Share

บทที่ 13 ยินดีต้อนรับกลับบ้าน

Author: Cherry Brown
last update Huling Na-update: 2025-09-13 12:58:07

มู่ฉวนที่นั่งฟังเสียงทะเลาะกันของท่านพ่อท่านแม่มู่ เขาและมู่เจียอิ่งคิดไม่ผิดที่ยังไม่คิดที่จะมีลูกกันถึงอายุจะมากขึ้นทุกวันและสมควรแก่การมีหลานให้ท่านพ่อท่านแม่มู่ แต่เพราะเหตุการณ์ที่ฝังใจมู่เจียอิ่งตอนที่ท่านแม่ของนางล้มป่วยเหตุการณ์ในครั้งนั้นทำให้ทั้งเขาและนางเลือกที่จะไม่มีเพราะไม่อยากให้เด็กเกิดมาอยู่ในสภาพแวดล้อมเช่นนี้

"ท่านพี่…"มูนเจียอิ่งเป็นห่วงความรู้สึกของมู่ฉวนผู้เป็นสามี สิ่งที่ท่านพ่อมู่พูดออกมาท่านคงจะอัดอั้นอยู่ในใจจนระเบิดออกมา เพราะสิ่งที่ท่านแม่มู่กระทำนั้นเป็นสิ่งที่ลำเอียงและเห็นแก่ตัวที่สุด เงินกองกลางของครอบครัวไม่ใช่เพียงเงินที่มู่ซงหยวนส่งกลับมา

แต่ยังมีเงินที่ท่านพ่อมู่กับมู่ฉวนและนางหามาด้วยจากการทำงานในไร่ ซึ่งที่ดินที่หาซื้อมาได้ก็จากเงินที่มู่ซงหยวนส่งกลับมาทั้งนั้น แต่ท่านแม่มู่กลับนำไปใช้หนี้พนันให้มู่จื่อชิว ซึ่งเป็นปัญหาที่เจ้าตัวก่อขึ้นมาเองทั้งนั้น

"พี่รู้ท่านแม่นั้นลำเอียงเกินไป หากจะแยกบ้านพี่ก็เป็นห่วงท่านพ่อน้องเข้าใจพี่นะเจียอิ่ง"

"ท่านพี่น้องเข้าใจเจ้าค่ะน้องเองก็เป็นห่วงท่านพ่อเหมือนกัน ท่านพ่อมู่คือผู้มีพระคุณของน้องเช่นเดียวกับมู่ซงหยวนน้องไม่อาจลืมบุญคุณครั้งนั้นได้จริง ๆ เจ้าค่ะ"

มู่ฉวนฟังสิ่งที่มู่เจียอิ่งเอ่ยก็รับรู้ว่านางนั้นรักครอบครัวของเขาอย่างใจจริง เจ้าสามคงจะดีใจที่มีพี่สะใภ้ใหญ่ที่รักเขาเช่นนี้

"พรุ่งนี้มู่ซงหยวนก็จะกลับมาแล้วแต่ที่บ้านมู่ เหมือนมีพวกเราที่ดีใจกัน แต่กลับท่านแม่มู่นั้นเหมือนไม่ต้องการให้มู่ซงหยวนกลับมาอยู่ที่บ้าน"

"พี่ไม่รู้ว่าทำไมท่านแม่ถึงได้ปฏิบัติกับเจ้าสามแตกต่างออกไป ถึงพี่จะเป็นพี่ใหญ่ท่านแม่ก็ไม่ได้ปลื้มพี่เท่าไหร่ แต่ก็ไม่หนักเท่าเจ้าสาม"

"ท่านแม่ให้ความสำคัญกับมู่จื่อชิวเพราะมีหลานชายให้ และมู่จื่อเหมยที่อนาคตจะได้ออกเรือนกับครอบครัวคนมีเงินในเงิน"

"ที่น้องพูดมันก็จริงเจ้าสามแต่งออกไปที่บ้านก็จะเหลือมู่จื่อเหมยคนเดียวที่ยังไม่ออกเรือน อีกอย่างมู่จื่อเหมยมีนิสัยที่แตกต่างจากท่านแม่อยู่นางถูกท่านแม่เลี้ยงตามใจมาตั้งแต่เด็กทำให้นางมีนิสัยที่ไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่"มู่จื่อเหมยแอบคบหากับผู้ชายในเมืองอยู่คนหนึ่งนางบอกท่านแม่ว่าทางบ้านฝ่ายชายนั้นมีฐานะมาก ทำให้ท่านแม่ต้องเตรียมสินสอดมากมายไว้เตรียมให้นางเพื่อที่จะไม่น้อยหน้าฝ่ายผู้ชาย

