Beranda / รักโบราณ / ซือหยา...ย้อนเวลามาหาดวงใจทั้งสาม / นิสัยชอบยุ่งเรื่องชาวบ้าน 1

Share

นิสัยชอบยุ่งเรื่องชาวบ้าน 1

last update Terakhir Diperbarui: 2025-10-20 21:29:18

หลังจากที่แผ่นหลังกว้างของสามีและร่างเล็ก ๆ ของลูกชายทั้งสองลับหายไปจากสายตา ความเงียบสงัดก็เข้าปกคลุมเรือนไม้อีกครั้ง ซือหยายืนนิ่งอยู่กลางห้องโถงที่ว่างเปล่า ความรู้สึกโดดเดี่ยวที่คุ้นเคยจากชาติที่แล้วกลับเข้ามาจู่โจมหัวใจของนางอีกครั้ง 

นางสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ แล้วมองไปรอบ ๆ ตัวเองอย่างไม่คุ้นเคย แสงแดดที่สาดส่องเข้ามาทางหน้าต่างบานเล็ก ดูร้อนแรงขึ้นกว่าตอนที่นางตื่นขึ้นมา แสดงว่าตอนนี้เวลาคงใกล้เที่ยงวันแล้ว 

"ข้าคงต้องทำอาหารกลางวันให้ทุกคนแล้ว"  นางพึมพำกับตัวเองเมื่อนึกถึงร่างกายที่ผอมบางของลูกชายทั้งสอง

ซือหยาเดินเข้าไปในห้องครัวที่อยู่ด้านหน้าเยื้องไปทางฝั่งซ้ายของตัวเรือน กลิ่นฟืนและกลิ่นดินอับชื้นที่โชยออกมาจากห้องครัวทำให้ซือหยาขมวดคิ้วเล็กน้อย นางกวาดสายตามองไปรอบ ๆ ห้องครัวขนาดเล็กที่เต็มไปด้วยของใช้ที่ทำจากกระเบื้องดินเผาและเหล็ก 

กระทะเหล็กสีดำสนิทถูกวางอยู่บนเตาดินเผาที่มีถ่านไฟที่ยังคงปะทุอยู่ข้างใน ข้างกันมีหม้อดินเผาใบใหญ่ตั้งอยู่บนเตาอีกเตาหนึ่ง ภายในหม้อมีน้ำอยู่เต็มหม้อ เป็นน้ำที่ต้มไว้ดื่ม

 ส่วนบนโต๊ะไม้เก่า ๆ มีตะกร้าสานใบใหญ่ที่เต็มไปด้วยผักกาดขาว ผักกวางตุ้ง และหัวไชเท้าวางอยู่ ข้างกันมีอ่างดินขังปลาช่อนตัวใหญ่กับปลาตะเพียนขนาดเท่าฝ่ามือหลายตัวที่ถูกขังอยู่ในอ่างน้ำ 

นางมองไปที่ปลาตะเพียนสองตัวแล้วก็รู้สึกเสียดาย นี่มันของดีชัด ๆ แต่ความทรงจำของร่างนี้กลับบอกว่าไม่มีใครในบ้านนี้ชอบกินปลาตะเพียนเพราะมันก้างเยอะ ในคลองหน้าเรือนก็มีปลามากมายให้หากิน ข้าวปลาอาหารในตอนนี้ล้วนอุดมสมบูรณ์ ชาวบ้านจึงเลือกกินได้อย่างไม่เสียดาย

"น่าเสียดายจริง ๆ " นางพึมพำกับตัวเองเบา ๆ

ซือหยาเดินไปที่เตาดินเผาแล้วก่อไฟขึ้น นางเดินไปหยิบข้าวสารที่อยู่ในไหดินเผาออกมา แล้วล้างข้าวให้สะอาดก่อนจะเทลงในหม้อดินเผา ก่อนจะนำไปตั้งไฟ 

นางเดินกลับมาที่โต๊ะไม้แล้วใช้สายตามองไปที่วัตถุดิบต่าง ๆ ที่วางอยู่บนโต๊ะ 

"ทำอะไรให้ทุกคนกินดีน๊า..."

