Share

3

last update Last Updated: 2024-11-10 09:53:02

ฮุยอินเป็นผู้เอ่ยขึ้น น้ำเสียงของนางนั้นระรื่นหูและก้องกังวานใสดุจระฆังหากสายตากลับคมวาววับยามจับจ้องไปยังพระธิดาโฉมงามผู้มาเป็นองค์ชายาปาอ๋องแห่งแคว้นหลู่ จางลี่มัวแต่มองไปรอบ ๆ ตำหนักใหญ่โตกว้างขวางและโดดเด่นด้วยการตกแต่งอันวิจิตร วั่งซูยังคงมีรอยยิ้มอ่อนโยนเช่นเดิม

“พระธิดา...ตำหนักนี้ต่อไปข้างหน้าถือว่ามันจะตกเป็นสมบัติของท่าน    มันเป็นตำหนักที่องค์ชายหลี่เจี๋ยทรงมีรับสั่งให้สร้างขึ้นเพื่อได้ชมภาพความงดงามของสายน้ำ ดอกไม้นานาชนิด มีเพียงผู้แทนการค้าจากต่างแคว้นที่ได้เข้ามาชื่นชมความงามหากองค์ชายมิเคยมีพระบรมราชานุญาติให้ผู้ใดมานอนพักผ่อนแม้เพียงชั่วยามของราตรี ขอให้ท่านได้รื่นรมย์กับความงามนี้ก่อนที่องค์ชายจะเสด็จมาถึง ส่วนตัวข้าขอตัวกลับไปยังวังหลวง ต้องขออภัยด้วยหากมีสิ่งใดที่ทำให้ท่านไม่สบายใจ”

“ขอบใจมาก ท่านวั่งซู มิมีสิ่งใดที่ข้าจะไม่สบายใจ แค่นี้ก็ถือว่าพวกท่านได้ตั้งใจทำอย่างเต็มที่แล้ว”

จางลี่กล่าวก่อนหันไปชื่นชมภาพสายน้ำและไม้ดอกเมื่อวั่งซูเดินออกไปจากตำหนัก แต่แล้วกลับต้องชะงักเมื่อได้ยินเสียงก้องหวานใส

“ตำหนักนี้สร้างขึ้นเพื่อประสงค์ขององค์ชายที่จะได้ชมภาพความงามของสายน้ำและดอกไม้ หากก็หาได้มีไว้เพื่อประสงค์เดียวไม่”

“ฮุยอิน...”

จางลี่หันกลับมาเห็นบุตรสาวของพระอาจารย์ยังยืนยู่ นางจ้องมองมายังพระธิดาผู้งดงามของฉีหวนกงและนางผู้ติดตามด้วยสายตาคมวับ รอยยิ้มเล็ก ๆ แต่น่ากลัวผุดขึ้นบนมุมปากอาบสีแดงชาด

“ท่านอยากรู้หรือไม่เล่าว่าองค์ชายสร้างตำหนักร้อยไหมขึ้นมาเพื่อประสงค์อื่นใดนอกจากที่ท่านพ่อของข้าบอกไป”

“ฮุยอิน...”

จางลี่ต้องประหลาดใจเมื่อเห็นฮุยอินเดินไปหยุดที่หน้าระเบียง นางเหลือบมองลงไปยังวังน้ำใต้ตำหนักตามสายตาของบุตรสาวพระอาจารย์วั่งซูที่จ้องมองลงไป น้ำเบื้องล่างใสแจ๋วและมีกอดอกไม้ลอยชูช่อบานเบ่งกระทั่งฮุยอินดึงดอกไม้ประดับผมของนางโยนลงไป

“ว๊าย!”

หลินเจินเป็นคนร้องออกมาเมื่อจู่ ๆ น้ำไหวกระเพื่อมรุนแรงและปรากฏจระเข้ตัวใหญ่โผล่หัวของมันขึ้นมางับดอกไม้ก่อนดำดิ่งหายไปแต่ก็หาใช่เพียงตัวเดียวไม่เพราะไม่ถึงชั่วลมหายใจก็มีจรเข้อีกสี่ห้าตัวโผล่ขึ้นมาจากน้ำแหวกว่ายไปมาในน้ำใต้ตำหนักร้อยไม้อันลือชื่อว่างามหนักหนายังความตระหนกแก่ทั้งจางลี่และนางกำนัลผู้ติดตาม หลินเจินลืมตัวเข้าไปจับมือเย็บเฉียบของนายหญิงด้วยความหวาดกลัว ฮุยอินหันกลับมาเห็นองค์ชายาหน้าซีดหากนางกลับเหยียดยิ้ม

