แชร์

บทที่ 193

ผู้เขียน: เย่ชิงขวง
"เขารอบรู้มีความสามารถไม่ใช่หรอกหรือ ใช้ฝีมือลายมือของตนหาเงินไม่ได้หรืออย่างไร ถึงต้องไปทำงานไร้เกียรติเช่นนั้น"

"นี่แค่เล็กน้อย เขายังเป็นนักบรรเลงฉินให้หออู๋โย่วด้วยนะ พวกเจ้ายังจำได้ใช่หรือไม่ ช่วงก่อนหน้านี้หออู๋โยวมีนักบรรเลงฉินที่ฝีมือดีมากมาใหม่ บรรเลงแค่คืนละเพลง เพราะการมาของนักเบรรเลงฉินผู้นั้น กิจการของหออู๋โยวจึงรุ่งเรืองขึ้นมาก นักบรรเลงฉินคนนั้นก็คือเยี่ยเฟิง"

"ว่าอย่างไรนะ...เป็นไปได้อย่างไร...เยี่ยเฟิงดูเฉยชาเย่อหยิ่ง เขาจะไปเป็นนักบรรเลงฉินในที่อย่างหออู๋โยวได้อย่างไร เจ้าต้องเข้าใจผิดแน่"

"คนเรารู้หน้าไม่รู้ใจ เจ้ารู้ได้เช่นไรว่าเขาจะไม่ไป"

คนในสำนักบัณฑิตต่างก็พากันรุมล้อมเข้ามาด้วยความสงสัย เอ่ยถามด้วยความประหลาดใจ "เป็นความจริงหรือ เจ้าไม่ได้พูดเหลวไหลใช่ไหม"

"อนุบ้านบ้านแปดที่เรือนข้าเพิ่งรับเข้ามาเป็นดาวเด่นประจำหออู๋โย่ว นางเห็นภาพเหมือนของเยี่ยเฟิงแล้วบอกกับข้าเอง ตอนแรกข้าก็ไม่เชื่อ ข้าจึงนำภาพไปที่หออู๋โยว พวกเจ้าทายดูว่าเป็นเช่นไร คนที่หออู๋โยวต่างก็บอกว่าคนผู้นั้นคือเยี่ยเฟิง นักบรรเลงฉินของพวกเขา"

ซู่...

ทุกคนต่างตกตะลึง

เท่าที่พวกเขารู้ เพียงแค่ท
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 194

    หลี่เหิงพูดยังไม่ทันจบ ทว่าได้ยินเพียงแค่เสียงกระแทกพื้นดังตุบตับอย่างแรงหลังจากนั้นก็มีเสียงร้องโหยหวนประหนึ่งหมูถูกเชือดตามมาเขาเงยหน้าขึ้นไปทันที ทว่ากลับเห็นเหล่าพรรคพวกของตนไม่รู้ว่าถูกกู้ชูหน่วนทุ่มออกไปตั้งแต่เมื่อใด แต่ละคนต่างก็กำลังกอดแขนกอดขาพลางส่งเสียงร้องโอดโอยนี่มัน...นางทำได้เยี่ยงไรสหายทั้งกลุ่มของเขาล้วนแต่มีศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวกันหมดกู้ชูหน่วนค่อยๆ เยื้องย่างมาตรงหน้าเขาทีละก้าว แสยะหัวเราะ "เจ้าจะไสหัวออกไปเอง หรือจะให้ข้าโยนเจ้าออกไป"หลี่เหิงกลืนน้ำลายอึกๆ "ข้าบอกเจ้าไว้เลย ข้าเป็นถึงคุณชายสายตรงแห่งจวนกั๋วกง...อ้าก..."ยังไม่ทันสิ้นเสียง หลี่เหิงก็ถูกกู้ชูหน่วนโยนออกไปนอกหน้าต่างราวกับลูกไก่ตัวน้อย ร่างกระแทกกับพื้นอย่างแรง เจ็บจนหน้าตาเหยเก"เจ้าทำข้าเจ็บนัก กู้ชูหน่วน นังบ้า ข้า...""เพี้ยะๆๆๆ..."กู้ชูหน่วนฟาดฝ่ามือซ้ายขวาสลับกันลงไปบนหน้าใบหน้าเขาสิบกว่าทีในคราวเดียว ทำเอาหลี่เหิงกลายเป็นหมูหันไปเสียตรงนั้น"น้องสาม นี่เจ้ากำลังทำอะไร สำนักบัณฑิตห้ามไม่ให้มีเรื่องทะเลาะวิวาทส่วนตัว เจ้าทำเช่นนี้จะถูกไล่ออกจากสำนักบัณฑิตได้ อาจารย์ทุกท่าน