ในใจของซือหยาตอนนี้มีเพียงความปรารถนาเดียวคือนางอยากจะทำอาหารอร่อย ๆ ให้สามีและลูก ๆ ของนางกิน อาหารที่นางเคยทำในชาติที่แล้ว อาหารที่นางเคยทำกินกับครอบครัวของนางในอดีต…

"เสียดายจัง...อยากทำปลาตะเพียนต้มเค็ม จะได้กินปลาได้ทั้งตัว แต่ก็ไม่มีน้ำมันซะอย่างนั้น" 

นางพึมพำกับตัวเองอย่างท้อใจ นางก้มลงมองไปที่กระทะเหล็กที่วางอยู่บนเตาอีกเตาหนึ่งแล้วก็ถอนหายใจออกมาอย่างหนักหน่วง 

"เฮ้อ...ถ้ามีน้ำมันก็คงดี"

ทันใดนั้นเองสิ่งที่น่าเหลือเชื่อก็เกิดขึ้น! ขวดน้ำมันปรากฏขึ้นตรงหน้าของนาง! ซือหยามองมันด้วยความตกใจ ดวงตาของนางเบิกกว้างราวกับไม่เชื่อสายตา นี่มันขวดน้ำมันที่นางใช้ในชาติที่แล้วนี่! มันเป็นยี่ห้อเดียวกับที่นางซื้อเอาไว้เลย!

"นี่...นี่มันขวดน้ำมันที่ฉันซื้อไว้ไม่ใช่เหรอ? อย่าบอกนะว่าฉันมีมิติอย่างที่เคยอ่านในนิยายพวกนั้น..." 

ซือหยาพูดเสียงแผ่วเบาด้วยความตกใจ นางยื่นมือออกไปสัมผัสขวดน้ำมันที่อยู่ตรงหน้า มันเป็นของจริง! 

"ถ้าอย่างนั้น...ฉันอยากเข้าไปในมิติ"

ซือหยาหลับตาลงแล้วลองนึกภาพเพนท์เฮ้าส์ของนางในชาติที่แล้ว ทันใดนั้นเองความรู้สึกและกลิ่นที่คุ้นเคยก็กลับเข้ามา นางรู้สึกเหมือนถูกดูดเข้าไปในอุโมงค์มืด ๆ ก่อนที่จะปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งในสถานที่ที่คุ้นเคย…

ห้องเพนท์เฮ้าส์ขนาดใหญ่ที่อยู่ชั้นบนสุดของสำนักงาน

ซือหยาเดินไปเปิดประตูตู้เย็นอย่างไม่เชื่อสายตา ภายในตู้เย็นเต็มไปด้วยอาหารและเครื่องดื่มทุกชนิดอย่างที่นางซื้อไว้ ไฟในห้องนี้ก็ยังคงใช้ได้ตามปกติ นางเดินเข้าไปหยิบนมกล่องสองกล่องออกมาจากตู้เย็น ตั้งใจว่าจะเอาไปให้ลูกชายทั้งสองของนางดื่ม 

แต่สิ่งที่น่าตกใจยิ่งกว่านั้นก็คือ ทันทีที่นางหยิบนมออกไป กล่องนมใหม่ก็ผุดขึ้นมาแทนที่ในช่องที่ว่างเปล่าทันที! นางลองหยิบนมออกมาอีกครั้ง แต่ก็ยังมีนมกล่องใหม่ผุดขึ้นมาแทนที่อีก! นี่เองทำให้นางรู้ว่าของในเพนท์เฮ้าส์ของนางสามารถหยิบออกมาใช้ได้ไม่มีวันหมด!

