Beranda / ระบบ / ซูเมี่ยวจิน / เจ้าสาวสวยมาก

Share

เจ้าสาวสวยมาก

Penulis: 橙花
last update Terakhir Diperbarui: 2025-10-15 17:00:28

“โอ้! เจ้าสาวของฉางเล่ยสวยมากจริง ๆ” เสียงลุงใหญ่บ้านฉางที่ตั้งสติได้เป็นคนแรกอดจะชมเสียงดังไม่ได้

“ใช่ ๆ เจ้าสามได้ลูกสะใภ้สวยจริง ๆ” พี่ชายหลิวเอ้อหลิงที่เห็นหลานสะใภ้เอ่ยเสริมขึ้นมาเสียงดังเช่นเดียวกัน

“พวกลุงอย่าแกล้งภรรยาผมสิครับ ดูสิ เธอทำตัวไม่ถูกแล้ว” ฉางเล่ยยืดอกขึ้นอย่างภูมิใจที่ตัวเองกำลังจะแต่งงานกับคนสวยตรงหน้า เขารู้ดีว่าสีหน้าของซูเมี่ยวจินตอนนี้คงกำลังเขินอายอยู่ ไม่อย่างนั้นแก้มของเธอคงไม่แดงก่ำขึ้นมาจนลามไปถึงคออย่างที่เขากำลังเห็นเป็นแน่

“ขอบคุณสำหรับคำชมนะคะคุณลุง” ซูเมี่ยวจินได้ยินฉางเล่ยพูดขึ้น เธอจึงสงบจิตใจตอบกลับผู้อาวุโสอย่างนอบน้อม สายตาคมดุของเธอมองเจ้าบ่าวที่วันนี้หล่อมากในสายตาเธอก็อดที่จะมองเขาสักหลายทีไม่ได้เช่นกัน

เหล่าผู้อาวุโสเห็นเจ้าบ่าวเจ้าสาวแอบมองกันไปมาก็รีบผลักพวกเขาให้ไปรอต้อนรับแขกที่ลานหน้าบ้าน ฉางเล่ยที่ตั้งตัวได้ก่อนจึงจับมือซูเมี่ยวจินเดินออกไปตามคำสั่งของผู้ใหญ่ทั้งหลายทันที

เวลาตอนนี้เกือบ 10 โมงเช้าแล้ว ฉางชิงหยูกับหลิวเอ้อหลิงถูกพี่น้องบอกให้เข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าและไปรอรับแขกกับบ่าวสาวเช่นกัน ส่วนฉางเซียงจูก็แต่งตัวด้วยชุดใหม่ที่พี่สะใภ้ซื้อมาให้เสร็จสักพักแล้ว เธอยังไปช่วยยกอาหารมาขึ้นโต๊ะพร้อมกับลูกพี่ลูกน้องหลายคนด้วยรอยยิ้ม บรรยากาศการรวมญาติครั้งนี้มีแต่ความสุข หลายปีแล้วที่พวกเขาไม่ได้พบกัน รถจักรยานมากมายถูกจอดอยู่นอกบ้าน ทำให้คนในหมู่บ้านรู้ว่าครอบครัวฉางกับครอบครัวหลิวนั้นไม่ได้ยากจนอย่างที่พวกเขาเคยคิดมาก่อน แต่ละคนแต่งตัวดีและหน้าตาดีไม่แพ้กัน

“คุณเหนื่อยไหม เมี่ยวจิน” ฉางเล่ยกระซิบถามเจ้าสาวคนสวยระหว่างยืนรอแขก

“ไม่เหนื่อยค่ะ คุณล่ะเหนื่อยไหม” ซูเมี่ยวจินหันไปมองผู้ชายซื่อ ๆ ที่วันนี้สายตาเขาเอาแต่มองเธออย่างไม่วางตา

