Share

บทที่ 4

last update Последнее обновление: 2025-04-01 10:54:38

ทางที่ดีให้เขาบาดเจ็บหรือพิการจนต้องนอนเตียงไปทั้งชีวิตเลยก็ได้ สามีคนเดียวนางเลี้ยงไหวอยู่แล้ว แม้จะมีซาลาเปาน้อยแถมมาด้วยก็ไม่เป็นไรนางไม่ถือสา แต่ขออย่าได้ลุกขึ้นมายุ่มย่ามวุ่นวายกับนางเชียวล่ะ

เพราะถ้าไม่อย่างนั้นนางคงไม่ลังเลที่จะส่งเขาลงไปพบกับเหยียนหลัวหวางก่อนเวลาเป็นแน่!

เยว่อวิ๋นนอนนิ่งใช้ความคิดเมินเฉยต่อความวุ่นวายรอบตัวอยู่ครู่ใหญ่ ก่อนจะได้ยินเสียงคนร้องตะโกนขึ้นว่าขบวนรับตัวเจ้าสาวมาถึงแล้ว

หลังจากนั้นร่างกายก็ถูกคนจับพยุงให้ลุกขึ้นนั่ง พอหันไปมองก็เป็นหลิวซื่อมารดาราคาถูกของร่างเดิมนั่นเอง นางหลับตาพลางสูดลมหายใจเข้าลึก อาการปวดทั้งหลายพอบรรเทาลงบ้างแล้ว ทว่าอาการวิงเวียนศีรษะยังคงหนักอยู่

เสียงท้องร้องดังโครกคราก ความรู้สึกหิวจนแสบท้องเช่นนี้ไม่ดีเอาซะเลย แต่น่าเสียดายบ้านสกุลเยว่มีแต่สัตว์ร้ายที่ล้วนหวังขย้ำกัดกินเลือดและเนื้อนาง จึงไม่มีใครให้ความสนใจว่านางจะได้กินอะไรบ้างหรือเปล่า

คนจากบ้านเซี่ยมารับตัวเจ้าสาวอย่างเรียบง่าย พวกเขามาถึงก็ไม่พูดมากวาจา ตรงเข้าไปจับเจ้าสาวขึ้นเกวียนลา เสร็จแล้วก็หันเกวียนออกรีบเร่งฝีเท้าเดินทางในทันที

แน่นอนว่าที่คนพวกนี้ทำแบบนี้ย่อมมีเหตุผล นั่นก็เพราะแม่เฒ่าเยว่เป็นคนร้ายกาจโลภมากและเห็นแก่ตัวอย่างที่สุด

นางไม่อยากคืนสินสอดของหมั้นให้บ้านเซี่ย จึงออกอุบายความคิดให้เยว่อวิ๋นแต่งออกไปแทนเยว่เจินเจิน แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่านางจะไม่คิดใช้อุบายเล่นตัวเพื่อเรียกค่าสินสอดเพิ่มอีก ยิ่งโดยเฉพาะยามนี้ที่บุตรชายคนรองบ้านเซี่ยกลายเป็นคนพิการไร้ประโยชน์ไปแล้ว

ส่วนทางแม่เฒ่าเซี่ยเองก็หาใช่ตะเกียงประหยัดน้ำมัน [1] นิสัยของนางนั้นร้ายกาจพอฟัดพอเหวี่ยงกับแม่เฒ่าเยว่ มีหรือจะคาดเดาลูกไม้ตื้นๆ เหล่านี้ไม่ออก จึงลอบสั่งกำชับบุตรชายคนโตที่นำคนไปรับตัวเจ้าสาวให้ทำตามที่นางบอก เพื่อป้องกันหญิงชราหน้าเลือดบ้านเยว่ถือโอกาสสูบเลือดสูบเนื้อพวกนาง

ดังนั้นเมื่อขบวนรับเจ้าสาวมาถึง แม่เฒ่าเยว่ยังไม่ทันได้เริ่มแผลงฤทธิ์ คนก็กรูกันเข้ามา จากนั้นพริบตาก็เผ่นหายไปไม่เห็นฝุ่นเสียแล้ว เห็นว่าทำอะไรพวกเขาไม่ได้ แม่เฒ่าเยว่จึงได้แต่ร้องก่นด่าสาปแช่งไล่หลังอย่างฉุนเฉียว

