Share

ขายกวาง

Penulis: 橙花
last update Terakhir Diperbarui: 2025-10-14 17:00:43

ฉางเล่ยถึงกับทึ่งในฝีมือการใช้หน้าไม้ของซูเมี่ยวจิน แต่เขาไม่มีเวลาสงสัยมากนักเมื่อเธอบอกให้เขารีบเข้าไปกลบเลือดกวางที่ตาย เพื่อป้องกันไม่ให้หมาป่าหรือสัตว์ดุร้ายตัวอื่นตามกลิ่นเลือดมา

ซูเมี่ยวจินมองหาไม้ใหญ่และเถาวัลย์เพื่อใช้มัดกวาง ดีที่ป่าตรงนี้มีทุกอย่างที่เธอต้องการ ซูเมี่ยวจินใช้เวลาไม่นานก็นำของทั้งหมดไปจัดการมัดกวางเอาไว้

“ช่วยฉันแบกมันลงจากเขากันเถอะค่ะ ตอนนี้กี่โมงแล้วคะ” ซูเมี่ยวจินยังคงกลัวว่าจะกลับบ้านค่ำมืดเกินไป

“สี่โมงเย็นพอดีครับ” ฉางเล่ยยกไม้ที่มีกวางถูกมัดอยู่ขึ้นพาดไหล่อย่างไม่หนักแรง

“เรารีบกลับบ้านกันเถอะ พรุ่งนี้ค่อยเอามันไปขายในอำเภอนะคะ”

“ตกลงครับ ว่าแต่พรุ่งนี้เราจะใช้จักรยานหรือรถยนต์ไปในอำเภอดีครับ”

“ฉันว่าเอาสามล้อของพ่อไปดีกว่าค่ะ ฉันไม่อยากให้ชาวบ้านเห็นรถยนต์เราเร็วนัก ยังไงวันแต่งงานก็ต้องเอารถออกไปจอดหน้าบ้านอยู่ดี” ซูเมี่ยวจินนึกถึงชาวบ้านบ้าบอพวกนั้นแล้วก็ไม่อยากให้มีปัญหาก่อนวันแต่งงานของพวกเธอ

“ได้ครับ ถ้าอย่างนั้นผมจะไปส่งพ่อกับแม่ที่ไร่ก่อน แล้วเราค่อยเข้าอำเภอกัน”

ซูเมี่ยวจินพยักหน้ารับคำ ทั้งสองคนเร่งเดินลงจากภูเขาสูงอย่างรวดเร็วกว่าตอนขึ้นมาหลายเท่าตัว ทำให้ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง พวกเขาก็กลับมาถึงบ้าน

“โอ้! พวกลูกโชคดีอีกแล้ว” พ่อฉางได้ยินเสียงประตูรั้วจึงเดินออกมาดู เขาเห็นลูกชายและลูกสะใภ้แบกกวางตัวใหญ่เข้าบ้านก็ชมเสียงดัง

“ว้าว! พี่ใหญ่กับพี่สะใภ้เก่งจังเลยค่ะ กวางตัวใหญ่ขนาดนี้ต้องขายได้ราคาดีแน่”

“นั่นสิ รีบเอาไปวางไว้ก่อนเร็วเข้า จะได้ไปล้างเนื้อล้างตัวแล้วมากินข้าวกัน”

หลิวเอ้อหลิงเดินตามหลังสามีและลูกสาวออกมารีบบอกทั้งสองคน ชาวบ้านที่อยู่บ้านใกล้กันได้ยินเสียงอุทานของฉางชิงหยูก็พากันออกมาส่องดู แต่น่าเสียดายที่ซูเมี่ยวจินรีบปิดประตูเสียก่อน ทำให้พวกเขาไม่รู้ว่าบ้านฉางล่ากวางได้จริงหรือเปล่า

ครอบครัวฉางพอรู้ว่าเป็นซูเมี่ยวจินที่ล่ากวางได้อีกแล้ว พวกเขาต่างมองไปที่ฉางเล่ยอย่างสงสัย ทำไมสองครั้งที่ได้สัตว์ใหญ่ มีแต่ซูเมี่ยวจินที่ลงมือล่าได้ แต่ฉางเล่ยที่ล่าสัตว์มานานกลับล่าไม่ได้เลยสักตัวเดียว