"แม่เจ้า! นี่มันสวรรค์ชัด ๆ ทีนี้ล่ะ ตอนอพยพก็ไม่ต้องห่วงเรื่องอาหารแล้ว"

ซือหยาเดินเข้าไปในห้องครัวของเพนท์เฮ้าส์ นางมองไปที่เตาไฟฟ้าและเครื่องครัวที่ทันสมัยแล้วก็รู้สึกตื่นเต้นอย่างที่สุด นางหยิบนมใส่ในหม้อใบเล็ก ๆ แล้วตั้งไฟอุ่นนมให้ร้อนพอเหมาะ ก่อนจะใส่น้ำตาลลงไปเล็กน้อยเพื่อเพิ่มรสชาติที่คุ้นเคยของลูก ๆ ของนาง 

นางเทนมลงในกระบอกเก็บอุณหภูมิที่ทำจากเหล็กอย่างรวดเร็ว ถึงกระบอกเหล็กจะดูแปลกตา แต่ก็มีความเป็นไปได้มากกว่าจะเอานมที่บรรจุในกล่องกระดาษออกไปให้ทุกคนเห็น

เมื่อออกมาจากมิติ นางก็เริ่มจุดไฟในเตาอื่นที่ยังว่างอยู่ แล้วตั้งกระทะเหล็กไว้บนเตาแล้วเติมน้ำไปประมาณหนึ่ง นางหยิบไข่ไก่ห้าฟองออกมาจากตะกร้า แล้วตอกไข่ลงในชามกระเบื้อง ไข่ไก่ถูกตีจนแตกแล้วเติมน้ำสะอาดลงไปเล็กน้อยพร้อมกับเครื่องปรุงรส แล้วตีอีกครั้งจนส่วนผสมเข้ากันดี

ฟองในชามถูกช้อนออกจนหมดออกจนหมด ก่อนที่นางจะนำถ้วยนั้นไปวางไว้ในลังถึงที่ตั้งอยู่บนกระทะที่น้ำเดือด จากนั้นก็ปิดฝา เป็นอันเสร็จไปหนึ่งอย่าง

ผักกาดดองในไหถูกนำออกมา 2 หัว นางหั่นเป็นชิ้นพอดีคำแล้วนำไปล้างน้ำหลายครั้ง จากนั้นก็แค่น้ำไว้ก่อน ระหว่างที่รอนางจัดการกับปลาช่อนตัวใหญ่เสร็จ

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ซือหยา...ย้อนเวลามาหาดวงใจทั้งสาม   ท่านลุงให้หลานหรือขอรับ

    บนเกวียนวัวที่หยางเฉิงเป็นคนบังคับ มีซือเหอ ซือหลิง หยวนอี อาเซียว เจาตี้ อี้หมิงและอันหมิง นั่งเบียดเสียดกันอย่างสนุกสนาน ส่วนในรถม้าที่นั่งสบายกว่า มีแม่เฒ่าหาน แม่เฒ่าเสิ่น และแม่เฒ่าฮัว นั่งอยู่พร้อมกับซือหยา"ท่านพ่อ ข้าจะซื้อของมาฝากนะเจ้าคะ" เสียงเล็ก ๆ ของเจาตี้ดังลอดออกมาระหว่างที่นางกำลังโบกมือให้หยางรุ่ยผู้เป็นบิดา ดวงตาของเด็กน้อยเป็นประกายด้วยความตื่นเต้น"เด็กดี อย่าเดินห่างท่านป้าสะใภ้กับพี่ ๆ นะลูก อยากกินอะไรเจ้าก็ซื้อได้เลย"หยางรุ่ยตอบกลับด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ใบหน้าของเขาแสดงความรักใคร่ในตัวบุตรสาว"เจ้าค่ะ"เจาตี้รับคำเสียงใสหยางเฟิงกับหยางรุ่ยยืนมองเกวียนวัวกับรถม้าที่เคลื่อนตัวห่างออกไปเรื่อย ๆ พวกเขาถอนหายใจยาว หลังจากนั้นพวกเขาก็เดินขึ้นเขาไปขุดหัวมันสำปะหลังต่อ ส่วนพ่อเฒ่าเสิ่นกับพ่อเฒ่าหานก็เดินไปไถนาหว่านข้าวต่อตามหน้าที่กระทั่งเกวียนวัวกับรถม้าเคลื่อนตัวมาถึงกลางตลาด ความวุ่นวายและเสียงตะโกนขายสินค้าเข้าปะทะโสตประสาททันที รถม้าและเกวียนหลายเล่มจอดเรียงราย ผู้คนสัญจรไปมาอย่างคับคั่ง ฮัวเจิ้งหรงจึงไปส่งมารดาและอาหญิงที่กลางตลาดก่อน ถนนหนทางเต็มไปด้วยร้านขาย