“พวกผีอายุสั้นนี่รีบร้อนไปไหนกัน ยายแก่บ้านเซี่ยคงสั่งให้ทำแบบนี้สินะ เฮอะ! คนอย่างนางก็แบบนี้แหละ วันๆ ดีแต่วางอุบายใส่ผู้อื่น เห็นอย่างนี้แล้วไม่แปลกใจเลยที่ตาเฒ่าเซี่ยรีบด่วนจากไป ต้องอยู่กับคนแบบนี้จะมีอะไรดี”

พูดจบก็ถ่มน้ำลายไล่หลัง หลายคนมองท่าทางหยาบคายของนางแล้วส่ายหน้า หากจะบอกว่าผู้เฒ่าบ้านเซี่ยทนภรรยาร้ายกาจไม่ไหวจึงรีบด่วนจากไป แล้วผู้เฒ่าเยว่ที่ตายไปตั้งก่อนหลายปีนั้นเล่า

นี่ไยมิใช่จะบอกเป็นกลายๆ ว่าตัวนางนั้นเลวร้ายยิ่งกว่าแม่เฒ่าเซี่ยอีกหรือ!

แม่เฒ่าเยว่ไม่รู้ความคิดของพวกเขา ทว่านางไม่สบอารมณ์กับสายตาที่มองมา จึงร้องเรียกสะใภ้กับบุตรสาวของตนเข้าบ้านทันที ก่อนจะร้องกราดด่าอย่างหงุดหงิดเมื่อเห็นถังอาหารไก่ที่วางยังมีอาหารข้างในอยู่เต็ม

“สะใภ้รอง! นางตัวขี้เกียจสันหลังยาว ป่านนี้ยังไม่ได้ให้อาหารไก่อีกหรือ! โอ๊ย! นี่มันเป็นเวรเป็นกรรมอะไรของข้ากันนะ ถึงต้องมานั่งเลี้ยงดูตัวขาดทุนอย่างพวกเจ้าแม่ลูก”

ลานหน้าบ้านยังมีชาวบ้านหลายคนที่มาเพื่อรอดูเรื่องสนุก พวกเขายืนฟังคำก่นด่าแล้วพากันเบ้ริมฝีปากโดยพร้อมเพรียง บ้านเยว่มีบุตรสามคน คนโตเยว่ฉิน คนรองเยว่หลิน แล้วก็เยว่เจินเจินคนสุดท้อง นับแต่อดีตแม่เฒ่าเยว่ก็ลำเอียงรักลูกชายคนโต เอ็นดูลูกสาวคนเล็ก

เจ้าใหญ่บ้านเยว่ขี้เกียจตัวเป็นขน ที่ผ่านมางานในไร่ในนาล้วนเป็นเจ้ารองเยว่ทำทุกอย่าง ส่วนเยว่เจินเจินยิ่งไม่ต้องพูดถึง วันๆ เอาแต่เดินเฉิดฉาย เชิดหน้าชูคอเสียยิ่งกว่าลูกคุณหนูตระกูลผู้ดีในเมือง

ต่อมาหลังจากเยว่หลินเสียชีวิตลง งานในไร่ในนาก็ถูกเหมาให้กับหลิวซื่อ จนกระทั่งเยว่อวิ๋นเริ่มโตจนรู้ความ นางก็กลายมาเป็นแรงงานในบ้านอีกคน

สตรีสองคนทำงานทั้งนอกบ้านและในบ้าน ดูแลปรนนิบัติสกุลเยว่ของพวกเขายิ่งกว่าบ่าวรับใช้ โดยเฉพาะเยว่อวิ๋นนั้นน่าสงสารที่สุด นางทำงานหนักแทบตายสุดท้ายยายแก่นี่ก็ยังขายนางให้บ้านเซี่ยเพื่อสินสอด

แม่เฒ่าเยว่กล้าใช้คำว่าตัวเองเป็นคนเลี้ยงดูสองแม่ลูกนี่ ไม่คิดละอายแก่ใจตนเองบ้างหรือ

