เหลียนฮวารีบอาบน้ำในถังอาบน้ำใบใหญ่ที่น้ำในอ่างนั้นเย็นชืดแล้ว คงจะมีบ่าวยกมันมาเทให้กับนางแต่มันก็คงจะนานแล้ว เพราะกว่าที่นางจะกลับเข้าห้องมาน้ำในถังไม้ใบใหญ่ก็เริ่มเย็นแล้ว
แต่ก็ช่างมันเถอะ อาบน้ำเย็น ๆ เช่นนี้ก็ดีแล้ว สติสัมปชัญญะจะได้ตื่นตัวเต็มที่ และก็จะได้รู้ฐานะของตัวเอง และหัดเจียมตัวบ้าง ไม่ใช่ใฝ่สูงจนทำให้ผู้อื่นหัวเราะเยาะหยันเอาเช่นนี้ได้อีก
นางพยายามขัดถูร่างกายที่มีร่องรอยแดงเป็นจ้ำๆ จนแทบจะทั่วร่างกาย เพราะถูกอ๋องผู้นั้นทั้งบีบเค้นและตบตีตามแต่อารมณ์ที่พุ่งขึ้นสูงของเขา
ส่วนปลายยอดถันสีชมพูเข้มที่บัดนี้มันยังรู้สึกได้ถึงสัมผัสที่ร้อนผ่าวของริมฝีปากหนานั่นที่มันครอบครองผลอิงเถาที่เต่งตึงของนางไม่เว้นวาย
รสสัมผัสยามที่ถูกเขาดูดดื่มมันยังติดตรึงอยู่ นางยังรู้สึกได้ถึงริมฝีปากที่ร้อนผ่าวที่ประทับลงมา และยังเหลือร่องรอยให้เห็นได้ชัดเจน เหลียนฮวาพยายามใช้สบู่มันแพะชั้นดีที่มีกลิ่นหอมขัดถูไปจนทั่วร่างกายอวบอัดของนางเพื่อชำระล้างรสสัมผัสเหล่านั้นให้จางหายไปอยู่เกือบจะชั่วยาม
เมื่อรู้สึกดีขึ้น ถึงได้ยอมลุกขึ้นจากถังอาบน้ำเพื่อเช็ดร่างกายและสวมอาภรณ์เพื่อจะเตรียมตัวเข้านอน แม้เกิดเรื่องร้ายแรงเช่นนี้ท้องของนางยังไม่วายอุทรเพราะต้องการอาหาร
เมื่อหวีผมที่ยาวสยายดำขลับของตนเองจนขึ้นเงาแล้ว นางจึงได้ออกไปจากห้อง แล้วไปนั่งกินอาหารที่โต๊ะด้านนอกเพียงลำพัง เพื่อจะได้ดื่มยาที่พี่ชุ่ยหลันคงจะให้คนนำมาวางไว้ให้กับนาง
เหลียนฮวากินอาหารและยาเสียเพื่อคืนนี้จะได้นอนหลับ ไม่ตื่นมาท้องร้องเพราะความหิวอีก นางอยากจะนอนหลับให้เต็มตา
เผื่อพรุ่งนี้เช้าตื่นขึ้นมาแล้ว ก็คงจะคิดอะไรได้ปลอดโปร่งกว่านี้ ว่านางจะะทำอย่างไรต่อไปกับชีวิตของตนเอง จะยังอยู่ในจวนของชายผู้นั้น หรือจะหาทางขยับขยายออกไป นางกำลังครุ่นคิดหาทางท่ี่ดีที่สุด เพื่อที่นางกับชายผู้นั้นก็จะได้ไม่ต้องพบหน้ากันอีก
เมื่อกินอาหารตรงหน้าพอให้อยู่ท้องแล้ว ร่างงามก็ลุกขึ้นแล้วรวบรวมถ้วยชามตรงหน้าใส่ลงในถาดไม้แล้วก็ยกออกไปด้านหลังเรือนที่มีอ่างที่เอาไว้ล้างจานชามเล็กๆน้อย และมีชั้นวางจานชามที่ล้างสะอาดดีแล้ววางอยู่ข้างๆ