  • ซือหยา...ย้อนเวลามาหาดวงใจทั้งสาม   ท่านลุงให้หลานหรือขอรับ 1

    เช้ามืดวันต่อมา ยามอิ่น (03.00-05.00 น.) ท้องฟ้ายังคงเป็นสีเทาเข้ม อากาศเย็นยะเยือกจนไอน้ำค้างเกาะตามหลังคาเรือน เสียงไก่ขันดังแว่ว ๆ มาจากท้ายหมู่บ้าน แสงตะเกียงน้ำมันส่องสว่างเรืองรองออกมาจากหน้าต่างห้องครัวซือหยาและหยวนอีตื่นแต่เช้ามืด พวกนางเดินเข้ามาในลานเรือนที่เต็มไปด้วยอ่างดินเผาขนาดใหญ่ที่บรรจุน้ำแป้งไว้ตั้งแต่เมื่อวาน"น้องสะใภ้! แป้งคงจะตกตะกอนดีแล้วกระมัง"หยวนอีกล่าวเบา ๆ เสียงของนางแหบพร่าเล็กน้อยเพราะความเย็น นางจุดเทียนเล็ก ๆ วางไว้ข้างอ่าง เพื่อให้มองเห็นความเปลี่ยนแปลงภายในได้ชัดเจนซือหยาคุกย่อตัวลงข้างอ่าง นางใช้ปลายนิ้วเคาะขอบอ่างเบา ๆ น้ำที่อยู่ด้านบนใสจนมองเห็นเงาเลือนราง แป้งสีขาวบริสุทธิ์จมตัวอยู่ก้นอ่างอย่างหนาแน่น"ได้แล้วเจ้าค่ะพี่สะใภ้! น้ำแยกตัวออกจากเนื้อแป้งอย่างสมบูรณ์แล้ว" ซือหยาตอบด้วยรอยยิ้มอย่างพึงพอใจ"มา ๆ เดี๋ยวข้าจะเทน้ำออกเอง ยังมีอีกหลายอ่าง รีบทำรีบเสร็จ" พูดจบหยวนอีก็ลงมืออย่างคล่องแคล่ว"ข้าจะจัดการกับถังพวกนี้เองเจ้าค่ะ พี่สะใภ้ก็จัดการทางนั้นเถอะ"ระหว่างนั้นเองหยางเฉิงกับหยางเฟิงก็รีบมาช่วยภรรยาของตนทำงาน เมื่อเทน้ำใสจนหมดแล้ว สิ่งท

  • ซือหยา...ย้อนเวลามาหาดวงใจทั้งสาม   ข่าวดี 2

    เมื่อหัวมันถูกขูดจนเป็นชิ้นเล็ก ๆ ได้ปริมาณมากพอ ซือหยาก็เริ่มเข้าสู่ขั้นตอนต่อไป ซือหยาเริ่มบีบน้ำออกจากเนื้อมัน จากนั้นก็นำไปตำในครกหินขนาดใหญ่ที่อยู่ข้างเรือน จนกระทั่งเนื้อมันแหลกละเอียด น้ำสีขาวขุ่นเริ่มไหลซึมออกมามากขึ้น นางจึงตักส่วนที่ตำแล้วลงไปผสมน้ำในกะละมังตลอดช่วงเช้าสองสาวทำงานกันอย่างขะมักเขม้น "เราพักสักหน่อยเถอะพี่สะใภ้ ข้าว่าคืนนี้เนื้อตัวของข้าต้องระบมแน่ ๆ" ร่างบางนั่งลงอย่างเหนื่อยหอบ หลังจากเพิ่งบดและตำเนื้อมันจนละเอียดไปหลายตะกร้า"เจ้านั่งพักเถอะ เจ้าไม่ค่อยได้ทำงานในแปลงนา ร่างกายรับไม่ไหวก็เป็นเรื่องปกติ งานแค่นี้ทำอะไรข้าไม่ได้หรอก"พูดจบหยวนอีก็นำผ้าขาวบางผืนใหญ่แขวนไว้เหนืออ่างดินเผาขนาดใหญ่ นางตักเนื้อหัวมันที่บดละเอียดผสมกับน้ำแล้วใส่ลงบนผ้า จากนั้นค่อย ๆ โยกเบา ๆ ให้น้ำขาวขุ่นไหลลงไปในอ่างซือหยาเข้ามาช่วยบีบเนื้อมันช้า ๆ จากนั้นก็นำกากใยที่หมดน้ำแล้วออกมาใส่กะละมังไว้ แล้วทำแบบนั้นซ้ำไปซ้ำมาจนเสร็จ"กากใยพวกนี้... หากตากแห้งก็เป็นอาหารเสริมชั้นดีให้สัตว์เลี้ยงได้อีกเช่นกันเจ้าค่ะ! มีคุณค่าทางอาหารสูงกว่าเปลือกมันนัก! เราต้องใช้ทุกส่วนของมันให้คุ้มค่