"มู่จื่อเหมยนางจะได้แต่งจริง ๆ ใช่หรือไม่เจ้าคะ"เพราะเวลาล่วงเลยมาปีกว่าแล้วฝ่ายชายที่มู่จื่อเหมยเอ่ยนั้นคนบ้านมู่ยังไม่เคยมีใครเห็นหน้าค่าตาเลยสักคน แล้วอีกอย่างมู่จื่อเหมยนางนั้นก็เข้าเมืองไปหาอีกฝ่ายอยู่ตลอด หากนางไม่ได้แต่งตัวนางนั่นแหละที่จะเป็นฝ่ายที่เสียเปรียบที่สุด

"พี่เองบอกตามตรงพี่ก็ไม่แน่ใจความเป็นไปได้มันมองแล้วไม่มีทางที่จะเป็นไปได้เลย บุรุษหากเป็นสุภาพบุรุษจริง ๆ ฝ่ายหญิงไปมาหาสู่นานเป็นปีเช่นนี้ และคบหาดูใจกันแต่ครอบครัวฝ่ายหญิงกับไม่ได้รับรู้อะไรเลยรูปร่างหน้าตาก็ไม่เคยเห็นด้วย พี่กลัวว่านางจะถูกคนเมืองหลอกเอา"เรื่องของมู่จื่อเหมยไม่ใช่ว่าเขาและมู่เจียอิ่งไม่เอ่ยเตือนสติ แต่ก็ถูกท่านแม่มู่เอ่ยดุด่ากลับมาว่าอิจฉามู่จื่อเหมยที่นางจะมีชีวิตที่ดีกว่า เขาในฐานะที่เป็นพี่คนโตไม่เคยคิดอิจฉาน้องคนไหนเลย มีแต่ความหวังดีและห่วงใยให้เท่านั้น

"ท่านพี่อะไรที่เตือนและบอกแล้วนางไม่ฟัง บางทีก็อาจจะต้องปล่อยในนางได้เจอจริง ๆ เสียก่อน ว่าชีวิตมนุษย์ที่แท้จริงมันเป็นเช่นไร"มู่เจียอิ่งเองก็เหนื่อยแล้วเหมือนกันคนนางมู่จื่อเหมยจะต้องเจอความผิดพลาด ความเสียใจ ก่อนเพราะนางเป็นคนที่ไม่เชื่อฟังใครประสบการณ์ชีวิตจะสั่งสอนนางเอง เพราะไม่มีใครที่จะสั่งสอนนางได้เลย

"ก็คงจะต้องปล่อยให้นางเลือกทางเดินชีวิตของตนเอง"แม้แต่ท่านแม่มู่เองก็ไม่คิดที่จะสั่งสอนมู่จื่อเหมยมีแต่ให้ท้ายนางในทางที่ผิด

.

.

.

ห้องนอนท่านพ่อท่านแม่มู่

"หวังว่าพรุ่งนี้ลูกกลับมาเจ้าจะทำตัวดีขึ้นนะมู่น่าหลิง"

"ท่านพี่ท่านเป็นอะไรไปท่านไม่เคยที่จะขึ้นเสียงดุด่าข้ามากมายขนาดนี้มาก่อน แต่พอเจ้าสามจะกลับมาท่านกับแสดงออกว่าไม่พอใจในตัวของข้า"

"เจ้าก็ดูสิ่งที่เจ้าทำผ่านมามันสมควรแล้วหรือแทนที่ลูกจากบ้านไปนาน กลับมาบ้านแทนที่เจ้าจะดีใจเตรียมตัวต้อนรับลูก แต่เจ้ากับนิ่งเฉย"

"ท่านพี่จะให้ข้าต้องทำอะไรมากมายเจ้าสามอยู่ไม่นานก็ต้องแต่งออกไปอยู่แล้ว อีกอย่างเจ้ารองนั้นไม่ถูกกับเจ้าสามอยู่ด้วย จะให้อยู่ร่วมบ้านกันนาน ๆ ได้อย่างไรกันท่านพี่"