“ไม่ครับ วันนี้คุณสวยมากเลยนะครับ” ฉางเล่ยอดจะเอ่ยชมไม่ได้

“คุณก็หล่อมากเหมือนกัน” ซูเมี่ยวจินมองเจ้าบ่าวที่ตอนนี้หูแดงเพราะคำชมอย่างขำ ๆ

“คุณล้อเล่นแล้ว ผมไม่ได้แต่งหน้าเหมือนคุณซะหน่อย” ฉางเล่ยอดจะยกมือลูบผมที่วันนี้จัดแต่งอย่างดีด้วยความขัดเขินไม่ได้

“ฮิ ฮิ คุณหล่อจริง ๆ นี่นา สมกับเป็นเจ้าบ่าวของฉัน” ซูเมี่ยวจินยังคงหยอกล้อคนขี้อายข้าง ๆ อย่างสนุกปาก

“ตกลงครับ หล่อก็หล่อ อ๊ะ! ครอบครัวลุงเหยามากันแล้ว เราไปเชิญพวกเขามานั่งก่อนเถอะครับ” ฉางเล่ยเห็นเหยาซ่งพาครอบครัวมาถึงก็ชวนซูเมี่ยวจินเดินไปรับ

ซูเมี่ยวจินพยักหน้ารับคำเขาและเดินไปด้วยกัน เธอพยายามเค้นรอยยิ้มการค้าออกมาเพื่อต้อนรับแขก ทั้งที่จริงปกติเธอมักจะทำใบหน้านิ่งเฉยเสียมากกว่า

“ยินดีด้วย ๆ ในที่สุดฉางเล่ยของเราก็เป็นฝั่งเป็นฝาเสียที ของขวัญเล็กน้อย หวังว่าจะไม่รังเกียจนะ” เหยาซ่งยื่นของขวัญซึ่งเป็นขนมที่เขาให้ลูกชายซื้อมาให้จากอำเภอเมื่อวานให้กับฉางเล่ยพร้อมรอยยิ้ม

“ขอบคุณมากครับลุงเหยา ความจริงเรื่องของขวัญไม่ต้องลำบากก็ได้ครับ แค่ลุงให้ยืมโต๊ะกับเก้าอี้ก็นับเป็นพระคุณของบ้านเราแล้ว” ฉางเล่ยรับมาก่อนจะเอ่ยขึ้น

“เจ้าสาววันนี้สวยจริง ๆ ยินดีด้วยนะแม่หนูที่ได้แต่งงานกับฉางเล่ย เขาเป็นเด็กดีมาก ยังไงก็ดูแลกันและกันต่อไปให้ดีนะ” ภรรยาเหยาซ่งเอ่ยชมด้วยรอยยิ้มจริงใจ

“ขอบคุณที่ชมค่ะคุณป้า หนูจะดูแลฉางเล่ยให้ดีค่ะ เชิญพวกคุณเข้าไปนั่งที่โต๊ะก่อนดีกว่านะคะ อีกสักครู่แขกท่านอื่นคงมากันแล้ว” ซูเมี่ยวจินเห็นชาวบ้านอีกหลายกลุ่มกำลังเดินมาทางนี้ เธอจึงเชิญครอบครัวเหยาไปนั่งที่โต๊ะก่อน

ฉางชิงหยูกับหลิวเอ้อหลิงที่เดินออกมาเห็นครอบครัวเหยาเข้าก็พากันเข้าไปพูดคุยต้อนรับกันอย่างสนิทสนม ส่วนญาติจากหมู่บ้านเสิ่นที่เตรียมทุกอย่างเสร็จแล้วก็ออกมานั่งกันที่โต๊ะเพื่อรอแขกและพิธีการแต่งงานซึ่งจะเริ่มในอีกหนึ่งชั่วโมงข้างหน้าเช่นกัน พวกเขานั่งแยกกันระหว่างผู้อาวุโสกับพวกหนุ่มสาวและเด็ก ๆ

