สถานที่: คฤหาสน์คุโรซาวะ – เวลา 14:48 น.บ่ายวันหนึ่ง ที่ควรสงบเหมือนทุกวันในรั้วคฤหาสน์มาเฟีย…แต่ทันใดนั้น—เสียงเครื่องยนต์ดังกระหึ่มก็ดังขึ้นจากรั้วหน้าวรู๊มมมมมมมมมมมมมมมม—!!เสียงท่อแต่งของมอเตอร์ไซค์สไตล์คัสตอมกระแทกโสตประสาทอย่างจังรถยนต์กันกระสุนของแก๊งคุโรซาวะที่จอดอยู่เรียงรายถึงกับสั่นสะเทือนเล็กน้อยตามจังหวะเบรกหัวทิ่มของขบวนชายหนุ่มที่ขี่นำ ถอดหมวกกันน็อกอย่างช้าๆผมสีเงินซีดถูกลมตีปลิวพลิ้วเบาๆ เหมือนฉากเปิดตัวของวายร้ายที่สาวๆ พร้อมจะตกหลุมรักในทันทีนัยน์ตาสีอำพันทอแสงแหลมคม—เหมือนเหยี่ยวที่มองเป้าหมายแม้จะอยู่ไกลหลายไมล์ซัน… เดินอย่างไม่เร่งรีบ ท่ามกลางสายตาระแวดระวังของบอดี้การ์ดเกือบสิบชีวิตเขายกมือขึ้นเหมือนจะบอกว่า ‘ใจเย็น’แต่รอยยิ้มบางบนใบหน้านั้น… กลับให้ความรู้สึกเหมือนกำลังบอกว่า ‘ถ้ายิงมา… ฉันจะสวนหมด’เสียงกระซิบของคนเฝ้าระวังดังในวิทยุ:“บุคคลตรงหน้า…คือ ‘วายุ ซัน’ หัวหน้าแก๊งวายุ ย้ำ—หัวหน้าแก๊งวายุ กำลังเข้าพื้นที่!!”💥 [Flashback สั้น]📍 หลายปีก่อน - ในวงล้อมการฝึกงานของโลกใต้ดินเรย์จิ และ ซัน เคยยืนเคียงข้างกัน—ไม่ใช่เพราะศรัทธา แต่เพราะผลประโยช
ในร้านราเมนญี่ปุ่นบรรยากาศอบอุ่นกลางเมือง โต๊ะไม้สีเข้มเรียงกันอย่างเป็นระเบียบ กลิ่นน้ำซุปทงคตสึหอมฉุยลอยอ้อยอิ่งไปทั่วโต๊ะริมหน้าต่างที่ห่างจากลูกค้าคนอื่น ถูกจองไว้ล่วงหน้าโดยชายในชุดดำขรึม ผู้ที่ใครในร้านต่างเหลียวมองอย่างไม่กล้าเข้าใกล้—แต่เขาไม่ได้มาคนเดียว“นี่มันอะไรกันฟะ…”ฉันมองกระจกในร้านราเมนร้านโปรดของตัวเอง พลางพึมพำเบาๆฉันนั่งอยู่ริมหน้าต่างโต๊ะสองที่ (บวกอีกหนึ่งจานชามสำหรับหมา)ใส่เสื้อฮู้ดตัวเก่ง ผูกผมลวกๆ แบบเนิร์ดประจำตัวแต่ปัญหาคือ—ไอ้คนตรงข้ามฉันน่ะ… แม่งแต่งตัวหล่อจัดเต็มระดับพระเอกซีรีส์มาเฟียเวอร์ชั่นดาร์ก!!เรย์จิในชุดเชิ้ตดำ กางเกงสเลคเรียบกริบ เสื้อนอกตัวบางพาดไหล่นั่งไขว่ห้าง… กำลังเปิดเมนูราเมนเหมือนกำลังประชุมกับแก๊งมาเฟียในร้านชิลล์ๆและที่ข้างเก้าอี้ของฉัน—เจ้าหมาชิบะอินุตัวกลมที่ชื่อ ไทกะนั่งอย่างสง่างาม (?) พิงขาฉันอยู่มีจานอาหารหมาพิเศษของทางร้านอยู่ตรงหน้าพร้อมถ้วยน้ำ และพนักงานสาวที่ถ่ายรูปรัวๆ เพราะ “คุณหมาน่ารักมากกกก!”“โฮ่ง~”มันหันมามองฉันแล้วกระดิกหาง เหมือนจะบอกว่า“เธอนี่โชคดีจริงๆ ที่มีเจ้าของอย่างเรย์จิ พามาเดทด้วย!”เงียบบบบ!!
