างมาก โดยที่ตัวของเขาเองก็ไม่รู้ว่าเขาจะไม่พอใจมากมายไปทำไมกันที่สตรีนางนั้นมีคนมาสู่ขอตั้งมากมาย
ส่วนเหลียนฮวานั้น ยังคงหาทางหลบเลี่ยงอย่างสุดความสามารถที่จะไม่พบหน้าเจ้าของจวน เขาไม่เคยได้พบหน้าของนางเลยตลอดหนึ่งเดือนมานี้
เมื่ออดรนทนไม่ไหว เพราะไม่มีใครเอ่ยถึงนางให้เขาได้ยิน และเขาเองก็อยากจะรู้ว่านางเป็นอย่างไรบ้าง จึงได้ทำทีสอบถามแม่นมเหลียนขึ้นในวันหนึ่ง ขณะที่แม่นมนำขนมหวานที่เพิ่งทำเสร็จใหม่ๆ มาให้เขาด้วยตนเอง
“ หม่อมฉันไม่อยากเป็นสตรีของท่านเพคะ แล้วเหตุใดท่านอ๋องไม่ถามหม่อมฉันก่อน ว่าหม่อมฉันสมัครใจอยากจะเป็นสตรีของท่านหรือไม่ ” นางหันไปถามเขาอย่างไม่เข้าใจในสิ่งที่เพิ่งจะได้ยินเข้า“ เจ้าไม่มีสิทธิ์เลือกอีกแล้ว นับจากเจ้าวางยาปลุกกำหนัดเปิ่นหวาง เจ้าก็เป็นเมียของเปิ่นหวางแล้ว และภรรยาย่อมเป็นสิทธิ์ของสามี เจ้าควรยอมรับมันแต่โดยดี มาเถิด ” แล้วเขาก็ยกร่างของเหลียนฮวาให้ยืนขึ้น เพื่อเผชิญหน้ากับเขา นางไม่ยอมเงยหน้าขึ้นสบตากับเขานางยังไม่ยินยอมและยังงุนงงไม่ทันได้ตั้งตัวกับสิ่งที่เกิดขึ้น ยกเรือนให้นางพำนักในตำแหน่งสตรีของเขา มิน่าเล่าเรือนหลังนี้จึงดูเกินฐานะของผู้อาศัยเช่นนาง แถมยังมีข้าวของใหม่ๆของสตรีอีกหลายอย่างอีกด้วย“ ฮวาเอ๋อ สบตาข้า ข้าต้องการมองเห็นความรู้สึกของเจ้าว่าคิดเช่นไรกับข้ากันแน่ ” มือหนาที่ร้อนรุ่มของเขา เชยคางมนของเหลียนฮวาเพียงเบาๆ ทำให้นางนั้นจำต้องเงยหน้าขึ้นสบตากับเขา และยิ่งทำให้เหลียนฮวาเห็นดวงตาคมกริบที่จ้องมองนางด้วยดวงตาที่วาววามเหมือนมีเปลวไฟของความปรารถนาลุกโพลงอยู่ในนั้น“ ฮวาเอ๋อ ไม่ว่าเจ้าจะคิดเช่นไรกับเปิ่นหวาง แต่เจ้าก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะเลือก
เหลียนฮวาอึ้งงันไป เพราะไม่ใช่ข้าวของเครื่องเรือนในห้องนอนแห่งนี้เพียงเท่านั้น ข้าวของในเรือนหลังนี้ล้วนแต่เป็นเครื่องเรือนชั้นดี มันมีห้องว่างเป็นห้องเล็กทางด้านหลังอีกหนึ่งห้อง มีห้องสุขาอยู่ด้านหลังเรือน ด้านหน้าเป็นห้องโถงกว้างพอสมควรมีระเบียงด้านข้างที่มีอ่างบัวขนาดใหญ่สามอ่าง มีเก้าอี้โยกเอาไว้นั่งเล่นรับลมเย็นๆ ที่ตั้งอยู่ข้างอ่างบัวนั้น เครื่องเรือนในเรือนนี้เหมือนของใหม่ที่ยังไม่ผ่านการใช้งานเลย มีดอกไม้ประดับในเรือนหลังนี้ เหมือนสาวใช้เพิ่งจะมาจัดดอกไม้หลากสีสันใส่แจกันเอาไว้ให้กระนั้นส่วนในห้องนอนใหญ่ที่มีขนาดที่ใหญ่กว่าห้องนอนเดิมของนางที่อยู่ในเรือนของท่านป้ามากเกือบจะเป็นสองเท่า มีเตียงสี่เสาหลังใหญ่ที่มีผ้าม่านโปรงบางสีขาวสลับลูกไม้สีแดงคลุมเอาไว้ทั้งสี่ด้าน ฟูกนอนก็หนานุ่มและมีขนาดใหญ่กว่าฟูกนอนเดิมของนาง มีโต๊ะเครื่องแป้งที่มีเครื่องประทินผิวกระปุกเล็กกระปุกน้อยวางเรียงรายอยู่บนโต๊ะนั้น มีคันฉ่องบานใหญ่หนึ่งบาน มีเก้าอี้นั่งที่เข้าชุดกัน ส่วนที่หลังฉากกั้นนั้นก็มีตู้เก็บอาภรณ์ที่สลักลวดลายอิงเถาที่มีกิ่งก้านและใบงดงามนัก มีราวไม้สำหรับพาดอาภรณ์และมีถังอา