หลิวซื่อที่อยู่ด้านนอกไม่ได้สนใจฟังคำด่าของแม่สามี และยิ่งไม่ใส่ใจต่อสายตาสงสารที่ทุกคนมองมา นางยืนนิ่งไม่ไหวติง ดวงตามองตามหลังกลุ่มคนที่ห่างไกลออกไปเรื่อยๆ ใบหน้าซีดเซียวนั้นแฝงไปด้วยร่องรอยของความทุกข์ตรม

นางแต่งให้เยว่หลินช่วงแรกๆ นั้นยังพอดีอยู่บ้าง แต่หลังจากคลอดลูกออกมาเป็นผู้หญิง แม่สามีก็แสดงความไม่พอใจ ไม่ยอมให้นางกินอาหารบำรุงน้ำนม สามีเห็นนางไม่มีนมให้ลูกจึงกัดฟันเข้าป่าหวังหาอาหารมาบำรุง

ทว่าเขาไปแล้วไปลับไม่ได้กลับมาอีกเลย…

เดิมแม่เฒ่าเยว่ก็รังเกียจลูกสาวนางอยู่เป็นทุนเดิม เมื่อเกิดเรื่องกับบุตรชายคนรองจึงยิ่งเกลียดชังทารกน้อย เอาแต่ด่าว่าทารกน้อยว่าเป็นตัวอัปมงคลเกิดมาก็ทำให้บิดาต้องตาย

หลังจากเยว่หลินเสียชีวิตลง หลิวซื่อก็ใช้ชีวิตอย่างยากลำบากในบ้านสกุลเยว่ เมื่อคิดถึงสามีที่จากไปก่อนวัยอันควร นางพลันนึกเห็นด้วยกับคำพูดว่าร้ายของแม่สามี การปฏิบัติต่อลูกสาวจึงไร้เย็นชาเยื่อใย นานวันเข้าความสัมพันธ์ระหว่างแม่และลูกสาวก็ยิ่งห่างเหินต่อกัน

เดิมทีหลิวซื่อนึกว่าส่งบุตรสาวตัวภาระออกไปตามคำสั่งแม่สามี ตนเองก็จะหมดเรื่องสบายใจได้เสียที คิดไม่ถึงว่าความอึดอัดที่มีภายในใจกลับไม่ได้ลดน้อยถอยลงเลยสักนิด

โดยเฉพาะสายตาเฉยชาราวกับคนแปลกหน้าของบุตรสาวที่สบกันก่อนจะจากไป ยังคงฝังติดตาเป็นภาพจำในใจ หลิวซื่อเกิดความรู้สึกโหวงเหวงขึ้นในอกอย่างบอกไม่ถูก

ราวกับว่าบางสิ่งบางอย่างที่สำคัญได้หลุดลอยจากนางไปเสียแล้ว…

ส่วนทางด้านเยว่อวิ๋นที่กำลังอดทนกับความโคลงเคลงของเกวียนที่นั่ง ไม่ได้ตระหนักถึงความรู้สึกเสียใจของหลิวซื่อแม้แต่น้อย ทว่าต่อให้รับรู้แล้วอย่างไร อย่างไรเสียนางก็ไม่คิดสนใจอยู่ดี

นางปล่อยให้หลิวซื่อได้เป็นคนเลือกแล้ว นับตั้งแต่ฟื้นขึ้นมาจนรู้ว่าตนเองสวมร่างของผู้อื่นอยู่ นางก็มอบโอกาสนี้ให้กับอีกฝ่ายมาโดยตลอด

ขอเพียงแค่หลิวซื่อหยิบยื่นความรักความห่วงใยให้แก่ ‘เยว่อวิ๋น’ สักเล็กน้อย เอ่ยปากช่วยพูดหรือแสดงท่าทีปกป้องบ้างสักนิด นางก็จะเคารพกตัญญูต่ออีกฝ่ายเสมือนมารดาและบุตรแท้ๆ