"เช่นนั้นก็เอาตามที่ข้าบอกเจ้าสามแต่งเมื่อไหร่เจ้ารองก็ต้องแยกบ้านออกไปอยู่ข้างนอก แบ่งที่ดินกับเงินให้ลูกไปซะ"

"ท่านพี่ไม่ได้นะเจ้าคะเจ้ารองต้องอยู่ที่นี่บ้านมู่เท่านั้น ลูกจะต้องอยู่ที่นี่เท่านั้น"มู่น่าหลิงตวาดลั่นบ้านนางไม่มีทางยอมเด็ดขาดมู่จื่อชิวจะไปอยู่ไกลนางได้อย่างไรกัน ไหนจะหลานอีกมู่เยี่ยนเฟยอีกจะให้แยกบ้านออกไปได้อย่างไร

"ต้องทำเพราะคำสั่งข้าใครก็ห้ามขัดแม้กระทั่งเจ้ามู่น่าหลิง"มู่ต๋าเองก็โมโหสุด ๆ ที่ภรรยาของตัวเองลำเอียงยิ่งนักฝืนคุยต่อไปก็มีแต่ทะเลาะกันใหญ่เข้าไปอีก

.

.

.

"ท่านพ่อขอรับ"มู่ฉวนรู้ว่ายังไงคืนนี้ท่านพ่อมู่คงจะไม่เข้าไปนอนกับท่านแม่มู่ เพราะอารมณ์ของคนทั้งคู่เห็นทีว่าจะไม่นิ่งง่าย ๆ

"พ่อรู้ว่าจะพูดอะไร"มู่ต๋าเองรู้ดีว่าสิ่งที่เขาพูดคุยกับมู่น่าหลิงยังไงคนในบ้านก็ย่อมได้ยิน เพราะตอนนั้นใช้ทั้งอารมณ์ทั้งเสียงที่พูดใส่กัน

"ท่านพ่อข้าไม่ได้จะถามเรื่องนั้นขอรับ แต่ข้าจะบอกให้ท่านพ่อนอนที่ห้องเจ้าสามในคืนนี้ขอรับในห้องข้าวของครบสะดวกสบายแล้วขอรับ"มู่เจียอิ่งเองจัดการซื้อข้าวของที่จำเป็นมาไว้ให้มู่ซงหยวนครบเกือบหมด ที่เหลือ ๆ คงจะเป็นตู้เสื้อผ้าที่เก็บข้าวต่าง ๆ หากจะทำคงต้องใช้เวลาหากรวดเร็วก็ต้องเข้าไปซื้อในเมืองราคาก็จะสูงหน่อย

"เดี๋ยวพ่อจะพูดเองเมื่อเจ้าสามกลับมาพรุ่งนี้ยังไงน้องก็ต้องรับรู้เรื่องนี้ ลูกกลับเข้าห้องเถอะสะใภ้ใหญ่วันนี้เหนื่อยมาทั้งวันลูกก็บีบนวดให้นางบ้าง จะได้หายเมื่อย"มู่ต๋ามักจะสอนให้ลูก ๆ ทุกคนให้เกียรติคู่ชีวิตอยู่เสมอการที่คนสองคนมาเจอกันมันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ การร่วมใช้ชีวิตคู่ด้วยกันก็เช่นกันเป็นสิ่งที่ถูกกำหนดมาแล้ว

การใช้ชีวิตคู่ให้ยั่งยืนจะต้องให้เกียรติซึ่งกันและกัน มีหนักเบา มีเหตุผล มีความเชื่อมั่นและเชื่อใจกัน แต่เมื่อวันไหนมีคนที่เปลี่ยนไป คำว่าชีวิตคู่จะเหลือเพียงหน้าที่เท่านั้น

"เช่นนั้นลูกขอตัวไปก่อนขอรับ"

"ฝันดีเจ้าใหญ่"มู่ต๋าลงนอนได้ไม่นานก็ได้ยินเสียงด้านนอกเหมือนมีคนเข้ามาในบ้าน ตอนแรกเขานั้นจะออกไปดู แต่ได้ยินเสียงสะใภ้รองก็รู้ทันทีว่าเป็นเจ้ารอง ไม่รู้ทำไมถึงกลับบ้านดึกขนาดนี้กันไม่ใช่ไปหาสร้างเรื่องที่ไหนไว้อีกล่ะ