ครอบครัวเหยาที่ไม่คุ้นเคยกับญาติของฉางชิงหยูไม่กล้านั่งร่วมโต๊ะกับพวกเขาแต่แรก ฉางชิงหยูเองก็เข้าใจดี เขาจึงปล่อยให้เหยาซ่งพาครอบครัวนั่งแยกอีกโต๊ะหนึ่ง อย่างไรเสียอีกไม่นานชาวบ้านที่เชิญไว้ก็คงจะมาถึงกันแล้ว พวกเขาคงรวมตัวกันที่โต๊ะอาหารเอง ฉางชิงหยูกับหลิวเอ้อหลิงขอตัวไปต้อนรับแขกกับลูก ๆ และปล่อยให้เหยาซ่งนั่งคุยกันตามสบาย

ผู้ใหญ่บ้านกับครอบครัว กำลังเดินคุยกับแม่ทัพน้อยและครอบครัวมายังบ้านตระกูลฉาง พวกเขาเห็นรถยนต์ใหม่เอี่ยมจอดอยู่ก็นึกไม่ถึงว่าสะใภ้บ้านนี้จะรวยมากจนสามารถซื้อรถยนต์มาใช้ได้จริง ๆ

“ฉางเล่ยโชคดีจริง ๆ ที่ได้ภรรยาดีแบบนี้” ผู้ใหญ่บ้านอดอิจฉาวาสนาฉางเล่ยไม่ได้

“นั่นสินะ ไม่คิดว่าเด็กที่คนในหมู่บ้านคิดว่าจะขึ้นคานมาตลอด กลับได้ภรรยาที่รวยมากขนาดนี้มาจริง ๆ” แม่ทัพน้อยวัยเดียวกับผู้ใหญ่บ้านพยักหน้ารับคำ

ชาวบ้านอีกหลายกลุ่มที่เป็นแขกของบ้านฉางก็รวมตัวกันเดินตามผู้ใหญ่บ้านมาห่าง ๆ เช่นกัน พวกเขาไม่กล้าเดินนำหน้าผู้มีอำนาจทั้งสองของหมู่บ้าน และเสื้อผ้าที่พวกเขาใส่มาวันนี้ก็เป็นชุดที่ดีที่สุดในบ้านแล้ว หลังจากได้ยินพวกขี้นินทากล่าวว่าญาติของตระกูลฉางและหลิวแต่งตัวไม่เหมือนชาวบ้านธรรมดา พวกเขาจึงกลัวว่าจะทำให้ผู้ใหญ่บ้านขายหน้าต่อคนต่างหมู่บ้าน

แม่เฒ่าฮัว ป้าซิงและป้าฟางแอบอยู่ข้างรั้วบ้านป้าฟาง พอเห็นคนกลุ่มใหญ่เดินผ่านไป พวกเธอก็แอบตามไปติด ๆ อย่างหน้าด้าน ๆ ชาวบ้านคนอื่นที่อยู่บ้านติดกันเห็นเข้าก็พากันมองสามคนนั้นอย่างเหยียดหยาม ทั้งที่คนอื่นเขาไม่ได้เชิญแท้ ๆ แต่พวกตัวปัญหาสามคนนั่นกลับอยากหาเรื่องเจ็บตัว พวกเขาอยากดูเรื่องสนุกที่กำลังจะเกิดขึ้นเช่นกัน ทุกคนจึงพากันตามไปห่าง ๆ พวกเขารู้ดีว่าคำเตือนของเจ้าสาวคนใหม่ของหมู่บ้านนั้นคืออะไร จึงไม่มีใครอยากลองดี ต่างจากสามคนนั้นที่ไม่เข็ดหลาบและยังอยากสร้างปัญหาให้ครอบครัวฉาง

