นอกจากหัวเราะอย่างขมขื่นแล้ว อี้เฉินเฟยจะพูดอะไรได้อีกกู้ชูหน่วนให้เหล่าบ่าวรับใช้รออยู่ที่เดิมอย่างสงบ แล้วรอให้พวกเขามาช่วยเหลือ จากนั้น นางก็ตามอี้เฉินเฟยไปยังเจดีย์เจ็ดชั้นใกล้ยามจื่อเข้ามาทุกที เวลาเป็นสิ่งสำคัญมาก แต่อี้เฉินเฟยกลับไม่ยอมออกไปง่ายๆ เขาหาโอกาสตีสมึนให้สลบ แล้วเปลี่ยนเสื้อผ้าของเขาก่อนถึงจะยอมออกมากู้ชูหน่วนเบ้ปาก "เสียของมาก ใส่ชุดสีขาวโปร่งยังดูดีกว่าอีก""ห้ามพูดถึงชุดสีขาวอีก""ได้ หากรับปากข้าเรื่องหนึ่งก่อน"อี้เฉินเฟยจ้องมองนางอย่างระมัดระวัง ไม่รู้ว่าสาวน้อยเจ้าเล่ห์จะมาไม้ไหนอีกกู้ชูหน่วนตบที่อกเขาเบาๆ เป็นเชิงบอกให้สบายใจ "ข้าจะไม่ให้ทำอะไรที่ขัดต่อความเที่ยงธรรมในยุทธภพ แค่......เจ้ารำเปลือยกายให้ข้าดูได้หรือไม่?""แค่กๆ..."อี้เฉินเฟยแทบสำลักน้ำลายตัวเองเขาเดินต่อไปข้างหน้า พยายามกลบเกลื่อนความอับอาย"ชายหญิงไม่ควรใกล้ชิดกัน""หากพี่ไม่พูด ถือว่าตอบตกลงนะ""……"เขาเงียบเมื่อไหร่กัน?มิใช่เพิ่งพูดไปว่าชายหญิงไม่ควรใกล้ชิดกันหรอกหรือ?เสียงฝีเท้าหลายคู่ค่อยๆ เดินเข้ามาใกล้พวกเขาอี้เฉินเฟยและกู้ชูหน่วนยืนอยู่สองข้าง เหยียดหลังตรง และเ
"แค่กๆ ๆ"พอเทสุราจากไหหนึ่งหมดลง เยี่ยเฟิงก็ฉวยโอกาสไอออกมาอย่างรุนแรง เห็นได้ชัดว่าสำลักไม่น้อยไม่รอให้เขาไอเสร็จ ก็ถูกกรอกด้วยสุราไหใหม่ข้างหูได้ยินเสียงของเจียงซวี่ที่กำลังพูดกับตัวเองด้วยสีหน้าได้ใจแม้เจ้าจะเอากระดิ่งภินวิญญาณกลับคืนมาได้จริงๆ เจ้าคิดว่านายท่านจะปล่อยเจ้าไปจริงๆ หรือ? เหอ โง่มาก เจ้าเป็นคนของนายท่าน นอกจากนายท่านจะยกเจ้าให้คนอื่น มิเช่นนั้น เขายอมทำลายเจ้าทิ้ง ดีกว่าจะปล่อยให้เจ้ามีโอกาสหลุดพ้นจากการควบคุมของเขา""ที่เขาพูดเช่นนั้น ก็แค่ต้องการใช้เจ้าเป็นเครื่องมือ ชีวิตนี้เจ้าจะเป็นของนายท่านคนเดียว เป็นของเล่นของนายท่านตลอดไป ฮ่าๆ ๆ......""ปัง......"เจียงซวี่โยนไหสุราเปล่าทิ้งไป ปล่อยมือที่บีบคางเขาลง และยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์เยี่ยเฟิงไออย่างเจ็บปวดจนแทบไอปอดออกมาด้วยแล้วกว่าจะหายใจได้ปกติก็ใช้เวลานานพอควรเมื่อฟังคำพูดของเจียงซวี่ น้ำตาจากหางตาของเยี่ยเฟิงก็ไหลออกมารวมกับสุราที่เขาดื่มไป ไหลลงมาเสียง "ติ๊ก" หนึ่งเสียงหัวใจของเขารู้สึกเศร้าสลดถึงขีดสุดความสิ้นหวังห่อหุ้มทั้งร่างกายของเขาไว้ตั้งแต่แรกที่ได้ยินว่านายท่านตั้งใจจะปล่อยเขาไป
