Share

เพียงพบหน้าก็ขอหย่าทันที 2

last update Last Updated: 2025-10-20 21:26:00

ที่แปลงนาไม่ไกลจากเรือนสกุลเสิ่น

แสงแดดยามสายส่องลอดเมฆหมอก บนทุ่งข้าวโพดกว้างไกลสีเขียวสลับเหลืองงดงามราวผืนผ้าไหม ทั่วทั้งไร่มีผู้คนสกุลเสิ่นออกแรงช่วยกันหักฝักข้าวโพดจากต้น มากองรวมไว้เป็นภูเขาเล็ก ๆ

เสียงหัวเราะ เสียงพูดคุยคละเคล้ากับเสียงหักข้าวโพดดังกรอบแกรบ กลิ่นดินแห้งและฝุ่นละอองคลุ้งไปทั่ว บรรยากาศแม้เหน็ดเหนื่อยแต่ก็อบอุ่นเต็มไปด้วยความสามัคคี

ใต้ศาลาไม้เล็กกลางทุ่ง พ่อเฒ่าเสิ่น(เสิ่นหยางกวง)กับแม่เฒ่าเสิ่น(เสิ่นอวี๋นั่ว) ปู่ย่าของเด็ก ๆ กำลังนั่งปอกเปลือกข้าวโพด ใบหน้ามีเหงื่อเกาะแต่ยังคงยิ้มอ่อนโยนระหว่างที่พูดคุยกับหลานสาว

"อี้หมิง อันหมิง มานี่สิ มาช่วยท่านย่าเก็บฝักที่ปอกแล้วใส่ตะกร้าเร็วเข้า พี่เจาตี้รอพวกเจ้ามาสักพักแล้ว" เสียงอ่อนโยนของแม่เฒ่าเสิ่นเรียกหลาน ๆ ด้วยความเอ็นดู

อันหมิงรีบวิ่งไปหาท่านย่าพร้อมใบหน้ายิ้มแย้มจนลักยิ้มขึ้น ข้างหลังมีพี่ชายอย่างอี้หมิงเดินตามไปเงียบ ๆ

"ท่านย่า ข้าจะช่วยเองขอรับ ท่านย่าเหนื่อยหรือไม่"

อันหมิงเก็บฝักข้าวโพดด้วยสองมือเล็กพยายามใส่ลงไปในตะกร้า ส่วนอี้หมิงแม้ยังคงเงียบขรึม แต่ก็เดินตามไปช่วยน้องชายอย่างขยันขันแข็ง

"เห็นหน้าพวกเจ้าย่าก็หายเหนื่อยแล้ว" แม่เฒ่าเสิ่นหัวเราะเบา ๆ เอื้อมมือลูบศีรษะหลานชายตัวน้อย 

ในแปลงนาหยางเฟิงกับหยวนอีทำงานไปหัวเราะไป ส่วนหยางรุ่ยที่กลับจากงานคุ้มกันก็ก้มหน้าก้มตาทำงานช่วยคนในครอบครัว ข้างกายมีเหรินซินผู้เป็นภรรยาทำงานอยู่ แม้สีหน้าบ่งบอกถึงความไม่เต็มใจ แต่มือก็ช่วยหักฝักข้าวโพดอย่างปฏิเสธไม่ได้

"ปีนี้ข้าวโพดของเราได้ผลผลิตดีมากนะเจ้าคะท่านพี่" หยวนอีกเอ่ยกับสามี

"ใช่ ผลผลิตดีค่าตอบแทนก็ต้องสูงตามไปด้วย อาเซียว อีกเดี๋ยวช่วยแม่ของเจ้ายกตะกร้าไปเทให้ท่านปูท่านย่าปอกเปลือกได้เลยนะ" หยางเฟิงหันไปพูดกับลูกชายวัย15 ปีที่กำลังหักข้าวโพดอยู่ไม่ไกลนัก

"ขอรับท่านพ่อ"

"เดี๋ยวอาช่วยเจ้าเองอาเซียว" หยางเฉิงรีบยกตะกร้าช่วยหลายชายอีกแรงหนึ่ง

"ขอรับอาเล็ก"

"สบายหน่อยก็เป็นเมียของเจ้านี่แหละนะน้องสาม ข้าล่ะอิจฉาจริง ๆ ที่นางมีสามีเชื่อง ๆ ยอมตามใจทุกอย่างแบบเจ้า"