ทว่าน่าเสียดายหลิวซื่อเลือกที่จะละทิ้งบุตรสาวคนนี้อย่างไม่แยแส เช่นนั้นต่อไปในอนาคตหลิวซื่อจะเป็นอย่างไรก็ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับนางอีก

เพียงแต่ว่า…

เกวียนลานี้จะย่ำแย่เกินไปหน่อยไหม เยว่อวิ๋นปิดปากอาเจียนแห้งๆ ด้วยความคลื่นไส้ นางถูกกระแทกกระทั้นจนหูอื้อตาลายไปหมด ในใจพลันนึกสบถไม่หยุด

ดีชั่วข้าก็แต่งเข้าบ้านสกุลเซี่ยของพวกเจ้าแล้ว เรื่องง่ายๆ อย่างกับอีแค่การขับเกวียนบรรทุกเจ้าสาว ช่วยทำให้มันดีกว่านี้หน่อยจะได้หรือไม่!

โชคดีที่หมู่บ้านเซี่ยอยู่ห่างจากหมู่บ้านหลินที่ตระกูลเยว่อาศัยอยู่ไม่มากนัก ใช้เวลาเดินทางเพียงหนึ่งชั่วยาม [2] กว่าๆ ก็ถึงแล้ว ดังนั้นเยว่อวิ๋นจึงทนทรมานอยู่ไม่นาน

ขณะที่เกวียนที่นางนั่งมาหยุดลง เยว่อวิ๋นก็ให้รู้สึกแปลกใจกับความเงียบตรงหน้าไม่น้อย หญิงสาวอาศัยช่วงเวลาถูกคนพยุงลงสังเกตรอบด้านอย่างรวดเร็ว

เบื้องหน้านางคือบ้านเก่าที่สภาพผุพังขนาดจะถล่มลงมาก็คงไม่น่าแปลกใจ ในขณะที่ส่วนผนังบ้านกระดำกระด่างทั้งยังมีที่ว่างเว้นเป็นรูกว้างในบางแห่ง หากจะบอกว่าเล้าหมูของบ้านเยว่ยังดีกว่าก็เรียกได้ว่าไม่เกินจริงนัก เยว่อวิ๋นมองแล้วอดนึกประหลาดใจไม่ได้

ไหนยายเฒ่าน่าตายนั่นบอกว่าบ้านเซี่ยมีฐานะไม่เลวเลยอย่างไรเล่า แล้วสภาพอัตคัดแลดูแสนจะขัดสนที่เห็นอยู่นี่คืออะไร

“มากันแล้วหรือ เหตุใดจึงไปนานนัก” หญิงชรานางหนึ่งก้าวเข้ามาถาม “ไม่ใช่ข้าสั่งให้รีบไปรีบกลับออกมารึ หรือยายแก่บ้านเยว่รั้งพวกเจ้าเพื่อขอสินสอดเพิ่มอีก ฮึ! ข้านึกไว้แล้วเชียว คนอย่างนางสบช่องมีหรือจะไม่หาโอกาส”

เยว่อวิ๋นฟังแล้วอดนึกขันไม่ได้ คงต้องบอกว่าคนจำพวกเดียวกันมักจะมองกันออกจริงๆ สินะ ขนาดอีกฝ่ายไม่อยู่ในขบวนรับตัวเจ้าสาวแท้ๆ กลับบรรยายการกระทำของแม่เฒ่าเยว่ได้ชัดเจนชนิดตาเห็นเลยทีเดียว ดูท่าแล้วหญิงชราผู้นี้คงเป็นแม่สามีราคาถูกของนางกระมั้ง

[1] เป็นคำอุปมา หมายถึงไม่ใช่คนไม่มีเล่ห์เหลี่ยม
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapter

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 5

    เยว่อวิ๋นฟังแล้วอดนึกขันไม่ได้ คงต้องบอกว่าคนจำพวกเดียวกันมักจะมองกันออกจริงๆ สินะ ขนาดอีกฝ่ายไม่อยู่ในขบวนรับตัวเจ้าสาวแท้ๆ กลับบรรยายการกระทำของแม่เฒ่าเยว่ได้ชัดเจนชนิดตาเห็นเลยทีเดียว ดูท่าแล้วหญิงชราผู้นี้คงเป็นแม่สามีราคาถูกของนางกระมั้ง“ท่านแม่ พวกข้าไม่ได้เสียเปรียบให้นางเลยขอรับ” เซี่ยจินกล