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 195

    กู้ชูหน่วนสางผมที่ถูกลมพัดปลิวไม่เป็นทรง ราวกับได้ยินเรื่องตลกไร้สาระก็ไม่ปาน ดวงตาเรียวยาวแต้มรอยยิ้ม ชี้ไปที่หลี่เหิงด้วยท่าทางหยิ่งยโส "ให้ข้าขอโทษเขาหรือ ท่านอาจารย์ เกรงว่าท่านจะพูดกลับกันเสียแล้ว""กู้ชูหน่วน พวกข้าไม่ได้พูดจาว่าร้ายเจ้า แล้วก็ไม่ได้ทำร้ายเจ้า เป็นเจ้าเองที่เข้ามาถึงก็ลงมือทำร้ายกันก่อน เหตุใดพวกข้าต้องขอโทษเจ้าด้วย""เจ้าไม่ได้พูดจาว่าร้ายข้า แต่พวกเจ้าดูหมิ่นหยามเกียรติเยี่ยเฟิงอย่างโจ่งแจ้งเปิดเผย ทำลายชื่อเสียงของเยี่ยเฟิง นี่ไม่ควรต้องขอโทษหรืออย่างไร""เดิมทีเยี่ยเฟิงก็เป็นนักบรรเลงฉินของหออู๋โยวอยู่แล้ว พวกข้าก็แค่พูดความจริง""เพี้ยะ..."ฝ่ามือหนึ่งฟาดเข้าไปอีกครั้งฟันของหลี่เหิงหักสามซี่ เจ็บจนเขาเกือบจะเป็นลมหมดสติไป"สามหาว กู้ชูหน่วน เจ้าบังอาจยิ่งนัก ต่อหน้าอาจารย์ เจ้ายังกล้าอวดดีเช่นนี้ คิดว่าพวกข้าไม่กล้าไล่เจ้าออกจริงๆ ใช่ไหม""เช่นนั้นท่านก็ไล่ข้าออกเลยเถอะ สถานที่ห่วยๆ เช่นนี้ เชิญให้ข้ามา ข้ายังไม่อยากมาเลย""เจ้า...ท่านผู้อาวุโส คนเช่นนี้ หากไม่ไล่ออก ชื่อเสียงของสำนักบัณฑิตหลวงจะยังเหลืออยู่อีกหรือ"เหล่าผู้อาวุโสดวงตาเป็นประกาย

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 196

    "เจ้าสำนักถูกปาดคอ ไม่รู้ว่าพวกท่านได้สังเกตอย่างละเอียดแล้วหรือไม่ ที่รอยแผลบนลำคอของเจ้าสำนัก แม้จะใกล้เคียงกันหมด แต่หากตรวสอบดูดีๆ ก็จะเห็นว่ารอยแผลฝั่งขวาลึกฝั่งซ้ายตื้น ซึ่งก็หมายความว่า เขาถูกสังหารด้วยดาบมือซ้าย รอยมีดที่คออาจารย์หรงก็เช่นกัน"อาจารย์สวีกระซิบกับอาจารย์ฉางและผู้อาวุโสอีกหลายท่านเสียงเบาๆ "นักชันสูตรทำการพิสูจน์อยู่นาน ถึงได้พบว่ารอยมีดบนคออาจารย์หรงและเจ้าสำนักล้วนแต่ขวาลึกซ้ายตื้น มีความเป็นไปได้อย่างยิ่งว่าผู้ที่ถนัดซ้ายเป็นคนลงมือฆ่า"เสียงเขาไม่ดังมาก แต่คนจำนวนไม่น้อยที่อยู่ตรงนั้นต่างก็ได้ยินกันหมดกู้ชูอวิ๋นเอ่ยเบาๆ "หากเยี่ยเฟิงจงใจปิดบังว่าตนเองถนัดซ้ายเล่า"เหล่าบัณฑิตในสำนักบัณฑิตต่างพากันเออออเห็นด้วย"หากเยี่ยเฟิงมีเป้าหมายในการมาที่สำนักบัณฑิต เช่นนั้นเขาปกปิดความจริงที่ว่าตนถนัดซ้ายไว้ตั้งแต่แรกก็ไม่ใช่เรื่องแปลก"กู้ชูหน่วนยิ้มเยาะ "หากเขาต้องการปิดบัง หากเขาเป็นคนร้ายจริง เหตุใดตอนที่ฆ่าคนกลับไม่ปกปิดใบหน้าตนเอง ทว่ากลับปล่อยให้พวกเจ้าเห็นโฉมหน้าของเขาได้""บางทีเขาอาจจะนึกถึงจุดนี้ได้ตั้งแต่แรกแล้ว จึงจงใจเปิดเผยใบหน้า เพื่อจะได้พิสูจน์