“ต้องขออภัยที่ท่านพ่อของข้ามิได้ทูลให้พระธิดาได้ทราบว่าตำหนักร้อยไหมนี้นอกจากความงามวิจิตรอันเลือเลื่องแล้วก็ยังมีความน่ากลัวพอกัน”

“นี่มันหมายความว่าอย่างไร” หลินเจินตั้งสติได้จึงถามขึ้น “เหตุใดองค์ชายจึงให้พระชายาประทับอยู่ในสถานที่น่ากลัวเช่นนี้”

“ข้ามิรู้ดอกเพราะนั่นเป็นประสงค์ขององค์ชายหลี่เจี๋ย แต่ก็อยากให้องค์ชายาได้รับรู้ไว้เท่านั้นว่าหากมิมีความจำเป็นอันใดก็อย่าได้ลงไปเล่นน้ำใต้ตำหนักแห่งนี้”

พอฮุยอินกล่าวจบก็มีทหารเกือบสิบนายถืออาวุธเดินเรียงแถวเข้ามาแล้วยืนเรียงแถวบนสะพานทอดข้ามจากแผ่นดินเข้ามายังตำหนักร้อยไหม ดูแล้วเหมือนว่ามาถวายการดุแลความปลอดภัยหากแต่จางลี่กลับมิได้รู้สึกดั่งนั้นเลย นางเหลือบมองจระเข้ที่ว่ายวนในน้ำเพิ่มมากขึ้นอีกหลายสิบตัวก่อนหันกลับไปยังฮุยอิน

“จริง ๆ แล้วไม่จำเป็นต้องให้ทหารของหลู่อ๋องมาอารักขาข้ามากมายเช่นนี้เพราะข้าก็มีคนของข้าติดตามมาด้วย”

“ข้ามิอาจตอบเรื่องนี้ได้ ท่านควรถามองค์ชายหลี่เจี๋ยเพื่อความกระจ่างใจควรจะดีกว่า...ข้าขอตัวก่อน”

กล่าวจบนางก็หันหลังเดินจากไป ฮุยอินเดินกลับไปหาบิดาของนางที่นั่งรอบนเกี้ยวด้วยรอยยิ้ม นางขึ้นไปนั่งบนเกี้ยวของวั่งซูก่อนพระอาจารย์เป็นฝ่ายถามขึ้น

“เป็นอย่างไรบ้างฮุยอิน?”

“อะไรหรือคะท่านพ่อ...ถ้าหากเป็นองค์ชายาของหลู่อ๋องแล้วล่ะก็ความจริงท่านน่าจะให้ทหารของเราจับพวกนางโยนลงไปให้จระเข้ใต้ตำหนักร้อยไหมกินเสียให้สิ้นซาก”

“อย่าเพิ่งวู่วาม คิดการใหญ่ใจต้องนิ่ง พ่อบอกเจ้าหลายหนแล้วว่าการกระทำสิ่งใดเราต้องสงบจิตสงบใจและรอจังหวะเวลาอันเหมาะสม”

“นี่หรือคือเวลาเหมาะสม? ไหนท่านพ่อเคยสัญญาว่าจะผลักดันให้ข้าเป็นองค์ชายาขององค์ชาย แล้วเหตุใดเล่าท่านจึงเห็นดีเห็นงามเมื่อฉีหวนกงยกธิดาให้เป็นราชินีแคว้นหลู่”

“ใจเย็นไว้ฮุยอิน อย่าลืมว่าฉีหวนกงมีศักดิ์เป็นถึงพระปิตุลาขององค์ชายหลี่เจี๋ย”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ชายายอดเสน่หา   54