ลมบนยอดเขายังคงพัดเอื่อยเบา เย็นเฉียบแต่ไม่หนาวเกินใจจะทนแสงไฟจากเมืองเบื้องล่างยังส่องสว่างราวกับโลกทั้งใบไม่มีคำว่าหลับใหลมือของเขายังคงกุมมือฉันไว้แน่น—อุ่น... และมั่นคงและฉัน... ก็ยังยืนอยู่ตรงนี้ไม่ถอย... ไม่หนีทั้งที่ควรจะวิ่งหนีไปให้ไกลแต่กลับอยากอยู่ใกล้เขาอีกนิดเดียวแค่... อีกนิดเดียวก็ยังดี“หนาวเหรอ?”เสียงเขาดังขึ้นเบาๆ ข้างหูฉันสะดุ้งเล็กน้อย สั่นนิดหน่อย ไม่แน่ใจว่าหนาว หรือหัวใจมันเต้นแรงจนร่างกายเบาหวิว“อืม… นิดหน่อย” ฉันตอบกลับเสียงเบาทันใดนั้น—ฟึ่บเขาถอดเสื้อสูทนอกของตัวเอง แล้วเอามาคลุมบ่าฉันไว้อย่างเงียบๆ ไม่ได้พูดอะไร… แค่ทำแค่นั้น…แค่นั้นจริงๆแต่กลับทำให้ใจฉัน... เหมือนจะหลอมละลาย ฉันหันไปมองเขาช้าๆ แล้วก็พบว่าเขามองฉันอยู่ก่อนแล้ว…สายตาคมคู่นั้น ไม่แข็ง ไม่เย็นชา และไม่น่ากลัวเหมือนตอนเจอกันครั้งแรกมันดูอ่อนโยน...และจริงใจจนฉันรู้สึกว่าโลกทั้งใบเงียบไปเลยเรายืนใกล้กันแค่คืบเดียว ไม่รู้ว่าฉันขยับไปหาเขา หรือเขาขยับเข้ามาใกล้ฉันแต่เมื่อระยะห่างนั้นแคบลงจนได้ยินเสียงหัวใจตัวเองเต้น...ตุบๆ อยู่ข้างหูเขาก็เอ่ยออกมาช้าๆ นุ่มนวลและจริงจัง“ขอโทษนะ…
หลังจากคืนนั้น...ฉันกับอัยย์ก็ไม่ได้กลับไปที่คอนโดของตัวเองอีกเลยเรย์จิเหมือนตัดสินใจไปแล้วแบบไม่ถามใครเขาสั่งลูกน้องหน้าโหดของเขา—ซึ่งโหดจนแค่เดินเฉียดก็กลั้นหายใจแล้ว ไปขนของทั้งหมดของฉันกับอัยย์มาไว้ที่คฤหาสน์หลังโตของเขาเรียบร้อยฉัน... นอนกับเรย์จิในห้องนอนขนาดใหญ่ที่มีเจ้าหมาไทกะตัวแสบจอมขโมยหมอนนอนด้วยส่วนอัยย์—นางก็โดนจัดให้นอนห้องติดกับไอ้คิน (แบบบังเอิญ... ที่ตั้งใจมากกกก)และจากประสบการณ์การสังเกตมาหลายวันฉันขอยืนยัน ณ จุดนี้ว่าสองคนนี้... ต้องมีซัมติงกันแน่นอน!!! 😏ชีวิตในคฤหาสน์...หรูหราอย่างกับหลุดเข้ามาอยู่ในซีรีส์เกาหลีตระกูลมาเฟียระดับเวิลด์คลาสฉันกับอัยย์แทบไม่ต้องทำอะไรเดินไปทางไหนก็มีแม่บ้านคอยรับใช้ หันไปอีกมุมก็เจอบอดี้การ์ดที่หน้าตาเหมือนหลุดออกมาจากเกม GTA คอยยืนขรึมๆ กันเป็นแพ็คฉันใช้ชีวิตอย่างกับ ‘ควีนแห่งโลกมาเฟีย’ในห้องนอนมีเครื่องเกมทุกเครื่องที่เคยฝันถึงคอมพิวเตอร์สเปกเทพสำหรับทำงานชุดนอนผ้านุ่มระดับพรีเมียม และหมอนที่นุ่มกว่าชีวิตฉันทั้งชีวิตรวมกัน...คือถ้าจะให้ออกจากที่นี่ตอนนี้คงต้องลากฉันไปทั้งเตียงแต่ในวันที่ชีวิตกำลังชิลๆ อย่างบ้าคล
