มุมปากเยว่อวิ๋นกระตุกเล็กน้อย สามีท่านช่างทำตัวตามใจเสียเหลือเกิน องครักษ์หลวงคนของฮ่องเต้ก็กล้าเรียกใช้งานยิบย่อยไม่มีเกรงใจเลยสักนิด“ก็คงต้องเป็นอย่างนั้น” พอกล่าวประโยคนี้ออกมา เยว่อวิ๋นก็เกิดความรู้สึกว่าร่างกายที่หนักอึ้งมาตั้งแต่เมื่อวานของตน ดูเหมือนจะปลอดโปร่งโล่งสบายขึ้นอย่างเห็นได้ชัดดวง
“เจ้าหมายความว่านี่เป็นคำสั่งของเยว่ซื่องั้นหรือ เช่นนั้นนางทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร หลิวซื่อตายไปในบ้านนางก็ไม่มีคนรับใช้ ด้วยนิสัยของนางไม่มีทางทำเรื่องที่ไม่ได้ประโยชน์ ดังนั้นการตายของหลิวซื่อจะต้องมีผลประโยชน์ต่อนางมากกว่าการมีชีวิตอยู่” เซี่ยฉงอวิ๋นขมวดคิ้ววิเคราะห์ต่อ“แม่สามีคิดสังหารลูกสะใภ้ สาเ
การคาดเดายังไม่ได้รับการยืนยัน ความคิดก็พลันโดนเสียงครางฮือของคนบนเตียงขัดขึ้นเสียก่อน เยว่อวิ๋นหยุดพักข้อสันนิษฐานเหล่านั้นไว้ หันไปสอบถามอาการบาดเจ็บหลังฟื้นอีกครั้ง“บาดแผลบนศีรษะของท่านลึกมาก รู้สึกมีอาการอื่นร่วมอีกไหม อย่างเช่นมึนศีรษะ หรือคลื่นไส้อยากอาเจียนอะไรแบบนี้” น้ำเสียงที่ถามกระจ่างใส
“ข้ารู้” นางเองก็ไม่คิดจะทักทายเขาเพราะเหตุนี้เช่นกัน“ต่อมาข้าพบว่าเจ้าไม่ได้เข้าร่วมงานเลี้ยง” หลังจากนางหายไปจากวังหลวงเขาก็พยายามสืบหาข่าวคราวมาโดยตลอด ทว่าน่าเสียดายที่ไร้วี่แววจนกระทั่งพบกันในรังโจรครั้งนั้น“ท่านคิดว่าข้าจำท่านไม่ได้จริงน่ะหรือ” หากไม่ใช่เขา นางไหนเลยจะยอมรับคนไม่รู้ที่มาที่
ฟังแล้วเยว่อวิ๋นกลับถอนใจ เขาแก้แค้นให้นาง แต่เป้าหมายดันเป็นฮ่องเต้ที่เป็นเสมือนผู้สมรู้ร่วมคิดเสียอย่างนั้นสินะ “ฮ่องเต้ตาย เขาชิงบัลลังก์สำเร็จจนได้สินะ ฮึ! ถึงกับปล่อยให้เขาเป็นชาวประมง ได้ตำแหน่งฮ่องเต้ไปเสียได้”น่าแค้นใจ ทำไมนางไม่ฟื้นมาในปีนั้นนะ“ไม่เชิง” เซี่ยฉงอวิ๋นเห็นภรรยาแสดงท่าทีหัวเส
“อย่าเสียใจไปเลย”เซี่ยฉงอวิ๋นทนเห็นท่าทางเสียใจของภรรยาไม่ได้เป็นที่สุด ชายหนุ่มลังเลอยู่ไม่นานก็เปิดปากเอ่ยขึ้น“เจ้าอาจไม่ได้เล่นงานเขาโดยตรง แต่ว่าความตั้งใจนั้นข้าได้สานต่อให้แล้ว” เซี่ยฉงอวิ๋นตบแผ่นหลังผอมบางเบาๆแม้รู้ว่าเหออ๋องทรยศเยว่อวิ๋น แต่ด้วยนิสัยรักพวกพ้องปกป้องคนของตัวเอง ทำให้เซี่ยฉ