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 197

    เงยหน้าขึ้นไป กลับเห็นเยี่ยเฟิงอยู่ในชุดสีฟ้าทั้งตัวกำลังค่อยๆ เยื้องย่างเข้ามาช้าๆ จากที่ไม่ไกลออกไปท่าทางของเขาสง่างาม โดดเด่นเกินคนธรรมดา เรือนผมดำขลับพริ้วไหวล้อกับสายลม รับกับใบหน้าที่งดงามไร้ที่ติของเขา ราวกับเทพมาจุติ งามจนคนหยุดหายใจทันทีที่เขาปรากฏตัว ยอดฝีมือของสำนักบัณฑิตก็พากันเข้ามาล้อมเขาไว้ ประหนึ่งพบศัตรูตัวฉกาจ จ้องมองเขาด้วยความระวังตัวอาจารย์ฉางโกรธเกรี้ยว "เจ้าก็คือเยี่ยเฟิงหรือ เจ้าฆ่าเจ้าสำนักและอาจารย์หรง แล้วยังกล้ากลับมา วันนี้ไม่ว่าอย่างไร ข้าจะต้องเอาชีวิตเจ้ามาชดใช้ให้เจ้าสำนักให้ได้ ใครก็ได้เข้ามาจับเยี่ยเฟิง""ใครกล้าแตะต้องเขา ข้ามศพข้าไปก่อน"กู้ชูหน่วนเดือดดาล รังสีอาฆาตครุกรุ่นออกมาจากร่างนางอายุไม่มาก ทว่ากลับมีพลังแกร่งกล้า โดยเฉพาะดวงตาด้านนอกผ้าคลุมคู่นั้น เยือกเย็นจนน่ากลัว เด็ดขาด ดุดันทุกคนเกิดสั่นกลัวขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุช่างเป็นพลังงานที่รุนแรงยิ่งนักหญิงผู้นี้เป็นเพียงแค่พวกไร้ประโยชน์ที่ไม่มีวิทยายุทธใดๆ เลยแม้แต่น้อยจริงหรือเหตุใดพวกเขาถึงได้รู้สึกสั่นสะท้านไปถึงจิตวิญญาณไม่รู้ว่าอาจารย์ซ่างกวานปรากฏตั้งแต่เมื่อใด น้ำเส

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 198

    หลี่เหิงตะลึงงัน "ท่านผู้อาวุโส ท่านไม่ได้เข้าใจผิดใช่หรือไม่"ผู้อาวุโสเฉินสีหน้าอึมครึม "ทำไม เจ้าสงสัยในวิชาการแพทย์ของข้า หรือสงสัยในมนุษยธรรมของข้า""ข้า...ข้าไม่บังอาจ...แต่...""ข้าก็พอจะเข้าใจวิชาการแพทย์อยู่บ้าง ให้ข้าลองดูหน่อยเถิด" อาจารย์สาวอีกคนเดินออกมา นางเป็นอาจารย์สาวเพียงคนเดียวในสำนักบัณฑิต เดิมทีก็เป็นที่รู้จักได้เพราะวิชาการแพทย์ อีกทั้งนางยังเที่ยงตรงมาโดยตลอดได้นางเป็นผู้ตรวจชีพจร ทุกคนก็จะยิ่งมั่นใจมากขึ้นอาจารย์ซู่จับชีพจรของเยี่ยเฟิง ใบหน้าที่นิ่งสงบพลันเปลี่ยนไปอย่างชัดเจน มองเยี่ยเฟิงที่หน้าขาวซีดด้วยประหลาดใจคาดไม่ถึงเช่นเดียวกับผู้อาวุโสเฉิน ดวงตาที่ดูตกตะลึงคู่นั้นปิดไว้ไม่อยู่ทุกคนพากันสงสัยก็แค่ตรวจชีพจรเองไม่ใช่หรือเหตุใดถึงได้มีท่าทีตกตะลึงถึงเพียงนี้ อีกอย่าง ดูเหมือนจะยังมีท่าทางเห็นใจ...อาจารย์ฉางกล่าวด้วยความร้อนรน "เป็นเช่นไร"อาจารย์ซู่พยายมาสงบจิตที่ฟุ้งซ่านของตนเอง แล้วเอ่ยช้าๆ "มือซ้ายของเยี่ยเฟิง ตั้งแต่นิ้วมือไปถึงข้อมือ เคยผ่านการถูกหักกระดูกมาไม่ใช่เพียงแค่ครั้งเดียว มือซ้ายของเขาไร้เรี่ยวแรง ไม่สามารถใช้มีดได้ คนร้ายไม่มี

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 199

    "แม่เจ้า ยัยขี้เหร่ เหตุใดพวกเจ้ายังอยู่ที่นี่ ใต้เท้าม่อส่งคนจำนวนมากไปที่เสี่ยวเหอชุน ข้าได้ยินมาว่าพวกเขาตั้งใจจะจับยายของเยี่ยเฟิงมาสอบสวนอย่างเข้มงวด" เซียวอวี่เชียนวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาสีหน้าของเยี่ยเฟิงพลันเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด ร่างกายสั่นเทาจนไม่อาจควบคุมได้ "เช่นนั้นท่านยายของข้าล่ะ ถูกจับแล้วหรือ""น่าจะ...ยังไม่...""ฟึบ..."พริบตาเดียว เยี่ยเฟิงหายวับราวกับสายลม อยู่ไกลออกไปหลายเมตรหากไม่ใช่เพราะยอดฝีมือของสำนักบัณฑิตล้อมเขาไว้ เกรงว่าเขาคงจะหายไปจากสายตาตั้งนานแล้วผู้อาวุโสเฉินโบกมือ พลางเอ่ยปาก "ปล่อยเขาไปเถอะ"ทันทีที่ยอดฝีมือของสำนักบัณฑิตหลีกทาง เยี่ยเฟิงก็หายตัวไปทันทีอาจารย์ฉางไม่พอใจ เริ่มบ่นอุบๆ อิบๆกู้ชูหน่วนโบกมือเรียกเซียวอวี่เชียนด้วยหน้าตาเคร่งเครียด "เสี่ยวเชียนเชียน พวกเราก็ไปที่เสี่ยวเหอชุนดูหน่อยเถอะ"พูดจบ ไม่รอให้เหล่าอาจารย์ตอบตกลง พวกเขาก็วิ่งเหยาะๆ ออกไปจากสำนักบัณฑิตเรียบร้อยแล้ว"ไม่เคารพอาจารย์ ไม่เคารพอาจารย์เอาเสียเลย ท่านผู้อาวุโส นักเรียนที่ดื้อรั้นเช่นนี้ ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องไล่ออก""ถึงเวลาเข้าเรียนแล้ว ทุกคนแยกย้าย" ผู้อาวุ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 200