🌙 ค่ำคืนนั้น... อากาศเย็นลงเล็กน้อยลมพัดเอื่อยๆ ผ่านม่านหน้าต่างที่เปิดอยู่อัยย์เดินกลับขึ้นห้องเงียบๆ หลังเพิ่งคุยกับมินาเอะเสร็จ...เรื่องแม่ของเรย์จิ ที่ทำเพื่อนของเธอเครียดจนน้ำตาแทบจะไหลและพอคุยจบแล้ว… อัยย์ก็เผลอบ่นออกมาทั้งเหนื่อย ทั้งหิว ทั้งง่วง ในคราวเดียวกันแต่เพียงไม่ถึงสิบนาทีต่อมา—เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นอย่างแผ่วเบาก็อก... ก็อก...อัยย์ชะงัก เงยหน้าจากมือถือ แล้วเดินไปเปิดประตูด้วยความสงสัย...และภาพที่เธอเห็นตรงหน้าก็ทำให้เธอต้องหยุดนิ่งไปทันทีคิน ยืนอยู่ตรงนั้นในมือถือกล่องข้าวสีเรียบๆ กล่องหนึ่ง“นี่นาย… มาทำไม” เธอขมวดคิ้ว แต่ถามเสียงเบากว่าปกติ“เธอบ่นว่าหิว” คินพูดเสียงเรียบ แล้วยื่นกล่องข้าวให้เธอ“ฉันแค่…จำได้เฉยๆ”อัยย์ชะงักไปไม่ใช่เพราะคำพูดของเขาหวานหรือทำให้ใจละลายแต่เพราะคำพูดของเขา... ไม่เคยหวานเลยและนั่นแหละ...ที่ทำให้หัวใจของเธอสะดุดมากกว่าเดิม🥣สุดท้าย—เธอก็ต้องยอมให้เขาเข้ามานั่งในห้องและตอนนี้ทั้งสองคนก็กำลังนั่ง ‘กินข้าวด้วยกัน’ แบบงงๆคินนั่งพิงขอบโซฟาด้วยท่าทางสบายๆมือหนึ่งถือแก้วกาแฟร้อน อีกมือวางไว้บนเข่าข้างหน้าเขามีกล่องขนมเล็
แสงแดดอ่อนๆ ยามเช้า ลอดผ่านผ้าม่านผืนบางเข้ามาในห้องอย่างเงียบเชียบ บรรยากาศเย็นสบายชวนให้อยากหลับต่อแต่สิ่งที่ทำให้อัยย์ต้องค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้นมา...คือวงแขนของใครบางคนที่ยังโอบรอบเอวเธอไว้แน่นไม่ปล่อยร่างกายของเธอแนบชิดอยู่ในอ้อมอกของเขา แผ่นอกอุ่นแน่นที่เธอนอนซุกหน้าอยู่…กลิ่นกายเขาอ่อนๆ ยังคงติดอยู่ที่ปลายจมูกและที่สำคัญที่สุดคือ—ทั้งเธอและเขา… เปลือยเปล่าใต้ผ้าห่มผืนนั้นอัยย์ตัวแข็งทื่อทันทีหัวใจเต้นแรงเหมือนจะหนีออกจากอกแขนแกร่งของคินพาดอยู่บนเอวเธอมือของเขายังกุมมือเธอไว้แน่น…แน่นในแบบที่เหมือนกลัวว่าเธอจะหายไป ถ้าเผลอหลับอีกครั้งเสียงลมหายใจของเขาสม่ำเสมอ ช้า… อบอุ่น… และใกล้มาก มากจนเธอได้ยินเสียงหัวใจของเขาเต้นเบาๆ เคล้าไปกับของตัวเองอัยย์รู้สึกเหมือนทั้งร่างจะระเบิด ไม่ใช่เพราะตกใจแต่เพราะความเขินมันพุ่งจนแทบกลายเป็นไอ!!!นี่เรานอนแบบนี้กับเขาทั้งคืนเลยเหรอ!?โอ๊ยยยย… แค่คิดก็หน้าร้อนจนแทบระเบิดเป็นพลุ!เธอค่อยๆ เงยหน้าขึ้นสายตาเธอเลื่อนขึ้นไปมองใบหน้าของเขา ใบหน้าหล่อเข้มที่ดูสงบขณะหลับ ขนตาเรียงสวย ริมฝีปากนิ่งเฉย และแววตาที่ยังปิดอยู่เขาหล่อชะมัด...ยิ่งนอน