“ แม่นม หลานสาวของท่านมิได้พักอยู่ที่นี่กับท่านแล้วหรือ หมู่นี้เปิ่นหวางไม่พบหน้านางเลย ” เขาเอ่ยถามแม่นมขณะที่ทำทีนั่งจิบชาเหมือนไม่ได้ใส่ใจอะไร เหมือนกับถามไปอย่างนั้น“ หมู่นี้นางออกไปทำงานที่ร้านเสริมความงามของคุณชายเสิ่นอี้หนานเพคะ ได้ยินว่าคุณชายผู้นั้นจ้างให้นางช่วยดูแลร้านของเขาที่เพิ่งเปิดใหม่ นางมาขออนุญาตออกไปทำงานได้เกือบจะสองสัปดาห์แล้วเพคะ เช้าๆขึ้นมานางก็ออกไปทำงานเอง เพราะมีตรอกเล็กๆที่อยู่ถัดจากกำแพงจวนไปนี่ที่เดินลัดออกไปที่ถนนหน้าตลาดได้เพคะ พอตอนเย็นคุณชายเสิ่นก็มาส่งนางที่หน้าจวนเพคะ ได้ยินว่าเป็นทางผ่านกลับจวนของเขาพอดี จึงได้นางติดรถม้าของเขากลับมาด้วย ” อ๋องหนุ่มรู้สึกขุ่นใจเล็กน้อย แต่ก็ยังรักษาใบหน้าให้เรียบเฉยเหมือนไม่ได้รู้สึกอะไรเพียงถามไถ่ถึงคนในจวนไปตามปกติทั่วไป“ แม่นม เปิ่นหวางมีเรือนว่างอยู่ด้านหลังเรือนหลักนี้ที่ตอนนี้มันไม่มีคนอยู่ ให้หลานสาวของแม่นมย้ายมาอยู่ดีหรือไม่ จะได้มีที่อยู่ของตนเองเป็นสัดส่วน ” เขาหันไปถามเชิงขอความคิดเห็นของแม่นมเหลียน แม่นมชรานิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่งก็คิดว่าดีเหมือนกัน หลานสาวของนางจะได้มีที่่อยู่ของตนเอง เป็นส
“ เสด็จแม่ว่าอย่างไรนะพะยะค่ะ ” อ๋องหรู่หยางแทบจะตกเก้าอี้ เมื่อได้รับฟังเรื่องราวที่พระมารดาของเขาบอกเล่ากับเขาอย่างเปรมปรีด์ เหมือนพระสนมมีตุ๊กตาตัวใหม่ที่จะจับมันแต่งกายอย่างไร จับวางที่ไหนก็ได้ นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน อยู่ๆ ก็จะให้เหลียนฮวาหลานสาวแม่นมเข้าถวายตัวเป็นสตรีของฮ่องเต้ ซึ่งก็คือเสด็จพ่อของเขา มันจะบ้าไปแล้ว นางเป็น เอ่อ…..ของเขาไปแล้ว จะให้ไปถวายตัวให้เสด็จพ่อ ไม่ได้อย่างเด็ดขาด แต่เขาก็ไม่กล้าปริปากบอกกับเสด็จแม่ของเขาไปตรงๆ ในหัวจึงหมุนวนอย่างรวดเร็ว เพราะต้องคิดหาเหตุผลดีๆที่จะไม่ให้สตรีนางนั้นกลายเป็นสตรีของเสด็จพ่อของตัวเอง“ คงไม่เหมาะพะยะค่ะ นางไม่เหมาะกับการเข้าไปอยู่ในวังหลัง ” พระสนมหยู อึ้งไป บุตรชายหมายความว่าอย่างไร แทนที่จะสนับสนุนให้หลานของแม่นมของตัวเองได้ดิบได้ดี แม่นมหวังจะได้พลอยสบายใจไปด้วย “ ทำไมเจ้าถึงคิดว่าไม่เหมาะเล่า แม่ว่าดีนะ นางงดงามถึงปานนั้น ไม่แน่วาสนานางอาจจะได้เป็นถึงพระสนมก็เป็นได้ แล้วนางก็จะสบายไปทั้งชีวิต นางงดงามมากนะ เสด็จพ่อของเจ้าอาจจะโปรดปรานนางก็เป็นได้ รูปร่างของนางก็กำลังดี แม่ว่าบุรุษน่าจะชอบสตรีรูปร่างและ