    ผิดกับความปลาบปลื้มดีใจของเหล่าชาวบ้าน เยี่ยเฟิงกลับมีสีหน้าเฉยชา ราวกับว่าทุกสิ่งที่พวกเขาพูดไม่เกี่ยวกับเขาเหล่าชาวบ้านมองเยี่ยเฟิงด้วยสายตาเลื่อมใสศรัทธา พลางพูดคุยกับเขาหลายประโยคทว่าหลานของหัวหน้าหมู่บ้านกลับขัดจังหวะความยินดีของพวกเขา"พี่เยี่ยเฟิง เหตุใดพวกเขาถึงบอกว่าพี่ฆ่าคนล่ะ"รอยยิ้มของหัวหน้าหมู่บ้านชะงักงัน แววตาที่ขุ่มมัวเริ่มเกิดความกังวล "นั่นสิ เหตุใดพวกเขาถึงบอกว่าเจ้าฆ่าคน เพราะคนเหล่านั้นเห็นว่าเจ้าไม่มีทางสู้ถึงได้โยนความผิดมาที่เจ้าหรือ""เยี่ยเฟิง เรื่องนี้พอจะมีหนทางอธิบายให้ชัดเจนไหม หากไม่มีหนทาง เช่นนั้นเจ้าก็รีบหนีไป อีกาทั้งใต้หล้าดำเหมือนกันหมด พวกข้าหลวงเหล่านั้นส่วนใหญ่ไม่ใช่คนดีอะไร ชอบรังแกชาวบ้านสามัญชนอย่างพวกเรา""สำนักบัณฑิตสอบสวนจนกระจ่างแล้ว คนร้ายไม่ใช่ข้า เชื่อว่าไม่นานข่าวก็น่าจะไปถึงราชสำนัก""จริงหรือ หากเป็นเช่นนั้นจริงก็ดี เยี่ยเฟิง เจ้ารู้หรือไม่ สำนักบัณฑิตหลวงเป็นถึงสถานที่บรรดาผู้มีความสามารถล้วนแต่ใฝ่ฝั่น ขอเพียงแค่ออกมาจากที่นั่น ต่อไปจะต้องได้เป็นขุนนางใหญ่ เจ้ามีอนาคตที่ดี พวกข้าก็ไม่ต้องเป็นห่วงพวกเจ้าแล้ว"กู้ชูหน่วนแล

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 201

    ณ จุดพักม้าราชทูตแคว้นจ้าวกู้ชูหน่วนกระโดดกำแพงข้ามไป ก่อนจะแอบเข้าไปในห้องนอนของอี้เฉินเฟยนางยืนกอดอกพิงประตูอยู่ด้านนอก ใบหน้าเผยให้เห็นรอยยิ้มเอื่อยเฉื่อย มองดูอี้เฉินเฟยที่กำลังอาบน้ำอยู่หมอกไอน้ำอบอวล สายตาที่คู่หนึ่งจ้องมองไปที่เขาโดยไม่ปิดบัง ยากที่อี้เฉินเฟยจะไม่รู้สึกตัว เขากำลังหันหลังให้กู้ชูหน่วน มุมปากยกยิ้มฝืดเฝื่อน"คุณหนูสาม เจ้าบุกเข้ามาถึงจุดพักม้ากลางดึกเช่นนี้ เพื่อมาดูข้าอาบน้ำหรอกหรือ""ภาพชายรูปงามอาบน้ำ คงจะเจริญตาน่าดู"อี้เฉินเฟยหน้าแดงก่ำทั้งร่างของเขาเปลือยเปล่า กู้ชูหน่วนยืนพิงประตูอยู่ด้านนอกด้วยเครื่องแต่งกายที่เป็นระเบียบครบถ้วน จ้องเขาตาไม่กระพริบ ช่างทำให้เขาอึดอัดยิ่งนักเขากระอักอระอ่วน "จะให้ข้าเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนได้หรือไม่""เจ้าเปลี่ยนของเจ้าไป ข้าไม่ได้ขวางเจ้าเสียหน่อย""……"นางยืนจ้องเขาอยู่ตรงนั้น จะให้เขาเปลี่ยนได้อย่างไรระหว่างที่กำลังกลัดกลุ้ม กู้ชูหน่วนกลับหันหลังกลับไปทันควันหางตาอี้เฉินเฟยฉายแววประหลาดใจปราดหนึ่งหลายวันก่อน นางผู้นี้ยังมีท่าทีออกนอกหน้าชัดเจนขนาดนั้น วันนี้ได้โอกาสทั้งที เหตุใดนางถึงไม่เกี้ยวเขาสักหน