“เจ้ารู้หรือไม่ ไม่ว่าเจ้าจะหน้าตาดีเพียงใด หรือจะเก่งกาจแค่ไหน ในที่สุดวันหนึ่งนายท่านก็จะเบื่อ และยามนี้นายท่านใกล้จะเบื่อเจ้าแล้ว”“คืนนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่นายท่านจะโปรดปรานเจ้า หลังจากนั้น เขาจะส่งเจ้าให้กับนายท่านเสาเย่า เจ้าก็รู้ดีหนิว่านายท่านเสาเย่ามีความชอบคล้ายๆ กับนายท่าน อาจพูดได้ว่าความชอบของนายท่านเสาเย่ารุนแรงกว่าด้วยซ้ำ ใครก็ตามที่เขาโปรดปราน เขาจะถลกหนังหน้าของคนผู้นั้นติดไว้ที่ผนังเชยชม”เยี่ยเฟิงหลับตาลงด้วยความสิ้นหวัง หมดหนทาง เจ็บปวด และความสิ้นหวังก็แผ่ซ่านไปทั่วร่างกายของเขาเขาเป็นคนที่หน้าตาดีมาก แต่ยามนี้สายตาที่เต็มไปด้วยความสิ้นหวัง ทำให้ใครเห็นก็ต้องสงสาร แต่เจียงซวี่กลับหัวเราะอย่างชอบใจ ราวกับเยี่ยเฟิงยิ่งสิ้นหวังยิ่งดีกู้ชูหน่วนที่ยืนอยู่ข้างๆ ฟังแล้วก็โกรธมากนางไม่แน่ใจว่าสาเหตุการตายของพ่อแม่เขาเป็นอย่างไร แต่ด้วยนิสัยของเยี่ยเฟิงแล้ว เขาคงไม่ไปทำร้ายใครโดยไม่มีเหตุผล นอกจากว่าพ่อแม่ของเขาจะเป็นคนชั่วร้ายอย่างแท้จริงเจียงซวี่โน้มตัวเข้าไปกระซิบข้างหูของเยี่ยเฟิง"พอเจ้าถูกส่งไปให้นายท่านเสาเย่า ลองเดาดูสิว่า ชีวิตของยัยแก่บ้านั่นจะเป็นอย่
เจียงซวี่ดวงตาหดอย่างรวดเร็ว เนื้อตัวสั่นเทาไม่หยุดจนเห็นได้ชัดว่าเขากลัวมาก"พวกเจ้าอย่า......อย่า......แค่กๆ......"กู้ชูหน่วนหัวเราะชอบใจ "พี่ใหญ่เฉินเฟยเจ้าเล่ห์ไม่เบาเลย วิธีนี้ดีมาก แต่ก่อนส่งตัวให้นายท่านหลัน เราน่าจะเอาคืนทั้งต้นทั้งดอกเลยนะ"พอได้ยินกู้ชูหน่วนพูดเช่นนั้น อี้เฉินเฟยก็เข้าใจในทันที เขาบิดแขนขาของเจียงซวี่จนกระดูกหักไปหลายท่อน ทำเอาเจียงซวี่เจ็บปางตายเจียงซวี่เจ็บมากจนอยากร้องออกมา เพียงแต่เสียงติดอยู่ในลำคอ จะเค้นเสียงเช่นไรก็เปล่งออกมาไม่ได้กู้ชูหน่วนที่มองดูอยู่ข้างๆ ก็รู้สึกเจ็บไปด้วยกระดูกถูกบีบจนหักทีละชิ้น แม้เจียงซวี่จะไม่พิการ แต่อย่างน้อยก็ต้องนอนติดเตียงหลายวันเมื่อมองไปที่อี้เฉินเฟยอีกครั้ง ใบหน้าของเขายังคงปรากฏรอยยิ้มจางๆ หากไม่เห็นด้วยตาตัวเอง ก็ไม่อาจเชื่อได้เลยว่าคนที่อ่อนโยนและอบอุ่นจะลงมือทำร้ายคนได้รุนแรงเพียงนี้กู้ชูหน่วนควักยาเม็ดหนึ่งออกมาจากอกแล้วบังคับให้เขากิน พร้อมกับยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ "นี่คือยาทะลุไส้ หากไม่มียาแก้พิษของข้า ร่างกายของเจ้าจะเน่าเปื่อย เริ่มจากอวัยวะภายใน กระทั่งทั้งร่างกายเน่าเปื่อยจนตาย แน่นอนเจ้าอาจไม่เชื