“ทุกคนทำไมมองผมแบบนี้ล่ะครับ” ฉางเล่ยเห็นทุกคนมองมาจึงถามขึ้น

“แม่แค่สงสัยว่าทำไมลูกล่าสัตว์ใหญ่ไม่ได้เหมือนเมี่ยวจินบ้างน่ะสิ ไม่ใช่ว่าลูกล่าสัตว์มาตั้งสิบกว่าปีแล้วเหรอ” หลิวเอ้อหลิงขมวดคิ้วมุ่นอย่างสงสัย

“โธ่! แม่ครับ ผมไม่ได้จะโชคดีเหมือนเมี่ยวจินนี่ครับ ครั้งนี้เป็นเธอที่บอกให้ผมเดินเบา ๆ ไม่อย่างนั้นกวางฝูงนั้นคงวิ่งหนีกันไปนานแล้ว” ฉางเล่ยบอกตรง ๆ

“บ๊ะ! แม่หนูเก่งกาจจริง ๆ อาเล่ย แกต้องศึกษาวิธีการล่าสัตว์ของเมี่ยวจินให้ดีนะ จะได้ช่วยเบาแรงเธอบ้าง” ฉางชิงหยูกำชับลูกชายอีกทั้งยังไม่ลืมชมซูเมี่ยวจินด้วย

“พ่อ แม่อย่าว่าฉางเล่ยเลยค่ะ เรื่องนี้ต้องใช้เวลากว่าจะชำนาญ” ซูเมี่ยวจินไม่อยากให้ฉางเล่ยถูกตำหนิไปมากกว่านี้ ในเมื่อเธอมีระบบคอยช่วยเหลือส่วนเขาไม่มี

ก่อนนอนคืนนั้น ฉางเล่ยบอกพ่อแม่แล้วว่าจะเอาสามล้อขนกวางไปขายในอำเภอพรุ่งนี้ แต่ก่อนไปจะส่งพ่อแม่ไปทำงานที่ไร่ก่อน เพียงแต่พ่อแม่ฉางกลับบ่นฉางเล่ยว่าวันมะรืนจะถึงงานแต่งงานแล้ว พวกเขาจะต้องใช้ของที่ซื้อมา ตกแต่งบ้านสำหรับงานแต่งงานที่กำลังจะถึงจึงลางานเอาไว้แล้ว

ซูเมี่ยวจินก็ลืมนึกไปเหมือนกันว่าใกล้ถึงวันงานแล้ว แต่ที่บ้านยังไม่มีการตกแต่งอะไรเลย เธอจึงตัดสินใจว่าจะรีบขายกวางแล้วกลับบ้านมาช่วยพ่อแม่ฉางตกแต่งบ้านให้ดี หลายคนช่วยกันจะได้เสร็จเร็วขึ้น

หลังอาหารเช้าวันต่อมา ฉางเล่ยกับซูเมี่ยวจินช่วยกันยกกวางขึ้นบนพ่วงท้ายสามล้อของบ้านและมัดเอาไว้อย่างดี จากนั้นทั้งสองก็ออกจากบ้านไป

ชาวบ้านที่เห็นซากกวางบนรถสามล้อต่างฮือฮาเสียงดัง ถึงแม้พวกเขาจะไม่มีส่วนในกวางตัวนั้นก็ตามที แต่ก็อดที่จะอยากได้ของดีเช่นเนื้อกวางบ้างไม่ได้ จนใจที่สายตาเย็นชาของซูเมี่ยวจินซึ่งมองพวกเขาอยู่ไม่เอื้ออำนวยให้พวกเขากล้าพูดขอซื้อเนื้อออกมาเหมือนเมื่อก่อนตอนที่ฉางเล่ยล่าได้

“บ้านฉางโชคดีอะไรอีกแล้วเนี่ย ก่อนหน้านี้เพิ่งขายเสือไปตัวหนึ่ง ตอนนี้ยังมีกวางไปขายในอำเภออีก แบบนี้พวกเขาคงได้เงินมากแน่เลย” ป้าฟางจอมอิจฉาตบขาฉาดใหญ่อย่างโมโหในโชคชะตา ถึงแม้ว่าบ้านเธอจะมีลูกที่แต่งงานกับคนมีเงินในอำเภอและลูกชายทำงานที่นั่นเช่นกัน แต่เงินที่ลูก ๆ ให้เธอมาก็แค่พอกินพอใช้ไปวัน ๆ โดยไม่ต้องทำงานแลกแต้มเท่านั้น