    Последнее обновление : 2025-04-01
  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 6

    ยามฟ้าสางรุ่งอรุณมาเยือน แสงอาทิตย์สีทองเริ่มจับขอบฟ้า หมู่สกุณาเริงร่าร้องขับขาน เยว่อวิ๋นถูกปลุกให้ตื่นด้วยเสียงพูดคุยเล็กๆ“ท่านพี่ ข้าหิวแล้ว” เสียงที่พอฟังออกว่าเป็นเด็กหญิงดังขึ้น จากนั้นก็มีเสียงตอบกลับจากเด็กชาย “ชู่ เบาๆ นางตื่นแล้ว”เยว่อวิ๋นลืมตาเหม่อมองหลังคาอยู่พักหนึ่ง นางนอนฟังเจ้าของ

    Последнее обновление : 2025-04-02
  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 7

    “ต้องซาวน้ำล้างเศษดินทิ้งก่อนหุงเจ้าค่ะ” เสียงเล็กๆ ดังขึ้นจากทางด้านหลัง ในกระแสเสียงปะปนด้วยอารมณ์หวาดหวั่นของผู้เป็นเจ้าของเยว่อวิ๋นเลิกคิ้วเล็กน้อย ในใจบางอ้อขึ้นมาทันที ที่แท้เพราะนางยังไม่ได้ล้างข้าวก่อนนี่เอง สีของน้ำจึงมิต่างจากน้ำโคลนเช่นนี้ หญิงสาวหันไปยิ้มให้เจ้าตัวน้อยที่แอบอยู่ด้านหลัง

    Последнее обновление : 2025-04-02
  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 8

    “เด็กน้อย เจ้าดูไฟเป็นหรือไม่” หญิงสาวถามเบาๆเสี่ยวอวี้ประหลาดใจเล็กน้อย ก่อนจะพยักใบหน้ารัวๆ ประดุจไก่จิกข้าวสาร“เป็นเจ้าค่ะ ตั้งแต่เสี่ยวอวี้สี่ขวบก็มีหน้าที่คอยจุดไฟให้ท่านป้าใหญ่อยู่แล้ว” เด็กหญิงบอกน้ำเสียงเจื้อยแจ้ว ขณะทรุดลงนั่งยองๆ หน้าเตาไฟเยว่อวิ๋นหรี่นัยน์ตามองร่างเล็กตรงหน้าอย่างพินิจ

    Последнее обновление : 2025-04-02
  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 9

    ในความคิดของเยว่อวิ๋น เด็กน้อยอายุไม่กี่ขวบเหล่านี้ หากถูกเลี้ยงดูดีๆ มีใครบ้างที่ไม่ขาวอวบนุ่มนิ่มดังเช่นซาลาเปาทว่าน่าเสียดายนัก ลูกเลี้ยงของนางทั้งสองคนกลับเป็นได้แค่หัวไชเท้าน้อยเปื้อนโคลน พวกเขาไม่เพียงมีร่างกายที่ผ่ายผอมแคระแกร็น ทั้งยังเต็มไปด้วยริ้วรอยบาดแผลฟกช้ำตามเนื้อตัวชนิดไม่มีที่ว่าง

    Последнее обновление : 2025-04-02
  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 10

    เยว่อวิ๋นนั้นไม่รู้ตัวเลยว่าเจ้าหัวไชเท้าน้อยที่นางกำลังคิดเลี้ยงดูนั้น กำลังวางแผนที่จะเลี้ยงดูนางในอนาคตเช่นกันเนื่องจากฟ้าด้านนอกยังสว่างไม่มากนัก ภายในห้องมีเพียงเแสงสว่างสลัวๆ เมื่อรวมกับกลิ่นอับชื้นอากาศจึงไม่น่าพิสมัยนัก เยว่อวิ๋นพลันขมวดคิ้วเล็กน้อยขณะถือชามข้าวต้มเดินเข้าในห้องคนบนเตียงยั