"เช่นนั้น บอกข้ามาซิว่าที่นี่มีบ่าวรับใช้ทั้งหมดกี่คน และจะพาบ่าวรับใช้เหล่านั้นออกจากที่นี่อย่างปลอดภัยได้อย่างไร"เจียงซวี่ตกใจมากเมื่อได้ยินคำถามของนาง "เจ้าจะพาบ่าวรับใช้พวกนั้นออกจากเผ่าหมอ? เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้!"กู้ชูหน่วนยิ้มพลางเอามือเท้าคาง แล้วมองไปที่เขาด้วยดวงตากลมโตที่เต็มไปด้วยความบริสุทธิ์และไร้เดียงสาสายตาของนางพูดชัดเจนว่า หากนางพาบ่าวรับใช้ไปไม่ได้ ก็ตายไปพร้อมกันเจียงซวี่โกรธจัด "เจ้าบ้าไปแล้วรึ? เห็นเผ่าหมอเป็นตลาดสดหรืออย่างไร อยากมาเมื่อไหร่ก็มา อยากไปเมื่อไหร่ก็ไป!""เลยอยากให้เจ้าร่วมมือไง หากเจ้าไม่ให้ความร่วมมือ ข้าจะเก็บเจ้าไว้ทำไม?"เจียงซวี่โกรธจนพูดไม่ออกแต่พอนึกถึงความเป็นไปได้ที่อาจถูกส่งไปอยู่บนเตียงของนายท่านหลัน แล้วอาจต้องตายจากร่างกายเน่าเปื่อย เจียงซวี่ก็รู้สึกตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว"จำนวนบ่าวรับใช้ที่นี่ ข้าก็ไม่รู้แน่ชัด แต่ข้ารู้ว่า นอกจากเจดีย์แห่งนี้ ยังมีอีกสองแห่งที่มีบ่าวรับใช้จำนวนมาก พวกเขาถูกขังอยู่ในนั้น ทุกประตูเจดีย์ทำจากเหล็กกล้า ไม่มีลูกกุญแจเปิดไม่ได้เลย""แล้วอย่างไรต่อ""แต่ละชั้นของเจดีย์มียามเพียงสี่คน ยกเว้
"พวก......พวกเจ้ากล้า......" เจียงซวี่เอ่ยอย่างไม่มั่นใจกู้ชูหน่วนยิ้มกว้างและตอบว่า "ลองดูก็ได้ว่าข้ากล้าหรือไม่ ข้างนอกเหมือนจะมีคนเดินเข้ามา พี่ใหญ่เฉินเฟิง หากเขาอยากเป็นบ่าวรับใช้ขนาดนี้ เราก็น่าจะทำตามใจเขาสักหน่อยเถิด""ตึก ตึก ตึก......"ทันใดนั้น เสียงฝีเท้าหลายคู่ดังขึ้นจากระยะไกล ก่อนจะเข้ามาใกล้และชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ เจียงซวี่รู้ดีว่าคนพวกนั้นมายกเยี่ยเฟิงหัวใจของเจียงซวี่ที่รู้สึกลนลานอยู่แล้ว กลับยิ่งรู้สึกไม่สงบมากขึ้น เมื่อเสียงฝีเท้าใกล้เข้ามาเจียงซวี่รีบพูดออกไปว่า "หากจะหนีจากเผ่าหมอให้เร็วที่สุด ก็ต้องผ่านทางกระเช้า หากไม่ใช่ทางนี้ ไม่มีทางเลือกอื่นที่เร็วกว่าแล้ว แต่หอสัญญาณไฟจะเปลี่ยนเวรกันทุกสี่ชั่วยาม อีกครึ่งยามก็จะเป็นเวลาผลัดเปลี่ยนเวรแล้ว เจ้าลองดูว่าจะสามารถหนีได้หรือไม่ในช่วงที่พวกเขาผ่อนคลายขณะเปลี่ยนเวร""แล้วหอสัญญาณไฟมียอดฝีมืออยู่กี่คน?"กู้ชูหน่วนถามด้วยความสนใจ "ที่แต่ละหอสัญญาณไฟจะมียอดฝีมือขั้นสองอยู่หนึ่งคน บางจุดก็มียอดฝีมือขั้นสามอยู่ด้วย ส่วนยอดฝีมือขั้นหนึ่งจะมีอย่างน้อยสามคน นอกจากนั้นยังมียอดฝีมือแห่งยุคและนักธนูที่มีวิทยายุทธเก่งกล