ยามซื่อ(09.00-10.59)

ในเมืองหลวง

มู่ซงหยวนได้พักค้างแรมที่โรงเตี๊ยมในเมืองเมื่อคืนก่อนที่จะเดินทางกลับหมู่บ้านซานซาน นานแล้วที่เขานั้นจากมาเพื่อรับใช้ชาติบ้านเมือง

"หัวหน้าอาหารมาแล้วขอรับ"

"อาหาน"เสี่ยวหมิงเอ่ยเสียงดุเพราะตอนนี้ไม่สามารถที่จะเรียกเช่นนั้นได้อีกแล้ว จนกว่าพี่มู่ซงหยวนจะเอ่ยคำสั่งออกมา

"ข้าขอโทษ ข้าลืมตัวพี่มู่"อาหานกลัวจนตัวสั่นก็พี่ชายของเขาทั้งสามคนนั้นมีแต่โหด ๆ โดยเฉพาะพี่มู่ที่นิ่งขรึม และหน้าตึงเป็นที่สุดในค่ายทหาร

"ไม่เป็นไรหลังจากเข้าหมู่บ้านพวกเจ้าทุกคนไม่มียศมีอย่าง พวกเราตอนนี้เป็นคนธรรมดาเรียกข้าแค่ชื่อก็พอตอนนี้พวกเราไม่ได้มีหน้าที่ทหารอะไรทั้งนั้น"

"ขอรับพี่มู่!"

"ขอรับพี่มู่!"

"ขอรับพี่มู่!"

คนทั้งสามเอ่ยเสียงดังฟังชัดนั่งหลังตรงจนคนในโรงเตี๊ยมต่างมอง เพราะเป็นจุดสนใจถึงจะมีคนหนึ่งที่พิการที่ขา แต่ใบหน้านั้นกับหล่อเหลากระชากใจสตรีที่เดินผ่านไปผ่านมาจนทำผ้าซับใบหน้าตกกันเป็นแถว

"อืม"

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • ซุนจือหลินข้าจะเป็นคนขายผักที่สวยที่สุดในหมู่บ้าน   บทที่ 30 เริ่มภารกิจแรก

    ยามซื่อ(09.00-10.59 น.)"พี่สะใภ้จะให้พวกเราปลูกตรงไหนขอรับ"เสี่ยวหมิงเห็นว่าพี่สะใภ้นั้นเดินวนอยู่แถวหลังบ้านเหมือนจะต้องการความช่วยเหลือจึงรีบวิ่งมา เจ้าอาหานกับเจี้ยนโปที่เห็นก็รีบวิ่งตามมาทันที"ปลูกไว้แถว ๆ ต้นมะลิก็ได้แต่อย่าใกล้กันมากนะ""มีสามหน่อเองหรือขอรับ"เสี่ยวหมิงเองรู้ว่าสิ่งที่พี่สะใภ้จะปลุกคืออะไร เพราะเป็นอาหารสำหรับเขาเวลาเข้าป่าสำรวจพื้นที่ยามที่จะต้องค้างคืนในป่า"มีเท่านี้แหละเจอแค่นี้"ซุนจือหลินโกหกออกไปว่านางเจออยู่บนภูเขาและขุดมาไว้ที่บ้านซุน เมื่อเช้านางทำกับข้าวและแบ่งไปที่บ้านจึงถือโอกาสนี้เอาหน่อกล้วยออกมาและทำภารกิจให้เสร็จ เพราะปลูกหน่อกล้วยไม่ได้แปลว่าภารกิจจะสำเร็จเพราะหน่อกล้วยจะโตเป็นต้นกล้วยและส่วนประกอบในต้นกล้วยจะต้องมีบางอย่างที่สามารถรักษาท่านพ่อซุนให้หายได้อย่างแน่นอน"เดี๋ยวปลูกเสร็จก็พากันไปล้างไม้ล้างมือนะและไปกินข้าวพี่ทำเสร็จแล้วอยู่ในครัว กินกันได้เลยไม่ต้องรอพี่ซงหยวนกับพี่กินข้าว""ขอรับพี่สะใภ้"อาหาน/เสี่ยวหมิง/เจี้ยนโป ขานรับ"เจ้าพวกนั้นกำลังทำอันใดกัน"มู่ซงหยวนที่เดินหาว่าซุนจือหลินหลังจากกลับมาจากบ้านซุนนางก็หายไปเลย"ข้าให้ปลูกหน