“ชิ ตั้งแต่บ้านฉางมีผู้หญิงคนนั้นมาอยู่ด้วย นับวันก็มีแต่จะร่ำรวยขึ้น รู้แบบนี้ฉันน่าจะขึ้นเขาบ้าง เผื่อจะได้ช่วยคนรวยและมีความสามารถสักคนสองคน” ป้าซิงพูดอย่างอิจฉาตาร้อนไม่แตกต่างกัน

“เฮอะ! พวกแกฝันไปหรือเปล่า? อายุปูนนี้แล้วยังจะขึ้นเขาไปหาเรื่องตายอีก” แม่เฒ่าฮัวมองทั้งสองคนอย่างเหยียดหยาม ใครไม่รู้บ้างว่าสองบ้านนั้นขายลูกสาวให้คนในอำเภอตั้งแต่ยังเด็ก ไม่อย่างนั้นมีหรือจะสามารถอยู่อย่างสุขสบายในหมู่บ้านได้เหมือนกับเธอ ถึงแม้บ้านเธอจะมีลูกหลานมากมาย แต่หลายปีมานี้พวกเขาก็ไม่ค่อยกลับมาเยี่ยมเธอที่บ้านสักเท่าไหร่ ทำให้แม่เฒ่าฮัวต้องมาหาเพื่อนคุยที่หน้าหมู่บ้านแบบนี้ทุกวันเพื่อคลายความเหงา

ฉางเล่ยกับซูเมี่ยวจินเข้าไปถึงร้านอาหารของรัฐในอำเภอตอนร้านเปิดพอดี ทั้งสองทักทายพนักงานหน้าร้านและยืนรอให้ผู้จัดการเจี่ยงออกมาดูกวางที่นำมา

“โอ้! ไม่นึกว่าคุณจะล่ากวางมาได้จริง ๆ หลายปีแล้วนะที่ไม่มีเนื้อกวางขายที่นี่” เจี่ยงซูชมฉางเล่ยกับซูเมี่ยวจินเสียงดังอย่างดีใจ

“นี่เพราะภรรยาผมดวงดีครับ ไม่ทราบผู้จัดการจะซื้อกวางตัวนี้ทั้งหมดเลยไหม”

“อืม… ผมคิดว่าเขากวางนี่พวกคุณตัดไปขายให้ร้านขายยาจะได้ราคาดีกว่านะครับ”

“ตกลงครับ ถ้าอย่างนั้นรบกวนขอยืมมีดคม ๆ ของที่ร้านสักหน่อยนะครับ” ฉางเล่ยรู้ดีว่าเขากวางสามารถใช้เป็นส่วนผสมของยาได้ เพียงแต่ไม่คิดว่าผู้จัดการเจี่ยงจะให้พวกเขาไปขายเองเพื่อทำเงิน แทนที่ผู้จัดการเจี่ยงจะกินส่วนต่างเอง

“พวกคุณยกกวางเข้าไปด้านในก่อนเถอะ ยังไงก็ต้องชั่งน้ำหนักก่อน” ผู้จัดการเจี่ยงบอก เพราะตอนนี้คนที่กำลังเดินเข้าอำเภอมาทำงานเริ่มมองดูหน้าร้านอาหารกันใหญ่แล้ว ถ้ารู้ว่าวันนี้มีเนื้อกวางขาย หลายคนคงมากินข้าวกันที่ร้านไม่น้อยแน่

ฉางเล่ยกับซูเมี่ยวจินพยักหน้ารับคำและแกะเชือกที่มัดร่างกวางออก จากนั้นจึงช่วยกันยกกวางเข้าไปด้านในร้าน พวกเขาวางร่างกวางไว้บนพื้นและตัดเขาออกก่อนจะนำไปชั่งน้ำหนัก ซึ่งครั้งนี้กวางตัวนี้หนักเพียง 117 กิโลกรัมเท่านั้น

“ผมให้ราคากิโลกรัมละ 12 หยวน พวกคุณคิดว่ายังไงครับ” ผู้จัดการบอกราคา

“ตกลงครับผู้จัดการ ขอบคุณที่ให้ราคาดี ๆ นะครับ” ฉางเล่ยไม่อิดออดกับราคานี้ เขารู้ดีว่านี่เป็นราคาที่สูงกว่าที่เขาคิดว่าตอนแรกถึงสองหยวน

“นี่เงิน 1,404 หยวนครับ คราวหน้าขอให้ล่าได้สัตว์ใหญ่ ๆ มาขายอีกนะครับ” ผู้จัดการเจี่ยงส่งเงินให้ฉางเล่ยพร้อมรอยยิ้ม