เหลียนฮวาลงมือล้างถ้วยชามเหล่านั้นจนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็พยายามเดินช้าๆ เพราะยังเจ็บแสบที่กลางกายอย่างมากเวลาเคลื่อนไหว นางคงจะต้องบอกว่านางไม่สบายเสียแล้ว
รอจนอาการเจ็บเหล่านี้หายดี จึงจะเดินเหินได้โดยไม่มีผู้ใดสงสัยนางเข้า เพราะนางคงไม่อาจจะบอกผู้ใดทั้งสิ้นถึงเรื่องที่น่าอับอายในวันนี้ และต่อไปนางจะต้องพยายามไม่พบปะกับเจ้าของจวนอีก และเขาเองก็คงไม่อยากจะเห็นหน้านางเช่นกัน
เมื่อเหลียนฮวาเข้าห้องนอนไปแล้ว นางตรงไปบ้วนปากที่อ่างเคลือบบนโต๊ะตัวเล็กริมผนัง แล้วจึงได้ขึ้นไปนอนบนเตียงของนาง การอยู่ที่นี่นั้นสุขสบายไม่น้อย หากไม่มีเรื่องน่าอับอายนั่นเกิดขึ้น นางไม่โทษใครทั้งนั้น คงเป็นเพราะนางเองที่ทำให้ท่านอ๋องสงสัยนาง
แม้ครั้งนี้นางไม่ได้ทำ เขาก็ยังปักใจเชื่อว่านางเป็นผู้วางยาเขา ชีวิตของนางในจวนอ๋องแห่งนี้คงจะไม่น่ารื่นรมย์อีกต่อไปสำหรับเหลียนฮวา ที่ตอนนี้ก็ยังคิดไม่ออกว่านางจะทำเช่นไรกับชีวิตของตนเองต่อไปดี
หลังจากนั้นวันนั้นหลานสาวแม่นมก็ไม่เคยย่างกรายเข้าไปในเรือนหลักของท่านอ๋องหรู่หยางอีกเลย นางพยายามไม่ปรากฎตัวให้เขาเห็นไม่ว่าในที่ใดทั้งนั้นในจวนของเขา
ในสัปดาห์แรกนางอ้างว่านางป่วยเป็นไข้ และพอดีกับนางตัวร้อนเข้าจริงๆเพราะอาการอักเสบเพราะเกิดจากการเริงรักที่รุนแรงกับอ๋องผู้มีลีลารักที่ดุดันผู้นั้น
ท่านหมอจัดยาแก้ไข้ให้กับนางที่อ้างว่านางหกล้มแต่ไม่ยอมให้ใครได้ดูบาดแผลเพราะนางบอกว่ามันอยู่ในร่มผ้านางมิอาจจะให้ผู้ใดดูได้ ท่านหมอจึงจัดยาให้นางเอาไว้ทาแผลด้วยตนเอง และยาต้มแก้ไข้แก้อักเสบให้กับนาง
ดังนั้นกว่าหนึ่งสัปดาห์หลังจากนั้น นางจึงเอาแต่เก็บตัวอยู่ในห้อง พอหายดีแล้ว นางก็ออกไปเดินหางานทำที่ตลาด เผื่อว่าจะมีร้านค้าบางร้านต้องการคนงาน
นางคิดว่านางจะหาอะไรทำไปก่อน เพื่อเก็บเงินไว้ซื้อบ้านหลังเล็กๆของตนเองเพื่อจะได้เอาไว้อยู่อาศัย หรือไม่ก็ต้องเก็บเงินให้ได้สักก้อนหนึ่ง แล้วออกไปตระเวณหาบ้านเช่า
นางเองก็ไม่รู้ว่าท่านป้าจะยินยอมให้นางย้ายออกไปหรือไม่ แต่นางไม่อยากจะอาศัยอยู่ในจวนนี้อีกแล้ว เพราะไม่อยากจะพบหน้าเขา และไม่อยากจะรบกวนเขาอีกไม่ว่าเรื่องใดๆ