บทล่าสุด

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 476

    “เจ้าจงไปตายเสียเถิด” ใบหน้าหล่อเหลาเย็นชาของเยี่ยเฟิงเต็มไปด้วยความเกลียดชัง เขาดึงดาบออกมาอย่างแรง เลือดสีแดงสดของนายท่านหลันพุ่งทะลักไปทั่ว สาดกระเซ็นมาบนใบหน้าขาวซีดของเยี่ยเฟิง ทำให้สายตาของเขาเลือนลาง ทว่าวินานี้ เยี่ยเฟิงกลับเห็นชัดแจ้งกว่าผู้ใด ดวงตาที่เต็มไปด้วยความอาฆาตแค้นคู่นั้นสะท้อนสีหน้าตกตะลึงของนายท่านหลัน “เจ้ากล้าฆ่าข้าเลยรึ...เจ้าคือผู้ที่ฆ่าเลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็กจนโต เหตุใดถึงกล้าฆ่าข้าได้ เฮือก...” สิ่งที่ตอบแทนนายท่านหลันกลับมาคือการแทงด้วยกระบี่เข้าไปอีกครั้งอย่างไร้เยื่อใยจากเยี่ยเฟิง นายท่านหลันถูกแทงติดกันสองครั้ง ร่างกายเจ็บปวดราวกับใจจะขาด แต่เขากลับไม่รู้สึกอะไรเลย เพียงแค่จ้องมองเยี่ยเฟิงด้วยความโกรธแค้น จากความรู้สึกเหลือเชื่อในตอนแรก กลายเป็นปวดร้าว ไปจนถึงโกรธเกลียด เยี่ยเฟิงแสยะหัวเราะเบาๆ “ข้าคือผู้ที่เจ้าเลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็กจนโต ? เลี้ยงดูงั้นรึ เหอะ...เลี้ยงดูที่เจ้าหมายถึงคือทรมานข้าทุกวันทุกเวลา หน้าหนาวปล่อยให้ข้านอนเปลือยกาย หิวโหยอยู่บนพื้นหิมะ หน้าร้อนแขวนข้าไว้ใต้แสงอาทิตย์ไม่ให้กินดื่มเป็นเวลาหลายวัน ทั้งยังลงโทษอย่างหน

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 475

    นายท่านหลันที่เดิมก็กระสับกระส่ายจนทำอะไรไม่ถูก เพราะการเข้ามามีส่วนร่วมของกู้ชูหน่วน ทำให้มีบาดแผลเพิ่มขึ้นอีกหลายแผล "ฟึบ..." อาวุธลับของกู้ชูหน่วนเชื่องช้า ทว่าพุ่งออกมากลางอากาศแล้วความเร็วกับเพิ่มกะทันหัน พริบตาเดียวเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว อาวุธพุ่งเข้าที่หน้าอกของนายท่านหลัน ฝังลึกในร่างกาย เขาอยากจะตอบโต้ ทว่ากลับถูกต้อนจนจนมุม ไม่มีช่องว่างให้โจมตีกลับได้เลยแม้แต่น้อย ขืนเป็นเช่นนี้ต่อไป เขาคงต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย นายท่านหลันรู้สึกสิ้นหวังยิ่งกว่าเดิม หวังแค่ว่านายท่านหมู่ตานและคนอื่นๆ จะรีบมาถึงโดยเร็ว ไม่เช่นนั้นชีวิตของเขาคงต้องจบลงตรงนี้แล้ว กู้ชูหน่วนและอี้เฉินเฟยยิ่งร้อนรน ลำพังเพียงแค่เขาคนใดคนหนึ่งต่างก็ไม่อาจสังหารนายท่านหลันได้ ยามนี้วิทยายุทธของกู้ชูหน่วนแข็งแกร่งไม่พอ อี้เฉินเฟยทั้งเจ็บสาหัสและป่วยหนัก เว้นเสียแต่พวกเขาร่วมมือกัน แต่บาดแผลของอี้เฉินเฟยรุนแรงเกินไป อาจต้านทานไม่ไหวได้ทุกเมื่อ หากเขาทนไม่ไหว เช่นนั้นสถานการณ์การต่อสู้ครั้งนี้จะพลิกผันทันที เสียงขลุ่ยเปลี่ยนไป ราวกับกลองรบคำราม กึกก้องหนักแน่น ดาบที่พุ่งใส่นายท่านหล