เจียงซวี่โกรธจัดกู้ชูหน่วนไม่ได้มีเจตนาจะปล่อยเขาไปเลยสักนิด นางแค่เย้าแหย่เขาราวกับแมวเล่นหนูอย่างสนุกสนาน"กึก กึก......"สุราลงท้องเจียงซวี่อีกสองไห เขาอิ่มจนท้องป่อง และสมองก็เริ่มมึนงงขึ้นมา"เจ้าไม่รักษาทำพูด......อืม......""ปัง......"กู้ชูหน่วนโยนไหสุราทิ้งพลางเอ่ยเสียงเย็นชาว่า "มีกฎบังคับว่าข้าต้องรักษาคำพูดด้วยหรือ?""เจ้า......เจ้าหลอกข้า""ใช่ ข้าหลอกเจ้า สิ่งที่เจ้าทำกับเยี่ยเฟิง แม้จะใช้บทลงโทษที่โหดร้ายที่สุดในโลก ก็ไม่สามารถชดเชยได้ แล้วอีกอย่าง......ข้ากู้ชูหน่วนไม่เคยเป็นคนดี"เจียงซวี่อยากจะพูด แต่กู้ชูหน่วนส่งสายตาให้กับอี้เฉินเฟย และทันทีที่เห็นเขาทำท่าทางตอบรับ เขาก็เดินไปกดจุดปิดเสียงของเจียงซวี่ และเปลี่ยนเสื้อผ้าของเขากับเยี่ยเฟิงกู้ชูหน่วนยิ้มเยาะ "ไม่ต้องห่วง หากเจ้าทำตัวดี อาจได้รับการโปรดปรานจากนายท่านหลัน เจ้าจะได้ไม่ต้องอิจฉาเยี่ยเฟิงอีกต่อไป และรู้สึกเป็นเกียรติแทน"เจียงซวี่ร่ายยาว แต่กลับไม่มีเสียง จึงทำได้เพียงมองไปที่กู้ชูหน่วนและอี้เฉินเฟยด้วยสายตาขอความช่วยเหลือเขารู้ดีว่านายท่านหลันเป็นคนแบบไหน เขาไม่อยาก......เขาไม่อยากเป็นบ่าวรั
อี้เฉินเฟยใช้วิชาแปลงโฉมเป็นเจียงซวี่ จากเจดีย์ชั้นที่เจ็ดลงไปยังชั้นที่หก คนเฝ้าประตูเจดีย์ก็ก้มศีรษะเคารพ โดยไม่สงสัยเลยแม้แต่น้อย"วันนี้นายท่านอารมณ์ดีมาก ให้ข้าพาบ่าวรับใช้ทั้งหมดในเจดีย์ไปด้วย พวกเจ้าทั้งสองไปพาบ่าวรับใช้ในเจดีย์ออกมาที"อี้เฉินเฟยเอ่ยพลางโยนกุญแจไป น้ำเสียงดูหยิ่งผยองนัก"ทั้ง......ทั้งหมด......""ทำไม? เจ้าจะขัดนายท่านหรือ?""ไม่ๆ ๆ ข้าน้อยมิบังอาจ ข้าจะไปประเดี๋ยวนี้"สมุนสองคนที่เฝ้าเวรยังคงสงสัยอยู่บ้าง แต่เมื่อเห็นสีหน้าของอี้เฉินเฟยที่ดูดุร้าย พวกเขาก็ไม่กล้าสงสัยอะไรอีก เพราะเจียงซวี่มีชื่อเสียงเรื่องความโหดเหี้ยมมากในเผ่าหมอตั้งแต่ชั้นที่เจ็ดจนถึงชั้นที่สอง พวกเขาผ่านไปได้อย่างปลอดภัยกู้ชูหน่วนทาหน้าเยี่ยเฟิงให้ดำ และประคองเขาไปหลบในฝูงชนที่พูดว่าประคอง ควรพูดว่าแบกเยี่ยเฟิงยังเหมาะกว่า เพราะเขานอนพิงอยู่บนตัวของนาง แทบจะทำให้นางล้มทั้งยืนเหล่าสมุนเฝ้าเวรที่อยู่ในเหตุการณ์เริ่มกระซิบกัน"ในเจดีย์มีคนเกือบห้าสิบ ไม่รู้ว่านายท่านจะมีความใคร่อะไรขนาดนั้น""ชู่ว นายท่านมิใช่คนที่เราจะพูดถึงได้ หากคนอื่นได้ยินเข้า ต้องโดนลงโทษหนักแน่""ไม่ใช่
“เจ้าจงไปตายเสียเถิด” ใบหน้าหล่อเหลาเย็นชาของเยี่ยเฟิงเต็มไปด้วยความเกลียดชัง เขาดึงดาบออกมาอย่างแรง เลือดสีแดงสดของนายท่านหลันพุ่งทะลักไปทั่ว สาดกระเซ็นมาบนใบหน้าขาวซีดของเยี่ยเฟิง ทำให้สายตาของเขาเลือนลาง ทว่าวินานี้ เยี่ยเฟิงกลับเห็นชัดแจ้งกว่าผู้ใด ดวงตาที่เต็มไปด้วยความอาฆาตแค้นคู่นั้นสะท้อนสีหน้าตกตะลึงของนายท่านหลัน “เจ้ากล้าฆ่าข้าเลยรึ...