เหลียนฮวารีบอาบน้ำในถังอาบน้ำใบใหญ่ที่น้ำในอ่างนั้นเย็นชืดแล้ว คงจะมีบ่าวยกมันมาเทให้กับนางแต่มันก็คงจะนานแล้ว เพราะกว่าที่นางจะกลับเข้าห้องมาน้ำในถังไม้ใบใหญ่ก็เริ่มเย็นแล้ว แต่ก็ช่างมันเถอะ อาบน้ำเย็น ๆ เช่นนี้ก็ดีแล้ว สติสัมปชัญญะจะได้ตื่นตัวเต็มที่ และก็จะได้รู้ฐานะของตัวเอง และหัดเจียมตัวบ้าง ไม่ใช่ใฝ่สูงจนทำให้ผู้อื่นหัวเราะเยาะหยันเอาเช่นนี้ได้อีกนางพยายามขัดถูร่างกายที่มีร่องรอยแดงเป็นจ้ำๆ จนแทบจะทั่วร่างกาย เพราะถูกอ๋องผู้นั้นทั้งบีบเค้นและตบตีตามแต่อารมณ์ที่พุ่งขึ้นสูงของเขา ส่วนปลายยอดถันสีชมพูเข้มที่บัดนี้มันยังรู้สึกได้ถึงสัมผัสที่ร้อนผ่าวของริมฝีปากหนานั่นที่มันครอบครองผลอิงเถาที่เต่งตึงของนางไม่เว้นวาย รสสัมผัสยามที่ถูกเขาดูดดื่มมันยังติดตรึงอยู่ นางยังรู้สึกได้ถึงริมฝีปากที่ร้อนผ่าวที่ประทับลงมา และยังเหลือร่องรอยให้เห็นได้ชัดเจน เหลียนฮวาพยายามใช้สบู่มันแพะชั้นดีที่มีกลิ่นหอมขัดถูไปจนทั่วร่างกายอวบอัดของนางเพื่อชำระล้างรสสัมผัสเหล่านั้นให้จางหายไปอยู่เกือบจะชั่วยาม เมื่อรู้สึกดีขึ้น ถึงได้ยอมลุกขึ้นจากถังอาบน้ำเพื่อเช็ดร่างกายและสวมอาภรณ์เพื่อจะเตรียมตั
เหลียนฮวาที่นั่งหันหลังให้กับเขาเพราะนางกำลังจะสวมอาภรณ์ที่เพิ่งจะควานหามาได้ มือบางชะงักไปครู่หนึ่งหลังจากได้ยินถ้อยคำที่เสียดแทงใจนั้น “ หม่อมฉันไม่ได้วางยาพระองค์เพคะ ” นางเอ่ยขึ้นด้วยเสียงเบาๆ ริมฝีปากหนาของอ๋องหนุ่มบิดโค้ง เขาไม่เชื่อวาจาของนางแม้เพียงสักนิด “ หากเจ้าไม่ได้ทำแล้วจะเป็นผู้ใดกัน สตรีแพศยา อยากจะเป็นชายาของข้าจนตัวสั่น คิดว่าข้าดูไม่ออกหรืออย่างไรกัน เจ้ามันใฝ่สูงจนเกินตัว คิดหรือว่าวางแผนชั่วเช่นนี้แล้ว ข้าจะยอมรับเจ้าเป็นชายา ฝันสูงสิ้นดี ที่จริงแล้วข้าจะเอาผิดเจ้าก็ได้ที่บังอาจวางยาปลุกกำหนัดข้าจนเกิดเรื่องบัดสีเช่นนี้ แต่เพราะข้าเห็นแก่แม่นมหรอกนะ เอาละ อย่างไรเสียเจ้าก็ตกเป็นสตรีของข้าไปแล้ว ข้าจะรับเจ้าเป็นหญิงอุ่นเตียงก็คงจะได้ ข้าจะให้เจ้าย้ายเรือนไปอยู่ต่างหากไม่ต้องอยู่ในเรือนแม่นมแล้ว ” อ๋องหนุ่มตัดสินใจเอ่ยขึ้น เพราะเขาได้นางเป็นเมียแล้ว แม้ไม่ได้เป็นความตั้งใจของเขา แต่เขาก็ได้นางแล้ว รับเป็นหญิงอุ่นเตียงก็คงจะได้ แค่รับเลี้ยงดูสตรีอีกคนคงไม่กระไรหรอกริมฝีปากแดงระเรื่อที่ตอนนี้บวมเจ่อเพราะถูกจูบจนนับครั้งไม่ถ้วนมาตลอดบ่ายวันนี้ เม้