    จางลี่ครางหวิวหวาด หัวใจแทบขาดด้วยความกระสันเสียว นางก็คิดถึงเขาไม่ต่างกัน ระหว่างเขาและนางความอ่อนหวานราวกำซาบเข้าสู่หัวใจทั้งสองดวง เมื่อเขาดูดกลืนความหวานจากยอดบัวจนพอใจร่างอรชรจึงขยับหันหลังให้ หลี่เจี๋ยไล้ปลายลิ้นบนขมับลงมาถึงลำคอ แนบอกกว้างกับแผ่นหลังของนางจนสนิททุกสัดส่วน ความเป็นชายของเขาตื่นตัวและรุกเร้าอยู่บื้องหลังบั้นท้ายงอนงาม มือแกร่งสอดมาด้านหน้ากอบกุมปทุมถันทั้งสอง หลี่เจี๋ยเฟ้นฟอนไปตามไหล่กลมกลึงด้วยปากและปลายจมูกโด่ง“จางลี่...อาส์...พี่ต้องการเจ้า”เสียงแผ่วพร่าดังกว่ากระซิบยิ่งทำให้นางหวิววาบซาบซ่านก่อนที่เขาสอดมือข้างหนึ่งลงไปใต้เข่ายกเรียวขาของนางขึ้นและสอดใส่ความแข็งแกร่งเข้าสู่กลีบเนื้องามจากด้านหลัง“ท่านพี่...อะ...อาส์...อาส์...อืม...อาส์”“จางลี่...อาส์...อาส์”กษัตริย์หนุ่มหายใจหอบเมื่อแก่นเนื้ออวบหนาถูกบีบรัดจากกลีบผการุนแรง หลี่เจี๋ยขยับสะโพกแต่ไม่ลืมผ่อนเบาในบางจังหวะ ไม่ลืมว่าลึกเข้าไปคือชีวิตน้อย ๆ ขององค์รัชทายาทที่หลับใหลอยู่ในนั้น แม้ความปรารถนาถาโถมรุนแรงแต่จังหวะขยับโยกนั้นอ่อนหวานจนจางลี่สยิวซ่านไปทั่วเรือนกาย“ท่านพี่...อาส์...อาส์”นางตวัดแขนเร

  • ชายายอดเสน่หา   53

    “ใครหรือเพคะ?”“อำมาตย์ใหญ่อู๋อี้ฝาน และ...พระอาจารย์วั่งซู”จางลี่มีสีหน้าตกใจ นางพยายามลำดับเรื่องราวที่ไม่น่าเชื่อนั้น ดวงตางามเต็มไปด้วยคาวมสับสน“มันจะเป็นไปได้เช่นไร พระอาจารย์วั่งซูคือผู้ประสิทธิ์ประสาทวิชาให้ท่านพี่ และยิ่งกว่านั้นลูกสาวของพระอาจารย์ก็ยังได้รับการแต่งตั้งเป็นหวางเฟยองค์ใหม่อีกด้วย”“นั่นเป็นแผนที่ถูกวางไว้แล้วทั้งหมด เพราะพี่เองที่โง่งม มิเคยคิดระวังคนใกล้ตัว พี่ไว้วางใจพระอาจารย์ของตัวเอง เพราะเห็นวั่งซูมาแต่เล็กและอยู่ใกล้ชิดฮุยอินมาแต่ยังเยาว์ พี่ถือว่าเราคือครอบครัวเดียวกัน แต่คนเหล่านั้นมิเคยคิดแยกแยะ มีแต่ความโลภโมโทสัน สุดท้ายก็ต้องพบจุดจบของตัวเอง”“หม่อมฉันคิดว่าฮุยอินโชคดีแล้วที่ได้รับตำแหน่งหวางเฟยองค์ใหม่ นางคงรอโอกาสนี้มานับแต่ยังเยาว์”“ฮุยอินมิได้รู้เห็นกับการกระทำของพ่อตัวเอง แต่นางยุยงให้พี่เข้าใจผิด ขับเจ้าออกจากวัง และมันก็เข้าแผนของพวกกบฏ”“แล้วพระองค์ทำเช่นไรกับนางหรือเพคะ?”“นางได้รับโทษอย่าสาสมแล้ว ฮุยอินเอาตัวเข้ารับลูกธนูของพวกกบฏแทนพี่ ตอนนี้พระอาจารย์วั่งซูถึงกับสติฟั่นเฟือนที่ต้องสูญเสียลูกสาวคนเดียว”“นางรักท่านพี่ด้วยหัวใจบริสุทธิ