ฉางเล่ยกับซูเมี่ยวจินตอนนี้กำลังยุ่งกับการต้อนรับแขกที่ทยอยมาติด ๆ กัน ฉางชิงหยูกับหลิวเอ้อหลิงเองก็เช่นเดียวกัน พวกเขาไม่ได้สังเกตเห็นพวกแม่เฒ่าฮัวที่ตามหลังชาวบ้านที่เชิญไว้มาติด ๆ เลยแม้แต่น้อย ทุกคนต่างวุ่นวายเชิญแขกนั่งโต๊ะกันอยู่ ชาวบ้านคนอื่นที่รอเข้าไปในงานหน้าประตูรั้วก็รอให้เจ้าภาพมาเชิญก่อน พวกเขาเองก็ไม่มีใครสนใจว่าจะมีคนตามพวกเขามาเช่นเดียวกัน เพราะทุกคนต่างตกตะลึงกับความสวยของเจ้าสาวและความหล่อของเจ้าบ่าวในวันนี้อยู่

เสียงพูดคุยเซ็งแซ่ของชาวบ้านที่ยังไม่ได้เข้าไปร่วมงานยังทำให้พวกแม่เฒ่าฮัวกำหมัดแน่นด้วยความอิจฉาตาร้อนและริษยา ยิ่งกับป้าฟางที่กล่าวหาฉางเล่ยไม่สำเร็จในครั้งก่อนด้วยแล้ว เธอยิ่งอยากหักหน้าครอบครัวฉางที่เกาะสะใภ้กิน

ชาวบ้านที่ได้รับเชิญต่างนำของขวัญเล็กน้อยที่พอจะหาได้มามอบให้กับเจ้าบ่าวเจ้าสาวไม่ต่างจากแขกคนอื่น ๆ ลูกพี่ลูกน้องของฉางเล่ยก็ต้องมาช่วยกันจดบันทึกว่าบ้านไหนมอบของขวัญให้บ้างเพื่อเวลามีงานบ้านพวกเขา บ้านฉางจะได้จัดของขวัญที่มีค่าทัดเทียมกันมอบคืนให้

ญาติพี่น้องตระกูลฉางและตระกูลหลิวไม่มีใครรู้จักพวกแม่เฒ่าฮัว พวกเขาแค่เห็นว่าสามคนนี้เดินตามแขกที่เพิ่งมอบของขวัญให้ก่อนหน้านี้เข้ามาก็ไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่มองเสื้อผ้าและท่าทางของทั้งสามคนที่ดูแปลกแตกต่างจากแขกคนอื่นที่มาเท่านั้น

“เฮอะ! นึกว่าจะจัดงานใหญ่แค่ไหน ที่แท้ก็อาหารพื้น ๆ นี่น่ะเหรอสะใภ้ใหม่บ้านฉางน่ะ ทำเป็นไม่เชิญพวกเรามางานเลี้ยง ความจริงไม่มีปัญญาเลี้ยงคนทั้งหมู่บ้านมากกว่าล่ะมั้ง” ป้าฟางพูดขึ้นเสียงดังเมื่อก้าวเข้ามาในลานบ้าน

“นั่นสิ ๆ ที่แท้นังเด็กนั่นก็ไม่ได้รวยจริง ฉันว่านะ ตอนนี้ในกระเป๋าคงไม่มีเงินสักหยวนแล้วล่ะ ฮ่า ฮ่า” ป้าซิงรับลูกจากป้าฟางอย่างรู้ทัน

แม่เฒ่าฮัวเองก็มองไปทางซูเมี่ยวจินอย่างดูถูกเช่นกัน เธอยังแค้นไม่หายที่ถูกเด็กรุ่นหลานตบหน้าเมื่อวันก่อน ทั้งสามไม่มีใครกลัวสายตาคนในงานที่มองจ้องมาทางพวกเธออย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อเลยแม้แต่น้อย ความตั้งใจของพวกเธอคือการสร้างความวุ่นวายเท่านั้น