  • ซือหยา...ย้อนเวลามาหาดวงใจทั้งสาม   ข่าวดี 1

    เช้าวันต่อมา แสงแดดยามอรุณเบาบางสาดส่องเข้ามาในลานเรือนที่ว่างเปล่า อากาศยังคงเย็นจัด เสียงกระดูกไม้ดัง 'เอี๊ยดอ๊าด' เมื่อแม่เฒ่าหานและแม่เฒ่าเสิ่นนำเด็ก ๆ และหยางเฟิงเดินออกจากเรือนไปตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่างนัก เพื่อมุ่งหน้าไปยังแปลงนาช่วยกันไถหว่านข้าวเปลือกวันนี้ซือหยาและหยวนอีได้รับมอบหมายให้อยู่ดูแลเรือนและเริ่มต้นภารกิจที่สำคัญที่สุดคือ การแปรรูปมันสำปะหลังหยวนอีสวมผ้ากันเปื้อนเนื้อหยาบสีขาวทับชุดของนาง นางจัดเตรียมอุปกรณ์อย่างพิถีพิถันบนโต๊ะไม้เก่า ๆ ที่ตั้งอยู่ใต้ชายคา อุปกรณ์เหล่านั้นประกอบด้วยมีดเหล็กหลายเล่ม ครกหินขนาดใหญ่ และแผ่นหินหยาบ"น้องสะใภ้! หัวมันที่เอามาจากลำธารน่าจะพร้อมแล้ว น้องรองกับน้องสามไปขนมาตั้งแต่ต้นยามเหม่าแล้วกระมัง"หยวนอีกล่าวอย่างกระฉับกระเฉง แววตาของนางเต็มไปด้วยความตื่นเต้นที่จะได้ลองทำสิ่งใหม่ ๆ "ตามเวลาแล้วพิษน่าจะถูกชะล้างออกไปมากแล้ว วันนี้เป็นงานหนักของเราสองคนแล้วเจ้าค่ะ ขั้นตอนนี้ต้องใช้เวลาแถมยังลำบากกว่าขั้นตอนอื่น ๆ"ซือหยาตอบรับ นางกำลังจัดเตรียมผ้าขาวบางผืนใหญ่สำหรับใช้ในการกรอง ผ้าผืนนั้นเป็นผ้าเนื้อดีที่นางแอบเอาออกมาจากมิติ "เอาเถอ