    Последнее обновление : 2025-04-03
  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 11

    รอยยิ้มกลบเกลื่อนของเยว่อวิ๋นไม่นับว่าแนบเนียน แต่ตัวเซี่ยฉงอวิ๋นเองก็ไม่ได้ดีไปกว่ากัน ทั้งคู่จึงไม่ทันมองออกถึงความในใจที่ต่างคนก็ต่างซ่อนเก็บไว้“นี่มันอะไรกัน ทำไมข้าวสารกับไข่ถึงได้เหลือแค่นี้!”เสียงร้องตะโกนดังขึ้นท่ามกลางความเงียบ เยว่อวิ๋นราวกับได้ย้อนไปวันแรกที่นางฟื้นมาในร่างนี้แล้วมียายแ

    Последнее обновление : 2025-04-04
  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 12

    นี่ใช่นางเด็กบ้านเยว่ที่ตนเคยเจอจริงน่ะหรือแม่เฒ่าเซี่ยเบิกตากว้างมองคนตรงหน้า อีกฝ่ายไม่เหมือนเดิมเลยแม้แต่น้อย คำพูดที่ฉาดฉานแสดงออกถึงความมั่นใจ การกระทำท่าทางทุกอย่างล้วนสง่างาม แฝงด้วยไปกลิ่นอายข่มขวัญกดดันผู้คน แม้แต่ฮูหยินนายอำเภอที่นางเคยได้เห็นไกลๆ ก็ยังไม่อาจเทียบได้“เจ้าต้องการอะไร” แม่

    Последнее обновление : 2025-04-04

Latest chapter

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 142

    เรื่องอะไรนางต้องลำบากลำบนเป็นหนี้เพื่อซื้อผู้หญิงให้สามีตัวเองด้วย!“เยว่ซื่อเจ้าอย่าได้ทำเกินไปนักนะ คิดว่าตัวเองเป็นใครถึงมาเจ้ากี้เจ้าการเรื่องครอบครัวข้า แค่สามีข้ารู้จักสวีเหยาเจ้าก็คิดจะยัดเยียดคนเข้ามาแล้วรึ เจ้านี่มันไร้เหตุผลสิ้นดี”“เจ้าเองก็รู้นี่ ว่าเรื่องแบบนี้มันไร้เหตุผล แล้วทีเจ้าลา

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 141

    เซี่ยเหล่าซานมีหรือจะไม่รู้นิสัยลูกสะใภ้ตัวเอง นางสงสารสวีเหยาจริงเสียที่ไหนกัน ก็แค่อยากสร้างความลำบากใจให้ผู้อื่นเท่านั้นแหละ“สะใภ้รองเจ้าว่างมากนักหรือไง ถ้าไม่มีอะไรทำก็กลับเข้าบ้านไปเสีย อย่ามาอยู่ตรงนี้ให้คนเขาระอาเลย” อยู่ต่อหน้าเยว่อวิ๋นเซี่ยเหล่าซานไม่สะดวกจะสั่งสอนลูกสะใภ้ จึงได้แต่ถลึงตา

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 140

    พอรู้ว่าคนไปแล้วนางเจียงจึงขมวดคิ้ว บ่นสามีที่ไม่รู้ความเบาๆ “ดูเจ้าสิ อายุปูนนี้แล้วยังคิดไม่ได้ เยว่ซื่อมอบของตอบแทนที่เจ้าช่วยเหลือ เจ้าก็ไม่คิดอะไรแบมือรับอย่างเดียวหรือ”ผู้ใหญ่บ้านฟังแล้วหน้าแดง รู้สึกว่าตนบกพร่องมารยาทไปจริงๆ เจียงซื่อเห็นเขาคิดได้ก็ไม่พูดต่อ นางเพียงส่งผักที่กอดไว้ให้อีกฝ่าย