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 474

    ใบหูของกู้ชูหน่วนพลันกระดิก นางรับรู้ได้ถึงไอสังหารของนายท่านหลันแล้ว เพียงแต่ความเร็วของนางยังไม่เปลี่ยน ยังคงรวบรวมกำลังภายในทั้งหมดกระแทกใส่นายท่านเถาฮวา สองนายท่านแห่งกองธงร่วมมือกันโจมตี นางถูกหนีบอยู่ตรงกลาง ไม่มีหนทางจะชนะได้เลย หากเป็นเช่นนี้ ไม่สู้จัดการไปทีละคน สังหารนายท่านเถาฮวาก่อน ค่อยหันไปจัดการนายท่านหลัน ขณะเดียวกัน นางเองก็เชื่อ เชื่อว่าอี้เฉินเฟยไม่มีทางปล่อยให้นางตายอย่างทุกข์ทรมานด้วยน้ำมือของนายท่านหลัน "เฮือก..." นายท่านเถาฮวาไม่มีที่ให้หลบได้อีก ถูกพลังจากฝ่ามือของกู้ชูหน่วนโจมตี ร่างกายราวกับว่าวที่สายขาด กระเด็ดกลับไป สุดท้ายชนเข้ากับหินก้อนโตอย่างแรง เลือดอาบหินก้อนนั้นจนชุ่ม ความเร็วของกู้ชูหน่วนยังไม่เปลี่ยน ถีบลูกเตะออกไปทำให้นายท่านเถาฮวาพลัดตกหน้าผาร่วงไปยังทะเลโลหิตด้านล่าง ความแข็งแกร่งของนางอยู่เพียงแค่ขั้นหนึ่งชั้นกลาง แต่พละกำลังที่นางระเบิดออกมากลับแกร่งกว่าขั้นสอง นายท่านเถาฮวาผู้น่าสงสารจึงต้องตายไปเพราะกู้ชูหน่วนที่วิทยายุทธด้อยกว่าเขามาก ขณะเดียวกัน กระบวนท่าไม้ตายของนายท่านหลันก็พุ่งเข้ามาถึง อี้เฉินเฟยยกมือขวาขึ้นมา

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 473

    "ในเมื่อเจ้าพูดยากขนาดนี้ เช่นนั้นก็คงต้องทำลายแก้วมังกรทิ้งเสีย ถึงอย่างไรหากต้องตาย มีแก้วมังกรฝังไปด้วยกันก็ไม่เลว" กู้ชูหน่วนพูดพลางเล็งอาวุธลับไปที่ดอกกุหลาบอีกครั้ง นายท่านหลันหน้าถอดสีอย่างรุนแรง นางผู้นี้ไม่เคยทำอย่างที่คนปกติเขาทำกันเลย หากนางยิงแก้วมังกรบนดอกกุหลาบร่วงลงทะเลโลหิตจริง เช่นนั้นก็จะกลายเป็นความสูญเสียที่ไม่อาจย้อนกลับคืนมาได้อีก แม้อี้เฉินเฟยจะรู้ว่ากู้ชูหน่วนไม่มีทางทำให้แก้วมังกรร่วงหล่นทะเลโลหิตไปจริงๆ แต่เห็นแล้วก็ยังรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนอยู่ดี "ผลไม้สีแดงเพลิงของที่นี่มีฤทธิ์ในการรักษาอาการบาดเจ็บ เพียงแค่กินเข้าไปไม่กี่ลูก ก็จะสามารถฟื้นฟูได้ ซึ่งก็คือผลไม้ในมือเจ้าเมื่อครู่นั่นแหละ" "เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าผลไม้นี่สามารถรักษาอาการบาดเจ็บได้" "กู้ชูหน่วน ข้าขอเตือนเจ้าว่าอย่าถามให้มากนัก" เขาจะบอกกู้ชูหน่วนได้อย่างไรว่า เขาไม่ได้กินอะไรมาหลายวัน เพราะความหิว จึงเด็ดผลไม้มากิน คิดไม่ถึงว่าวิทยายุทธจะได้รับการฟื้นฟูกลับมาแบบงงๆ กู้ชูหน่วนคลี่ยิ้มมีเลศนัยให้เขา เช็ดผลไม้ในมือ ก่อนจะยื่นให้อี้เฉินเฟยพลางจ้องมองนายท่านหลันด้วยท่าทีระวังตั