บ้านไม้โบราณหลังใหญ่ ตั้งอยู่ท่ามกลางสวนชาเขียวขจี แม้จะผ่านกาลเวลามาหลายสิบปี แต่ทุกเส้นสายของสถาปัตยกรรมยังถูกดูแลไว้ราวกับหยุดเวลาเอาไว้ที่วันแรกกลิ่นหอมอ่อนๆ ของใบชาถูกต้มจนเดือดเบาๆ คลุ้งไปทั่วห้องชายชราร่างผอม ใบหน้าเต็มไปด้วยริ้วรอยนั่งอยู่หลังชุดน้ำชา มือที่เคยแน่นิ่งกลับสั่นเล็กน้อยขณะรินชา แต่เสียงของเขายังคงราบเรียบ แม้จะฟังดูคล้ายกับมีอะไรบางอย่างซ่อนอยู่“...ไม่คิดเลยนะ ว่าแกจะยอมกลับมาเหยียบที่นี่อีก”น้ำเสียงแหบพร่า แฝงทั้งแปลกใจและไม่ไว้ใจ ขณะที่ชายอีกคนที่นั่งอยู่ตรงข้าม ยกถ้วยชาขึ้นมาหมุนเบาๆ ในมือเขาเป็นชายหนุ่มในชุดเชิ้ตสีดำสนิท ติดกระดุมเรียบร้อยถึงลำคอ ราวกับจงใจปิดทุกความรู้สึกไว้ใต้ความสุภาพแต่แค่สบตา... ก็รู้ได้ทันทีว่า‘สุภาพ’ ไม่ได้แปลว่า ‘ปลอดภัย’ดวงตาสีเทาน้ำเงิน ของเขาดูจะขัดกับบรรยากาศสงบสุขของห้องเพราะในแววตาคู่นั้น... มีรอยยิ้มแต่เป็นรอยยิ้มที่เหมือนงูเห่า—เงียบ แต่พร้อมฉกเสมอซันชายหนุ่มผู้หายสาบสูญจากวงการมาเฟียไปนานเกินกว่าที่ใครจะคาดเดาวันนี้... เขากลับมาแล้วพร้อมกับลมหายใจของสายลมแปลกประหลาด ที่ไม่ได้หอบเพียงความคิดถึง...แต่หอบภัยมาด้วย
☀️ เช้าวันนั้นแสงแดดอ่อนส่องลอดผ่านใบไม้ในสวนหน้าคฤหาสน์ แสงและเงาเล่นล้อกันบนทางเดินโรยกรวดเล็กๆ อากาศเย็นกำลังดี เหมาะกับการพาหมาเดินเล่น...และเหมาะกับใครบางคน ที่ต้องการ ‘เฝ้ามอง’ บางอย่างฉันจูงสายจูงของไทกะ เจ้าหมาตัวเล็กเดินส่ายหางไปมา ดูเหมือนจะอารมณ์ดี ...แต่ดวงตากลมแหลมนั้นกลับกวาดมองรอบตัวอย่างระแวดระวัง เหมือนมันรู้ดีว่า โลกของเจ้านายตัวเอง…ไม่เคย ‘ปลอดภัยจริงๆ’“เราจะไปคาเฟ่นะ ไทกะ”ฉันยิ้มให้กับท่าทางกล้าหาญเกินตัวของเจ้าตัวจิ๋ว มือหนึ่งถือสายจูง อีกมือเปิดประตูเล็กข้างรั้วคฤหาสน์ เดินออกมายังถนนด้านข้าง... ที่มีร้านกาแฟเปิดใหม่ตั้งอยู่🌿 คาเฟ่ริมรั้วร้านตกแต่งสไตล์มินิมอล เรียบง่าย แต่สบายตา มีโต๊ะไม้สีอ่อนตั้งอยู่ตรงสวนหย่อมด้านหลัง พร้อมเสียงนกเบาๆ กับกลิ่นหอมของกาแฟที่ลอยมาในอากาศฉันสั่งกาแฟร้อนหนึ่งแก้ว แล้วเลือกโต๊ะเงียบๆ มุมสวน ไทกะนั่งข้างเก้าอี้อย่างสงบ แต่หางยังไม่หยุดกระดิก ตาเจ้าตัวยังจับจ้องคนเดินผ่านไปมา ไม่วางใจใครง่ายๆ เลยฉันเปิดไอแพด ตั้งใจจะอ่านมังงะชิลๆ ...แต่ยังไม่ทันได้เลื่อนหน้าแรกของตอนใหม่ เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นจากด้านหลังฉัน เสียงทุ้มต่ำ นุ่มลึก
เสียงเรือห่างออกไปทีละน้อย ละอองน้ำที่ฟุ้งจากแรงใบพัดยังลอยค้างอยู่กลางอากาศ เหมือนฝันร้ายที่ยังไม่จางแต่สำหรับเรย์จิ…นั่นไม่ใช่ฝันเลยมันคือ “เรื่องจริง” ที่เขาจะไม่ลืม“ซัน…!!”