เจ้าคือผู้ที่ฆ่าเลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็กจนโต เหตุใดถึงกล้าฆ่าข้าได้ เฮือก...” สิ่งที่ตอบแทนนายท่านหลันกลับมาคือการแทงด้วยกระบี่เข้าไปอีกครั้งอย่างไร้เยื่อใยจากเยี่ยเฟิง นายท่านหลันถูกแทงติดกันสองครั้ง ร่างกายเจ็บปวดราวกับใจจะขาด แต่เขากลับไม่รู้สึกอะไรเลย เพียงแค่จ้องมองเยี่ยเฟิงด้วยความโกรธแค้น จากความรู้สึกเหลือเชื่อในตอนแรก กลายเป็นปวดร้าว ไปจนถึงโกรธเกลียด เยี่ยเฟิงแสยะหัวเราะเบาๆ “ข้าคือผู้ที่เจ้าเลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็กจนโต ? เลี้ยงดูงั้นรึ เหอะ...เลี้ยงดูที่เจ้าหมายถึงคือทรมานข้าทุกวันทุกเวลา หน้าหนาวปล่อยให้ข้านอนเปลือยกาย หิวโหยอยู่บนพื้นหิมะ หน้าร้อนแขวนข้าไว้ใต้แสงอาทิตย์ไม่ให้กินดื่มเป็นเวลาหลายวัน ทั้งยังลงโทษอย่างหน
นายท่านหลันที่เดิมก็กระสับกระส่ายจนทำอะไรไม่ถูก เพราะการเข้ามามีส่วนร่วมของกู้ชูหน่วน ทำให้มีบาดแผลเพิ่มขึ้นอีกหลายแผล "ฟึบ..." อาวุธลับของกู้ชูหน่วนเชื่องช้า ทว่าพุ่งออกมากลางอากาศแล้วความเร็วกับเพิ่มกะทันหัน พริบตาเดียวเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว อาวุธพุ่งเข้าที่หน้าอกของนายท่านหลัน ฝังลึกในร่างกาย เขาอยากจะตอบโต้ ทว่ากลับถูกต้อนจนจนมุม ไม่มีช่องว่างให้โจมตีกลับได้เลยแม้แต่น้อย ขืนเป็นเช่นนี้ต่อไป เขาคงต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย นายท่านหลันรู้สึกสิ้นหวังยิ่งกว่าเดิม หวังแค่ว่านายท่านหมู่ตานและคนอื่นๆ จะรีบมาถึงโดยเร็ว ไม่เช่นนั้นชีวิตของเขาคงต้องจบลงตรงนี้แล้ว กู้ชูหน่วนและอี้เฉินเฟยยิ่งร้อนรน ลำพังเพียงแค่เขาคนใดคนหนึ่งต่างก็ไม่อาจสังหารนายท่านหลันได้ ยามนี้วิทยายุทธของกู้ชูหน่วนแข็งแกร่งไม่พอ อี้เฉินเฟยทั้งเจ็บสาหัสและป่วยหนัก เว้นเสียแต่พวกเขาร่วมมือกัน แต่บาดแผลของอี้เฉินเฟยรุนแรงเกินไป อาจต้านทานไม่ไหวได้ทุกเมื่อ หากเขาทนไม่ไหว เช่นนั้นสถานการณ์การต่อสู้ครั้งนี้จะพลิกผันทันที เสียงขลุ่ยเปลี่ยนไป ราวกับกลองรบคำราม กึกก้องหนักแน่น ดาบที่พุ่งใส่นายท่านหล
ใบหูของกู้ชูหน่วนพลันกระดิก นางรับรู้ได้ถึงไอสังหารของนายท่านหลันแล้ว เพียงแต่ความเร็วของนางยังไม่เปลี่ยน ยังคงรวบรวมกำลังภายในทั้งหมดกระแทกใส่นายท่านเถาฮวา สองนายท่านแห่งกองธงร่วมมือกันโจมตี นางถูกหนีบอยู่ตรงกลาง ไม่มีหนทางจะชนะได้เลย หากเป็นเช่นนี้ ไม่สู้จัดการไปทีละคน สังหารนายท่านเถาฮวาก่อน ค่อยหันไปจัดการนายท่านหลัน ขณะเดียวกัน นางเองก็เชื่อ เชื่อว่าอี้เฉินเฟยไม่มีทางปล่อยให้นางตายอย่างทุกข์ทรมานด้วยน้ำมือของนายท่านหลัน "เฮือก..." นายท่านเถาฮวาไม่มีที่ให้หลบได้อีก ถูกพลังจากฝ่ามือของกู้ชูหน่วนโจมตี ร่างกายราวกับว่าวที่สายขาด กระเด็ดกลับไป