และเรื่องการหางานทำของเหลียนฮวาก็ไปเข้าหูของพระสนมหยู เพราะแม่นมเหลียนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ก็ไปบอกเล่าให้พระสนมฟังเวลาเข้าไปเยี่ยมพระนางที่ในวังหลวง
ทำให้พระสนมหยูเกิดความคิดว่าจะส่งเสริมให้เหลียนฮวาได้เข้าถวายตัวกับฮ่องเต้ แม้พระองค์จะมีพระชนม์มากแล้ว แต่ก็ยังสง่าผ่าเผย รูปร่างองอาจเต็มไปด้วยมัดกล้ามเพราะการดูแลตัวเองอย่างสม่ำเสมอ และพระสนมก็คิดว่าเป็นทางออกที่ดี
เพราะสตรีที่งดงามปานจะล่มเมืองเช่นเหลียนฮวา หากได้เข้าถวายตัว แม้ไม่เป็นที่โปรดปรานนางก็จะสุขสบายไปทั้งชีวิต ไม่ต้องดิ้นรนทำมาหากินเลี้ยงดูตนเอง ได้อยู่อย่างสุขสบายใจวังหลัง หากไม่ทำตัวให้โดดเด่นเกินไปก็จะอยู่ได้อย่างเป็นสุขตามอัตภาพ
แม่นมเหลียนบอกเล่าว่านางไม่พึงใจชายใดสักคนที่ส่งแม่สื่อมาสู่ขอ จึงทำให้แม่นมเหลียนร้อนใจมาก และแม่นมก็เห็นด้วยกับพระสนมหยูที่ว่าควรจะส่งเสริมให้เหลียนฮวาถวายตัวเป็นสตรีของฮ่องเต้
หลังจากนั้นก็แล้วแต่วาสนาของนางว่าจะสามารถทำให้เป็นที่พอพระทัยมากเพียงใด แต่อย่างน้อยนางก็จะสุขสบายไปชั่วชีวิต และฮองเฮงก็ไม่ใช่สตรีร้ายกาจ นางใจดีมาก และมีเมตตาต่อสตรีในเรือนหลังอย่างมาก ในยุคนี้การแก่งแย่งชิงดีในวังหลังก็ยังน้อยกว่าในยุคอื่นๆที่ผ่านมา
ดังนั้นวันต่อมาพระสนมหยูจึงได้มาเยือนที่จวนของบุตรชายเพื่อจะมาเยี่ยมเยียนบุตรชายด้วย มาดูความเป็นอยู่ของเขาว่าเป็นเช่นไร มีคนดูแลเขาได้ดีหรือไม่ เพราะเขายังไม่มีชายาคอยดูแลเรื่องในจวนให้กับเขา
อาศัยเพียงพ่อบ้านที่เป็นคนเก่าแก่คอยดูแลให้เพียงเท่านั้น และจะได้มาพูดคุยกับเหลียนฮวาด้วยเรื่องให้นางเข้าถวายตัว หากนางตกลงจะได้ให้เข้าวังไปด้วยกันเพื่อเตรียมตัวเสียเลย
อีกหนึ่งเดือนต่อมา การแต่งงานของท่านเจ้ากรมยุติธรรมกับเมิ่งลี่หลินอดีตน้องสาวก็เกิดขึ้น ทั้งสองแต่งงานกันโดยจัดพิธีการที่เรียบง่ายมาก เพราะอยากจะจัดพิธีเป็นการภายในที่มีแต่เพียงญาติและมิตรสหายเพียงเท่านั้น เมิ่งลี่หลินนั้นรู้สึกมีความสุขมากที่นางตัดสินใจเลือกบุรุษที่รักนางมากเช่นอดีตพี่ชายของนาง เขารักนางเพียงผู้เดียว ไม่เคยมีสายตาไว้มองสตรีใดทั้งสิ้น หลังจากแต่งงานได้เพียงไม่กี่เดือนเมิ่งลี่หลินก็ตั้งครรภ์และหลังจากนั้นก็ให้กำเนิดบุตรชายแก่ท่านเจ้ากรมยุติธรรมพี่ชายของนาง