เสียงตะโกนสุดแรงถูกคลื่นแม่น้ำกลืนหายไปอย่างเย็นชาเรย์จิกำหมัดแน่นจนเส้นเลือดปูดขึ้นขมับ ดวงตาแดงก่ำ สั่นด้วยโทสะที่ไม่อาจระบาย และความเจ็บที่กัดกินอยู่ข้างในเขาไม่ได้แค่โกรธ—เขาเจ็บ…และเขาแค้นเสียงฝีเท้าดังขึ้นถี่ๆ ก่อนที่คินจะโผล่พรวดเข้ามาทางระเบียง พร้อมลูกน้องอีกสองคนเขาชะงัก เมื่อเห็นเรย์จิยืนอยู่คนเดียว เงียบ…และทรงพลังเหมือนภูเขาที่พร้อมจะถล่ม“บอส…”“เขาหนีไปได้”เสียงเรย์จิพูดเบา แต่เย็นจัด ราวกับถูกกลั่นมาจากก้นบึ้งของความอดกลั้น น้ำเสียงนั้น…เหมือนจะนิ่ง แต่กลับแฝงแรงระเบิดที่ยังไม่ถูกจุด“เขาหนีไปทั้ง ๆ ที่ฉันอยู่ตรงนั้น”“ทั้ง ๆ ที่เธออยู่ตรงนั้น…”คินไม่ตอบ เขาเข้าใจ เพราะถ้าเป็นเขา…เขาก็คงคลั่งเหมือนกัน“ล่าเลยไหมครับ?”คำถามเบา ๆ ถูกเปล่งออกด้วยน้ำเสียงของลูกน้องที่พร้อมลุยทันทีแต่เรย์จิกลับส่ายหน้า ก่อนจะพูดช้า ๆ ลึกและหนักแน่นกว่าคำสั่งใด ๆ“ไม่…ฉันต้องดูแลเธอก่อน”เขาหันกลับเข้าไปใน
ภายในห้องนอนที่มืดสลัว แสงไฟจากโคมข้างเตียงสาดแสงสีอำพันทาบไล้ลงบนร่างหญิงสาวที่กำลังดิ้นรนสุดแรง มินาเอะหอบหายใจถี่ ใบหน้าแดงจัดทั้งจากแรงอารมณ์และความตื่นตระหนกที่เกาะกุมอยู่ในอก เธอผลักอกของซัน ผลักแขน ดันไหล่ แต่ร่างสูงกลับไม่ไหวติงแม้แต่น้อยเสื้อเชิ้ตของเธอหลุดรุ่ยจากไหล่ ผ้าบางๆ แทบไม่เหลือประโยชน์อะไรอีก แขนเสื้อข้างหนึ่งห้อยลงข้างลำตัว เผยให้เห็นผิวเนื้อขาวละเอียดที่มีรอยแดงจางๆ จากจูบของเขาแทรกอยู่บนพื้นไม้ข้างเตียง บราเซียร์ลูกไม้สีครีมถูกปลดและทิ้งลงอย่างไม่ใยดี แพนตี้ผ้าลูกไม้สีพาสเทลนุ่มนิ่มขยุ้มอยู่ไม่ไกล—ราวกับเป็นหลักฐานของความสิ้นท่าทางกายที่เธอไม่อาจปกป้องไว้ได้อีกต่อไปร่างของซันโน้มลงมาจากด้านบน แขนแข็งแรงยันกับที่นอนข้างศีรษะเธอ แผ่นอกเปลือยเปล่าของเขาแนบชิด เธอได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นกระหน่ำ ร้อนแรงและดิบดุดันลมหายใจของเขาเป่ารินอยู่ข้างแก้ม ขณะที่ข้อมือเล็กบางของเธอถูกกดตรึงเหนือศีรษะ—แน่นจนไร้ทางหนี แผ่นหลังของมินาเอะแนบชิดผ้าปูเตียงที่เย็นเยียบ ผิวเปลือยสั่นไหวใต้แรงอารมณ์ที่กำลังก่อตัวเหนือร่างเธอ“ปล่อย…ฉันบอกให้ปล่อย!”เสียงของเธอสั่น เธอดิ้นสุดแรง พยายาม
ถนนเลียบทะเล / เวลา 04:23 น.รถ SUV สีดำพุ่งทะยานนำขบวน เสียงเครื่องยนต์คำรามต่ำ ล้อรถกระแทกพื้นคอนกรีตเก่าอย่างดุดัน ถนนแคบเลียบหน้าผาเต็มไปด้วยหมอกทะเลและกลิ่นไอเค็มจาง ๆ แต่ไม่มีอะไรจะหนาวเหน็บไปกว่าสายตาของชายที่นั่งบนเบาะหน้าเรย์จินั่งนิ่ง แต่ดวงตาคมเฉือนอากาศเหมือนกระสุน เบาะหลัง—ไทกะ ยืนสองขาพาดหน้าต่าง กระจกเป็นฝ้าเพราะลมหายใจร้อนของมัน ร่างเล็กสั่นกระตุกจากแรงเห่า มันพร้อมจะพุ่งตัวออกไป...หากประตูเปิด📲 “บอสครับ! มีรถลาดตระเวนสองคันของแก๊งวายุ สกัดถนนช่วงหน้าผา!”“ไม่หลบใช่ไหม?” เสียงเขานิ่งจนขนลุก“ไม่ครับ...