เหรินซินสะใภ้คนรองหาเรื่องจิกกัดเหน็บแนมหยางเฉิงตลอดเวลา เขาต้องอดทนไม่น้อยที่ผู้คนต่างก็พูดเหมือนเขาเป็นคนโง่ แต่ไม่มีใครรู้เลยว่าตลอดหลายปีที่ผ่านมาเขาทนเพื่อลูกเท่านั้น

"พี่สะใภ้ก็แปลก ปากก็บอกว่านางไม่ดี แต่ก็ยังพูดว่าอิจฉานาง ท่านอยากเป็นเหมือนนางหรือ? ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ยากหน่อย เพราะนางงดงาม แต่ท่าน...เทียบไม่ได้"

พูดจบหยางเฉิงก็ยกตะกร้าเดินออกไปจากแปลงนาทันที ส่วนอาเซียวที่เห็นแบบนั้นก็ได้แต่สูดปากด้วยความสะใจ

"เจ้า! เจ้าพูดแบบนี้ได้ยังไงน้องสาม เจ้าช่างไม่เคารพพี่สะใภ้จริง ๆ" เหรินซินได้แต่ตะโกนไล่หลัง

"ก็เป็นเจ้าไม่ใช่เหรอสะใภ้รองที่จุดชนวนระเบิด ทุกคนต่างก็รู้ว่าหยางเฉิงเป็นคนไม่ค่อยพูด พอเห็นเขาไม่ถือสาเจ้าก็ได้ทีพูดใหญ่ พอเขาทนไม่ไหวตอบโต้กลับมาบ้าง เจ้ากลับรับไม่ไหวเสียนี่ เจ้ารอง เจ้าต้องดูแลปากของภรรยาเจ้าให้ดี"

หยางเฟิงพูดจบก็หันไปหักฝักข้าวโพดต่อ ตอนนี้มีเพียงหยางรุ่ยเท่านั้นที่จ้องภรรยาอย่างไม่พอใจ

"ปากของเจ้ามันช่างยื่นยาวจริง ๆ คราวหลังถ้ายังควบคุมปากตัวเองไม่ได้ ก็ไม่ต้องกินข้าวแล้ว มีแรงก็เที่ยวพูดไม่ดีไปทั่ว"

สิ้นเสียงของสามีใบหน้าของเหรินซินก็สลดได้เพียงครู่เดียว พอสามีเดินจากไป นางก็หันไปมองน้องชายสามีเช่นเดิม

"ฝากไว้ก่อนเถอะ ข้าไม่ยอมเสียเปรียบนังซือหยาแน่ ๆ เหตุผลอะไรข้าถึงต้องออกมาทำงานจนเหนื่อย ส่วนนางเอาแต่นั่ง ๆ นอน ๆ สบายใจ"

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ซือหยา...ย้อนเวลามาหาดวงใจทั้งสาม   ตอนจบ

    ทันทีที่รถม้าจอดที่หน้าเรือนสกุลหาน ซือเหอก็รีบเปิดประตูรถแล้ววิ่งเข้าเรือนไปอย่างไม่คิดชีวิต ท่าทางที่เคยอิดโรยพลันกลับมามีพละกำลังอีกครั้ง เขามุ่งหน้าตรงไปยังห้องนอนใหญ่ของพี่สาว หวังจะเข้าไปกอดและหอมแก้มหลานสาวให้ชื่นใจแต่ทันทีที่เขาเดินเข้าใกล้ประตูห้อง ก็มีเสียงห้ามปรามดังขึ้นพร้อมกัน พ่อเฒ่าเสิ่น แม่เฒ่าหาน หยางเฉิง และแม้กระทั่งแม่เฒ่าฮัว ต่างก็ชี้มือมาที่เขาด้วยสีหน้าจริงจัง"หยุดเดี๋ยวนี้! ซือเหอ!" แม่เฒ่าหานกล่าวเสียงเข้ม นางทำจมูกฟุดฟิดด้วยความรังเกียจเล็กน้อย"ไปอาบน้ำให้สะอาดเสียก่อนลูก! เจ้าตัวเหม็นไปหมดแล้ว" พ่อเฒ่าหานกล่าวพลางหัวเราะอย่างขบขัน"เดี๋ยวกลิ่นเหงื่อกลิ่นควันเทียนจากตัวเจ้าจะไปติดหลานนะซือเหอ!" หยางเฉิงกล่าวอย่างเป็นห่วงซือเหอได้ยินดังนั้นก็อดที่จะยกมือขึ้นมาดมเสื้อผ้าตนเองไม่ได้ เขาหัวเราะออกมาอย่างขบขัน เพราะตอนนี้เขาตัวเหม็นจริง ๆ ราวกับแบกถังขยะมาด้วยสายตาของเขาถูกทอดมองไปยังหลานสาวตัวอ้วนที่อยู่ในอ้อมกอดของเจ้าแฝด อี้หมิงและอันหมิง ต่างพากันนั่งอยู่บนตั่งไม้ข้างเตียง อี้หมิงกำลังอุ้มประคองทารกน้อยไว้ด้วยความระมัดระวัง ส่วนอันหมิงก็นั่งเฝ้ามองน้องสาว