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ซูเมี่ยวจิน   เจ้าสาวสวยมาก

    “โอ้! เจ้าสาวของฉางเล่ยสวยมากจริง ๆ” เสียงลุงใหญ่บ้านฉางที่ตั้งสติได้เป็นคนแรกอดจะชมเสียงดังไม่ได้“ใช่ ๆ เจ้าสามได้ลูกสะใภ้สวยจริง ๆ” พี่ชายหลิวเอ้อหลิงที่เห็นหลานสะใภ้เอ่ยเสริมขึ้นมาเสียงดังเช่นเดียวกัน“พวกลุงอย่าแกล้งภรรยาผมสิครับ ดูสิ เธอทำตัวไม่ถูกแล้ว” ฉางเล่ยยืดอกขึ้นอย่างภูมิใจที่ตัวเองกำลังจะแต่งงานกับคนสวยตรงหน้า เขารู้ดีว่าสีหน้าของซูเมี่ยวจินตอนนี้คงกำลังเขินอายอยู่ ไม่อย่างนั้นแก้มของเธอคงไม่แดงก่ำขึ้นมาจนลามไปถึงคออย่างที่เขากำลังเห็นเป็นแน่“ขอบคุณสำหรับคำชมนะคะคุณลุง” ซูเมี่ยวจินได้ยินฉางเล่ยพูดขึ้น เธอจึงสงบจิตใจตอบกลับผู้อาวุโสอย่างนอบน้อม สายตาคมดุของเธอมองเจ้าบ่าวที่วันนี้หล่อมากในสายตาเธอก็อดที่จะมองเขาสักหลายทีไม่ได้เช่นกันเหล่าผู้อาวุโสเห็นเจ้าบ่าวเจ้าสาวแอบมองกันไปมาก็รีบผลักพวกเขาให้ไปรอต้อนรับแขกที่ลานหน้าบ้าน ฉางเล่ยที่ตั้งตัวได้ก่อนจึงจับมือซูเมี่ยวจินเดินออกไปตามคำสั่งของผู้ใ

  • ซูเมี่ยวจิน   วันแต่งงาน

    หลังกินข้าวเสร็จ ฉางชิงหยูอาสาไปเชิญเพื่อนบ้านที่สนิทกันและยืมโต๊ะเก้าอี้มาไว้ใช้ในงานแต่งงานวันพรุ่งนี้ หลิวเอ้อหลิงบอกให้ฉางเล่ยไปขอซื้อไก่จากเพื่อนบ้านพวกนั้นมาสักหลายตัวเพื่อทำอาหารขึ้นโต๊ะในงานแต่งงาน หลังจากดูแล้วว่ายังขาดเมนูไก่ไปหนึ่งอย่าง สองพ่อลูกจึงออกจากบ้านไปด้วยกันหลิวเอ้อหลิงกับซูเมี่ยวจินจึงช่วยกันตกแต่งบ้านต่อ เหลืออีกเพียงนิดหน่อยก็ตกแต่งเสร็จหมดแล้ว ตอนนี้บ้านฉางเต็มไปด้วยกระดาษและผ้าสีแดงเต็มไปหมด ในห้องนอนของฉางเล่ยเองก็ถูกติดกระดาษเอาไว้เช่นกัน แต่ยังไม่ได้เปลี่ยนผ้าปูเป็นสีแดงมงคล หลิวเอ้อหลิงรอให้ถึงพรุ่งนี้เช้าจึงจะเข้าไปเปลี่ยนให้ลูก ๆ“แม่คะ ฉันติดเสร็จหมดแล้วค่ะ จะให้ทำอะไรต่อคะ” ซูเมี่ยวจินถามขึ้น“ไม่มีอะไรแล้วจ๊ะ เราไปปั้นแป้งเตรียมทำบัวลอยวันพรุ่งนี้กันดีไหม” หลิวเอ้อหลิงนึกถึงขนมบัวลอยที่บ่าวสาวต้องกินในวันแต่งงานขึ้นมาได้ เธอไม่อยากเสียเวลาเตรียมของพรุ่งนี้จึงคิดจะทำเอาไว้ก่อน“ได้ค่ะแม่&r