พวกมันหันปืนใส่แล้ว”เรย์จิหรี่ตา แสงไฟหน้ารถสาดไปยังชายสองคนที่ยืนอยู่ท้ายกระบะพร้อมปืนกลที่ติดตั้งขึ้นเขายกวิทยุขึ้นแนบปาก“ยิงยาง”ปัง! ปัง!เสียงปืนจากรถคันหลังดังสนั่น กระสุนเฉือนผ่านยางรถศัตรูอย่างแม่นยำ เสียงยางระเบิดดังลั่นตามด้วยเสียงรถหมุนคว้างชนเข้ากับต้นสนข้างทางสองคนที่ถือปืนกระโจนหลบลงพงหญ้าแทบไม่ทัน แต่รถของเรย์จิ... ไม่ชะลอแม้แต่เสี้ยววินาที มันพุ่งทะยานผ่านกลุ่มควัน เหมือนหัวใจของเจ้าของรถที่ตอนนี้ไม่รู้จักคำว่าลังเลคินเหลือบกระจก ส่ายหน้าเบา ๆ“หึ…
🕶️ คฤหาสน์คุโรซาวะ, 03:42 น.ลมยามดึกพัดแรงกว่าทุกคืน เสียงใบไม้สั่นไหวไม่ต่างจากความตึงเครียดในอากาศกลางลานหน้าคฤหาสน์ ไฟจากรถหลายคันสาดส่องลงบนพื้นกรวดอย่างแข็งกร้าว ลูกน้องในชุดยุทธวิธีเคลื่อนพลประจำจุด ปืนในมือขึ้นลำเรียบร้อย เสียงสนทนาทางวิทยุแทรกเป็นระยะ ท่ามกลางแผนที่ดาวเทียมที่กำลังวางอยู่บนฝากระโปรงรถ SUV คันหนึ่ง“ทีม A เข้าทางตะวันออก ทีม B ล็อคแนวป่า ทีม C รอคำสั่งตีวงด้านหลัง...”เสียงของคินดังแน่นอนขณะออกคำสั่งแบบไม่เปิดช่องผิดพลาดทุกอย่างดูเหมือนจะพร้อมสำหรับการปะทะ ทุกอย่าง…ยกเว้นเสียง “โฮ่ง!”จากตัวแสบหนึ่งตัว“โฮ่ง โฮ่ง! โฮ่งงงง!!”เสียงเห่าดังลั่นของไทกะ เจ้าชิบะอินุตัวเขื่อง พุ่งวนรอบรถของเรย์จิอย่างคึกคักมันวิ่งวนเหมือนบอกโลกว่า ‘ฉันจะไปด้วย!!!’“ไทกะ กลับเข้าไป”เสียงเรียบเย็นของเรย์จิดังขึ้น ขณะเขาเปิดประตูจะขึ้นรถแต่ไทกะไม่ฟังสักนิด มันกระโดดขึ้นเบาะหลังอย่างว่องไว หันไปคาบตุ๊กตามินิของมินาเอะจากเบาะรถมากัดแน่น!จากนั้นนั่งนิ่ง...ในท่าบอดี้การ์ดสุดขีดคินที่มองอยู่จากฝั่งตรงข้ามถึงกับหลุดหัวเราะในลำคอ“บอสครับ…มันขึ้นไปนั่งแล้วอะ”“มันเล่นใหญ่กว่าพวกเราอี
🏚️ บ้านพักริมทะเล — เวลาประมาณ 20.45 น.ฝนหยุดตกไปแล้ว แต่เสียงคลื่นยังคงซัดกระทบหน้าต่างอย่างต่อเนื่อง ลมทะเลเย็นเฉียบ พัดผ้าม่านให้พลิ้วเบาในห้องไม้ที่ไร้ความอบอุ่นมินาเอะนั่งอยู่บนโซฟา ผ้าห่มผืนบางคลุมไหล่ แสงจากโคมไฟหัวเตียงสาดลงมาเพียงพอให้เห็นว่า...เธอไม่ได้กลัวอีกต่อไปไม่เหมือนเมื่อคืนตอนนี้ ดวงตาของเธอไม่ได้ไหวไหวด้วยความตกใจ หรือหวาดระแวง แต่มัน ‘นิ่ง’ และ ‘คิด’คิด—อย่างหนัก คิดทุกทางที่จะออกจากที่นี่ให้ได้‘นายล็อกฉันไว้ แต่ไม่ได้ล็อกสมองฉันซะหน่อย’เธอพึมพำในใจ ก่อนจะเหลือบตามองโต๊ะกลางห้องที่วางของบางอย่างไว้โดยไม่ได้ตั้งใจมือถือของซันเขาเพิ่งเดินออกไปเมื่อราวครึ่งชั่วโมงก่อน บอกเพียงว่า “จะไปทำอาหารเย็น” น้ำเสียงยังนุ่มนวล รอยยิ้มยังเหมือนเดิม…แต่ประตูก็ยังล็อกจากด้านนอกตามระเบียบหน้าต่าง? เปิดไม่ได้มือถือของเธอ? แน่นอนว่า...ไม่มีแต่มือถือของเขา…วางอยู่ตรงนั้นซึ่งปกติเขาจะไม่เคยลืมมันเลย แต่เพราะมีสายโทรเข้า และเขากำลังทอดเนื้ออยู่ — เขาจึงรีบวางมันทิ้งไว้แบบไม่ทันคิดสมองของเธอทำงานเร็วกว่าคลื่นทะเลที่ซัดเข้าฝั่งเสียอีกนายคงไม่รู้สินะ…ว่าฉันมันเด็กสายเทคฉันค