และนางไม่เสียใจเลยสักนิดที่ตัดสินใจเลือกเขา เพราะเขารักนางจริงๆ ทั้งสองครองรักกันอย่างมีความสุขส่วนตำหนักท่านอ๋องนั้นก็ไม่แพ้กัน หลังจากแต่งงานได้ไม่นานเหลียนฮวาก็ตั้งครรภ์และให้กำเนิดบุตรแฝดชายหญิงคู่หนึ่งให้กับท่านอ๋อง พระสนมหยูนั้นดีใจมาก หลงรักหลานทั้งสองจนคอยแวะเวียนมาที่ตำหนักของบุตรชายเพื่อช่วยเลี้ยงดูหลานทั้งสองอยู่บ่อยๆครั้ง ในบางครั้งถึงกับนอนค้างที่ตำหนักอ๋องของบุตรชาย เพราะเล่นกับหลานจนเย็นย่ำ ไม่อยากจะเดินทางกลับเข้าวังหลวง เหลียนฮวานั้นเป็นมารดาที่โชคดีมาก นอกจากลูกทั้งสองไม่ร้องกวนโยเยแล
ร่างสูงใหญ่ของพี่ชายที่เฝ้าแอบหลงรักน้องสาวของตนเองมาหลายปีแล้ว บัดนี้เขาตัดสินใจแล้วว่าจะไม่ปล่อยนางไปหาบุรุษใดอีกแล้ว ท่านเจ้ากรมหนุ่มตัดสินใจเดินเข้ามาทางด้านหลังของนาง เอามือปิดปากนางจนสลบไป แล้วอุ้มนางขึ้นพาเดินดุ่มไปที่ห้องนอนใหญ่ของเขา แล้ววางนางลงบนเตียงนอน มือหนาลงมือถอดอาภรณ์ของนางออก จนร่างอ้อนแอ้นที่เมื่อเปิดเปลือยอาภรณ์หมดสิ้นแล้ว กลับอวบอิ่มเต็มไม้เต็มมือดีนัก ร่างหนาแข็งเกร็งขึ้นทันทีเมื่อเห็นเรือนร่างขาวผ่องของน้องสาวนอกไส้เต็มตา ส่วนสัดของนางอวบอัดมากกว่ายามที่นางสวมใส่อาภรณ์เสียอีก ผิวพรรณของนางเนียนผ่องไปหมด เช่นนี้แล้วเขาจะอดใจไม่หลงไหลนางได้อย่างไร เขาเพียงแค่ต้องเก็บงำความรู้สึกนั้นเอาไว้ แต่บัดนี้เมื่อนางถูกบุรุษอื่นปฏิเสธนาง เขาจึงคิดว่าเขาจะแต่งงานกับนางเสีย เพราะอย่างน้อยเขาก็รัักนางมาก ไม่คิดจะทำให้นางเสียใจโดยการมีสตรีอื่นใดนอกจากนาง เขาวางร่างงามลงบนเตียงแล้วถอยออกมายืนมองนางด้วยแววตาครึ้มไปด้วยความเสน่หา ค่อยๆถอดเครื่องแต่งกายของเขาออกจนเรือนร่างสูงใหญ่เปลือยเปล่าแล้วขึ้นคร่อมร่างอวบอัดของน้องสาวนอกไส้ที่เขาเองดูแลนางมานับจากบิดามาร
เหลียนฮวาพูดไม่ออก นางเข้าใจที่เขาพูด เพราะนางเองที่ยอมจะแต่งงานไปกับคุณชายเสิ่นอี้หนานทั้งที่ไม่ได้รักเขาก็เพราะนางเสียใจและเจ็บปวดที่เขากำลังคิดจะหมั้นหมายกับคุณหนูเมิ่ง และที่เขาทอดทิ้งนางถึงสองครั้งติดๆกัน ทำให้นางแน่ใจว่าในใจของเขานั้นคงไม่มีนางอยู่ในนั้นอย่างแน่แล้ว จึงตัดสินใจจะแต่งงานกับบุรุษที่ดีเช่นคุณชายเสิ่น