  • ซูเมี่ยวจิน   ขายเขากวาง

    “เชิญคุณผู้หญิงกับคุณผู้ชายด้านในเลยครับ” เจ้าของร้านผายมือเชิญอย่างนอบน้อม ต่างจากครั้งก่อนที่พวกเขามาขายโสมราวกับหน้ามือเป็นหลังมือ“ขอบคุณครับ/ค่ะ” ฉางเล่ยกับซูเมี่ยวจินเห็นเถ้าแก่ทำแบบนี้เลยไม่อยากเสียมารยาท“พวกคุณนั่งก่อนครับ วันนี้จะมาขายเขากวางในมือนั่นหรือเปล่าครับ” เถ้าแก่ถามด้วยแววตาเป็นประกายระยิบระยับ เพราะเขากำลังจะได้ของดีมาขายอีกแล้ว“ใช่ค่ะ ไม่ทราบว่าคุณรับซื้อยังไงคะเถ้าแก่” ซูเมี่ยวจินถามตรง ๆ เธอไม่เคยขายเขากวางมาก่อนจึงไม่รู้ว่าราคาตลาดเป็นอย่างไร“เขากวางสดขายราคาเป็นขีดครับคุณผู้หญิง เขากวางของคุณใหญ่ขนาดนี้น่าจะได้ราคาสูงมากทีเดียว หลายปีแล้วที่ร้านขายยาไม่มีเขากวางขายครับ” เถ้าแก่บอกตรง ๆ เพื่อที่เขาจะได้รับซื้อเขากวางและนำไปขายทำกำไรต่อเหมือนเคย“ขีดละเท่าไหร่หรือคะเถ้าแก่ ถ้าราคาต่ำไป ฉันจะได้เก็บเอาไว้ก่อน” ซูเมี่ยวจินไม่คิดว่า

  • ซูเมี่ยวจิน   ขายกวาง

    ฉางเล่ยถึงกับทึ่งในฝีมือการใช้หน้าไม้ของซูเมี่ยวจิน แต่เขาไม่มีเวลาสงสัยมากนักเมื่อเธอบอกให้เขารีบเข้าไปกลบเลือดกวางที่ตาย เพื่อป้องกันไม่ให้หมาป่าหรือสัตว์ดุร้ายตัวอื่นตามกลิ่นเลือดมาซูเมี่ยวจินมองหาไม้ใหญ่และเถาวัลย์เพื่อใช้มัดกวาง ดีที่ป่าตรงนี้มีทุกอย่างที่เธอต้องการ ซูเมี่ยวจินใช้เวลาไม่นานก็นำของทั้งหมดไปจัดการมัดกวางเอาไว้“ช่วยฉันแบกมันลงจากเขากันเถอะค่ะ ตอนนี้กี่โมงแล้วคะ” ซูเมี่ยวจินยังคงกลัวว่าจะกลับบ้านค่ำมืดเกินไป“สี่โมงเย็นพอดีครับ” ฉางเล่ยยกไม้ที่มีกวางถูกมัดอยู่ขึ้นพาดไหล่อย่างไม่หนักแรง“เรารีบกลับบ้านกันเถอะ พรุ่งนี้ค่อยเอามันไปขายในอำเภอนะคะ”“ตกลงครับ ว่าแต่พรุ่งนี้เราจะใช้จักรยานหรือรถยนต์ไปในอำเภอดีครับ”“ฉันว่าเอาสามล้อของพ่อไปดีกว่าค่ะ ฉันไม่อยากให้ชาวบ้านเห็นรถยนต์เราเร็วนัก ยังไงวันแต่งงานก็ต้องเอารถออกไปจอดหน้าบ้านอย