  • ซือหยา...ย้อนเวลามาหาดวงใจทั้งสาม   คลอดแล้วหรือขอรับ!?

    หลังจากการเขียนเรียงความเชิงนโยบายที่ยาวและหนักหน่วง ซือเหอและจางเหล่ยก็เริ่มเข้าสู่ข้อสอบถัดไป ซึ่งเป็น บทความแบบแปดส่วน และการตอบปัญหาบ้านเมือง ซึ่งต้องใช้ความรู้จากวรรณคดีขงจื๊อและปรัชญาโจทย์ข้อที่สอง "จงถอดความและวิจารณ์คำสอนของเมิ่งจื่อ: 'เมื่อราษฎรได้รับการดูแลอย่างดี ใครเล่าจะคิดก่อกบฏ?'"โจทย์ข้อที่สาม "ในฐานะผู้ดำรงตำแหน่งขุนนางท้องถิ่น ท่านจะมีแนวทางในการควบคุมและจัดการกับปัญหาความขัดแย้งระหว่างกลุ่มพ่อค้าขนาดใหญ่และชาวบ้านในเรื่องการใช้แหล่งน้ำร่วมกันได้อย่างไร?"เมื่อซือเหอและจางเหล่ยอ่านโจทย์ทั้งสองข้อ สีหน้าของทั้งคู่ก็ผ่อนคลายลงอย่างเห็นได้ชัดซือเหอซึ่งมีความรู้ด้านวรรณคดีที่แม่นยำ และมีประสบการณ์ตรงจากการค้าขายและการจัดสรรที่ดินของสกุลตนเอง ยกยิ้มเล็กน้อยจางเหล่ยก็พยักหน้าอย่างมั่นใจ เพราะข้อสอบเหล่านี้ไม่ได้ยากเกินความสามารถของพวกเขาเลย ความรู้ที่พวกเขาได้เรียนรู้มาจากซือหยาถูกจัดระบบและนำมาใช้ได้อย่างง่ายดายพวกเขาเริ่มเขียนตอบข้อสอบอย่างรวดเร็วและลื่นไหล พู่กันถูกตวัดลงบนกระดาษอย่างหนักแน่นและมั่นคง แต่หลังจากผ่านไปครึ่งวัน ปัญหาที่แท้จริงของการสอบก็เริ่มปรากฏชัด