“เรื่องนี้คงต้องดูว่าพวกเราจะโชคดีอีกหรือเปล่านะครับ ขอบคุณผู้จัดการเจี่ยงที่รับซื้อของจากพวกเรา ผมขอตัวพาภรรยาไปขายเขากวางก่อนนะครับ” ฉางเล่ยรับเงินมาแล้วเก็บใส่กระเป๋าเอาไว้อย่างดี

“ตกลงครับ ไว้เจอกันใหม่นะครับ” ผู้จัดการเจี่ยงโบกมือลาตอนออกมาส่งคู่สามีภรรยาที่สามารถล่าสัตว์ใหญ่มาให้เขาได้สองครั้งแล้ว

ฉางเล่ยพาซูเมี่ยวจินไปยังร้านขายยาร้านเดิมที่เคยมาขายโสม เจ้าของร้านพอเห็นซูเมี่ยวจินกลับมาอีกครั้งพร้อมเขากวางในมือก็รีบกุลีกุจอออกมาต้อนรับพร้อมรอยยิ้มทันที ยากนักที่จะมีคนนำเขากวางสดมาขาย แล้วจะไม่ให้เขาเทิดทูนแม่สาวหน้าดุนี่ได้ยังไงกันเล่า โสมคราวก่อนเขายังขายต่อให้เศรษฐีได้กำไรมากถึงสองเท่าเลยทีเดียว

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ซูเมี่ยวจิน   เจ้าสาวสวยมาก

    “โอ้! เจ้าสาวของฉางเล่ยสวยมากจริง ๆ” เสียงลุงใหญ่บ้านฉางที่ตั้งสติได้เป็นคนแรกอดจะชมเสียงดังไม่ได้“ใช่ ๆ เจ้าสามได้ลูกสะใภ้สวยจริง ๆ” พี่ชายหลิวเอ้อหลิงที่เห็นหลานสะใภ้เอ่ยเสริมขึ้นมาเสียงดังเช่นเดียวกัน“พวกลุงอย่าแกล้งภรรยาผมสิครับ ดูสิ เธอทำตัวไม่ถูกแล้ว” ฉางเล่ยยืดอกขึ้นอย่างภูมิใจที่ตัวเองกำลังจะแต่งงานกับคนสวยตรงหน้า เขารู้ดีว่าสีหน้าของซูเมี่ยวจินตอนนี้คงกำลังเขินอายอยู่ ไม่อย่างนั้นแก้มของเธอคงไม่แดงก่ำขึ้นมาจนลามไปถึงคออย่างที่เขากำลังเห็นเป็นแน่“ขอบคุณสำหรับคำชมนะคะคุณลุง” ซูเมี่ยวจินได้ยินฉางเล่ยพูดขึ้น เธอจึงสงบจิตใจตอบกลับผู้อาวุโสอย่างนอบน้อม สายตาคมดุของเธอมองเจ้าบ่าวที่วันนี้หล่อมากในสายตาเธอก็อดที่จะมองเขาสักหลายทีไม่ได้เช่นกันเหล่าผู้อาวุโสเห็นเจ้าบ่าวเจ้าสาวแอบมองกันไปมาก็รีบผลักพวกเขาให้ไปรอต้อนรับแขกที่ลานหน้าบ้าน ฉางเล่ยที่ตั้งตัวได้ก่อนจึงจับมือซูเมี่ยวจินเดินออกไปตามคำสั่งของผู้ใ