สุดท้ายชนเข้ากับหินก้อนโตอย่างแรง เลือดอาบหินก้อนนั้นจนชุ่ม ความเร็วของกู้ชูหน่วนยังไม่เปลี่ยน ถีบลูกเตะออกไปทำให้นายท่านเถาฮวาพลัดตกหน้าผาร่วงไปยังทะเลโลหิตด้านล่าง ความแข็งแกร่งของนางอยู่เพียงแค่ขั้นหนึ่งชั้นกลาง แต่พละกำลังที่นางระเบิดออกมากลับแกร่งกว่าขั้นสอง นายท่านเถาฮวาผู้น่าสงสารจึงต้องตายไปเพราะกู้ชูหน่วนที่วิทยายุทธด้อยกว่าเขามาก ขณะเดียวกัน กระบวนท่าไม้ตายของนายท่านหลันก็พุ่งเข้ามาถึง อี้เฉินเฟยยกมือขวาขึ้นมา
"ในเมื่อเจ้าพูดยากขนาดนี้ เช่นนั้นก็คงต้องทำลายแก้วมังกรทิ้งเสีย ถึงอย่างไรหากต้องตาย มีแก้วมังกรฝังไปด้วยกันก็ไม่เลว" กู้ชูหน่วนพูดพลางเล็งอาวุธลับไปที่ดอกกุหลาบอีกครั้ง นายท่านหลันหน้าถอดสีอย่างรุนแรง นางผู้นี้ไม่เคยทำอย่างที่คนปกติเขาทำกันเลย หากนางยิงแก้วมังกรบนดอกกุหลาบร่วงลงทะเลโลหิตจริง เช่นนั้นก็จะกลายเป็นความสูญเสียที่ไม่อาจย้อนกลับคืนมาได้อีก แม้อี้เฉินเฟยจะรู้ว่ากู้ชูหน่วนไม่มีทางทำให้แก้วมังกรร่วงหล่นทะเลโลหิตไปจริงๆ แต่เห็นแล้วก็ยังรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนอยู่ดี "ผลไม้สีแดงเพลิงของที่นี่มีฤทธิ์ในการรักษาอาการบาดเจ็บ เพียงแค่กินเข้าไปไม่กี่ลูก ก็จะสามารถฟื้นฟูได้ ซึ่งก็คือผลไม้ในมือเจ้าเมื่อครู่นั่นแหละ" "เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าผลไม้นี่สามารถรักษาอาการบาดเจ็บได้" "กู้ชูหน่วน ข้าขอเตือนเจ้าว่าอย่าถามให้มากนัก" เขาจะบอกกู้ชูหน่วนได้อย่างไรว่า เขาไม่ได้กินอะไรมาหลายวัน เพราะความหิว จึงเด็ดผลไม้มากิน คิดไม่ถึงว่าวิทยายุทธจะได้รับการฟื้นฟูกลับมาแบบงงๆ กู้ชูหน่วนคลี่ยิ้มมีเลศนัยให้เขา เช็ดผลไม้ในมือ ก่อนจะยื่นให้อี้เฉินเฟยพลางจ้องมองนายท่านหลันด้วยท่าทีระวังตั
ไม่ไกลออกไป มีเสียงอาวุธกระทบดังขึ้นมาไม่หยุด หลังจากนั้นก็มีเสียงหินแตกกระจายและระเบิดในที่สุด กู้ชูหน่วนถือผลไม้สีแดงเพลิงที่เพิ่งเด็ดออกมาจากต้นเอาไว้ในมือ พลางฟังเสียงความเคลื่อนไหวอย่างละเอียด "มีเสียงกางและหุบพัด ทั้งยังมีเสียงอาวุธลับกลีบดอกไม้อีกบางส่วน น่าหลันหลิงรั่วกำลังต่อสู้กับนายท่านหมู่ตานเผ่าหมอ น่าแปลก คนเผ่าหมอบาดเจ็บหนักไม่ใช่หรือ เหตุใดถึงได้มีพละกำลังแข็งแกร่งเพียงนี้ น่าหลันหลิงรั่วอาจจะสู้พวกเขาไม่ได้" กู้ชูหน่วนพึมพำคนเดียว นางอยากไปดูด้วยตัวเอง ทว่าอี้เฉินเฟยยังอาการสาหัสขนาดนั้น หากฝืนประครองเขาไป มีแต่จะทำให้อาการเขาแย่กว่าเดิม แต่น่าหลันหลิงรั่วหากไม่ใช่เพราะช่วยนาง ก็คงไม่ต้องตกลงมายังที่แห่งนี้ แม้อี้เฉินเฟยจะบาดเจ็บสาหัสทั้งยังป่วยหนัก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะฟังอะไรไม่ออกเลย สามารถใช้พลังกระแทกหินก้อนโตให้แตกได้เป็นก้อนๆ ต่อให้พละกำลังยังไม่ฟื้นฟูกลับมาทั้งหมด แต่เกรงว่าจะกลับมาถึงเจ็ดแปดส่วนแล้ว นายท่านหมู่ตานและนายท่านเถาฮวาล้อมโจมตีน่าหลันหลิงรั่ว กลัวแต่ว่าน่าหลันหลิงรั่วจะสู้พวกเขาไม่ไหว อี้เฉินเฟยเอ่ยอย่างเบาแรง "คนที่เจ้
กู้ชูหน่วนฟังด้วยความมึนงง ในเมื่อเกิดมาสูงศักดิ์ เหตุใดถึงได้ถูกปฏิบัติด้วยเช่นนั้น "เป็นหน้าที่แบบใดกันแน่" "หน้าที่ที่หนักมาก หนักอึ้งเสียจนหายใจไม่ออก" "เช่นนั้นตอนนี้นางอยู่ที่ใด" "ข้าก็ไม่รู้ว่านางไปอยู่ที่ใดแล้ว แต่ข้าเชื่อ ว่าอีกไม่นานนางจะกลับมา แค่กแค่ก..." ไม่รู้เพราะพูดมากเกินไปหรือไม่ อี้เฉินเฟยไอออกมาเป็นเลือดอีกครั้ง พลังชีวิตในร่างหายไปอย่างรวดเร็ว กู้ชูหน่วนเริ่มร้อนใจ คำถามมากมายที่กระจุกอยู่ภายในใจไม่อาจถามได้อีกต่อไป ทำได้เพียงแค่เอ่ยออกไป "ท่านอย่าเพิ่งพูดเลย พักผ่อนเถอะ" "อาหน่วน...หากวันใดที่ข้าไม่อยู่แล้ว เจ้าจะต้องมีชีวิตอยู่ต่อไปอย่างดี" "ท่านพูดเหลวไหลอะไร ท่านดูสิ ข้าพบแก้วมังกรเขียวแล้ว พวกท่านหาพบสี่ลูกแล้วไม่ใช่หรือ บวกกับลูกนี้ก็เป็นห้า ขอแค่หาเพิ่มอีกสองลูก อาการป่วยของท่านก็จะรักษาหายแล้ว" กู้ชูหน่วนหยิบแก้วมังกรขนาดเท่าไข่นกพิราบออกมา ดวงตาใสเป็นประกายฉายแววยิ้ม ดวงตาของอี้เฉินเฟยกำลังยิ้ม ทว่าในใจกลับขมขื่น แก้วมังกรลูกเดียว ต้องใช้ความพยายามของคนตั้งกี่รุ่น ถึงจะเจอเบาะแส หาง่ายเช่นนั้นเสียเมื่อไหร่ แก้วมังกรลู
ก้นหลุมดำ ลมพัดจนพวกเขาวิงเวียนศีรษะ กลิ้งตุปัดตุเป๋ สุดท้ายก็ถูกทุ่มลงไปบนพื้นอย่างแรง กู้ชูหน่วนเกือบจะเป็นลมสลบไป โชคดีที่พื้นอ่อนนุ่ม ไม่เช่นนั้นนางคงต้องตายไปแล้ว ทันใดนั้น นางรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดี ทันทีที่ลืมตาขึ้นมากลับพบว่าไม่ได้อยู่บนพื้นที่อ่อนนุ่ม แต่ล้มลงบนร่างของชายหนุ่มผมขาวชุดขาวคนหนึ่ง กู้ชูหน่วนรู้สึกบีบคั้นหัวใจ รีบประครองเขาขึ้นมา "พี่ใหญ่อี้เฟย ท่านตื่นขึ้นมาสิ..." กู้ชูหน่วนเอื้อมมือออกไป กลับสัมผัสโดนของเหนียวข้นบางอย่าง เมื่อจ้องมองดูดีๆ จะเป็นอะไรไปได้อีกนอกจากเลือด มุมปากของอี้เฉินเฟยมีเลือดซึม บนร่างโดนหินมีคมบาดจนเป็นแผลทั้งตัว ชุดสีขาวดุจหิมะถูกย้อมไปด้วยเลือดสีแดงสด พื้นที่มืดดำ ใบหน้าของเขาซีดขาว ไร้ซึ่งเลือดฝาด เพียงแต่บนใบหน้าที่อ่อนโยนยังคงคลี่ยิ้มปลอบโยน เอ่ยอย่างอ่อนแรง "เจ้าไม่เป็นไรก็พอ" กู้ชูหน่วนขอบตาแดงก่ำในชั่วพริบตา "ท่านมันโง่เสียจริง เหตุใดถึงดีกับข้าขนาดนี้ ข้ามีอะไรควรค่าให้ท่านช่วยเหลือด้วยชีวิตเช่นนี้" "เพราะ...เจ้าคือน้องสาวของข้า..." "ท่านเจ็บหนักมาก อย่าเพิ่งพูดเลย ข้าจะช่วยท่านรักษาอาการบาดเจ็บ" "ไม่...ไม่