  • ซือหยา...ย้อนเวลามาหาดวงใจทั้งสาม   สนามสอบหลวง

    สนามสอบหลวงซือเหอและจางเหล่ยมาถึง กงหยวน (贡院) ตามเวลาที่กำหนด พวกเขายืนอยู่ท่ามกลางกลุ่มบัณฑิตหลายร้อยคนที่แต่งกายด้วยชุดซิ่วไฉอย่างเรียบร้อย ใบหน้าของบัณฑิตทุกคนเต็มไปด้วยความตึงเครียดและหวาดหวั่น ไม่ใช่เพราะความยากของข้อสอบ แต่เป็นเพราะความทรมานของการอยู่ภายในห้องสอบตลอดสามวันสองคืนก่อนจะได้รับอนุญาตให้ก้าวเข้าสู่ประตูแรกของสนามสอบ เจ้าหน้าที่สนามสอบได้เรียกบัณฑิตเข้าแถวเพื่อทำการตรวจค้นอย่างละเอียดถี่ถ้วนที่เรียกว่า ซวนเซิน (悬身)"ถอดเครื่องแต่งกายออกให้หมด!" เสียงของเจ้าหน้าที่ผู้คุมสอบดังขึ้น ใบหน้าของเขาเคร่งขรึมและไม่แสดงความปรานีซือเหอและจางเหล่ยมองหน้ากันด้วยความรู้สึกอับอายเล็กน้อย ถึงจะมีฉากกั้นก็ไม่ช่วยอะไร พวกเขาจำต้องถอดเสื้อผ้าออกทีละชิ้น เจ้าหน้าที่ใช้มือลูบไล้ไปตามทุกตะเข็บของเสื้อผ้าและชุดชั้นในอย่างไม่ละเว้น พวกเขาแม้กระทั่งตรวจค้นก้นบึ้งของพู่กัน ปลายขนของแปรง ตรวจดูด้านในของกระดานไม้ และเคาะที่ก้นหินฝนหมึก เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีการซุกซ่อนโพยใด ๆ"นำอาหารออกมาวางเรียงบนโต๊ะ!" เจ้าหน้าที่อีกคนสั่ง พวกเขาตรวจดูอาหารแห้งอย่างละเอียด ผงโจ๊กของซือหยาก็ถูกเจ้าหน้าที่ล

  • ซือหยา...ย้อนเวลามาหาดวงใจทั้งสาม   แก้มยุ้ยของลูกสาว

    ภายในห้อง ซือหยาถูกเปลี่ยนเสื้อผ้าและนอนพักอยู่บนเตียง ใบหน้าของนางยังคงดูอ่อนเพลีย แต่ดวงตาเต็มไปด้วยความอ่อนโยนและปีติ ร่างกายของนางถูกห่อหุ้มด้วยผ้าห่มหนาอย่างดี ข้าง ๆ เตียงมีเปลไม้ไผ่สานวางอยู่ ภายในเปลปูด้วยผ้าเนื้อดีนุ่ม ๆเด็กหญิงตัวน้อยนอนหลับตาพริ้มอยู่ในเปล ผิวของนางขาวสะอาดผุดผ่องราวกับหยก แก้มยุ้ย ๆ สีแดงระเรื่อของนางดูอวบอิ่มราวกับผลท้อแรกแย้ม เป็นทารกที่อ้วนท้วนสมบูรณ์และน่ารักน่าชังหยางเฉิงเดินไปที่เตียงเขาหยิบผ้าสะอาดที่มารดาเตรียมไว้มาเช็ดเหงื่อออกจากหน้าผากของภรรยาอย่างเบามือ"ลำบากเจ้าแล้ว... ซือหยา" น้ำเสียงของหยางเฉิงแหบพร่า แววตาของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกผิดและความซาบซึ้งใจ"ไม่ลำบากเจ้าค่ะท่านพี่ ข้าเต็มใจ... ว่าแต่ท่านพี่ตั้งชื่อให้ลูกรึยังเจ้าคะ" ซือหยาจับมือของสามีไว้ นางตอบด้วยรอยยิ้มที่อ่อนแรงแต่จริงใจหยางเฉิงหันไปมองเด็กหญิงตัวน้อยที่นอนอยู่ในเปล เขาเดินเข้าไปใกล้อีกนิด รอยยิ้มอ่อนโยนปรากฏบนใบหน้าคมคายของเขา"ตั้งแล้ว ให้นางชื่อ เสิ่นเยว่หมิง คล้องกับพี่ชายของนาง... เยว่หมิงลูกพ่อ" เขายื่นมือไปเกลี่ยแก้มยุ้ยของลูกสาวเบา ๆ ด้วยความรักใคร่ "...""พ่อค