  • ซุนจือหลินข้าจะเป็นคนขายผักที่สวยที่สุดในหมู่บ้าน   บทที่ 29 มู่ซงหยวนน้อยใจ

    หลังจากที่ล้างจานเสร็จมู่ซงหยวนก็ไล่ทั้งสามคนกลับบ้านทันที ดูจากวันนี้แล้วเขาคงจะได้กินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตาเจ้าพวกนั้นเป็นอย่างแน่นอน"จะไปอาบน้ำหรือ แต่นี่ดึกแล้วอาบเดี๋ยวจะเป็นไข้เอาพรุ่งนี้ค่อยอาบแล้วกัน""ไม่เจ้าค่ะ ข้าจะอาบน้ำและก็จะอาบเดี๋ยวนี้ด้วยเจ้าค่ะ""ทำไมเจ้าถึงดื้อกับพี่เช่นนี้"มู่ซงหยวนเองไม่ว่าจะบอกอะไรซุนจือหลิน นางมักจะไม่ฟังคำของเขาเลยจนถึงขั้นต้องบังคับขู่เข็ญ"พี่เองก็จะไม่อาบน้ำหรือเจ้าคะ""ใช่ พี่จะอาบพรุ่งนี้…แต่หากเจ้าจะอาบพี่ก็จะอาบน้ำด้วย""ไอ้บ้า! พี่บ้าหรือไงกันจะมาอาบน้ำกับข้าทำไมกัน""ถ้าได้ก็ดี แต่พี่หมายความว่าพี่ก็จะอาบน้ำเหมือนหากเจ้ายืนยันที่จะอาบน้ำ เพราะเจ้าคงไม่อยากนอนกับคนที่ไม่อาบน้ำหรอกใช่หรือไม่""ใช่ เจ้าค่ะข้าไม่นอนกับคนตัวเหม็น"ซุนจือหลินเอ่ยจบก็รีบเดินเข้าไปอาบน้ำทันที ดีหน่อยที่ห้องอาบน้ำอยู่ในตัวบ้าน แต่แค่ใช้อาบน้ำล้างหน้าล้างตาเท่านั้น หากจะทำธุระส่วนตัวต้องข้างนอกบ้านมีพื้นที่สำหรับการทำธุระส่วนตัวมู่ซงหยวนไม่ได้ไปไหนไกลเขานั่งรอซุนจือหลินอยู่ที่หน้าห้องอาบน้ำ เพื่อรอที่จะอาบน้ำต่อจากนางและเป็นการเฝ้านางอาบน้ำไปในตัวด้วย"พี่อาบน้ำเ

  • ซุนจือหลินข้าจะเป็นคนขายผักที่สวยที่สุดในหมู่บ้าน   บทที่ 28 ผัดกะเพราหมูสับไข่ดาว

    มู่ซงหยวนทำได้เพียงนั่งมองไปทางครัวที่กำลังวุ่นวาย เพราะช่วยกันทำกับข้าวทุกคน มีส่วนร่วมกันหมดยกเว้นเขาคนเดียวที่ไม่ได้ช่วยอะไรเลย นอกเสียจากออกเงินเท่านั้น"เดี๋ยวที่เหลือพี่ทำเองพวกเจ้าไปรอข้างนอกกันให้หมด"ซุนจือหลินรู้ว่าพวกเขาจะจามกัน เพราะพริกที่ตำนั้นน่าจะเผ็ดร้อนน่าดู เพราะพวกเขาก็บอกว่าชอบกินเผ็ดรวมถึงคนด้านนอกที่มองมาในครัวไม่วางสายตาเลย"ขอรับพี่สะใภ้"อาหาน/เสี่ยวหหมิง/เจี้ยนโป ขานรับพร้อมกัน"เดี๋ยวเสร็จแล้วพี่จะเรียกอีกทีนะ"หลังคนทั้งสามออกไปซุนจือหลินก็ทอดไข่ดาวเสร็จพอดีทั้งหมด 5 ฟอง และที่สำคัญนางอาจจะต้องขอบคุณมู่ซงหยวนหรือเปล่าน้า เพราะข้าวของเครื่องครัวที่มีครบทุกอย่างทำเอานางนั้นปลื้มปีติ เพราะว่าทำอาหารไม่ติดขัดเลย แม้แต่ขั้นตอนเดียว"ฮัดชิ้ว""ฮัดชิ้ว!"..."ฮัดเช้ย!"กลิ่นผัดพริกและกระเทียมตีขึ้นในอากาศภายในห้องครัวจนทะลักออกไปข้างนอกจนได้ยินเสียงจามของบุรุษร่างแกร่งทั้งสี่คนที่จามแข่งกัน"ฮัดชิ้ว! ข้าไม่ไหวแล้วขอออกไปข้างนอกก่อนแล้วกัน"อาหานที่ทนไม่ไหวแล้วเขาจามจนจมูกแดงไปหมดแล้ว ถึงว่าพี่สะใภ้ถึงให้พวกเขาออกมารอข้างนอกแทนที่จะอยู่ในครัวต่อเสี่ยวหมิงกับเจี้ยนโ