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 472

    ไม่ไกลออกไป มีเสียงอาวุธกระทบดังขึ้นมาไม่หยุด หลังจากนั้นก็มีเสียงหินแตกกระจายและระเบิดในที่สุด กู้ชูหน่วนถือผลไม้สีแดงเพลิงที่เพิ่งเด็ดออกมาจากต้นเอาไว้ในมือ พลางฟังเสียงความเคลื่อนไหวอย่างละเอียด "มีเสียงกางและหุบพัด ทั้งยังมีเสียงอาวุธลับกลีบดอกไม้อีกบางส่วน น่าหลันหลิงรั่วกำลังต่อสู้กับนายท่านหมู่ตานเผ่าหมอ น่าแปลก คนเผ่าหมอบาดเจ็บหนักไม่ใช่หรือ เหตุใดถึงได้มีพละกำลังแข็งแกร่งเพียงนี้ น่าหลันหลิงรั่วอาจจะสู้พวกเขาไม่ได้" กู้ชูหน่วนพึมพำคนเดียว นางอยากไปดูด้วยตัวเอง ทว่าอี้เฉินเฟยยังอาการสาหัสขนาดนั้น หากฝืนประครองเขาไป มีแต่จะทำให้อาการเขาแย่กว่าเดิม แต่น่าหลันหลิงรั่วหากไม่ใช่เพราะช่วยนาง ก็คงไม่ต้องตกลงมายังที่แห่งนี้ แม้อี้เฉินเฟยจะบาดเจ็บสาหัสทั้งยังป่วยหนัก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะฟังอะไรไม่ออกเลย สามารถใช้พลังกระแทกหินก้อนโตให้แตกได้เป็นก้อนๆ ต่อให้พละกำลังยังไม่ฟื้นฟูกลับมาทั้งหมด แต่เกรงว่าจะกลับมาถึงเจ็ดแปดส่วนแล้ว นายท่านหมู่ตานและนายท่านเถาฮวาล้อมโจมตีน่าหลันหลิงรั่ว กลัวแต่ว่าน่าหลันหลิงรั่วจะสู้พวกเขาไม่ไหว อี้เฉินเฟยเอ่ยอย่างเบาแรง "คนที่เจ้

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 471

    กู้ชูหน่วนฟังด้วยความมึนงง ในเมื่อเกิดมาสูงศักดิ์ เหตุใดถึงได้ถูกปฏิบัติด้วยเช่นนั้น "เป็นหน้าที่แบบใดกันแน่" "หน้าที่ที่หนักมาก หนักอึ้งเสียจนหายใจไม่ออก" "เช่นนั้นตอนนี้นางอยู่ที่ใด" "ข้าก็ไม่รู้ว่านางไปอยู่ที่ใดแล้ว แต่ข้าเชื่อ ว่าอีกไม่นานนางจะกลับมา แค่กแค่ก..." ไม่รู้เพราะพูดมากเกินไปหรือไม่ อี้เฉินเฟยไอออกมาเป็นเลือดอีกครั้ง พลังชีวิตในร่างหายไปอย่างรวดเร็ว กู้ชูหน่วนเริ่มร้อนใจ คำถามมากมายที่กระจุกอยู่ภายในใจไม่อาจถามได้อีกต่อไป ทำได้เพียงแค่เอ่ยออกไป "ท่านอย่าเพิ่งพูดเลย พักผ่อนเถอะ" "อาหน่วน...หากวันใดที่ข้าไม่อยู่แล้ว เจ้าจะต้องมีชีวิตอยู่ต่อไปอย่างดี" "ท่านพูดเหลวไหลอะไร ท่านดูสิ ข้าพบแก้วมังกรเขียวแล้ว พวกท่านหาพบสี่ลูกแล้วไม่ใช่หรือ บวกกับลูกนี้ก็เป็นห้า ขอแค่หาเพิ่มอีกสองลูก อาการป่วยของท่านก็จะรักษาหายแล้ว" กู้ชูหน่วนหยิบแก้วมังกรขนาดเท่าไข่นกพิราบออกมา ดวงตาใสเป็นประกายฉายแววยิ้ม ดวงตาของอี้เฉินเฟยกำลังยิ้ม ทว่าในใจกลับขมขื่น แก้วมังกรลูกเดียว ต้องใช้ความพยายามของคนตั้งกี่รุ่น ถึงจะเจอเบาะแส หาง่ายเช่นนั้นเสียเมื่อไหร่ แก้วมังกรลู

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 470

    ก้นหลุมดำ ลมพัดจนพวกเขาวิงเวียนศีรษะ กลิ้งตุปัดตุเป๋ สุดท้ายก็ถูกทุ่มลงไปบนพื้นอย่างแรง กู้ชูหน่วนเกือบจะเป็นลมสลบไป โชคดีที่พื้นอ่อนนุ่ม ไม่เช่นนั้นนางคงต้องตายไปแล้ว ทันใดนั้น นางรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดี ทันทีที่ลืมตาขึ้นมากลับพบว่าไม่ได้อยู่บนพื้นที่อ่อนนุ่ม แต่ล้มลงบนร่างของชายหนุ่มผมขาวชุดขาวคนหนึ่ง กู้ชูหน่วนรู้สึกบีบคั้นหัวใจ รีบประครองเขาขึ้นมา "พี่ใหญ่อี้เฟย ท่านตื่นขึ้นมาสิ..." กู้ชูหน่วนเอื้อมมือออกไป กลับสัมผัสโดนของเหนียวข้นบางอย่าง เมื่อจ้องมองดูดีๆ จะเป็นอะไรไปได้อีกนอกจากเลือด มุมปากของอี้เฉินเฟยมีเลือดซึม บนร่างโดนหินมีคมบาดจนเป็นแผลทั้งตัว ชุดสีขาวดุจหิมะถูกย้อมไปด้วยเลือดสีแดงสด พื้นที่มืดดำ ใบหน้าของเขาซีดขาว ไร้ซึ่งเลือดฝาด เพียงแต่บนใบหน้าที่อ่อนโยนยังคงคลี่ยิ้มปลอบโยน เอ่ยอย่างอ่อนแรง "เจ้าไม่เป็นไรก็พอ" กู้ชูหน่วนขอบตาแดงก่ำในชั่วพริบตา "ท่านมันโง่เสียจริง เหตุใดถึงดีกับข้าขนาดนี้ ข้ามีอะไรควรค่าให้ท่านช่วยเหลือด้วยชีวิตเช่นนี้" "เพราะ...เจ้าคือน้องสาวของข้า..." "ท่านเจ็บหนักมาก อย่าเพิ่งพูดเลย ข้าจะช่วยท่านรักษาอาการบาดเจ็บ" "ไม่...ไม่