วันนั้น…ฝนตกไม่ใช่ฝนที่เทกระหน่ำจนเปียกโชกทั้งตัว แต่เป็นฝนโปรยเบา ๆ ที่คล้ายม่านหมอกพรางทุกสิ่งให้ดูเลือนรางแม้แต่ความคิดของฉัน...“อัยย์ เดี๋ยวฉันไปซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อแป๊บนะ”“เออ รีบไปรีบมานะเฟ้ย” เสียงเพื่อนสาวตะโกนไล่หลังฉันกางร่ม เดินลงจากคณะโดยไม่ได้เฉลียวใจเลยว่า นั่นคือ ‘วินาทีที่ฉันคิดผิดที่สุดในชีวิต’ในมือฉันถือโทรศัพท์ ก้มดูรายการของที่อัยย์ฝากซื้อ ขณะเดินลัดสนามเปียกชื้นผ่านซอกตึกไปยังถนนใหญ่ทันใดนั้น...เงาร่มอีกคันหนึ่งก็ยื่นเข้ามาทาบทับจากด้านข้าง บังสายฝนที่โปรยลงบนหัวฉันอย่างแนบเนียน พร้อมกับเสียงทุ้มเรียบเย็นดังขึ้นข้างหู“มาคนเดียวแบบนี้...ไม่กลัวเหรอครับ?”ฉันสะดุ้ง หันขวับไปทันที แต่ยังไม่ทันได้พูดอะไร—หมับ!มือแข็งแรงคว้าข้อมือฉันแน่น กลิ่นฉุนของยาบางอย่างพุ่งเข้าจมูก รุนแรงจนสมองมึนงงแทบจะทันที โลกทั้งใบเหมือนถูกดับแสงลงในพริบตา……“ตื่นแล้วเหรอครับ?”เสียงนุ่มนวลนั้นยังคงฟังดูอ่อนโยน แต่บรรยากาศโดยรอบกลับไม่อบอุ่นเหมือนเสียงนั้นเลยแม้แต่น้อยฉันพยายามลืมตา โลกหมุนเบา ๆ กลิ่นทะเลจาง ๆ ลอยมาแตะปลายจมูก อากาศเย็นชื้นบอกให้รู้ว่าไม่ใช่ห้องในคอนโดที่ฉันอ
☀️ วันนั้น…แดดดีเกินไปหน่อยฟ้าใส อากาศร้อนแบบที่ทำให้คนในรั้วมหาวิทยาลัยไทระ อินโนเวชั่นเดินกันเร็วขึ้น ร้อนขึ้น หงุดหงิดขึ้นตึกเรียนเต็มไปด้วยเสียงพูดคุยปะปน กลิ่นน้ำหอม เหงื่อ และพลังชีวิตที่ดูจะหมดลงพร้อมคลาสสุดท้ายและฉัน—มินาเอะ ซาโตะ เด็กเนิร์ดผู้มีเป้าหมายแค่กินของอร่อยและกลับบ้านไว ตอนนี้กำลังลากเพื่อนสาวสุดซี้ไปหาอะไรกินแก้เหนื่อย“ฉันอยากกินโอโคโนมิยากิ!” เสียงอัยย์บ่นพร้อมกอดแขนฉันไว้หลวม ๆ“วันนี้เรียนหนักจนจะลอยออกจากโลกไปแล้วอะ”ฉันหัวเราะเบา ๆ“โอเค ๆ ตามใจเลย แกจะกินร้านประจำหรือร้านใหม่—”“สวัสดีครับ มินาเอะซัง”เสียงทุ้มนุ่ม…ดังแทรกกลางบทสนทนา แต่มันเบาพอจะเรียกว่า “สุภาพ” และ “ตั้งใจเลือกจังหวะ”ฉันชะงักไปทั้งตัว เหมือนโดนหยุดเวลานิดหนึ่ง ก่อนจะค่อย ๆ หันกลับไปช้า ๆ และก็อย่างที่คิด…ซันยืนอยู่ใต้เงาต้นไม้ข้างตึกเรียน แสงแดดลอดผ่านร่มไม้ ทาบลงบนชุดสูทสีเทาอ่อนของเขาที่ดูสบาย ๆ แต่ยังดูดีจนน่าหมั่นไส้รอยยิ้มสุภาพประดับบนริมฝีปาก—แต่สายตาเหมือนกำลังวางหมากในใจเงียบ ๆ“อะ...เอ่อ...” ฉันพยายามตั้งสติ“คุณมาทำอะไรที่นี่คะ?” ฉันถามเสียงนิ่ง พยายามไม่แสดงความรู้สึกผ่านส