  • ซูเมี่ยวจิน   อยากขึ้นเขา

    ทั้งสองกลับมาถึงบ้านก่อนเที่ยงนิดหน่อย หลังจากเก็บเนื้อและผักแช่ไว้ในบ่อน้ำหลังบ้านแล้ว ซูเมี่ยวจินก็ไปอุ่นอาหารรอฉางเล่ยที่กำลังเอาสามล้อไปคืนพ่อที่ไร่ เธอคิดว่าช่วงบ่ายไม่มีอะไรทำ จึงอยากชวนฉางเล่ยขึ้นเขาไปล่าสัตว์ หาสมุนไพรดูสักหน่อย เผื่อว่าจะโชคดีได้เงินอีกสักก้อนฉางเล่ยกลับมากินข้าวพร้อมซูเมี่ยวจินในเวลาไม่นานนัก ระหว่างที่กำลังกินมื้อเที่ยงกันอยู่ ซูเมี่ยวจินก็ชวนฉางเล่ยขึ้นเขา“คุณแน่ใจเหรอว่าจะขึ้นเขาบ่ายนี้” ฉางเล่ยเลิกคิ้วขึ้นอย่างงุนงง“ใช่ค่ะ ยังไงบ่ายนี้พวกเราก็ไม่มีอะไรทำ คุณไม่ได้ไปดูกับดักสัตว์หลายวันแล้ว เผื่อว่าจะได้สัตว์ไปขายในอำเภอพรุ่งนี้สักตัวสองตัวก็ยังดีนะคะ” ซูเมี่ยวจินบอก“ก็ได้ครับ ถ้าอย่างนั้นกินข้าวเสร็จ ผมจะเอากุญแจบ้านไปให้พ่อก่อน คุณรอผมที่บ้านนะครับ ผมไปไม่นาน” ฉางเล่ยพยักหน้าตอบรับ เขาลืมไปเลยว่าวางกับดักสัตว์เอาไว้หลายวันแล้ว เพราะมัวแต่ยุ่งเรื่องงานแต่งงานจึงไม่ได้ขึ้นไปดู

  • ซูเมี่ยวจิน   เตรียมงาน

    ฉางชิงหยูกับหลิวเอ้อหลิงไปถึงบ้านหลิวในเวลาไม่นาน สองเฒ่าชราที่อายุน้อยกว่าพ่อเฒ่าฉางหลายปีออกมาต้อนรับลูกเขยกับลูกสาวด้วยความดีใจ พอรู้ว่าหลานชายกำลังจะแต่งงาน ทั้งสองก็ดีใจมาก“พวกเราจะไปแน่นอนเอ้อหลิง พ่อกับแม่จะให้พี่ใหญ่เธอพาไปเอง ตั้งแต่หลาน ๆ ไปทำงานในอำเภอ พวกเราก็สบายขึ้นมาก จักรยานที่บ้านก็มีถึงสองคัน ไม่ต้องเป็นห่วงนะ พวกเราจะไปกันตั้งแต่เช้ามืดเลย” แม่หลิวรีบบอกพร้อมรอยยิ้มชรา“ใช่ ๆ นานแล้วที่บ้านเราไม่มีงานมงคล” พ่อหลิวเองก็ดีใจไม่น้อยที่หลานชายกำลังจะเป็นฝั่งเป็นฝาเสียที ทั้งที่อายุก็ไม่น้อยแล้ว“ถ้าพ่อแม่ไม่อยากตื่นเช้านัก พวกเราปั่นจักรยานมารับพวกคุณได้นะคะ” หลิวเอ้อหลิงไม่อยากทำให้พ่อแม่ลำบาก เธอจึงหันไปมองสามี“ใช่ครับ ผมปั่นสามล้อมารับดีไหมครับ พ่อกับแม่จะได้นั่งกันสบายหน่อย”“ไฮ้! ไม่เป็นไร ๆ พวกเราชอบนั่งพ่วงหลังจักรยานของเสี่ยวเค่อมากกว่า” พ่อเ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status