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 469

    มือของกู้ชูหน่วนกำอาวุธลับไว้แน่น มือข้างหนึ่งรวบรวมกำลังภายในทั้งร่างให้ขึ้นไปถึงขั้นสูงสุด พร้อมจะรับท่าไม้ตายของพวกเขาทุกเมื่อ น่าหลันหลิงรั่วเองก็ยืนอยู่ข้างกายกู้ชูหน่วนในทันที พร้อมจะสู้เคียงบ่าเคียงไหล่ไปกับนาง แต่พวกเขาคิดไม่ถึงเลยว่า ท่าไม้ตายเหล่านั้นยังไม่ทันมาถึงตัวนาง ก็ถูกใครบางคนสลายไปเสียก่อน มีคนอีกกลุ่มอยู่ในสระโลหิต คนกลุ่มนั้นมีผ้าคลุมสีขาว แขนเสื้อปักตัวอักษร "อวี้" คนเหล่านี้มีทั้งวัยชราและหนุ่มสาว พละกำลังกำลังแข็งแกร่ง เผ่าเทียนเฝินและเผ่าหมอร่วมมือกันก็ยังไม่อาจทำให้พวกเขาเสียเปรียบได้ "เผ่าอวี้...หายสาบสูญไปหลายพันปี ในที่สุดพวกเจ้าก็โผล่มาแล้ว" คนเผ่าเทียนเฝินต่างก็ตกตะลึง จ้องมองไปที่พวกเขาอย่างไม่ประสงค์ดี บรรยากาศมาคุขึ้นเรื่อยๆ เห็นได้ชัดเลยว่าเป็นศัตรูคู่แค้นกันมานาน ต่างก็เกิดอาการฉุนเฉียวกันอย่างแรง "ทุกชีวิตที่สูญเสียไปเป็นพันปี วันนี้ถึงเวลาสะสางกันแล้ว" ผู้เฒ่าผมขาวคนหนึ่งของเผ่าอวี้กัดฟันกรอด เค้นออกมาหนึ่งประโยค ดวงตาของเขาแดงก่ำ อยากจะฆ่าคนเผ่าเทียนเฝินให้เกลี้ยงเสียเดี๋ยวนั้น กู้ชูหน่วนหันไปทางน่าหลันหลิงรั่ว "เผ่าอ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 468

    ผู้อาวุโสระดับสูงแข็งแกร่งนัก ผู้อาวุโสฮวาต้านไว้ไม่อยู่ ถูกโต้กลับจนเจ็บหนัก ทันทีที่พัดสีดำของน่าหลันหลิงรั่วพลิกกลับ อาวุธลับนับสิบออกมาพร้อมกัน ทว่าถูกผู้อาวุโสระดับสูงของเผ่าเทียนเฝินต้านไว้จนกระเด็นออกไปหมด แม้แต่อาวุธลับของกู้ชูหน่วนก็กระเด็นออกไปพร้อมกัน “ฟิ้ว...” ไม่รู้ว่าผู้อาวุโสระดับสูงเคลื่อนไหวเช่นไร แต่เขาไปถึงด้านบนเสาดอกบัวเรียบร้อยแล้ว เขาผลึกกำลังภายในไว้ในมือ สลายพลังคุ้มกันรอบเสาดอกบัว น่าหลันหลิงรั่วเห็นเช่นนั้น พัดในมือราวกับมีจิตวิญญาณ คนและพัดประสานเป็นหนึ่งเดียว พุ่งเข้าไปด้วยความรวดเร็ว "ปัง ปัง ปัง......" เพียงพริบตาเดียว ทั้งสองคนต่อสู้กันไปหลายกระบวนท่า ท่วงท่าของพวกเขาเร็วเกินไป ทำให้กู้ชูหน่วนไม่รู้ว่าพวกเขาใช้กระบวนท่าอะไรบ้าง เห็นเพียงแค่ผู้อาวุโสระดับสูงกดน่าหลันหลิงรัวเสียอยู่หมัดอย่างรางๆ "ปัง......" หลังจากที่กระแทกฝ่ามือเข้าด้วยกัน ทั้งสองคนแยกออกจากกัน น่าหลันหลิงรั่วเจ็บหนัก เลือดไหลออกทางมุมปาก เขาเลียเลือดที่มุมปากด้วยท่าทางเจ้าเล่ห์ คิดจะบุกเข้าไปอีกครั้ง ทว่ากู้ชูหน่วนขวางเขาเอาไว้ "ตาแก่วิทยายุทธแข็งแกร่งมาก ขืนฝืนบุ

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status