  • ซุนจือหลินข้าจะเป็นคนขายผักที่สวยที่สุดในหมู่บ้าน   บทที่ 27 คืนแรกก็ปวดหัวแล้ว

    "พี่ซงหยวนปล่อยข้าได้แล้ว""เจ้าค่ะ""หึ ฟอด"มู่ซงหยวนไม่ลืมที่จะแอบลักหอมแก้มอีกข้างของซุนจือหลิน เพราะกลัวว่านางอาจจะน้อยใจที่เขานั้นหอมแก้มนางแค่ข้างเดียว"นี่! ทะ พี่มาหอมแก้มข้าทำไมอีก""แก้มเมียพี่มีสิเจ้าจะหอมแก้มพี่คืนพี่ก็ย่อมยินดีเป็นอย่างมาก""โรคจิต"ซุนจือหลินปรับอารมณ์ตามไม่ทันกับมู่ซงหยวนที่อยู่บ้านนั้นมีนิสัยเงียบขรึม แต่พอมาอยู่ที่บ้านใหม่นั้นกับเป็นคนละคนบุคลิกของเขาในตอนนี้คือจู่โจมนางหนักเป็นอย่างมากมู่ซงหยวนไม่ได้ทำอะไรต่อ เขาปล่อยให้ซุนจือหลินจัดข้าวของของนางให้เสร็จแล้วค่อยมาคุยธุระของเขากัน โดยมู่ซงหยวนใช้สายตาจับจ้องซุนจือหลินอยู่ตลอดไม่ว่านางจะขยับตัวไปทางไหนเดินไปทิศทางไหนก็ตาม"เดี๋ยวท่านอยู่บ้านนะข้าจะไปบ้านท่านป้าโจว"หลังจากที่จัดข้าวของเสร็จนางก็เดินเข้าไปดูในครัว ซึ่งก็เป็นอย่างที่คาดเดาไว้ มีข้าวของพร้อมใช้แต่ขาดพวกวัตถุดิบเท่านั้นเครื่องปรุงรสก็มีด้วยถึงจะแปลกใจ แต่ก็ไม่คิดที่จะเอ่ยถามอีกฝ่ายเพราะมันเป็นเรื่องส่วนตัวของเขา หากเขาพร้อมที่จะบอกก็คงจะพูดออกมาเอง"ไปทำไมแล้วจะไปยังไง""เดินแล้วก็ไม่ต้องคิดที่จะตามไปด้วยขาพี่ยังไม่หายดีอยู่บ้านเท่านั้นที่พ