มือของกู้ชูหน่วนกำอาวุธลับไว้แน่น มือข้างหนึ่งรวบรวมกำลังภายในทั้งร่างให้ขึ้นไปถึงขั้นสูงสุด พร้อมจะรับท่าไม้ตายของพวกเขาทุกเมื่อ น่าหลันหลิงรั่วเองก็ยืนอยู่ข้างกายกู้ชูหน่วนในทันที พร้อมจะสู้เคียงบ่าเคียงไหล่ไปกับนาง แต่พวกเขาคิดไม่ถึงเลยว่า ท่าไม้ตายเหล่านั้นยังไม่ทันมาถึงตัวนาง ก็ถูกใครบางคนสลายไปเสียก่อน มีคนอีกกลุ่มอยู่ในสระโลหิต คนกลุ่มนั้นมีผ้าคลุมสีขาว แขนเสื้อปักตัวอักษร "อวี้" คนเหล่านี้มีทั้งวัยชราและหนุ่มสาว พละกำลังกำลังแข็งแกร่ง เผ่าเทียนเฝินและเผ่าหมอร่วมมือกันก็ยังไม่อาจทำให้พวกเขาเสียเปรียบได้ "เผ่าอวี้...หายสาบสูญไปหลายพันปี ในที่สุดพวกเจ้าก็โผล่มาแล้ว" คนเผ่าเทียนเฝินต่างก็ตกตะลึง จ้องมองไปที่พวกเขาอย่างไม่ประสงค์ดี บรรยากาศมาคุขึ้นเรื่อยๆ เห็นได้ชัดเลยว่าเป็นศัตรูคู่แค้นกันมานาน ต่างก็เกิดอาการฉุนเฉียวกันอย่างแรง "ทุกชีวิตที่สูญเสียไปเป็นพันปี วันนี้ถึงเวลาสะสางกันแล้ว" ผู้เฒ่าผมขาวคนหนึ่งของเผ่าอวี้กัดฟันกรอด เค้นออกมาหนึ่งประโยค ดวงตาของเขาแดงก่ำ อยากจะฆ่าคนเผ่าเทียนเฝินให้เกลี้ยงเสียเดี๋ยวนั้น กู้ชูหน่วนหันไปทางน่าหลันหลิงรั่ว "เผ่าอ
ผู้อาวุโสระดับสูงแข็งแกร่งนัก ผู้อาวุโสฮวาต้านไว้ไม่อยู่ ถูกโต้กลับจนเจ็บหนัก ทันทีที่พัดสีดำของน่าหลันหลิงรั่วพลิกกลับ อาวุธลับนับสิบออกมาพร้อมกัน ทว่าถูกผู้อาวุโสระดับสูงของเผ่าเทียนเฝินต้านไว้จนกระเด็นออกไปหมด แม้แต่อาวุธลับของกู้ชูหน่วนก็กระเด็นออกไปพร้อมกัน “ฟิ้ว...” ไม่รู้ว่าผู้อาวุโสระดับสูงเคลื่อนไหวเช่นไร แต่เขาไปถึงด้านบนเสาดอกบัวเรียบร้อยแล้ว เขาผลึกกำลังภายในไว้ในมือ สลายพลังคุ้มกันรอบเสาดอกบัว น่าหลันหลิงรั่วเห็นเช่นนั้น พัดในมือราวกับมีจิตวิญญาณ คนและพัดประสานเป็นหนึ่งเดียว พุ่งเข้าไปด้วยความรวดเร็ว "ปัง ปัง ปัง......" เพียงพริบตาเดียว ทั้งสองคนต่อสู้กันไปหลายกระบวนท่า ท่วงท่าของพวกเขาเร็วเกินไป ทำให้กู้ชูหน่วนไม่รู้ว่าพวกเขาใช้กระบวนท่าอะไรบ้าง เห็นเพียงแค่ผู้อาวุโสระดับสูงกดน่าหลันหลิงรัวเสียอยู่หมัดอย่างรางๆ "ปัง......" หลังจากที่กระแทกฝ่ามือเข้าด้วยกัน ทั้งสองคนแยกออกจากกัน น่าหลันหลิงรั่วเจ็บหนัก เลือดไหลออกทางมุมปาก เขาเลียเลือดที่มุมปากด้วยท่าทางเจ้าเล่ห์ คิดจะบุกเข้าไปอีกครั้ง ทว่ากู้ชูหน่วนขวางเขาเอาไว้ "ตาแก่วิทยายุทธแข็งแกร่งมาก ขืนฝืนบุ