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 139

    อีกด้าน เยว่อวิ๋นจัดการแบ่งใบชาที่ซื้อมาใส่ห่อพร้อมขนมกุ้ยฮวาที่ซื้อมาอีกหนึ่งกล่อง เตรียมของเสร็จนางก็กำชับต้าเป่ากับเสี่ยวอวี้ให้คอยดูคนป่วยสองคนด้านใน จากนั้นจึงมุ่งหน้าไปยังบ้านผู้ใหญ่บ้านบ้านของผู้ใหญ่อยู่ห่างจากบ้านของเยว่อวิ๋นพอประมานใช้เวลาเดินเกือบๆ หนึ่งเค่อ เยว่อวิ๋นเดินไปตามทางอย่างไม่ร

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 138

    พอเยว่อวิ๋นจากไปในห้องก็พลันเงียบงันชั่วขณะ เซี่ยฉงอวิ๋นที่เมื่อครู่ต่อล้อต่อเถียงก็เอาแต่จ้องมองใบหน้าหลีจวินไม่กล่าววาจา เห็นอย่างนั้นหลีจวินก็ใจแป้วขึ้นมาทันที“เจ้ามองข้าแบบนั้นทำไม ขะ... ข้าเป็นลูกค้าบ้านเจ้านะ” หลายวันมานี้เขาถูกคนตรงหน้ากลั่นแกล้งจนหัวหมุนขยาดไปหมดแล้ว“แล้วอย่างไร เจ้ายังไม่

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 137

    เรื่องราวของสวีเหยาถูกโจษจันไปทั่วหมู่บ้าน หญิงสาวยังไม่แต่งงานคนหนึ่ง กลับวิ่งไปหาบุรุษที่มีภรรยาอยู่แล้วเพื่อขอเป็นอนุ นี่ช่างเป็นเรื่องตลกร้ายที่น่าอับอายอย่างแท้จริงพริบตาที่เรื่องนี้แพร่ออกไป ไม่เพียงครอบครัวสวีที่กลายเป็นตัวตลก แต่บ้านจ้าวเองก็หนีไม่พ้นเช่นกันป้าจ้าวที่เคยเดินเชิดหน้านินทาคน

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 136

    ทว่าสวีเหยากลับไม่ได้ทำอะไรเยว่อวิ๋นอย่างที่ทุกคนคาดเดา นางเพียงพุ่งไปคุกเข่าเบื้องหน้าเยว่อวิ๋น ก่อนจะก้มลงโขกศีรษะให้ฝ่ายหลังสุดแรง“เยว่อวิ๋น ขอร้องเจ้าแล้ว ยอมให้ข้าเป็นอนุของพี่ชายอวิ๋นเถอะ ขอแค่เจ้ายอมรับปาก ข้าสาบานจะปรนนิบัติรับใช้เจ้ากับพี่ชายอวิ๋นจนชีวิตหาไม่”สวีเหยาพร่ำขอร้องไปพลางโขกศีร

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 135

    อีกด้าน เยว่อวิ๋นกำลังฝังเข็มให้เซี่ยฉงอวิ๋นอยู่เช่นกัน ทว่าฝั่งนี้กลับดูสบายกว่าทางหลีจวินอย่างเห็นได้ชัด“หลีจวินนี่เด็กจริงๆ เขาแกล้งเอะอะใส่หมอจางทุกครั้งแบบนี้สนุกนักหรือไง” เยว่อวิ๋นฟังเสียงร้องโหยหวน พลางขมวดคิ้วบ่นเบาๆถึงอย่างไรหมอจางก็เป็นลูกศิษย์นาง เจ้าหนุ่มนั่นไม่รู้จักเคารพผู้อาวุโสเอา

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 134

    ได้ยินอีกฝ่ายสาธยายความผิดของฟางฮัวทีละข้อชัดถ้อยชัดคำ เยว่อวิ๋นได้แต่นิ่งเงียบพูดไม่ออก นี่เขาพิการออกไปไหนไม่ได้จริงหรือส่วนฟางฮัวผู้นี้คงรังเกียจว่าชีวิตตนสงบสุขเกินไปสินะ ถึงได้พยายามรนหาที่ซะเหลือเกินเซี่ยฉงอวิ๋นเห็นภรรยาไม่คิดจะพูดแทนฟางฮัวอีกก็พอใจอย่างมาก เขาเอื้อมมือดึงคนเข้ามากอดขณะเอ่ยเ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status