  • ซุนจือหลินข้าจะเป็นคนขายผักที่สวยที่สุดในหมู่บ้าน   บทที่ 26 แต่งงาน

    บ้านซุนมู่ซงหยวนมาถึงที่บ้านซุนตอนนี้เขากำลังจะไปรับตัวเจ้าสาวและไม่ลืมที่จะนำสิ่งของไปตอบแทนท่านพ่อท่านแม่ของซุนจือหลินที่เลี้ยงนางมา"เข้าไปสิเจ้าสาม"มู่ต๋าเห็นลูกชายยืนอยู่หน้าห้องไม่เข้าไปในห้องสักที จึงเอ่ยถามอาจจะตื่นเต้นก็ได้วันนี้วันสำคัญของเจ้าสาม"ท่านพ่อข้าไม่กล้าขอรับ"มู่ซงหยวนทั้งตื่นเต้นและก็กังวลเขาไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ตอนไปออกรบก็ไม่ได้มีอาการตื่นเต้นและวิตกกังวลเช่นนี้มาก่อน"เป็นธรรมดาเจ้าสามวันนี้เจ้ามาในฐานะเจ้าบ่าวและว่าที่สามีของซุนจือหลิน"มู่ฉวนจงใจเอ่ยเสียงดังเพื่อให้คนในห้องได้ยิน"อย่าชักช้าเจ้าสามจะเอาไหมเมียน่ะเดี๋ยวหนูซุนจือหลินรอนานจนเปลี่ยนใจพ่อไม่รู้ด้วยนะ""ท่านพ่อขอรับ"มู่ซงหยวนไม่รอช้าหากเขายังชักช้ามีหวังนางอาจจะเปลี่ยนใจอย่างที่ท่านพ่อของเขาบอกก็ได้ปล่อยให้นางรอนานไม่ดีมู่ซงหยวนเข้ามาในห้องเจอเจ้าสาวของเขานั่งอยู่บนเตียงในห้องมีพี่สะใภ้ใหญ่อยู่เป็นเพื่อนนาง "เอ่อ พี่มารับเจ้า"มู่ซงหยวนเอ่ยอย่างตะกุกตะกัก เพราะความสวยของซุนจือหลินทำเขาอาจตายได้"เจ้าค่ะ"หลังผ่านด่านกั้นประตูมาทั้งนางและมู่ซงหยวนต่างต้องมาทำพิธีไหว้ฟ้าดิน ไหว้เจ้าที่ ไหว้เทพเจ้า

  • ซุนจือหลินข้าจะเป็นคนขายผักที่สวยที่สุดในหมู่บ้าน   บทที่ 25 เตรียมตัวแต่งงาน

    บ้านสามสหายมู่ซงหยวนอยู่ที่ดินของสหายทั้งสามคนของเขาวันนี้เริ่มสร้างบ้านวันแรกและก็บ้านของเขา เพื่อจะให้ทันเข้าอยู่อาศัยระยะเวลาคงประมาณ 3 วัน รวมบ้านของสหายของเขาด้วย "พี่ซงหยวน 2 วัน น่าจะเสร็จแล้วพี่"เสี่ยวหมิงเองไม่คิดว่าพี่ซงหยวนของเขานั้นจะใจร้อนเช่นนี้ บ้านทำหลังใหญ่จะเอาให้เสร็จภายในวันสองวันนั้นยาก แต่ไม่ใช่ว่าทำไม่ได้ แต่ต้องใช้กำลังคนมาก ซึ่งพี่ซงหยวนก็ตัดสินใจจ้างคนในหมู่บ้านมาช่วยกัน"อืม บ้านพวกเจ้าข้าไปคุยกับช่างแล้วทำใหญ่เสียหน่อย เพื่ออนาคตมีครอบครัวกันขึ้นมา"มู่ซงหยวนเองได้พูดคุยกับสหายว่าหากตั้งหลักปักฐานอยู่ที่นี่แล้ว ที่ดิน 1 หมู่ อาจจะไม่เพียงพอกับคนทั้งสามหากอนาคตมีครอบครัวกัน แต่ตอนนี้ก็เอาพอใช้อยู่อาศัยกันไปก่อน"ขอบคุณพี่มากเรื่องนี้พวกข้าก็พูดคุยกัน คงจะซื้อที่เพิ่มแต่คงจะให้ผ่านงานของพี่ไปก่อนสักพักหนึ่งหรือไม่ก็คงจะมีใครในพวกข้าสามคนมีเมียเสียก่อน""อืม ไปช่วยเจ้าสองคนนั้นเถอะ"มู่ซงหยวนได้ยินดังนั้นก็พอใจถือว่าวางแผนชีวิตข้างหน้ากันไว้ได้ดี"ขอรับ"มู่ซงหยวนออกแบบบ้านในแบบฉบับที่เขาเคยเห็นผ่านสายตามา บ้าน 1 ห้องนอน 1 ห้องอาบน้ำ และ 1 ห้องครัวใหญ่ เพราะ…ซ

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status