  • ซือหยา...ย้อนเวลามาหาดวงใจทั้งสาม   วันสอบเซี่ยงซื่อ 3

    เสียงฝีเท้าที่เร่งรีบของหมอตำแยพร้อมกับโฮ่วหมิงที่วิ่งตามมาดังขึ้นจากด้านนอก สัญญาณแห่งการรอคอยกำลังจะสิ้นสุดลง... อีกไม่นานชีวิตน้อย ๆ ก็จะลืมตามาดูโลก...หมอตำแยหม่า สวมชุดผ้าฝ้ายสีน้ำตาลเรียบ ๆ มือถือตะกร้าหวายสานอย่างดี ภายในบรรจุอุปกรณ์ทำคลอดที่จำเป็น ใบหน้าของนางดูเคร่งขรึมและสุขุม ไม่แสดงอาการตกใจแม้แต่น้อยเมื่อเห็นหยางเฉิงยืนรออยู่ด้วยสีหน้าตื่นตระหนกนางรีบเดินตรงไปยังห้องนอนใหญ่โดยมีหยางเฉิงก้าวตามไปติด ๆ ด้วยความเป็นห่วง เมื่อหมอตำแยหม่าเห็นหยางเฉิงทำท่าจะตามเข้าไปในห้องด้วย นางก็หยุดยืนขวางประตูไว้ทันที"หยุดอยู่ตรงนั้นเถิดเจ้าหนุ่ม! นี่เป็นเรื่องของผู้หญิง! ห้องคลอดไม่ใช่ที่ที่บุรุษพึงเข้าได้ เจ้าออกไปรอข้างนอกเถอะ!" เสียงของนางดังและหนักแน่นราวกับคำสั่ง"ขะ... ข้าเป็นห่วงภรรยาข้ารับ" หยางเฉิงกล่าวด้วยน้ำเสียงติดขัด มือใหญ่ของเขาเกือบจะแตะบานประตู แต่ก็ถูกสายตาอันเฉียบขาดของหมอตำแยยับยั้งไว้หมอตำแยหม่าไม่กล่าวอันใดอีก นางทำเพียงปิดประตูไม้บานใหญ่ลงอย่างรวดเร็วและเด็ดขาด เสียงล็อกประตูตามมาเบา ๆ ทำให้หยางเฉิงได้แต่ยืนอยู่หน้าห้องด้วยความกระวนกระวายใจน้ำร้อนถูกส่งเข้าไ

  • ซือหยา...ย้อนเวลามาหาดวงใจทั้งสาม   วันสอบเซี่ยงซื่อ 2

    ซือหยานั่งมองเห็นรถม้าทั้งสองคันที่มีน้องชายและพ่อแม่ของนางอยู่ในนั้น รถม้าวิ่งไปตามถนนใหญ่สามารถมองเห็นได้จากชานเรือน สายตาของนางเต็มไปด้วยความหวัง พลางชี้ให้ลูก ๆ ดูร้านน้ำชาและโรงเตี๊ยมที่ตั้งอยู่ในระยะไม่ไกลนัก"ท่านแม่... เท้าท่านแม่บวมอีกแล้ว ลูกจะนวดให้เองนะขอรับ"อี้หมิงเดินเข่าเข้ามาใกล้เท้าของมารดา มือเล็ก ๆ ของเขาเริ่มบีบนวดที่น่องและข้อเท้าที่บวมเล็กน้อยของซือหยาอย่างเบามืออันหมิงค่อย ๆ คลานมาซบที่หน้าท้องนูนใหญ่ของมารดา แก้มอวบ ๆ ของเขาแนบลงไปกับผ้าไหมบางเบาที่ห่อหุ้มชีวิตน้อย ๆ ไว้ เขาจุมพิตลงไปที่ท้องเบา ๆ แล้วเริ่มพูดคุยกับน้องน้อยที่อยู่ในครรภ์"น้องน้อย... พี่อันหมิงอยู่นี่นะ เป็นเด็กดี ไม่ทำให้ท่านแม่เจ็บนะ เมื่อไหร่ที่เจ้าออกมา พี่ชายจะแบ่งของอร่อยให้เจ้ากิน" เขาพูดกับท้องของมารดาเบา ๆ ราวกับกลัวว่าเสียงจะดังเกินไปจนทำให้น้องตกใจ ซือหยายกมือขึ้นลูบศีรษะของลูกชาย ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความอ่อนโยนและความสุขอย่างเปี่ยมล้น หยางเฉิงนั่งลงข้าง ๆ และโอบไหล่ภรรยาไว้ มองภาพลูก ๆ ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรักและความอบอุ่น ภาพสี่คนพ่อแม่ลูกกับอีกหนึ่งชีวิตที่กำลังจะเกิด ช่

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status