  • ชายายอดเสน่หา   52

    หลี่เจี๋ยเงียบไป เขาได้ยินเสียงสะอื้นไห้และแรงกระตุกของร่างเล็กในอ้อมแขน ความสำนึกผิดแล่นขึ้นมาจับหัวใจ เขากดศีรษะทุยของนางกับไหล่กว้าง มันเป็นช่วงเวลาที่ยากยิ่งสำหรับเขา แม้เป็นกษัตริย์ปกครองคนมากมาย เป็นเจ้าแห่งรัฐที่มิเคยอ่อนข้อให้ผู้ใดแต่วันนี้เขาขอวางเกียรติและความสูงส่งนั้นเพื่อเอาหัวใจรักของบุรุษผู้หนึ่งไว้แทบเท้าสตรียอดดวงใจในบัดนี้ “จางลี่” เสียงนั้นแผ่วลง “พี่รู้ว่าที่ผ่านมาได้ทำอะไรไว้กับเจ้าบ้าง หากเจ้าจะอภัยให้พี่”“อภัยหรือเพคะ?”จางลี่ขยับห่างเล็กน้อยแต่หลี่เจี๋ยไม่ยอมคลายวงแขนที่ยังกอดไว้แน่น นางยิ้มขื่น“พระองค์เป็นถึงหลู่อ๋อง จะให้หม่อมฉันซึ่งเป็นเพียงหญิงต่ำช้าในสายพระเนตรอภัยให้พระองค์เช่นนั้นหรือเพคะ หม่อมฉันมิกล้า แค่นี้ก็เกรงอาญาเหลือเกินแล้ว”“นิสัยช่างประชดประชันของเจ้าทำอย่างไรก็แก้ไม่หายเสียที แต่...สิ่งนี้มิใช่หรือที่ทำให้พี่รักเจ้ามากจนถอนใจไม่ขึ้น”“พระองค์ต้องการสิ่งใด” นางนิ่วหน้าเหมือนเจ็บปวด “วันก่อนหาว่าหม่อมฉันคบชู้ ขับไล่หม่อมฉันออกจากวัง แล้ววันนี้มาตามหาหม่อมฉัน มีประสงค์อันใดกันแน่”“จางลี่...”“หม่อมฉันรู้ตัวดีว่าเป็นแค่ธิดาของพระสน

  • ชายายอดเสน่หา   51

    “อยู่นิ่ง ๆ ...อย่าแม้แต่ขยับตัว”หลี่เจี๋ยสั่งด้วยเสียงทุ้มต่ำขณะร่างบางที่ยืนตรงหน้าสั่นเทา จางลี่ถึงกับน้ำตาไหลเมื่อสุนัขป่าค่อย ๆ ย่างเข้ามา มันกำลังดูเชิงและตั้งท่าหมอบลงเล็กน้อย ดวงตาแดงราวเปลวเพลิงคู่นั้นสะท้อนแสงวับวาว“กรี๊ด!!”จางลี่กรีดร้องสุดเสียงเมื่อมันกระโจนเข้าหาแต่ยังไม่ทันถึงตัวกลับถูกคมธนูปักเข้าที่กลางหน้าผากจนหงายหลังล้มฟุบลงกับพื้นเลือดทะลักออกมาแดงฉาน“จางลี่”หลี่เจี๋ยวิ่งเข้าไปประคองร่างบางที่ทรุดลงหมดสติในอ้อมแขนของเขาทั้งที่มือแกร่งอีกข้างกุมคันธนูไว้มั่น“จางลี่...จางลี่”เขาพยายามเรียกแต่กลับไม่ได้ยินเสียงตอบ จางลี่หมดสติไปแล้วด้วยความตื่นตกใจ เขากอดนางเอาไว้แนบอกและจูบบนหน้าผากมนชื้นเหงื่อขณะกระซิบ“น้องสาวของพี่...พี่มาช่วยเจ้าแล้ว และนับแต่นี้จะมิมีวันทอดทิ้งเจ้าไปไหนอีก”จางลี่รู้สึกตัวขึ้นมาอีกครั้งท่ามกลางความมึนงง นางค่อย ๆ ลืมตาตื่นและเห็นแสงสว่างสาดส่องไปทั่ว เมื่อรู้สึกตัวเต็มที่จึงเห็นเพดานคูหาถ้ำและเงาของใครคนหนึ่งวาบไหวไปมาบนนั้น นางค่อย ๆ พลิกตัวและมองเห็นแผ่นหลังกว้างของบุรุษผู้ซึ่งนางคุ้นเคย“องค์ชาย...”เสียงแหบเบาลอดออกมาจากริมฝีปากแห้งผา