“บอสครับ… ผมไม่คิดว่าคุณจะเล่นแอปพวกนี้จริง ๆ นะ”คินยืนกอดอกพิงขอบโต๊ะทำงานไม้เข้ม แสงแดดบ่ายลอดผ่านผ้าม่านโปร่ง เงาของชายคนหนึ่งทอดลงบนพื้นเงาขณะที่เรย์จิ คุโรซาวะ มาเฟียหน้านิ่ง ผู้เย็นชาอันดับหนึ่งในวงการกำลังนั่งไถหน้าจอมือถือในมือ เพื่อดู ‘โปรไฟล์เดทออนไลน์” เหมือนเด็กวัยรุ่นด้วยท่าทางนิ่งขรึมไม่ใช่เพื่อความสนุกไม่ใช่เพราะเหงาแต่เพราะคิน…เสนอว่า แอปเดทสมัยใหม่สามารถเช็กข้อมูลผู้ใช้งานที่อาจเข้ามา ‘เจาะแก๊ง’ ได้ด้วย“ใช้เป็นเครื่องมือตรวจสอบเบื้องหลังคนได้” — นั่นคือคำพูดของลูกน้องที่กล้าพูดกับบอสตรง ๆเรย์จิไม่เถียง แค่โหลด เปิด และเลื่อนหน้าจอ…เงียบ ๆจนกระทั่ง—นิ้วของเขาหยุดลง ไม่ใช่เพราะเจอหญิงสาวสวยหรูหรา แต่เพราะเจอโปรไฟล์ที่สะดุดตาอย่าง ผิดแผกจากทุกคนในระบบชื่อผู้ใช้: Min_Min@never2Donlyภาพโปรไฟล์:– รูปหมาตัวเล็กหน้าดุกัดถุงขนม– ข้าวกล่องเบนโตะลายอนิเมะ– ตัวละคร 2D จากอนิเมะสายแอคชันคำอธิบาย:“ไม่ได้หาคนรัก หาคนแชร์ค่าส่งอาหารตอนลด 50% :) ”“……………”เรย์จิจ้องหน้าจอไปเกือบนาที นิ้วไม่ได้ขยับต่อ…แต่หัวใจมันขยับอะไรบางอย่าง“บอส?” คินเลิกคิ้ว“...มีอะไรน่าสนใจเหรอ
แสงแดดอ่อนส่องลอดผ้าม่านเข้ามา ฉันรู้สึกได้ถึงไออุ่นบางอย่างที่โอบล้อมอยู่รอบตัว มือที่แนบกับหน้าท้องขยับเล็กน้อย ก่อนจะรู้สึกว่าร่างฉัน…แนบกับร่างของใครอีกคน“อรุณสวัสดิ์” เสียงทุ้มต่ำติดแหบเอ่ยแผ่วเบาข้างหู“เรย์จิ…” ฉันกำลังจะขยับหนี แต่แขนแข็งแรงที่โอบอยู่รอบเอวฉันกลับกระชับแน่น เขากอดฉันจากด้านหลัง แก้มเขาแนบกับเส้นผมฉัน กลิ่นหอมอ่อนๆ จากเขา…ยังเป็นกลิ่นเดียวกับเมื่อคืน“อยู่เฉยๆ” เขาพูดเสียงนิ่ง“ฉันยังไม่อยากให้เธอลุกไปไหน” ริมฝีปากของเขาแตะแผ่วเบาที่ไหล่ฉันรู้สึกได้ถึงไอร้อนบนผิวที่ยังคงหลงเหลือจากเมื่อคืน จุดรอยแดงบางจุดตามลำคอยังรู้สึกเจ็บเบาๆ“เมื่อคืน…”“เมื่อคืนดีมาก” เขาตัดบทด้วยการจูบที่หลังไหล่ฉัน เสียงของเขาราบเรียบ แต่ร้อนผ่าว“และจะมีอีก…ถ้าเธอยังทำหน้าตาน่ารักแบบนี้ตอนตื่น”“ฉันไม่ได้—”“ชู่ว์…” เขากระชับอ้อมกอดแน่นขึ้น“อย่าเถียงแต่เช้าเลยนะ”ฉันได้ยินเสียงหัวใจเขาเต้นชัดเจนจากด้านหลัง จังหวะมั่นคงและอบอุ่น“เรย์จิ…”“หืม?”“…เมื่อวาน ฉันไม่ได้ฝันใช่ไหม?”เขาเงียบไปพักหนึ่ง ก่อนจะพลิกตัวฉันให้หันหน้ามาหา แล้วสบตาฉันในระยะใกล้ชิด“เธอฝันแน่…เพราะความจริงมันหวานกว่