  • ซูเมี่ยวจิน   วันแต่งงาน

    หลังกินข้าวเสร็จ ฉางชิงหยูอาสาไปเชิญเพื่อนบ้านที่สนิทกันและยืมโต๊ะเก้าอี้มาไว้ใช้ในงานแต่งงานวันพรุ่งนี้ หลิวเอ้อหลิงบอกให้ฉางเล่ยไปขอซื้อไก่จากเพื่อนบ้านพวกนั้นมาสักหลายตัวเพื่อทำอาหารขึ้นโต๊ะในงานแต่งงาน หลังจากดูแล้วว่ายังขาดเมนูไก่ไปหนึ่งอย่าง สองพ่อลูกจึงออกจากบ้านไปด้วยกันหลิวเอ้อหลิงกับซูเมี่ยวจินจึงช่วยกันตกแต่งบ้านต่อ เหลืออีกเพียงนิดหน่อยก็ตกแต่งเสร็จหมดแล้ว ตอนนี้บ้านฉางเต็มไปด้วยกระดาษและผ้าสีแดงเต็มไปหมด ในห้องนอนของฉางเล่ยเองก็ถูกติดกระดาษเอาไว้เช่นกัน แต่ยังไม่ได้เปลี่ยนผ้าปูเป็นสีแดงมงคล หลิวเอ้อหลิงรอให้ถึงพรุ่งนี้เช้าจึงจะเข้าไปเปลี่ยนให้ลูก ๆ“แม่คะ ฉันติดเสร็จหมดแล้วค่ะ จะให้ทำอะไรต่อคะ” ซูเมี่ยวจินถามขึ้น“ไม่มีอะไรแล้วจ๊ะ เราไปปั้นแป้งเตรียมทำบัวลอยวันพรุ่งนี้กันดีไหม” หลิวเอ้อหลิงนึกถึงขนมบัวลอยที่บ่าวสาวต้องกินในวันแต่งงานขึ้นมาได้ เธอไม่อยากเสียเวลาเตรียมของพรุ่งนี้จึงคิดจะทำเอาไว้ก่อน“ได้ค่ะแม่&r

  • ซูเมี่ยวจิน   ขายเขากวาง

    “เชิญคุณผู้หญิงกับคุณผู้ชายด้านในเลยครับ” เจ้าของร้านผายมือเชิญอย่างนอบน้อม ต่างจากครั้งก่อนที่พวกเขามาขายโสมราวกับหน้ามือเป็นหลังมือ“ขอบคุณครับ/ค่ะ” ฉางเล่ยกับซูเมี่ยวจินเห็นเถ้าแก่ทำแบบนี้เลยไม่อยากเสียมารยาท“พวกคุณนั่งก่อนครับ วันนี้จะมาขายเขากวางในมือนั่นหรือเปล่าครับ” เถ้าแก่ถามด้วยแววตาเป็นประกายระยิบระยับ เพราะเขากำลังจะได้ของดีมาขายอีกแล้ว“ใช่ค่ะ ไม่ทราบว่าคุณรับซื้อยังไงคะเถ้าแก่” ซูเมี่ยวจินถามตรง ๆ เธอไม่เคยขายเขากวางมาก่อนจึงไม่รู้ว่าราคาตลาดเป็นอย่างไร“เขากวางสดขายราคาเป็นขีดครับคุณผู้หญิง เขากวางของคุณใหญ่ขนาดนี้น่าจะได้ราคาสูงมากทีเดียว หลายปีแล้วที่ร้านขายยาไม่มีเขากวางขายครับ” เถ้าแก่บอกตรง ๆ เพื่อที่เขาจะได้รับซื้อเขากวางและนำไปขายทำกำไรต่อเหมือนเคย“ขีดละเท่าไหร่หรือคะเถ้าแก่ ถ้าราคาต่ำไป ฉันจะได้เก็บเอาไว้ก่อน” ซูเมี่ยวจินไม่คิดว่า

  • ซูเมี่ยวจิน   ขายกวาง

    ฉางเล่ยถึงกับทึ่งในฝีมือการใช้หน้าไม้ของซูเมี่ยวจิน แต่เขาไม่มีเวลาสงสัยมากนักเมื่อเธอบอกให้เขารีบเข้าไปกลบเลือดกวางที่ตาย เพื่อป้องกันไม่ให้หมาป่าหรือสัตว์ดุร้ายตัวอื่นตามกลิ่นเลือดมาซูเมี่ยวจินมองหาไม้ใหญ่และเถาวัลย์เพื่อใช้มัดกวาง ดีที่ป่าตรงนี้มีทุกอย่างที่เธอต้องการ ซูเมี่ยวจินใช้เวลาไม่นานก็นำของทั้งหมดไปจัดการมัดกวางเอาไว้“ช่วยฉันแบกมันลงจากเขากันเถอะค่ะ ตอนนี้กี่โมงแล้วคะ” ซูเมี่ยวจินยังคงกลัวว่าจะกลับบ้านค่ำมืดเกินไป“สี่โมงเย็นพอดีครับ” ฉางเล่ยยกไม้ที่มีกวางถูกมัดอยู่ขึ้นพาดไหล่อย่างไม่หนักแรง“เรารีบกลับบ้านกันเถอะ พรุ่งนี้ค่อยเอามันไปขายในอำเภอนะคะ”“ตกลงครับ ว่าแต่พรุ่งนี้เราจะใช้จักรยานหรือรถยนต์ไปในอำเภอดีครับ”“ฉันว่าเอาสามล้อของพ่อไปดีกว่าค่ะ ฉันไม่อยากให้ชาวบ้านเห็นรถยนต์เราเร็วนัก ยังไงวันแต่งงานก็ต้องเอารถออกไปจอดหน้าบ้านอย