  • ชายายอดเสน่หา   50

    จางลี่สะอื้นไห้ คิดถึงชีวิตแสนสุขสบายในวังหลวง นางอยู่แคว้นฉีมีแต่ความรื่นรมย์ มีเพียงเรื่องเดียวเท่านั้นที่ทำให้ต้องตัดสินใจเดินทางมายังเมืองหลู่ หากโอรสของพระชายาเอกมิต้องการได้นางเป็นอนุลับ ๆ นางอาจพบใครสักคนและมีชีวิตครอบครัวอยู่บ้านเกิดเมืองนอน แต่เมื่อคิดไปจางลี่กลับยิ่งรู้สึกเสียใจต่อความร้ายกาจของหลู่อ๋อง ก็ในเมื่อนางรักเขามากถึงเพียงนั้นจางลี่ยอมรับกับตัวเองแล้วว่านางรักองค์ชายหลี่เจี๋ย และยิ่งรู้ว่านางกับเขามิได้มีสายเลือดเดียวกันก็ยิ่งทำให้หลุดพ้นจากความคิดติดพันในเรื่องการเป็นญาติใกล้ชิดกัน นางเป็นอิสระที่จะรักเขา แต่แล้วราวสวรรค์แกล้งเมื่อไร้วาสนาได้ครองคู่เพราะความอิจฉาริษยาและยุแยงกลั่นแกล้งจากคนใกล้ตัวหลู่อ๋องชังนางยิ่งกว่าสิ่งใด ชาตินี้ถึงอย่างไรคงคงไร้วาสนาหนำซ้ำหากมิรีบหนีไปตอนนี้ลูกน้อยในครรภ์ก็อาจไม่มีโอกาสได้ลืมตาดูโลกก็เป็นได้ แต่แล้วจางลี่ก็ต้องระงับความคิดของนางเมื่อได้ยินเสียงอะไรบางอย่างดังเข้ามาใกล้ เป็นเสียงฝีเท้าม้าดังกุบกับ มีคนเข้ามาที่นี่เช่นนั้นหรือ นางค่อย ๆ ขยับตัวและเยี่ยมหน้าออกไปจากด้านหลังโขดหินใหญ่หากต้องตกใจเมื่อเห็นแสงจากคบไฟใกล้เข้ามา“หล

  • ชายายอดเสน่หา   49

    “มิเกี่ยวกับท่านดอก หวังหย่ง...ทำใจให้สบายเถิด ทำตามหน้าที่ของท่านนนั้นถูกต้องที่สุดแล้ว”โม่โฉวกล่าวจบก็ต้องประหลาดใจเมื่อเห็นหลู่อ๋องก้าวออกมาจากศาลเจ้าด้วยใบหน้าเคียดขึ้ง ทุกคนต้องรีบคุกเข่าลงอีกครั้ง“หวังหย่ง...ใยข้าจึงมิเห็นผู้ใดอยู่ในศาลเจ้า”“เป็นไปมิได้ดอกพะย่ะค่ะ หวางเฟยเพิ่งเข้าไปในศาลเจ้าก่อนหน้าที่พระองค์เสด็จมาเพียงครู่เดียวเท่านั้น”“ท่านหญิง...ท่านหญิงมิได้อยู่ในศาลเจ้าหรอกหรือเพคะ”หลินเจินหน้าตื่น นางลุกขึ้นและรีบวิ่งเข้าไปในศาลเจ้าก็เห็นแต่แท่นบูชาต่อหน้าเทพเจ้าที่มีเพียงร่องรอยธูปหลายอันปักในแจกันหากแต่เป็นธูปเก่าที่ไหม้จนหมดดอก มิมีอันใหม่ดังที่เข้าใจว่าพระธิดาจางลี่จะเข้ามาบูชาเทพเจ้าดังที่บอกไว้ เมื่อเห็นดังนั้นนางสนมก็ถึงกับหลั่งน้ำตา“พระธิดา...ไม่จริงหรอกนะเจ้าคะ...ท่านคงมิทำเช่นนั้น”“จางลี่อยู่ที่ไหน!”เสียงทรงอำนาจที่ดังขึ้นเบื้องหลังทำให้หลินเจินหันกลับไป นางทรุดลงนั่งและร้องไห้ออกมา“ฝ่าบาท...ฝ่าบาทเพคะ...พระธิดาของหม่อมฉันมิได้อยู่ที่นี่ พระธิดา...อาจจะหนีไปแล้วเพคะ”“ว่าอย่างไรนะ!”18วอนรักนั้นกลับคืนหลี่เจี๋ยชะงักงัน นัยน์ตาดำยาวรีสะท้อนความเจ็บปวด

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status