แม้จะไม่ได้รักเขา แต่นางคิดว่าหากอยู่ร่วมกันไป นางคงจะรักเขาได้ในสักวันหนึ่ง แต่เมื่อมาคิดดูแล้วมันก็เป็นการกระทำที่เห็นแก่ตัวมาก นางสงสารคุณชายเสิ่นเหลือเกินในตอนนี้ แต่ความเป็นจริงแล้ว แม่นมเหลียนนั้นได้ไปพบคุณชายเสิ่นอีหนานแล้วเล่าทุกอย่างให้เขาฟัง และเขายอมตกลงที่จะช่วยให้แผนการณ์บีบบุรุษที่ไม่รู้ใจตัวเองให้ตัดสินใจ ส่วนเหลียนฮวานั้นเป็นผู้เดียวที่ไม่รู้ว่าการแต่งงานครั้งนี้คือการจัดฉาก ที่จวนเสิ่นไม่ได้มีการจัดเตรียมงานแต่งใดๆ ทั้งนั้น เพียงเป็นความร่วมมือเพื่อช่วยให้เหลียนฮวากับท่านอ๋องได้ลงเอยกันได้เพียงเท่านั้ เพราะโอกาสนี้เป็นครั้งสุดท้ายที่แม่นมเหลียนจะให้กับท่านอ๋องหรู่หยาง หากเขาไม่คิดจะทำอะไร แต่กลับยอมปล่อยให้เหลียนฮวาแต่งงานออกไปจริงๆ แ
“ อ๊าา อื้อ.. อู๊ยยย อื้อ… อ๊าายย อ๊าา ” นางร้องครางออกมาทั้งที่ถูกเขาจูบอย่างดูดดื่ม นางรู้สึกยิ่งเสียวซ่านยิ่งขึ้นเมื่อเขาเลียไล้วนเวียนลงมาที่อกอวบใหญ่ของนางอีกครั้ง ใช้ปลายลิ้นดุนดันตวัดเน้นย้ำๆที่ปลายถันที่ชูชันแข็งเป็นไต ก่อนจะอ้าปากครอบครองเต้าอวบของนางจนเต็มปาก ดูดอย่างแรงและตวัดลิ้นเลียไล้ไปพร้อมๆกัน จนเหลียนฮวาแอ่นอกอวบขึ้นหาใบหน้าหล่อเหลาของเขาอย่างบ้าคลั่ง ปากก็ร้องครวญครางแทบจะขาดใจ เพราะนางเสียวเสียวเหลือเกิน มือบางนั้นทั้งกดศีรษะที่มีผมดกหนาและมีกว้านสีเงินครอบเอาไว้นั้นอย่างแรง กดจนศีรษะของเขาแนบชิดกับอกอวบของนาง กดให้แนบชิดไปกับสองเต้าของนางที่แอ่นเข้าหาเขาอย่างบ้าคลั่งเหลียนฮวาเสียวจนร่องอวบของนางเปียกแฉะไปหมด เผลอโยกสะโพกอวบร่อนขึ้นสูงอย่างหลงลืมตนไปหมดแล้ว เวลานี้นางต้องเขา ต้องการให้เขาสัมผัสร่องอวบของนางแทบจะบ้าอยู่แล้ว แต่ท่านอ๋องหนุ่มยังคงอยากจะปลุกปั่นนางให้ถึงที่สุด เขาคายอกอวบของนางออกจากปากหนาของเขา แล้วเลื่อนตัวลงต่ำไปอีก ต่ำลงไป จนกระทั่งลมหายใจร้อนผ่าวของเขารดที่เนินอวบของนาง มือหนาแหวกร่องอวบของนางออก แล้วใช้ริมฝีปากค่อยๆดึงเชือกที่ผูกบริเวณส