  • ซูเมี่ยวจิน   อยากขึ้นเขา

    ทั้งสองกลับมาถึงบ้านก่อนเที่ยงนิดหน่อย หลังจากเก็บเนื้อและผักแช่ไว้ในบ่อน้ำหลังบ้านแล้ว ซูเมี่ยวจินก็ไปอุ่นอาหารรอฉางเล่ยที่กำลังเอาสามล้อไปคืนพ่อที่ไร่ เธอคิดว่าช่วงบ่ายไม่มีอะไรทำ จึงอยากชวนฉางเล่ยขึ้นเขาไปล่าสัตว์ หาสมุนไพรดูสักหน่อย เผื่อว่าจะโชคดีได้เงินอีกสักก้อนฉางเล่ยกลับมากินข้าวพร้อมซูเมี่ยวจินในเวลาไม่นานนัก ระหว่างที่กำลังกินมื้อเที่ยงกันอยู่ ซูเมี่ยวจินก็ชวนฉางเล่ยขึ้นเขา“คุณแน่ใจเหรอว่าจะขึ้นเขาบ่ายนี้” ฉางเล่ยเลิกคิ้วขึ้นอย่างงุนงง“ใช่ค่ะ ยังไงบ่ายนี้พวกเราก็ไม่มีอะไรทำ คุณไม่ได้ไปดูกับดักสัตว์หลายวันแล้ว เผื่อว่าจะได้สัตว์ไปขายในอำเภอพรุ่งนี้สักตัวสองตัวก็ยังดีนะคะ” ซูเมี่ยวจินบอก“ก็ได้ครับ ถ้าอย่างนั้นกินข้าวเสร็จ ผมจะเอากุญแจบ้านไปให้พ่อก่อน คุณรอผมที่บ้านนะครับ ผมไปไม่นาน” ฉางเล่ยพยักหน้าตอบรับ เขาลืมไปเลยว่าวางกับดักสัตว์เอาไว้หลายวันแล้ว เพราะมัวแต่ยุ่งเรื่องงานแต่งงานจึงไม่ได้ขึ้นไปดู

  • ซูเมี่ยวจิน   เตรียมงาน

    ฉางชิงหยูกับหลิวเอ้อหลิงไปถึงบ้านหลิวในเวลาไม่นาน สองเฒ่าชราที่อายุน้อยกว่าพ่อเฒ่าฉางหลายปีออกมาต้อนรับลูกเขยกับลูกสาวด้วยความดีใจ พอรู้ว่าหลานชายกำลังจะแต่งงาน ทั้งสองก็ดีใจมาก“พวกเราจะไปแน่นอนเอ้อหลิง พ่อกับแม่จะให้พี่ใหญ่เธอพาไปเอง ตั้งแต่หลาน ๆ ไปทำงานในอำเภอ พวกเราก็สบายขึ้นมาก จักรยานที่บ้านก็มีถึงสองคัน ไม่ต้องเป็นห่วงนะ พวกเราจะไปกันตั้งแต่เช้ามืดเลย” แม่หลิวรีบบอกพร้อมรอยยิ้มชรา“ใช่ ๆ นานแล้วที่บ้านเราไม่มีงานมงคล” พ่อหลิวเองก็ดีใจไม่น้อยที่หลานชายกำลังจะเป็นฝั่งเป็นฝาเสียที ทั้งที่อายุก็ไม่น้อยแล้ว“ถ้าพ่อแม่ไม่อยากตื่นเช้านัก พวกเราปั่นจักรยานมารับพวกคุณได้นะคะ” หลิวเอ้อหลิงไม่อยากทำให้พ่อแม่ลำบาก เธอจึงหันไปมองสามี“ใช่ครับ ผมปั่นสามล้อมารับดีไหมครับ พ่อกับแม่จะได้นั่งกันสบายหน่อย”“ไฮ้! ไม่เป็นไร ๆ พวกเราชอบนั่งพ่วงหลังจักรยานของเสี่ยวเค่อมากกว่า” พ่อเ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status