  • ซือหยา...ย้อนเวลามาหาดวงใจทั้งสาม   นี่หรือคือแปลงนาของเรา 2

    ใช้เวลาเดินไม่นานก็มาถึงที่นาผืนใหม่ ก็พบว่า พ่อเฒ่าหาน พ่อเฒ่าเสิ่น กับอาเซียว และซือเหอกำลังช่วยกันใช้วัวไถนาอยู่ วัวตัวผู้สีน้ำตาลเข้มกำลังเดินลากไถอย่างเชื่องช้า ดินสีดำที่ถูกพลิกขึ้นมาใหม่มีกลิ่นหอมของความอุดมสมบูรณ์ ส่วนเด็ก ๆ ก็ทำแปลงผักช่วยท่านย่าท่านยายอยู่บนเดินดินข้างศาลาพัก"ท่านแม่มาแล้ว! หู้ว! นี่หรือขอรับคือหัวมันสำปะหลัง!"อันหมิงกับอี้หมิงรีบวิ่งมาหาพ่อแม่ทันทีที่เห็นว่าทุกคนเข็นรถเข็นเลี้ยวลงมาตามคันนาใหญ่ ฝุ่นดินติดเต็มเสื้อผ้าของพวกเขา แต่ใบหน้าเล็ก ๆ สองใบนั้นเต็มไปด้วยความไร้เดียงสาและความตื่นเต้น"แม่มาแล้วลูกรัก นี่คือหัวมันสำปะหลังที่ปอกเปลือกแล้ว ว่าแต่..พวกเจ้าทั้งสองเป็นเด็กดีหรือไม่"ซือหยาวางตะกร้าลงแล้วเดินเข้าไปหาลูกชายฝาแฝด นางยิ้มอย่างอ่อนโยนพลางก้มตัวลงบีบแก้มนิ่ม ๆ ของลูกชายอย่างรักใคร่"เด็กดีขอรับ! พวกเราเป็นเด็กดีที่สุดเลยท่านแม่!" อันหมิงทำตาแป๋ว รีบตอบเสียงดังฉะฉาน "เก่งมาก ไว้เย็นนี้แม่จะทำของอร่อยให้กิน อยากกินอะไรก็บอกมาได้เลย"ซือหยากล่าวอย่างใจดี"เย้ ๆ ๆ ของอร่อยมาแล้ว!"เด็กแฝดร้องขึ้นพร้อมกันอย่างดีใจระหว่างนั้นเองเสียงน้ำลำธารไหลดัง ซู

  • ซือหยา...ย้อนเวลามาหาดวงใจทั้งสาม   นี่หรือคือแปลงนาของเรา 1

    ช่วงสายกลางยามซื่อ (ยามซื่อ 09.00-11.00 น.) แสงแดดเริ่มทอประกายเจิดจ้าเหนือหลังคาเรือน เงาของทุกคนทอดยาวเป็นรูปทรงบิดเบี้ยวบนพื้นดินเสียงหายใจหอบและเสียงรองเท้ากระทบพื้นดินดังขึ้นเมื่อ หยางเฉิง หยางเฟิง และ หยางรุ่ย แบกกระสอบหัวมันสำปะหลังขนาดมหึมา และตะกร้าสานขนาดใหญ่เดินเข้ามาในลานหน้าเรือน หัวมันที่เพิ่งขุดมายังติดดินและรากฝอยอยู่เล็กน้อย เหงื่อกาฬไหลซึมไปตามแผ่นหลังของบุรุษทั้งสาม หยวนอีและซือหยาสะพายตะกร้าตามมาติด ๆ แม้จะเหนื่อยล้าแต่ใบหน้าของพวกนางก็เต็มไปด้วยรอยยิ้มเมื่อวางหัวมันทั้งหมดลงกลางลานเรือน หยวนอีก็เอ่ยถามอย่างกระตือรือร้น นางมองกองหัวมันที่สูงท่วมหัวอย่างไม่เข้าใจ"เราต้องทำยังไงกับมันพวกนี้ต่อล่ะน้องสะใภ้?"ซือหยาจัดเสื้อผ้าให้เข้าที่ แล้วเดินเข้าไปตรวจดูหัวมันกองใหญ่ ใบหน้าของนางเปื้อนรอยยิ้ม"เราต้องเร่งจัดการเสียแต่ตอนนี้เจ้าค่ะพี่สะใภ้ หัวมันสำปะหลังหากเก็บไว้นานเนื้อจะแข็งและเน่าเสียได้ง่าย"นางเริ่มต้นอธิบายขั้นตอนการแปรรูปที่ซับซ้อนอย่างละเอียดถี่ถ้วน"อันดับแรก เราต้องตัดหัวท้ายแล้วปอกเปลือกหนา ๆ ออก เปลือกมันหยาบและมีรสขมต้องปอกออกให้หมด เสร็จแล้วค่อยนำไ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status