ในห้องหอที่มีการจัดกำยานชนิดพิเศษสำหรับค่ำคืนในการเข้าหอและมีการเตรียมสุราและอาหารมงคลเอาไว้เรียบร้อยแล้ว รอเพียงเจ้าบ่าวที่กำลังรับการดื่มอวยพรจากเหล่าคนสนิท และสหายสามสี่คนที่มาร่วมงานเลี้ยงฉลองสมรสที่รีบด่วนนี้ แม่นมเหลียนที่ยินดีนักที่ในที่สุดท่านอ๋องก็ยอมแต่งงานรับเหลียนฮวาเป็นพระชายาเอกของเขาเสียที เพราะทั้งสองมีหนังสือสมรสด้วยกันแล้ว แถมท่านอ๋องยังเป็นผู้ที่บังคับให้เหลียนฮวาลงนามด้วยตนเอง เป็นอันว่าเป็นนี้หลานสาวของนางกลายเป็นพระชายาอย่างถูกต้องของท่านอ๋องหรู่หยางที่กว่าจะรู้หัวใจตนเองก็เกือบจะสาย เมียรักเกือบจะหนีไปแต่งงานกับชายอื่นที่เห็นคุณค่าของนางกว่าเขา ( ตามแผนของพระสนมหยูนั่นเอง แต่ที่จริงไม่มีเจ้าบ่าวที่ไหนทั้งนั้น ) เมื่อเจ้าบ่าวเดินย่างกรายเข้ามาในห้องหอ เหลียนฮวาก็เบือนหน้าหนีเขาไปทางอื่นอย่างแสนงอน แม้จะรู้อยู่เต็มอกว่านางคงจะหนีเขาไปไม่พ้นแล้ว “ ฮวาเอ๋อ ในที่สุดเจ้าก็หนีเปิ่นหวางไม่พ้น เจ้าเป็นเมียของเปิ่นหวาง คิดจะหนีไปแต่งงานกับชายอื่น มันไม่มีทางเป็นไปได้ เปิ่นหวางไม่มีทางปล่อยเจ้าไป ต่อให้ต้องลากเจ้ากลับมา เปิ่นหวางก็จะทำ ”เขาเอ่ยด้วยน้ำเสีย
ท่านอ๋องหรู่หยางกำลังคิดหาทางจะทำเช่นไร ที่จะไม่ให้กระทบกระเทือนกับทุกฝ่าย และเขาเองก็จะไม่ต้องเสียเหลียนฮวาไป เขาตัดสินใจยอมให้เหลียนฮวาได้พักผ่อนอยู่ที่ตำหนักของพระมารดาไปก่อน ส่วนเขายอมกลับไปที่จวนเพื่อแก้ปัญหาเสียก่อนถึงจะไปรับนางกลับมาด้านพระสนมหยูเรียกแม่นมเหลียนเข้ามาปรึกษากันเรื่องบุตรชายที่ปากแข็งนัก ทำให้แม่นมเหลียยจำต้องเล่าความจริงทุกอย่างให้พระสนมฟัง พระสนมหยูถอนหายใจออกมา แต่แล้วก็ตัดสินใจเอ่ยว่า “ เจ้าลูกคนนี้ปากก็บอกว่าไม่ได้เป็นอะไรกัน แต่ก็ขัดขวางเขาเสียทุกทีที่เขาจะออกเรือนไป มันยังไงกันแน่ เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน เรามาวางแผนให้เจ้าคนปากแข็งยอมตัดสินใจเสียที ว่าตกลงจะเลือกใคร บอกว่าเลือกคุณหนูเมิ่ง แต่ก็มาวอแวเหลียนฮวาไม่หยุดหย่อน ถึงกับตามนางเข้ามานอนในตำหนักของข้าทั้งที่ร้อยวันพันปี ตั้งแต่โตเป็นหนุ่มก็ไม่คิดจะกลับเข้ามานอนในตำหนักแม่ ที่จริงตามสตรีมานี่เอง เอาละข้านึกออกแล้ว ให้เจ้าไปทำตามนี้ก็แล้วกัน ” แล้วพระสนมหยูก็ค่อยๆแจกแจงแฝนการพิสูจน์ใจของบุตรชายว่าเป็นเช่นใดกันแน่ ให้แม่นมเหลียนฟัง “ ดูสิว่าเจ้าลูกปากแข็งมันจะทำอย่างไร ส่วนข้าไม่รั